วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 17:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 66 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 07:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



เหตุของเรื่องทำนองนั้น มีเยอะแยะ เรื่องของจิตใจละเอียดจริงๆ พูดให้ฟังอาจมองไม่เห็นภาพ เอาอีกซักตัวอย่างหนึ่ง ดูครับ



คือเราก็ไม่รู้เรื่องจิตวิญญาณอะไรมากมายนัก แต่บังเอิญเรื่องนี้มันเข้ามา
เหตุก็คือ น้องชายเราเรียนอยู่กรุงเทพเป็นคนตั้งใจเรียน ชอบนั่งสมาธิสวดมนต์ แต่เมื่อสามวันก่อนอยู่ๆเค้ามีอาการแปลกๆ โทรหาแม่พูดจาแปลกๆทำนองว่ากลัวๆ อยากกลับบ้าน เครียด แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย


จนเมื่อวานโทมาหาแม่แล้วร้องไห้บอกว่า ไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว เอกอยากกลับบ้าน แม่เราจึงรีบไปรับมา สภาพที่เห็นก็ผอมโทรมแต่ไม่ได้มากมายอะไร เท่าที่ถามเค้าบอกไม่ได้นอนเลยมาสองวัน

แต่ก็ร่าเริงดีนะคุยเล่น กินอาหารได้ จนถึงกลางคืนอาการคือไม่ยอมนอน
ไม่รู้เพราะอะไรไม่บอก บอกแค่ให้อยู่เป็นเพื่อน แต่เราไม่ไหวแล้วอ่ะคือเราอยู่เป็นเพื่อนเค้ามาทั้งคืน ตอนนั้น
ก็ตีสามแล้ว เราเลยทนไม่ไหวเข้านอน

ประมาณเก้าโมง เราได้ยินเสียงแม่ร้องลั่นเสียงดัง เราเลยตื่นออกมาเห็นพ่อกับแม่เตรียมเอารถออก
เราเดินมาหาน้องเค้าก็ปกตินะแต่ซึมแล้วมีน้ำตา
แต่เก้าโมงแล้วยังไม่นอน นี่วันที่สามแล้วนะ

แม่พาเค้าไปหาพระก็เลยได้รู้ว่า เค้าบอกว่ามีวิญญาณนางไม้ซึ่งในชาติที่แล้วเป็นภรรยาเค้า
แล้วน้องเราไปฆ่าเค้า จะเอาไปอยู่ด้วย

เรากะแม่ก็ไม่รู้อ่ะ งงๆพระท่านก็รับฟังแล้วทำน้ำมนต์อาบให้ ต่อชะตาอะไรต่อมิอะไร

เสร็จกลับบ้าน เรามองน้องแล้วถามเป็นไงดีขึ้นไหม เค้าบอกอืมๆเฉยๆ
...คาดคั้นจนน้องเราบอกไปแล้ว สบายใจกันมากมายน้องเราจะได้นอน
แต่เวลานี้ มันเกิดอะไรกันในขณะที่แม่นอนหลับสบายใจ แต่เราอยู่กับน้อง ซึ่งยังไม่ยอมนอน นั่งคนเดียวหน้าบ้าน ย้ำว่าห้ามเราคุยเสียงดัง
เค้ากำลังสื่อสารกับอะไรสักอย่างมั้งๆๆๆ เดาเอาจากอาการที่ไม่ให้รบกวน
แต่ไม่ออกเสียงพูดนะ เหมือนคุยกันในหัวหรือทางจิต

เครียดหรือว่าน้องเราบ้าอ่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามไปดูคลิปมาแล้วค่ะ :b14:

ก่อนนี้เคยอ่านข่าวนี้ แต่ไม่เคยได้ดูค่ะ
เค้าสอนกันแบบไหนเนี่ยะ เป็นได้ถึงขนาดนี้เชียว
เห็นแล้วสงสารน้องๆจัง อาการที่เกิดต่างๆขนาดนี้ก็เป็นธัมมุธัจจ์หรือคะ
ทำไมมันรุนแรงขนาดนี้

นี่ขนาดเป็นสำนักสงฆ์
ไปปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์ก็ยังสอนผิดเพี้ยนได้ขนาดนี้
ใครที่อยากปฏิบัติธรรม อยากทำวิปัสนา จะหาที่พึ่งที่แท้ได้จากไหนกันนี่

แทนขวัญถึงได้ย้ำถามว่า ถ้าเช่นนี้ จะหาผู้ชี้แนะที่ถูกต้องได้จากไหน
เพราะสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆก็ไม่ทราบว่าแต่ละที่สอนกันแบบไหน
ผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติก็อาจไม่รู้ได้ว่า แบบไหนถูก แบบไหนผิด :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 00:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
บางข้อก็อย่างที่ว่าค่ะ ดูเหมือนจะดี หรือบางข้อเกิดขึ้นมาก็อาจจะไม่รู้ตัวเลยก็ได้

รู้ ครับ โยคีรู้ว่า ตนยินดีหรือยินร้ายต่อสภาวะนั้นๆ รู้เพราะตนติดตามกรรมฐานคืออาการท้องพองท้องยุบ หรือ ลมเข้าลมออกอยู่ เมื่ออารมณ์ใดๆเกิดรู้เลย รู้ว่าตนยินดีหรือไม่


นึกไม่ออกจะยก ตัวอย่างให้ดู สมมุติว่า เรากำลังเดินไต่เส้นลวดที่ขึงอยู่กลางอากาศ ขณะนั้น แต่ละขณะๆจิตใจ จะมุ่งแน่วต่อการเดินไต่ไปบนเส้นลวดทีละก้าวๆๆๆ
หาก แวบคิดถึงแฟนที่บ้าน ตนเองรู้เลยว่า คิดแล้ว...หากไม่ดึงความคิดให้กลับมาอยู่กับงานปัจจุบันคือไต่เส้นลวดอยู่ คิดเพลินไปว่าเออหนอ เขาทำอะไรอยู่หนอ เขาจะคิดถึงเราบ้างไหมหนอ ฯลฯ
ตกเลยครับ หัวทิ่มเลย หล่นแอ๊กลงมาแล้ว สำนึกว่า แหม!เมื่อกี้คิดเพลินไปหน่อย :b32:


อธิบายจนเห็นภาพเลยค่ะ :b32:

อ้างคำพูด:
คนที่เริ่มสนใจ ที่ยังไม่ค่อยมีความรู้ ที่อาจจะทดลองฝึกอยู่ที่บ้านเอง
เรายังควรจะฝึกฝนกันเองอยู่มั้ย หรือว่าควรจะเริ่มต้นยังไงดี

เท่าที่สังเกต พวกเราไม่เอาจริงเอาจังเท่าไหร่ อย่างนี้จิตไม่ทันสงบ เมื่อจิตยังฟุ้งซ่านอยู่ อุปกิเลสหรือ
สภาวะก็ปรากฏไม่ชัด ก็ฝึกๆ หัดๆทำๆกันไปได้
แต่ ก็พึงจำหลักอย่างที่ย้ำไว้ทุกๆครั้งว่า ขณะนั้นตนรู้สึกอย่างไรกำหนดจิตอย่างนั้น มีอาการอย่างไรไม่ว่าทางกายหรือทางใจ กำหนดจิตอย่างนั้น ตามนั้น ไม่ปล่อยหรือเพิกเฉย เพราะอารมณ์ที่กำหนดนั่นๆ คือ
ฐานเกิดของสติ (สติปัฏฐาน)
เมื่อกำหนดตามนั้น ทุกๆขณะจิต ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลมากนักครับ :b1:


ใช่ค่ะ แทนขวัญก็ยังไปไม่ถึงไหน
ก้าวไม่ถึงสิบก้าวก็ตกจากเส้นลวดแล้วค่ะ :b9:
จิตฟุ้งซ่านอยู่มาก แต่พอรู้ตัวก็จะกลับมาที่ลมหายใจใหม่
พยายามทำตามที่คุณกรัชกายเคยบอกไว้ ว่าอยู่กับปัจจุบัน
แวปคิดถึงแฟนก็ให้รู้ว่าคิดถึงแฟน พอรู้ตัวก็ปล่อยตรงนั้นแล้วมาเริ่มต้นกับลมหายใจใหม่
แต่บางทีก็ตั้งใจคิดเลยนะคะ แต่ก็รู้ว่าคิดเรื่องอะไรนะ :b9: :b3:

แทนขวัญจะใช้วิธีนับเลขค่ะ หายใจเข้านับ1 ออกนับ1
จนถึง 5 แล้วนับถอยหลัง บางทีก็นับไปเรื่อยๆจนถึง 50 จนถึง 100 บ้างถึงเลิกทำ
บางทีก็หายใจเข้าพุทธ ออกโท ค่ะ

แต่ถ้านับเลขนี่บางทีจะรู้สึกว่าจิตใจมันจะกังวลอยู่กับตัวเลขมากไป
เพราะมันจะต้องนึกอยู่ว่านับถึงไหนแล้ว บางทีหายใจออกนับ 5 ยังหายใจออกอยู่เลย
มันนึกล่วงหน้าเป็น 6 ไปแล้ว แบบนี้ก็ไม่ใช่ปัจจุบันแล้วใช่มั้ยคะ

ถ้ามีเวลามากหน่อยแทนขวัญเลยจะนั่งนับแค่สอง หรือภาวนาพุทธ โท แทนค่ะ
เพราะรู้สึกว่าจะไม่กังวลกับตัวเลข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แทนขวัญจะใช้วิธีนับเลขค่ะ หายใจเข้านับ1 ออกนับ1
จนถึง 5 แล้วนับถอยหลัง บางทีก็นับไปเรื่อยๆจนถึง 50 จนถึง 100 บ้างถึงเลิกทำ
บางทีก็หายใจเข้าพุทธ ออกโท ค่ะ

แต่ถ้านับเลขนี่บางทีจะรู้สึกว่าจิตใจมันจะกังวลอยู่กับตัวเลขมากไป
เพราะมันจะต้องนึกอยู่ว่านับถึงไหนแล้ว บางทีหายใจออกนับ 5 ยังหายใจออกอยู่เลย
มันนึกล่วงหน้าเป็น 6 ไปแล้ว แบบนี้ก็ไม่ใช่ปัจจุบันแล้วใช่มั้ยคะ

ถ้ามีเวลามากหน่อยแทนขวัญเลยจะนั่งนับแค่สอง หรือภาวนาพุทธ โท แทนค่ะ
เพราะรู้สึกว่าจะไม่กังวลกับตัวเลข



บางทีหายใจออกนับ 5 ยังหายใจออกอยู่เลย
มันนึกล่วงหน้าเป็น 6 ไปแล้ว แบบนี้ก็ไม่ใช่ปัจจุบันแล้วใช่มั้ยคะ


ไม่พึงกังวลกับประเด็นนี้ครับ เราเริ่มๆฝึกๆ ก็หลงบ้าง พลาดบ้างเป็นธรรมดา ก็คนเริ่มฝึกนี่น่ะ

นึกออกไหมครับ เหมือนเราตอนเด็กๆ เริ่มหัดเดินไง กว่าจะเดินได้คล่องชำนาญจนวิ่งได้ เหมือนปัจจุบัน ก็เคยเดินล้มๆ ล้มลุกคลุกคลาน จนหัวเข่าเป็นแผลก็เคยมี ใช่ไหมครับ :b1:
ขนาดเดินเก่งอย่างปัจจุบันก็เคยล้มใช่ไหม ขนาดกิ้งกือมีขาเป็นพันยังตกท่อ

"กิ้งกือตกส่าง"

http://www.imeem.com/people/L--DPio/mus ... Ti/01-mp3/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(เมื่อคุณเคยทำแบบใช้เลขกำกับ ในแบบก็มี จะเขียนให้ดู)


-การนับ (คณนา) เริ่มแรกในการกำหนดลมหายใจออก-เข้า-ยาว-สั้น นั้น ท่านว่า ให้นับไปด้วย เพราะการนับจะช่วยตรึงจิตได้ดี
การนับแบ่งเป็น ๒ ตอน


ช่วงแรก ท่านให้นับช้าๆ การนับมีเคล็ดหรือกลวิธีว่า อย่านับต่ำกว่า ๕ แต่อย่าให้เกิน ๑๐ และให้เลขเรียงตามลำดับ อย่าโจนข้ามไป (ถ้าต่ำกว่า ๕ จิตจะดิ้นรนในโอกาสอันแคบ ถ้าเกิน ๑๐ จิตจะไปพะวง
ที่การนับ แทนที่จะจับอยู่กับกรรมฐานคือลมหายใจ ถ้านับขาดๆข้ามๆ จิตจะหวั่นจะวุ่นไป ให้นับที่หายใจเข้าออกอย่างสบายๆ เป็นคู่ๆ คือ

ลมออกว่า ๑ ลมเข้าว่า ๑
ลมออกว่า ๒ ลมเข้าว่า ๒ อย่างนี้เรื่อยไปจนถึง ๕,๕ แล้วตั้งต้นใหม่ ๑,๑ จนถึง ๖,๖ แล้วตั้งต้นใหม่
เพิ่มทีละคู่ไปจนครบ ๑๐ คู่
แล้วกลับย้อนที ๕ คู่ใหม่ จนถึง ๑๐ คู่อย่างนั้นเรื่อยไป พอจะเขียนให้ดูได้ดังนี้ *

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕ ๖,๖

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕ ๖,๖ ๗,๗

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕ ๖,๖ ๗,๗ ๘,๘

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕ ๖,๖ ๗,๗ ๘,๘ ๙,๘

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕ ๖,๖ ๗,๗ ๘,๘ ๙,๘ ๑๐,๑๐

๑,๑ ๒,๒ ๓,๓ ๔,๔ ๕,๕

ฯลฯ

-ช่วงสอง ท่านให้นับเร็ว กล่าวคือ
เมื่อลมหายใจเข้าออกปรากฏแก่ใจชัดเจนดีแล้ว (จิตอยู่กับลมหายใจ โดยลมหายใจช่วยตรึงไว้ได้
ไม่ส่ายฟุ้งไปภายนอก) ก็ให้เลิกนับช้าอย่างข้างต้นนั้นเสีย เปลี่ยนเป็นนับเร็ว

คราวนี้ไม่ต้องคำนึงถึงลมเข้าในหรือออกนอก กำหนดแต่ลมที่มาถึงช่องจมูก นับเร็วๆ จาก ๑ ถึง ๕
แล้วขึ้นใหม่ ๑ ถึง ๖ เพิ่มอีกทีละหนึ่งเรื่อยไปจน ๑ ถึง ๑๐ แล้ว เริ่ม ๑ ถึง ๕ ใหม่อีก
จิตจะแน่วแน่ด้วยกำลังการนับเหมือนเรือตั้งลำแน่วในกระแสน้ำเชี่ยวด้วยอาศัยถ่อ เมื่อนับเร็วอย่างนั้น กรรมฐาน
ก็จะปรากฏต่อเนื่องเหมือนไม่มีช่องว่า พึงนับเร็วอย่างนั้นเรื่อยไป ไม่ต้องกำหนดว่าลมเข้าในออกนอก
เอาสติกำหนด ณ จุดที่ลมกระทบคือที่ปลายจมูก หรือริมฝีปากบน (แห่งใดแห่งหนึ่งแล้วแต่ที่ใดรู้สึกชัด) เท่านั้น
ทั้งนี้ พอเขียนดูได้ดังนี้

๑ ๒ ๓ ๔ ๕

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐

กำหนดนับอย่างนี้เรื่อยไป จนกว่าเมื่อใดไม่นับแล้ว สติก็ยังตั้งแน่วอยู่ได้ในอารมณ์ คือลมหายใจเข้าออก
นั้น
(วัตถุประสงค์ของการนับก็เพื่อให้สติตั้งแน่วได้ในอารมณ์ ตัดความคิดฟุ้งซ่าไปภายนอกได้นั่นเอง)


(ขยายความที่มีเครื่องหมาย *)


* ความในวิสุทธิมรรค ตอนนี้คงจะเขียนรวบรัดเกินไป ผู้อ่านจับความออกมาต่างๆกัน
ดูของไทย ฝรั่ง ลังกาแล้ว ไม่ใคร่จะตรงกัน เพื่อสะดวกจึงเอาอย่างที่เรียนกันมาในเมืองไทย (การเริ่มนับ จะตั้งต้นที่ลมเข้าหรือลมออก็ได้ แล้วแต่อย่างไหนใครชัด)

อนึ่ง พึงทราบว่า ตัวอย่างวิธีปฏิบัติที่แสดงในที่นี้ เขียนตามคัมภีร์วิสุทธิมรรค ให้เห็นแบบแผนเดิม
ผู้ปฏิบัติ จะยักเยื้องอย่างอื่นอีกก็ได้ เช่น อย่างที่สำนักต่างๆในปัจจุบันสอนให้ว่า พุทโธบ้าง อย่างอื่น
บ้าง กำกับลมหายใจเข้า-ออก แทนการนับ เป็นต้น (สาระอยู่ที่เป็นอุบายตรึงจิตไว้เท่านั้น)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่บางทีก็ตั้งใจคิดเลยนะคะ แต่ก็รู้ว่าคิดเรื่องอะไรนะ


อย่างนี้ครับ หัวข้อหัวเรื่องที่ตั้งใจคิด ควรอยู่บนฐานของความเป็นจริง มีความจริงรองรับ ตัวอย่าง เช่น
๑+๑ = ๒
๒+๒= ๔
๔+๔ = ๘
๘+๘ = ๑๖
ฯลฯ

http://www.imeem.com/people/hW8mQVz/mus ... lj/noklae/

ประมาณเนื่ย

หากตั้งใจคิด ๆ แบบฝันๆ ฟุ้งกับอนาคตโดยไม่มีฐานความจริงแบบๆว่า... ไม่นานเขาคงคิดได้ แล้วกลับมาคบกันดีกันเหมือนเดิม เราเองไม่ผิดอะไรนี่...

เออ...แต่...ก็ไม่แน่นะใจคนเรา อยู่ห่างกันได้พบเห็นคนใหม่สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็ลืมเราคนไกล

คง...คงไม่หรอกมั้ง ...เขาไม่ใช่คนแบบนั้นนี่นะเท่าที่ดูๆกันมา ก่อนไปเราพูดกันแล้วหน่าว่าจะไปเพื่อ....แล้วๆจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน …..

แต่ๆ ..เออๆ...อ้าๆ ...หาเรื่องคิดฟุ้งอนาคต....อย่างนี้ควรกำหนดตัดความคิดนั้น “คิดหนอๆๆ”
ทันทีแล้วดึงความคิดให้อยู่กับงานที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้นๆเสีย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 04 ก.ค. 2009, 13:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำความเข้าใจความหมาย “กรรมฐาน” มุมกว้างลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=23002


เมื่อเห็นว่า นับตามแบบที่เขียนนั้นยุ่งยากแก่การจดจำ ก็นับธรรมดาๆก็ได้ คือ
นับจาก ๑ ถึง ๑๐๐ จาก ๑๐๐ ถึง ๐ นับขึ้นนับลงกลับไปกลับมา

นับจาก ๑ – ๑๐๐ คล่องไม่หลงแล้ว จะนับถอยหลังจาก ๑๐๐-๐ วิธีเดียวก็ได้
นับไปๆ เผลอพลาดลืม เริ่มนับใหม่ เอาให้ชัด วิธีก็ได้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



กรัชกายจะนำการปฏิบัติของโยคีที่พอจะเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้เริ่มฝึกภาวนาได้ จับเอาตั้งแต่เริ่มคิดทำ จนถึงระดับหนึ่ง
คุณแทนขวัญพิจารณาที่เน้นๆไว้นะครับ เขาเล่าไว้ยาว แต่ตัดๆเอาแค่เนื้อๆมาให้พอเห็นว่า อะไรเป็นอะไร
ดูครับ



ก่อนหน้า ไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้ วาสนาพาให้ได้พบกับพระสงฆ์ไทยรูป
หนึ่ง ผมได้ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์
ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยื่นหนังสือของท่านให้สามเล่ม เป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทาง
ในอานาปานสติสูตร

หนังสือสามเล่มนั้น ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความ คือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิต
ประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไร ก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือ เวลาอ่านหนังสือ
แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่า เราทำอะไรอยู่

ท่านว่า ให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่า ลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร

หลังจากนั้น ผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน

หลังจากนั้น มีวันหนึ่ง เกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ
ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ สามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน ฯลฯ
กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
รู้สึกว่า กายขยายไปทุกทิศ จนรู้สึกว่ากายหายไป คือไม่มีกาย ความรู้สึกเหมือนจุ่มอยู่ในปีติ
มีแต่ความสุขไปหมด
ผมก็คิดขึ้นมาว่า "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วย หรือ ความสุขนี้ ดีกว่า
ความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก
(ส่วนใหญ่) มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่
บางคนทำทุจริตต่างๆ เพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจาก
ความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน (ส่วนใหญ่) ในโลกกลับไม่รู้"


จากนั้น ผมก็สังเกตลมหายใจ ก็รู้สึกว่า ลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่า
ลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่า เป็นยังไง
ก่อนหน้านี้เข้าใจว่า คือ ลมหายใจแรงๆ เบาๆซะอีก


ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปิติ ค้างอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น
แต่รู้สึก จิตเวลานี้ ไม่มีนิวรณ์เลย คือ มีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้น ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับ
เราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน


หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆ ตะโกนเสียงดัง (คาดว่าน่าจะดูบอล) ผมก็เลยหลุดออกมา
จากสภาวะนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2009, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1-3.jpg
1-3.jpg [ 128.94 KiB | เปิดดู 3744 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
ก่อนนี้เคยอ่านข่าวนี้ แต่ไม่เคยได้ดูค่ะ
เค้าสอนกันแบบไหนเนี่ยะ เป็นได้ถึงขนาดนี้เชียว
เห็นแล้วสงสารน้องๆจัง อาการที่เกิดต่างๆขนาดนี้ก็เป็นธัมมุธัจจ์
หรือคะ ทำไมมันรุนแรงขนาดนี้



อย่างนั้นไม่ใช่ธัมมุธัจจ์ครับ

ธัมมุธัจจ์ (ความฟุ้งซ่านธรรม หรือ ตื่นธรรม)

อาการตื่นธรรม คือ การติดยึดภาวะนั้นๆเพลิน จนทิ้งกรรมฐานที่เป็นปัจจุบันอารมณ์

(ทิ้งปัจจุบันธรรม) หมกติดอารมณ์นั่นๆอยู่ (อาการวิปัสสนูปกิเลส)

อุปมาก็เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ จึงเล่นเพลินจนลืมกินข้าวกินปลา

หรือเหมือนเด็กติดเกม เล่นจนลืมวันลืมคืน ไม่หลับไม่นอน ประมาณเนี่ย :b1:

แต่ตามคลิปนั่น ไม่ใช่ลักษณะตื่นธรรม แต่เกิดจากการคุมตนเองไม่ได้

พูดให้เข้าหลักก็คือสติคุมจิตไม่ได้ เพราะเบื้องต้นไม่ตามดูรู้ทันความคิดแต่ละขณะๆ ด้วย

เพราะสอนให้บริกรรม พองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ๆๆๆๆๆ อย่างเดียว -

(คนสอนๆ ผิด - แล้วมิใช่คำภาวนาเช่นว่าอย่างเดียวนะครับ คำบริกรรมอะไรก็เหมือนกันที่ใช้ ๆ

สอนๆ กันอยู่ เมื่อสอนให้ท่องลักษณะนั้น จะเกิดอาการคุมตนเองไม่ได้เช่นเดียวกัน)

คือ ไม่ตามดูรู้ทันความคิด หรือ ดูจิตเลยว่า มันคิดอะไร แล้วกำหนดความคิดเสียด้วย

นี่คือปัญหาที่พบ เกือบจะทุกแห่งที่สอนๆกันในปัจจุบัน ไม่กำหนดความคิด ปล่อยเพิกเฉย

จึงขาดจิตตานุปัสสนา

องค์ธรรมมี สติ เป็นต้น ส่วนนี้จึงไม่เจริญ ก็จึงตามจิตหรือความคิดแต่ละขณะๆ ไม่ทัน

จึงหลงความคิด ด้วยประการฉะนี้แล :b1:


อ้างคำพูด:
นี่ขนาดเป็นสำนักสงฆ์
ไปปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์ก็ยังสอนผิดเพี้ยนได้ขนาดนี้
ใครที่อยากปฏิบัติธรรม อยากทำวิปัสนา จะหาที่พึ่งที่แท้ได้จากไหนกันนี่

แทนขวัญถึงได้ย้ำถามว่า ถ้าเช่นนี้ จะหาผู้ชี้แนะที่ถูกต้องได้จากไหน
เพราะสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ ก็ไม่ทราบว่า แต่ละที่สอนกันแบบไหน
ผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติก็อาจไม่รู้ได้ว่า แบบไหนถูก แบบไหนผิด



แทนขวัญถึงได้ย้ำถามว่า ถ้าเช่นนี้ จะหาผู้ชี้แนะที่ถูกต้องได้จากไหน



สำหรับผู้ใหม่ ยากพอควร เพราะความรู้พื้นฐานเรื่องเหล่านี้ไม่มีเลย

เขาว่าดี ก็ว่าดีตามเขา ฝากตัวฝากตนไว้กับผู้ที่เราศรัทธา แล้วแต่จะพาเราไป ได้ผู้รู้เข้าใจ

ข้อธรรม เข้าใจข้อปฏิบัติก็ดีไป เข้าใจชีวิตคือกายใจนี้ ก็เป็นบุญเป็นวาสนา

แต่ถ้าได้บุคคลนอกนั้น พึงถอนตัวออกมาจะดีกว่า

จะให้ข้อสังเกตกว้างๆไว้ประมาณว่า สำนักใดหรือใคร ที่แนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน แปลกๆ แผลงๆ

อ้างดินอ้างฟ้า ฯลฯ ยกอดีตชาติ อนาคตชาติขึ้นผสมสอนร่วมกับภาวนามัย นั่นผิดหลักการ

วิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านสอนให้ตามดูรู้ทันรูป นาม หรือ กายใจ หรือ ชีวิตในปัจจุบันชาตินี้แล้วล่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ต.ค. 2009, 21:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


:b20:
ขอบคุณค่ะ :b8: ที่แนะนำแนวการปฏิบัติแบบการนับมาให้
มีแบบแผนไว้ชัดเจนมาก แทนขวัญขอยึดแบบแผนนี้ไว้เป็นแนวทาง ลองปฏิบัติตามค่ะ

ก่อนนี้แทนขวัญใช้วิธีนับเพื่อบังคับตัวเองให้นั่งได้นานหน่อย
เอาแนวทางนี้จากการอ่านเรื่องการปฏิบัติสมาธิของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเวปนี้แหละค่ะ
แต่ไม่ได้ทำตามเป๊ะๆ เพียงอยากบังคับตัวเองก็เลยนับยาวถึง 50บ้าง - 100 บ้าง
พออ่านกระทู้คนอื่นๆก็ชักจะเริ่มไม่แน่ใจ ในแนวทางของตัวเอง
พอรู้ว่ามีแบบการนับแบบนี้ด้วย ก็จะขอยึดแนวนี้ไว้ลองปฏิบัติต่อค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่แนะนำคุณแทนขวัญก่อนหน้า =>


จะให้ข้อสังเกตกว้างๆ ไว้ประมาณว่า สำนักใดหรือใคร ที่แนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน แปลกๆ แผลงๆ อ้างดินอ้างฟ้า ฯลฯ ยกอดีตชาติ อนาคตชาติขึ้นผสมสอนร่วมกับภาวนามัย นั่นผิดหลักการวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านสอนให้ตามดูรู้ทันรูป นาม หรือ กายใจ หรือ ชีวิตในปัจจุบันชาตินี้แล้วล่ะครับ


มีตัวอย่างที่เขาถามกันไว้ที่บอร์ดหนึ่ง ดูครับ =>


ขออนุญาตสอบถามเรื่องกรรมนิดหนึ่งนะคะ

มีเพื่อนไปเข้าวิปัสสนากรรมฐานแก้กรรมค่ะ โดยเค้าจะให้นั่งสมาธิและแต่ละคน
ก็จะออกอาการไม่เหมือนกัน
บางคนก็ร้องไห้
บางคนก็ทุบตีตัวเอง
ถ้ามีคนออกอาการเค้าบอกว่า แสดงว่าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิให้แล้ว

และอีก กรณีหนึ่งค่ะ มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ให้เราทำสังฆทานให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา
ในขณะนี้
และให้สวดมนต์ 9 วันให้เจ้ากรรมนายเวร
อยากถามว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เจ้ากรรมนายเวรเค้าจะได้รับจริงๆ หรือเปล่าคะ แล้วเค้าจะอโหสิให้เรา
จริงหรือเปล่าคะ
ถ้าเค้าอโหสิให้จริง จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นจริงหรือเปล่า
กรรมแก้ง่ายแค่นี้เองหรือคะ
พอดีเชื่อแบบ 50-50 ด้วยปัญญาระดับนี้เลยอยากถามจากท่านผู้รู้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




73.jpg
73.jpg [ 96.65 KiB | เปิดดู 3743 ครั้ง ]
คุณแทนขวัญ ดูคำบริกรรมที่แต่ละกลุ่มแต่ละสำนักๆ ใช้ๆ กันลิงค์นี้

http://www.free-webboard.com/view.php?u ... =27&topic=คำบริกรรมภาวนา


จุดประสงค์การใช้ว่าควบพร้อมๆกับลมเข้าออก หรือ พร้อมกับท้องพองท้องยุบ เป็นต้น

ไม่ใช่ท่องรัวๆๆ แบบไม่หายใจหายคอ อย่างที่แนะนำเค้าตามคลิปนั้น

หรือว่า ท่องๆรัวๆ อย่างไม่เข้าใจความมุ่งหมายของการกระทำหรือการปฏิบัติกรรมฐาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ต.ค. 2009, 15:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 18:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขั้นด้วยเพลง "พระธรรมคุณ" :b1:

http://tamdee.udomtam.com/bbs/viewthrea ... a=page%3D1

(เนื้อเพลง)

โลกนี้ มืดมน มนุษย์ดิ้นรน ค้นหาทิศทาง
จุดคบไฟ ให้สว่าง เพื่อชี้ช่องทาง กระจ่างนัยน์ตา
กลางคืนพึ่งจันทร์ พอตกกลางวัน พึ่งแสงสุริยา
ต่างขวนขวาย ไขว่คว้า แสวงปัญญา ประดับตน
ประกายแห่งธรรม เป็นสิ่งเลิศล้ำ เหนือยิ่งสิ่งใด
ยิ่งกว่าแสงแห่งไฟ จุดแล้ว ทำลาย กิเลสมืดมน
เป็นถ้อย คำตรัส พุทธดำรัส ไว้ดีเลิศล้น
เห็นแจ้งได้ด้วยตน เป็นสิ่งสากล เหนือกาลเวลา
ธรรมวิจารณ์ ทนทาน ต่อการพิสูจน์
ไม่ใช่เพียงคำพูด เชิญมาพิสูจน์ ศึกษา
ไม่ใช่นอกกาย อยู่ภายใน ควรน้อมเข้ามา
ไม่ใช่การเที่ยวหา แต่เป็นปัญญา รู้แจ้งเห็นจริง
รู้เฉพาะตน ประจักษ์เห็นผล ได้เพียงตนตัว
ช่วยสะสางมืดมัว กำจัดความชั่ว จากใจประวิง
พระธรรมคุณ สำคัญเกื้อหนุน ต่อสรรพสิ่ง
คือสัจจะความจริง เป็นที่พึ่งพิง ของชาวโลกา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณที่แนะนำค่ะ :b8:

อ้างคำพูด:
จะให้ข้อสังเกตกว้างๆ ไว้ประมาณว่า สำนักใดหรือใคร ที่แนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน แปลกๆ แผลงๆ อ้างดินอ้างฟ้า ฯลฯ ยกอดีตชาติ อนาคตชาติขึ้นผสมสอนร่วมกับภาวนามัย นั่นผิดหลักการวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านสอนให้ตามดูรู้ทันรูป นาม หรือ กายใจ หรือ ชีวิตในปัจจุบันชาตินี้แล้วล่ะครับ


แนวทางเหล่านี้แทนขวัญเองก็ไม่เห็นด้วยว่าจะช่วยให้สุข สงบ อย่างไร
เพราะหากธรรมะ คือ ธรรมชาติ
การปฏิบัติโดยอ้างสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติจึงไม่น่าจะเป็นทางที่ถูก
หากคนเราต้องพึ่งพิงอยู่กับอิทฤทธิ์ กับเรื่องเทพ เทวดา เจ้ากรรมนายเวร
มนุษย์เราคงทำอะไรเองไม่ได้
นี่เป็นมุมมองของแทนขวัญเองค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 00:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:32
โพสต์: 82

ที่อยู่: นครศรีธรรมราช

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุกับบทความค่ะ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 66 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร