วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 09:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2010, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 19
เดินไปเรื่อยๆๆๆ


เมื่อคืนปิดร้านขื้นไปปฎิบัตเดินไป30นาทีนั่ง10นาที
ตอนเช้าปฎิบัตเดิน1ชมพอไปนั่งนั่งได้ประมาณ5นาทีง่วง
เลยใช้ท่านอนกำหนดได้ทั้งลมและท้องพองยุบทำประมาณ20นาที
แล้วกับมานั่งใหม่ทำได้ประมาณ5นาที

พอดีแฟนเปิดร้านแล้วก็เปิดแอรเสียงดังเลยหงุดหงิด
แต่ก็นึกคำพูดตัวเองว่าต้องแก้ที่ตัวเอง (หงุดหงิดน่าจะมาจากไม่ได้ดังใจมากกว่า)
ผมสอบตกอีกแล้วครับ



ooสาธุoo says:
วันนี้สอบตก แงๆๆๆๆๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:
ทำไมล่ะคะ

ooสาธุoo says:
สงสัยเมื่อเช้าความอยากปฎิบัตมากมั้งครับ ไม่ได้ดังใจเลยหงุดหงิด

พอดีวันนี้นั่งมีอาการงว่ง เลยนอนทำเลยครับ พอนอนแล้วจับที่ลมกับท้องพองยุบ
แล้วก็กับมานั่งใหม่ นั่งพอดีได้สักพักเดียว แฟนเปิดแอรในร้าน เสียงดัง
แรกๆๆเคืองเลยครับ พอมีสติ อ้าวไปแล้ว เราต้องแก้ที่ตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:
ยังดีค่ะ ที่สติทัน ยังรู้ว่าตัวเองผิดเอง การยอมรับความจริงได้นี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ

ooสาธุoo says:
ความอยากอะนะครับ เวลาผมปฎิบัต ผมกลัวความอยากหรือเปล่า เลยคิดลงไปอีก
ว่ากลัวความอยากนะ อยากไม่ให้มีความอยาก เลยอยากซ้อนอยากเลย

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละค่ะ บอกแล้ว มันเนียนมากๆความอยาก อยาก แต่ไม่รู้ว่าอยาก
บางคนหาหนทางสารพัด อะไรที่ใครว่าดีเอาหมด แต่ที่ไม่ดี คือความอยาก
มองไม่เห็น มีเยอะค่ะ

ooสาธุoo says:
ครับ วันนี้ฟังหลวงปู่ชาท่านเทศเรื่องความอยากพอดี ยิ่งอยากยิ่งทุกข ยิ่งทุกขยิ่งแก้ แก้ไปแก้มาเลิก

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละใช่เลยค่ะ เจอกันเยอะค่ะ เลิกสักพัก สุดท้ายต้องกลับมาทำต่อ

ooสาธุoo says:
ตัวผมเองก็เจอ เจอครั้งแรกที่ปฎิบัตเลย เจอแล้วเลิก สักพักหลวงพี่บอกให้มาปฎิบัตต่อ
เลยเข้าใจความทุกขตรงนั้นจริงๆๆๆครับ ยิ่งแก้ ยิ่งดิ้นยิ่งทุกข

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ยังดีที่ยังมีกัลยาณมิตร
ครูบาฯท่านถึงสอนให้ดูตามความเป็นจริงไงคะ ไม่ชอบ ไม่ชัง ไม่แก้ไข
แต่เอาสติตั้งรับ รู้อยู่

เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ ว่าต้องทำยังไง แล้วจะอยู่ยังไง
พอเข้าใจแล้ว วางหมดเลยวิธีการทั้งหลายแหล่
มีแค่นี้เอง ไม่ได้ยากอะไรเลย แต่เราไปทำให้มันยากเอง

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
วิธีนี้ ทางพม่าเขาใช้กันมานานแล้วนะคะ

ooสาธุoo says:
เมื่อก่อนผมทุกข ยิ่งทำยิ่งทุกข ก็ตั้งว่าจะลองดูสิทำดีได้ทุกขไง ก็ทำต่อ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกข์เพราะดิ้น ดิ้นเพราะอยาก แต่ไม่รู้

ooสาธุoo says:
ใช่ครับ พอมาเจอคุณตุ๊กแก้ให้ว่า ให้ผมปล่อยวาง ให้ดูกายดูจิต ดูแล้วก็ฟุ้ง

จนมาเจอพี่เลี้ยงคนนี้นะละ อธิบายกระจ่างทุกอย่าง ทำแล้วรู้ตัวเองเลยว่าเป็นไง
ผมยังนั่งคิดเลยว่า ถ้าผมทำได้ถึงระดับ คนอื่นจะรู้ได้ไงว่าผมเก่ง
เอาเข้าไป คิดจะเหาะแล้ว โถๆๆๆๆๆความไม่รู้นะ

สุขที่แท้จริง says:
โมทนาค่ะ ที่เข้าใจได้ ทุกอย่าง ต่อให้ใครมาพูดให้ฟัง ถึงจะเข้าใจก็เข้าใจได้แค่เปลือก
ต้องลงมือทำเอง สิ้นสงสัยเลย

ooสาธุoo says:
วันนี้ฟังเทศนตอน1นะครับ
ท่านบอกว่า ภพมีล่างกับ บน ตรงกลางเลยไม่มีใครสนใจ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ก็ตรงกลาง มองไม่เห็นนี่คะ
อวิชชาบดบังไว้ กิเลสน่ะค่ะ
มีแต่ลากไปอดีต ไม่ก็อนาคต ปัจจุบันมันไม่ทัน

ooสาธุoo says:
ครับใช่เลย ผมฟังทีแรกงงครับ

สุขที่แท้จริง says:
บางคนอ่านของท่านแล้วตีความคำว่า ภพ ของท่าน เป็นนรก สวรรค์ไป
จริงๆแล้ว คือ อดีตกับอนาคตต่างหาก

ooสาธุoo says:
แต่พอฟังต่อเข้าใจเลยว่าเหนือภพคืออะไร เหรอครับ ผมยังตีความอย่างนั้นเลยครับ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นไง ฟังจนจบเลยหรือเปล่าคะ

ooสาธุoo says:
อ๋ออันนี้เข้าใจเลย ยังครับ พอดีผมฟังทีแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นนรกกับสววรค ก็คนเราเกิด
จริงๆๆๆครับ ผมตีความเป็นอย่างนั้นจริงๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เข้าใจค่ะ เวลาฟังธรรมะ เราต้องฟังให้จบก่อนค่ะ
ถ้าปฏิบัติแล้ว ฟังง่ายขึ้นค่ะ หมายถึงว่า ต้องถึงจุดๆหนึ่งนะคะ

หลวงพ่อจรัญเวลาเทศน์ก็เทศน์เรื่องอดีตและอนาคต ปัจจุบันเป็นหลัก
หลวงพ่อพุธ บั้นปลายการสอนของท่านก็ไม่มีความแตกต่างเลย มีแต่เน้นเรื่องสติ สัมปชัญญะ
ให้อยู่กับปัจจุบัน

หลวงปู่ดุลย์ การส่งจิตออกนอก
ที่กล่าวว่าเป็นทุกข์นั้น หลายๆคนนำมาตีความกันผิดๆ

ooสาธุoo says:
จริงๆๆๆครับคุณเฉลยออกมา ผมรู้เลย ว่าไม่ต้องรอการตายด้วย รู้เลย

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจใช่ไหมคะคำว่า ส่งจิตออกนอกคืออะไร ท่านหมายถึงอะไร

ooสาธุoo says:
ไม่แน่ใจนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
กระทบมาก็รู้ไงคะ

ooสาธุoo says:
อ๋อครับ

สุขที่แท้จริง says:
แค่ดู แล้วแล้วรู้ ภพชาติย่อมไม่มีต่อ

ooสาธุoo says:
ใช่ครับ

สุขที่แท้จริง says:
แล้วทุกข์จะมีได้ไหม มีไม่ได้ เพราะมีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่ในกายและจิต
ตากระทบรูป หูกระทบเสียง ทวารทั้ง 6 เกิดผัสสะ
ไม่ว่าส่วนไหนก็แล้วแต่ การที่มีสติ ไม่ทัน ไปแล้ว
ไหลไปอดีตแล้ว เสียงที่เขาด่ามา รูปที่เห็น ไปอนาคตต่อ ปรุงแต่งยืดยาว

เสียงเขาด่ามา เป็นอดีตไปแล้ว แต่เราดันไปจำสัญญาเองว่าเขาด่า
ทำแบบนี้คือเขาด่า ไวนะคุณเก๊ะ จิตน่ะค่ะ

ooสาธุoo says:
ยอดจริงๆๆๆๆ ถ้าคุณไม่อธิบายนะครับ
ผมยังโง่อยู่เลย ขอบคุณมากครับ

สุขที่แท้จริง says:
อีกหน่อยคุณจะรู้เหมือนๆกันแหละค่ะ มันเป็นไปเสตป
อ่านของหมู เห็นไหมคะ ที่เขาอธิบาย
ใหม่ๆ ไม่รู้อะไรเลย ค่ะตลอด ค่ะ แต่ไม่รู้

แต่พอกำลังของสติมากขึ้น สัมปชัญญะมากขึ้น ตัวปัญญาเกิดแล้ว
สติเป็นตัวบอก สัมปชัญญะเป็นตัวรู้

ooสาธุoo says:
ทีแรกผมคิดว่าถ้าเราอู่ยตรงกลางนะคือไม่เกิด
ก็ไม่ไปทั้งนรกและสวรรค ถ้าเราเกิด เราก็จะเกิดทุกข
แต่พอฟังคุณแล้ว สุดๆๆๆเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ ที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผม

สุขที่แท้จริง says:
ทำให้ต่อเนื่องค่ะ แล้วจะเข้าใจอะไรๆๆได้มากขึ้น
วันที่ 30 คงต้องไปกับคุณเก๊ะ น้องๆคงไม่ได้ไปด้วยค่ะ

ooสาธุoo says
ได้ครับยินดี

สุขที่แท้จริง says:
สถานการณ์แบบนี้ได้แต่แผ่เมตตาช่วยทุกๆคน

ooสาธุoo says:
ครับ วันนี้ก็นั่งดู

สุขที่แท้จริง says:
แหมมม เมื่อคืนฝัน ตัวเองคิดว่า ฝันไร้สาระ
ฝันเห็นตัวกินเมือง ว่าตัวเองสู้กับมันทั้งคืนเลย เหนื่อยมากๆ ตัวมันมีสีเขียวๆ

ooสาธุoo says:
เป็นจริงเลย

สุขที่แท้จริง says:
หน้าตาประหลาดมากๆ มีแต่ดวงตา
โอย ว่าตัวเองเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วย

รู้ไหมคะว่าอะไรที่เอามันอยู่
แผ่เมตตาค่ะ เสียงแผ่เมตตานี่ดังกระหึ่มก้องไปหมด
แล้วเจ้าตัวประหลาดที่กำลังกินเมืองมันสิ้นฤทธ์ลง

ooสาธุoo says:
คิดแล้วเรื่องจริงนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
เมื่อเย็น ก่อนออกจากที่ทำงาน เขากลับกันหมดแล้ว ระหว่างเดินผ่านห้องโถง
ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังกระหึ่ม ก็ยืนฟังนะ ว่าใครที่ไหนมาสวดมนต์
บทสวดนั้นเป็นบทพาหุง ดังอยู่สักพักก็เงียบไป
แปลกจริงๆเลยค่ะ แต่เชื่อว่า บ้านเมืองไม่มีอะไรหรอกค่ะ

ooสาธุoo says:
ครับ ผมเชื่อตั้งแต่พระองคท่านเข้าโรงพยาบาลหลังสุดแล้วไม่เป็นไรนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ แต่นึกถึงภาพเจ้าตัวกินเมืองเมื่อคืนนี้ แหมมม มันกินแหลกเลย

ooสาธุoo says:
เมื่องไทยยังมีคนปฎิบัตเยอะนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เราทุกคนไม่ต้องออกไปสู้รบปรบมือหรอกค่ะ มีหน้าที่คือ ตั้งจิตแผ่เมตตา
พระสยามเทวาท่านรับรู้ เมื่อเช้า ท่านพรมน้ำมนต์แต่เช้า

คุณเก๊ะ เห็นตามความเป็นจริงมากขึ้น นับว่ากุศลยังมี ไม่เสียทีที่ได้เกิดมา

ooสาธุoo says:
ครับ ต้องขอขอบคุณ คุณด้วยนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
อนุโมทนาค่ะ เราเคยสร้างเหตุ เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา

ooสาธุoo says:
เดี๋ยวนี้ผมทราบเลยว่าเรากำหนดชีวิตเราเองได้

สุขที่แท้จริง says:
จึงได้มาเชื่อกันอีก
ใช่ค่ะ เรากำหนดได้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2010, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 20


เมื่อคืนปิดร้านขื้นไปไม่ได้ปฎิบัต(จะดูข่าวการบ้านการเมือง กิกิ)
เช้ามาปฎิบัตตามรูปแบบเดิน45นาทีนั่ง45นาที ตอนเดินคิดอะไรไม่รู้วุ่นวายไปหมด
มานั่งก็ยังมีความคิดวุ่นวายไปหมด

พี่เลี้ยงบอกว่าให้ดูตามความเป็นจริงก็ดูตามความเป็นจริงวุ่นวายก็วุ่นวาย
ความวุ่นวายค่อยๆๆๆหายไปกับมาดูลมได้ดีขื้น เวทนาเกิดก็ดู



ooสาธุoo says:
เออวันนี้นะครับ ตอนผมเดินนะครับ มีความคิดเกิดขื้นประปลาย
ทีแรกรำคาญนะครับ จับเท้าไม่ชัด ปล่อยไปเรื่อยๆๆๆๆ
พอมานั่ง ตั้งสติได้ เออใช่ พี่เลี้ยงบอกว่าให้ดูตามความเป็นจริง ผมก็เลยดู
ฟุ้งก็ฟุ้ง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:
ตานี้ดูไป ความฟุ้งหาย จับลมกับท้องได้

สุขที่แท้จริง says:
คิดก็ให้รู้ว่าคิด แค่ดูแล้วรู้ กำลังเดินอยู่ ก็ให้กลับมารู้เท้า ส่วนอยากจะคิดอะไร ปล่อยไป

ooสาธุoo says:
ครับ แต่มีอีกอย่างนะครับ คือว่าวันนี้พอดีผมนั่ง45นาที
เพราะตอนเดินนะ เกิดง่วง ผมเลยเดิน45นาที พอผมนั่งเกิดเวทนา ผมก็ไปดูตรงที่ปวดนะครับ

มีอย่างนืงเกิดขื้นมาในจิตนะครับ ว่าสิ่งที่ดูมันเป็นเพียงนาม
ความปวดหายไป ผมงงนะครับ ตีความให้ผมได้ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
กะแล้ว ก็กำลังจะพิมถามว่า คุณจะถามว่า สิ่งที่รู้มานั้น ใช่หรือไม่ แล้วคืออะไร
คือ คุณเก๊ะ กำลังจะถามมาแบบนี้ใช่ป่ะ

ooสาธุoo says:
ครับใช่ อย่างนี้ดีกว่าไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
ถ้าตอบ คำตอบที่ได้ แค่แก้สงสัยได้ชั่วคราว ว่าสิ่งที่ดูมันเป็นเพียงนาม
มีสองสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่เวทนากำลังเกิด

สิ่งหนึ่งคือ เวทนา
สอง ตัวที่กำลังดู

เวทนาที่กำลังเกิด คือ อุปทาน ที่เกิดจากการยึดมั่นถือมั่นว่ากายนี้เป็นของเรา
ตัวที่กำลังดูหรือที่เรียกว่า ผู้รู้ คือ จิต

สรุปคือ มีสิ่งที่รู้ กับสิ่งที่ถูกรู้
งง ไหมคะ

ooสาธุoo says:
ครับไม่งง

สุขที่แท้จริง says:

สิ่งที่รู้ คือ นาม
สิ่งที่ถูกรู้ คือ รูป

ทีนี้คำพูดที่คุณเก๊ะบอกว่า มีคำพูดว่า ว่าสิ่งที่ดูมันเป็นเพียงนาม
คุณเก๊ะ ลองนำมาเทียบดูสิคะ

สิ่งที่ดู กับสิ่งที่ถูกดู
มันคือ สิ่งไหน ที่เกิดขึ้นในจิตของคุณเก๊ะ

ooสาธุoo says:
ผมดูว่าสิ่งที่ปวดนะเป็นนาม ความปวดมาจากสัญญาจำ

สุขที่แท้จริง says:
คุณไปเอามาจากไหนคะเนี่ย

ooสาธุoo says:
ผมคิดเอาเอง

สุขที่แท้จริง says:

สิ่งที่ดู กับสิ่งที่ถูกดู ...... ความปวด เป็นสิ่งที่ดู หรือ เป็นฝ่ายถูกดูคะ คุณเก๊ะ เห็นเวทนา ใช่ป่ะคะ

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
หรือเวทนาเห็นคุณเก๊ะ

ooสาธุoo says:
ผมเห็นเวทนาครับ

สุขที่แท้จริง says:
จิต เป็นตัวรู้ ใช่ป่ะคะ

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
เวทนาเป็นสิ่งที่ถูกรู้ ใช่ป่ะคะ

ooสาธุoo says:
ครับ

สุขที่แท้จริง says:

ทีนี้ย้อนกลับมานะคะที่คำถาม สิ่งที่ดู กับสิ่งที่ถูกดู ...... ความปวด เป็นสิ่งที่ดู หรือ เป็นฝ่ายถูกดูคะ

ooสาธุoo says:
ความปวดเป็นสิ่งที่ถูกดูครับ

สุขที่แท้จริง says:
ว่าสิ่งที่ดูมันเป็นเพียงนาม .... ตรงนี้พอจะเข้าใจขึ้นมั่งมั๊ยคะ ว่าสิ่งที่มันรู้ขึ้นมานี้ ใช่หรือไม่

ooสาธุoo says:
ครับ สิ่งที่ดูมันเป็นนาม

สุขที่แท้จริง says:
แล้ว ใช่ไหมคะ งง ล่ะสิคะ

ooสาธุoo says:
ครับ


สุขที่แท้จริง says:
คุณเก๊ะ จำหลักง่ายๆค่ะ
เปลี่ยนจากคำว่า ดู มาเป็น รู้

ooสาธุoo says:
ครับ เพียงรู้

สุขที่แท้จริง says:
มันจะมี สิ่งที่รู้ กับสิ่งที่ถูกรู้

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
เวทนาหรือความปวด เป็นสิ่งที่ถูกรู้

ตัวผู้รู้หรือสิ่งที่รู้นั้นคือ จิต

สิ่งที่ถูกรู้ เรียกว่า รูป

สิ่งที่รู้ เรียกว่า นาม

อะไรก็ตามที่ถูกรู้ คือ รูป

ooสาธุoo says:
ครับ

สุขที่แท้จริง says:
อธิบายไป ก็แค่ลางๆค่ะ
มันต้องชัดด้วยตัวเอง ถึงจะเข้าใจ

ooสาธุoo says:
ครับใช่ ทีแรกนะผมว่าจะยังไม่ถามนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ครั้งต่อไป แค่ดูตามความเป็นจริงไปค่ะ

ooสาธุoo says:
ผมต้องให้ชัดจากกำลังตัวเองกอ่นนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ
ถ้าชัด แล้วใช่ของจริง เป็นตัวรู้จากจิตจริงๆ มันจะไม่สงสัยเลยค่ะ เพราะพอได้คำตอบ จะเข้าใจทันที

ooสาธุoo says:
ครับ วันนี้นะครับ ผมรู้เลยว่าผมงงมาก ผมรู้ทันทีเลยว่า กำลังยังไม่พอ ต้องรู้อย่างเดียว
เดี๋ยวนี้ผมดูตามความจริง บางทีเมื่อก่อนความคิดเกิดดับไว แต่เดี๋ยวนี้ดูอย่างเดียว
จะไวหรือช้าชังมันครับ มีเกิดก็ดู ไม่มีก็ดูกาย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ดู แล้วรู้ว่ามี ไม่ปฏิเสธ หากกำลังทำอะไรอยู่ ให้กลับมารู้ที่กาย

ooสาธุoo says:
2วันนี้นะครับ มีความฟุ้งเกิดมากนะครับ มันจะมีความรำคาญเกิดขื้น
พอมีสติ โถแค่ดูอย่างเดียว มีมากน้อยก็ดู มันก็แปลกนะครับ
ก่อนหน้านี้ไม่มีความคิดเกิดเยอะ พอเจอเยอะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เที่ยงไงคะ

ooสาธุoo says:
ใช่ครับ พอมีสติก็ถึงบางอ้อ

สุขที่แท้จริง says:
คุณเก๊ะ ลองเปลี่ยนคำพูดใหม่นะคะ จากคำว่า แค่ดู มาเป็นแค่รู้

ooสาธุoo says:
ครับ คำว่าดูนะ เราจะคิดถืงตาเราทุกที


สุขที่แท้จริง says:
รู้ แค่รู้ว่าคิด แล้วกลับมารู้ที่กาย
ถ้าบอกว่าแค่ดู ถ้าสติไม่ทัน อาจจะไปเผลอจ้องดูความคิดจริงๆ

ooสาธุoo says:
พอผมนึกว่าเราต้องดู ใช่เลยครับ สะใจ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละค่ะ

ooสาธุoo says:
จริงๆๆๆๆครับ

สุขที่แท้จริง says:
ทีนี้มาใช้คำว่า แค่รู้ แทนนะคะ

ooสาธุoo says:
ครับ คำพูดพาเราไป

สุขที่แท้จริง says:
มันจะได้แค่รู้ รู้ว่ามีความคิด แต่ไม่ไปเผลอจ้องความคิด
เมื่อมีความคิดเกิด เราแค่รู้ แล้วกลับมารู้ที่กาย ถ้ากำลังเดินอยู่ ให้กลับมารู้เท้า
กำลังนั่ง ให้กลับมารู้ว่ากำลังนั่ง

ooสาธุoo says:
พอมาในร้านนะครับ กับเดินได้ดี นั่งได้ดี ผมว่ามันไม่เที่ยง
แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อนนะครับ ถ้าเมื่อก่อนเป็นอย่างนี้นะครับ หงุดหงิดทั้งวัน พอนั่งไปสักพัก
เดี๋ยวนี้แก้ที่ตัวเองครับ คิดว่าเหตุที่ทำมาไม่เหมือนกัน คิดแล้วไม่ใช่
ต้องเป็นว่ามันไม่เที่ยงใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
มันต้องไม่เที่ยงจริงๆ โดยปราศจากความคิด ต้องเห็นแบบนั้นจริงๆค่ะ แล้วคุณเก๊ะจะเบาสบาย

สภาวะเขามาสอนตลอดเวลา ทุกๆสภาวะล้วนไม่เที่ยง
ที่ว่า ดี ทำแล้วสงบ ทำแล้วสบาย

ที่ว่า ไม่ดี เพราะทำแล้ว ไม่ได้ดั่งใจ มันดูวุ่นวายไปหมด
เหตุทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของตัวเราเอง
มันมีทั้งคำว่า ดี และ ไม่ดีค่ะ จริงๆแล้วคือ มันไม่เที่ยงต่ะหากล่ะ

ooสาธุoo says:
ครับใช่ ใช่เลยครับ

สุขที่แท้จริง says:
เจอบ่อยๆ แล้วจะยอมรับสภาาพไปโดยปริยายเองค่ะ
อะไรมากระทบ ดีหรือไม่ดี ก็แค่รู้มากขึ้น รู้อะไร รู้ว่ามันไม่เที่ยงร๊อกกก แล้วคุณเก๊ะก็จะแค่ดู

ooสาธุoo says:
จริงครับ

สุขที่แท้จริง says:
แต่ไม่ไปให้ค่า ให้ความหมายว่า ดีหรือไม่ดี อีกต่อไปค่ะ

ooสาธุoo says:
ถ้าเรื่องทุกเรื่องยังไม่เข้าถึงนะครับ ยังไม่เข้าถืงใจนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:
ยังต้องมีความคิดเข้ามา

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ทำให้ต่อเนื่องค่ะ อย่าหวังผล อย่าคาดเดา
แค่รู้ว่า ทำแล้ว ทำให้ชีวิตดีขึ้น รู้แค่นั้นพอค่ะ

ถ้ายังมีคำว่า หวัง ก็ยังมีคำว่า สมหวังกับผิดหวังคู่กัน
อีกหน่อย คุณเก๊ะ จะวางมันลงไปได้เองแหละค่ะ

ooสาธุoo says:
ครับ ทุกวันนี้บางวันผมรู้นะครับว่าผมมีการหวังผล
ผมจะคอ่ยๆๆๆบอกตัวเองว่าทำให้ตัวเราดีขื้น บางวันอยากทำ ทำแล้วไม่ได้ดังใจ ก็จะหงุดหงิด

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เพราะหวัง

ooสาธุoo says:
เหมือนเมื่อวานเลยครับ ตอนนี้ต้องคอยดูตัวเองก่อนนะครับ ตอนนี้ก็จะเตือนว่าแค่รู้กายกับจิต

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะมีแค่กายและจิต

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 21

เมื่อคืนผมถามปัญหาความสงสัยกับพี่เลี้ยง
พอตอนเช้าผมมานั่งคิดนะครับว่าเมื่อคืนผมถามปัญหานะ มันเป็นการตีค่าของความคิดอีกแล้ว
ทั้งๆๆๆที่พี่เลี้ยงเธอบอกผมหลายครั้งแล้ว ให้เพียงรู้แล้วก็วางอย่ายืดทุกสิ่งมันไม่เที่ยง
(ผมขอบคุณนะครับที่เมื่อคืนไขข้อข้องใจผมนะครับ)

ตอนนี้นะครับสติผมยังไม่ทันผมจะเจริญสติไปเลื่อยๆๆๆครับ เมื่อคืนหลังจากปิดร้าน
ขื้นไปปฎิบัตเดิน45นาทีนั่ง30นาทีมีความคิดเกิดก็รู้ เช้าเดิน45นาทีนั่ง30นาที
มีความคิดเกิดก็รู้แล้ววาง มีเวทนาเกิดก็รู้แล้ววาง (ผมสอบตกเพราะความตีค่าอีกแล้ว กิกิ)




ooสาธุoo says:
ได้ตรวจการบ้านลูกศิษย สอบตกอีกผมนะ

สุขที่แท้จริง says:
ตกกันทุกวันแหละค่ะ แล้วจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆค่ะ

ooสาธุoo says:

วันนี้ผมให้ลูกสอนผมเข้าไปอ่านในบอก๊คุณนะครับ
เขียนอะไรได้ดีมาก อ่านนะครับ มีกิเลสอีก

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เคยเข้าไปอ่านเลยหรือคะ อ่านได้ค่ะ ชอบใจตรงไหน ก๊อปไปได้เลยค่ะ

ooสาธุoo says:
อิจฉา

สุขที่แท้จริง says:
อิจฉาอะไรอีกคะ

ooสาธุoo says:
อ่านอะไรหลายๆๆๆอย่าง

สุขที่แท้จริง says:
อีกหน่อย คุณเก๊ะก็จะเป็นแบบนี้แหละค่ะ

ooสาธุoo says:
ผมคนคิดมากเนี่ยครับ แค่เปลี่ยนคำพูดจากดูมารู้เนี่ย
ผมไม่รู้นะ พูดไม่ถูก

เหมือนกับว่าการเพ่งบางอย่างหายไป แล้วรู้แล้ววาง
ผมพูดถูกไหมครับที่ว่าเวทนาเกิดรู้แล้ววาง

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ทุกอย่างล้วนเกิดจากการอุปทานที่ยังมีอยู่ค่ะ เวทนาก็ไม่เที่ยง
ยึดมาก ปวดมาก ไม่ยึดเหลือแค่รู้ว่ามี แต่ไม่ไปปวดกับมันด้วย

ooสาธุoo says:
ครับ เบาลงครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใหม่ๆ อาจจะดูว่ายาก แต่ถ้าเราฝึกรู้ลงไปบ่อยๆ แค่รู้ว่ามี แล้วกลับมาดูกายต่อ
เหตุที่จะปรุงแต่งมันก็จบ ยิ่งไปจดจ้องกับมัน ความปวดยิ่งทวีคูณ

เพราะเรายังยึดในกายที่เราคิดว่ามันเป็นของเราอยู่
จริงๆแล้วมันเป็นเพียงแค่เปลือกที่ให้จิตได้อาศัยอยู่แค่นั้นเอง

ooสาธุoo says:
ครับ วันนี้พอรู้แล้วว่าเกิดเวทนา ก็จะกับมาดูกายแล้วก็ดูลม

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถ้าเราไปจดจ้องเวทนาตลอด ยิ่งรู้สึกว่าปวดมากขึ้นเรื่อยๆ

ooสาธุoo says:
ครับใช่ เมื่อก่อนผมจะดูที่ปวด

สุขที่แท้จริง says:
ถ้าเรารู้แค่ว่ามันมีนะ แล้วกลับมาดูที่กาย ที่ลมหายใจ เวทนานั้นๆเขาจะหายไปเอง

ooสาธุoo says:
ยิ่งปวดขื้นเรื่อยๆๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เมื่อก่อนก็เคยเป็นค่ะ เคยทำมาแบบนั้น

ooสาธุoo says:
วันนี้ผมก็ใช้อย่างที่คุณสอนนะครับ หายครับ
แต่พอสักพักก็จะมาอีก ก็รู้อีก แล้วก็ไปรู้กายกับลม

สุขที่แท้จริง says:
สภาวะเขามาสอนตลอดค่ะ ความไม่เที่ยง การยึดติด อุปทาน การปรุงแต่ง

ooสาธุoo says:
แล้วผมก็มีความคิดเกิดอีกนะครับ คิดว่ากายเนยเรามาอาศัยอยู่
ก็คิดไปถืงที่คุณบอกว่ามันเป็นอุปทาน ขาชาก็เกิดขื้น ก็ทำเหมือนกับปวดนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ แค่เรารู้ว่ามันยังมีอยู่ กลับมาดูกายต่อ กิเลสก็เหมือนคนที่เรามีความรู้สึกไม่ชอบเขา
เราไม่ชอบเขา เรายิ่งมอง ยิ่งมีความไม่ชอบเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ

สู้เราแค่รู้ว่า เออนี่เราไม่ชอบนะ นั่นมันเรื่องของเขา เราทำอะไรอยู่ กลับมารู้กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
เมื่อไม่ถูกสนใจ ไม่มีความสนใจแล้ว ความไม่ชอบตรงนั้นก็จะหายไปเอง

ooสาธุoo says:
ส่วนใหญ่พอคุยกับคุณนะครับ ไปฟังชีดีหลวงพ่อนะครับ จะย้ำให้ผมฟังอีกที

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ท่านพูดว่ายังไงหรือคะ

ooสาธุoo says:
เหมือนที่คุณพูดเลยนะครับ ยิ่งไปอ่านในบล็อกดว้ยแล้ว
ยิ่งเข้าใจมากขื้น ท่านเทศว่าให้แค่รู้ไม่ต้องไปยึด

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ แค่รู้

ooสาธุoo says:
มีอะไรก็รู้ทั้งชอบและไม่ชอบ ถ้าเอาแต่ดี จะไปหาที่ไหนมีแต่ดี
มันต้องมีคู่กัน มีดีต้องมีชั่ว มีชอบต้องมีเกลียด เหมือนที่ว่ามีเกิดต้องมีภพชาติ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ การปรุงแต่ง ทำให้เกิดภพชาติ
ตราบใดที่ยังมีการให้ค่า ตราบนั้นภพชาติเกิดตลอด
แล้วคิดดูนะคะ วันหนึ่งๆ เราให้ค่าต่อสิ่งที่มากระทบไปกี่ครั้งต่อวัน

ooสาธุoo says:
ครับใช่ บางอย่างเรารู้แล้วยังวางไม่ลงเพราะผมยังมียึดอยู่

สุขที่แท้จริง says:
เราบอกว่า สิ่งนั้นดี เพราะเราเห็นเหมือนกับสิ่งๆนั้น
แต่คนอื่นๆ อาจจะเห็นว่า ไม่ดี เพราะไม่ตรงกับเขา
ใช้เวลาค่ะ ตัวสติ สัมปชัญญะนี่แหละ เขาจะทำให้เราเห็นตามความเป็นจริงมากขึ้น

ooสาธุoo says:
ครับผมตอ้งใช้เวลาครับ ผมทราบเลยว่าคุณมาอู่ยตรงนี้ได้นะ ต้องทำขนาดไหน ตอนนี้ผมทำไปเรื่อยๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:
ยอมรับค่ะ แรกๆหนักมาก หนักเพราะจับจุดไม่ถูก หนักเพราะความอยากที่ไม่รู้ว่าอยาก
พอจับจุดถูกได้ สบายเลยทีนี้

ooสาธุoo says:
ผมพูดตรงๆๆๆนะครับ ผมได้มาเจอพี่เลี้ยงอย่างคุณนะ ผมย่นระยะทางไปเยอะเลยครับ ผมรู้อะไรมากขื้น

สุขที่แท้จริง says:
โมทนาค่ะ ทุกอย่างล้วนมีเหตุค่ะ ของเก่าที่ทำมาของคุณเก๊ะนั้นมีอยู่
ของใหม่ทำเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ กุศลเลยหนุนนำ

ooสาธุoo says:
ผมเห็นใจคุณเลยนะครับที่ตอนนั้นทำมาโดยไม่มีใครสอนเลย

สุขที่แท้จริง says:

สุดๆค่ะ เพราะความไม่รู้อะไรเลย เหมือนคนเดินฝ่าไปในที่มืดๆ เอามือคลำๆไปเรื่อยๆ
เจอหนามมั่ง เจอถนนขาดมั่ง เจออุบัติเหตุสารพัด ตามตัวมีแต่บาดแผล

ooสาธุoo says:
ครับผมเข้าใจเลย ตอนผมตันนะครับ ไม่ก้าวเลย

สุขที่แท้จริง says:
จริงๆแล้ว มันไม่มีคำว่าตันเลย แต่เพราะยังจับจุดไม่ถูก เลยตัน

ooสาธุoo says:
ครับใช่ แค่นั้นผมก็ว่าทุกขน่าดูเลย

สุขที่แท้จริง says:
แค่คำว่า " แค่ดู " " แค่รู้ " ถ้าจับไม่ถูก ก็ไปไม่ได้เหมือนกันค่ะ
หน้าที่เรามีแค่ทำหลักๆคือ เดินกับนั่ง ที่เป็นเต็มรูปแบบ นอกๆนั้นที่ทำนอกเวลาคือสะสมไป

ooสาธุoo says:
มันเหมือนง่ายครับแค่รู้

สุขที่แท้จริง says:
ใช่เลยค่ะ เหมือนง่ายย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2010, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 22


เมื่อคืนปิดร้านขื้นไปปฎิบัตเดิน30นั่ง10นาที(มีอาการง่วง)
พอตอนเช้ามาปฎิบัตเดิน45นาทีนั่ง30นาที

วันนี้มีสภาวะคือจับเท้าและลมได้ไม่ชัดมีความคิดเกิดขื้นมาก
สภาวะสอนให้รู้ว่าไม่เที่ยง

เมื่อวานดีวันนี้ไม่ดี (ไม่ยึดรู้อย่างเดียวใช่ไหมครับไม่ว่าดีและไม่ดี) ขอบคุณครับพี่เลี้ยง



ooสาธุoo says:
มันไม่เที่ยงจริงๆๆๆครับ แต่การรู้แล้ววางนะครับ ไม่ง่ายนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เพราะมันยังไม่ออกมาจากจิตจริงๆ จิตไม่ยอมรับหรอกค่ะ ต้องค่อยๆกล่อมเขาไปเรื่อยๆ

ooสาธุoo says:
ครับ บางเรื่อง ผมต้องค่อยๆๆๆทำไปนะครับ
เมื่อเช้าปฎิบัตนะครับ เหมือนแบตหมดเลยครับ

สุขที่แท้จริง says:
แล้วจะชินไปเองค่ะ อีกหน่อยจะมองเป็นเรื่องปกติ

แค่รู้ แล้วไม่ไปให้ค่าแก่สิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นอะไร ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความคิดที่เกิดขึ้น
เราไปให้ค่าแก่มันเอง ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่สภาวะที่เกิดขึ้นเท่านั้นเองค่ะ

ooสาธุoo says:
ครับ แต่บางเรื่องมันเนี่ยมาทางความอยากครับ
บางทีมีความคิดออกมานะครับ

ตอนเดินอยู่มีความคิดออกมาว่าเราเดินด้วยความอยากอะเปล่า
ความคิดนี้นะครับเกิดมา4วันแล้วเห็นจะได้ มาเมื่อ2วันนี้แค่รู้ แล้ววาง

พอจะเดิน มีความคิดขื้นมาเลย เดี๋ยวนี้เลยแค่รู้แล้ววาง
เดินต่อไป คิดว่าเอาให้ชีวิตเราดีขื้น

สุขที่แท้จริง says:
ถึงแม้เราจะเดินด้วยความอยากก็ตาม เราก็ยอมรับไปค่ะ
อยากจริงๆนี่ เราอยากทำ เพราะทำแล้ว ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
รู้แบบนี้บ่อยๆ ความคิดที่ว่าอยาก มันจะหายไปเองค่ะ

ทีนี้คงไม่ไปสงสัยแล้วนะคะว่าทำด้วยความอยากหรือเปล่า
เพราะอยากแบบนี้ เราไม่ได้ทำให้ตัวเองทุกข์

ooสาธุoo says:
ครับ เออผมถามด้วยความไม่รู้นะครับ
การเดินจงกลม ของหลวงพ่อนะครับ การยืนนะครับ ภาวนาว่ายืนหนอนะครับ
เราใช้ตาในดูรูป ตั้งแต่ศรีษะ ถึงปลายเท้านะครับ ถูกไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ คือ ใช้จิตค่ะ ใช้จิตรู้ลงไป

ooสาธุoo says:
ครับใช่ ใช้จิต

สุขที่แท้จริง says:
รู้ในรูป คุณเก๊ะ เข้าใจเรื่องรูปมากขึ้นนะคะ ดูจากการใช้คำ

ooสาธุoo says:
ถามต่อแบบไม่รู้จริงๆๆๆนะครับ เราใช้จิตดูเพื่ออะไรครับ

สุขที่แท้จริง says:
ตั้งสติไงคะ หากคุณเก๊ะ ไม่ตั้งสติในการกำหนดยืน คุณเก๊ะจะรู้อยู่กับการยืนได้ไหมคะ

ooสาธุoo says:
อย่างนี้นะครับ ตอนผมกลับตัวมาแล้ว ผมจะยืนหนอถูกไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
ถ้าว่าในรูปแบบตรงๆเลยนะคะ เวลาเราเดินจนสุดทาง
เรากำหนดว่า หยุดหนอๆๆๆ แล้วกำหนดยืนหนอๆๆๆ แล้วถึงจะกลับหนอ
พอกลับหนอจนครบ เราจะกำหนดว่า ยืนหนอๆๆๆ

แต่บางคนเขาจะตั้งสติก่อน โดยใช้หยุดหนอๆๆๆ
แล้วถึงจะกำหนดยืนหนอๆๆๆ เอาตามที่เราถนัดไปก่อนค่ะ

ooสาธุoo says:
ครับผมจะใช้หยุดหนอ กลับแล้วผมจะใช้ยืนหนอ

สุขที่แท้จริง says:
เราควรจะหยุด ก่อนที่จะเดิน

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
ไม่ใช่พอหมุนตัวกลับเสร็จก็เดินเลย บางคนอายุมากแล้ว หัวจะหมุนค่ะ

ooสาธุoo says:
คือ ตอนที่ยืนหนอนะครับ ผมเอาจิตไล่ตั้งแต่ปลายผมยันปลายเท้า แต่รู้สึกตัวผมเองนะครับ
เหมือนตัวเราโอนเอนนะครับ หรือเราใช้จิตวิ่งเร็วเกินไปในการดูรูปครับ
ตอนนี้ผมเลยเปลี่ยนเป็นว่ายืนหนอแต่รู้ตัวเองว่ายืนอยู่

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละค่ะ ใช้ได้ค่ะ แค่รู้ว่ากำลังยืน
ถ้าสติมีกำลังดีมากขึ้นเมื่อไหร่ เวลาคุณกำหนดว่ายืนหนอ ไล่จากกระหม่อมลงสุดปลายเท้า
จากปลายเท้าขึ้นสู่ศรีษะ อาการโยกเอนจะไม่มีค่ะ ใช้รู้หนอไปก่อนค่ะ รู้ว่ากำลังยืน
หรือใช้ยืนหนอแบบที่คุณพูดมาก็ได้ค่ะ

ooสาธุoo says:

ครับ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 23

เมื่อคืนปิดร้านได้ขื้นไปปฎิบัต เดิน45นั่ง45
ตอนเช้าวันนี้ไม่ได้ปฎิบัติไปออกกำลังกายว่ายนำกับหลานนะครับ ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม




ooสาธุoo says:
เดินไปเดินมา แล้วมานั่ง ทำได้ไม่ต่อเนื่องเท่าไรครับ ได้ครั้งนืงประมาณ15นาทีบ้าง10นาทีบ้าง

สุขที่แท้จริง says:
สะสมไปค่ะ ไม่ต้องกังวล

ooสาธุoo says:
ครับสะสมไปเรื่อยๆๆๆ คุณเท่านั้นที่สอนได้ครับ คนอื่นทนไม่ไหว ไม่มีใครทนได้แล้ว
ผมอ่านของคุณแล้วนะ ผมไปฟังธรรมอีกที

สุขที่แท้จริง says:
อ่าน แล้วไปฟัง เป็นไงมั่งคะ

ooสาธุoo says:
โหสุดยอดเลยครับ เข้าทุกเรื่อง ชีดีแผ่นนี้นะครับ เดี๋ยวผมว่าจะไร้ท์แจก ว่าจะฝากให้คุณหมูดว้ย

สุขที่แท้จริง says:
ของหลวงพ่อชาหรือคะ

ooสาธุoo says:
ครับ

สุขที่แท้จริง says:
อนุโมทนาค่ะ

ooสาธุoo says:
ถ้าได้ฟังนะ คุณเนี่ยสุดยอดเลยละ อธิบายแล้วไปฟังนะ สุดยอดเลย
วันนี้หลวงพ่อท่านเทศว่าไงรู้ไหมครับ

ท่านเทศว่าร่างกายเราเปรียบเหมือนบ้าน ตัวเราก็ผู้อาศัย จิ้งจก ตุ๊กแก ก็ผู้อาศัย
ผมฟังไปยิ้มไป ทุกอย่างอาศัย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ยังไปยึดอีก แผ่นนี้นะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เพราะเรายังมีกิเลส จึงมีอุปทานเกิดขึ้น เมื่อเกิดอุปทาน จึงไปยึดว่า กายนี้เป็นของๆเรา

ooสาธุoo says:
ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:
จะมีมากหรือน้อย ล้วนขึ้นอยู่กับเหตุที่แต่ละคนกระทำมาค่ะ

ooสาธุoo says:
ผมพูดกับคุณนะมันเหมือนง่ายจริงๆๆๆนะครับ
แต่จริงๆๆๆนะยากนะครับ หรือจะว่ายากก็ยากนะง่ายก็ว่าง่ายนะ

สุขที่แท้จริง says:
เพราะคุณเก๊ะ เริ่มเห็นตามความเป็นจริงมากขึ้นไงคะ ถึงแม้บางอย่างอาจจะมัวๆ ไม่ชัด
แต่บางอย่างเห็นชัด ทำให้ฟังธรรมะนั้นๆ เข้าใจได้มากขึ้น

ooสาธุoo says:
ครับ เหมือนคุณบอกนะละสภาวะจะนำเราไปเอง

สุขที่แท้จริง says:
คือ จะดูการตีความ คนไหนรู้แค่ไหน เวลาฟังธรรมะ แล้วอธิบายมานี่ บ่งบอกว่า เขารู้แค่ไหน
ค่ะ ตัวสภาวะเขานำทางเรา เพียงแต่เพราะความไม่รู้ในตอนแรก จึงไปขัดขืน
เรื่องราวมันจึงวุ่นวายไม่รู้จบ

ooสาธุoo says:
ครับใช่เลย เราไปหาทางแก้สภาวะที่เกิดขื้นมา

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เลยวุ่นวายไม่รู้จบ

ooสาธุoo says:
เราไม่รู่เฉยๆๆๆ หัวเราะยาวๆๆๆหน่อย สะใจ

สุขที่แท้จริง says:
เรามีหน้าที่แค่รู้ๆๆๆ แล้วปฏิบัติเต็มรูปแบบอย่าให้ขาด

ooสาธุoo says:
ครับ มีหน้าที่แค่นั้นพอ สภาวะอะไรเกิดก็รู้

สุขที่แท้จริง says:
อะไรเกิดขึ้น ดีหรือร้าย นั่นล้วนเกิดจากอุปทานทั้งสิ้น เราไปให้ค่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเอง
แต่เรามักจะลืมกันไปว่า เรานั้นได้ทำอะไรไว้บ้าง
ที่เราทำไปนั้นเกิดจากความไม่รู้ มันจึงมีผลทั้งดีและไม่ดี เมื่อผลเริ่มส่งผล มาเป็นเหตุที่เกิดขึ้น
ในปัจจุบัน เพราะความไม่รู้ยังมีอยู่ เราจึงปฏิเสธ ไม่ยอมรับตามความเป็นจริง

ooสาธุoo says:
เออผมจะเข้าใจถูกไหมลองฟังนะครับ

ถ้าเราปฎิบัติบ่อยเข้าในแต่ละวันนะครับ เหมือนกับเราไม่ไปก่อเหตุใหม่
เพราะเรารู้อยู่กับกาย ที่เราปฎิบัต ใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
ก่อค่ะ เรากำลังก่อเหตุใหม่อยู่ตลอดเวลา

ooสาธุoo says:
อ๋อครับ ยังไงครับ

สุขที่แท้จริง says:

แต่เหตุที่เรากำลังก่ออยู่นี้ เป็นการทำให้ภพชาติสั้นลงไปเรื่อยๆ เพราะเรารู้อยุ่ในกายและจิตของเรา
เราไม่ได้ไปส่งจิตออกนอก ไปสร้างภพชาติใหม่ให้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ

เหตุเกิดอยู่ตลอดเวลาทุกวินาทีแหละค่ะคุณเก๊ะ
เพียงแต่ว่า ตอนนี้เราเริ่มรู้ทันมากขึ้น เห็นตามความเป็นจริงมากขึ้น
เราจึงเลือกที่จะทำได้ค่ะ เลือกที่จะสร้างเหตุใหม่ที่ทำให้ภพชาติสั้นลง

หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ ท้องพองยุบก็รู้ กายเคลื่อนไหวก็รู้ คิดเป็นกุศลหรืออกุศลก็รู้ สังเกตุดูสิคะ
เราจะมีความรู้สึกตรงนี้ชัดมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน บางทีนั่งเฉยๆ จิตจะวิ่งไปจับลมเอง ไปจับพองยุบเอง
แล้วรู้สึกว่า มีความอิ่มๆอยู่ในใจ บางครั้งนั่งเฉยๆ รู้สึกมีความสุขในการที่ได้รู้อยู่กับกาย

ooสาธุoo says:
ครับใช่ รู้จิตได้ไวขื้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน จัดการไปก่อนแล้ว

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เมื่อก่อนสติเรายังไม่ทัน

ooสาธุoo says:
แล้วกับมานั่งคิดทีหลัง บางทีก็มาเสียใจกับสิ่งที่เราทำไปนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ แต่เราไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มันผ่านไปแล้ว ได้แต่ปล่อยวาง
บางครั้งเสียใจมากๆนะคะ เมื่อเราย้อนอดีตไป

ครูบาฯทั้งหลายท่านถึงเน้นการอยู่กับปัจจุบันให้ทัน
ไหลไปอดีตก็ปรุง ไหลไปอนาคตก็ปรุง ปรุงแต่งตลอดเวลา เหตุเกิด เพราะความไม่รู้

ooสาธุoo says:
อ่านกระทู้ที่ส่งมาให้ผมนะครับ
เรื่องกรรมนะ โหสุดๆๆๆเลยนะครับ ผมกลัวเลยนะครับ

สุขที่แท้จริง says:
เอ๋ คุณเก๊ะเห็นอะไรหรือคะ

ooสาธุoo says:
ก็อ่านดูนะครับ ถ้าเราไม่มาฝึกสตินะครับ ก็ทำไปเหมือนกับคนไม่รู้
คนไม่รู้นะครับ จะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยสิครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ อันนี้ต้องบอกว่า บางคนที่เชื่อก็มี แต่คลุมเครือ คือรู้แต่ยังไม่รุ้ชัด
แต่คนที่ไม่รู้เลยนี่ ก็เป็นไปตามเหตุ
บันทึกครูบาฯนิรนามนี่ ชอบมากๆค่ะ ท่านเขียนเรื่องกรรมได้ชัดเจนมากๆ

เมื่อมาปฏิบัติต่อเนื่อง สภาวะ รู้ มันเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
จากเรื่องที่นำมาโพสเรื่อยเปื่อย หันมาทางธรรมมากขึ้น จนกระทั่งเอาเรื่องจริงมาพูด

ไม่ต้องไปดิ้นรนหาหนทางใดๆ
ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาดาวแบบที่เขาพูดๆกัน
ไม่ต้องไปเหลียวซ้ายแลขวาหาคนช่วยเหลือ
ไม่ต้องไปหาที่พึ่งพิงนอกตัว
ไม่ต้องไปวิ่งหาสิ่งที่สนองทำให้เกิดความสุข
มันจะมีแต่คำว่า " ไม่ต้อง "
คุณเก๊ะ อ่านตรงนี้แล้ว ว่าจริงมั๊ยล่ะคะ

ooสาธุoo says:
ถ้าตอนนนี้นะครับ ผมยอมรับเลยครับ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถ้ายังไม่เห็น ยอมรับไม่ได้หรอกค่ะ

ooสาธุoo says:
วันนี้ผมอ่านหนังสือท่านพ่อนะครับ บางหน้าผมยังไม่เข้าใจ
ผมยอมรับครับ ว่าสภาวะนะ เขาจะทำให้เราเข้าใจในสภาวะมี่เรามีอยู่
เรามันแค่เกวียนจะไปบรรทุกให้เหมือน10ลอ้ได้ไง

สุขที่แท้จริง says:
ถูกต้องเลยค่ะ ต้องเป็นไปตามสภาวะ

ooสาธุoo says:
ครับจำคำท่านเทศมาบอกนะครับ ทีแรกไม่เข้าใจนะครับ ตอนนี้เข้าใจเลย
สภาวะไม่ถึงจะเอาโน่นจะเอานี่ เร่งใหญ่เลย เครื่องฟัง

เมื่อก่อนคุณสอนผมใหม่ๆๆๆนะครับ ผมอยากเป็นอย่างคุณ
และก็มาเข้าใจในเหตุที่คุณบอก ทำเหตุมาไม่เหมือนกัน

ธรรมนะครับถ้าให้ผมพูดนะครับ ธรรมเป็นสิ่งที่ยิ่งเร่งยิ่งอยากยิ่งทุกข
เอาการเปรียบเทียบมาใช้ไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ความอยากๆไงคะคุณเก๊ะ

ooสาธุoo says:
ครับใช่เลย คือท่านเทศอีกเรื่องนะครับ
คือว่าถ้าใช้เหตุและผลมาตัดสินไม่มีจบ แต่ธรรม มีจบ
เหมือนกับรู้กิเลสใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ กิเลสก็คือสภาวะหนึ่งที่มีอยู่ในธรรม แต่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้
ต้องทำเอง เห็นเอง จึงจะเข้าใจ

ooสาธุoo says:
ครับใช่ ผมถึงบอกไงครับว่าความสุขตอนนี้ที่คุณมีนะ
ไม่มีใครเข้าใจแต่ถ้าคนปฎิบัต จะเข้าใจเลยว่าแค่ไหน

สุขที่แท้จริง says:
ปฏิบัติ บางทีก็ยังไม่เข้าใจค่ะ ใช่ว่าจะเข้าใจได้ทุกคน เหตุน่ะค่ะคุณเก๊ะ เหตุที่ทำมา
หมั่นระลึกไว้ให้สม่ำเสมอ ทำเท่าที่ทำได้ แม้กระทั่งยามสิ้นลม ระลึกไว้
หากแม้นชาตินี้ยังไม่สำเร็จ จะได้เป็นปัจจัยในชาติต่อไป

ooสาธุoo says:
เดี๋ยวนี้ผมทำให้เป็นกิจวัตร

สุขที่แท้จริง says:
การเกิดครั้งต่อไป ความโง่ จะได้ทำอะไรเราไม่ได้

ooสาธุoo says:
ครับใช่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 24


เมื่อคืนหลังจากปิดร้านขื้นไปปฎิบัต เดิน30นาทีนั่ง10นาที
ตอนเช้าปฎิบัตเดิน1ชมนั่ง40นาที ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม



สุขที่แท้จริง says:

การรู้ด้วยตัวเองนี่ ดีกว่าฟังเขาเล่าว่า
ฟังเขาเล่าว่าแค่ได้ฟัง แต่ยังมีตะหงิดๆๆ แต่พอรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีตะกอนเหลือ

ooสาธุoo says:
จริงครับ แต่บางทีนะครับ เราคิดไปว่ามันใช่ไม่ใช่นะสิครับ
แต่เดี๋ยวนี้นะครับ ความสงสัยน้อยไปเยอะเลยนะครับ
เมื่อกอ่นสงสัยมาก แต่เดี๋ยวนี้ความสงสัยอะไรก็แล้วแต่ถ้าทำไปเรื่อยๆๆๆ จะรู้ด้วยตนเอง

สุขที่แท้จริง says:
ถ้ารู้ แต่ยังมีสงสัย นั่นคือ ยังไม่ใช่ค่ะ
แต่สามารถนำรู้ที่คิดว่ารู้นั้น ไปเทียบกับตำราดูได้ ถ้าตรงกับตำราคือถูกค่ะ

ooสาธุoo says:
วันนี้ผมยังมีความคิดเลยครับ ว่าผมทำไปนะ
คืออย่างนี้นะครับ วันนี้ผมนั่งนะครับ มีเวทนาเกิด ผมก็รู้ แล้วก็กลับมารู้กาย
แล้วก็มีความคิดเกิดขื้นมาว่า เรามาอาศัยร่างนี้อยู่
เวทนาเป็นอุปทาน ความเมื่อยเป็นอุปทาน แล้วก็มีต่อไปอีก
ว่าเวทนาและความเมื่อยก็มาอาศัยร่างนี้อยู่ เราแค่รู้

สุขที่แท้จริง says:
สรุปได้แล้วหรือคะ คิดเพลินดีไหมคะ เห็นป่ะ
อะไรที่มันคลุมเครือ เราพยายามที่จะสร้างมันขึ้นมา ความคิดจะวนๆ

ooสาธุoo says:
อธิบายเพิ่มได้ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:
เราเพียงแค่ดูตามความเป็นจริงที่เกิด แล้วแค่รู้ ว่ายังมีนะ ยึดติดในกายนี้ ยังมีอุปทานอยู่
มันถึงได้รู้สึกปวด รู้สึกเมื่อย แต่ก็ไม่ผิดอะไรค่ะ ถ้าอยากจะพิจรณา เป็นการฝึกปัญญาไปในตัว

ooสาธุoo says:
ทีแรกผมก็คิดอย่างนี้นะครับว่ายังมี แล้วก็หาย ทีแรกดีใจครับ

สุขที่แท้จริง says:
สิ่งที่คุณเก๊ะทำน่ะ คุณยังเห็นสภาวะยังไม่ชัด แต่คุณอนุมานเอาเองว่า กายนี้เป็นแบบนี้นะ
สุดท้ายไปต่อไม่ได้ เพราะคุณเก๊ะรู้แค่นั้น

ooสาธุoo says:
พอเลิกนั่งว่าทีแรกดีใจว่าเวทนาหาย พอมานั่งคิด คิดได้ว่า เดี๋ยวมันก็หายเองนะละเวทนานะ
ไม่ต้องไปคิดเอาอะไรมาเปรียบเทียบเลย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ สติ สัมปชัญญะทัน มันก็ดับหรือหายไปเอง

ooสาธุoo says:
ครับ ถ้าให้ผมคิดตัวเองนะครับ ผมคิดว่าตัวผมเนี่ยยังมีความต้องการให้เวทนาหาย
พอมันหาย ยังมีความยินดีกับมันอยู่

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เรื่องปกติค่ะ อีกหน่อยจะชินไปเอง พอชินแล้ว มันจะไม่มีความยินดียินร้าย เกิดก็รู้ ไม่เกิดก็รู้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 21:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 25
เดินไปเลื่อยๆๆๆ
เมื่อคืนปิดร้านแล้วขื้นไปปฎิบัต เดิน30นั่ง30 (ตอนนั่งรู้เลยว่ามีอาการเคลิ้ม)
ตอนเช้ามาปฎิบัตเดิน1ชม นั่ง40นาที (มีความคิดเกิดขื้นเยอะมากรู้เลยว่าลงไปเล่นกับมัน)

หลังจากปฎิบัตลงมาสักพักมีความคิดเกิดขื้นมากทั้งๆๆๆที่มีสตินะครับรู้แต่พยายามวาง
แต่เหมือนกับว่าวางไม่ได้จืงดืงกลับมารู้อู่ยกับกายแต่ยังกลับว่ากำลังผมไม่พอนะครับ
คือเกิดความเบื่อหน่ายและเครียดมากครับ(ไม่เคยเป็นถืงขนาดนี้เลยนะครับ)
จนตอ้งมาเดินในร้านรู้เท้าในการเดินสักพักก็วางลง

(ผมจำคำที่หมูบอกได้เลยนะครับเมื่อก่อนคิดว่าเครียดทำสมาธิไม่ได้
แต่วันนี้ผมรู้เลยนะครับว่าการทำสมาธิให้รู้กายในการเดินนะครับ เหมือนผมถอยมาตั้งหลัก)
ผมสอบตกอีกแล้ว ทั้งๆๆๆที่รู้นะว่ามันไม่เที่ยง ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม




สุขที่แท้จริง says:

ได้อ่านในบล็อกแล้วค่ะ ก็ลงไปสนใจความคิดนี่คะ ทำให้ฟุ้งเลย

ooสาธุoo says:

ครับ ฮือจริงดว้ย ผมลงไปเล่นตอนนั่ง จริงๆๆๆครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ถ้ามีเราลงไปเมื่อไหร่ ฟุ้งเล่นเลย

ooสาธุoo says:

ผมเขียนเอาไว้เตือนตัวเองด้วยนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ บทเรียน ถามได้นะคะ สงสัยอะไรน่ะค่ะ

ooสาธุoo says:

ผมนะครับ ผมว่าผมมีสตินะครับ พอรู้ว่าลงไปเล่น ก็กลับมารู้กาย
ผมตัวผมนะสติยังไม่ไวพอนะครับ พอมีมามาก เหมือนกับว่า มันงงนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

คะ ทำไมล่ะคะ

ooสาธุoo says:

ผมว่าตัวผมเนี่ยเจอการตีค่าอีกแล้วละมานั่งมิกี้
คืออย่างนี้ครับ คือมีความคิดเกิดขื้นมา ผมรู้แล้วกลับมารู้กาย
มันมีความคิดออกมาว่าเราหลบปัญหาอะเปล่า

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ทุกข์เพราะคิด จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลย กลับมารู้กายน่ะถูกแล้วค่ะ

ooสาธุoo says:

ผมคิดว่าผมไปให้ค่ากับตัวนี้มากกว่ามั้งครับ พอพูดกับพี่เลี้ยงเนี่ย ยังไม่ทันถาม ผมก็คิดออก

สุขที่แท้จริง says:

เห็นป่ะคะ บางทีเราไปติดแค่ความคิดเท่านั้นเองค่ะ

ooสาธุoo says:

จริงๆๆๆครับ

สุขที่แท้จริง says:

เราแค่รู้ว่ามันมีก็พอค่ะ แล้วกลับมารู้กายเท่านั้นเอง แล้วความคิดมันจะแผ่วๆแล้วหายไปเอง

ooสาธุoo says:

ผมว่าอย่างนี้หรือเปล่าครับ ผมรู้นะครับว่าเราจะต้องอยู่กับกาย
มันยังไม่เข้าถึงจิตใจอะเปล่าครับหรือพูดว่าไม่ได้ออกมาจากจิตใจได้ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

เปล่าค่ะ สติค่ะ การที่เอาจิตรู้อยู่กับกาย ทำให้จิตไม่ไหลไปทั้งในอดีตและอนาคต( ความคิด)
ถ้ามีสิ่งที่ถูกรู้ แล้วเป็นรู้ที่เกิดจากการแจ้งของจิตจริงๆ มันจะมีสภาวะบอกค่ะ
ตอนนี้มีแต่กิเลสค่ะ กิเลสมันหลอกอยู่ กิเลสเอาไอ้นั้น ไอ้นี่มาหลอกให้เราหลงทางได้เรื่อยๆ

oสาธุoo says:

เหนื่อยยังครับ กับผม

สุขที่แท้จริง says:

ไม่หรอกค่ะ ยิ่งกว่าคุณเก๊ะมีค่ะ

ooสาธุoo says:

สงสัยผมคิดมาก กิเลสตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:

ใช้เวลาค่ะ

ooสาธุoo says:

ผมทราบเเลยว่ามันต้องทำไปเรื่อยๆๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ มีหน้าที่คือทำ แล้วแค่ดู แค่รู้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 26

วันนี้หลังจากปิดร้านขื้นไปปฎิบัตคือ เดิน30นั่ง30 พอตอนเช้าก็ปฎิบัต เดิน1ชม นั่ง1ชม

หลังจากการปฎิบัตจนถืงวันนี้เป็นเวลา1เดือน ผมได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้วันที่25-4-2553
(เธอสอนผมทุกอย่างและคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ดว้ย)

สิ่งที่ได้รู้และหายสงสัยแน่ๆๆๆคือผมเดินไม่ผิดทางแน่นอนคือปฎิบัตไม่ผิดแน่นอน
เมื่อกอ่นจะมีความสงสัยมากว่าเราทำถูกหรือเปล่า แต่เธอสอนและแนะนำให้ปฎิบัต
ผมรู้ตัวเองเลยว่ารู้ทันกิเลศได้บ้าง มีความเบาสบายไม่อืดอัดเหมือนเมื่อกอ่น


ผมรูhตัวเองว่าเป็นคนใจรhอนการปฎิบัตไม่เหมือนกับการทำงาน การทำงานทำมากได้มาก
แต่การปฎิบัตธรรมไม่ใช่เลยครับตอ้งใช้เวลา ขอบคุณมากครับที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผม



สุขที่แท้จริง says:

นั่ง 1 ชม. เป็นไงมั่งคะ

ooสาธุoo says:

เวทนามากครับ เวลาปวดนะ ดึงมาดูกาย เอาไม่อยู่ เลยสูดลมหายใจยาวๆๆๆนะครับ แล้วก็รู้ว่ายังมีอยู่

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ ใช้เวลาฝึกค่ะ แล้วจะพบธรรมโดยสภาวะที่แท้จริง ที่มีอยู่
ลองค่อยๆเพิ่มเวลาสิคะ ถ้าไม่ไหวนะ

ooสาธุoo says:

วันนี้สอบตกอีกครับ คุยเรื่องไปทำบุญนะครับ พอดีไม่เข้าใจกัน
ผมมีการไม่พอใจมากระทบ ผมก็ดึงกับมาดูกาย

สุขที่แท้จริง says:

ดีค่ะที่ยังรู้ทัน

ooสาธุoo says:

แต่อาจจะยังให่มนะครับ ดึงมาแล้วยังวางไม่ได้ ก็ดึงกลับมาดูกายอีก ใช้เวลาสักพักนะครับ จึงวางลง
ก็ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้กิเลสอีกตัวนึง

สุขที่แท้จริง says:

ตัวไหนคะ โทสะหรือโมหะ

ooสาธุoo says:

ไม่โกรธ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ตัวโทสะ ต้องอดทนหน่อยนะคะ เพราะคุณมาทางตรง มันเลยข้ามขั้น ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
คุณรู้แผนที่ และมาตามแผนที่ เลยเจอผลกระทบค่อนข้างเยอะกว่าคนที่ไม่รู้ทาง
คนที่ไม่รู้ทาง เขาจะไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกผิดต่อสิ่งที่เขากระทำ เพราะเขายังมองไม่เห็นกิเลส
ยังมองไม่เห็นผลที่เขาจะต้องรับ หรือถึงจะมองเห็น แต่ก็เห็นแบบคลุมเครือ ไม่ชัดเจน

ooสาธุoo says:
ขอบคุณมากจริงๆๆๆนะครับ ที่สอนให้ผม 1เดือนแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ยินดีค่ะ ที่มาสร้างกุศลร่วมกัน

ooสาธุoo says:

ผมว่าผมรู้อะไรไม่มากก็น้อยละครับ

สุขที่แท้จริง says:

เราทุกคน ล้วนเป็นผู้มีทุกข์ เริ่มจากไม่รู้จักทุกข์ที่แท้จริง
มองไม่เห็นเพราะกิเลสบดบังเอาไว้ ทำให้หลงทุกข์ว่าเป็นสุข

ooสาธุoo says:

ครับใช่ คือทำตามใจตนเอง ที่มันคิดออกมา

สุขที่แท้จริง says:

เชื่อไหมคะ ในคำถามทุกๆคำถามที่คุณเก๊ะ และมีอีกคน เรียกเขาว่า คนขี้สงสัย ที่ถามๆมาน่ะค่ะ
มันเหมือนไปกระตุ้นสัญญาเก่าๆที่เคยมี ที่เคยทำเอาไว้ มันมาเป็นปัญญาหรือตัวรู้ในปัจจุบันที่เกิดขึ้น
บางทีก็งงตัวเอง ว่าไปเอาคำตอบเหล่านี้มาจากไหน ไม่เคยอ่านหนังสือแบบนั้น แต่ทำไมถึงรู้
แล้วพอไปค้นหา มันตรงในตำราทุกเรื่อง

ooสาธุoo says:

มีครับ ใช่ครับ

สุขที่แท้จริง says:

นี่คือสิ่งที่จิตของทุกๆคนบันทึกเอาไว้ เมื่อถึงเวลา สิ่งเหล่านี้เขาจะเกิดเอง
เราอยากให้เกิดแค่ไหน เขาก็ไม่เกิด แต่เมื่อถึงเวลา เขาเกิดเอง โดยไม่ต้องไปอยากรู้ใดๆ
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งพบความมหัศจรรย์ของจิต

ooสาธุoo says:

จริงครับ เมื่อก่อนผมลังเลมากในการปฎิบัต แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องลังเลเลยครับ
แนวนี้ถูกักบตัวผมและจริตผมที่เป็นคนขี้สงสัย ความสงสัยนะครับ
จะค่อยๆๆๆหายไปเมื่อปฎิบัตไปเรื่อยๆๆๆๆ แล้วเราย้อนกับมาดูจะต้องยิ้ม ว่าเราสงสัยอะไรมากเหลือเกิน
ไม่รู้พี่เลี้ยงคนนี้ทนได้ไง

สุขที่แท้จริง says:

ไม่หรอกค่ะ ไม่ได้ทนอะไรเลย ผิดกับอีกคนนะคะ อันนั้นใหม่ๆ ใช้คำว่า ทนกับเขาจริงๆ
แต่ตอนนี้เมื่อเขามาปฏิบัติ เขาเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้น ของคุณเก๊ะนี่ถือว่าธรรมดามากๆค่ะ
เพราะสิ่งที่สงสัยมีแต่หลักๆ ไม่มีฟุ้งกระจายไปทั่ว แต่ทุกๆคำถามล้วนมีประโยชน์ค่ะ

เรื่องทำบุญ อันนี้ดีแล้วค่ะ ที่มองเห็นกิเลสตัวเองได้ สอบตกก็จริง แต่ได้บทเรียนจากสภาวะ
บอกแล้วเรื่องเหตุ ทุกอย่าง ล้วนเป็นไปตามเหตุที่แต่ละคนกระทำมาค่ะ

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ และอีกอย่างนะครับ อยู่ไหนถ้าอยากจะปฎิบัตก็ทำได้ครับ
แต่ถ้าเวลาไปทำในสถานที่ดี ก็จะเห็นผลได้ไวไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

มีผลค่ะ ยอมรับว่าเรื่องสัปปายะมีผลจริงๆ
สมัยก่อนนะคะ ทั้งไปวัด ทั้งปฏิบัติที่บ้าน ยังไม่ไปได้ไว เท่ากับที่มาทำงานที่นี่
เป็นคนถูกกับอากาศเย็นๆ พอได้มาอยู่ห้องแอร์ แล้วทั้งห้องนี่ปูพรม

ooสาธุoo says:

เหมือนกันเลยครับ

สุขที่แท้จริง says:

เรียกว่าทำกรรมฐานได้ทั้งวัน เลยทำให้การปฏิบัติไปได้ไวมากๆ ตอนนี้ยอมรับว่าเลือกค่ะ
เลือกสถาานที่ ก็จะลองไปวัดมหาธาตุ ที่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ ที่ว่าติดแอร์
เรารู้แล้วนี่คะ สัปปายะแบบไหนเหมาะสำหรับเรา

ooสาธุoo says:

ถ้าจะไปเมื่อไร ลองถามแฟนผมด้วยสิครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ได้ค่ะ

ooสาธุoo says:

ก็มีส่วนนะครับ ผมก็ชอบอากาศเย็น

สุขที่แท้จริง says:

การปฏิบัติ ถ้ารู้ว่าเราเป็นแบบไหน เราจะไปได้ไวค่ะ

ooสาธุoo says:

เวลาผมปฎิบัตนะครับ ถ้าเมื่อก้อนนะครับ ทุกข์แน่
บ้านตรงข้ามทำบ้านใหม่เสียงดัง จะมาเสียงดังกว่าเด็กในร้านได้ไง
เดี๋ยวนี้ยอมรับเลยครับ ว่าตัวเองไม่กลัวเสียงดังแค่ไหน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เพราะเริ่มปรับสภาพได้

ooสาธุoo says:

ครับใช่ เมื่อก่อนติดอะไรหลายๆๆๆอย่างมาก

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างจะคลี่คลายไปเองค่ะ

ooสาธุoo says:

เดี๋ยวนี้เปิดชีดีธรรมในรถหลานฟังไปดว้ย เขาจะฟังและจะถามว่า พูดแบบนี้หมายความว่าไง
อย่างมีเรื่องนึงนะครับ มีหลวงพ่อ2รูป มีหลวงพ่อรูป1อ่านหนังสือแล้วว่างตรงนั้น
แล้วอีกรูปมา ก็เหยียบหนังสือ ท่านว่ากัน
อีกรูปว่าทำไม่ท่านไม่มีสติอ่านหนังสือแล้วไม่เก็บ อีกรูปก็บอกว่าท่านนะไม่สำรวม
หลานผมให้คำตอบว่า ก็คนที่วางนะรับผิดก็จบ ผมว่าอย่างนั้นมันทางโลก

สุขที่แท้จริง says:

แล้วคุณเก๊ะคิดว่าไงคะ

ooสาธุoo says:

คือผมก็เลยให้คำตอบกับหลานไปว่า คือผมก็เลยบอกว่า
ท่านที่เหยียบนะมีความโกดเกิดขื้นในจิต ต้องหาคนทำผิดให้ได้
แต่ถ้าองคสมเด็จท่าน จะแนะนำว่าให้ดูจิตตัวเองว่ามีความโกด
ให้รู้ความโกดแล้ววาง และก็เก็บหนังสือเล่มนั้น ไม่รู้ว่าไงครับ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างอยู่ที่คิดค่ะ ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด
เอาเถอะค่ะ รู้แค่ไหน สภาวะอยู่ตรงไหน ย่อมอธิบายได้แค่นั้นค่ะ

ooสาธุoo says:

ถ้าคุยกันเรื่องถูกผิดไม่จบละครับ

สุขที่แท้จริง says:

คุยไม่ได้ค่ะ เพราะบอกแล้วว่าไม่มีใครถูก และไม่มีใครผิด
แต่อยู่ที่ความคิดของแต่ละคนเท่านั้นเอง

ถามว่า ท่านที่อ่านเสร็จแล้ว ท่านวางทิ้งไว้ตรงนั้น ท่านผิดไหม
บางคนอาจจะว่าท่านผิด อ่านแล้วไม่เก็บเป็นที่เป็นทาง

บางคนอาจจะบอกว่า ใครจะไปรู้ล่ะ คิดว่าแค่วางแป๊บเดียว เดี๋ยวจะอ่านต่อ
เถียงแบบนี้ เถียงกันไม่รู้จบ

ส่วนพระที่เดินไปเหยียบ บางคนอาจจะบอกว่า เดินยังไงไม่สำรวม
ถ้าเดินสำรวมคงไม่เหยียบ

แต่อีกคนบอกว่า มืดขนาดนั้น ใครจะไปคิดว่ามีคนนำหนังสือวางไว้
ถ้าว่าแบบนี้ก็เถียงไม่รู้จบ

ถ้าพูดกลางๆคือท่านผิดทั้งคู่
คือขาดความสำรวม
ท่านที่เดิน ก็ไม่สำรวม
ท่านที่นำมาอ่านก็ไม่สำรวม
เนื่องจากขาดตัวสัมปชัญญะ มีแต่สติ เห็นไหมคะ ตัวสัมปชัญญะนี่สำคัญมากๆ

ooสาธุoo says:

ครับใช่ เออลองฟังผมสอนหลาน ลองดูนะครับ ผมยกตัวอย่างว่า
สมมุตเราคันที่หน้า เราต้องเกา แต่ถ้าเรามีสัมปชัญญะ เราก็จะรู้ด้วยว่าเราใช้นิ้วไหนเกา
แค่นี้ละครับ แต่เรื่องมิกี้นะครับ ที่ผมคุยกับคุณเมื่อวานนะครับ
ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลไม่จบแต่ถ้าคุยเรื่องธรรมจบ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ อยู่ที่ความเข้าใจค่ะ

ooสาธุoo says:

คือผมคิดว่าถ้าผมนะครับ ผมจะให้จบไว คือตัวผมเองก็จะเก็บหนังสือเล่มนั้น
และก็จะไม่ถามถืงว่าใครเป็นผู้อ่าน คือผมนะครับสิ่งไหนถ้าผมยอมและทำได้ผมจะทำ

สุขที่แท้จริง says:

อ๋อ เรื่องหนังสือเมื่อกี้หรือคะ แต่ละคนมีความคิดแตกต่างกันไปค่ะ

ooสาธุoo says:

นี่ก็เป็นชีวิตประจำผมด้วย ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าเป็นตัวเอง อย่างมากก็เก็บวางข้างบน แล้วเดินจากไป แค่นั้นเอง ของใคร เด๋วเขาก็มาหยิบเอาไเอง

ooสาธุoo says:

จนน้องผมจะว่าผมเสมอ ว่าผมนะยอมคนง่าย

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ยอมดีกว่าขัดค่ะ

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ ขัดแล้วไม่จบครับ อาจจะเป็นนิสัย ทำให้ผมทำอะไรคอ่นข้างจะไม่ละเอียด เอาง่ายๆๆๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปค่ะ ปล่อยๆเขาไปนะคะ เวลาคุยอะไรกับเขา

ooสาธุoo says:

ครับ นี่ละแบบหัดผม

สุขที่แท้จริง says:

เรานิ่ง เราได้เปรียบค่ะ อกุศลจะไม่เกิด จิตเราไม่ขุ่นมัว
พยายามรักษาจิตเอาไว้ค่ะ เพราะมีผลเวลาปฏิบัติ
ความฟุ้งซ่านจะได้เล่นงานเราไม่ได้ เพราะไม่มีเรื่องที่จะต้องคิด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 27



หลังจากปิดร้านได้ขื้นไปปฎิบัต เดิน30นาทีนั่ง20นาที
(ว่าจะทำให้สมำเสมอตอนนั่งไม่ได้30นาทีเกิดการงว่ง)
เช้าเดิน1ชม นั่ง45นาที (ไม่ครบ1ชมทนเวทนาไม่ได้)
ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผม



สุขที่แท้จริง says:
ฟังเรื่องชาวบ้าน

ooสาธุoo says:

เรื่องอะไรครับ

สุขที่แท้จริง says:

เรื่องลูกสาวชาวบ้าน เมื่อกี้อดไม่ได้ติงพี่เขาไป
ไปแช่งลูกทำไม แต่พูดอะไรยาวไม่ได้ จะด่าลูก เราต้องย้อนกลับมาดูตัวเรา
เรื่องราวในอดีตที่เคยทำไว้ เราทำกับพ่อแม่ยังไง ลูกเราก็ทำกับเราแบบนั้น
ตรงนี้เคยพูดให้เขาฟังแล้ว วิบากกรรมน่ะคุณเก๊ะ

ooสาธุoo says:

จริงครับขื้นกับกรรมที่ทำไว้

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ หนีไม่พ้นหรอกค่ะ เหตุเกิดที่ไหน ดับที่นั่น
เหตุทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเกิดจากความไม่รู้ เมื่อไม่รู้จึงได้ลงมือกระทำลงไป
สติค่ะ ไม่ทัน สติ สัมปชัญญะ ไม่ทันต่อการปรุงแต่งของจิต

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

แก้ที่ตัวเรา แต่คนส่วนมากไม่เข้าใจ ชอบโทษนอกตัว
แต่ไม่เคยย้อนกลับมาดูที่ตัวเอง ทำอะไรไว้บ้าง ระลึกได้ก็มี แล้วที่ระลึกไม่ได้อีกล่ะ

ooสาธุoo says:

คือว่า เราเกิดมานะครับ เรารักตัวเองเป็นพื้นอยู่แล้ว
ถ้าทำสิ่งใดขัดกับความคิดตัวเอง เขาไม่ทำกัน
เรื่องมันเลยมีให้เราทุกขมาก พอทุกขมาก ก็พึ่งสิ่งภายนอกอีก
พึ่งหมอดูว่าทำยังไงดี พึ่งเพื่อนว่าทำยังไงดี คนอื่นจะมารู้ดีมากกว่าตัวเราเองได้ไง
มิกี้แฟนมาคุยเรื่องหมอดู

สุขที่แท้จริง says:

คนเราถ้าโกหกตัวเองได้ ย่อมโกหกคนอื่นๆได้

ooสาธุoo says:

กำลังจะว่าอยู่เลย
ดีที่ขาบอกว่าคนอื่นเป็นคนไปดู งั้นแล้วไป ดีที่ผมไม่ว่าเขาไปก่อน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ทำให้ช้าลง คิดให้นานขึ้น

ooสาธุoo says:

ครับ เดี๋ยวความปากไวของเรา มันเป็นข้อเสียของตัวเรา เราจะต้องระวัง
เดี๋ยวนี้บางทีไม่มีสติก็ไวเหมือนเดิมนะครับ ถ้ามีสติจะฟังเขากอ่น

วันนี้นะครับ ผมนั่งนะครับ เวทนาเกิด ร้อย่างเดียว รู้แต่ก็กลับไปกลับมา
ก็รู้ว่ายังมีอู่ย ไม่หาทางแก้ รู้อยู่อย่างนั้น มีความคิดเกิดขื้นก็รู้

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เฝ้าดู รุ้อยุ่กับสภาวะ แค่รุ้ว่ามี แล้วกลับมารู้ที่กาย
มีแค่นี้เองแหละค่ะ อยู่กับปัจจุบัน คือ อยู่กับกายและจิต ไม่ได้ไปไหนเลย
ไม่ไปอดีต ไม่ไปอนาคต อดีตหรืออนาคต ล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของจิตทั้งสิ้น
ทุกข์เพราะคิด สุขเพราะคิด เพราะยังมีอุปทาน

ooสาธุoo says:

แล้วกับมารู้กาย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ รู้อยู่ในกายนี่แหละ เวทนาเกิดเราก็รู้ แต่ไม่ไปให้ค่าให้ความหมาย
ถ้าไปหลงให้ค่าให้ความหมาย ตัวเราแหละทุกข์ ทุกข์เพราะอุปทานเกิด ปวดหนอๆๆๆๆ
กิเลสลากไปกินเลย ปวดหนอ

ooสาธุoo says:

เมื่อก่อนนะครับ เวทนาเกิด ทุรนทุรายมาก
คือถ้ามันเกิดแรงนะครับ ผมก็จะดิ้นรน จะเอาให้หาย แต่พอคุณบอกว่า ให้รู้ แล้วดึงกลับมารู้กาย

วันนี้ผมฟังชีดีมานะครับ
ท่านเทศว่าถ้าจิตมีสมาธิ ปัญญาจะออกมาจากจิตเอง
แต่ถ้าจิตยังไม่มีสมาธินะครับ ที่ออกมานะความคิด

สุขที่แท้จริง says:

จิตหลอกมีเยอะแยะค่ะ ทั้งๆที่เป็นสมาธินี่แหละ ปัญญาที่แท้จริงดูง่ายค่ะ ง่ายมากๆ
คือ ปัญญาตัวนี้เมื่อเกิดขึ้น จะทำให้กิเลสที่เรามีอยู่นั้นเบาบางลงไป ความยึดมั่นถือมั่น ลดน้อยลงไป
นี่คือปัญญษที่แจ้งออกมาจากจิตจริงๆ ตำราถึงมีเขียนไว้เรื่องสัมมาทิฏฐิกับมิจฉาทิฏฐิ

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ

สุขที่แท้จริง says:

จิตเองก็เช่นเดียวกันค่ะ เพราะตราบใดที่ยังมีกิเลสอยุ่ จิตก็หลอกตัวเจ้าของจิตเองได้
ฉะนั้นอย่าไปเชื่อคำกล่าวที่ว่า เมื่อใดจิตเป็นสมาธิ ปัญญาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของจริง
พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสไว้ว่า อย่าเชื่อตำรา อย่าเชื่อเขาเล่ามา อย่าเชื่อครูบาฯ แต่จงกระทำด้วยตัวเอง

ooสาธุoo says:

ครับ เมื่อวานที่คุณบอกผมว่า ผมฝึกเหมือนกระโดด ใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ไม่ได้ไปตามขั้นตอน คือคุณเก๊ะ ดับที่เหตุเลย ไม่ได้เรียนรู้เหตุก่อน ต้นเหตุคือกิเลส
การปฏิบัติทั่วๆไปจะไม่รู้จักกิเลสโดยสภาวะ จะรู้จักแค่ว่า นี่เรียกว่ากิเลส

ooสาธุoo says:

นี่ละผมกำลังบอกว่ามันเป็นข้อเสียใช่ไหมครับ ผมเลยมาเจอกิเลส
บางทีผมยังนึกในใจเองเลยว่ามันมีเยอะ เดี๋ยวนี้ผมเลยคอ่ยๆๆๆปฎิบัตไปเรื่อยๆๆๆๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมฟูเลย แต่พอผมมีตัวรู้ จะรู้เลยว่าเรายังเป็นคนเริ่มใหม่ตลอด

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ค่อยๆเรียนรู้ไป ตามกำลังเท่าที่เราพอทำได้
ไม่ต้องไปเร่ง ความอยากมันเนียน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


28 r8. 53


หลังจากปิดร้านขืนไปปฎิบัต เดิน10นาทีนั่ง30นาที
ตอนเช้าก็ปฎิบัต เดิน1ชม นั่ง1ชม
(แต่ในระหว่างเดินเกิดมีอาการงว่งก็รู้ว่างว่งแล้วกลับมารู้กายตามเดิม
นั่งก็เกิดเวทนาก็รู้เวทนาแล้วกลับมารู้กายตามเดิม) ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผม



ooสาธุoo says:

ไม่ไปเวียนเทียนหรือครับ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ไปค่ะ อยู่ที่ใจค่ะคุณเก๊ะ แต่ไปพูดกับคนออื่นๆไม่ได้นะ เด๋วมีเคือง

ooสาธุoo says:

ใช่แล้ว ตามประเพณีครับ เป็นรูปธรรมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เข้าใจค่ะ ไม่ขัดใจเขา คำเรามีค่ามีราคา ขัดใจเขา คำเราหมดค่าหมดราคค่ะ

ooสาธุoo says:

วันนี้ผมนิ่งดีครับ

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสสงบชั่วคราวหรือคะ

ooสาธุoo says:
มีครับ แต่สติทันนะครับ ไม่เที่ยง ไม่ยึด อ่านการบ้านผมยังครับ

สุขที่แท้จริง says:

อ่านแล้วค่ะ ทำต่อไปค่ะ ไม่ไปให้ค่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุของความสงสัยล้วนเกิดจากการไปให้ค่า
ว่าอาการแบบนี้คืออะไร เรียกว่าอะไร

ooสาธุoo says:

ผมอยู่โรงจำนำเก่า

สุขที่แท้จริง says:

คืออะไรคะ

ooสาธุoo says:

ชอบตีค่า

สุขที่แท้จริง says:

พอดีเป็นเศษฐี ไม่เคยเข้าโรงจำนำค่ะ เลยมองทุกๆอย่างมีค่าเท่ากันหมด
ตอนนี้เป็นยิ่งกว่ามหาเศษฐีอีกค่ะ ของทุกอย่างยิ่งไม่มีค่ามากขึ้น ยังมีค่ะ ยังมีอยู่เรื่องการให้ค่า
บางทีสติไม่ทัน ก็โดนกิเลสมันเล่นงานเอา

ooสาธุoo says:

ครับจริงๆๆๆครับ เดี๋ยวนี้ผมเป็นคนเริ่มใหม่ตลอดนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

เตีรยมสติ สัมปชัญญะไว้เป็นอาวุธนะคะ เวลาโดนทวง จะได้รับมือได้ ถึงแม้จะเพลี่ยงพล้ำเสียท่ากิเลส
แต่ทำให้เราฟื้นตัวไว ไม่ไปจมกับกองกิเลส และไม่ไปทุกข์

ooสาธุoo says:

ครับ วันนี้สอบตกครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เรื่องปกติค่ะ

ooสาธุoo says:

พอดีมีคนมาชื้อเครื่องดื่ม มีสติแต่ไม่มีสัมปชัญญะ เปิดเครื่องดื่มจะทิ้งฝาดันไปทิ้งที่เปิด เจอจริงๆๆๆเลย
55555555555555555

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจเลยค่ะ เด๋วนี้ ชัดนะคะ ตัวสัมปชัญญะ รู้ลงไปในการกระทำ

ooสาธุoo says:

เดี๋ยวนี้นะครับ ใช้อย่างที่คุณสอนผมนะครับ เวลาเดินมีความคิดว่าอันนี้อยากเดินอะเปล่า
ไม่สน รู้พอแล้วกลับมารู้ที่กายต่อ เดินต่อ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ รู้อยู่กับปัจจุบันให้ทัน คือรู้อยู่ในกาย ไม่ส่งจิตออกนอก

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

บางคนงง รู้แค่นี้เองเหรอ แค่นี้น่ะ มันไม่ใช่แค่นี้แบบที่เขาคิดๆกันนะคะ

ooสาธุoo says:
อย่าว่าอบ่างนั้นเลย ผมเองยังคิดเลย

สุขที่แท้จริง says:

เป็นไงคะ พอมาทำเอง

ooสาธุoo says:

จนสิ้นสงสัย รู้แค่นี้พอแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ รู้แค่นี้แหละ รู้ให้ตลอด ไม่ต้องไปรู้นอกตัว แล้วสิ่งที่รู้แค่นี้นี่แหละ ทำให้เรารอบรู้ทุกๆโลก
ในพระไตรปิฎกอ่ะนะคุณเก๊ะ ก็ได้มาจากการรู้แค่นี้แหละค่ะ
สักวันคุณเก๊ะเจอสภาวะด้วยตัวเองก่อน แล้วจะเข้าใจ

ooสาธุoo says:

ตอนนี้นะครับ ผมรู้แค่กาย ผมก็ว่าเรื่องที่มาจากเหตุนะครับไม่ก่อต่อ
มีความคิดเกิดมากระทบ พอรู้แล้วดืงกลับมารู้กายต่อ บางทีมากระทบยังไม่รู้เลยเรื่องอะไร
มีปรับก็ดึงกลับมารู้กายแต่ไม่ยึดนะครับว่าสั้นหรือยาวตามที่คุณสอนผมนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละค่ะ กลับมารู้ที่กายได้ไวมากขึ้นเท่าไหร่
สภาวะบ่งบอกถึง กำลังของสติ สัมปชัญญะมีกำลังเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ
กิเลสจะมีช่องทางเข้าถึงจิตเราได้ยาก กระทบมารู้ แล้วอยู่กับกาย

เหตุเก่าที่ทำไว้ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ชดใช้เขาไป
เหตุใหม่ที่กำลังทำ ก็ตัดทอนเหตุที่จะเป็นการสร้างภพชาติก็สั้นลงเรื่อยๆ
สุดท้ายจะไปเหลืออะไรอีกล่ะคะ ถึงบอกเสมอๆว่า ทำตามกำลังดีที่สุด

ooสาธุoo says:

ครับ ผมมันเป็นเกวียนนา

สุขที่แท้จริง says:

ได้แค่ไหน ทำไป สะสมไป เล็กๆน้อยๆ บางคนหนึ่งนาที คิดว่าไม่มีค่า
มีค่ามากๆนะคะ สำหรับคนที่หมดโอกาสที่จะทำ

ooสาธุoo says:

ครับ มีค่าครับ

สุขที่แท้จริง says:

อ่านพวกพระสูตรน่ะค่ะจะทราบซึ้งมากๆ

ooสาธุoo says:

กับเวลาที่ปฎิบัตนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ทุกลมหายใจเข้าออกคือการปฏิบัติ
แม้นระลึกได้แบบนี้ รู้ได้แบบนี้ แล้วทำอย่างต่อเนื่อง ทางจะไปไหนเสียล่ะคะ

ooสาธุoo says:

ครับใช่เลย สะใจอีกแล้ว
วันนี้เพื่อนผมส่งขอ้ความมาให้อ่านนะครับ เรื่องนำท่วมโลก
ในวันที่22ธันวาคม ปี2555 ผมอ่านยังมานั่งตีความ

สุขที่แท้จริง says:

ไปตีความอีก

ooสาธุoo says:

ผมกลัวตาย

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ

ooสาธุoo says:

พอมีสติ มานั่งคิด โถๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เราจะอยู่ถึงอะเปล่า

สุขที่แท้จริง says:

สักวัน ความตาย ก็จะเหมือนสิ่งอื่นๆแหละค่ะ ค่าเท่ากันหมด คิดไปโน่นนนนนน

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ

สุขที่แท้จริง says:

จิตมันไวววววววววววว

ooสาธุoo says:

จะไปสร้างเรือโนอารแล้วผม อ่านปั๊บปรุงเรียบร้อยเลย เศร้า พอมีสตินั่งหัวเราะตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:

ยังดีค่ะ ไม่ปรุงขนาดกระจายเมล์

ooสาธุoo says:

ผมส่งไม่เป็นนะสิ
ไม่งั้นคุณคนแรกเลย

สุขที่แท้จริง says:

แล้วก็จะถูกลบทิ้งทันทีแบบไม่ต้องอ่านเลยค่ะ

ooสาธุoo says:
แต่ในนี้ผมก็เห็นความดีอู่ยนะครับ เขาสอนว่าผู้ที่ปฎิบัตธรรมจะไม่เป็นไร
มีเวลาอีก3ปี ให้ทำความดี ทาน ศีล ภาวนา ลงท้ายด้วยว่าคนที่อ่านอย่าเครียด

สุขที่แท้จริง says:

จริงๆแล้ว น่าจะใช้คำว่า " ผู้มีสติ สัมปชัญญะ " จะดีกว่า
เพราะบางคนเขาไม่ไปปฏิบัติแบบคนอื่นๆ แต่เขามีสติ สัมปชัญญะดี ตามเหตุที่เขากระทำมา
ผิดกับบางคนบอกว่า ปฏิบัติ แต่ขาดทั้งสติ ขาดทั้งสัมปชัญญะ
อ่า แค่ทาน ศิล ภาวนา จบสมบูรณ์ค่ะ คือมีที่หมายได้เลย สวรรค์สมบัติ

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ก็มนุษย์สมบัติ บางคนบารมีเต็มเปี่ยม อาจจะบรรลุมรรค ผล นิพพานทันที ไปคาดเดาไม่ได้เลยนะคะ

ooสาธุoo says:

ครับใช่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


May 29

เมื่อคืนหลังจากปิดร้านได้ขื้นไปปฎิบัต เดิน30นาที นั่ง20นาที
พอตอนเช้าได้ปฎิบัต เดิน1ชม นั่ง30นาที ทั้งเดินและนั่งมีความคิดมาให้รู้เยอะเลยวันนี้ (มันไม่เที่ยง)


May 31

เมื่อเช้าปฎิบัต เดิน1ชม นั่ง30นาที




ooสาธุoo says:

เดี๋ยวอีกหน่อยต้องนัดกันวันเสารมาเล่นที่ร้านผม มีอะไรจะได้ให้สมาชิกมาถามที่ร้าน

สุขที่แท้จริง says:

ได้ค่ะ

ooสาธุoo says:

ดีไหมครับ ผมทำการบ้านส่งอย่างเดียว วันเสาร์เจอทีนืง

สุขที่แท้จริง says:

ได้ค่ะ จริงๆแล้ว การเขียนรายละเอียดในการบันทึกสภาวะ มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆนะคะ

ooสาธุoo says:

ผมนะครับ ตอนนี้นะครับ ไม่รู้จะเขียนอะไรด้วย มีความคิดเกิดก็รู้ แล้วกลับมารู้กาย

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:

แต่วันนี้นั่งนะครับ มีงุบหลายครั้ง เลยเอาแค่30นาทีนะครับ แต่เดินนะครับ นิ่งดีครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สัปปะหงกหรือคะ

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าไม่ใช่เต็มรูปแบบไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าสะสมไป

ooสาธุoo says:

เออผมเล่าเมื่อวานดีกว่าครับ เต็มรูปแบบครับ เมื่อวานที่ไปวัดนะครับ
ส่งจิตออกนอกมีจิตตก รู้เลยกลับมารู้กาย

เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเราจะรู้อยู่กับกายหรือเราเผลอนะครับ
แต่ถ้ามีอะไรมากระทบเราจะรู้เลยได้ไหมครับ บางทีเราเผลอไม่รู้อยู่กับกายนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าสติ สัมปชัญญะดี จะรู้ได้ทันมากขึ้นค่ะ ทำไปค่ะ อีกหน่อยจะเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ooสาธุoo says:

ครับ ของคุณเนี่ยเวลาไปไหนมาหรือเกิดสภาวะนะครับ ถ้าเราเขียนลงไปเนี่ย

สุขที่แท้จริง says:

คะ มีอะไรหรือคะ

ooสาธุoo says:

คือผมกำลังถามว่าเราก็จะได้อ่านในตอนหลังใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:

พอดีวันนี้ผมเข้าไปอ่านในบอก๊คุณนะ เหมือนบันทึกสว่นตัว

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างคือสภาวะ แล้วแต่ว่า ใครอ่านแล้วจะรู้สึกอย่างไรค่ะ
สภาวะก็คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในใจของเรา แต่มีคนอีกมากมายยิ่งนักที่ไม่เข้าใจคำว่า สภาวะ
หลายๆคนรู้แค่ว่า สภาวะคือสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไปคิดว่า สิ่งๆนั้นเป็นสิ่งที่เกิดนอกตัวเรา

ooสาธุoo says:

ครับ เมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนั้น จนมาอ่านสภาวะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละค่ะ ความไม่รู้

ooสาธุoo says:

ที่มีอิจฉา รักตัวเองมาก เลยปัดความผิดให้คนอื่นๆ

แล้วคุณบอกว่าสภาวะใครสภาวะมัน อย่าอิจฉาเลย
ผมยังคิดว่าสภาวะนะคือความคิดที่เราปฎิบัตแล้วเกิดขื้น
ถ้าอย่างนั้นแต่ละคนสภาวะย่อมไม่เหมือนกัน ขื้นกับเหตุใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่เลยค่ะ แต่กิเลสเหมือนๆกัน แตกต่างตรงที่ว่า ใครสร้างเหตุกิเลสตัวไหนมามากกว่ากันเท่านั้นเองค่ะ
เหตุที่ทำ ที่เกิดจากกิเลส จึงได้รับผลแตกต่างกันไป

ooสาธุoo says:

ครับ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 01


เมื่อคืนหลังจากปิดร้านได้ขื้นไปปฎิบัต เดิน20นาที นั่ง20นาที
เช้าได้ปฎิบัตเดิน1ชม นั่ง 1ชม ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม

มีเรื่องเล่าให้ฟัง1เรื่องครับ เป็นเรื่องกรรมของผมเองเมื่อก่อนผมขายนำดื่ม
ผมเคยส่งถังนำดื่มที่รั่วตรงตูดถังให้ลูกค้าเวลาควำในตู้นำเย็น
ถ้าถังรั่วนำจะไหลออกมาหมดท่วมของเขาเสียหาย
วันนี้ผมเจอเองเลยครับถังที่ควำในตู้นำเย็นผมรั่ว กิกิ เต็มร้านเลย
เป็นเมื่อก่อนนะ เม้งแตก แต่นี่พอคิดเรื่องเก่าเลยคิดว่าใช้เขาไปเสีย กิกิ สะใจครับผม


ooสาธุoo says:

ผมถามอะไรหน่อยนะครับ คือว่าตอนเราเกิดความคิดนะครับ
เราดึงกลับมารู้กายเลยหรือว่าถ้าเราดูกอ่นว่าคิดเรื่องอะไร

สุขที่แท้จริง says:

แล้วแต่ค่ะ จะดูหรือไม่ดูอยู่ที่เราเอง ดูแล้วไหลไปไม๊

ooสาธุoo says:

คือถ้าดูก็ต้องไม่ลงไปเล่น

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าไหลก็กลับมารู้กาย ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:

ออคืออย่างนี้ครับ การดูกิเลสนะครับ จะพูดยังไงดี
คือผมกำลังคิดอย่างนี้นะครับ ว่าหนังสือแต่ละเล่มคือกิเลส1ตัว หนังสือ1เล่มกิเลส1ตัว

สุขที่แท้จริง says:

กิเลส คือ สิ่งที่เกิดในจิตของเราค่ะ ที่เกิดขึ้นทุกๆขณะ
ทุกๆการกระทบ จะมีกิเลสเกิดขึ้น เข้ามาทั้งทวารทั้ง 6
การดูกิเลส คือ ดูจิตเราค่ะ ทุกๆครั้งที่เกิดการกระทบ

ooสาธุoo says:

ครับ ฮือผมสำคัญผิด ความคิดคือความคิด

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เป็นไรค่ะ คุณเก๊ะกำลังฝึกพิจรณา ไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด

ooสาธุoo says:

ถ้าอย่างนี้นะครับ ความคิดนะครับ เรารู้ว่ามี ก็น่าจะกลับไปรู้กายคือผมกลัวว่าจะลงไปเล่นด้วยนะสิครับ
ไม่มั่นใจ แต่กิเลสต้องเกิดจากการกระทบก่อนใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ การจะเกิดอะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างมีเหตุมาก่อน เหมือนเรื่องถังน้ำที่คุณเก๊ะเล่ามา
สติคุณทัน คุณระลึกถึงเหตุที่เคยทำไว้ คุณเลยไม่ไปอารมณ์เสียคือโทสะไม่เกิด

ooสาธุoo says:

ฮือใช่ครับ ขอบคุณมากครับ ผมพอเข้าใจแล้วครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ดีแล้วค่ะ ฝึกพิจรณา หาเหตุและผล

ooสาธุoo says:

กิเลสต้องมีเหตุมาก่อน

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างมีเหตุมาก่อน ผลเลยมาแสดงให้เห็น ทีนี้อยู่ที่สติเราละ ทันไหม

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ

สุขที่แท้จริง says:

หยุดหรือไปต่อ ถ้าทันคือ หยุด ถ้าไม่ทันคือต่อ เหมือนการกระทบต่างๆในชีวิตของเรา
ถ้าเรารู้จักพิจรณาเหตและผล เวลาใครมาว่าเรา เราจะไม่ไปเถียงเขาเลย
เพราะเราเข้าใจเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น

ooสาธุoo says:

ครับ ผมถูร้านไปเดินคิดไปว่า ถ้าผมไม่มีพี่เลี้ยงผมคงยังไม่รู้เรื่องกิเลสนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เข้าใจค่ะ หาคนเข้าใจเรื่องสภาวะของกิเลสได้ยาก
มีแต่คนรู้ว่านี่เรียกกิเลส แต่ไม่รู้จักโดยสภาวะ

ooสาธุoo says:

ครับ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วแต่เหตุที่ทำมานะคะ

อย่างหมูนี่ ทำมายังไม่ถึงปี สามารถแยกแยะถูกผิดตามความเป็นจริงได้
หรือตัวคุณเก๊ะเอง ทุกคนที่ได้รู้จักกิเลสโดยสภาวะที่แท้จริงของกิเลส ถือว่าเดินถูกทางแล้วค่ะ

ooสาธุoo says:

ที่ผมเล่าให้ฟังในบอก๊นะครับ ผมคิดว่าเป็นการใช้หนี้กรรมที่เรากระทำนะครับ ไม่ได้มองไปถึงเรื่องโทสะ
พี่เลี้ยงมาบอกเลยเข้าใจ ความจริงถ้ากระทบโทสะต้องมากอ่น
แล้วถืงคิดต่อเรื่องกรรม เพื่อการระงับ ใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

เพื่อไม่สร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นค่ะ เพราะพอเราเข้าใจเรื่องเหตุและผล
เราจะไม่คิดสร้างเหตุใหม่ที่เป็นอกุศลกรรมอีกค่ะ ถ้าสติไม่ทัน เราจะไม่ไประลึกถึงเหตุหรอกค่ะ
กิเลสนำหน้าไปก่อนแล้วว ตัวโทสะไปก่อนเลย

ooสาธุoo says:

ครับ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 02


หลังจากปิดร้านขื้นไปปฎิบัต เดิน10นาที นั่ง10นาที
ตอนเช้ามาปฎิบัต เดิน40นาที นั่ง1ชม
ตอนนั่งยังกับว่ามีคนเรียกก็กำหนดรู้หนอแล้วกับมารู้กาย
พอนั่งไปสักพักมีอาการเคลิ้มแล้วมีเสียงคล้ายแฟนเรียก มีสดุ้งแต่ไม่ลืมตา
สติตั้งว่าเอ๋อแฟนไปทำงานจะมาเรียกได้ไง เลยใช้นิ้วที่ว่างอยู่บนตักเขี้ยกันไปมาเพื่อให้รู้กาย
แล้วก็เฉยกับมารู้กายตามเดิม ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม

ผมมีเรื่องเล่าให้ฟังครับ คือเมื่อวานคุณแม่ผมมาเลยไปรับหลานด้วยกันนั่งคุยกับไปในรถ
ผมก็คุยเรื่องปฎิบัตว่าเราจะปฎิบัตคือเดิน1ชมนั่ง1ชมเวลาขื้นไปปฎิบัตก็ประมาณ09.00-11.00น

เวลาแฟนเข้าบ่ายเขาจะรอเรากินข้าวหรือจะคุยกับเราอะเปล่า(ผมว่าน่าจะผมเดาไปเองมากกว่าครับ)
ต่อครับผมก็เลยเล่าให้แม่ผมฟัง ว่าเวลานี้ผมได้พี่เลี้ยงดีมากปฎิบัตได้ดีขื้น เดินและนั่งก็ดีขื้น
แต่วันนี้พอตอนเดินผมมีความคิดเกิดขื้นมาว่า เออที่เราเล่าให้แม่เราฟังนะมี2ประเด็นนะครับ

1 เราอาจจะคิดไปเองเรื่องแฟนว่าเขาไม่พอใจที่เราปฎิบัต ใช้เวลานาน
2 การที่เราเล่าว่าเดี๋ยวนี้เดิน1ชม นั่ง1ชม เป็นการคุยโอ้อวดตัวเอง

มีเรื่องเล่าอีกเรื่องครับเพิ่งเกิดมิกี้เลย พอดีแฟนลืมปิดแก๊ส พอผมกลับมาเมื่อเช้านี้แล้วจืงคอ่ยมาปิด พอดีมิกี้แฟนเพิ่งกลับมาจากงานผมก็เลยบอกกับเขาว่าให้ระวังหน่อยกันไว้กอ่นเผื่อเกิดเพลิงไหม้
เขาพูดแบบให้ผมคอยระวังบ้างสิ

ยอมรับครับผมมีเคืองแต่ก็ดึงมารู้กายแต่มีคาใจครับ พอมานั่งแล้วคิดต่อว่าเขาคงเหนื่อยงานมา
แล้วก็คิดว่าเราชดใช้กรรมที่เมื่อกอ่นเราเคยใส่อารมกับเขาไว้ กิกิ หายคาใจเลยครับ


walai lo(Available)wrote:
อนุโมทนาค่ะ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น คือ อดีตที่เราเคยทำไว้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2010, 01:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 03


เมื่อคืนหลังจากปิดร้านได้ขื้นไปปฎิบัต เดิน20นาที นั่ง20นาที
ตอนเช้ามาปฎิบัต เดิน45นาที นั่ง45นาที
แต่ยังมีเรื่องคาใจอยู่นะครับวางไม่ลงยังมีแต่ก็รู้ ผมก็เลยคิดไปต่อเลยว่าที่แฟนเป็นอย่างนี้
อาจจะมาจากการทำงานแล้วเหนื่อย(เพราะจะมีคนแชวเสมอว่าผมทำงานสบาย กิกิ )
แต่เดี๋ยวนี้นะครับ ผมเป็นคนพูดนอ้ยลงแล้วไม่ค่อยพูดเล่นเท่าไรแล้ว ก็เลยนั่งคิดนะครับ

ถ้าเป็นเมื่อกอ่นนะครับ ผมเงียบคืองอนเขา
แต่เมื่อเช้าผมคิดว่าถ้าเราพูดน้อยลงการกระทบกับตัวแฟนหรือการไม่พอใจของเขาอาจจะน้อยลง
ก็เลยคิดว่าจะออกทางไหนดีเพราะเราเปลี่ยนนิสัยจากเคยพูดมากเป็นน้อยลง
(มันเป็นไปเองนะครับเดี๋ยวนี้พูดนอ้ยลง)

คิดว่าผมทำไงดีแล้วก็มีความคิดขื้นว่าเอาอย่างนี้ดีไหมครับกลับหน้าที่กันคือแฟนออกไปทำงาน
ผมก็ต้องทำงานบ้านแทนเขาสิ กิกิ เวลาเขามาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับงานบ้าน
คิดได้ดังนั้นก็จัดการกับเจ้าวัตถุตัวเหตุที่เมื่อวานกอ่นเลย

คือจัดการทำความสะอาดเตาแก๊สกอ่นเลย ผมก็เลยคิดว่าเราก็ทำงานบ้านที่เราทำเป็นและทำได้ กิกิ
ผมบ่นให้ฟังนะครับจะได้เรื่องไหมเนี่ย ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม


ลงเรื่องการเงินด้วยเลยนะครับเมื่อวานใช้ตังไป150บาทคือค่าทางดว่น50 ให้แคทดี้คนที่ถือถุงกลอฟ
ให้หลานไปอีก100ค่าทิปนะครับ เล่าต่ออีกเรื่อง(ไหนว่าไม่เป็นคนพูดมากไง กิกิ)

คือผมก็ไปนั่งรอหลานก็ถามแคทดี้คนถือถุงกลอฟดูนะครับว่าได้ออกทุกวันไหมเขาก็บอกผมว่าไม่คะ
อาทิตยนืงน่าจะได้สัก2ครั้ง(ถ้าผมจำไม่ผิดนะครั้งนึงเขาจะได้ประมาณ200)
ผมลองคำนวณดู 1เดือนจะได้8ครั้ง(ประมาณ1600บาทต่อเดือน)
ผมคิดนะครับทีแรกว่าทำไมเราถืงต้องให้ทิบดว้ยพอได้นั่งคุยผมนึกสงสารทันทีเลย
โหบางคนมีครอบครัวบางวันไม่ได้เดี๋ยวนี้ผมเลยเต็มใจให้ทิบเลย

walai lo(Available)wrote:
อนุโมทนาค่ะ
เมื่อสติ สัมปชัญญะมีกำลังมากขึ้น การพูดเรื่อยเปื่อยจะน้อยลงไปเรื่อยๆค่ะ


สุขที่แท้จริง says:

ได้อ่านบล็อกแล้วค่ะ
อิอิ .. พ่อบ้านคนใหม่ อนุโมทนาค่ะ

ooสาธุoo says:

ยังมีคาใจอยู่เลยครับ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจนะคะความรู้สึก ทำไปเถอะค่ะ คาใจก็ให้รู้ว่าคาใจ

ooสาธุoo says:

ดีเหมือนกันครับ ใช่ครับ จะได้หัดว่าง
ในสิ่งที่ใกล้ตัวผมที่สุด ผมจัดเวลาให้ดี เป็นไงครับความคิดผม
แม่บ้านคนให่ม ทางออกได้ดีนาผมว่า

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ เอาใกล้ตัวเราก่อน แบ่งเรื่องเวลา จะได้ไม่เกิดผลกระทบทั้งสองฝ่าย

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

พอเขาเข้าใจมากขึ้น คุณค่อยเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆค่ะ

ooสาธุoo says:

วันนี้นะครับผมเพิ่งรู้นะว่ามีอะไรคาใจ มันไปกระทบการปฎิบัต แต่ก็รู้แล้วกัลบมารู้กาย
แต่วันนี้นะครับ เหมือนเหนื่อยๆๆๆ จะหลับท่าเดียว

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เที่ยงค่ะ เสร็จกิเลสไปแล้วค่ะ เลยเหนื่อยหนัก

ooสาธุoo says:
วิ่งไปไกลเกิน

สุขที่แท้จริง says:

อีกหน่อยคุณจะไม่ต้องมาเหนื่อยอีกค่ะ เพราะแค่รู้มากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ก็โดนนะคะที่ทำงาน เขาจะให้ย้ายไปอยู่ข้างล่าง รวมกับพนักงาน
แต่ยังคงมีห้องส่วนตัวและติดแอร์ให้เราเหมือนเดิม เขากำลังหาห้องใหม่อยู่
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะคะ จิตตกแน่ๆ นี่ไม่มีค่ะ

เพราะอยู่ตรงไหนเราก็ทำได้
วิบากกรรมน่ะค่ะ ตอนนี้ที่ทำงานหลายๆฝ่ายกำลังลุกเป็นไฟกันเลย
มีคนที่เขาเข้ามาใหม่พยายามผลักดันตัวเองเพื่อให้ขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่า
เขาเอาเรื่องแต่ละแผนกที่เขารู้มาไปรายงานคุณภรรยาผู้ดูแลบริษัท
งานนี้ ไม่รู้ว่าใครทุกข์กว่าใครละ โดนกันไปถ้วนๆหน้า

ooสาธุoo says:

เจอวิชามารแล้วครับ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ตรงเราเองนะ เขาพยายามมาตั้งแต่แรก แต่เขาทำอะไรไม่ได้
เขาพยายามจะหาทีมใหม่เข้ามาทำแทน แต่เขาทำไม่ได้
แผ่เมตตาให้พนักงานทุกๆคนแหละค่ะ เห็นไหมคะ นี่แหละบททดสอบมีตลอดเวลา
คุณเอง เริ่มมีต้นทุนแล้ว เลยโดนทวงละ

ooสาธุoo says:

ขนาดว่าใช้กรรมนา

สุขที่แท้จริง says:

ยังดีนะคะที่รู้ตัว ถ้าไม่รู้ตัว สงสัยเป้นเรื่องนะของคุณน่ะค่ะ

ooสาธุoo says:

ใช่ครับ แต่ยังมีคาใจ

สุขที่แท้จริง says:

ให้เวลาค่ะทั้งสองฝ่าย

ooสาธุoo says:

แต่บอกตามตรงเลยครับ ถ้าเป็นเมื่อกอ่นผมจะต้องคุยให้เครีย จะเอาใครผิดใครถูก แต่นี่เราถอยครับ
พอถอยออกมานั่งคิด ก็มีความคิดเหมือนในบอก๊นะครับ ว่าเราคงทำไว้เมื่อกอ่นใช้กรรมไป

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สิ่งที่เราทำไว้ ระลึกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ซึ่งอาจจะไม่รู้ว่า ใจลึกๆเขาคิดอะไรอยู่
แต่เท่าที่ฟังเขาพูดๆระบายออกมานะคะ เกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ เกี่ยวกับหลายๆอย่างและเรื่องปฏิบัติ
เขาค่อนข้างเก็บกดอะไรๆเอาไว้มาก ฉะนั้นคุณเอง ต้องถอยนะคะ อย่าตอบโต้
ตอนนี้เขากล้าพูดมากขึ้น เพราะเห็นคุณเฉยลง

ooสาธุoo says:

ตอนนี้นะครับ ผมพูดนอ้ยลงนะครับ การล้อเล่นน้อยลงนะครับ มันก็จะเป็นปัญหาอีก

สุขที่แท้จริง says:

จะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ เมื่อมีสติ สัมปชัญญะมากขึ้น

ooสาธุoo says:

ถ้าคิดมากก็จะหาาเรามีใจออกห่าง

สุขที่แท้จริง says:

อีกละ คาดเดาไปเรื่อย

ooสาธุoo says:

เราเลยต้องทำแต่พอดี โถๆๆๆๆๆๆๆ ผมอู่ยมาเกือบ30ปี
อย่างนอ้ยก็น่าจะเข้าเค้า70เปอรเชน ผมเลยค่อยๆๆๆไปดีกว่าครับ เล่นบ้าง

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้วค่ะ

ooสาธุoo says:

ผมใจไม่เด็ดเหมือนหลวงพี่เชียรท่าน เปรียบเทียบอีกแล้ว เดี๋ยวไปให่ญ

สุขที่แท้จริง says:

อย่าเลยค่ะ การปฏิบัติ เมื่อเราเข้าใจ ควรช่วยคนอื่นๆด้วย
ไม่ใช่ไปทำแบบนั้น คนในครอบครัว อีกฝ่ายอาจจะทุกข์ แต่ไม่พูดอะไร
วิบากกรรมเปล่าๆค่ะ ชาติต่อไปก็จะถูกอีกฝ่ายทิ้งแทน ทำความเจ็บช้ำน้ำใจต่อกัน
ดีแล้วที่คุณยังพอเข้าใจเรื่องเหตุที่กระทำและผลที่ต้องได้รับ ลองคิดถึงคนที่ไม่รู้สิคะ

ooสาธุoo says:
ครับ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 19:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 04

เมื่อคืนปิดร้านแล้วขื้นไปปฎิบัต เดิน30นาที นั่ง30นาที
พอตอนเช้าปฎิบัต เดิน45นาที นั่ง1ชม ขอบคุณครับที่เป็นพี่เลี้ยงผม


oสาธุoo says:

2-3วันนี้เดินแล้วมีอาการงว่ง ผมเลยลดเวลาเดินลงมาเหลือ45นาที

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ มันไม่เที่ยงค่ะ ปรับขึ้นบ้าง ลงบ้าง ปรับได้ตลอด ถ้านั่งแล้วง่วงก็ลดนั่งลง เพิ่มเดิน

ooสาธุoo says:

ครับ ตอนนี้นั่ง1ชมไม่งว่ง ผมใส่คำบริกรรมเข้าไปดว้ยนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

ได้ค่ะ ถ้าสติดี สมาธิแนบแน่นดี คำบริกรรมจะหายไปเองค่ะ

ooสาธุoo says:

ครับ อยู่กับพี่เลี้ยงคนนี้ได้ทุกอย่างจริงๆๆๆๆ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ โมทนาค่ะ ที่สร้างประโยชน์ให้ได้
วันนี้มีรุ่นน้องมาเล่าให้ฟัง เรื่องแผ่นดินไหวในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ ที่กรุงเทพ
ซึ่งคนทำนายเป็นคนเดียวกับที่ทำนายประเทศเฮติไว้ เห็นว่าความแรงอยู่ที่ 9 ริกเตอร์
ก็เลยบอกเขาว่า จงเป็นผู้มีสติ อย่าได้ไปคาดเดาอะไรล่วงหน้า เหตุมี ผลย่อมมี
หากเราไม่เคยสร้างเหตุเอาไว้ ผลกระทบย่อมไม่ส่งผลถึงเรา
ทางฝ่ายแพทย์ พยาบาล เห็นว่า เขาให้ไปเตรียมฝึกรับมือไว้ล่วงหน้า

ooสาธุoo says:

งั้นคุณก็ต้องไปหรือเปล่าครับ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ค่ะ ไม่สนใจ

ooสาธุoo says:

มันจะเกิดก็เกิดมันเป็นธรรมชาติ

สุขที่แท้จริง says:

การเจริญสติ พอถึงจุดๆหนึ่งแล้ว มันอยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ

ooสาธุoo says:

จะไปห้ามได้ไง มีเรื่องเล่าให้ฟังสอบตกอืกแล้ว
วันนี้ไปรอหลานว่ายนำ ผมมีที่นอนสมาธิ ไม่งงนะ
มีที่นอนสมธิ ได้ไปประมาณเกือบ1ชม พอออกมา เดินมาให้หลานกลับได้แล้ว
เขาก็จะเล่น เลยมีโทสะเกิดแต่ออกไปหน่อยแล้ว เผลอไม่ได้เลย มาทดสอบได้ตลอดเวลา

สุขที่แท้จริง says:

ตัวโทสะจะไวมากๆค่ะ แต่เห็นได้ชัด ไม่เหมือนตัวโมหะหรือความหลง
กิเลสตัวนั้นจะเนียนละเอียดมากกว่านะคะ

ooสาธุoo says:

เออตกลงที่ทำงานย้ายลงมาข้างล่างไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ยังเลยค่ะ ยังคงทำห้องเดิมอยู่ ตอนนี้คนๆนั้น ก็หาเรื่องรายงานคนอื่นๆไปทั่ว เหตุของเขา

ooสาธุoo says:

แต่เจ้าของบริษัทเขารู้ไหมครับว่าคุณปฎิบัต

สุขที่แท้จริง says:

เขารับผลเอง ไม่มังคะ เพราะไม่เคยคุยด้วย แต่พนักงานส่วนมากจะรู้
แค่เราเดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม. แล้วสมาธิแนบแน่นดี รู้อยู่กับกายและจิตเราได้ตลอดจนหมดเวลานี่
ถือว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ


ooสาธุoo says:

เออผมถามหน่อยได้ไหมครับ ถ้าเวลาเดินและนั่งเรารู้แค่กายกับจิต
จิตมีคิดเราก็รู้ว่ามันคิดอะไร แต่ถ้าสติเราดี
มันจะสั้นใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

มันจะสักแต่รู้ว่ามีความคิดเกิดค่ะ แต่ไม่มีความหมายอะไร ไม่รู้ว่าคิดอะไร รู้แต่ว่ามี

ooสาธุoo says:

ครับ ตัวคุณนะครับ

สุขที่แท้จริง says:

แต่ถ้ากำลังของสมาธิแรงมาก ความคิดจะดับหมด ไม่มีเกิดขึ้น จะมารู้อยู่กับกายได้ตลอด

ooสาธุoo says:

ก็มีความคิดเกิดใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

มีบางครั้งค่ะ ไม่ทุกครั้ง แล้วแต่กำลังของสมาธิ

ooสาธุoo says:

ครับ สมาธิจะมากได้ก็ต้องค่อยๆๆๆสะสมไปใช่ไหมครับ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ขึ้นอยู่กับตัวสติ สัมปชัญญะด้วยค่ะ ทำไปเรื่อยๆค่ะ

ooสาธุoo says:

ครับ ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรมากแล้วละครับ

สุขที่แท้จริง says:

ถึงให้สะสมไปไงคะ เวลาไม่ได้ทำเต็มรูปแบบ การหลับไปก็คือสมาธิอย่างหนึ่ง

ooสาธุoo says:

อ๋อที่คุณให้ผมเดินในร้านเป็นการสะสม

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ

ooสาธุoo says:

ถ้าทำได้นะครับควรจะได้เดิน1นั่ง1ใช่ไหมครับ ต่อ1วัน

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าทำได้ค่ะ ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงขั้นต่ำค่ะ

ooสาธุoo says:

อ๋อครับ

สุขที่แท้จริง says:

แต่สามารถทำได้ทั้งวัน คือจะกี่รอบก็ได้ ขึ้นอยู่กับโอกาสของคนๆนั้น

ooสาธุoo says:

ทำได้ตลอดถ้ามีเวลา

สุขที่แท้จริง says:

คุณคิดดูละกัน ถ้าเรามีเวลาตลอดทั้งวันทั้งคืน แล้วเราสามารถเดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.
แล้วรู้อยู่ในกายและจิตได้ตลอดเวลา กิเลสไม่มีโอกาสที่จะแทรกเราได้เลย

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

เพราะสติ สมาธิ คือ พละ ๕ ทำงานตลอดเวลา ถึงบอกไงคะ ขึ้นอยู่กับเหตุที่แต่ละคนกระทำมา
ขนาดพระ ขออภัยนะคะที่เอ่ยถึงพระ เพราะยกตัวอย่างได้ง่ายสุด พระท่านมีเวลาทั้งวัน
ถ้าอานิสงส์หรือเหตุที่ท่านทำมา แต่บางรูปท่านกลับไม่ได้ทำ เห็นไหมคะว่า เหตุแต่ละคนแตกต่างจริงๆ

ooสาธุoo says:

ครับใช่

สุขที่แท้จริง says:

ฉะนั้นการที่มีคนบอกว่า ต้องพระเท่านั้นที่จะสำเร็จได้ อันนั้นไม่จริง
เป็นเพียงข้อ้างในการปลอบใจตัวเองค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุที่ทำมากันเอง

ooสาธุoo says:

ครับเมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนั้น เพราะพระท่านมีเวลามาก

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เหมือนกันค่ะ

ooสาธุoo says:

อย่างวันนี้นะครับ มีหลุด ผมยังนั่งคิดเลยว่าทำไมยังหลุด ผมตีค่าอีกแล้ว ถ้าสติไม่ทันทุกขอีก

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สติจะบอกเรา ให้ค่าเมื่อไหร่ เสร็จทันที เอาอีกแล้ว

ooสาธุoo says:

ก็เหมือนกับเรื่องแฟน 2วันครับ ถึงว่างลง ที่ไหนได้ ผมตีค่าความคิดผมเองนะละ

สุขที่แท้จริง says:

ใช้เวลาค่ะ โดยเฉพาะคนใกล้ตัวด้วย กระทบง่ายสุด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร