วันเวลาปัจจุบัน 20 พ.ค. 2025, 19:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2011, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อากาศแปรปรวนฤดูร้อนแต่ก็หนาวเย็น อย่างนี้เป็นสิ่งที่จิตเข้าไปรู้เข้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2011, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผงธุลีดิน เขียน:
mes เขียน:
ผงธุลีดิน เขียน:
เอาน้ำแข็งไปตากแดดสิ เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนรูป
ลักษณะแข็งที่ปรากฏ ก็จะไม่ปรากฏ
แล้วลักษณะแข็งนี้ หายไปไหน ละนี่ :b10:

ถ้าเราสามารถแยกน้ำจากน้ำแข็งแล้วความแข็งยังอยู่ จึงแยกจิตจากรูปได้


ถ้าแยกแล้ว ลักษณะแข็งยังอยู่ ถ้ามีอยู่ แล้วไปปรากฏ ตั้งอยู่ ตรงไหนอะครับทีนี้ :b24:


ธาตุแข็งมีอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่มีอยู่ เป็นธรรมชาติ ธรรมฐิติ

แต่ความแข็งโดยตัวตนของมันเองแท้ๆนั้นไม่มี ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยทั้งสิ้น เช่น

เมื่อความเย็นปริมาณมากพอมาเป็นเหตุปัจจัยกับน้ำทำให้อุณหภูมิลดลงถึง0องศาน้ำจะเริ่มเป็นน้ำแข็ง และเป็นน้ำแข็งเมื่อเติมปริมาณความเย็นเข้าไปอีิกที่0องศานั้น

เมื่อปริมาณความเย็นหายไป ความแข็งของน้ำก็หายไปด้วย

อุณหภูมิ ความกดดันบรรยากาศล้วนเป็นเหุตปัจจัยทั้งสิ้น



ธาตุรู้มีอยู้แล้วเป็นธรรมชาติ ธรรมฐิติ

ให้ขันธ์5เป็นน้ำแข็ง

รูปคือน้ำ จิตคือความแข็ง


ดังนั้น

เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ



เมื่อเราตาย กายก็ไมดับ แต่แตกสลายแยกออกเป็นธาตุตามเดิมที่เคยเป็น ธาตุรู้ก็ยังอยู้ จิตก็ไม่หายไปไหนเพียงแค่ไม่มีปัจจัยให้เกิด


ใครจะว่าตายแล้วสูญก็ไม่ได้

ตายแล้วเกิดก็ไม่ได้ ที่เกิดเป็นปัจจัยใหม่ ปัจจัยเดิมกระบวนการนั้นเป็นอดีตเป็นแล้ว


แต่ธาตุทั้งหลายที่เกิดใหม่ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ รวมไปถึงธาตุรู้ก็ตัวเดิมนั้้นเอง


แล้วสวรรค์ นรกอยู่ใหน

อย่าประมาทว่าไม่มี

มนุษย์มีขันธ์5

ไม่ได้มีใครบอกว่านอกจากขันธ์5นั้นไม่มี







.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กิเลส..ตัณหา..อาสวะ...ต้องตักออกด้วยความเพียรชอบ 2 สถาน

สังวรปธาน...กิเลสเกิดใหม่ก็ให้ปัดทิ้ง...ปัดไม่ทันก็ให้รีบตักออกก่อนที่จะตกตะกอนเป็นอาสวะ

ปหารปธาน...กิเลสเก่าที่ตกตะกอนเป็นอาสวะ...เมื่อมันฟุ้งขึ้นมาเป็นนิวรณ์เครื่องกวนใจก็ให้รีบตักออก..อย่าปล่อยให้ล่องลอยแล้วจมลงไปอีกเดียวจะหามันลำบาก


พูดอีกก็ถูกอีก ว่างๆ ท่านกบ ไปบอกหรงพ่อทีคับ
กิเลสเกิด ก็ต้องกดมัน ข่มมัน อย่ายอมแพ้มัน มิใช่รอให้กิเลสครอบงำจนเสร็จกิจแล้วกิเลสมันจะดับไปเอง
หรงพ่อคับข้าวกลางวันไม่ต้องฉันก็ได้ พระกรรมฐานเขาฉันกันมื้อเดียวทั้งงั้นหรงพ่อ หรงพ่อลองสู้ดูกับกิเลสตัวนี้ดูก่อนซิคับ ทำได้บ่คับ ฉันมื้อเดียวนะคับ ถ้าทำได้แล้วค่อยไปสอนชาวบ้านดูจิตขั้นแอดว้าน หรงพ่อน่าจะดูข้อวัตรปฏิบัติของหลวงปู่มั่น หลวงปู่ดูลย์ หลวงตามหาบัว ฯลฯ แล้วทำตามซิคำ มิใช่ ก๊อบคำสอนมาอะแดบสอนชาวบ้าน เอาทั้งเยี่ยงทั้งอย่างซิครับ อย่าทำเพื่อหาเงินไปซื้อพันธบัตรสร้างครอบครัว หรงพ่อคับการลงทุนมีความเสี่ยง เมื่อลงทุนห่มผ้าเหลืองแล้ว หากมุ่งกุศลก็จะได้อริยะทรัพย์มหาศาล หากมุ่งแต่อกุศล คงบ่พ้นอบายเป็นแน่แท้คับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ปรามาสพระสงฆ์บาปนะครับ

สติเป็นตบะธรรมเป็นเครื่องเผาผลาญกิเลสครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ปรามาสพระสงฆ์บาปนะครับ
สติเป็นตบะธรรมเป็นเครื่องเผาผลาญกิเลสครับ


ปราชิก 4
1 ฆ่าคน
2 อวดอุตริ (ดูจิตชาวบ้าน ภาวนาดี เผลอแล้ว เพ่งแล้ว แต่งตั้งดังตูมเป็นโสดา ฯลฯ)
3 เสพเมถุน (ไม่รู้)
4 ลักทรัพย์ (ช่างเหอะ )

อนิยตกัณฑ์ มี 2 ข้อ
1. การนั่งในที่ลับตา มีอาสนะกำบังอยู่กับสตรีเพศ และมีผู้มาเห็นเป็นผู้ที่เชื่อถือได้พูดขึ้นด้วยธรรม ๓ ประการอันใดอันหนึ่งกล่าวแก่ภิกษุนั้นได้แก่ ปาราชิกก็ดี สังฆาทิเสสก็ดี หรือปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุนั้นถือว่ามีความผิดตามที่อุบาสกผู้นั้นกล่าว
2. ในสถานที่ที่ไม่เป็นที่ลับตาเสียทีเดียว แต่เป็นที่ที่จะพูดจาค่อนแคะสตรีเพศได้สองต่อสองกับภิกษุผู้เดียว และมีผู้มาเห็นเป็นผู้ที่เชื่อถือได้พูดขึ้นด้วยธรรม 2 ประการอันใดอันหนึ่งกล่าวแก่ภิกษุนั้นได้แก่ สังฆาทิเสสก็ดี หรือปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุนั้นถือว่ามีความผิดตามที่อุบาสกผู้นั้นกล่าว

กุฎิแม่ชีตั้งอยู่หนใด กุฎิหรงพ่อตั้งอยู่หนใด ลับหู ลับตาหรือไม่

ถ้าเป็นพระต่อให้เสพยาบ้า ฉันเข้าเย็น ผมมิปรามาส เด็ดขาดครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
อ้างคำพูด:
ปรามาสพระสงฆ์บาปนะครับ
สติเป็นตบะธรรมเป็นเครื่องเผาผลาญกิเลสครับ


ปราชิก 4
1 ฆ่าคน
2 อวดอุตริ (ดูจิตชาวบ้าน ภาวนาดี เผลอแล้ว เพ่งแล้ว แต่งตั้งดังตูมเป็นโสดา ฯลฯ)
3 เสพเมถุน (ไม่รู้)
4 ลักทรัพย์ (ช่างเหอะ )

อนิยตกัณฑ์ มี 2 ข้อ
1. การนั่งในที่ลับตา มีอาสนะกำบังอยู่กับสตรีเพศ และมีผู้มาเห็นเป็นผู้ที่เชื่อถือได้พูดขึ้นด้วยธรรม ๓ ประการอันใดอันหนึ่งกล่าวแก่ภิกษุนั้นได้แก่ ปาราชิกก็ดี สังฆาทิเสสก็ดี หรือปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุนั้นถือว่ามีความผิดตามที่อุบาสกผู้นั้นกล่าว
2. ในสถานที่ที่ไม่เป็นที่ลับตาเสียทีเดียว แต่เป็นที่ที่จะพูดจาค่อนแคะสตรีเพศได้สองต่อสองกับภิกษุผู้เดียว และมีผู้มาเห็นเป็นผู้ที่เชื่อถือได้พูดขึ้นด้วยธรรม 2 ประการอันใดอันหนึ่งกล่าวแก่ภิกษุนั้นได้แก่ สังฆาทิเสสก็ดี หรือปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุนั้นถือว่ามีความผิดตามที่อุบาสกผู้นั้นกล่าว

กุฎิแม่ชีตั้งอยู่หนใด กุฎิหรงพ่อตั้งอยู่หนใด ลับหู ลับตาหรือไม่

ถ้าเป็นพระต่อให้เสพยาบ้า ฉันเข้าเย็น ผมมิปรามาส เด็ดขาดครับ

ขอหลักฐานด้วยครับ ถ้าจริงผมจะช่วย ปรามาสด้วยครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 19:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเจอหรงพ่อ ลองถามในใจดูว่า หรงพ่อคับ ทำไมไม่ไปงานหลวงตามหาบัว ที่เคยอ้างว่าเป็นอาจารย์คับ
หรงพ่อจะตอบว่า : เพ่งไปนะ หรือ เผลอไปนะ หรือ ภาวนาดีแล้ว หรือ จิตตื่นแล้ว
แต่เด๋วนี้คงไม่ค่อยพูดแล้วมั้ง คงอึดอัดน่าดู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงพ่อครับ ไม่ใช่หรงพ่อ เรียกชื่อท่านดีๆเถิดครับ

คุณอายะรู้จักท่านจิตตคหบดีมั้ยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 20:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12:
คุณ FLAME พูดมีเหตุผล...

คำทุกคำ..มีต้นตอของการเกิดของมัน

ลองหยั่งใจดู...แล้วจะเห็น

หากเห็นว่า..คำนั้น ๆ เกิดจากต้นตอ..ที่พระพุทธองค์สอนให้ละ..ให้ทำลาย

ก็ให้งดเสีย...

ทั้งนี้...ก็เพื่อความเจริญของเราเอง..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หลวงพ่อครับ ไม่ใช่หรงพ่อ เรียกชื่อท่านดีๆเถิดครับ
คุณอายะรู้จักท่านจิตตคหบดีมั้ยครับ


อ๊ะ ๆๆ หลวงก็หลวง
ก่อนไปถึงเรื่องจิตคหไม่ดี

คุณ FLAME ช่วยบอกผมหน่อยว่า
ทำไมหลวงพ่อไม่ไปงานหลวงตา ที่อ้างในหนังสือไว้มากมายว่าเป็นครูอาจารย์
ทำไม จึงเอากุฎิแม่ชีมาไว้ใกล้ๆ ตีความว่า ลับหู หรือ ลับตา ได้หรือไม่ จะตีเป็นอาบัติ ปราชิก หรืออนิยส ได้บ่ครับ
ทำไม จึงมักกล่าว เผลอแล้ว เพ่งแล้ว ภาวนาดีแล้ว เป็นล้านๆ ครั้ง ถ้ารู้ไม่จริง ก็ปราชิกตั้งแต่ครั้งแรก
ถ้ารู้จริงก็ปาจิตีย์เป็น หมื่นๆ ครั้ง พระอรหันต์นะ ไม่รู้เหรอว่าอย่างนี้อาบัติ กล่าวเพื่ออะไร ต้องการ
ลาภ สักการะใช่หรือไม่
ทำไม อ้างว่าเป็นพระป่าไม่จับเงิน แต่มีเงินในบัญชีมากมาย
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม จึงชอบตำหนิวิธีสอนธรรม ของพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลาย ทำสมถะ เอาไว้พักผ่อน ไม่เหมาะคนเมือง ทำให้ช้า เพ่งผิด จงใจผิด ฯลฯ ข้อนี้แหละที่ผมทนไม่ได้ ที่ไปขัดขวางมรรคผลชาวบ้าน
ทำไมหลวงตาจึงกล่าว "ปัญญาโครตพ่อโครตแม่มัน , เจตนาไม่ดี , ไม่มีภูมิธรรมเลย " ในกัณฑ์เทศน์มหาภัยในวงกรรมฐาน


คุณ FLAME ศรัทธานะต้องเสมอกับปัญญา ไม่อย่างนั้นเห็นเป็นผ้าเหลืองเชื่อหมดอย่างนั้นหรือ
หลวงตาเทสน์เช่นนั้น หลวงพ่อสงบเทศน์เช่นนั้น และก็มีอีกหลายรูป
เออแล้วมันจะเข้าข่าย เรื่องของจิตคหไม่ดี หรือเปล่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 12:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย
ทำกรรมอย่างไรไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น

เมื่อเห็นดังนี้เราย่อมวางอุเบกขาเสียได้

ผู้มีปกติเพ่งโทษผู้อื่น คอยแต่จับผิดผู้อื่น ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประมาท ซึ่งเป็นหนทางไปสู่ความตาย

ท่านจิตตคหบดีเป็นพระอนาคามีนะครับ เป็นผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งหลาย ด้านธรรมกถึก
เพราะฉะนั้นควรเรียกชื่อท่านดีๆครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 08 เม.ย. 2011, 22:53, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
อ้างคำพูด:
หลวงพ่อครับ ไม่ใช่หรงพ่อ เรียกชื่อท่านดีๆเถิดครับ
คุณอายะรู้จักท่านจิตตคหบดีมั้ยครับ

อ๊ะ ๆๆ หลวงก็หลวง
ก่อนไปถึงเรื่องจิตคหไม่ดี

ผมขอตอบคำถามนี้แทน คุณFlameแกหน่อยครับ
เห็นว่าคุณflameแกวางอุเบกขาได้แล้ว แกคงไม่อยากตอบเท่าไร

คุณอายะครับ คำว่าหรงที่คุณใช้ เสียงมันไม่ผิดหรอกครับ
มันผิดที่รูปหรือตัวอักษรจริงแล้วมันต้องเป็นคำนี้ครับหลง
คำนี้ผมเคยอ่านเจอในเว็บการเมือง พวกนั้นเขาใช้เรียก พระที่หลงตัวเอง
คิดว่าตัวเองบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วครับ
เราอย่าไปสนใจเลยครับว่า พวกนั้นเขาจะเรียกใคร รู้เพียงแต่ว่าเขากำลังปรามาสครูบาอาจารย์
เหมือนกับที่คุณกำลังทำอยู่นี้แหล่ะครับ ต่างกันแค่ตัวบุคคล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
คุณ FLAME ช่วยบอกผมหน่อยว่า
ทำไมหลวงพ่อไม่ไปงานหลวงตา ที่อ้างในหนังสือไว้มากมายว่าเป็นครูอาจารย์

ผมถามกลับครับ แล้วทำไมต้องไปครับ
กับคนที่เป็นครูบาอาจารย์สอนฆราวาส ไม่ให้ยึดติดกับสิ่งสมมุติ
สอนเรื่องการพลัดพราก การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ให้เข้าถึงแก่นของไตรลักษณ์
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ถามหน่อยครับ คุณจะให้หลวงพ่อไปนั่งร้องไห้หน้าสังขารหลวงตา
คุณถึงจะบอกว่าหลวงพ่อไม่เนรคุณหรือครับ
อย่าเอาสถานะของคุณไปเปรียบกับหลวงพ่อซิครับ
มันไม่เหมือนกัน

อายะ เขียน:
คุณ FLAME ช่วยบอกผมหน่อยว่า
ทำไม จึงเอากุฎิแม่ชีมาไว้ใกล้ๆ ตีความว่า ลับหู หรือ ลับตา ได้หรือไม่ จะตีเป็นอาบัติ ปราชิก หรืออนิยส ได้บ่ครับ

ความหมายที่ว่าใกล้ของคุณมันแค่ไหนกันครับ ผมเห็นสื่อเข้าไปถ่ายรูปทำข่าว
เขาก็บอกว่าไม่ใกล้ ตัวสื่อเดินก็เมื่อยแล้ว
คุณอายะผมว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาพูดดีกว่าครับ มันจะกระทบถึงครูบาอาจารย์คนอื่นด้วย
ถ้าคุณว่าอาบัติ ปานนี้มันก็อาบัติกันหมดแล้วล่ะครับ ผมเคยเห็นยายชีเข้าไปจุนจ่าน
กุฏิครูบาอาจารย์เยอะแยะไป ถ้าเราไม่เอาเป็นสาระมันก็ไม่มีสาระ แต่ถ้ามันจะเอาเรื่องหรือหาเรื่อง
กูฏิที่ห่างขนาดคนหนุ่มเดินเมือย มันยังบอกอยู่ใกล้กันเลยครับ
อายะ เขียน:
ทำไม จึงมักกล่าว เผลอแล้ว เพ่งแล้ว ภาวนาดีแล้ว เป็นล้านๆ ครั้ง ถ้ารู้ไม่จริง ก็ปราชิกตั้งแต่ครั้งแรก
ถ้ารู้จริงก็ปาจิตีย์เป็น หมื่นๆ ครั้ง พระอรหันต์นะ ไม่รู้เหรอว่าอย่างนี้อาบัติ กล่าวเพื่ออะไร ต้องการ
ลาภ สักการะใช่หรือไม่

แล้วมันผิดตรงไหนครับ คนเราน่ะครับ อาการทางจิตเป็นอย่างไร มันแสดงออกทางกายครับ
มันเป็นวิทยาศาสตร์ คนธรรมดาอย่างจิตแพทย์ก็รู้ได้ครับ
จะบอกให้ครับที่ท่านบอกมันเป็นอาการของจิต ท่านไม่ได้บอกความคิดของคนอื่น
ถ้าท่านบอกว่าคนนั้นคิดอะไรอยู่บอกมาเป็นเรื่องเป็นราวนั้นซิครับมันผิด


แล้วท่านบอกหรือครับว่าท่านเป็นอรหันต์ แล้วท่านเคยออกปากเรี่ยไรชาวบ้านหรือครับ
คิดก่อนแล้วค่อยพูดซิครับ
คุณอายะครับ การกระทำของคุณ ผมตีความไปเลยว่า คุณกำลังแสดงความเห็น
ล่อเป้า
คุณมีจุดประสงค์สิ่งใดครับ สิ่งที่คุณเอามาว่ากล่าวนั้น
ครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพของคนทั่วประเทศ ก็เป็นแบบที่คุณว่าครับ คุณมาปากพร่อยปรามาส
แบบนี้ผมว่าคุณล่อเป้า
อายะ เขียน:
ทำไม อ้างว่าเป็นพระป่าไม่จับเงิน แต่มีเงินในบัญชีมากมาย

แล้วท่านจับหรือเปล่าล่ะครับเงินน่ะ แล้วไอ้เงินนั้นท่านไปเรียไรมาหรือครับหรือว่าไปจี้ปล้นเขามา
มันก็เป็นเงินที่ลูกศิษย์ลูกหาบริจาค เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด
ถามหน่อยครับ พระปฏิเสธญาติโยมเรื่องการทำบุญได้หรือครับ
เงินได้มามันก็ต้องเข้าบัญชี เงินมันอยู่ในธนาคาร มีหลักฐานให้รู้ว่ามีเงิน
ใครจะเบิกจะจ่ายก็รู้
คุณอายะถ้าคุณไปขุดใต้ถุนกุฏิหลวงพ่อแล้วเจอเงิน นั้นแหล่ะถึงจะเป็นปัญหา

ผมตอบเกินให้หน่อย ที่ใส่ชื่อบัญชีเป็นของอดีตภรรยา ก็เพราะเขาเคยอยู่ด้วยกันมา
รู้นิสัยกันดีเขาไว้ใจกัน แล้วผมก็ว่าถูกแล้วล่ะครับ เพราะถ้าขืนไปใส่บัญชีคนอื่น
ผมว่าปานนี้คงไม่พอจ่ายค่าไฟฟ้าวัดแน่ ไม่ต้องดูอื่นไกล มันมีที่ไหนครับทำบุญแล้ว
ท่วงคืน ถ้าเป็นผมใครให้เงินผมแล้วมาท่วงคืน ผมจะถ่ายอุจจาระไปให้แล้วบอกว่าเอาคืนไป
อายะ เขียน:
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม จึงชอบตำหนิวิธีสอนธรรม ของพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลาย ทำสมถะ เอาไว้พักผ่อน ไม่เหมาะคนเมือง ทำให้ช้า เพ่งผิด จงใจผิด ฯลฯ ข้อนี้แหละที่ผมทนไม่ได้ ที่ไปขัดขวางมรรคผลชาวบ้าน
ทำไมหลวงตาจึงกล่าว "ปัญญาโครตพ่อโครตแม่มัน , เจตนาไม่ดี , ไม่มีภูมิธรรมเลย " ในกัณฑ์เทศน์มหาภัยในวงกรรมฐาน
"ปัญญาโครตพ่อโครตแม่มัน

อันนี้ก็มาล่อเป้าอีกแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FLAME เขียน:
ท่านจิตตคหบดีเป็นพระอนาคามี ผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งหลาย ทางด้านเป็นธรรมกถึก
เรียกชื่อท่านดีดี :b41:


ที่เขียนจิตคหไม่ดี เจตนามิได้หมายถึง ท่านจิตคหบดี ผู้เป็นเลิศธรรมกถึก


อ้างคำพูด:
สัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ทำกรรมอย่างไรไว้ ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมได้รับผลในกรรมนั้น เมื่อเห็นเช่นนี้เราก็มีอุเบกขาอยู่ได้
บุคคลผู้มีปกติเพ่งโทษผู้อื่น คอยแต่จับผิดผู้อื่นได้ชื่อว่าเป็นผู้ประมาท ซึ่งเป็นหนทางแห่งความตาย


เมื่อท่านกล่าวเช่นนี้ ผมถามข้อธรรมท่านอย่างหนึ่ง
เพ่ง จงใจ ผิดหรือไม่
สมถะทำให้ช้า แต่ก็ไม่ห้ามทำสมถะ เอาไว้พักผ่อน ผิดหรือไม่
แต่งตั้ง คุณสุรว... , ดังตูม ,... ฯลฯ เป็น โสดา ผิดหรือไม่
การสั่งสอนธรรมผิดๆ ตู่คำสอนพระพุทธองค์ ไปขัดขวางมรรคผลชาวบ้าน มันจะเวรกรรมซักแค่ไหน แรกๆ อาจจะไม่รู้แล้วสอนไปคิดว่าถูกพอให้อภัย แต่นี่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเตือน กลับไม่เลิก ไม่กลัวบาปกรรมบ้างหรือไร

เพราะอะไร ท่าน "FLAME" ถึงได้ออกมาปกป้อง หลวงพ่อ ป.
ท่านว่า การปกป้องคนทำลายพระศาสนา มันบาปกรรมหรือไม่ แล้วท่านไม่กลัวเหรอ
ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นกุศล เพราะจะทำให้คนหยุดงมงายอยากได้แชร์ โสดา


ส่วนท่านโฮ เกินความสามารถผมครับ นิมนต์สนทนากับท่านอื่นเหอะ
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: เอาหล่ะผมจะอธิบาย :b41:

ที่ผมว่าสัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นทายาท มีกรรม...
ผมหมายถึงหากพระอาจารย์ท่านประพฤติดี ปฏิบัติอยู่ในกรอบของศีล ท่านก็ย่อมได้รับผลของกรรมดีนั้น
หากท่านประพฤติผิดศีล ท่านย่อมได้รับผลของกรรมชั่วนั้น เมื่อเราเห็นดังนี้เราก็มีอุเบกขาเสียได้
และผมไม่ได้มาปกป้องท่านเลยครับ ขึ้นชื่อว่าธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ถ้าท่านประพฤติธรรม ธรรมย่อมรักษาท่านเอง ผมไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ต้องมาปกป้องท่าน

จุดประสงค์ที่ผมพูดในตอนแรกเพื่อต้องการเตือนคุณอายะให้ระวังเพราะการปรามาสพระนั้นเป็นบาป ถึงแม้ไม่ใช่พระอาจารย์ปราโมทย์ แต่เป็นพระองค์อื่น ผมก็จะพูดแบบนี้เหมือนเดิม เพราะผมหวังดีกับคุณอายะเอง ไม่ว่าจะอย่างไร หากไม่มองท่านเป็นพระแต่มองทุกคนด้วยจิตที่เมตตาจริงๆ คุณจะไม่พูดอย่างงี้เลย ยิ่งถ้าเป็นคนที่ทำบาปกรรมหนักด้วยแล้ว เพราะอะไร เพราะเขาเหล่านั้นน่าสงสารยิ่ง เพราะต้องรับกรรมเผ็ดร้อนนรก ฉะนั้นไม่มีใครควรค่าแก่การเกลียดชังเลยนะครับ

การเพ่งโทษไม่ใช่สิ่งที่ดี หลวงตาบัวท่านสอนว่าอย่างไรคุณอายะ ท่านสอนว่า

:b39: "อันธพาลมันอยู่ในจิต แต่มันไปวาดภาพว่าคนนั้นเป็นอันธพาลต่อเราคนนี้เป็นอันธพาลต่อเรา ตัวเราเป็นอันธพาลใหญ่ไม่ดูตัวเอง

พอย้อนจิตเข้ามาดูนี้แล้ว อันธพาลนี้ดับปุ๊บนอกนั้นไม่มี คือใจนี้เองเป็นตัวอันธพาล ให้พากันจำเอา ดูตั้งแต่ภายนอกไม่ดูตัวเองไม่เกิดประโยชน์อะไร ให้ดูตัวเอง สอนให้รู้กรรมฐานสอนอย่างนี้แหละ

อยู่ด้วยกันให้มีความเสมอภาคต่อท่านต่อเรา อย่าไปถือว่าคนนั้นยิ่งคนนี้หย่อน มันเพ่งนะนั่นน่ะ เพ่งนั้นยิ่งอันนี้หย่อนอันนั้นเลวอันนี้ดี แล้วเป็นข้าศึกกับตัวเอง แล้วก็เป็นอันธพาลยกโทษคนอื่นใช้ไม่ได้เลย ให้ต่างคนต่างดูตัวเอง

มาอยู่ด้วยกันเป็นผู้ปฏิบัติธรรม อย่าเอากิเลสมาเผากัน อย่างยกโทษยกกรณ์กันมีแต่เรื่องกิเลสมาเผากันนะ ถ้าปฏิบัติธรรมให้ดูตัวเอง มันคิดเรื่องไม่ดีไม่งามมันออกจากเรา ดูตัวนี้มันก็ดับ :b41:

ที่จะไปคิดเรื่องของใครไม่คิดเพราะตัวอันธพาลอยู่กับเรา เราทันมันแล้วแย็บออกมารู้ทันที มันก็ดับทันที ถ้าไม่รู้ มันต่อสายยาวเหยียดไปไม่หยุดนะ เอาเท่านั้นละวันนี้ "


คัดลอกมาจาก http://board.palungjit.com/

นั่นแหละคุณอายะ อยากให้คุณอายะดูจิตของตนดีๆ ว่าประกอบด้วยโทสะมั้ย อย่าลืมว่าอย่าให้จิตตัวเองเป็นอกุศล
กุศลกรรมบทนั่นหน่ะรักษาไว้ให้ดีอย่าให้จิตตัวเองมืดมน เมตตาต่อคนอื่นและเมตตาต่อตัวเองให้มากๆ

เอาหล่ะเอาไว้แค่นี้ก่อน..
:b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร