วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 11:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีอะไรเป็นความลับดอกขอรับ ที่ว่าเป็นความลับนั้น เฉพาะพลังงานที่ดันข้าพเจ้าให้กลับลงสู่โลกมนุษย์เท่านั้น อย่างอื่นก็เล่าให้ฟังเท่าที่รู้นั่นแหละ
เรื่องอุปกรณ์อย่างอื่น ที่คุณกล่าวมา ไม่เคยพบไม่เคยเห็น พวกสายฟ้าฟาด พระเพลิง ไม่ต้องนิมิต ก็เห็นได้ เมื่อเห็นแล้วจึงเกิดเป็นนิมิต โดยไม่มีการปรุงแต่ง
การเกิดนิมิต ก็เป็นเช่นเดียวกับการที่เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ ไม่ใช่เป็นการหลับฝัน
นิมิต อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะไม่ว่ายามตื่นหรือยามหลับ
การแยกนิมิต ง่ายขอรับ เพียงแต่คุณต้องสนใจสภาพจิตของตัวเอง ต้องสนใจว่า ตัวคุณผ่านหรือประสบสิ่งใดมาหรือไม่ ที่สำคัญจำไว้หรือไม่ ถ้าคุณหลับ แล้วฝันถึงเป็นเรื่องด้วยการเอาสิ่งที่คุณเห็นคุณประสบมาปรุงแต่งผสมกัน ก็ไม่ใช่นิมิต
คุณกลับขึ้นไปอ่าน ลักษณะของนิมิต อีกครั้งช้าๆ คงจะเกิดความเข้าใจได้ไม่ยาก ถ้าไม่เข้าก็ถามได้ จะตอบให้ตามที่รู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิมิต เป็นลางบอกเหตุ ที่เป็นผลมาจากสิ่งที่จิตได้จดจำมาจากอดีต

การมาของนิมิตมากได้สองแบบหลักๆค่ะ
- เราได้สมาธิมากพอที่จะบังคับจิต ส่นใหญ่จะเป็นในรูปของญาณค่ะ มีเป็นขั้นๆของการได้รับ
- สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานให้ค่ะ มีเหตุผลแน่นอน แต่จะตีความเหตุผลนั้นได้ ต้องมีปัญญาธรรมแล้วค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า "นิมิต" ตามหลักพุทธศาสนา มีสองความหมาย

ได้แก่ นิมิต ตามความหมายทางวินัย อย่างหนึ่ง

นิมิต ในทางธรรมอย่างหนึ่ง

ในทางวินัย หมายถึงเขต แดน เครื่องหมาย ที่สงฆ์สวดประกาศกำหนดเขตสำหรับทำสังฆกรรม

เช่น กำหนดหมายเอาต้นไม้ต้นนี้ ถึงต้นโน้น ฯลฯ หรือกำหนดหมายเอาก้อนหินก้อนนี้ ถึงก้อนหินก้อนโน้น

เป็นต้น สำหรับใช้ทำสังฆกรรมร่วมกันในเขตนั้น

ซึ่งปัจจุบันใช้ก้อนหินกลมๆ ที่ชาวพุทธปิดทองงานฝังลูกนิมิตนั่นแหละ นี่นิมิตทางวินัย

แต่นิมิตทางธรรมหมายถึงเครืองหมายสำหรับให้จิตกำหนด หรือ ภาพที่เห็นในใจซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งที่ใช้

เป็นอารมณ์กรรมฐาน แบ่งเป็น ๓ อย่างตามลำดับความเจริญ คู่กับภาวนา ๓

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 16:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(ดูหลักดังนี้)


กรรมฐานแต่ละประเภท มีรายละเอียดวิธีเจริญสมาธิแตกต่างกันไป แต่กระนั้น ก็พอสรุปเป็นหลักการทั่วไป

อย่างกว้างๆ ดังที่บางคัมภีร์แสดงไว้โดยจัดเป็นภาวนาคือ การเจริญหรือการฝึก ๓ ขั้น คือ บริกรรมภาวนา

อุปาจารภาวนา อัปปนาภาวนา

ก่อนกล่าวถึงภาวนา ๓ ขั้น ทำความเข้าใจนิมิต (ทางธรรม) ก่อนดังนี้



นิมิต หรือ นิมิตต์ คือ เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนด หรือ ภาพที่เห็นในใจซึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งที่ใช้

เป็นอารมณ์กรรมฐาน แบ่งเป็น ๓ อย่างตามลำดับความเจริญ คือ

๑) บริกรรมนิมิต แปลว่า นิมิตขึ้นเตรียมหรือเริ่มต้น ได้แก่ สิ่งใดก็ตามทีกำหนดเป็นอารมณ์ในการเจริญ

กรรมฐาน เช่น ดวงกสิณที่เพ่งดู ลมหายใจที่กำหนด หรือพุทธคุณที่กำหนดนึกเป็นอารมณ์อยู่ในใจ เป็นต้น


๒)อุคคหนิมิต แปลว่า นิมิตที่ใจเรียนหรือนิมิตติดตา ได้แก่ บริกรรมนิมิตนั่นเอง ที่เพ่งหรือนึกกำหนด

จนเห็นแม่นยำกลายเป็นภาพติดตาติดใจ เช่น ดวงกสิณที่เพ่งจนติดตาหลับตามองเห็น เป็นต้น

๓) ปฏิภาคนิมิต แปลว่า นิมิตเสมือน นิมิตคู่เปรียบ หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่ นิมิตที่เป็นภาพเหมือน

ของอุคคหนิมิตนั่นเอง แต่ติดลึกเข้าไปอีกจนเป็นภาพที่เกิดจากสัญญาของผู้ที่ได้สมาธิ จึงบริสุทธิ์จนปราศจากสี

เป็นต้น และไม่มีมลทินใดๆ ทั้งสามารถนึกขยายหรือย่อส่วนได้ตามปรารถนา

นิมิตสองอย่างแรก คือ บริกรรมนิมิต และอุคคหนิมิต ได้ทั่วไปในกรรมฐานทุกอย่าง แต่ปฏิภาคนิมิต

ได้เฉพาะในกรรมฐาน 22 อย่างที่มีวัตถุสำหรับเพ่งคือ กสิณ 10 อสุภะ 10 กายคตาสติ

และ อานาปานสติเท่านั้น


ดูภาวนา ๓ ขั้นต่อ

๑. บริกรรมภาวนา การเจริญสมาธิขั้นเริ่มต้น ได้แก่การกำหนดถือเอานิมิตในสิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์กรรมฐาน

เช่น เพ่งดวงกสิณ กำหนดลมหายใจเข้าออกที่กระทบปลายจมูก หรือนึกถึงพุทธคุณเป็นอารมณ์

ว่าอยู่ในใจ พูดง่ายๆว่ากำหนดบริกรรมนิมิตนั่นเอง

เมื่อกำหนดอารมณ์กรรมฐาน (คือบริกรรมนิมิต) นั้นไป จนมองเห็นภาพสิ่งนั้นติดตาติดใจแม่นยำ

ก็เกิดเป็นอุคคหนิมิต จิตก็เป็นสมาธิขั้นต้นที่เรียกว่าบริกรรมสมาธิ (คือ ขณิกสมาธินั่นเอง)

๒. อุปาจารภาวนา การเจริญสมาธิขั้นอุปจาร ได้แก่ อาศัยบริกรรมสมาธิ เอาจิตกำหนดนิมิตต่อไป

จนกระทั่งแน่วแน่แนบสนิทในใจ เกิดเป็นปฏิภาคนิมิตขึ้น

นิวรณ์ก็สงบระงับ (ในกรรมฐานที่มีวัตถุเพ่ง เพียงแต่นึกถึงอารมณ์อยู่ในใจ ไม่มีปฏิภาคนิมิต กำหนดด้วยจิต

แน่วแน่จนนิวรณ์ระงับไปอย่างเดียว) จิตก็ตั้งมั่นเป็นอุปจารสมาธิ เป็นขั้นสูงสุดของกามาวจรสมาธิ


๓. อัปปนาภาวนา การเจริญสมาธิขั้นอัปปนา ได้แก่ เสพปฏิภาคนิมิตที่เกิดขึ้นแล้วนั้นสม่ำเสมอ

ด้วยอุปจารสมาธิ พยายามรักษาไว้ไม่ให้เสื่อมหายไปเสีย โดยหลีกเว้นสถานที่ บุคคล อาหารเป็นต้น

ที่ไม่เป็นสัปปายะ เสพแต่สิ่งที่เป็นสัปปายะ และรู้จักปฏิบัติตามวิธีที่จะช่วยให้เกิดอัปปนาเช่น

ประคับประคองจิตให้พอดี เป็นต้น (อัปปนาโกศล 10 ) จนในที่สุดก็เกิดเป็นอัปปนาสมาธิ บรรลุปฐมฌาน

เป็นขั้นเริ่มแรกของรูปวจรสมาธิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Jane_peace_position.jpg
Jane_peace_position.jpg [ 134.64 KiB | เปิดดู 3076 ครั้ง ]
กรรมฐานหลายอย่างสุขุมละเอียดเป็นอารมณ์ลึกซึ้ง ไม่มีวัตถุสำหรับเพ่งหรือสัมผัสด้วยกายได้ จึงไม่ชัดพอ

จิตไม่สามารถแอบแนบติดสนิทอยู่ได้นาน จึงไม่มีปฏิภาคนิมิต และให้ผลสำเร็จได้เพียงแค่อุปจารสมาธิ

ส่วนอารมณ์หยาบ เพ่งดูหรือสัมผัสด้วยกายได้ กำหนดได้ชัดเจน จิตแนบสนิทตั้งอยู่ได้นาน

ก็ให้เกิดปฏิภาคนิมิตด้วย และสำเร็จผลถึงอัปปนาสมาธิได้ ทั้งนี้มีแปลกแต่อัปปมัญญา (พรหมวิหาร)

ซึ่งแม้จะไม่มีปฏิภาคนิมิต เพราะไม่มีวัตถุธรรมเป็นอารมณ์ แต่ก็มีสัตว์เป็นอารมณ์ จึงมีความชัดเจนเพียงพอ

และให้เกิดอัปปนาสมาธิได้*

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

* ท่านว่าอัปปมัญญาถึงจะไม่มีปฏิภาคนิมิตอย่างพวกกสิณเป็นต้น แต่ก็มีสีมเภท

(ภาวะที่จิตเมตตา เป็นต้นนั้น เจริญบริบูรณ์ หมดความแบ่งแยก เป็นไปต่อสัตว์ทั้งปวงเสมอเหมือนกัน)

เป็นนิมิต และเจริญนิมิตนั้นไปจนบรรลุอัปปนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 16:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 16:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Good_morning_Hi5_03.jpg
Good_morning_Hi5_03.jpg [ 21.41 KiB | เปิดดู 3070 ครั้ง ]
เมื่อบรรลุปฐมฌานแล้ว

ต่อจากนั้นก็เป็นการบำเพ็ญความชำนาญ ให้เกิดขึ้นในปฐมฌานนั้น และทำความเพียรเพื่อบรรลุฌานขั้นต่อๆ

ขึ้นไปตามลำดับ ภายในขอบเขตความสามารถให้สำเร็จผลของกรรมฐานชนิดนั้นๆ

เป็นอันได้บรรลุผลของสมถะตามสมควร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรรมฐานหลายอย่างสุขุมละเอียดเป็นอารมณ์ลึกซึ้ง ไม่มีวัตถุสำหรับเพ่งหรือสัมผัสด้วยกายได้ จึงไม่ชัดพอ

จิตไม่สามารถแอบแนบติดสนิทอยู่ได้นาน จึงไม่มีปฏิภาคนิมิต และให้ผลสำเร็จได้เพียงแค่อุปจารสมาธิ

ส่วนอารมณ์หยาบ เพ่งดูหรือสัมผัสด้วยกายได้ กำหนดได้ชัดเจน จิตแนบสนิทตั้งอยู่ได้นาน

ก็ให้เกิดปฏิภาคนิมิตด้วย และสำเร็จผลถึงอัปปนาสมาธิได้

ทั้งนี้มีแปลกแต่อัปปมัญญา (พรหมวิหาร)

ซึ่งแม้จะไม่มีปฏิภาคนิมิต เพราะไม่มีวัตถุธรรมเป็นอารมณ์ แต่ก็มีสัตว์เป็นอารมณ์ จึงมีความชัดเจนเพียงพอ

และให้เกิดอัปปนาสมาธิได้*

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

* ท่านว่าอัปปมัญญาถึงจะไม่มีปฏิภาคนิมิตอย่างพวกกสิณเป็นต้น แต่ก็มีสีมเภท

(ภาวะที่จิตเมตตา เป็นต้นนั้น เจริญบริบูรณ์ หมดความแบ่งแยก เป็นไปต่อสัตว์ทั้งปวงเสมอเหมือนกัน)

เป็นนิมิต และเจริญนิมิตนั้นไปจนบรรลุอัปปนา


ok ค่ะ เจอคุณมา ให้ความหมายเรื่องนิมิตอีกคน
ค่อยรู้สึกหายข้องใจขึ้นมาหน่อย ว่าทำไมตัวเองถึงได้งงจัง กับการศึกษาธรรม

:b12: :b12: :b12:

นี่คือความจริง ในสังคมการศึกษาพุทธ สิบคน ก็สิบอย่าง :b23: :b23: :b23:

ข้อความอ้างอิงข้างบน คุณพี่กรัชกาย...คนดี๊ คนดี พอจะขยายเพิ่มเติมได้รึเปล่าคะ

อึ๊ย...! เห็นมั๊ยล่ะ พอจะประจบขอให้พี่กร๊าช...ช่วยแนะนำ
เรียบเอาสะตอขึ้นมากินเชียว... :b32: :b32:

แล้วพี่กร๊าช..ชะ..กาย พอจะให้ความเห็นตรงนี้ได้รึเปล่าคะ สงสัยจริง ๆ ไม่ได้อิงสะตอ

อ้างคำพูด:
ก็เคย ๆ ได้ยินคนเล่าทำนองนี้คะ และสงสัย
ว่า จริง ๆ คนเราไม่อาจจะไปยังที่นั้น ๆ ได้ แล้วการเห็นเช่นนั้น มันมาปรากฎได้อย่างไรคะ
จริง ๆ ก็เคยฟังเรื่องราวทำนองนี้มาเยอะนะคะ
แต่ก็ไม่เคยเข้าใจได้สักที
เพราะเรื่องเล่าของแต่ละคนต่างก็มีจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะตนไป
และเรื่องเล่าของหลาย ๆ คน ก็ดันมีจุดที่เหมือนกันได้ ทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างเห็น

และการเห็นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณามันอย่างไรคะ


ประจบประแจงด้วยดอกไม้ดีกว่า กลัวกระเด็น


:b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47:


อึ๋ย...! แถมสาวงามด้วยอีกคนดีกว่า


:b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47:


รูปภาพ



:b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47:

อุ๊ย...! หยิบผิด :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 17:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ก็เคย ๆ ได้ยินคนเล่าทำนองนี้คะ และสงสัย
ว่า จริง ๆ คนเราไม่อาจจะไปยังที่นั้น ๆ ได้ แล้วการเห็นเช่นนั้น มันมาปรากฎได้อย่างไรคะ
จริง ๆ ก็เคยฟังเรื่องราวทำนองนี้มาเยอะนะคะ
แต่ก็ไม่เคยเข้าใจได้สักที
เพราะเรื่องเล่าของแต่ละคนต่างก็มีจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะตนไป
และเรื่องเล่าของหลาย ๆ คน ก็ดันมีจุดที่เหมือนกันได้ ทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างเห็น

และการเห็นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณามันอย่างไรคะ


ยกตัวอย่างสถานที่ที่เขาไปกันมาดิคับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณไบกอน ดูข้อความสีแดง

เขาเจริญภาวนา หรือ จะเรียกว่าฝึกสมาธิ ฯลฯ จะตั้งชื่อเรียกกันอย่างไรก็ว่ากันไป

เขานอนสมาธิอยู่ที่บ้าน แล้วนึกถึงพุทธชินราช ซึ่งอยู่ จ. พิษณุโลก ก็เห็นเป็นสีทองแจ่มใส่

แล้วก็นึกอยากไปไหว้ ก็เห็นภาพตัวเองนั่งสมาธิไหว้ นั่งกราบอยู่

ตนนึกยังไงก็เห็นภาพอย่างนั้น



เคยฝึกนั่งสมาธิมานานเป็นสิบปีแล้วค่ะ ตอนนั้นฝึกกับหลวงพ่อที่นับถือ โดยจะมาทางสายหลวงปู่ชา
นั่งหายใจเข้าออกเป็นพุทโธ
จากนั้นก็แทบไม่ได้ฝึกอีกเลย

จนคุณแม่ได้มาฝึกนั่งมโน ตามคำชักชวนของป้า แต่ตัวเองก็ยังไม่เคยฝึกเป็นจริงเป็นจัง ก็ได้เปลี่ยนมานั่งหายใจเข้าออกเป็นนะ มะ พะ ธะ ตามหลวงพ่อฤาษี ซึ่งส่วนใหญ่ตัวเองจะนอนสมาธิคะ ไม่ได้นั่งสมาธิ
เพราะความขี้เกียจ ประกอบกับกลัวผี ก็จะนอนสมาธิจนติดมาเป็นหลายปี

แม่เคยพาไปหัดนั่งที่ซอยสายลมทีนึง ตอนเขาพาไป เราก็นั่งไม่รู้เรื่อง ตอนแรกก็นั่งสมาธิได้ดี
พอสักพักนั่งจนจิตนิ่ง ตาเราจะกระพริบๆปริบๆ ถี่ เหมือนตาจะลืม
เราก็พยายามไม่สนใจ พยายามจับจิตให้นิ่ง มันก็เป็นอีก เป็นอยู่อย่างงี้เรื่อยๆ จนสมาธิแตกซ่าน


พอตัวเองมานั่งเองที่บ้านก็เป็นอีก มันเป็นอย่างงี้จนไม่รู้จะแก้ยังไง จนเลิกนั่งไปเลย ใช้นอนสมาธิเอา
ถึงแม้จะใช้นอนสมาธิมันก็เป็นค่ะ เฮ้อ ไม่รู้จะทำยังไง

เมื่อคืนก่อน นอนสมาธิเอา เรานอนนึกถึงภาพของพระพุทธชินราช เอาจิตจับภาพท่าน

เป็นสีทององค์ใหญ่ แจ่มใสมาก เราก็จับภาพท่านไปเรื่อยๆ

สักพัก ก็นึกว่า อยากไปไหว้ท่าน ก็เห็นภาพตัวเองนั่งอยู่ในโบสถ์อยู่คนเดียวหน้าท่าน

เราก็นึกว่า อยากกราบท่าน นั่งสมาธิต่อหน้าท่าน ก็เห็นภาพตัวเองกราบท่านสามที

แล้วก็นั่งสมาธิต่อหน้าท่าน




http://board.palungjit.com/f4/ปัญหาการนั่งสมาธิ-211084.html#post2556248

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 18:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ยกตัวอย่างสถานที่ที่เขาไปกันมาดิคับ


สวนดอกไม้อย่างที่คุณ Bud ว่าน่ะ เคยได้ยินบ่อย

แล้วอะไรนะ สถานที่ที่อยู่ในอวกาศ สว่างไสว มีกำแพงล้อมรอม
มีสิ่งก่อสร้างสวยงาม ที่มีแต่... :b21:...อยู่ หน่ะ

บางทีก็ประมาณ สุดขอบจักรวาล หง่ะ...
(อันนี้คือเคยอ่านเจอในงานเขียนของนักเขียนหลายท่าน แต่จำไม่ได้)

และบางทีก็แบบว่า
อันนี้... เคยอ่านเจอในเอกสารเกี่ยวกับงานวิจัยค่ะ
แบบว่ามีคนหนึ่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโลก
แล้วอีกคนหนึ่งอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง และไอ้สิ่งที่ไอ้คนซีกนั้นอ่านก็เข้ามาอยู่ในหัวของไอ้คนซีกนี้
คือมันเป็นความรู้ที่อยู่ ๆ ก็พลุบเข้ามา
คือไอ้คน ๆ นี้ มันมีอาการอย่างนี้อยู่แล้ว
เวลาที่เกิดอาการอย่างนี้ เขาก็จะรีบหาบันทึกมาจด ร่าง ๆ
พอจดเสร็จ มันก็โทรไปหาไอ้คนอีกซีก และถามว่า
"นายกำลังอ่านหนังสืออยู่ใช่ป่าว" - yes -
"เนื้อหาในหนังสืออย่างนี้ ๆ ๆ ใช่ป่าว" - yes , how do you know..? -

คือไอ้ พลุบ ๆ อย่างนี้ เป็นนิมิตรึเปล่าคะ

ทางพุทธศาสนา พอจะมีไขความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องประมาณนี้คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แม่เคยพาไปหัดนั่งที่ซอยสายลมทีนึง ตอนเขาพาไป เราก็นั่งไม่รู้เรื่อง [u]ตอนแรกก็นั่งสมาธิได้ดี
พอสักพักนั่งจนจิตนิ่ง ตาเราจะกระพริบๆปริบๆ ถี่ เหมือนตาจะลืม

[/color]


มันกระพริบทำไมคะ ทำไมถึงกระพริบ
ที่บริษัทเคยค่ะ หาอาจารย์มาสอนสมาธิ
แล้วก็เห็นท่านพูดถึงประมาณนี้ล่ะค่ะ
แต่ท่านบอกว่า "นั่นล่ะ เมื่อจิตจะเป็นสมาธิ จะเป็นอย่างนี้"

ซึ่งเราก็เป็นค่ะ แต่เห็นอาจารย์ว่างี๊ก็ทำไปไม่ได้สนใจ ก็มันจะเป็นอะไรก็เป็น


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 19:30, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chulapinan เขียน:

การมาของนิมิตมากได้สองแบบหลักๆค่ะ

- สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานให้ค่ะ มีเหตุผลแน่นอน แต่จะตีความเหตุผลนั้นได้ ต้องมีปัญญาธรรมแล้วค่ะ




ท่าน Bud กับ ท่าน กรัช คะ
ช่วยขยายคำจำกัดความนี้ ให้ ไบก้อน สักหน่อยได้รึเปล่าคะ

ไบก้อน ไม่เข้าใจ คำว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ที่เธอกล่าวค่ะ

ในพุทธศาสนา "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" นี่คือ...สิ่งประเภทไหนบ้างคะ...

:b14: :b14: :b14: :b14: :b14:

ไบก้อนกลัวค่ะ เพราะทันทีที่ได้อ่านประโยคนี้
ไบก้อนนิมิตเห็น ศาลเพียงตา เห็นนางตะนี่ เห็นนางตะเคียน เทวรูป
และอื่น ๆ อีกมากมายเต็มหูเต็มตาไปหมดเลยค่ะ... :b14: :b14:

ได้โปรดเถอะค่ะ ถ้ามีการประทานนิมิตกันแบบนี้...ด้วยล่ะก้อ...
และถ้าท่าน Bud หรือท่าน กรัช ไม่อธิบายให้เคียร์
ไบก้อน คงได้ศึกษาพุทธศาสนาอย่างอย่างหวาดระแวงตลอดชีวิต...หง่ะ

:b5: :b5: :b5:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 31 ต.ค. 2009, 19:52, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




51429ddb3t02334.gif
51429ddb3t02334.gif [ 57.45 KiB | เปิดดู 3014 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
ท่าน Bud กับ ท่าน กรัช คะ
ช่วยขยายคำจำกัดความนี้ ให้ ไบก้อน สักหน่อยได้รึเปล่าคะ

ไบก้อน ไม่เข้าใจ คำว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ที่เธอกล่าวค่ะ

ในพุทธศาสนา "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" นี่คือ...สิ่งประเภทไหนบ้างคะ...


ไบก้อนกลัวค่ะ เพราะทันทีที่ได้อ่านประโยคนี้
ไบก้อนนิมิตเห็น ศาลเพียงตา เห็นนางตะนี่ เห็นนางตะเคียน เทวรูป
และอื่น ๆ อีกมากมายเต็มหูเต็มตาไปหมดเลยค่ะ...

ได้โปรดเถอะค่ะ ถ้ามีการประทานนิมิตกันแบบนี้...ด้วยล่ะก้อ...
และถ้าท่าน Bud หรือท่าน กรัช ไม่อธิบายให้เคียร์
ไบก้อน คงได้ศึกษาพุทธศาสนาอย่างอย่างหวาดระแวงตลอดชีวิต...หง่ะ




ท่านผู้ใช้ชื่อว่า ไบกอน เอ๋ย :b1:

เจ้าน่าจะยังใหม่ในโลกไซเบอร์โดยเฉพาะห้องศาสนาเป็นแม่นมั่น

จึงได้เกิดอาการเช่นว่านั้น

หากเจ้าติดตามที่บอร์ดนี้ด้วย

http://board.palungjit.com/f126/อภิญญา-xp/index3.html

นะจะค่อยๆชินไปเอง

ทุกวันนี้ กรัชเอง อ่านไปน้ำตาไหลไป คือ มันขำอ่ะ :b32: ว่าเออความคิดหรือจิตนี่ช่างพิสดารพันลึกแท้ๆ

คำถามนั้นรอท่านบุดฯ มาตอบเถอะนะ

หรือไม่เจ้าของความเห็นก็ช่วยตอบเสียเองเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มันกระพริบทำไมคะ ทำไมถึงกระพริบ
ที่บริษัทเคยค่ะ หาอาจารย์มาสอนสมาธิ
แล้วก็เห็นท่านพูดถึงประมาณนี้ล่ะค่ะ
แต่ท่านบอกว่า "นั่นล่ะ เมื่อจิตจะเป็นสมาธิ จะเป็นอย่างนี้"

ซึ่งเราก็เป็นค่ะ แต่เห็นอาจารย์ว่างี๊ก็ทำไปไม่ได้สนใจ ก็มันจะเป็นอะไรก็เป็น



มันมีและเป็นร้อยแปดพันประการ แตกต่างกันไปในแต่ละคนๆ

หากให้ตอบรวบยอดก็ว่า มันเป็นอย่างนั้นเอง

เมื่อมีเหตุปัจจัยให้เป็นอย่างนั้น มันก็เป็นเช่นนั้น


ประเด็นนี้มีข้อสังเกต เมื่อสภาวะเป็นต้นนั้นปรากฏแล้ว

เราเพียงคิดว่า ช่างมันจะเป็นอะไรก็เป็น คำปลงตกประมาณเนี่ย พื้นจิตยังไม่ได้ทำความสะอาด

(หากต้องการทำความสะอาด)

จะอุปมาก็เหมือนพื้นห้องพักอาศัยสกปรกเลอะเทอะเต็มไปด้วยฝุ่นละออง

เราเห็นแล้วล่ะ แต่ไม่เช็ดถูก ได้แต่รำพึงแบบปลงๆว่า ช่างมัน แล้วก็ผ่านไป

ต่อมา เราเดินผ่านตรงนั้นอีกก็เห็นจุดนั้นอีก แล้วก็รำพึงแบบก่อนอีก ช่างมันเรื่องของมัน

ฯลฯ ปล่อยไว้เป็นวันเป็นเดื่อนเป็นปีเป็นชาติ พื้นห้องก็ยังสกปรกอยู่ฉันใด

สภาวะดังกล่าวเป็นต้นก็ฉันนั้น ปรากฏแล้ว เราก็เออออช่างมัน นึกแค่นี้ ก็เหมือนเราไม่ได้ถูพื้นห้องทำความ

สะอาดพื้นฉะนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2009, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนแรกก็นั่งสมาธิได้ดี

พอสักพักนั่งจนจิตนิ่ง ตาเราจะกระพริบๆปริบๆ ถี่ เหมือนตาจะลืม

เราก็พยายามไม่สนใจ พยายามจับจิตให้นิ่ง มันก็เป็นอีก เป็นอยู่อย่างงี้เรื่อยๆ จนสมาธิแตกซ่าน

พอตัวเองมานั่งเองที่บ้านก็เป็นอีก มันเป็นอย่างงี้จนไม่รู้จะแก้ยังไง จนเลิกนั่งไปเลย
ใช้นอนสมาธิเอา

ถึงแม้จะใช้นอนสมาธิมันก็เป็นค่ะ เฮ้อ ไม่รู้จะทำยังไง



เพื่อยืนยันคำพูด คห.บน ดูที่ขีดเส้นใต้ เพราะเขายังไม่ได้ทำความสะอาด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร