วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 20:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
เหอๆ

ธรรมะคือะไร ตับไตใส้พุง หรือกางเกงที่นุ่ง ก็ดูสวยดี
หรือยี่ห้อรถยนต์ ..........
ธรรมใดที่รู้แล้วได้ทราบแล้ว จะได้รู้ยิ่งขึ้น จะได้ทราบยิ่งขึ้น...

จิตนี่แหละคือธรรม ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด


ท่านป๊อดไลท์ ขอคำอธิบายธรรมชาติของจิต :b1:


ธรรมชาติของจิต คือเงาหรือเจตสิก
จิต ก็คือจิต คือพุทธะ


ตำรานิกายไหน :b1:

ธรรมชาติของจิต คือ คิดอารมณ์ (มีบทวิเคราะห์ว่า อารมฺณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต)
ธรรมชาติของเจตสิกคือเกิดร่วมกับจิต ดับพร้อมกันจิต มีอารมณ์เดียวกับจิต มีวัตถุอย่างเดียวกับจิต (สรุปง่ายๆ เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน )

ถามต่อ จิตที่ประกอบด้วยราคะ โทสะ โมหะ เป็นพุทธะ (คือพุทธะ) หรือไม่ หรือ อย่างไร ขอฟังคำอธิบาย


ตำรานิกายไหน :b1:
นิกายไหน ก็เป็นเงาที่เคลื่อน

ธรรมชาติของจิต คือ คิดอารมณ์ (มีบทวิเคราะห์ว่า อารมฺณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ ธรรมชาติใด ย่อมคิดซึ่งอารมณ์ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า จิต)

นั่นวิเคาะ์ไปได้แค่เงา

ถามต่อ จิตที่ประกอบด้วยราคะ โทสะ โมหะ เป็นพุทธะ (คือพุทธะ) หรือไม่ หรือ อย่างไร ขอฟังคำอธิบาย

เหอๆ
พุทธะ ประกอบด้วยสิ่งเหล่านั้นเหรอ



ก่อนหน้าท่านป๊อดไลท์กล่าววา

ธรรมชาติของจิต คือเงาหรือเจตสิก
จิต ก็คือจิต คือพุทธะ


ต่อมาบอกว่า

พุทธะ ประกอบด้วยสิ่งเหล่านั้นเหรอ

ก็แถไปแถมา

ถามอีกทีพุทธะในความหมายของท่านป๊อดไลท์ คือ?


ก่อนหน้าท่านป๊อดไลท์กล่าววา

ธรรมชาติของจิต คือเงาหรือเจตสิก

เหอๆ

กลัดกามผู้หื่น ผู้มีธรรมอันเลวเอ๊ยยังอ่อนอภิธรรมมากนะ

เงา หรือเจตสิก นั่นเป็นเพียงธรรมชาติของจิต

จิต ก็คือจิต คือพุทธะ


ต่อมาบอกว่า

พุทธะ ประกอบด้วยสิ่งเหล่านั้นเหรอ

แล้วพุทธะ ประกอบด้วย โลภะ โทสะ โมหะ เหรอ แบบกลัดกามผู้หื่น ผ้มีธรรมอันเลวกล่าวเหรอ



ก็แถไปแถมา

ถามอีกทีพุทธะในความหมายของท่านป๊อดไลท์ คือ?

เหอๆๆ

คำว่า ความหมาย ก็เป็นเงาของจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




54848500.gif
54848500.gif [ 19.52 KiB | เปิดดู 3888 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
ก็แถไปแถมา

ถามอีกทีพุทธะในความหมายของท่านป๊อดไลท์ คือ?

เหอๆๆ

คำว่า ความหมาย ก็เป็นเงาของจิต


คิกๆๆๆ :b9: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 พ.ค. 2010, 16:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
ธรรมะคือะไร ตับไตใส้พุง หรือกางเกงที่นุ่ง ก็ดูสวยดี
หรือยี่ห้อรถยนต์ ..........
ธรรมใดที่รู้แล้วได้ทราบแล้ว จะได้รู้ยิ่งขึ้น จะได้ทราบยิ่งขึ้น...

จิตนี่แหละคือธรรม ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด


smiley Lips beby

ขอบคุณ ท่าน เอ็นไลท์เท็ด

ธรรมะของท่าน เอ็นไลท์เท็ด คือ

1. ธรรมะคือรูป..... สิ่งของ...(ตับไตใส้พุง หรือกางเกงที่นุ่ง ก็ดูสวยดี
หรือยี่ห้อรถยนต์ .......... )

2. ธรรมะคือจิต.... ไม่มีเพิ่ม... ไม่มีลด....


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 06 พ.ค. 2010, 19:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
สวัสดีคุณโคตรภู ครับ หายไปนานนะครับ


cool

สวัสดีครับ ท่านหลับอยู่
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ยังติดตาม ผลงาน และตามเชียร์ วิวาทะกรรม อยู่ห่างๆ ครับ

ท่านหลับอยู่ ยังไม่ได้แสดง ทัศนะในเรื่องของ ธรรมะคืออะไร ให้โคตรภู
ได้ทราบ ได้เห็น..... เพื่อ.... ธรรมใดที่โคตรภูได้รู้.....ได้เห็นแล้ว....
.....จะได้รู้ยิ่งขึ้น... ได้เข้าใจยิ่งขึ้น..... ครับ


เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นะครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


klinhom เขียน:
ธรรม คือ ธรรมชาติ


smiley

ขอบคุณ ครับ ท่านกลิ่นหอม
ที่มายืนยันอีกท่านหนึ่งว่า ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ครับ


........................................

smiley

เช่นนั้น เขียน:
ธรรมะ คือ การผสมของ พยัญชนะ และ สระ เพื่อสื่อถึงเนื้อหา ให้เป็นที่เข้าใจของมนุษย์บางกลุ่ม


ขอบคุณท่านเช่นนั้น ครับ ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นว่า......

ธรรมะ คือ รูปและสัญญา(พยัญชนะและสระ)... สังขาร(การผสมของ พยัญชนะ และ สระ)...
เวทนา(เพื่อสื่อถึงเนื้อหา)..... วิญญาณ(ให้เป็นที่เข้าใจของมนุษย์บางกลุ่ม).....


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 00:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
enlighted เขียน:
ธรรมะคือะไร ตับไตใส้พุง หรือกางเกงที่นุ่ง ก็ดูสวยดี
หรือยี่ห้อรถยนต์ ..........
ธรรมใดที่รู้แล้วได้ทราบแล้ว จะได้รู้ยิ่งขึ้น จะได้ทราบยิ่งขึ้น...

จิตนี่แหละคือธรรม ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด


smiley Lips beby

ขอบคุณ ท่าน เอ็นไลท์เท็ด

ธรรมะของท่าน เอ็นไลท์เท็ด คือ

1. ธรรมะคือรูป..... สิ่งของ...(ตับไตใส้พุง หรือกางเกงที่นุ่ง ก็ดูสวยดี
หรือยี่ห้อรถยนต์ .......... )

2. ธรรมะคือจิต.... ไม่มีเพิ่ม... ไม่มีลด....


เจริญในธรรมครับ


เหอๆๆ

ธรรมะเป็นของกลางตะหาก โคตะระภู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ธรรมะเป็นของกลางตะหาก


ธรรมะก็เป็นเงาของจิต :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ธรรมะเป็นของกลางตะหาก


ธรรมะก็เป็นเงาของจิต :b1:


เหอๆ

ธรรมะสำหรับปุถุชนนั่นแหละ ที่มีเงาจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
สวัสดีคุณโคตรภู ครับ หายไปนานนะครับ


cool

สวัสดีครับ ท่านหลับอยู่
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ยังติดตาม ผลงาน และตามเชียร์ วิวาทะกรรม อยู่ห่างๆ ครับ

ท่านหลับอยู่ ยังไม่ได้แสดง ทัศนะในเรื่องของ ธรรมะคืออะไร ให้โคตรภู
ได้ทราบ ได้เห็น..... เพื่อ.... ธรรมใดที่โคตรภูได้รู้.....ได้เห็นแล้ว....
.....จะได้รู้ยิ่งขึ้น... ได้เข้าใจยิ่งขึ้น..... ครับ


เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นะครับ


สวัสดีครับคุณโคตรภู cool

ธรรมะคือธรรมชาติ เคยได้ยินเขาว่าไว้ว่า คือการเกิดของธรรม3 ฝ่าย
ธรรมะในความคิดของผม มี3แบบครับ กุศลาธรรมา อกุศลาธรรม อัพยากตาธรรมา
ธรรมะ3แบบนี้ในความคิดของผม ก็มี หลายระดับเช่นกัน ธรรมเอกผุดขึ้นตั้งมั่นในภายในที่เราๆอ่านเจอในพระไตรปิฏก ก็มีผุดขึ้นในสภาวะฌาณหลายระดับในการเข้าถึงธรรมชาติระดับต่างๆ
หากสายหลวงปู่มั่นก็คือ ดวงพุทโธ ผมคิดว่า ก็คือดวงธรรม ในลักษณะที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำท่านสอนไว้ ซึ่งมีหลายระดับหลายแบบหลายดวงอยู่เหมือนกัน เ
มื่อเพ่งธรรมแล้วมืดตื้อ นั่นเป็นอกุศลาธรรมา เพ่งแล้วไม่มืดไม่สว่างนั่นเป้นอัพยากตาธรรมา เพ่งแล้วสว่างนั่นเป็นกุศลาธรรมา....ดวงธรรมของพระอรหันต์จะส่องสว่างเห็นไตรภพหมด ตับ ไต ไส้ พุง เห็นหมด
(ผิดพลาดขออภัยความรู้จากการอ่านและสนทนาตอนนี้ตอบได้เท่านี้) :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เพิ่มเติมครับ

เคยได้ยินจากครูบาอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ท่านมรณะภาพไปแล้วในท่าปรินิพพานในวันพระใหญ่
ท่านได้กล่าวว่า " ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"
อาจจำคำพูดท่านได้ไม่หมดขออภัยมาณที่นี้ :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 06 พ.ค. 2010, 21:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
เพิ่มเติมครับ

เคยได้ยินจากครูบาอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ท่านมรณะภาพไปแล้วในท่าปรินิพพานในวันพระใหญ่
ท่านได้กล่าวว่า " ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"
อาจจำคำพูดท่านได้ไม่หมดขออภัยมาณที่นี้ :b8:


โอว น่าเห้นใจ มั๊กๆๆ

ธรรมจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าขาดธาตุ ฮือๆๆ

ธรรมอันใดเล่า ที่ต้องอิงอาศัย ธาตุที่เกิดดับ

ธรรมอันใดเล่า ที่ไม่ต้องอิงอาศัยสิ่งใด เป็นอิสระจากทุกสิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley tongue
หลับอยุ่ เขียน:
ธรรมะในความคิดของผม มี3แบบครับ กุศลาธรรมา อกุศลาธรรม อัพยากตาธรรมา


หลับอยุ่ เขียน:
เมื่อเพ่งธรรมแล้วมืดตื้อ นั่นเป็นอกุศลาธรรมา เพ่งแล้วไม่มืดไม่สว่างนั่นเป้นอัพยากตาธรรมา เพ่งแล้วสว่างนั่นเป็นกุศลาธรรมา....ดวงธรรมของพระอรหันต์จะส่องสว่างเห็นไตรภพหมด ตับ ไต ไส้ พุง เห็นหมด
(ผิดพลาดขออภัยความรู้จากการอ่านและสนทนาตอนนี้ตอบได้เท่านี้)


ขอบพระคุณท่านหลับอยู่ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
ธรรมะคืออะไร

ณ กาลเวลานี้ ธรรมะของท่านหลับอยู่คือ
1. กุศลาธรรมา
2. อกุศลาธรรมา
3. อัพยากตาธรรมา


"อัพยากตาธรรมา" ท่านหลับอยู่หมายถึงอะไร รบกวนช่วยขยายต่อด้วยครับ

หลับอยุ่ เขียน:
เคยได้ยินจากครูบาอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ท่านมรณะภาพไปแล้วในท่าปรินิพพานในวันพระใหญ่ท่านได้กล่าวว่า " ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"อาจจำคำพูดท่านได้ไม่หมดขออภัยมาณที่นี้ :b8:


" ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"

น่าเสียดายนะครับ ที่จำคำพูดมาได้ไม่หมด มีนัยพอสมควรครับ โคตรภูอ่านแล้วทวนหลายรอบแล้ว รู้สึกสะเทือนอยู่ในใจครับ เหมือนรู้ เหมือนไม่รู้ หวังว่าในกาลข้างหน้าท่านหลับอยู่ คงไขปริศนานี้ได้ทั้งหมด บรรลุมรรคผล โดยเร็วนะครับ

เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ณ กาลเวลานี้ ธรรมะของท่านหลับอยู่คือ
1. กุศลาธรรมา
2. อกุศลาธรรมา
3. อัพยากตาธรรมา

"อัพยากตาธรรมา" ท่านหลับอยู่หมายถึงอะไร รบกวนช่วยขยายต่อด้วยครับ
ไม่ดีไม่ชั่ว ครับ เปรียบเป็นสี ก็คือสีเทา คือไม่ขาวไม่ดำ แต่ทางพระท่านจัดให้เป็นส่วนอกุศลอยู่เหมือนกัน
ธาตุธรรม3อย่าง อยู่ในตัวเรา smiley


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 07 พ.ค. 2010, 07:54, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
" ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"

น่าเสียดายนะครับ ที่จำคำพูดมาได้ไม่หมด มีนัยพอสมควรครับ โคตรภูอ่านแล้วทวนหลายรอบแล้ว รู้สึกสะเทือนอยู่ในใจครับ เหมือนรู้ เหมือนไม่รู้ หวังว่าในกาลข้างหน้าท่านหลับอยู่ คงไขปริศนานี้ได้ทั้งหมด บรรลุมรรคผล โดยเร็วนะครับ

เจริญในธรรมครับ


ผมก็แค่ฟังท่านกล่าวมาผมยังไม่บรรลุอะไรหรอกครับแต่ถามว่า ท่านรู้อะไรลึกซึ้งไหม ผมขอตอบว่าลึกซึ้งลุ่มลึกมาก เพราะผม เลือกครูบาอาจารย์ครับ และหลวงปู่ท่านนี้ ท่านอธิบายเรื่องต่างๆหลายเรื่องในอดีต ได้แจ่มเหมือนท่านไปรู้ไปเห็นมาเอง

เจริญในธรรมเช่นกันครับคุณโคตรภู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
smiley tongue
หลับอยุ่ เขียน:
ธรรมะในความคิดของผม มี3แบบครับ กุศลาธรรมา อกุศลาธรรม อัพยากตาธรรมา


หลับอยุ่ เขียน:
เมื่อเพ่งธรรมแล้วมืดตื้อ นั่นเป็นอกุศลาธรรมา เพ่งแล้วไม่มืดไม่สว่างนั่นเป้นอัพยากตาธรรมา เพ่งแล้วสว่างนั่นเป็นกุศลาธรรมา....ดวงธรรมของพระอรหันต์จะส่องสว่างเห็นไตรภพหมด ตับ ไต ไส้ พุง เห็นหมด
(ผิดพลาดขออภัยความรู้จากการอ่านและสนทนาตอนนี้ตอบได้เท่านี้)


ขอบพระคุณท่านหลับอยู่ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
ธรรมะคืออะไร

ณ กาลเวลานี้ ธรรมะของท่านหลับอยู่คือ
1. กุศลาธรรมา
2. อกุศลาธรรมา
3. อัพยากตาธรรมา


"อัพยากตาธรรมา" ท่านหลับอยู่หมายถึงอะไร รบกวนช่วยขยายต่อด้วยครับ

หลับอยุ่ เขียน:
เคยได้ยินจากครูบาอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง ท่านมรณะภาพไปแล้วในท่าปรินิพพานในวันพระใหญ่ท่านได้กล่าวว่า " ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"อาจจำคำพูดท่านได้ไม่หมดขออภัยมาณที่นี้ :b8:


" ไม่มีธาตุ แล้ว ธรรมจะอยู่ได้ยังไง"

น่าเสียดายนะครับ ที่จำคำพูดมาได้ไม่หมด มีนัยพอสมควรครับ โคตรภูอ่านแล้วทวนหลายรอบแล้ว รู้สึกสะเทือนอยู่ในใจครับ เหมือนรู้ เหมือนไม่รู้ หวังว่าในกาลข้างหน้าท่านหลับอยู่ คงไขปริศนานี้ได้ทั้งหมด บรรลุมรรคผล โดยเร็วนะครับ

เจริญในธรรมครับ


สะเทือนใจ เพราะไม่รู้
ต้องอิงอาศัยธาตุ ก็เพราะไม่รู้

รู้ ไม่ได้อิงอาศัย พึ่งพา อะไร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร