วันเวลาปัจจุบัน 16 มิ.ย. 2024, 12:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 56 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 04:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีค่ะ คุณมหาราชันย์ :b8:

มหาราชันย์ เขียน:
การที่ผมตั้งคำถามให้คุณตอบเรื่องภวังค์จิตที่คุณยืนยันว่าคุณมีความเข้าใจเรื่องภวังคจิตจริงแท้แค่ไหน ?

เพื่อที่ผมจะได้แลกเปลี่ยนความรู้บ้างว่าที่ผมรู้มานั้นมีอย่างไร


ตอนนี้กุหลาบสีชาก็ทราบแล้วค่ะ
ว่าที่คุณรู้ และเข้าใจด้วยทิฏฐิที่คุณแสดงมานั้นเป็นอย่างไร
:b13:

:b43: :b43: :b43:

มหาราชันย์ เขียน:
จิตที่เป็นพื้นฐานของสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรฉานนั้น คือกุศลวิบากครับ และทำหน้าที่เป็นภวังค์ด้วย คือรักษาภพในอบายนั้น ๆ ด้วย สัตว์นั้นจึงอาจเกิดในอบายซ้ำแล้วซ้ำอีกได้นับชาติไม่ถ้วน

จิตที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ ได้แก่กามาวจรอกุศลวิบากหรือผลบาป และกามาวจรกุศลวิบากหรือผลบุญมาให้ผลสลับเปลี่ยนกัน การที่กามาวจรอกุศลวิบาก หรือกมาวจรกุศลวิบากมาให้ผลต่อเนื่องกันยาวนานเมื่อใด จิตกามาวจรอกุศลวิบาก หรือกมาวจรกุศลวิบากอย่างนี้เรียกว่า จิตมาทำหน้าที่เป็นภวังค์ครับ แต่ได้หลับ หรือสลบไปครับ


คำกล่าวข้างต้นมาจากพระสูตรใดกันคะ....กรุณาระบุที่มาด้วยค่ะ
เข้าใจเช่นนี้จริงๆ หรือ
หรือรีบร้อนคัดลอกมาจนคลาดเคลื่อนไป...น่ากลัวจังนะคะ !!!
:b5:

มหาราชันย์ เขียน:
มนุษย์ก็จะง่วงและหลับหรือสลบ จิตที่ทำให้ง่วงและหลับอย่างนี้เรียกว่าจิตที่มีถีนมิทธะ หรือนิวรณ์ครอบงำครับ ไม่ใช่ภวังคจิตมาทำหน้าที่ให้หลับครับ

ดังนั้นคนที่ฝึกทำสมาธิรู้สึกง่วงแล้วฟุบหลับ ไม่ใช่การทำสมาธิจนจิตเป็นภวังค์หรอกครับ
แต่เรียกว่า ทำสมาธิแล้วมีนิวรณ์ 5 ครอบงำเสียก่อน จิตยังไม่ทันเป็นสมาธิ เมื่อใดที่เคลิ้มหลับไปสักครู่หนึ่ง แล้วตื่นมาปรารภความเพียรในภายหลัง แล้วจิตเป็นกุศลสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว ได้ปีติ สุข อุเบกขาจากสมาธิในภายหลังการหลับ จิตตรงนี้จึงเป็นสมาธิครับ ส่วนจิตก่อนเป็นสมาธิที่หลับไปครู่หนึ่งนั้นเรียกว่า จิตมีนิวรณ์คือถีนะมิทธะครับ ไม่เรียกว่าจิตเป็นภวังค์ครับ และไม่เรียกจิตเป็นภวังค์ว่าคือจิตหลับด้วยครับ นั่นเป็นความรู้ผิด เป็นความเข้าใจผิดของคุณครับ


คนละประเด็นกันค่ะ

ถีนมิทธะอาจเป็นเหตุหนึ่งให้จิตตกสู่ภวังค์ในขณะที่สมาธิได้
หรือแม้แต่การนอนหลับจริงๆ ก็ตามก็ถือว่าจิตตกสู่ภวังค์
เพราะเป็นจิตที่เป็นปกติยังไม่ได้ออกมารับอารมณ์
อันนี้เข้าใจได้ไม่ยากหากพยายามทำความเข้าใจ
นิยามของคำว่า ภวังคจิต หรือจิตตกภวังค์อย่างแท้จริง
(ที่ได้แจกแจงทบทวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง)
ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่

แต่ไม่ได้หมายความว่าภวังคจิตมาทำหน้าที่ให้หลับ หรือจิตหลับจริง
แต่ คำว่าจิตหลับนั้นเป็นการแสดงอุปมาว่า
เป็นจิตที่เป็นปกติยังไม่ได้ออกมารับอารมณ์
บางท่านใช้คำว่าจิตที่ไม่มีความสำนึกรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นทางปัญจทวาร หรือมโนทวารเท่านั้น

มหาราชันย์ เขียน:
การทำสมาธิจนจิตเป็นภวังค์ตามที่คุณนำเสนอมาจากกระทู้ก่อนนั้นมันไม่เป็นจริงหรอกครับ
จิตที่มาทำหน้าที่เป็นภวังคจิตนั้นไม่ได้มีความหลับเป็นพื้นทะเลตามความเข้าใจของคุณหรอกครับ


ถ้าเช่นนั้นกุหลาบสีชาก็คงเข้าใจผิดไปเองกระมัง :b9:
ลองพิจารณาจากกระทู้นี้ต่อดูนะคะ
จะได้ทราบและเข้าใจว่าข้อความก่อนหน้านี้ที่กุหลาบสีชายกมานั้น

กหลาบสีชา เขียน:
เปรียบเหมือนอย่างว่า “ภวังคจิต” เป็นพื้นทะเล
ส่วน “วิถีจิต” คือทางดำเนินของจิตดังกล่าวที่มานั้น
เป็นคลื่นทะเลที่เกิดขึ้น
คลื่นที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นคลื่นทะเล
ปรากฏขึ้นมาแล้วกลับตกไปยังพื้นทะเล


ท่านใดเป็นผู้แสดงและวินิจฉัยไว้
เผื่อว่าจะทำให้การสนทนาที่นำทิฏฐิของตนเป็นที่ตั้งของท่านเปลี่ยนไป


อ่านให้กระจ่างต่อเนื่องนะคะ

อันเนื่องด้วยเรื่องของจิต : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก :b8:
viewtopic.php?f=2&t=25524&p=139461#p139461


:b43: :b43: :b43:

ขอถามคุณมหาราชันย์ว่า...

รถยนต์ที่ไม่อาจวิ่งได้
เป็นเพราะยังไม่เคยเติมเชื้อเพลิง
หรือเป็นเพราะเชื้อเพลิงของรถหมด


เรากำลังสนทนากันอย่างนี้หรือไม่? :b10: :b1:


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 10 ก.ย. 2009, 04:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 13:54
โพสต์: 19

อายุ: 0
ที่อยู่: chachoengsao

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
สวัสดีครับ คุณ กุหลาบสีชา สำหรับคำตอบทำให้บัวใต้น้ำอย่างผมได้รับ
ความรู้มากขึ้น นับว่าเป็นกระทู้ที่นาสนใจดีครับอ่านจนจบได้รับความรู้มาก
มากครับ ขอบคุณมากนะครับ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 13:54
โพสต์: 19

อายุ: 0
ที่อยู่: chachoengsao

 ข้อมูลส่วนตัว


อีกอย่างที่ลืมไปว่า สุดท้ายของกระทู้ที่สนทนาวันนี้ของคุณ กุหลาบสีชา
ที่ตั้งคำถามไว้นั้น ถูกต้องครับว่าท่านทั้งสองกำลังสนทนาเรื่องอะไรอยู่
เพราะผมเองอ่านแล้วยังงงในคำตอบและคำถามของคุณ มหาราชันต์เหมือน
กันครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเองยังศึกษาไม่ได้ระดับกระมัง จึงขออภัยไว้
ณ.ที่นี้ด้วยครับ :b8: :b8: :b8: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กุหลาบสีชา เขียน:
รถยนต์ที่ไม่อาจวิ่งได้
เป็นเพราะยังไม่เคยเติมเชื้อเพลิง
หรือเป็นเพราะเชื้อเพลิงของรถหมด


ชาติสยาม เขียน:
viewtopic.php?p=137915#p137915
เหมือนเราสองคนเข้าไปในเล้าไก่นะ มีไข่อยู่กองหนึ่ง
ผมหยิบมาฟองนึง ผมบอกว่านี่น่ะ ไข่ไก่
คุณก้ไปหยิบมาฟองนึง แล้วก้มาบอกว่า "นี่เท่านั้น คือไข่ไก่"



แหม คุณพี่
เราหัวอกเดียวอีกแล้วนะครับนี่ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 23:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บัณฑิตทั้งหลาย ไปกันถึงไหนแล้ว

คำถามจากกระทู้ที่ถูกล๊อค คือ

อ้างคำพูด:
จิตเป็นขันธ์ ไหน
ช่วงว่าง ของจิตเป็นขันธ์ไหน
จิตปราศจากสติ เป็นกุศลวิบากหรือ อกุศลวิบาก
สมาธิปล่อยวางบริกรรม หรือ ปัญญาปล่อยวางบริกรรม

ท่านพุทธ แสดงไว้ว่า

อ้างคำพูด:
ช่วงว่างคือช่วงวูบ
จิตที่เข้าสมาธิต้องผ่านภวังค์เข้าไปก่อน
ภวังค์คือช่วงว่างของจิตที่ปราศจากสติ

สมาธิที่จิตปล่อยวางบริกรรมภาวนา
มีอาการเคลิ้มแล้วก็วูบ
ช่วงวูบเรียกว่าจิตตกวังค์


ก็มีผู้ไม่รู้ ยกภวังคจิต ออกมาแสดง เช่นนั้นจึงถามต่อว่า
อ้างคำพูด:
เช่นนั้น ก็ไม่เข้าใจครับ ว่า มีจิตประเภทไหนที่ทำหน้าที่ ภวังค หรือภวังคจิตได้
คุณกุหลาบสีชา แสดงต่อครับ ว่า ภวังคจิตเป็นจิตประเภทไหน ที่ทำกิจเป็นภวังค์


คราวนี้ ก็เลยวุ่น
เพราะ ภวังคจิต และจิตตกภวังค์ กลายเป็นคำที่เป็นไวพจน์ของกันไปซะแล้ว

เหตุที่ภวังคจิต ไม่ได้เป็นไวพจน์เดียวกับ จิตตกภวังค์ โปรดสังเกตุให้ดีครับ

ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต โดยอนันตรปัจจัย
ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เป็นปัจจัยแก่ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา เป็นปัจจัยแก่ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา

เพราะการอ่านไม่ที่ไม่ดี เข้าใจไม่ดี ยังจาบจ้วงไปดึง สมเด็จฯ ท่านอีก ซึ่งท่านอธิบายไปตามบทของอภิธรรมมัตถสังคหะที่เขียนกันออกมาอย่างนั้น

อธิบายใหม่ แระกันน๊ะครับ คุณกุหลาบสีชา....

ถามอะไรไว้จากกระทู้ทีแล้ว ก็อธิบายให้ชัดเจน อย่าหลงประเด็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 00:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็ได้ประโยชน์ จากท่านมหาราชันย์ มากพอสมควร สำหรับคำอธิบายของท่าน ในความหมายของคำว่าองค์แห่งภพ และก็ไม่เคยพิจารณาแยกตามชนิดตามที่ท่านมหาราชันย์ ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนครับ

----------------------

สำหรับคำตอบของท่านกุหลาบสีชา ที่ตอบคำถามแบบให้โคตรภูคิดเอาเองของท่าน ก็ต้องบอกว่า โคตรภูยังเป็นผู้มีปัญญาน้อยอยู่ ก็ขอรับไปพิจารณาต่อครับ :b15: เลยยังไม่กดอนุโมทนาให้นะครับ

------------------------------------------

อุปมาเรื่องของยีนพันธุกรรมของท่าน นับว่าน่าสนใจดี มีความสามารถในการนำปรากฎการทางวิทยาศาสตร์ที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ มาอธิบายปรากฎการณ์ของจิตที่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์มาอธิบายได้ขอชื่นชมครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ :b8: :b8: :b8: :b20: :b20: :b23: :b23:

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 22:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนนี้กุหลาบสีชาก็ทราบแล้วค่ะ
ว่าที่คุณรู้ และเข้าใจด้วยทิฏฐิที่คุณแสดงมานั้นเป็นอย่างไร



สวัสดีครับคุณกุหลาบสีชา

ขอชื่นชมครับที่คุณสามารถทราบทิฏฐิของผมได้แล้ว ผมเชื่อว่าคุณคงมั่นใจในภูมิปัญญาที่คุณมีอย่างยิ่ง ผมก็จะได้เบาแรงที่ไม่ต้องแสดงอะไรไปมากมาย เพราะคุณทราบกระจ่างแล้ว ผมคงต้องขอพึ่งพาภูมิปัญญาของคุณข้างเดียวเสียแล้วละครับ



ซึ่งผมมีข้อสงสัยที่ยังไม่ไทราบอีกมากมาย หวังว่าคุณกุหลาบสีชาคงจะเมตตาให้ความกระจ่างได้นะครับ เพือว่าปัญญาที่มีอยู่เล็กน้อยของผมจะได้รู้จักทิฏฐิของคุณบ้างนะครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กุหลาบสีชา เขียน:
จิตที่เป็นภวังค์นี้หมายความว่าจิตที่ไม่มีความสำนึกรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นทางปัญจทวาร หรือมโนทวาร

ด้วยเหตุนี้เอง การที่เรานั่งฟังธรรมะก็ดี ดูภาพยนตร์ก็ดี
คิดว่ากำลังสนุกสนานกำลังร่าเริงใจ
ก็ไม่ได้แสดงว่าเราตื่นอยู่ตลอดเวลา
หากแต่มีการนอนหลับคั่นอยู่ระหว่างทาง
เป็นการนอนหลับสั้น ๆ ชนิดที่เรารู้สึกตัวไม่ได้เลย



สวัสดีครับคุณกุหลาบสีชา

คำกล่าวนี้ของคุณกุหลาบสีชา มีกล่าวไว้ตรงไหนของพระไตรปิฎกครับ?

ถ้ามีจริงขอความกรุณายกมาให้ผมและท่านผู้อ่านคนอื่น ๆ ได้อ่านบ้างนะครับ


ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 23:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
จิตที่อยู่ในภวังค์นั้น
จึงเสมือนการนอนหลับคั่นอยู่ระหว่างทาง
เป็นการนอนหลับสั้น ๆ ชนิดที่เรารู้สึกตัวไม่ได้เลย

เพื่อให้ท่านมหาราชันย์ได้พิจารณาและเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น

กุหลาบสีชาจึงขออนุญาตยกธรรมบรรยายของพระสุปฏิปัณโณผู้ที่ได้ชื่อว่า
ทรงภูมิปริยัติและเชี่ยวชาญทั้งการปฏิบัติสูงสุดของบ้านเราท่านหนึ่งมาอธิบาย




สวัสดีครับคุณกุหลาบสีชา


คำกล่าวนี้ของคุณ พอจะบอกได้ไหมครับว่าพระสุปฏิปัณโณรูปนี้เป็นใคร ?
ใครเป็นผู้รับรองความเป็นสุปฏิปัณโณของท่าน ?
มีระบุรับรองความถูกต้องไว้ตรงส่วนไหนของพระไตรปิฎกครับ ?


กรุณายกมาให้ผมและท่านผู้อ่านได้อ่านได้เข้าใจกันบ้างนะครับ



ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 08:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:

สวัสดีครับคุณกุหลาบสีชา


คำกล่าวนี้ของคุณ พอจะบอกได้ไหมครับว่าพระสุปฏิปัณโณรูปนี้เป็นใคร ?
ใครเป็นผู้รับรองความเป็นสุปฏิปัณโณของท่าน ?
มีระบุรับรองความถูกต้องไว้ตรงส่วนไหนของพระไตรปิฎกครับ ?


กรุณายกมาให้ผมและท่านผู้อ่านได้อ่านได้เข้าใจกันบ้างนะครับ



ขอบคุณครับ


ใครรับรองใคร จะไปสำคัญอะไรเท่ากับคุณมหาราชันย์รับรองล่ะครับ
ต่อให้พูดว่ามใครรับรอง คุณก็จะถามไปอีกว่ารับรองยังไง เมื่อไหร่ หลักฐานอยู่ไหน
ต่อความยาวสาวความไปอีกว่า แล้วคนที่รับรองล่ะ ใครรับรอง
ไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ถกถึงเนื้อหาอยู่ดีๆก็ไปถามว่าคนพูดเืนื้อหานั้นๆน่าเชื่อถือไหม
กลายเป้นว่าสิ่งที่จะเอามาพูดนั้น คุณต้องยอมรับเสียก่อน ถึงจะพูดได้


แถวบ้านผมเรียกว่า พาล ครับ
แต่คนมีปัญญา ก็พาลแบบมีปัญญา

คนมีปัญญา เวลาพาล น่ากลัวว่าคนโง่เลวทรามเสียอีกน่ะครับ
เพราะไม่มีใครดูออก แม้แต่คนพูดก็ดูตัวเองไม่ออก


ไม่ทราบว่าศึกษากันยังไง ถึงต้องคอยให้ใครมารับรองใคร
กาลามสุตรไปไหนหมดแล้วครับ

หวังว่าบัณฑิตจะอ่านเข้าใจได้ไม่ยากนะครับ
เจริญธรรมครับ (ธรรม ก็มีทั้งกุศลธรรม และอกุศลธรรม ก็เลือกเจริญเอาละกันครับ)

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 12 ก.ย. 2009, 08:35, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ท่านพุทธ

:b14: :b14: :b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตรงนี้ ก็มี :b14: :b14: :b14:

อ้างคำพูด:
ยังจาบจ้วงไปดึง สมเด็จฯ ท่านอีก ซึ่งท่านอธิบายไปตามบทของอภิธรรมมัตถสังคหะที่เขียนกันออกมาอย่างนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มหาราชันย์ เขียน:
จิตที่เป็นพื้นฐานของสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรฉานนั้น คือกุศลวิบากครับ และทำหน้าที่เป็นภวังค์ด้วย คือรักษาภพในอบายนั้น ๆ ด้วย สัตว์นั้นจึงอาจเกิดในอบายซ้ำแล้วซ้ำอีกได้นับชาติไม่ถ้วน

จิตที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ ได้แก่กามาวจรอกุศลวิบากหรือผลบาป และกามาวจรกุศลวิบากหรือผลบุญมาให้ผลสลับเปลี่ยนกัน การที่กามาวจรอกุศลวิบาก หรือกมาวจรกุศลวิบากมาให้ผลต่อเนื่องกันยาวนานเมื่อใด จิตกามาวจรอกุศลวิบาก หรือกมาวจรกุศลวิบากอย่างนี้เรียกว่า จิตมาทำหน้าที่เป็นภวังค์ครับ แต่ได้หลับ หรือสลบไปครับ



กหลาบสีชา เขียน:..

อ้างคำพูด:
คำกล่าวข้างต้นมาจากพระสูตรใดกันคะ....กรุณาระบุที่มาด้วยค่ะ


ผมเองใคร่ทราบเช่นกันเพื่อ update ความรู้ครับ ท่านมหาราชันย์ได้โปรดแสดงที่มาให้ทราบ เผื่อผมจะได้ศึกษาให้ถูกตรงยิ่งๆขึ้นไปครับ กราบขอบพระคุณยิ่งครับ (หากคำถามนี้ไม่สมควร กราบขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยครับ) :b8:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลานธรรมจักร
ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร


ถ้าคุณกุหลาบเขียนว่า

อ้างคำพูด:
คำกล่าวข้างต้นมาจากพระสูตรใดกันคะ....กรุณาระบุที่มาด้วยค่ะ
เข้าใจเช่นนี้จริงๆ หรือ
หรือรีบร้อนคัดลอกมาจนคลาดเคลื่อนไป...น่ากลัวจังนะคะ !!!



ตรงนี้จะมีผู้อ่านออกมาชื่นชมโสมนัส


แต่ถ้ามหาราชันย์ถามกลับบ้างว่า

อ้างคำพูด:
คำกล่าวนี้ของคุณ พอจะบอกได้ไหมครับว่าพระสุปฏิปัณโณรูปนี้เป็นใคร ?
ใครเป็นผู้รับรองความเป็นสุปฏิปัณโณของท่าน ?
มีระบุรับรองความถูกต้องไว้ตรงส่วนไหนของพระไตรปิฎกครับ ?



ก็จะมีปฏิฆะความไม่พอใจเกิดแก่ผู้อ่าน


คุณกุหลาบสีชาว่าควรจะอย่างไรดีครับ ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2009, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คำกล่าวข้างต้นมาจากพระสูตรใดกันคะ....กรุณาระบุที่มาด้วยค่ะ
เข้าใจเช่นนี้จริงๆ หรือ
หรือรีบร้อนคัดลอกมาจนคลาดเคลื่อนไป...น่ากลัวจังนะคะ !!!



อ้างคำพูด:
มหาราชันย์ เขียน:
จิตที่เป็นพื้นฐานของสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรฉานนั้น คือ อกุศลวิบากครับ และทำหน้าที่เป็นภวังค์ด้วย คือรักษาภพในอบายนั้น ๆ ด้วย สัตว์นั้นจึงอาจเกิดในอบายซ้ำแล้วซ้ำอีกได้นับชาติไม่ถ้วน


ขออภัยนะครับ แต่เดิมได้พิมพ์ตก อ.อ่างไป 1 ตัว ได้แก้ไขแล้วครับ คำที่ถูกต้องคือ อกุศลวิบาก

ลองอ่านประวัติของท่านธัมมรุจิดูนะครับ ท่านกระทำกรรมฆ่ามารดาเมื่อ 4 อสงไขยแสนกัป ในศาสนาของพระพุทธทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่องเที่ยวอยู่ในอบายภพตลอด 4 อสงไขยแสนกัป ไม่มีโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์หรือสุคติภพเลย เพิ่งจะมีโอกาสครั้งแรกในศาสนาพระสมณะโคดมสัมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น และเป็นชาติสุดท้าย


ที่ผมคัดค้านคุณกุหลาบสีชา เพราะไม่ต้องการให้แสดงธรรมที่ผิด การประมาทใน บิดา มารดา ประมาทในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มีผลเป็นวิบากในอบายซ้ำแล้วซ้ำอีกนับชาติไม่ถ้วนแบบท่านธรรมรุจิเถระเป็นตัวอย่างครับ อกุศลวิบากจิตจึงทำหน้าที่รักษาภพเพื่อจุติและปฏิสนธิในอบายภพ

คุณกุหลาบสีชาและท่านผู้อ่านจะเชื่อคำท้วงติงจากผมหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่กรรมของท่านทั้งหลายครับ ผมได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีให้แล้ว



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก




ธัมมรุจิเถราปทานที่ ๙
ว่าด้วยผลแห่งความพอใจในธรรม
[๗๙] ในเวลาที่พระพุทธเจ้าผู้พิชิตมารพระนามว่าทีปังกร ทรงพยากรณ์
สุเมธดาบสว่า ในกัปจากกัปนี้ไปนับไม่ถ้วน ดาบสนี้จักเป็นพระ
พุทธเจ้า พระมารดาบังเกิดเกล้าของดาบสนี้จักทรงพระนามว่ามายา
พระบิดาจักทรงพระนามว่าสุทโธทนะ ดาบสนี้จักชื่อว่าโคดม ดาบส
นี้จักเริ่มตั้งความเพียรทำทุกกรกิริยาแล้ว จักเป็นพระสัมพุทธเจ้า
ผู้มียศใหญ่ ตรัสรู้ที่ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ พระอุปติสสะและพระ
โกลิตะจักเป็นพระอัครสาวก ภิกษุอุปัฏฐากชื่อว่าอานนท์ จักบำรุง
ดาบสนี้ ผู้เป็นพระพิชิตมาร นางภิกษุณีชื่อว่าเขมาและอุบลวรรณา
จักเป็นอัครสาวิกา จิตตคฤหบดีและเศรษฐีชาวเมืองอาฬวี จักเป็น
อัครอุบาสิกา ไม้โพธิ์ของนักปราชญ์ผู้นี้เรียกว่าอัสสัตถพฤกษ์
มนุษย์และเทวดาได้สดับพระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอัน
ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะหาใครเสมอเหมือนมิได้ ต่างก็เป็นผู้เบิกบาน
ประนมอัญชลีถวายนมัสการ

เวลานั้น เราเป็นมานพชื่อเมฆะ เป็น
นักศึกษา ได้สดับคำพยากรณ์อันประเสริฐซึ่งสุเมธดาบส ของ
พระมหามุนี เราเป็นผู้คุ้นเคยในสุเมธดาบสผู้เป็นที่อยู่แห่งกรุณา
และได้บวชตามสุเมธดาบส ผู้เป็นวีรบุรุษนั้น ผู้ออกบวชอยู่ เป็นผู้
สำรวมในพระปาติโมกข์และอินทรีย์ ๕ เป็นผู้มีอาชีวะหมดจด มี
สติ เป็นนักปราชญ์ กระทำตามคำสอนของพระพิชิตมาร


เราเป็นผู้อยู่เช่นนี้ ถูกบาปมิตรบางคนชักชวนในอนาจาร ถูกกำจัดจากหน
ทางอันชอบ เป็นผู้ตกอยู่ในอำนาจแห่งวิตก จึงได้หลีกไปจากพระ
ศาสนา ภายหลังถูกมิตรอันน่าเกลียดนั้น ชักชวนให้ฆ่ามารดา
เรามีใจอันชั่วช้าได้ทำอนันตริยกรรมฆ่ามารดา เราจุติจากอัตภาพนั้น
แล้ว เกิดในอเวจีมหานรกอันแสนทารุณ เราไปสู่วินิบาตถึงความ
ลำบากท่องเที่ยวไปนาน ไม่ได้เห็นสุเมธดาบสผู้เป็นนักปราชญ์ผู้
ประเสริฐกว่านระอีก ในกัปนี้ เราเกิดเป็นปลาติมิงคละ อยู่ในมหา
สมุทร เราเห็นเรือในสาครเข้าจึงเจ้าไปเพื่อจะกิน พวกพ่อค้าเห็น
เราก็กลัว ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เราได้ยินเสียงกึกก้อง
ว่าโคตโม ที่พ่อค้าเหล่านั้นเปล่งขึ้น จึงนึกถึงสัญญาเก่าขึ้นมาได้


ต่อจากนั้น ได้ทำกาลกิริยา เกิดในสัญชาติพราหมณ์ ในสกุลอันมั่งคั่ง
ณ พระนครสาวัตถี เราชื่อว่าธัมมรุจิ เป็นคนเกลียดบาปกรรม
ทุกอย่าง พออายุได้ ๗ ขวบ ก็ได้พบพระพุทธองค์ผู้ส่องโลกให้
โชติช่วง จึงได้ไปยังพระมหาวิหารเชตวัน แล้วบวชเป็นบรรพชิต
เราเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ๓ ครั้งต่อคืนหนึ่งกับวันหนึ่ง ครั้งนั้น พระ
องค์ผู้เป็นพระมหามุนี ทอดพระเนตรเห็นเราเข้า จึงได้ตรัสว่า ดูกร
ธัมมรุจิ ท่านจงระลึกถึงเรา ลำดับนั้น เรากราบทูลบุรพกรรมอย่าง
แจ่มแจ้งกะพระพุทธเจ้าว่า
เพราะปัจจัยแห่งความบริสุทธิ์ในปางก่อน ข้าพระองค์จึงมิ
ได้พบพระองค์ ผู้ทรงพระลักษณะแห่งบุญตั้งร้อย เสียนาน
วันนี้ ข้าพระองค์ได้เห็นแล้วหนอ ข้าพระองค์เห็นพระ
สรีระของพระองค์ อันหาสิ่งอะไรเปรียบมิได้ ข้าพระองค์
ตามหาพระองค์มานานนักแล้ว ตัณหานี้ข้าพระองค์ทำให้
เหือดแห้งไปโดยไม่เหลือด้วยอินทรีย์สิ้นกาลนาน ข้าพระ-
องค์ชำระนิพพานให้หมดมลทินได้ โดยกาลนาน ข้าแต่
พระมหามุนี นัยน์ตาอันสำเร็จด้วยญาณ ถึงความพร้อม
เพรียงกับพระองค์ได้ก็สิ้นเวลานานนัก ข้าพระองค์พินาศ
ไปเสีย ในระหว่างอีกเป็นเวลานาน วันนี้ ได้สมาคมกับ
พระองค์อีก ข้าแต่พระโคดม กรรมที่ข้าพระองค์ทำไว้
จะไม่พินาศไปเลย.
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระธัมมรุจิเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ธัมมรุจิเถราปทาน


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกอ่านได้หลายเรื่อง ทั้งบุญและบาปที่ให้ผลซ้ำ ๆ นับชาติไม่ถ้วนได้ครับ


http://www.tipitaka.com/tipitaka32.htm
http://www.tipitaka.com/tipitaka33.htm


แก้ไขล่าสุดโดย มหาราชันย์ เมื่อ 12 ก.ย. 2009, 18:22, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 56 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร