วันเวลาปัจจุบัน 25 ก.ค. 2025, 04:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 135


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ เดิน 90/25
เดิน 6 ระยะ ก็อยู่กะการเดินได้ดีค่ะ สนใจการเดินมากกว่าความคิด
ก็พอหลงไปจากกาย ก็รู้ว่ามันเริ่มมีความคิดที่เป็นตัวเป็นตนฟุ้ง

ก็กลับมาที่การเดินใหม่ แล้วก็มีเวทนา มดกัด มีปวดแบบเมื่อยๆ ที่น่อง
มาแล้วก็หายไปค่ะ มีแปลบๆ มีปวดกระดูก มาแล้วหายค่ะ

แล้วพอนั่ง ก็รู้ท้องพองยุบ ได้นิดหน่อยแต่ไม่จับละเอียด คือรู้ท้องขยับ
แล้วก็คิดคลอๆ แล้วก็หลงไปค่ะ ก็นาน
แล้วก็ท้ายๆ ก็ออกมาได้ แล้วมารู้ท้องพองยุบได้ จนจบค่ะ

มีเวทนามดกัด ตอนแผ่ส่วนกุศลค่ะ
มัดจี๊ดๆ นิดๆหน่อยๆ หมดแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
พี่ไม่อยู่นะคะจะไปวัดค่ะ หมูทำแล้ว ลงบันทึกไว้ทุกวันนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ได้ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
หมูมีอะไรจะถามมั๊ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ไม่มีค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
การปฏิบัติก็ไม่มีอะไรหรอกนะ ทำเหมือนเดิม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ หมูไปทำรอบต่อไปละค่ะ เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/20 ค่ะ
ตอนเดิน ก็รอบนี้จะรู้สึกอยูกับการเดินได้ ไม่แนบแน่น
จึงเกิดอารมณ์ ทุกข์ ขึ้นมา แปรปรวน ฟุ้งขึ้นมา
ก็รู้อารมณ์พวกนั้น ยังไม่ลงไปคลุกมาก มีเวทนา มดกัด
และแปลบๆ ใจเมื่อยๆ มาแล้วก็ไปค่ะ

ถ้าเผลอจากกาย จิตจะวิ่งไปรุงอกุศล 2-3 ครั้ง
ก็รู้ว่าจิตวิ่งไปแล้ว ก็หยุดค่ะ

แล้วก็เห็นอีกว่าช่วงไหนเผลอ จิตก็จะเริ่มปรุง แล้วก็เริ่มทุกข์ขึ้นมาแผ่วๆ
ก็กลับมาที่กายต่อค่ะ ก็หยุดปรุงคิด ความทุกข์ก็หยุดไป

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่ง ท้องพองยุบ ตามมือที่วางไว้ แล้วก็มีลอยไปคิด
มีมารู้กายใหม่ที่ท้องขยับแล้วก็ที่ความรู้สึกสัมผัสฟูกน่ะค่ะ
แล้วก็ลอยไปอีก ตอนมดเวลาพอดี จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
กำหนดมั่งไหมคะ หรือแค่รู้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
รู้ลงไปนะคะ อ้อส่วนอกุศล ที่เกิดเวลนั่ง
จิตมันกำหนดเองค่ะ แบบคิดหนอ รู้หนอ

สุขที่แท้จริง says:
ก็หยุดปรุงคิด ความทุกข์ก็หยุดไป ................. ถูกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ อันนี้รู้เฉยๆ

สุขที่แท้จริง says:
แล้วทำไมมันถึงหยุดปรุงคิดได้ล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็มัน มาอยู่กะกายได้น่ะค่ะ มันระลึกได้
คือพอมันเห็นว่าปรุงแล้วก็เหมือนมันรู้ ว่าอือ
ปล่อยแล้วก็เป็นแบบนี้ มันก็กลับมากายต่อ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถ้าทำได้บ่อยๆ มันก็ทุกข์น้อยลงค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ จะพยายามให้มีสติกะกายไปเรื่อยๆค่ะ
เห็นว่าต้องหมั่นดึงมาอยู่ที่กายบ่อยๆ ถึงจะไม่ไปวุ่นวายค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 136

วันนี้เราไม่อยู่ ให้เขาบันทึกไว้หลังเลิกเจริญสติทุกครั้ง
เรามีพันธสัญญาต่อกัน คือ ถึงแม้เราจะไม่อยู่ น้องเขาก็จะทำเอง โดยไม่มีการส่งอารมณ์

แต่เขาจะต้องบันทึกเอาไว้ให้เราด้วย เพราะไม่งั้นเราอาจจะพลาดจากบางสภาวะของเขาไปได้




31 ธค. 2552
90/25 รอบแรก

รู้การเดินก็มีความคิดคลอๆแต่ไม่ดัง ส่วนใหญ่อยู่กับการเดินได้
เมื่อไหร่เผลอไปก็เห็นว่าถ้าเผลอหลงจากกายก็จะไปคิด

อดีตบ้าง อนาคตบ้าง อกุศลบ้าง ก็ตั้งใจให้มารู้ที่กายใหม่
มีเวทนาเจ็บจี๊ดเหมือนเข็มตำ เจ็บประดูกขาเป็นจังหวะ และมีคัน

ทั้งหมดนี้มันก็มีหายเร็วบ้าง หายช้าบ้าง บางช่วงก็หงุดหงิดแต่ไม่มาก
เพราะตั้งสติอยู่ที่กาย มีเบื่อและมีความคิดว่าทำอะไรอยู่

แต่ก็กลับมาที่กายต่อเลยไม่ปรุงนาน พอมานั่งก็รู้ท้องพองยุบเบาๆ
ตรงที่มือวางขยับเบาๆ ขึ้นลง รักษาความรูสึกได้เรื่อยๆ

จนท้ายๆ หลงลอยไปคิดเลื่อนลอย แล้วก็รู้ก็กลับมาอยู่กับกายมีท้องขยับใหม่
บางทีก็ไปดูลม ถ้าดูลมจะหลงง่ายกว่า

ช่วงท้ายเริ่มคิดไปรู้ท้องไปคลอๆ จิตมีกำหนดฟุ้งซ่านหนอขึ้นมาเองแล้วหมดเวลาพอดี

รอบที่สอง 40/20

ตอนเริ่มเดินมีเวทนามดกัด แต่ไม่มีมดจริง เวทนาเจ็บโน่นปวดนี่มาแล้วก็หายไป
การรู้เท้ารู้ได้ไม่ตลอด มีหลงไปปรุงแต่งความคิด

มีหลงไปคิดอกุศลก็ขอขมาแล้วเดินต่อจนจบ พอนั่งก็รู้ท้องได้ตรงมือวาง
ตอนต้นจากนั้นหลงไปแล้วหมดเวลาตอนกำลังคิดลอยๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 137



ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

60/25 ตอนเดินก็รู้เท้าแต่ว่า มีเรื่องกระทบ จิตไปปรุงความทุกข์ขมขื่นขึ้นมา
ตั้งสติอยู่ที่กาย เห็นจิตมันเครียด หายเครียด

แล้วก็เครียดขึ้นมา แล้วก็มันทุกเหมือนคนเจ็บแบบเคล็ดๆน่ะค่ะ
ก็พิจารณาว่า จิตมันยึด มันก็ทุกข์แบบนี้

กำลังมีสมาธิอยู่กะการดูอาการของจิต น้องสาวเข้ามาขัดจังหวะ
พอน้องไป กลายเป็นจิตมีโทสะ ก็ดูโทสะต่อ

ก็รู้เท้าด้วยนะคะ แต่มันก็ยังปรุง แล้วก็สักพักโทสะก็หายไป
แล้วก็มีเบื่ออยากเลิกเดิน ก็เดินต่อจนครบ 1 ชม.

พอมานั่ง ก็มีสติอยู่ที่ท้องขยับได้ค่ะ รักษาได้ตลอด ระหว่างนั้น
มีอาการเจ็บกระดูกนิ้วมือ แล้วหาย มีเหมือนตัวอะไรมาไต่ มีคัน

มีเจ็บเหมือนถูกกดแรงตามจุดต่างๆ ที่ศรีษะมีเหมือนอะไรเต้นๆ
ก็ดูไปพร้อมกับรู้สึกถึงท้องไปด้วย บางทีก็ไปจดจ่อที่เวทนา

บางที่ก็รู้ท้องแล้วรู้เวทนาไปด้วย แล้วก็เบื่อ ก็ลืมตาหมดเวลาพอดีค่ะ
จบแล้วค่ะ รอบแรก ยังมีมดกัดกะอกุศลอยู่ค่ะ อกุศลถ้าเผลอน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ทำอีกรอบป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ทำค่ะ ขอบันทึกข้อมูลก่อนค่ะ เด๋วไปรอบสอง 60/20 นะคะ

สุขที่แท้จริง says:
สวัสดีชีวิตใหม่นะจ๊ะ การที่เราได้มาเจริญสตินี่ถือว่าเราได้เกิดใหม่ ได้มีชีวิตใหม่แล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ กะจะ ส่ง SMS ให้พี่น้ำเมื่อคืนกัว ปฎิบัติธรรมอยู่
ค่ะพี่น้ำ พี่น้ำมีส่วนในชีวิตใหม่หมู เศษ 3 ส่วนสี่

สุขที่แท้จริง says:
เคยสร้างเหตุร่วมกันมาน่ะค่ะ มารู้จักสติปัฏฐาน และได้เจริญสติปัฏฐาน
ถือว่า ภพชาติสั้นลงแล้วแหละจ้ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/20 เดินรอบนี้ก็มีหลงค่ะ ไปอดีตบ้าง อานาคตบ้าง
ไปแล้วก็รู้ว่าหลง ก็กลับมารู้กายเดินต่อ ไปแปปเดียวค่ะ

แล้วก็เดินๆไป ก็มีความคิดคำสอนครูบาท่านโน้นนี่ขึ้นมา แบบชวนให้ครุ่นคิด
เทียบเคียงกะที่ปฎิบัติอยู่นี้ค่ะ ก็ดูมันไปแล้วก็ไม่ลงไปคลุก

มากแต่ยังหยุดไม่ได้ในทีเดียว จำได้ว่าเคยเจอเหตุการณืนี้มาแล้ว
เลยพยายามให้อยู่กะกายค่ะ แล้วอีกสักพักก็เปลี่ยนสภาวะและ

ไม่ได้ไปคิดเรื่องครูบาอีก ก็เห็นความไม่ดีของตัวเอง มันทบทวนเหตุการณืวันนี้ค่ะ
ว่าทำอะไรไม่ดีไปบ้าง แล้วก็ไปทุกข์หมอง ก็ตัดค่ะ

คิดว่ารู้แล้วก็ไม่ทำอีก แล้วก็มาอยู่กะกายต่อ ตอนท้ายๆเบื่อ ก็เดินจนจบค่ะ
มีอกุศลเหมือนเดิมตอนเผลอค่ะ

พอมานั่ง ก็รู้ท้องขยับค่ะ มันไปจดจ่อทีท้อง แล้วก็มีเวทนาไปด้วยรู้ท้องขยับไปด้วยค่ะ
มีเวทนามดกัด แบบตัวมดคลานกระดุ๊บเลยค่ะ

ก็สงสัยว่ามันมดจริงปะฟะ คลานเลยนะ ก็เลยลืมตาดู เสร็จเลย ไม่มีมดจริงๆ
แล้วก็หลับตาต่อ ก็มาจับท้องขยับเบาๆสั้นๆต่อได้ค่ะ

แล้วก็มีเวทนามดอีก ปล่อยมันค่ะ มีเวทนาตัวอะไรเล็กๆยุบๆยิบที่แผ่นหลัง
แขนสั่น เหมือนเซลสั่นนิดน่ะค่ะแล้วหายไป ก็ยังรู้ท้องได้นะคะ

นั่งจนหมดเวลาค่ะ มีอกูศลตอนเผลท้ายๆ เผลอปุ๊ปก็อกุศลปั๊ปค่ะ
ก็ขอขมา แล้วก็แผ่เมตตาค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ... คือ ทำต่อไป ไม่ต้องไปสงสัย ทุกสภาวะมันมีคำตอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ จะพยายามเพียรต่อไปค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 138


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เด๋วไป ปรนนิบัติแม่ แล้ว ทำแล้วมาส่งทีเดียวเลยค่ะพี่ 2 รอบ

สุขที่แท้จริง says:
พรุ่งนี้ วันเกิดนี่ วันเกิดของเราก้คือ วันตายของแม่
อย่าลืมขอขมากรรมกับแม่นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
บางครั้งมันเสียความรู้สึก เวลาสติไม่ทัน ถ้าสติทัน ผลกระทบมันน้อย
เหตุนี่แหละนะ เพราะความไม่รู้ อดีตนี่นะ เพราะความไม่รู้ตัวเดียวแท้ๆเลย
เราถึงก่อภพก่อชาติกันไม่รู้จบ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ มันก็เป็นบทเรียนจริงๆนะคะ หมูก็เลยได้รู้ด้วยว่า
เวลาก่อเหตุแล้วถึงเราจะไม่ได้เจตนาอะไร แต่รับผลเสมอ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่จ้ะ ทุกอย่างส่งผลหมด ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วต้องได้รับแน่นอน
ส่วนจะนานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาที่ได้ลงมือกระทำ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
สยองจริงๆ ค่ะ หมูไปก่อนนะคะ เด๋วมาค่ะ อ้อแล้วก็ คิดว่าพี่น้ำ
ไม่ค่อยชอบเดินทาง ยังไงถ้าวันไหนเจอกัน หมูไปหาที่นั่นก็ได้นะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ชอบเอาเปรียบใคร ถึงแม้อีกฝ่ายจะเต็มใจก็ตาม
เพราะถ้าเราทำแบบนั้นบ่อยๆ จะมีผลทำให้เราไม่รู้จักเกรงใจใครน่ะค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ พี่น้ำละเอียดจัง

สุขที่แท้จริง says:
ผ่านมาเยอะนะหมู เรื่องแบบนี้ ทุกๆบทเรียนที่ผ่านมา มันสอนไว้หมด
ฉะนั้นเราต้องระวังตัวเรา ไม่ใช่ให้ใครๆมาระวังเรา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก เดิน 80/25 เดินรู้เท้ามีความคิดคลอๆและอารมณืทุกข์บ้าง
ไม่ทุกข์บ้าง ขึ้นมาตลอด เดินแล้วพิจารณาความทุกข์ที่เกิดขึ้นกลางอก
ว่าเกิดจากอะไร หากปล่อยไปไม่ไปเพิ่มมันก็จะหายไป แล้วก็มีขึ้นมาใหม่
ก็ปล่อยไป โดยดูมันไม่ได้ไปคิดว่ามันไม่ดี

แล้วก็เปลี่ยนเป็นมีความคิดเห็นเรื่องการปฎิบัติขึ้นมาเกี่ยวกับคำสอนของครูบา
ที่เคยรู้มา ก็รักษาความรู้สึกที่การเดินไปด้วย ก็รู้คู่กันไป

ช่วงท้ายๆ ปวดขาและเบื่อมากอยากเลิกเดิน มีหลงไปจากกาย มีคิดอกุศล
และตามมาด้วยทุกข์ เห็นว่าถ้าเผลอคิดอกุศลแล้วปล่อยมันไปเลย
โดยไม่สนใจว่ามันคืออกุศลหรือเปล่า

จิตใจจะหายทุกข์ไว สบายขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าทำแบบนี้จะทำให้จิตมีกิเลส
คือไปส่งสริมอกุศลหรือเปล่าก็เลยกังวลขึ้นมา
ก็ดูความทุกข์ที่เกิดขึ้นมาแล้วสักพัก

ก็เปลี่ยนสภาวะไป เป็นปวดขาและทุกข์ ก็กำหนดขวาย้างหนอซ้ายย่างหนอ
สลับกับ เดิน 6 ระยะแก้เบื่อ ก็รู้เท้าได้ดี

พอนั่ง รู้ท้องขยับขึ้นลงเบาๆสั้นๆ รักษาความรู้สึกไว้ได้นาน
บางครั้งมีภาพผุดขึ้นมาเป็นภาพหนังที่ดูวันนี้ ก็รู้แล้วก็หายไป

มันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ช่วงหลังเบื่ออยากลืมตา ปวดขาก็ขยับตัวแต่ไม่ลืมตา
มีเวทนามดกัด และเจ็บจี้ๆ สักระยะก้อหายไปหลังขยับตัวมาจับท้องใหม่ก้อรู้ได้

แล้วก็มีเหมือนแมลงไต่หลังบ้างแขนบ้างความคิดก็เงียบลงแต่ยังไม่หมดไป
จนจบเวลาอุทิศส่วนกุศลลืมตาแล้วยังรู้สึกถึงตัวอะไรไต่แขนแต่ไม่มีแมลง

รอบ 2 เดิน 40/18

ตอนเดินก็รู้เท้าและก็คิดด้วย การรู้เท้าก็๋รู้ได้ชัด ไม่มัว แต่ก็มีเบื่อ
และอยากเลิกเดิน มีอยากบรรลุธรรม คิดว่าทำแล้วเมื่อไรจะบรรลุ

ก็ดูความอยากไป ก็มีความคิดเมื่อตอนเดินแล้วเห็นอาการทุกข์เกิดขึ้น
มีความคิดว่าที่เราทุกข์เพราะมัวมายุ่งกับอารมณ์สุขและทุกข์
กุศล อกุศลที่มันเกิดขึ้นที่อก แล้วก็มาตั้งใจเดินต่อ จนจบ

แล้วพอนั่ง ก็รู้กายขยับเคลื่อนไหวตามการขึ้นลงของท้องไปปจับที่กายส่วนบน
ที่กระเพื่อมตามแรงหายใจ มีไปคิดเป็นหนังที่ดูวันนี้

แล้วก็รู้ตัว ก็มาดูกายใหม่ มีเบื่อ มีหมือนมดกัด แล้วก็นั่งจนจบ
มีจะคิดอกุศลก็กำหนดก่อนขึ้น จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
หนัง ... ดูจนติดใจเลยหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แหะๆ สนุกค่ะ หนังเกาหลี

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
คนไทยนี่เก่งนะคะ มันติดที่ใจจริงๆด้วย

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องธรรมดาค่ะหมู เหมือนเราเดินไปแล้วเจอของที่ถูกใจ
แต่ไม่ได้มาเป็นของเรา เลยทำให้เกิดความติดใจ จนเห็นว่า
มีมันก็เท่านั้น มันจะหายจากอาการติดใจในสิ่งนั้นๆไปเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม ต้องคิดตามค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ เหมือนของที่หมูเห็นภาพมัน แล้วหมูอยากกินน่ะ พอยังไม่ได้กิน
จิตมันจะกระวนกระวายอยากกิน สุดท้าย พอได้ไปกินจริงๆ


แรกๆก็ติดใจถ้าของนั้นรสชาติถูกปากก็สามารถกินเดิมๆซ้ำๆได้หลายมื้อ
สุดท้ายก็เบื่อ เพราะมันรู้รสชาติหมดแล้ว

แต่อีกมุมนึง ถ้าทานแล้วรสชาติห่วยแตก นั่นเลิกทานได้ทันที
มันก็แค่อะไรสักอย่างเท่านั้นเอง เหมือนๆกันน่ะแหละหมู


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมค่ะ พี่คะแล้วท่อนนี้ " เห็นว่าถ้าเผลอคิดอกุศลแล้วปล่อยมันไปเลย
โดยไม่สนใจว่ามันคืออกุศล หรือเปล่า จิตใจจะหายทุกข์ไว สบายขึ้น "

หมูไม่ได้กำหนดรู้หนอตามน่ะค่ะ มันก็กังวลว่า
เราไม่ได้สำทับเด๋วจิตมันจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดี

สุขที่แท้จริง says:
หมูจำที่เราคุยเมื่อตอนหัวค่ำก่อนที่หมูจะปฏิบัติได้ไหม
เรื่องที่หมูขอมาหาพี่เองน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ จำได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เฉกเช่นเดียวกับความคิดอกุศล หากเราปล่อยมัน
มันจะเติบโตมากขึ้น และแข็งแรงมากขึ้น



ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมค่ะ งั้นก็ต้องกำหนดรุ้หนอตามทุกครั้ง

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ อาจจะรำคาญ อาจจะเหนื่อยในช่วงแรกๆ แต่ผลที่ได้รับมันคุ้มค่า
ไม่งั้นเวลาเราคิดอกุศล มันจะไม่รู้สึกผิด มันจะมองแค่ว่า นั่นก็คือความคิด

ลองมองย้อนถึงผลที่เราจะได้รับสิ มองแบบนั้น เช่นเราเห็นคนๆหนึ่ง
เขาพิการ แล้วเราเห็นเขาแต่งตัวเปรี้ยวซ่า ถ้าจิตเราคิดว่า
พิการแล้วยังไม่เจียมอีก

แล้วผลลตรงนั้นมันส่งกลับมา ทำให้ตัวเราพิการ แล้วเป็นแบบเขา
เราอยากเป็นมั๊ย อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเราไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม ค่ะพี่ ก็งั้น จะกำหนดตามค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ไม่ต้องไปกำหนดแบบเอาเป็นเอาตายนะ แบบต้องกำหนดให้มันหายไป
ถึงจะเลิกกำหนด แบบนั้นไม่ใช่นะ

กำหนดแค่รู้ว่า นี่เราคิดอกุศลอีกแล้ว จิตมันจะบันทึกไว้
ทำบ่อยๆสติมันจะมีกำลังมากขึ้นเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ถามอีกนิดนะคะพี่

สุขที่แท้จริง says:
กำหนดรุ้หนอๆๆ 3 ครั้งพอ แล้วให้กลับมารู้ที่กาย ถามอะไรคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือตอนที่อกุศลแล้วหมูปล่อยนี่ คือหมูรู้แล้วว่ามันเป็นอกุศล
แล้วหมูปล่อยความทุกข์ ที่เกิดจากอกุศลไป
แบบนี้เหมือนการกำหนดของพี่น้ำไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เหมือนค่ะ เพราะนั่นคือ เราผลักไสมันออกไป
แล้วเราจะต้องผลักไสออกไปอีกนานเท่าไหร่ล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่า

สุขที่แท้จริง says:
พูดอะไรคะ พูดได้ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมคือหมูรู้สึกเหมือนไม่ได้ผลักไสน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เอาแบบนี้นะ หมูคิดว่าหมูทำแบบนี้แล้ว มันทำให้หมูดีขึ้น
ความคิดอกุศลน้อยลง ก็ทำแบบที่นี้ไป
มันต้องเรียนรู้สภาวะด้วยตัวเองน่ะค่ะ ไม่มีอะไรถูกหรือผิดหรอก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ค่ะ คือขออภัยนะคะ ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่เป็นครั้งแรกน่ะค่ะ
ที่เหมือนมันไม่ไปทุกข์ใจมาก


สุขที่แท้จริง says:
ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ต้องขออภัย พี่เข้าใจหมูค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็เลยกำลังคิดว่ามัน ยังไง หลงหรือเปล่า

สุขที่แท้จริง says:
จำไม่ได้หรือ สภาวะนี้หมูเคยผ่านมันมาแล้ว นานแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูทำตามพี่น้ำดีกว่าค่ะ ปลอดภัยกว่า มันคงลืมไปแล้วอะค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
บอกแล้วว่า สภาวะมันจะมาทดสอบเราตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มาหลอก มาลวงให้หลงตายใจ

สุขที่แท้จริง says:
พี่ถึงบอกว่า เรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วถึงจะได้คำตอบ ไม่งั้นนะ
จิตมันจะขัดขืน คนที่ทุกข์ก็คือหมู เพราะไปบีบคั้นตัวเอง ครั้งก่อนก็แบบนี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ง่ะ ขาดการพัฒนา

สุขที่แท้จริง says:
เปล่าหรอกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พี่คะตอนนี้ เวลามีอารมณ์ยุ่งวุ่นวายหรือทุกข์ขึ้นมา หมูปล่อยยมันไปเลย
แบบว่าทุกข์ว่ะ ก็ละไปเลย อันนี้ มันใช่ทางไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
เรียนรู้สภาวะด้วยตัวเองค่ะ เห็นความไม่เที่ยงแจ้งออกมาจากจิตเมื่อไหร่
จะเข้าใจเองค่ะ

มันไม่มีอะไรเที่ยงแท้ เดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็วุ่นวาย
เดี๋ยวก็สงบ ทุกสิ่งมันเที่ยงไหม ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไรล่ะ เ
กิดจากเหตุที่เราเคยกระทำไปด้วยความไม่รู้ทั้งนั้น

เหตุต่อมา เมื่อเกิดการกระทบขึ้น เราไปยึดติดมัน ไปให้ค่ามันว่านี่ทุกข์
ว่านี่สุข เราก็เลยเลือกที่รักมักที่ชัง ทุกข์น่ะมันนานไหม มันตลอดไปไหม
สิ่งที่เกิดขึ้นน่ะ มันเกิดตลอดเวลาไหม เปล่าเลย

เราจึงต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้ เพื่อจะได้มีสติเอาไว้รับมือ
กับสิ่งที่มากระทบเหล่านี้ เมื่อใดก็ตามที่การกระทบนั้นๆ
เราสามารถเห็นความไม่เที่ยงได้

จิตมันจะปล่อยวางจากสิ่งๆนั้นไปเอง ตัวใหม่ก็เกิดต่อ
กิเลสที่อยู่ในใจเราทั้งนั้นแหละ มันจะถูกขุดออกมาเรื่อยๆ
ออกมาประจานเจ้าของเอง

ทำให้รู้ว่า อดีตนี้เราไปทำอะไรมาไว้มั่ง แล้วผลคือ
เราจะสำรวมอายตนะมากขึ้น ไม่คิดจะก่อเหตุที่เป้นอกุศล
มันจะกลัว กลัวผลที่จะได้รับ

จากกลัว เมื่อสติมากขึ้น มันก็ทันต่อการปรุงแต่งมากขึ้น
มันก้จะไม่กลัว มันจะเห้นตามความเป็นจริง
และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้น

โดยไม่ขัดขืนหรือคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆอีกเลย ส่วนความชอบใจ
หรือไม่ชอบใจก็แล้วแต่คำจะเรียกกันนะ พอใจหรือไม่พอใจนี่
มันย่อมยังคงมีอยู่ แต่มันก็เบาบางลงไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะพี่ ขอบคุณค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
การเรียนรู้สภาวะด้วยตัวเองน่ะดีที่สุด ไม่ต้องถามหรอกค่ะว่ามันถูกหรือผิด
ถ้าไม่ใช่พี่จะบอกเองว่าควรทำอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรพี่ก็จะไม่พูด

ไม่งั้นหมูจะขาดความมั่นใจในตัวเอง จะตัดสินใจทำอะไรก็จะกลัว กลัวผิดทาง
จริงๆแล้วมันคือสภาวะของหมู ที่หมูจะต้องเรียนรู้ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง

โดยมีผลคือ สติ สัมปชัญญะที่เกิดจากการเจริญสตินี่แหละเป็นอาวุธในมือ
หมูเหมือนมีอะไรค้างคาอยู่ในใจ พูดได้นะคะ อย่าไปเก็บเอาไว้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือไม่ได้มีอะไรค้างคากับคำสอนของพี่น้ำนะคะ แต่มันก็แน่นๆ ในใจตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:
ความอยากไงคะ ความอยากที่จะพ้นๆสภาวะแต่ละสภาวะ แล้วมันไม่ได้ดั่งใจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันรู้สึกยากน่ะค่ะ ค่ะพี่ เหมือนอยากรู้ที่พี่น้ำอธิบายมา
แต่มันยังไม่สามารถเห็นได้เอง แบบเต่าอยากรู้ว่าบนฟ้าเป็นยังไง เลยถามนกน่ะค่ะ
นกบอกมีเมฆ นะ เต่าก็คิดว่าเมฆมันรสชาติเหมือนผักบุ้งหรือเปล่าหว่า

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจค่ะ เรื่องธรรมดาๆค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยังไงหมูจะเพียรไปเรื่อยๆ และจะทำตามที่พี่น้ำบอกนะคะ
รู้จักเรียนรู้สภาวะของตัวเอง จะได้เข้าใจตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องไหนพี่เห็นว่าควรบอกก็จะบอก เรื่องไหนเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา
หมูต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองพี่ก้จะไม่บอก ไม่งั้นหมูจะไปยึดติดมัน
สุดท้ายกลายเป็นไปเอาสัญญามาจำ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจพี่น้ำ ค่ะ หมูจะพยายามระวังความอยาก

สุขที่แท้จริง says:
ความอยากระวังยากค่ะ มีแต่สติเท่านั้นที่เป็นเครื่องกั้นตัณหา
และความทะยานอยากต่างๆได้ ทำความเพียรไปค่ะ

อย่าไปอ่านคำสอนของครูบาฯให้มากนัก ให้หาประวัติของพระที่ท่าน
บรรลุธรรมในสมัยพุทธกาลน่ะ อ่านให้มากๆ มันจะได้เกิดกำลังใจ

บางท่านเดินจงกรมระยะทางไกลๆ เดินไปกลับท้องนานี่ 30 ปีถึงจะสำเร็จก็มี
อ่านสิ่งเหล่านี้ จะได้ทำให้เกิดความเพียร ไปอ่านคำสอนครูบาฯมากๆ

บางท่านเราไปอ่านแล้ว เท่ากับไปกระตุ้นกิเลสของความอยากมากขึ้นกว่าเดิม
ฉะนั้นอย่าไปอ่านเลย เราลองสังเกตุตัวเองดูก็ได้นี่ อ่านที่ครูบาฯแต่ละท่าน

อ่านแล้วรู้สึกยังไง อยากรู้นี่เพิ่มขึ้นมากไหม หรืออ่านแล้ว
นำมาเปรียบเทียบกับการปฏิบัติของตัวเอง หรืออ่านแล้วทำให้เข้าใจมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะ อ่านแล้วก็มีกำลังใจ ผสมกะ เอามาเทียบ งด ละค่ะ ยังไม่เข้มแข็งพอ

สุขที่แท้จริง says:
สังเกตุดูนะ เลือกเอา เราย่อมรู้สภาวะของเราดีที่สุดว่าสติมีมากน้อยแค่ไหน
ทันไหมเวลาเกิดการกระทบ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ช่วงนี้ก็ ไวขึ้นเรื่องหลงน่ะค่ะ แบบกลับมารู้ตัวเร็วขึ้น รู้เท้าชัดขึ้น
แล้วกระทบก็มี เห็น ตอนกระทบ อย่างอยู่จิตมันขึ้นภาพมา กำลังจะไป
ปรุงก็รู้ก่อนได้ หรือขึ้นภาพ มาเช่นเป็นภาพครูบา เห็นว่าตามด้วยกลัว
กลัวอกุศล น่ะค่ะ แล้วก็ยังไม่ปรุง ก็กำหนดได้

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ หมั่นทบทวน หมั่นพิจรณาไปค่ะ ทุกอย่างมันมีเหตุ

พี่คงห้ามไม่ให้หมูคิดไม่ได้หรอกนะ คือเข้าใจในสภาวะของหมูที่เป็นอยู่ขณะนี้
มีวิธีเดียวเท่านั้นจริงๆ คือ ทำความเพียรต่อไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูก็เข้าใจพี่น้ำค่ะ และก็จะทำความเพียรต่อไปค่ะ หมูโชคดีแล้วที่มีคนแนะนำ
คนอื่นลำบากกว่าหมูเจอแบบหมูไม่มีใครคอยแนะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ อดทน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 139


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เด๋วคืนนี้ 1 รอบค่ะ เสร็จแล้วคะพี่ 60/25

ตอนเดินก็รู้เท้านะคะ จิตมีเครียด มีหงุดหงิดโสะเล็กๆ จะกำหนดโดยการบริกรรม
หรือไปตั้งใจมากไม่ได้ มันจะหงุดหงิด เครียดขึ้นมา

ก็เลยรู้เท้า รู้การเคลื่อนไหวจับความรู้สึกเอาเฉยๆ แล้วก็ มันก็มีหลงไป
คือมันอยู่ระหว่าง ความคิดหรือภาพ ที่เราพบเจอในวันนี้ กะอยู่กับการเดิน คู่กัน

คือรู้คู่กัน ถ้าเบนไปทางหลงก็ ยังหลงไม่สุด รู้กายก็รู้ไม่สุด แล้วก็เปลี่ยน
มารู้กายได้ชัดขึ้นบ้าง หลงไปบ้าง แล้วก็มีความทุกข์ ขึ้นมาบ้าง ผ่อนคลายบ้าง

มีทั้งไม่พอใจเวลาทุกข์ พอเราดูมันโดยปล่อยมัน ไม่บังคับมัน มันก็จะผ่อนคลายสบาย
และก็เดิดความพอใจ เวลาผ่อนคลาย แล้วก็มีความเบื่อว่าเออ มันก็มีแค่นี้ ทุกข์สุข

แต่มันแกล้งเบื่อค่ะ เห็นตัวจ้องรอดูอยู่ว่า เออ นี่ไงเบื่อแล้ว
ใกล้แล้วสิ เนี่ย สภาวะเบื่อแล้วเด๋วก็คงก้าวหน้า เนี่ยเห็นตัวนี้ค่ะไม่เบื่อจริง

แล้วก็พอมานั่ง ก็มีรู้กายนั่ง ที่สัมผัสฟูกบ้าง ท้องขยับบ้าง หลงไปบ้าง
แล้วเหมือนมันได้พักอิ่มๆ เหมือนได้นอนพักบ้าง แล้วก็มารู้กายได้อีกบ้าง

มีมดกัด มีเหมือนเซลลสั่น ส่วนการปรามาสหรืออกุศล มีแบบพอจะขึ้นก็กำหนด
คิดหนออัตโนมัติเอง 2 ครั้งได้ค่ะ แล้วก็มีเผลอ ตัวหลงไปคิดในสิ่งไม่สมควร
แล้วก็กำหนดรู้หนอตาม 3 ครั้งแล้วปล่อยไปดูกาย่อค่ะ จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
กิเลสมันหลอกสารพัดแหละหมู
ดูกิเลสนี่แหละ ยิ่งสติดี กิเลสยิ่งอาละวาด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะพี่ อ้อมีความอยากด้วยค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ถ้ามันจะรู้มันจะรู้เอง ไม่มีคำวิพากย์วิจารนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ลิมพิม คือสภาวะมันเยอะน่ะค่ะ ค่ะพี่ ถ้ารู้ๆเองไม่มีวิจาร...
ตอนนี้ก็ยังคิดๆหลอกๆอยู่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องธรรมดาค่ะ พอสติดี มันจะเห็นกิเลสชัดมากขึ้น
พอเรายอมรับมันได้ กิเลสตัวอื่นก็โผล่มาต่อ สลับไปมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก๊าๆ เยอะแยะเลย

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เยอะ ก็กี่ภพกี่ชาติมาแล้วล่ะสะสมมันมาน่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 140


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สวัสดีค่ะพี่ เสร็จแล้วค่ะ 90/25

ตอนเดิน ก็รู้เท้าค่ะ ตอนต้นก็เดินไปมีความคิดคลอๆ
แล้วก็มีเจ็บนิ้วขึ้นมาเหมือนเจ็บจี้ๆ มีตีงที่คางแล้วหายไป

แล้วก็มีเห็นการหลงไปคิดน่ะค่ะ เห็นว่าเดินๆรู้เท้าอยู่ แล้วมันหลงไปตอนไหน
แล้วมันดับตอนไหน

จากนั้นสภาวะหลายๆอย่างก็สับเปลี่ยนกันขึ้นมา เช่นเจ็บมดกัด ความอยาก
ไม่พอใจ พอใจ มัว ชัด

ภาพซ้อนขึ้นมาแล้วตามด้วยการปรุง แล้วดับ อย่างภาพของกินน่ะค่ะ
ขึ้นมาแล้วก็เห็นความอยากแล้วพอรู้ก็หายไป

มีกิเลส ตัวที่มันคอยคิดว่า ตอนนี้ทำได้ขนาดนี้แล้ว นะเนี่ย มาบ่อยๆค่ะ ตัวนี้
แล้วส่วนอกุศล พอจะขึ้นก็กำหนดก่อนค่ะ แต่ก็ยังมีหลงเผลอไป หรือกำหนดไม่อยู่

ก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้งแล้วมาดกาย ดูกาย เห็นลักษณะของความคิดว่า
เป็นคนชอบคิดอคติ เวลาเผลอน่ะค่ะ แต่ก่อนคิดแล้วไม่รู้ตัวเลย

พอมานั่งก็รู้กาย สลับกับหลงไปคิดลอยๆแล้วเหมือนหลับในอยู่ความคิดนั้น
แล้วก็สลับกลับมารู้ตัว มันจะรู้ที่จิต แล้วเราเอาจิตไปรู้ที่กายน่ะค่ะ จบแล้วค่ะพี่

แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/20

รอบนี้ก็ฟุ้งน่ะค่ะ ความคิดมันไหล รู้เท้าได้ แต่ความคิดไหล ต่อเนื่อง
มันปรุงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับภาระต่างๆนี่คือภาพรวมน่ะค่ะ

ตอนต้นๆ ก็มีความทุกข์ขึ้นมา แล้วก็เห็นว่ามันหายไปไว แบบสลับกัน
ทุกข์ ใจผ่อนคลาย ทุกข์ใจผ่อนคลาย ติดๆกัน ค่ะ
แล้วก็เริ่มมีความกังวลเข้ามาแล้วปรุงยาวอย่างที่บอก

พอมานั่งก็ติดเรื่องนี้มาด้วย แต่ก็รู้กาย รู้ลมหายใจ
รู้ที่หน้าอก ขยับ ตามลมค่ะแล้วก็เงียบ

แต่ในความเงียบ ความคิดเรื่องพวกนี้ก็ไหลเป็นสาย มีภาพขึ้น แล้วหาย
คือมันก็รู้นะคะ รู้ตัว คือไม่ได้หลงเข้าไปน่ะค่ะ แต่มันก็มีให้เห็นน่ะค่ะ
ไม่ได้ดับแล้วเงียบๆตอนจบหมดเวลาก็มีตกใจ กำลังลอยพอดี หมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

มีอะไรถามพี่มั๊ยคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่มีค่ะพี่

ขที่แท้จริง says:
อย่าหยุดนะคะช่วงนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ไม่หยุดค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2010, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



ปัญญาพิจรณาเห็นรูปนามเป็นทุกข์ เป็นโทษ เป็นของน่ากลัว เป็นเหยื่อของมาร
เกิดความเบื่อหน่าย อยากออกหนี อยากหลุดพ้น จึงได้ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ
อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้มาซึ่งมรรค ผล นิพพาน จึงหาอุบายหลุดพ้น
โดยพิจรณารูปนามนั้นซ้ำอีก ไม่หยุดหย่อน

อุปมาอุปมัยยังมีชายคนหนึ่ง ประสงค์จะจับปลา จึงทอดแหลงไปในน้ำ
แล้วลงงมหย่อนมือตามไป เผอิญไปถูกงูใหญ่เข้า แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นงูใหญ่

จึงจับคองูภายในน้ำนั้นได้ นึกกระหยิ่มอยู่ภายในใจว่า เราจับปลาใหญ่ได้
เขารู้สึกดีใจมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นปลาจริงๆและตัวใหญ่ด้วย

ครั้นจับยกขึ้นพ้นน้ำ พิจรณาดูจึงรู้ว่าเป็นงู เพราะเห็นพังพาน มีความหวาดกลัว
เป็นกำลัง เห็นโทษเห็นภัยในการจับ เพราะจะถูกงูกัดตาย

ต้องการปล่อยให้หลุดพ้นโดยเร็ว จึงหาอุบายปล่อย ตือ เอามือพันตั้งแต่ปลายหาง
แล้วยกขึ้นแขว่งบนหัว ๒-๓ ครั้ง ทำให้งูอิดโรยและอ่อนกำลัง แล้วโยนทิ้งไป

พร้อมทั้งบ่นพึมพำและสาปแช่งว่า " อ้ายงูร้าย ไปเสียให้ไกลเถิด "
แล้วรีบขึ้นสู่ขอบบึง ยืนแลดูทางมา โดยหมายใจว่า เราพ้นจากปากงูใหญ่แล้ว



ในข้อนั้นมีการเปรียบเทียบได้ดังนี้คือ


๑. เวลาบุคคลได้อัตตาภาพเกิดเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่ต้นแล้วยินดี
พอใจเพลิดเพลิน สนุกสนาน เปรียบเหมือนชายคนนั้นจับคองูใหญ่ได้
นึกว่าเป็นปลาใหญ่แล้วดีใจมาก ฉะนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้เจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ยังเพลินอยู่กับโลก

๒. เวลาที่ผู้ที่โยคี พิจรณาแยกรูปนามออกจากกัน เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ปรากฏเป็นของน่ากลัว เปรียบเหมือนกันกับบุรุษดึงหัวงูออกจากแห
เห็นพังพานแล้วกลัว ฉะนั้น

๓. เวลาโยคี ตามเห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นภัยของรูปนามแล้ว เปรียบเหมือนกันกับ
ชายผู้จับงูตามเห็นทุกข์ โทษ ภัย ในการจับงูใหญ่นั้นว่า
" ถ้าเราถูกงูใหญ่กัดแล้วแย่ไปเลย ถ้าไม่ตายก็เกือบตาย คางเหลืองไปนั่นแหละ " ดังนี้

๔. เวลาโยคี พิจรณาเห็นรูปนามว่า เป็นทุกข์ เป็นโทษ เบื่อหน่าย เปรียบเหมือนกันกับ
ชายคนนั้นพิจรณา เห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นภัย อันจะเกิดแก่ตนอย่างใหญ่หลวง
ในเพราะ การจับคองูนั้น แล้วเกิดความเบื่อหน่ายฉะนั้น

๕. เวลาโยคีอยากจะหลุดพ้นจากรูปนาม อยากจะหลุดจากวัฏฏ์ เปรียบเหมือนกันกับ
ชายคนนั้นที่จับคองูนั้น อยากจะปล่อยให้งูพ้นจากตัว ฉะนั้น

๖. เวลาโยคี ยกรูปนามขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ โดยอาการ ๔ อย่างก็ดี
โดยอาการ ๑๕ อย่างก็ดี เปรียบเหมือนกันกับชายคนที่จับคองูนั้น
แสวงหาอุบายจะปล่อยงู แล้วทำอุบายปล่อยงูให้พ้นไปจากตัว ฉะนั้น

๗. เวลาโยคี พิจรณารูปนามยกขึ้นสู่พระไตรลักษณ์บ่อยๆ วนไปเวียนมา
อยู่กับพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทำให้กิเลสหมดกำลังลง
จนได้สามารถ จะเห็นว่า เป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นของสวยงาม เป็นตัวตน
เรา เขา จะตรงกันข้าม คือ เห็นว่าเป็น อนิจจัง คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกขัง คือ เป็นทุกข์
ทนอยู่ไม่ได้ เป็นอสุภะ คือ ไม่สวยงาม เป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่ตัวตน
บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจของใครๆสิ้นทั้งมวล เปรียบเหมือนกันกับ
ชายคนที่จับคองูนั้น จับงูแกว่ง ทำให้หมดกำลัง จนงูไม่สามารถจเอี้ยวมากัดเขาได้
แล้วปล่อยให้หลุดพ้นจากตัวไปได้อย่างเป็นดี


โดยสภาวะ ย่อมปรากฏโดยย่อดังนี้


๑. บางคนจะปรากฏดุจเอาเข็มมาแทง ดุจมดกัด หรือ ดุจเอาเหล็กมาจี้ตามร่างกาย

๒. บางคนจะปรากฏดุจตะปูตำ

๓. บางคนเหมือนเอาเล่อยมาเลื่อย เหมือนเอาตะปูมาตีลงไปที่ร่างฉะนั้น

๔. บางคนเหมือนเอามีดโกนมาเฉือน

๕. บางคนจะปรากฏมีเวทนากล้า แต่กำหนดแล้วหายเร็ว

๖. บางคนมีอาการซึมๆ

๗. บางคนจะปรากฏว่า มีตัวแข็งดุจเข้าผลสมาบัติ แต่ใจยังรู้ หูยังได้ยิน
จมูกยังได้กลิ่น ลิ้นยังได้รส กายยังรู้สึกเย็นร้อนอ่อนแข็งอยู่

๘. บางคนจะปรากฏตึงๆ หนักๆ เหมือนกับเอาก้อนหินหรือท่อนไม้มาทับลงไป ฉะนั้น

๙. บางคนจะปรากฏว่าร้อนเป็นแห่งๆ บ้าง ร้อนทั่วสรรพางค์กายบ้าง

๑๐. บางคนรู้สึกอึดอัดแน่นๆ หายใจฝืดๆ

๑๑. บางคนรู้สึกเย็นเหมือนถูกน้ำแข็ง หรือเหมือนอยู่ในห้องเย็น ฉะนั้น

๑๒. ไม่สามารถกำหนดได้อย่างกระฉับกระเฉง กว่าจะกำหนดได้แต่ละอารมณ์ก็จำต้อง
ขะมักขะเม้นอยู่นาน เสมือนวัวควายแก่ที่ดื้อต่อการเอาไปไถนา หรือนำไปใช้งานฉะนั้น

๑๓. เมื่อบรรลุถึงญาณนี้ การกำหนดมักจะสะดุด ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
บางครั้งต้องใช้ความเพียรจนเกิดความเบื่อหน่ายและอ่อนเพลียมาก
ซึ่งทำให้โยคีได้รับความลำบากและเบื่อระอาเป็นอย่างยิ่ง

๑๔. ถึงแม้ว่าการกำหนดจะยากยิ่ง ได้รับความลำบาก ก็ไม่เกิดท้อถอย
ย่อมมองเห็นคุณค่าแห่งการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี

๑๕. เมื่อมาถึงญาณนี้ ไม่มีใจรวนเรคิดจะเลิกปฏิบัติเหมือนญาณที่ผ่านมา
มีแต่ตั้งใจจริง ปฏิบัติจริง สู้ตาย ไม่ยอมถอยหลัง ซึ่งนิยมเรียกว่า
ขาขาดเอาคางเกยเกาะ ดุจมดแดง ฉะนั้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ม.ค. 2010, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 141


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 90/25 ตอนเดิน ก็ฟุ้งค่ะ ก็รู้เท้าได้ มีความอยาก
ก็มันจะแน่นๆหน่อยน่ะค่ะสังเกตมัน มีความทุกข์ ทุกข์ถี่ๆ นะค่ะ

แบบวอบแวบๆ มาเรื่อยๆ มีหลงไป คิดเรื่องงานตอนเดิน ก็จะรู้เท้าแตะๆช่วงนั้น
แล้วก็รุ้ว่าหลงไปแล้ว ก้กลับมารู้กายชัดใหม่ เวทนาเจ็บเหมือนโดนทิ่ม มีมาช่วงเดียว
มีเวทนาเหมือนมดกัด 1 หน แต่กดยาวแล้วหายไป

พอมานั่งก็ ตอนต้น จะเริ่มจับท้อง มันยังจับไม่ได้ เพราะไปรู้สึกถึง การเต้นของใจ
แบบเหมือนการเคลื่อนไหวของกายตามจังหวะชีพจร ตรงช่วงท้อง - อกน่ะค่ะ
ก็ดูตรงนั้นไป แล้วก็สักพักก็หลงไป แต่ยังรู้ว่ากำลัง หลง เหมือนไปหลับในลอยๆ
คือมันก็ไม่ถึงกะลอยนะคะ แต่ว่ามันไม่ได้กลับมารู้กาย

แล้วก็มีกลับมารู้ น้ำหนักกาย เป็นก้อนน่ะค่ะ จิตก็ดู ตอนแรกก็แบบแบบตื่นๆ นิดหน่อย
แล้วก็ปล่อยไป ตื่นเต้น แบบอยากรู้น่ะค่ะ แต่แล้วก็ปล่อยไป ก็หลงไป อีก
แล้วก็กลับมารู้น้ำหนักกายอีก แล้วจากนั้นก็หลงไป และก็หมดเวลาค่ะ


สุขที่แท้จริง says:
เหมือนหมูจะเหนื่อยๆ มีอะไรหรือป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม มันเหนื่อยนะคะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหนื่อย

สุขที่แท้จริง says:
ตอนแรกที่คุยกับพี่ดูเหมือนจะดีนี่นา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะใช่ค่ะ พอเดินๆไป

สุขที่แท้จริง says:
เดินๆไปมันรู้สึกเบื่อไม่อยากทำใช่ไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
มีด้วยตอนท้ายนะคะ ระหว่างเดินๆก็มีเหนื่อย แบบเหมือนมันทุกข์
แต่มันไม่ได้ทุกข์แบบปกติ ก็ยังหาเหตุไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:
หมูเข้าไปอ่านในบล็อกเหรอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เปล่าเลยค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
คิดว่าไปอ่าน มันอาจไปซึมซับอารมรืตรงนั้นมาได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ได้เข้าน่ะค่ะ เข้าแต่บล็อกนอตอนกลางวัน แล้วก็มีแต่สภาวะที่พี่ลงของหมูไว้นะคะ
หมุก็ยังง ว่าเป็นอะไร

สุขที่แท้จริง says:
ช่วงนี้หัวเลี้ยวหัวต่อ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เหมือนกังวล เหมือนเหนื่อย บอกไม่ถูก

สุขที่แท้จริง says:
อดทนเจริญสติไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ อ้อมีจะคิดอกุศลแล้วมันไปกำหนดเองค่ะ หลายครั้งเหมือนกัน

สุขที่แท้จริง says:
มันจะแบบนี้แหละบีบคั้นแทรกๆปนๆบอกไม่ถูกเป็นช่วงๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
รอบอง เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบนี้เดิน 40/20
ตอนเดินก็รู้เดินได้ แต่จะมีความทุกข์ขึ้นมา เป็นการปรุงเแต่ง
ในเรื่องที่ป็นปัญหา ของเรา ซึ่งปกติไม่นำมาคิด

นอกจากนานๆครั้งกระทบ แต่มันขึ้นมา ตอนเดินค่ะ ก็เครียด ทุกข์
ขมขื่นขึ้นมา ดูอารมณืพวกนี้ไปค่ะ

มีเวทนาทางกาย มีเจ็บที่ใต้อกขวา เปนระยะ เจ็บหาย เจ็บหาย เจ็บหาย
เป็นจังหวะ 6 ครั้ง แล้วก็มีปวดกระดูกนิ้ว มาแล้วหาย 2 - 3 ครั้ง
มีปวดแปล็บๆที่หลัง 3-4 ครั้ง เป็นจังหวะ แล้วหาย แล้วก็พอเดินไป นานๆ ก็เปลี่ยนเรื่องอีก
คือไปคิดหนังบ้าง มาตั้งสติกายเดินบ้าง มีกายชัดบ้าง มีไม่พอใจสภาวะบ้าง

พอมานั่ง ก็รู้กาย ได้ แต่จำไม่ได้อะค่ะว่ารู้ตรงไหน แล้วก็มีหลงไป แล้วก็มีรุ้คือมารุ้มือบ้าง
มันจะไม่ค่อยได้ตอนนั่งแต่รู้ว่าไม่ได้หลงตลอดค่ะ มีตัวอะไรไต่ๆ มีเจ็บที่ใต้อกขวา เปนระยะ
เจ็บหาย เจ็บหาย เจ็บหาย มาอีก ก็หมดเวลาตรงตัวอะไรต่พอดีค่ะ จบแล้วค่ะ
อกุศลก็พยายามจะขึ้นมาน่ะค่ะ ก็กำหนดได้ ตั้งแต่เริ่มบ้าง เริ่มต้นๆบ้าง


สุขที่แท้จริง says:
ดีแล้วค่ะ พยามเอาจิตกลับมารู้อยู่กับกายให้ทัน ส่วนไหนก็ได้ของกาย
มันจะได้ไม่หลงไปนาน ไม่ไหลไปนอกกาย
หมูเริ่มจับเทคนิคในการกลับมารู้ที่กายได้ไวขึ้นนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะ ก็มันไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ ... สังเกตุดูได้ พอหลง แล้วเราดึงจิตมารู้กาย แค่แตะส่วนไหนของกายก็ได้
อาการหลงมันจะหายไปทันที


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ แล้วมันก็คล้อยไปอีก ก็ค่อยๆรุ้มันอีก

สุขที่แท้จริง says:
สติมันยังไม่มีกำลังมากพอน่ะค่ะ เจริญสติต่อไป วันนี้เบื่อ สองสมวันเบื่อ วันต่อไปดี
ทำไปจนจิตมันยอมรับถึงความไม่เที่ยงน่ะ มันจะยอมเอง เวลามันดี อย่าไปหลงมัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็คิดว่าดูไปเรื่อยๆน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละถูกแล้ว ดูตามความเป็นจริง มันเบื่อก็ให้รู้ว่าเบื่อ ไม่ต้องไปฝืนไปบังคับมัน
เพียงแต่เราต้องทำมัน ถ้าไม่ยอากจมอยู่กับกองกิเลส


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันก็เป็นแบบนั้น น่ะค่ะ เดินก็ทั้งทุกข์กาย ทุกข์ใจ วันนี้ก้อมีเอียนๆ
มันมองย้อนไป เห็นกิเลส ที่ติดต้องดีน่ะค่ะ มันก็เอียนๆ รอบแรกน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละถูกแล้ว คิดว่าดีเมื่อไหร่น่ะ เราน่ะมันโง่ คิดดูละกัน ปากยังนินทาชาวบ้าน
ใจยังคิดติติงผู้อื่น แล้วมาบอกว่าตนนั้นดี มันโง่ชัดๆ กิเลสยังมองไม่เห็นอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ มันก้จะมีโผล่มาด่าตัวเองเปนระยะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ เหมือนพี่วันนี้ ที่พี่โพสไว้ว่าเหนื่อยน่ะ พี่รู้สึกผิดน่ะ มันเลยทำให้เหนื่อย
ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ควรไปว่าใคร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะเวลารู้สึกผิดมันเหนื่อยจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่หมูเหนื่อยมาก รู้สึกผิดมากๆ บอกตัวเองว่า ทำโง่ๆอีกแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ก้ที่ทำงานน่ะ เขาจะทำบุญเลี้ยงพระ ก็ทำแบบนี้ทุกปี แล้วพี่นะ ก้แอบว่าเขาน่ะ
เรื่องคนเตรียมซื้ออาหาร แบบเขาทำสุกเอาเผากิน เราก็รู้นะว่าเขาเหนื่อย

เพราะพี่เองก็ไปช่วยเขา แต่เขาไม่น่าทำแบบนั้น ของเหลือจากพระกินก็หวงเอาไว้
แทนที่จะแบ่งๆให้พนักงานกิน ก็แบ่งพวกกัน มีการค่อนแคะกันตลอดทุกครั้ง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะพี่ มันก็คงมีตงิดๆ เพราะเป็นของถวายพระ

สุขที่แท้จริง says:
ปีที่แล้วพี่แอบว่าเขานะ แต่มันไม่รู้สึกผิดแบบนี้เลยนะ ก็เหมือนเป็นเรื่องปกติ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ มันรู้สึกผิดมากๆ ถึงจะไม่ได้ว่าเขาต่อหน้าก็ตาม

แต่ก็ทำให้รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำลับหลังเขา เราไปติติงเขาเรื่องอาหารที่จัดทุกปี
พี่เองก็ทำอาหารไปเพิ่ม ที่เสียใจในวันนี้คือ ทำไมสติเราไม่ทัน

ไปติติงเขาทำไม เขาทำยังไงเขาก็รับผล โง่จริงๆ เอาตัวเองไปร่วมกับวิบากกรรมกับเขา
นี่แหละหมู กรรมเล็กๆน้อยๆก็ไม่ควรประมาท


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แต่ว่าพี่รู้สึกผิดมากๆ แสดงว่า ความละเอียดของสภาวะมากขึ้น หรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เลยทำให้เหนื่อยกับใจตัวเอง ทีนี้จิตพี่มันจะหลบ
มันจ้องจะหลับท่าเดียวเพื่อให้ลืมๆตรงนี้ไป
จริงๆแล้วมันอาจจะมองดูว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย
แต่สำหรับพี่ พี่ว่ามันโง่มากๆ ลองคิดดูนะ ถ้าเจ้าตัวเขารู้ว่าพี่ว่าเขาลับหลังนะ
เขาจะคิดยังไง ฉะนั้นเราไม่ควรว่าใครเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ รู้สึกผิดนี่ทุกข์จริงๆ โดนด่าเองยังสบายกว่า

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ แต่มันไม่นานหรอก ถึงรู้ว่ามันไม่นาน แต่ก็ไม่อยากให้เกิด นี่ละบทเรียน
ต่อไปพี่จะระวังมากขึ้น พี่ถึงบอกไง เราน่ะต้องระวังตัวเรา เพราะเรารู้แล้ว
ไม่ใช่ให้คนอื่นๆมาระวังเรา เขายังไม่รู้ เขาจะมาระวังอะไรล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

การละอกุศล นี่ ยากกว่าสร้างกุศล ก็จริงค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 142


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 90/25

ก็โทสะ มาเรื่อยๆค่ะ รู้เท้าแตะๆ มัวๆ หายใจ 3 ครั้งแล้ว กำหนด ก็ยังไม่หาย
ระหว่างเดินนั้น ก็ดูความรู้สึก บางครั้งเหมือนข้างนอกโกรธ พอแตะดูเนื้อใน
ความรู้สึกของจิต มันไม่หนัก เหมือน มันไม่มีอยู่ แล้ว ก็กลับมา ปิ๊ดโกรธออีก ทีละปิ๊ด ค่ะ

ก็หลงไปปรุงความคิดพยาบาทก็จะกลับมาโกรธอีก ทีนี้มีช่วงหนึ่งที่ มันไปทวน
ว่าเหตุการณ์เป้นไงแล้วรู้สึกว่าทำไมโกรธได้ขนาดนั้น แล้วก็ไม่เล่าสภาวะ นี้
ว่ามีการทวน ให้พี่น้ำฟัง มันไม่ยอมรับว่า ไม่สมควร แล้วอีกพักใหญ่ก็ เปลี่ยนใหม่

ไปคิดถึง เรื่องของกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เพราะความโกด ก็สลด กลัว
หลังจากนั้นก็เริ่มไม่ปรุงความคิดพยาบาท ก็มีรู้กายเดินชัด

รู้สึกเห็นกาย เดินชัด แล้วช่วงนั้นก็จะเนิบๆ ค่ะ แล้วก็กลับมาวุ่นใหม่ มีเวทนาเหมือนมดกัดบ้าง
จี๊ดๆบ้าง เจ็บแปลบๆ คัน หงดหงิดเบื่อ พอมานั่งก็ มีเวทนาพวกนี้ แล้วก็ส่วนใหญ่ไปรู้เวทนาน่ะค่ะ
มีเวทนาใหม่มา แต่อธิบายไม่ถูกค่ะ ก็มีช่วงที่ลืมไป จำไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะรู้เวทนาค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกอย่างมันมีเหตุ เข้าใจเรื่องความพยาบาทแฝงหรือยังคะ คนที่กำลังโกรธ
คือคนที่กำลังทำร้ายตัวเอง กำลังสร้างภพชาติใหม่ให้เกิดขึ้นอีกแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ก้มันก็จะคิดก่อเรื่อง เวลาเราโกด ก็จะมีพยาบาท แล้วก็สร้างเหตุต่อ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ สร้างด้วยความไม่รู้ ไม่รู้เท่าทันความพยาบาทที่เกิดขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
พี่ เข้าใจคะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ทำอีกรอบป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
วันนี้ไม่น่ะค่ะ พอดีพรุ่งนี้มีสอน ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เวลาจะทำอะไร หายใจยาวๆเข้าใจ อย่าให้ความโกรธนำหน้าเรา
เพราะผลคือความทุกข์ เราเป็นคนรับ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
จะพยายามอดทนค่ะ โกดนี่เหนื่อย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2038264y1a3fut64v.gif
2038264y1a3fut64v.gif [ 25.81 KiB | เปิดดู 2771 ครั้ง ]
ไม่ใช่เทศน์ขอรับแม่ครัว ให้เขากำหนดอารมณ์นั้นๆ ตามที่รู้สึก ตามที่มันเป็นของมัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 23:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ไม่ใช่เทศน์ขอรับแม่ครัว ให้เขากำหนดอารมณ์นั้นๆ ตามที่รู้สึก ตามที่มันเป็นของมัน




จ้ะ :b16:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2010, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 143


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เดิน 60 นั่งปาไป 51 เพราะตั้งนาลิกาผิด

ตอนเดินรู้เท้าค่ะ เวทนาเยอะค่ะ คัน บ้าง เจ็บจี๊ดบ้าง แล้วก็วันนี้ มันจะรู้เท้า
บางครั้งก็จับลมหายใจตอนเดินด้วยค่ะ

วันนี้รู้สึกถึงการหายใจบ่อยตอนเดิน บางทีก็ก้าวขาก็รู้ลมไปด้วย
บางทีก็รู้ลมแล้วมารู้ขาแล้วไปรู้ลม แล้วก็มีความอยาก

มีความ หลงไปคิดน่ะค่ะ เพลินกะการคิด แต่ก็ยังรู้เท้าแบบแตะๆ มีความโลภค่ะ
คิดอยากรวย มีความไม่พอใจสภาวะ

มีความอยาก ตอนปฎิบัติ มีความน้อยใจ เกิดขึ้นแวบจางๆแล้วหายไป ก็รู้ค่ะ
บางทีก็รู้สึกถึงชีพจรเต้น มีเหนื่อยๆ มีเห็นสภาวะแล้วไม่อยากยอมรับ

พอมานั่งก็ รู้เวทนา หลงไปหลับใน สลับกลับมาที่น้ำหนักมือ
มีเจ็บจี๊ดเหมือนเข็มตำขาและเหมือนมดรุมกัด

ส่วนใหญ่จะหลงไปหลับในน่ะค่ะ อีกก็ก็รู้สึกว่าทำไมนาลิกาไม่ปลุก
นั่งเพลิน จน 51 นาทีแล้วค่ะ จบแล้วค่ะ
ส่วนอกุศล 1 ครั้งกำหนดทัน ตั้งแต่ต้นค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ความอยาก ถ้าคิดละ ย่อมละได้ยากค่ะ มันต้องแบบ เห็นสภาวะซ้ำๆซากๆ
จนมันเห็นจริงๆว่า มันไม่เที่ยง มันถึงจะปล่อยวางลงไปได้ค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ก็ตอนนี้พอเกิดก็ไม่ไปยุ่งกะมันมากค่ะ อย่างมาก็ไม่พอใจ แล้วก็ปล่อยไปค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
มีแต่เจริญสตินี่เท่านั้นแหละค่ะ ที่จะทำให้เห็นตามความเป็นจริง
ที่มันมีของมันแบบนั้นอยู่แล้ว เรายุ่งเราก้ทุกข์ เรามีหน้าที่คือดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ตั้งสติไว้ ไม่ต้องไปวิพากย์วิจารณ์มัน

ใช้เวลานะหมู แต่ละคนใช้เวลาแตกต่างกันไปตามเหตุที่กระทำมา
ไม่ต้องไปคาดหวังมันว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ต่ออีกรอบป่ะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ เด๋วมาค่ะ

40/15 ค่ะ
ตอนเดินก็เริ่มต้นก็ทุกข์เลยค่ะ ความทุก ความเครียดมันขึ้นมา
ก็ไปคิดว่าทำไมอยู่ๆเกิด มันมาไม่สม่ำเสมอน่ะค่ะ
แต่ก็ขึ้นมาเป็นระยะ ช่วงต้นๆ แล้วก็มีหลงไป คิดโน่นี่ มีเวทนเจ็บ
จุดนั้นจุดนี้เหมือนมดกัด เหมือนถูกตำจี๊ดๆบ้าง

มีความอยาก มีไม่พอใจ รู้เท้าได้ เมือนเดิมค่ะ มีมัว ง่วง เบื่อ
พอมานั่ง ก็รู้กายได้ แต่นิดเดียว ตอนเริ่มต้น แล้วก็หลงไปหลับในค่ะ หมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่ง 15 นาทีก็หลับหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
อืม คือ มันหลงไปไม่กลับมารู้กาย แล้วมีหลังงอ น่ะค่ะพี่

สุขที่แท้จริง
กำลังคิดว่า หมู เหนื่อยหรือเปล่าคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ค่ะพี่ เหนื่อยค่ะวันนี้

สุขที่แท้จริง
อ่อ .... ถ้างั้นไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ ทำดีกว่าไม่ได้ทำ ไม่ว่าผลที่ได้รับ
จะออกมารูปแบบไหนก็ตาม แต่มันคือการสะสมหน่วยกิตของตัวเรา
ซึ่งใครๆก็ไม่สามารถมาทำแทนเราได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ค่ะ ก็มีเบื่อ อยากเลิก แต่ก็อยากทำด้วย

สุขที่แท้จริง
จ้ะ เจอความไม่เที่ยงบ่อยๆก็ดีนะ คือ ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง จิตจะได้ไม่ไปยึดติด
กับสิ่งที่มากระทบหรือผลที่ได้รับ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ค่ะ พี่น้ำ ก็คือ รู้สึกมันสวนทางกันอีกแล้วค่ะ แต่ก่อนคิดว่าทำๆไปแล้วมันจะดี
แล้วก็ จะไม่มีความอยาก ไม่มีความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ว่า ตอนนี้รู้สึกว่า ทำไปแล้วก็ยังมีพวกนี้อยู่ คือ หมายถึง มันมี เลยไม่สน
ไม่ได้ อยู่ๆไม่มี ก็งงๆเหมือนกันค่ะ ...ตอนนี้เลยเออ ปล่อยมัน

สุขที่แท้จริง
ก็อันนั้นมันเป็นเพียงความคิดของหมูฝ่ายเดียวนี่คะ ถ้าวันใดหมูเห็นตามความเป็นจริงได้
หมูก็จะได้คำตอบทุกคำตอบเองแหละค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ค่ะพี่ เป็นความคิดของ คนทั่วๆไป ก่อนเจริญสติ แบบภาพวาด ที่เราวาดไว้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง
เข้าใจค่ะ ก็ไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิดอะไรนี่คะที่เราจะคิดแบบนั้น ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดนะหมู
ความอยาก ยิ่งคิดอยากทำลายมันมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีความอยากเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ก็หมูลองคิดดูสิ คิดอยากทำลาย นี่ก็คือความอยาก ถูกต้องไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
โอ้โห อ่านแล้วสยอง ก้ถูกค่ะพี่ มันก็จะทุกข์มากๆ

สุขที่แท้จริง
แล้วคิดดู เราจ้องอยากจะทำลายความอยากที่มีอยู่ทุกๆวัน
นั่นเท่ากับเราสะสมความอยากมากขึ้น ถูกไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
โอ้ย ตายแล้ว ค่ะ น่ากลัวจัง

สุขที่แท้จริง
เมื่อความอยากเกิดขึ้น หมูอย่าปฏเสธมัน อย่าไปคิดผลักไสมัน แต่ให้ดูมัน
และยอมรับมันว่า เออ เรายังมีอยู่นะความอยาก ทุกๆสภาวะคือการทบทวน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ค่ะพี่น้ำคือตอนนี้ก็ มีไม่ชอบมันนะคะ แต่ไม่ได้แบบไล่หรือดิ้นให้ไป

สุขที่แท้จริง
เมื่อเรายอมรับความอยากว่ามันมีอยู่จริง เรายอมรับมันได้ ถามหน่อยเถอะ
พอหมูยอมรับได้แล้วนี่ หมูจะจดจ้องมันมีอกไหม ยังอยากจะคิดทำลายมันอีกไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
ก็ไม่นะคะ ก็ก้อรู้ แล้วเด๋วมันก็มีสภาวะอืนมาแทน แต่ถ้าเราไม่เท่าทัน มัน
ก็จะมีความไม่พอใจมา แล้วถ้าทันความไม่พอใจ ความไม่พอใจก็จะหายให้เราเห็น
อันนี้หมูทบทวนที่เจอน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง
เห็นไหม พอเริ่มมีสติกลับมาก็พูดได้เป็นฉากๆ แต่เวลาสติเราไม่ทันมัน ไปแล้ว
เจริญสติไปค่ะ ไม่ต้องไปคาดหวัง ดีก็รู้ ไม่ดีก็รู้ สภาวะมันจะแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามกิเลสในใจที่มีอยู่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ
อืมม ค่ะพี่ ก็จะทำไปเรื่อยค่ะ

สุขที่แท้จริง
จ้ะ เพียงแต่ว่า เราต้องยอมรับความจริง เมื่อเกิดการกระทบทุกๆครั้ง
ว่ากิเลสตัวไหนเราเกิด เกิดเพราะอะไร แล้วมันเกิดนานไหม
ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นได้มากเท่าไหร่ ความอยากหรือกิเลสในใจเรา
มันจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2010, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 144


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25

ก็รู้เท้า เวทนาเยอะ มีเจ็บแบบจี๊ดๆ
แล้วก็มีเหมือนคล้ายผิวหนังที่ขามันเคลื่อนไหวสั่นเบาๆ แบบปีกแมลงกระพือน่ะค่ะ
ที่บอกมันสั่นเบานี่มาบ่อยค่ะ แล้วก็มีความไปดูสภาวะให้ชัดเจน
แบบจงใจจับตามองสภาวะ ต้นๆก็หลายครั้งเหมือนกันค่ะ ก็รู้ไป

มีความไม่พอใจมาเรื่อยๆน่ะค่ะ แบบไม่ได้ดังใจ แต่ว่าไม่ได้ดิ้นรนอะไรค่ะ
ความทุกข์ที่ขึ้นมามีเรื่อยๆตลอดการเดินเหมือนปกติค่ะ

แต่ว่าไม่ได้ไป ทุกข์มาก ก็รู้ว่ามันคือทุกข์ แต่มันมาแล้วมันก็หายไป แล้วก็มาแล้วก็หาย
มีช่วงที่เห็นกายเดินชัด 2 รอบได้ ก้ตื่นเต้น เห้นความตื่นเต้น แล้วก็มามัวต่อ

ก็เกิดความสลดว่าอือ ชัดก็ตื่นเต้น มัวก็ไม่พอใจ มันน่าสลด
แล้วก็เกิดความยินดีอีก เออนี่ไงเห็นกิเลส แล้วก็ทุกข์ ที่เกิดความยินดี มันเยอะค่ะ

การรู้เท้าก็ยังรู้ได้ มีช่วงที่ไปเพลินกะความคิด ก็จะรู้เท้าแตะๆ
มีกิเลสแบบคิดเข้าข้างตัวเอง แบบชอบคิดว่าตัวเอง ดี แบบอวดดีน่ะค่ะ

แล้วก็มีความหยาบคาย เห็นจิตที่หยาบคายจะขึ้นมา ก็กำหนด มัน ก็ไม่ขึ้น
อกุศลกำหนดก่อนค่ะ

พอมานั่ง จิตไม่มีแรง มันก็ลอยไป ไปเหมือนพัก แล้วก็มีลอยมารู้กายบางๆ แล้วก็ไปอีก
ก็มาอีกบางๆแตะๆกายว่านั่งอยู่แต่ไม่จับอะไร แล้วก็ไปลอยๆอีก
ก็หมดเวลาค่ะ จบแล้วค่ะพี่รอบแรก

สุขที่แท้จริง says:
ต่อได้เลยค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ อ่าเด๋วนั่งจับพองยุบเฉยๆนะคะ วันนี้ปวดขาน่ะค่ะ
เสร็จแล้วค่ะพี่ 40 นาที

ตอนนั่งก็เริ่มต้นก็รู้ท้องขยับ สักพักก็หลงไปหลับใน
แล้วก็บางครั้งก็กลับมารู้ตัว แบบไม่ค่อยแมีแรง แล้วก็ไปอีกเหมือนเดิม

หลักๆก็มีเท่านี้ค่ะ จะหลงไปหลับนมากกว่ารู้ค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ถ้านั่งอย่างเดียวจะเป็นแบบนั้นแหละ แบบว่าสติยังไม่มากพอน่ะค่ะ

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่น้ำจะลบสภาวะบล็อกในทิ้งเหรอคะ ในหน้า Profile หมูมันขึ้น มาสั้นๆ


สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ของเก่า จริงๆแล้วมันคือสภาวะ

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ แต่ก่อนก็ให้คนอ่าน ได้นี่คะ

สุขที่แท้จริง says:
แต่บางคนเข้ามาอ่าน อ่านแล้วไม่เข้าใจเรื่องของสภาวะ ตีความกันมั่วตั้ว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2010, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 145

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ส่งการบ้านนะคะ 60/25 ค่ะ
ตอนเดิน ก็มีใจร้อน แบบตื่นเต้น
เพราะที่หอเปิดเพลง จัดงานปีใหม่ แบบกลัวโดนกวนน่ะค่ะ

ก็รู้เดินได้ด้วย มีความไม่พอใจ เแบบปฎิบัติไม่ได้ดังใจ ขึ้นมา มาเป็ระยะ
เบาบ้าง แรงบ้าง ก็แว่บเหมือนเห็นก่อนจะไม่พอใจ แบบมันไม่ได้คิดเป็นประโยค
แต่มันแวบ แบบรู้สึก แบบเหมือนมันขึ้นมาจากเดินๆอยู่ อยู่ๆมันก็ขึ้นมาว่าแบบนี้ไม่ดี
ก็ตามมาด้วยความไม่พอใจต่อ

แล้วก็ เดินๆไปมีตัวที่ชอบคิดว่าตัวเองดี เก่ง แต่ไม่ได้เป็นคำพูด เป็นความรู้สึก
แล้วก็ มีเวทนา เจ็บ คัน มีร้อนผ่าว นิดหน่อย มีเหมือนมดกัดแล้วหายไป

แล้วพอมานั่ง ก็รู้กายนั่ง แล้วก็ไปรู้ท้องขยับ แต่ไม่ได้ลงไปจ่อที่ท้อง
ขยับเบา แล้วก็หลงลอยไป ง่วงๆ นิดๆ แล้วก็มารู้ท้องอีกเบาๆ มารู้กายนั่ง

รู้เวทนา เจ็บบ้าง ผ่าวๆ บ้าง หลงไป ง่วงนิดอีก แล้วก็มารู้กายอีก
สลับไปแบบนี้ค่ะ จบแล้วคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

วันนี้มาแต่วันเลยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเพราะว่าหอจัดงาน มันจะดังมาก เลยรีบทำก่อน

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ จะบอกว่า สภาวะมันกำลังทบทวนน่ะค่ะ หมูมีหน้าที่คือ เจริญสติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็ทำหน้าที่ไปน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เหตุแต่ละคนสร้างมาแตกต่างกันไป ช่วงนี้หัวเลี้ยวหัวต่อที่ต่อสู้กับกิเลส
ความเหนื่อยยาก ความเบื่อหน่าย สารพัดนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูก็รู้สุกช่วงนี้ใจมันไม่ค่อยสู้ แบบไม่ค่อยระวังตัว ต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจค่ะ ถึงบอกว่า อย่าหยุด ให้ทำเพราะมีหน้าที่ที่จะต้องทำ
ไม่ต้องไปคิดว่าทำแล้วจะเป็นยังไง เพราะผลที่ได้รับคือ สติ สัมปชัญญะที่มากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็มีความรู้สึกไม่ชอบตัวเองช่วงนี้บ่อยๆ เป็นความไม่พอใจตีขึ้นมาน่ะค่ะ
ก็ค่ะ ตอนนี้ก็รู้ไปนน่ะค่ะ บางทีก็รู้ไม่ลำบาก บางทีก็รู้แล้วก็ทุกข์ต่อ ทำไปเรื่อยๆค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ดีแล้วค่ะที่ทุกข์ พอเจอทุกข์จากการปฏิบัติแล้ว เรื่องทุกข์ทางโลกๆน่ะกระจอกไปเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็สังเกตว่า ปฎิบัติทีไร มันทุกข์ขึ้นมาให้เห็นทุกทีเลย ไม่มีครั้งไหนไม่ทุกข์เลย
แล้วก็ไม่ได้มีเหตุ แบบเรื่องทางโลก แต่เป็นเหตุจากภายใน

สุขที่แท้จริง says:

เรื่องธรรมดาค่ะ ก็หมูยังยึดนี่คะ ยังไม่ยอมปล่อยมัน
วันใดเห็นความไม่เที่ยงที่มันดีดผึงออกมาจากจิตจริงๆ
วันนั้นแหละ หมูจะไม่ไปทุกข์กับมัน แล้วสภาวะก็จะเปลี่ยนไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
เอาง่ายๆ เหมือนศิล น่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ศีล... ทำไมหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
อย่างศิลข้อปานา อันนี้ยกตัวอย่างนะ
กว่าเราจะยอมรับศิลข้อนี้ได้น่ะ ว่า ฆ่าสัตว์แล้วจะเป็นอย่างนี้นะ จะได้รับผลอย่างนี้นะ
เราจะเชื่อได้จริงๆก็ต่อเมื่อ ต้องได้รับผลแล้วจริงๆ แล้วแบบว่าต้องได้รับจนใจมันยอมเลยน่ะ

ไตรลักษณ์ก็เช่นเดียวกัน สภาวะมันจะเดิมๆซ้ำๆ อยู่อย่างนี้แหละ ทุกข์แบบนี้แหละ
จนจิตมันยอมรับว่า มันไม่เที่ยงเลย ดูสิ ดีใจแหม่บๆ แป๊บเดียวทุกข์แล้ว อ้าวเดินจงกรมดี๊ดี
ความคิดก็ไม่มี แป๊บเดียวฟุ้งไปแล้ว

เห็นไหมว่ามันไม่เที่ยงเลย นั่งสมาธิวันนี้ดีจัง เกิดปีติ แป๊บ เฮ้ยยย มดกัดมาอีกแล้ว
อะไรกันเนี่ย คิดว่าจะได้พักนะ ที่ไหนได้โดนอีกแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ต้องเห็นเยอะๆ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ต้องเห็นแบบจิตมันเอียนแบบจะอ้วก
คือถ้าอ้วกออกมาได้มันขออ้วกออกมาเลย
แต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกหมู ของพี่น้ำน่ะ สภาวะที่ผ่านมาเป็นแบบนั้นจริงๆ

แล้วแต่เหตุที่กระทำมากันน่ะ ทุกข์มากน้อยแตกต่างกันไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าทำไว้เยอะ ก็ เด็ดดวง อืมๆค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ เหมือนกับเรื่องความรัก สภาวะความรักที่พี่ผ่านมาน่ะ กระอักเลยเห็นป่ะ
สร้างเหตุไว้ไม่ดี เจอทวงแหมมม อยากอ้วกกก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่เห็น เลยค่ะ พี่น้ำเจอเยอะมาก

สุขที่แท้จริง says:
พี่ถึงบอกไง ให้ดูพี่ ถ้าหมูคิดว่ามันทุกข์นัก ดูของพี่ล่ะกัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ของหมูช่วงนีมันก็มีทุกข์ แต่ไม่ได้ลงไปแบบคลุกมากๆ
เหมือนสมัยตอนปรามาส แรงๆ ก็สะสมไปนะคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2010, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 146


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เดิน 90 นั่ง 25
ตอนเดินก็รู้เท้า มีหลงไปคิดโน้นนี่ ช่วงนั้นก็รู้เท้าแบบไม่ชัดเจนไปเพลินกะความคิด
แต่ก็ยังรู้ว่ามีการเดิน มีเวทนา เจ็บ คัน ปวด มาสั้นๆแล้วหาย แล้วก็มา

แล้วก็มีความแน่นที่ใจ มีความไม่พอใจ มีความพอใจ มีความไม่ ยอมรับสภาวะ
มาแล้วก็รู้ไป แล้วมันก็หายไป ก็มีมาอีกบ้าง อกุศลนั้น ยังไม่ขึ้น

แต่รู้ว่านี่คือลักษณะของจิต ที่กำลังจะเป้นอกุศล ก็ไม่ขึ้น แต่มีความไม่พอใจขึ้นมา
มันก็มีช่วงที่ความคิดเงียบ แล้วก็อยู่กะกายได้ แต่ก็เปลี่ยนไป

พอ มานั่งก็ รู้ลมหายใจรู้อกขยับ อ้อตอนเดินมีบางช่วงรู้ลมได้วย
พอนั่งก็รู้ลมหายใจรู้อกขยับ แล้วก็มีรู้ท้องขยับ แต่จิตมันกังวล มันกังวลเรื่องที่บ้าน

ต่อเนื่องจากการเดิน ก็สักพัก มันก็หายไป ความกังวล ก็มารู้กาย
แล้วก็รู้เวทนา มีร้อนผ่าวที่เท้า มีปวดหัว แล้วก็ มีคิดคลอๆ กะรู้ท้อง จน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะ 40/20

ตอนเดินก็รู้เท้า หลงไป หลงไปเพลินคิดปรุง ก็กลับมารู้เท้าใหม่
แต่ก็ยังเหมือนรู้เท้าด้วยปรุงด้วย เพียงแต่ ที่เป็นอกุศล จะเห็นจิตมันกลัว คอยระวังไว้

แต่ความไม่พอใจ ยังมีอยู่ ความอยากมีอยู่ มีจิตใจผิดปกติ แบบมีฟู เหมือนเวลาเราอิ่มๆ
ปีติมั้งคะ แล้วก็มีความกังวล เกิดจากความคิดปรุง เรื่องภาระต่างๆ ก็รู้ไป
มีเวทนา ร้อนเหมือนโดนแดด มา2-3 ครั้ง มาแล้วหาย

ตอนนั่ง ก็จับกาย ทีนั่ง มีจับท้อง ขยับเบาๆ แล้วก็ไปคิด ปรุงเรื่องความประมาท
แล้วก็หลังๆก็ไปคิดเรื่องว่าเออเด๋วนี้อกุศลเริ่มคุมได้ คิดแค่นี้ มาเลย อกุศล ไปเลย

ก็รู้แต่ไม่กังวลมาก มีความไม่พอใจ ปกติ ก้กำหนด รู้หนอ อกุศลหนอ แล้วก็ผ่านไป
แล้วก็นั่งอีกแป๊ปก็หมดเวลาค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ กลับมารู้กายได้ทันมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ วันนี้ ไม่หลงไปหลับใน


สุขที่แท้จริง says:
ขนาดหมูน่าจะเพลียนะวันนี้เดินกันทั้งวัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ซำบายมาก

สุขที่แท้จริง says:

มันไม่เที่ยงเห็นไหมล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ค่ะ อ้อ รอบแรกน่ะค่ะ ตอนเดินมันทุกข์ขึ้นมา
แล้วก็จิตหายทุกข์ แล้วเกิดความสบายใจว่า ยังไงมันก็ต้องหายทุกข์ แต่ลืมเล่า

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ แล้วแต่เราจะคิดน่ะค่ะ คิดว่าทุกข์มันก้ทุกข์ คิดว่าหายมันก็หาย
อยู่ที่การเกาะเกี่ยวน่ะว่ามากน้อยแค่ไหน มีอะไรจะถามหรือป่ะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ไม่มีแล้วค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร