วันเวลาปัจจุบัน 09 มิ.ย. 2025, 18:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2010, 22:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 175


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/35 ค่ะ
ก็วันนี้ก็รู้เท้า ตอนเดินก็ชัดค่ะ คือว่าวันนี้เห็นอาการของจิตที่มันเปลี่ยนไว พอรู้เท้า แล้วก็คือมีอารมณ์
เกิดขึ้นในจิต แล้วเห็นลักษณะของอารมนั้นๆไวมาก

บางทีเป็นอาการแล้วก็ดับไป ยังไม่ชึ้นเป็นความคิด แต่เรารู้ว่านั่นคือความคิด มันรู้ของมัน
เป็นแบบนี้ไปช่วงต้นๆ ค่ะ

แล้วก็มีกิเลส ก็เห็นกิเลส คิดอคติพอใจกับความเสื่อมของผู้อื่น มันจะมาแล้วแวบหนึ่งขึ้นมาใเห็น
แล้วก็รู้ไปก็หายไป ก็เกิดความไม่พอใจ คือก็ทุกข์แต่ว่า เด๋วก็เปลี่ยนเป้นอารมณ์อื่นๆอีกค่ะ

มีเห็นชัดขึ้น ในลักษณะของ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในจิต ก่อนจะไปปรุง ไม่สิไม่แน่ใจว่าก่อนปรุงไหม
แต่ตอนนั้น คือรู้เท้าด้วย แล้วก็เห็น อารมณ์ทีละอย่าง แต่เยอะมาก ผลุบโน่นผลุบนี่
แล้วรู้ลักษณะ ขึ้นหายขึ้นหายแยกหน้าตามันได้

แล้วก็ มีกิเลส พอเรารู้ก็มีตัวรู้ ตัวที่มันยึดถือความรู ว่ารู้นะ อ่อจากนั้น
ก็ตามมาด้วยความอยากจะรู้อีก แล้วก็กลายเป็นความอยากดี แล้วจิตก็เครียด มีแน่น ก็รู้แล้วมันก็หาย

เห็นความไม่พอใจก็ขึ้นมาตามหลัง "เรา" คือพอจิตมันกระทบ ความรู้สึกแล้วมีการเข้าไป ตัดสิน
แล้วก็เกิดอารมณ์ไม่พอใจและเวทนาที่เป็นทุกข์แล้วก็ดับไป

ก็เห็นว่ามันไม่ได้ มีเหตุผลเท่าที่ควร มันแค่กระทบ สิ่งนั้นก็ไม่ได้มีอะไร แต่จิตมันไม่ชอบ
มันก็ทุกข์แล้ว

แล้วก็เปลี่ยนเป็นฟุ้งอีก คิดโน่นนี่ แล้วก็มีหลงไปปรุงแล้ว ล่วงเกินผู้มีพระคุณโดยไม่ตั้งใจ
มาในรูปแบบของความคิดปรุงดีก่อนในตอนแรก แล้วมันเลยเถิดไปมีความคิดเห็นแล้วรู้สึกว่า
มันเป็นความคิดที่ล่วงเกินผู้มีบุญคุญ ก็ทุกข์ ขอขมาไป ก็ปล่อยเดินต่อ

จะขึ้นภาพพระ จะปรามาสแรงๆก็รู้ ภาพนั้นก็หายไป ก็กำหนดรู้หนอ ตามหลัง ก็ทุกข์
มีความไม่ชอบใจก็ดูมันคอยดูมันไม่ให้มันเรียกปรามาสขึ้นมาอีก
กำหนดรู้หนอดักไว้ 2 - 3 ครั้ง สักพักก็เปลี่ยนไป คิดโน่นนี่อีก

พอมานั่ง ก็รู้กาย นั่งแต่มันไม่ได้มารู้ว่าท้องขยับหรือกายขยับ จับไม่ค่อยได้ ไม่มีแรง
ไปนิ่งอยู่ที่จิต จะเอามารู้กายได้ แค่นิดหน่อย ก็ไปอยู่ที่จิตอีก ก็พยายามเอามารูกายอีก
มันก็ได้อีกนิดแล้วก็ไปที่จิตอีก จนจบค่ะ
อืมก็มีความกลัวตาย ไม่กล้าปล่อยเวลาทิ้ง กลัว จะหมดเวลาไม่มีโอกาสปฎิบัติ ระหว่างเดินค่ะ

เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/20
ตอนเริ่มก็รู้เท้า แล้วก็เห็นว่าใจมันไม่เป็นสมาธิ มันไปคิดๆก็เห็นว่า มันไปติดใจสภาวะของรอบก่อนหน้า
ไปยึดติด แล้วก็ ตัวกูรู้ก็ยังติดมา แต่ไม่ได้ขึ้นมาชัด แต่มันยึดถือมันพอใจในการรู้

แล้วก็เดินๆไปก็ มีหลงไปฟุ้ง ออกนอกตัว ขารู้แตะๆ เราก็คิดว่าเรารู้ สักพัก มันกลับมารู้ตัวว่าไปนอกตัว
แล้วขาที่รู้แตะๆนั้นก้ไม่ได้รู้จริงๆ เพราะใจมันปรุงแล้วไป ก็เลยกลับมาใช้คำบริกรรมกำกับเพื่อให้อยุ่
กะเนื้อกะตัว แล้วก็ ความอยาก ความอยากมีตั้งแต่ ตัว ต้องดีให้ได้คือมันบังคับ บังคับว่าจะต้องห้ามหลง
มาเปนความคิดก่อนว่าจะต้องรู้ตัว จิตก็เครียด ทุกข์ ก็รู้ไปก้อเปลี่ยน

อีกสักพักก็เป็นความไม่พอใจก็ดูว่าไป ก็เข้าใจว่าไม่พอใจ เพราะมันจะให้เป็นสภาวะแบบที่มัน้องการ
แล้วมัน ไม่เป็นแบบที่มันต้องการก็รู้ไป แล้วมันก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น

สักพัก ก็รู้สึกว่าชัดหมายถึงจิตมันชัด มองเห็นห้องเห็นตัวเองเเดินชัด ก็รู้สึกแปลกๆ ถึงกายที่เดินอยู่
มีความรู้สึก เหมือนนี่หรือเราแต่ไม่ชัดขนาดนนั้น คือเหมือนกายไม่ใช่เรา
แต่ไม่ได้รุ้สึกชัดขนาดนั้นแล้วมันพยายามจะรู้สึกแบบนั้น มันมีความอยากเจือปน

และคลับคล้ายคลับคลาจะเข้าใจแต่ยังไม่เข้าใจ ยังไม่อ๋อ ก็พยายามจะดูให้มันอ๋อ
จนมันกลายเป็นลืมตัวก็เลยกลับมาบริกรรมเท้าใหม่

ก็สักพักก็รู้สึกว่า คือมันจะมีตัวที่ชมตัวเอง คิดว่าจะตกแต่งการส่งการบ้านยังไง ขึ้นมาพูดๆ แล้วก็รู้
มันก็หายไป แล้วก็ระลึกได้ว่าตัวนี้มีมาตลอดเลย ตัวนี้ทำให้ยึดแล้วทุกข์ ว่าต้องมีการบ้านดีๆมาส่ง

ก็แล้วก็ปล่อยไป แล้วพอมานั่งก็รู้กายได้นิดหน่อย แล้วก้อไปเหมือน ไปคิดๆๆๆแต่ว่ายังรู้ว่านั่งว่าทำอะไร
จะมารุ้กายต่อก็รู้ได้ไม่ชัดไม่จับอยู่กะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ก็รู้ว่ามีกาย แล้วก้อไปอยู่ที่จิตอีก

จิตไปคิดเป็นภาพการฆ่าสัตว์ที่เราเคยทำ ปู ปลา ทำร้ายสัตว์ ก็กลัว
จริงๆเรื่องนี้กระทบตั้งแต่เมื่อคืนก่อนนอน

แล้วตามมาถึงตอนนั่งสมาธิก็กลัวจะได้รับผล ว่าจะได้ผลผลแบบไหน ดูๆไปก็เปลี่ยนอีก
ก็ไม่ได้ไปคิดเรื่องนี้แล้ว ก็จบเล้วค่ะ หมดเวลาค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

สติ สัมปชัญญะเริ่มทันมากขึ้น มันเลยขุดของเก่าขึ้นมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม คือเป็นตั้แต่เมื่อคืนค่ะ พอดีไปอ่านเรื่องผู้ป่วยมะเร็งก้กลัว
แล้วนึกขึ้นไดว่าเคยทำไรไว้ แล้วพอนั่งมันก็ขึ้นมา

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้วค่ะ สภาวะเขามาสอนไม่ให้ประมาท นับวันมันจะสร้างเหตุแบบระวังมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็เพราะมันกลัว

สุขที่แท้จริง says:

หมูเริ่มจะปรับตัวเองเข้ากับสภาวะได้มากขึ้นนะ ไม่ไปขัดขืนเหมือนเมื่อก่อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าค่ะ สังเกตว่าเด๋วมันก็ดีเด๋วมันก็ร้ายค่ะ เด๋วก็ขึ้นๆลงๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง

สุขที่แท้จริง says:

ไตรลักษณ์ แต่มันจะไม่มีคำเรียกว่าไตรลักษณ์

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูก็ไม่รู้หรอกค่ะ รู้แต่ว่าเด๋วมันก็ลืม เด๋วมันก้ได้
คิดว่าได้ก็เด๋วแย่อีก แล้วก็เครียดอีก

สุขที่แท้จริง says:

พอเข้าใจสภาวะแล้วจะไม่ไปยึดติดเหมือนเมื่อก่อน มันทำให้เราได้พักสักแป๊บก็ยังดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ขอสักหน่อย เฮ้อ วันนี้ก็ คิดๆว่า อืมจะถามพี่น้ำหน่อยน่ะค่ะ
พี่น้ำบอกว่าสภาวะ จะมาทบทวนจนกว่าเราจะสอบผ่าน คำว่าสอบผ่านนี่ยังไงถึงเรียกว่าผ่านหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

รู้ด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ ตอนนี้หมูยังไม่รู้ กิเลสต้องระวังให้ดีค่ะ ตัวอวดดีมันจะเผยอหน้าขึ้นมาจะยุ่ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมค่ะพี่มันก็มีนะคะทั้ง 2 รอบ รอบแรกก้ขุดอารมดิบเถือ่น จิตมันไป ระลึก หรือไปจับ เรื่องต่ำๆ ขึ้นมา
แตะแล้ว มันก็รู้ว่าเราชอบเรื่องพวกนี้หรือนี่ ไปแตะบ่อยมาก

สุขที่แท้จริง says:

มันจะขุดขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ บางสิ่งพอเรารู้ตกใจเลย เรามีด้วยหรือแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมี


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

น่ากลัวนะคะ มันกลัว อดีตตัวเอง ที่ฝังลึกอยู่

สุขที่แท้จริง says:

ทั้งกลัว ทั้งรังเกียจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วเราผ่านมันไปได้ยังไง .... อันนี้คือคำตอบเดียวกัน กับข้อเมื่อกี้ใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ เราจะรู้เอง ไม่ต้องไปถามใครๆ เพราะใครๆก็ให้คำตอบกับเราไม่ได้
เพราะมันคือกิเลสของเรา มันคือสภาวะของเรา อยากอ่านไหมล่ะ ว่ารู้ได้ยังไง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่านมีให้อ่านด้วยรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

มีสิ เก็บเอาไว้เลยแหละ เด๋วส่งให้ มีอะไรจะถามอีกไหมล่ะค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่มีค่ะพี่ แล้วถ้าอ่าน

สุขที่แท้จริง says:

หมูอ่านแล้ว จะได้มีความเพียร เพราะเห็นแล้ว คนที่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จะส่งผลกระทบกะการปฎิบัติไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แต่ก่อนทำไมไม่เคยสงสัยเรื่องนี้ก็ไม่รู้

สุขที่แท้จริง says:

ได้รับหรือยังคะ เก็บเอาไว้นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้แล้วค่ะพี่ ขอบคุณค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ เรื่องความสงสัย มันก้คือความอยากที่แฝงมาในรูปของความสงสัยน่ะแหละค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เมื่อกี้ เห็นแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

โมทนาค่ะ ดีแล้วที่เห็น กิเลสมันเนียน
อ่านเมล์ก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยคุยกับพี่ อยากให้อ่าน จะได้เข้าใจสภาวะมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะ งั้นแปปนะคะพี่ อ่านจบแล้วค่ะพี่น้ำ รู้สึกเข้าใจมากขึ้นค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อ่านแล้วพอจะเข้าใจมั๊ยคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจค่ะ มากขึ้น...

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ให้ได้คำตอบเอง ไม่มีคำเรียก ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
วัดกันที่กิเลสกับสติ ตัวผู้ปฏิบัติจะรู้เอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ที่เหลือต้องรู้จากการ ภาวนา ก็เดินหน้าปฎิบัติต่อไป

สุขที่แท้จริง says:

เห็นที่พี่เขาพูดมั๊ยล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะที่บอกเห็นบ่อยๆมันก็วาง ถ้าไม่เห็นก็เกาะกินมากขึ้น

สุขที่แท้จริง says:

จ้าาาา ตามสภาวะจริงๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้าว โอเชค่ะพี่ หนูเก็บไว้ เด๋วก้าวหน้าขึ้น ก็อ่านประโยคอื่นเข้าใจเองนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่ถึงบอกไง เก็บเอาไว้ให้ดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตลกดีนะคะ หมายถึง ของแบบนี้มันหลอกกันไม่ได้ เราอยู่ตรงไหน เราก็เข้าใจในจุดนั้น

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ หมูเริ่มเข้าใจสภาวะมากขึ้น รู้แค่ไหน ก็อ่านแล้วเข้าใจได้แค่นั้น

การปฏิบัติ เมื่อเข้าใจแนวทาง และเห็นกิเลส รู้จักกิเลส ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น มันรู้สึกเบาสบายนะ
ตอนนี้มีแต่ความสบาย มันรู้สึกเบาๆสบายๆแบบบอกไม่ถูก ชีวิตมีเท่านี้เองนะที่เหลือ มุ่งหน้ากระทำ
แต่เหตุดี เหตุไม่ดี ไม่คิดแตะต้อง มันเหมือนอสรพิษร้ายที่คอยจ้องจะขบกัดเรา

ถ้าเราเผลอหรือประมาทเมื่อไหร่ เราจะถูกมันขบกัดทันที อสรพิษในที่นี้ คือ กิเลสที่มีอยู่ในดวงจิตเรา
นี่เอง ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ไม่ใช่สิ่งนอกตัว แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจเรานี่เอง สภาวะที่เกิดขึ้นทุกๆ
การกระทบ เป็นตัววัดสติ สัมปชัญญะของเรา ที่ขับเคี่ยวกับกิเลสของเราเอง

เมื่อเริ่มทันมันเราก็รู้สึกเบาสบาย ไม่ไปรู้สึกเกาะเกี่ยวสิ่งต่างๆนอกตัวเหมือนเมื่อก่อน จะสงบรู้อยู่แต่ใน
กายและจิต วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ล้วนไม่มีความแตกต่างกันเลย วันเวลายังคงหมุนเวียนไปตามปกติ
ชีวิตของเรานั้นก็หมุนเวียนไปตามสิ่งที่เคยกระทำเอาไว้ในอดีต และสิ่งที่กำลังกระทำให้เกิดขึ้น
เป็นอนาคตต่อไปเรื่อยๆ เราสามารถหยุดมันได้ เพราะกิเลส เป็นตัวทำให้นาฬิกาชีวิตของเรา
หมุนวนตลอดเวลา พี่เพิ่งเขียนวันนี้ ตอนนี้เริ่มเขียนรายละเอียดมากขึ้น

วันนี้ก็มีเรื่องราวให้เกิดปีติมากมายจนน้ำตาร่วงเลย อนุโมทนากับกัลยาณมิตร ที่เดินได้เองอย่างมั่นคง
ไม่ต้องพึ่งพาใดๆอีกแล้ว เพราะมีสติ สัมปชัญญะเป็นที่พึ่งแบบเต็มตัวได้แล้ว ไม่ต้องให้ใครมายืนยัน
หรือรับรองใดๆ เป็นสิ่งที่รู้ได้จริงๆ ไม่มีคำเรียก ไม่มีความหมายใดๆเลย

สภาวะไม่มีความแตกต่าง เพราะมันคือกิเลส ทุกๆคนจะรู้เหมือนๆกัน แต่แตกต่างตรงตัวแสดง
ขึ้นอยู่กับเหตุที่แต่ละคนกระทำกันมา ถึงไม่มีเขา ไม่มีเรา มีแต่กิเลส แล้วจะไปยึดอะไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ... ถึงไม่มีเขา ไม่มีเรา มีแต่กิเลส แล้วจะไปยึดอะไร ท่อนนี้

สุขที่แท้จริง says:

มีแต่การเจริญสติเท่านั้นแหละค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จะเข้าใจ ต้องใช้เวลา สภาวะไม่มีความแตกต่าง เพราะมันคือกิเลส ทุกๆคนจะรู้เหมือนๆกัน
แต่แตกต่างตรงตัวแสดง ขึ้นอยู่กับเหตุที่แต่ละคนกระทำกันมา
...ท่อนนี้หมูเข้าใจค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

โมทนาค่ะ เห็นสัจธรรมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สาธุค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ที่พี่ไม่ให้อ่านเรื่องญาณ 16 น่ะ มีเหตุผลนะคะ
มันไม่ใช่แค่ว่า กลัวหมูจะนำไปเทียบเคียงกับสภาวะเท่านั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กลัวหมูจะไม่เข้าใจ ด้วยตนเอง

สุขที่แท้จริง says:

เพราะมันจะทำให้สภาวะบิดเบือนตามความเป็นจริง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำให้บิดเบือน...

สุขที่แท้จริง says:

แล้วจะหลงตัวเองมากกว่าเดิม ญาณแต่ละญาณ สามารถก้าวกระโดดได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นไป
ตามลำดับขั้น ขึ้นอยู่กับเหตุที่เคยกระทำมา และเหตุใหม่ที่สร้างขึ้น

บางคนอาจจะจาก 4 กระโดดไป 16 เลยรอบเดียว แต่ยังไงก็ตาม สุดท้ายสภาวะต้องกลับมาทบทวน
กิเลสต่างๆอยู่ดี บางคนคิดว่าผ่านแล้วผ่านเลย ไม่ใช่นะ มันไม่ใช่แบบที่คิดๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆค่ะ พี่คะ แล้วสมมติ จาก 4 หล่นมา 1 มีไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่มีหรอก ไม่มีตกต่ำไปกว่านี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือถึงขึ้นไหน ก็ไม่กลับมาต่ำกว่าเดิม

สุขที่แท้จริง says:

เปล่าค่ะ หมายถึงว่า ไม่มีทางตกต่ำไปกว่า 4 สมมุติว่า ขึ้นไปถึง 10 แล้ว
อาจจะติดอะไรบางอย่าง อาจจะตกมาที่ 4

แล้วกลับขึ้นไปใหม่ได้ แต่หมายถึงคนที่ทำต่อเนื่องนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อค่ะ มันก็คือความเข้าใจ ความเข้าใจ ในกิเลส

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ถ้าเขารู้จักกิเลสแล้ว ยังไงๆไม่หนีหายไปไหนหรอกค่ะ กิเลสมันจะตามล่าเขาเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เนี่ยค่ะพี่ กิเลสตามล่าของพี่น้ำนี่ หมูยังไม่ค่อยเข้าใจ

สุขที่แท้จริง says:

เจ้าหนี้ไงคะ ตัวกระทบที่เกิดขึ้น รู้จักกิเลสแล้ว เจ้าหนี้ไม่ปล่อยให้ลอยนวลหรอกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อออออ เข้าใจแล้วค่ะ ก็ต้องกลับมาทำ ไม่งั้นทุกข์มาก

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ทำอาจจะทุกข์ แค่ตอนทำ พอออกจากการทำ ทุกข์ตรงนั้นหายไปแล้ว กลับไปอยู่กับทางโลก
ได้มากขึ้น รับมือกับการกระทบต่างๆได้มากขึ้น ชดใช้หนี้เขาได้มากขึ้น ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับใครๆ
มันจะคอยดูจิตตัวเองทุกๆครั้งที่กระทบ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตัววัดสติ ที่พี่น้ำพูดถึง ก็เจ้าหนี้เรานี่เอง

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ เจ้าตัวกระทบนี่แหละ ใช่ค่ะ กิเลส

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2010, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 176


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

60/30
ก็วันนี้นิวรณ์เยอะค่ะ กินอิ่มมากไปก็ตาปรือ จิตก็ฟุ้งวอบแวบๆไปแต่ก็ยังรู้เท้าได้
ก็มีคิดว่าตัวเองดี แบบหลงไปคิด แล้วปรุงดีเรื่องการสอน ในงานที่ทำน่ะค่ะ
ก็มีความอยากให้เห็นด้วย แต่มาไม่เยอะ เห็นเป็นแรงแน่นๆ แล้วก็หายไป

ก็ตอนต้นจิตไปคิดแต่เรื่องปลวกแล้วก้เห็นความโกรธ ความไม่พอใจปลวก
จิตใจที่ประทุษร้ายเกาะๆเกี่ยวๆหลายรอบก็รุ้ว่ามันเกินไป ก็คิดว่าถ้าเราเป็นมัน เราจะรู้สึกยังไง
ก็คลายไป แล้วไปสนใจกรรมฐานต่อได้

จริงๆก็ไม่อยากเล่ามันยอมรับไม่ได้ว่าใจมันยังคิดผิดศีล 5 ได้ มันรับไม่ค่อยได้ค่ะ
เพราะเลิกฆ่าสัตว์มาหลายปีแล้ว ก็ส่วน

ใหญ่จะง่วงๆมัวตลอดบางครั้งก็ ชัด ขึ้น แล้วเห็นมัวเคลือบบางๆ ข้างในมีแรง และชัด ทำลายความมัว
ที่เกาะกินจิต สักพักมัวกะง่วงก็เข้าครอบงำอีกแล้วก็อยากเลิกเดินอยาก นอน ขี้เกียจ
ก็ดูอารมณ์ที่เกิดขึ้นมันก้อผ่านไป แล้วก็มาๆไปๆ

พอมานั่งก็หลับในค่ะ ไม่จับกาย แต่จะออกแนวหลุดออกมารู้ทั้งตัว แล้วก้อไปอีก
แล้วก็หลุดออกมารู้อีก จนจบค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อีกหน่อยหมูจะยอมรับมันได้ค่ะ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
เมื่อก่อนพี่ก็เป็น พี่นึกถึงควายที่พี่พามันไปโรงเชือด ตอนนั้นยังเด็ก ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มีตัวจะรายงาน โดยสร้างคำพูดว่าจะรายงานพี่น้ำว่ายังไงๆ แก้ตัวยังไง แบบนี้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสน่ะค่ะเราไม่ยอมทำตามมันก็จบ พูดตามความเป็นจริงที่เราเป็น กำหนดรู้หนอๆๆๆ นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าพี่น้ำคะ วันนี้หมูทำรอบเดียวนะคะพี่
สติแตกน่ะค่ะ วันนี้กินซะ หมดเลย นิวรณ์ครอบงำ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ พี่เองช่วงนี้ก็โดนนิวรณ์เล่นเกือบทุกวัน ที่ทำงานน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ อ่านบล็อกนอกแล้วละค่ะพี่ พี่น้ำก็เจอบททดสอบนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ คนที่ทำงาน เขามาใหม่ ตอนยังไม่ผ่านโปรไม่มีบทบาทพอผ่านโปรเริ่มมีบทบาท
ก็เหมือนประมาณว่าจะมาหาเรื่องพี่ ตอนแรกกะว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับหัวหน้าของเขา
เพราะพี่กับหัวหน้าเขาสนิทกัน คิดไปมาแล้ว อยู่เฉยๆดีกว่า เจริญสติไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.พ. 2010, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 177


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

60/30 รอบแรกค่ะ
วันนี้ตอนเดินก็ทุกข์เยอะมาก ตอนเดินรู้เท้าแต่ว่ามันจะไปสนใจที่จิตมากกว่า
คือว่าจิตมันคิดอะไร มีความเห็นอะไรก็จะทุกข์ตลอด เท้าก็รู้ แบบ ว่ามีการก้าวเดิน

ความไม่พอใจ ความทุกข์ มีมาตลอดเวลาก็ไม่รู้ว่าทำไม
เพราะไม่ได้คิดเรื่องราวที่เป็นชีวิตประจำวันหรือความทรงจำอะไร ก็คอยดูว่าทำไม แล้วก็หาตอบไม่ได้

ก็หายใจยาวๆ บริกรรมเท้าบ้าง ดึงสติกลับมาที่เท้าบ้าง มันก็เอาไม่อยู่ สักพักก็ใจมันก็ตกใจว่าเอ้ย
ทำไมเราทุกข์เยอะขนาดนี้ ความไม่พอใจในจิตทำไมมันเยอะอย่างนี้ ตลอดเวลาเลยนะ

สุขที่แท้จริง says:

กำหนดรู้หนอบ้างมั๊ยคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มีกำหนดค่ะ 1ครั้งที่มันแรงๆ

สุขที่แท้จริง says:
เพราะมันไม่ได้ดั่งใจ มันก็เลยไม่พอใจ เลยทำให้ทุกข์ ความอยากมันแฝงอยู่ลึกๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือค่ะพี่ พอหมูตกใจว่าทำไมมันทุกข์ทุกย่างก้าว มันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเบาขึ้นจากนั้นดูๆไป
ก็มีความรู้สึกว่าเห็น ว่า มันมีเรา จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่หมูไม่แน่ใจเพราะมันบางๆ
แล้วก็ไม่เห้นแล้ว

สุขที่แท้จริง says:
เพราะมันไม่อยากให้มี ก็เลยทำให้ไม่พอใจ ขึ้นชื่อว่าความอยาก ยังไงๆมันก็ทุกข์

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมู แยกไม่ออก อะค่ะตัวนี้ ปกติที่เห็นของหมูมันชัดๆ

สุขที่แท้จริง says:

บอกแล้ว สภาวะมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันจะเนียนมากขึ้น ให้เรากำหนดรู้
ไม่ต้องไปชอบหรือชังมันหรือไปสงสัยว่ามันทำไม อย่างไร คืออะไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วทีนี้พอเดินไปๆอีกก็มี เห็นกิเลส คือมันอยากตลอด
มีความอยากตามหลังความคิดแล้วรู้แล้วอาการก็ดับไป มีตัวที่มันคิดว่ามันก้าวหน้า มันไปคิดปรุง
ตัวที่มันคิดว่ามันดีตัวนี้จะขึ้นมาให้เห็นหลายครั้ง เป็นอาการของจิตที่มันจะฟูเหมือนมีคนชมมัน

มีจิตที่ชอบเห็นว่าคนอื่นตกต่ำกว่าเพื่อจะได้รู้สึกว่าตัวเองดีกว่า
มีเห็นความอยาก ต้องดี ที่กลายเป็นเมื่อต้องดีแล้วที่ผ่านมาในชีวิตเลยรู้สึกว่าเราไม่ดี ตลอด
กลายเป็น ความไม่มั่นใจในตัวเองหรือคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ สู้คนอื่นไม่ได้ และไม่พอใจ

แล้วก็พอมานั่งก้อรู้กายได้ไม่นานก็ไปปรุงคิดๆ แต่ยังรู้ว่ากายนั่งอยู่ แล้วก็มีจิตจะปรามาสเบาๆก็มีกำหนด
แล้วก็ไม่รู้สึกกาย จำไม่ได้ จากนั้นก็มารู้สึกว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็เอาจิตมารู้กายได้อีกนิดเดียวก็ไปอีก
จบแล้วค่ะ พักใจก่อนนะคะ เด๋วขึ้นรอบใหม่ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
กำหนดบ้างครั้งเราอาจจะไม่ทัน ถ้าอะไรที่มันเกิดถี่ ให้กำหนดสำทับลงไป แล้วมันจะค่อยๆเบาบางลงไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ รอบหน้าจะกำหนดมากขึ้นค่ะ
เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ 60/30
รอบนี้ก็ใช้คำกำหนดรู้หนอช่วย ตอนเริ่มต้นก็เดินรู้เท้า ความทุกข์ความไม่พอใจก็ขึ้นมาอีก
ก็หายใจแล้วกำหนดรุ้หนอ 3 ครั้ง แล้วเดินต่อ ขึ้นอีกก็ทำอีก

ก็เห็นความคิดค่ะ ก็รู้แล้วว่าถ้าคิดแบบนี้จะทุกข์แบบนี้แต่ก็ยังไม่วาง ก็กำหนดรู้หนอไป
แล้วพอคิดอีก ทุกข์อีก ก็รู้อีก ก็มีตัว ต้องดีให้ได้ ขึ้นมาค่ะ พวกนี้ขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วก็หายไปเลย

ก็มีจะอกุศล ปรามาส ก็กำหนดคิดหนอรู้หนอก่อน แล้วก็มีตัวมานะจะสบถ ก็แวบขึ้นมาแล้วหายไป
ความไม่พอใจก็ยังมีอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ก็กำหนดบ่อยๆ แรกๆก็ยังไม่หาย หลังๆก็ดีขึ้น

พอนั่งรอบนี้พยายามจับกายก็รู้กาย แต่มันจะไม่ได้เห็นกายขยับ ก็เลยจับที่กายนั่งรู้กายที่นั่งอยู่
แล้วก็มีไปคิด ก็มีจะลืมตัวจะไปจริงจังในโลกความคิด ก็รุ้แล้วยังไม่เข้าไปคะ แบบนี้หลายครั้ง

มีแวบไปจริงจังบ้างเหมือนกันแต่ยังก้ำกึ่งกับการรู้กาย แล้วก็ออกมาไม่เข้าไป จนจบค่ะพี่
หมดแล้วค่ะ อ้อมีอกุศลจะปรามาสก็กำหนดรู้ไปค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

สติหมูเริ่มไวมากขึ้น เมื่อจับอะไรๆไม่ได้ หันมารู้ส่วนไหนของกายก็ได้ รู้ให้ทัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ วันนี้ไม่ทันสภาวะ โดนซะอ่วม

สุขที่แท้จริง says:
หมูก็ทันมากขึ้นนะ เพียงแต่ว่ากิเลสมันจะละเอียดมากขึ้น แต่กิเลสตัวเดิมๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ ค่ะ เวลาเราเห็นกิเลส เราไม่ต้องกำหนดรู้รู้ ว่ามันหน้าตาเป็นไง
หมายถึงไม่ต้องกำหนดรู้หนอๆ แต่ถ้าใจไม่เป็นกลาง แล้วไม่ทัน อันนี้กำหนด ถูกไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ถ้าไม่เป็นกลางเมื่อไหร่ ให้กำหนดสำทับลงไป แค่กิเลสในจิตนี่ก็แย่แล้วนะ
แล้วจะไปรบกันทำไมกับกิเลสนอกตัว อ่อ ... รบเพราะเรามันโง่นั้นเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็วันนี้โดนมันด่า ตอนเดินอยู่ค่ะ ห ยาบ เชียว

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ มันจะด่าตัวเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันด่าแบบว่า กิเลสหนา ปัญญาทุย แต่มันไม่ใช้คำว่าทุยนะคะ เจอความไม่ละอายด้วยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เห็นไหม ทุกคนต้องเจอเหมือนๆกัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตัวที่มันจะแก้ตัวให้กิเลสว่า คนอื่นยิ่งกว่าเรา ทำห้เราไมเกรงกลัวบาป และก็ตัวที่โทษคนอื่น

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ มันสิงสถิตยอยู่ในจิตเรามานานแล้วค่ะ ถ้าไม่เจริญสติจะไม่มีวันเห็นสภาวะนี้หรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สุดยอดเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีตัวกลัวบาปจนจะเป็นโรคจิต มาตอนนี้ก็กลับกัน

สุขที่แท้จริง says:
สภาวะจะมาทดสอบตลอดเวลาค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ วันนี้ก็โดนกระทบก็เลยรู้ว่าตัวเอง เป็นไงโดนคำพูดกระทบ
ตอนนี้ก็อยู่ระดับที่พอสงบปากสงบคำได้แต่ใจไม่สงบ แต่ปากจะหุบไว้ก่อน

สุขที่แท้จริง says:
ก็ทำๆเหมือนเดิมทุกๆอย่าง แต่ใจเราเท่านั้นแหละที่ไม่เหมือนเดิม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ใจแต่ละครั้ง

สุขที่แท้จริง says:
มีสติทันก็ปรุงน้อยลง ดับไวขึ้น สติไม่ทันก็ปรุงมากขึ้น กิเลสลากเอาไปกิน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ทุกข์ ตามระเบียบ

สุขที่แท้จริง says:
มันลากก้ให้รู้ว่าเออโดนลากไปแล้ว ให้กลับมารู้กายให้ทัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็ช่วงนั้นมันอยากจะเลิกทำนะคะ ต้องฝืน

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ ถ้าไม่ฝืนก็ทุกข์ไปตลอด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็พอมาทำแล้ว ถึงได้เข้าใจ

สุขที่แท้จริง says:
ทำต่อไปค่ะ รู้สึกยังไงก็ให้รู้ กิเลสน่ะค่ะ กำหนดรู้หนอๆๆๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ก็จะระวัง ค่ะ กิเลสประมาทไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ดีแล้ว การไม่ประมาทน่ะดีที่สุด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ นามรูปปริเฉจนี่ แยกรูปแยกนาม นี่ หมูยังไม่เข้าใจเลยค่ะ
ที่ท่านบอก รุ้เป็นนาม ที่เขาท่องๆกันน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
อ่อ .. ก็แค่ง่ายๆน่ะหมู สิ่งที่มากระทบอายตนะเรานี่เรียกว่ารูป จิตรับรู้สิ่งที่มากระทบเรียกว่านาม
แต่เวลาเขาสอบอารมณ์น่ะ อย่างเช่น ท้องพองยุบที่ครูบาฯท่านถามน่ะ แค่อุบาย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ท่านจะดูสภาวะจริที่ซ่อนอยู่

สุขที่แท้จริง says:
ดูสติค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยากจังนะคะการสอบอารม หมายถึงคนถูกสอบอะค่ะ เขาไม่รู้จริงๆ

สุขที่แท้จริง says:
ทำได้จริงไม่ยากหรอก ก็ตอบไปตามความจริง ไม่เห็นจะยากตรงไหน
แล้วคนที่สอบเขาก็จะแนะนำเพิ่มเองแหละให้เพิ่ม ให้ลดอะไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แบบคิดถึงตอนพยายามทำตาม คำแนะนำ สุดพอง สุดยุบ โห ก็พยายามมากๆ ฮ่วยมันสุดตรงไหนเนี่ย

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจเลยที่หมูพูดมาน่ะ ไปนั่งเบ่งลมกันอยู่ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่นอะค่ะ หายใจอึดอัดมาก ยังไม่เห็นต้นกลางปลายอะไรทั้งนั้นเลย

สุขที่แท้จริง says:
ก็ไปบังคับอ่ะนะ มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าถามว่าผิดไหม ก็ไม่ผิดนะ
มันแล้วแต่เหตุที่เคยกระทำมาน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เป็นเส้นทางที่เราต้องผ่าน จากเหตุที่ทำไว้ ถ้าล้มเลิกความพยายามต่อก็จบเลย
ตอนเดินก็คิดเรื่องนี้ว่าเราไม่รู้ว่าเรารับกรรมอยู่ ถ้าเราไม่ปฎิบัติ เราก็จะฝากชีวิตไว้กับคำภาวนา
ว่าขอสิ่งที่อย่าเกิด พอเกิดก็ทุกข์ แล้วก็อยู่กะความคาดหวัง ว่าขอให้สิ่งนั้นเกิด พอไม่เกิดก็ทุรนทุราย
ถ้าเรารู้ว่าสิ่งนั้นเกิดเพราะเราทำไว้เราก็จะสงบไวขึ้นเข้าใจมัน

แต่ก่อนหมูคิดไม่ดีกะผู้มีพระคุณ โดยไม่คิดว่าผิดไม่รู้ว่าเป็นกรรม แล้วเดินผ่าน แอบได้ยินคำพูดของท่าน
ท่านพูดในสิ่งที่หมูคิด ท่านก็คิดเหมือนหมูเลย ตอนนั้นก็เสียใจ เจ็บใจ

แต่วันนี้มองย้อนกลับไปก็เข้าใจว่ากรรมมาสนองแต่ตอนนั้นเราไม่รู้ คนๆนี้ก็เหมือนกัน
ถ้าเขาไม่เจริญสติเขาก็จะไม่หยุด

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ไม่มาเจริญสติ ไม่มีทางรู้ได้หรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คนที่เจริญสติแล้วได้รับผลกรรมไว นี่โชคดีนะคะ เขาเห็นผล เขาก็จะเชื่อ ว่ากรรมมีจริง

สุขที่แท้จริง says:
กว่าจะเชื่อก็กระอัก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็กระอัก เพราะทำไว้เยอเลยนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่เลย อยู่ที่เหตุเรากระทำไว้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พี่น้ำบอกคนทุกคน ต้องถึงปลายทางเหมือนกัน
แล้วคนที่ทำไม่ดีเยอะๆ จะเวียนกลับมาเส้นทางนี้ได้ยังไงอะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ได้สิคะ กุศลด้านอื่นเขามี มันก็สะสมไปเรื่อยๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งืมๆ ไม่มีใครเลวร้ายทุกเรื่อง

สุขที่แท้จริง says:
จนกว่ากุศลมากขึ้นมีกำลังพอ ถึงจะพบเส้นทางนี้ได้ และได้ปฏิบัติ
แต่ทางที่ดี อกุศลอย่าไปแตะมันเสียเลยจะดีกว่า

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 23:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 178


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

รอบแรกเสร็จแล้วค่ะ 60/35 วันนี้ฟุ้งกระจายค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
มันไม่เที่ยงค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพอดีวันนี้คิดแต่เรื่องงานๆๆๆ เท้าก็รู้ค่ะ แต่ใจไหลไปมัวๆและคิด คิด คิดไม่หยุด
ก็หายใจยาวๆ กำหนดรุ้หนอ แล้วบริกรรมกำกับเท้า แล้วก็ไปอีกพักใหญ่ก็เอาอีก
หลังๆก็เดิน 6 จังหวะ ก็เห็นอาการฟุ้ง ใจมันวอบแวบ ภาพหน้าคน ภาพเหตุการซ้อนเข้ามาตลอด
พอขึ้นจังหวะการเดินต่อไปก็หายแล้วก็มาอีก ก็ดูไปแบบนี้ค่ะ

ส่วนปรามาส มันก้คิดเป็นภาพ ขึ้นมาก่อน ยังไม่ปรามาสแต่กำลังจะ ก็กำหนดรู้หนอๆ
คิดหนอก่อนแล้วรู้หนอ มันก็ยังจะขึ้นๆ ก็รู้เลยรู้สึกว่าเราเต็มที่แล้ว พยายามแล้วแต่มันไม่ลงก็เลยปล่อย
แต่มันก้อไม่ได้ขึ้นต่อ ก็เดินต่อค่ะ มีความอยากมาในรูปแบบความคิด แล้วเกิดความอยาก
แล้วทุกข์ ก็กำหนดรู้หนอไป

พอมานั่ง ก็พยายามจับกาย ก็รู้กายขยับ แต่ว่ามัน จิ๊ดเดียวจริงๆแทบจะไม่ขยับเลย
แต่ก้อรู้ว่ามันยังขยับอยู่ แล้วก็มี บางทีก็รู้ท้องขยับ ไม่สม่ำเสมอเห็นบ้างไม่เห้นท้องบ้าง
แล้วไปรู้วึกว่ากายแข็ง

บางส่วนของกายเช่นมือที่ประสานกันมันแข็งๆรวมๆกัน เป็นน้ำหนัก ขาที่นั่งขัตสมาส
แล้วก็มีกรามตึงปากตึง ขมับตึง

แล้วก็มีเหมืนอตัวแมลงเล็กเป็นจุดๆ ขยับยุบยิบๆ แล้วก็มีเผลอหลงไปแวบหนึ่งออกจากกาย
แล้วก็กลับมารู้ต่อ มีเหมือนแมลงกัดขมับก็เกา 2 ครั้งได้ค่ะ ก็มีคิดด้วยแต่ก็ยังรู้กายขยับได้รางๆ

60/35
รอบนี้ก็ฟุ้งเหมือนเดิมค่ะ ก็กำหนดรู้หนอ แล้วก็มารู้เท้าต่อ มันก็ฟุ้งๆต่อ ก็รู้เท้าได้อยู่ค่ะ
บางช่วงใช้ 6 จังวะ ก็ชัดขึ้น แล้วก็ฟุ้งใหม่อีก แต่หลักๆ ก็ยังรู้เท้า
แต่ไม่ได้รุ้ตลอดค่ะบางที่ก็เตลิดไปกะความฟุ้ง ก็ช่วงนั้นจะรู้แบบแตะๆ

แล้วพอมานั่งก็รู้กายกะไปคิดๆ คิดเป็นหนังที่เคยชอบดูเหมือนเราได้ดูหนัง แต่ก็ยังรู้กายค่ะ
แบบรู้ว่ากำลังนั่งสมาธิอยู่ด้วย แล้วบางทีก็เหมือนเข้าไปหลับในจิต แต่ก็ออกมารู้กาย
แล้วก็ เข้าไปอีก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปหลับ แล้วก็เอาจิตมารู้กายอีก มันก็มีทั้งฟุ้ง มีทังรู้กาย
มีทั้งไปอยู่ที่จิต สลับกันไปค่ะ จบแล้วค่ะ ก็มีจะปรามาสก็กำหนดรู้หนอๆไปด้วยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
มันก็แบบนี้แหละหมู จะสลับไปมา แต่สติก็เริ่มดีกว่าเมื่อก่อน ถ้าเป้นเมื่อก่อน หมูจะหลงไปเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็เดินไปแผ่เมตตาห้ปลวก ถึงห้องน้ำ ยังไม่กล้าย้ายรังเขา ลองพูดกะเขาดีๆอีกลายๆวันก่อน

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ลองทำดูค่ะ พี่ก็ใช้วิธีนั้น เขาไปหมด
แล้วพี่ถึงแงะรังเขาทิ้ง แล้วเอาเชลล์ไดฟ์ฉีดทับ เมื่อเขาได้กลิ่น เขาจะได้ไม่เข้ามาอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ลองดูก่อนค่ะ ไว้ค่อยว่ากันอีกที

สุขที่แท้จริง says:
ถ้าไม่ได้จริงๆ คือ เขาไม่ยอมไปเองจริงๆก็ต้องแงะเขาออกมา แล้วกวาดใส่ที่ตักขยะ
นำออกไปทิ่งให้หมด แล้วยอมเป็นภูมิแพ้เอา บ้านพี่เป็นนะ แบบช่วงนั้นเยอะมากเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นี่หมูก็เป้นภูมิแพ้ พอแงะเขาและเราจะแพ้รังเขาใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
มันเหมือนกับว่า แบบเวลาแงะน่ะ บางทีก็โดนตัวเขา ทำให้เขาต้องตายไปก็มี
ถึงแม้เราจะไม่ได้มีเจตนาเอาชีวิตเขาก็ตาม กรรมนั้นก็ต้องชดใช้ค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ กำลังคิดว่า 2 คืนที่แล้ว หมูเป้นลมพิษหนักเลย นอนไม่หลับเลยค่ะ เป็นช่วงที่ปลวกขึ้นแล้วไม่รู้
ขัดห้องน้ำเอาน้ำราดแล้วดินกระจายเลย นึกว่าไม้ผุธรรมดา แล้วก็ตามด้วยไซนัสอักเสบเฉียบพลัน

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถึงแม้ไม่เจตนาก็ตาม ก็ต้องชดใช้ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนคุยกะเขาเห็นเขาหยุดเดินบางตัว ไม่แน่อาจฟังหมูเข้าก็ได้ รอบแรกเดินไม่หยุด
รอบสองหยุดบางตัว มันอาจกลับไปคุยกันว่าย้ายเหอะ

สุขที่แท้จริง says:
เป็นไปได้จริงๆนะคะ เพราะเจอมากับตัวเอง เรื่องสัตว์เขาฟังเราพูดออกน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ไว้ดูก่อนห้องน้ำหมูมีทั้งมดทั้งแทงสาปเพราะไม้ผุแล้วมันอพยพมา
หมูต้องขออนุญาติด้วยการเคาะประตูห้องน้ำไล่เขาไปก่อนเข้าทุกครั้ง
พี่น้ำหมายถึง ไดม่อนกะแมว สิคะ

สุขที่แท้จริง says:
หนู ปลา ตะขาบ
เขาฟังเรารู้เรื่องจริงๆนะ สัตว์เขารู้ภาษาของเราจริงๆค่ะ ต้นไม้เขาก็รู้นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมุก็รู้สึกว่าเขารู้เรื่อง แต่ มันก็แปลกนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องแปลกๆในโลกนี้มีมากมาย พี่เองก็เจอศึกทางโลกต่อ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่านแล้วละค่ะ แต่พี่น้ำพลิกวิกฤติเป็นโอกาสมากๆ คิดในแง่บวกมากๆ

สุขที่แท้จริง says:
สภาวะเขาบีบบน่ะ ไม่ได้อยากทำหรอกนะ อยากอยู่สบายๆมั่ง สภาวะก็แบบนี้แหละ
ก็แทนที่จะไปคิดมาก เพราะรู้อยู่ว่าเขาจ้องจับผิด ก็หันมาเจริญสติดีกว่า


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ดีกว่าเยอะเลย อย่างพี่น้ำบอก เขาจ้องจับผิดจิตก็จะเสพแต่อกุศล

สุขที่แท้จริง says:
ใช่จ้ะ จิตเขาจะหมกมุ่นหาวิธีการที่จะเล่นงานพี่ให้ได้ คนที่ทุกข์ก็คือเขา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำไมเขาไม่ชอบพี่ขนาดนั้นคะ พี่น้ำดูไม่ น่าจะกระทบกับใคร

สุขที่แท้จริง says:
ความอยากเขามันเยอะ กับเพื่อนร่วมงานเขาก็คอยจับผิด คอยแทงข้างหลัง
ก็นะ ทำให้ทุกคนระวังตัว และขยันขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เอ่อ สำนักงานได้ผลประโยชน์ไป พนักงานขยัน

สุขที่แท้จริง says:
ใช่จ้ะ พี่ถึงบอกไง จะเบื่อ จะท้อไม่ต้องไปกังวล เด๋วสภาวะเขาก็ให้ความสุข
มาเป้นรางวัลชั่วคราว จะได้มีแรงไปฟัดกับกิเลสต่อ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สุขเมื่อไร เตรียมตัวได้ ช่วงนี้ยังไม่สุข แค่เฉยๆ

สุขที่แท้จริง says:
พี่ไง ที่ผ่านๆมาสุขตลอดเลยช่วงนี้ เลยโดนสะเลยย
แต่ไม่ไปทุกข์กับมันเพราะเริ่มชินกับสภาวะแล้ว
เป้นผู้ดูให้มากขึ้น ไม่ไปตอบโต้ คนที่สบายคือเรา คนที่ทุกข์ก็คือเขา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็ถ้าไม่เป็นอะไรก็ค่อยยังชั่วค่ะ ที่นี่พี่น้ำปฎิบัติ สะดวก

สุขที่แท้จริง says:
ก็ดีนะ เจอแบบนี้ เลยเหมือนพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำให้เราได้ทำความเพียรเพิ่มมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้ามีสตินี่แก้ปัญหาทางใจได้จริงๆ ใจสบายแล้ว ที่เหลือก็ง่ายขึ้น เพราะเราอยู่กะใจเรา 24 ชั่วโมง
กะตัวปัญหา นอกใจเรา กระทบกันไม่กี่ชั่วดมง แต่เป็นหมู นะ มีหวัง หน้าดำหน้าแดง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ความมีสติรู้อยู่ ช่วยได้เยอะมากๆ ทำให้เรารู้จักพิจรณา ไม่โทษเขา แต่โทษตัวเอง
มันมีเหตุมาก่อนแน่นอน เราเคยทำไว้กับเขา เราก็ใช้เขาไป ขอเพียงเรามีสติรู้อยู่
หนทางเราก็จะสะดวก ไม่ไปร้อนรนกระวนกระวาย

พี่ก็เลยยังคงมีความสุขเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องทำมากขึ้น
" ขอบคุณนะคะที่มาจ้องจับผิดกัน " อยากบอกกับเขาแบบนี้นะ
แต่กลัวปัญหาจะเกิด เด๋วเขาจะหาว่าเราไปประชดเขา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สาธุค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2010, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 179


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก 60/35
ตอนเดินก็อยากคิดเพลินๆ แบบมันติดระหว่างวันที่คิดเหมือนฝันกลางวัน
ว่าถ้าถูกลอตเตอรี่จะเอาเงินมาทำอะไร ช่วยครอบครัวยังไง และจัดสรรเงินยังไง
ตอนคิดก็เพลินๆสนุก พอมาเดินก็เลยยังอยากคิดอยู๋ ก็มีไปคิด แต่ยังรูเท้าอยู่ ไม่ปล่อยไปคิดแบบเต็มที่
พยายามจับเท้าไว้ด้วย ใช้รู้หนอๆกำหนดช่วยไป ก็ดีขึ้นช่วงแรกๆ แล้วก็มีความคิดเรื่องนี้ต่ออีกสักพัก

ก็ดูมันไปก็มีความอยากได้ดี อยากปฎิบัติแล้วเห็นผลดี ใจมันก็ร้อนไป ข้างหน้า ก็รู้มัน เป็นสักพัก
ก็หายไป เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นๆ แล้วก็รูเท้าไปด้วย แต่การรู้เท้าจะไม่ได้ชัดและสงบที่เท้า
คิดโน่นี่ไปแล้วก็รู้เท้า มีเวลาจะสบถหยาบๆ ก็กำหนดคิดหนอรู้หนอแล้วมันก็ยังไม่ขึ้น

แต่เห็นว่าจิตมันไม่ยอมรับสภาวะนั้นว่ามันเป็นแบบนั้น เหมือนคนที่ทำผิดแล้วิดหูหลับตา
บอกว่าไม่ใช่ชั้น ชั้นไม่ได้ทำ มีร้อนผ่าวที่ขาวูบๆตอนเดินแล้วก็หายไป

ตอนนั่ง เหมือนมีแมลงตัวใหญ่ๆ มีหลายๆขาไต่แขน ก็รูแล้วจำได้ว่า เคยเจอแล้ว สักพักก็หายไป
แล้วก็รูกายนั่งหรือท้องขยับตามการหายใจแล้วก็มี คิดเพลินๆเบาๆ ไม่รู้เรื่องอะไร
แล้วก็มันก็จะไปหลับในจิต ก็กึ่งๆ เหมือนจะเข้าไปหลับ แต่ก็ยังรูสึกตัวจะหนักไปที่รูสึกตัว
มากกว่าหลับ แล้วบางทีก็ออกมาท้อง แล้วก็เป็นแบบ จะไปหลับในจิตอีกสลับกันไป จบแล้วค่ะรอบแรก

รอบ 2 ก็ 60/30
ก็เดินรู้เท้าคิดโน่นนี่ตามเคยก็มีเอ จริงๆมันต้องรู้แบบฟุ้งๆแบบนีก้อได้หรือเปล่า
แต่ก็นึกขึ้นมาว่าอือก็คิดอะไรก็ปล่อยไปรู้เท้า ยกเว้นอกุศลค่อยกำหนดก็ดูต่อไป

ก็มีความอยากแล้วเห็นว่าความอยาก ทำให้เราไม่รู้สภาวะตรงหน้าแต่แวบเดียวที่รู้สึกแบบนั้น
แล้วก็ยังไม่แน่ใจก็ปล่อยไป

แล้วดูกายต่อ มีบางช่วงกายก็ชัดคือ ทั้ง 2 รอบวันนี้จะมีความมัวเคลือบอยู่ด้านนอกตลอด
มัวข้างนอก ข้างในไม่มัว แล้วการรูกาย จะรู้ส่วนของเท้า จะไม่ได้รู้ทั้งกาย
แต่รอบสอง มีบางช่วงที่รู้กายชัด ว่ากายมีอยู่ด้วย แล้วก็รู้สึกว่ากายนี่ไม่เหมือนเรา

ถ้าตอนเดินแล้วไม่รู้กายชัด ก็จะไม่รู้สึกแบบนี้ แต่พอรู้สึก่ากายชัดก็รู้สึกว่า มันเหมือนเป็นตุ๊กตาข้างนอก
แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนแบบจับใจ ในความรูสึกนี้ มีคิดปนไปด้วยก็เลยปล่อย

ก็มีเห็นกิเลส ที่มัน ชอบเวลาเห็นคนอื่นทุกข์ทรมานก็มันก็หมองเศร้าปนนิ่งๆว่าเรามีแบบนี้ดวย
แล้วก็คิดว่าทำยังไงให้สิ่งเหล่านี้หมดไปก็เลยตั้งใจดูกายต่อ

พอมานั่งก็มีรูกายกะสลับไปหลับในในจิต แต่ไม่หลับหลึกค่ะ มันยังมาแตะกายได้บ้าง
ลงไปแบบลืมกาย แวบเดียว แล้วก็มารู้ว่ากำลังนั่งทำอะไรอยู่ แล้วก็ไปแวบอีก
แต่จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ค่ะ มีเหมือนตัวอะไรกัด มีคัน จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็เดินรู้เท้าคิดโน่นนี่ตามเคยก็มีเอจริงๆมันต้องรู้แบบฟุ้งๆแบบนีก้อได้หรือเปล่า
แต่ก็นึกขึ้นมาว่า อือก็คิดอะไรก็ปล่อยไปรู้เท้า ยกเว้นอกุศลค่อยกำหนดก็ดูต่อไป


ทำแบบนี้แหละค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้นะคะ สุขสันต์วันปีใหม่จีน

สุขที่แท้จริง says:
เซี๊ยเซี๊ยหนี่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่เบาๆ

สุขที่แท้จริง says:
เฮงๆฮวดๆคังๆค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้โห

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2010, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 180


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก 60/35
ก็รู้เท้า แล้วก็คิดเยอะ หมายถึงมันคิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ ก็มีถ้าหลุดไป คิดจนชักลืมกาย
ก็จะวนกลับมาตั้งใจอยู่กะการเดินมากขึ้น มีกำหนดรู้หนอช่วย มีปรามาส เป็นภาพ กำหนด รู้หนอ 3 ครั้ง
แล้วปล่อยไป ขึ้นมา2 ครั้ง ได้ค่ะแต่ไม่ติดกัน

ก็มีโทสะ เพราะมีคนเข้ามาระหว่างกำลังเดิน ก็ไม่ได้พูดอะไรแต่ใจมันโกรธ ก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง
แล้วมันก็ยังไม่หาย มันปรุง เป็นเหตุการณื สมมติว่าเขาเข้ามาอีก ก็กำหนดรู้หนออีก แล้วเดินต่อ
พอปรุงอีกกำหนดอีก แล้วเดินต่ออีก ก็ดูใจตัวเอง ก็เห็นความโกรธมันเปลี่ยนรูปแบบ
เป็นอารมณ์ ที่ไม่ได้พุ่งฉุนเฉียว แต่เป็นอารมณ์แบบขมุกขมัว ที่ยืนพื้นด้วยโทสะ

แล้วพอดีปวดท้องเลยเข้าห้องน้ำ กำหนดรู้ไปด้วยแล้วจำไม่ได้ ว่าไปห็นอะไร จิตมันก็พอใจ
แล้วก็มีตัวที่มันพูดบรรยายสิ่งที่เจอ ว่าจะพูดกะพี่น้ำแบบนี้ แล้วก็จิตมันก็ขึ้นมาว่า
ว่า เอาสิจะเพิ่มเรื่องนี้ในการโอ้อวดคุณสมบัติไปเลย

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ ดีแล้วที่ยอมรับตามความเป้นจริง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะก็เดินขึ้นห้องไปทำต่อ หลังๆก็เดินไปคิดโน่นี่ไป แต่ก็รู้เท้าได้ แต่ไม่ได้จับชัด แบบมีสมาธิ
พอมานั่งก็รู้กายได้บ้าง แล้วมันจะคันน่ะค่ะเป็นลมพิษ เลยเกามากหลายครั้ง ก็เลยไม่ค่อยต่อเนื่อง
แต่ก็ยังมีรูว่ากายนั่งปฎิบัติ แล้วก็มีรูว่าไปอยู่ที่จิต หรือคิด แล้วก็คัน จนจบ ไม่ค่อยมีสติเท่าไร มันสะดุ้ง
ตอนเสียงนาลิกาดัง

พอมารอบสอง 60/35

ก็เดินๆ เหมือนเดินที่รู้เท้าเดิน เคลื่อนไหวแต่จะไม่ไปจับละเอียดที่เท้า มันก็คิดๆๆๆ ก็ หลักๆคือ
มันมีเห็นตัวยินดี กิเลส ที่มันยินดีที่ปฎิบัติธรรมน่ะค่ะ ที่มันชอบเมื่อมันคิดว่ามันปฎิบัติ ทำแล้วก็สักพัก
ก็คิดเรื่อง ไฟ ไม่ได้ปรามาสแม่นะคะ แต่ว่ามันคิดเรื่องที่เราต้องจัดการ แล้วก็เห็นว่า
จิตมันชักไม่อยากแก้ไข ก็ดูไป เห็นว่าความเกรงกลัวต่อบาป มันหายไปไหน แล้วก็ ดูไปอีก
เห็นว่ามันกลัวต้องรับภาระ ค่าใช้จ่าย มันไม่ยอม
ตัวนี้ขึ้นมาตอนที่เราวางแผนว่าเราต้อง เป็นผู้ช่วยรับภาระ นี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
ก็แย่นะคะ ไม่อยากเล่าเลย

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจนะคะ ภาระมันเยอะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็คิดว่า เอความเกรงกลัวต่อบาปหายไปไหน แล้วก็เสียความรู้สึกว่า นี่จิตเราไม่บริสุทนะ

สุขที่แท้จริง says:
ในเมื่อยังไม่พร้อมที่รับภาระนี้ ให้ใช้วิธีชำระหนี้สงฆ์ไปก่อนนค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วหมูก็ตัด หมายถึง หมูก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้คือกิเลสที่มีอยู่ หมูเลือกที่จะไม่ทำตามมัน
ทำในสิ่งที่ควรทำ แล้วก็เดินต่อ มันก็กลับมาสู่การเดินต่อไป

แล้วก็ พอนั่ง ก็มี รู้กาย ได้ว่านั่งอยู่ แต่ไม่จับที่อวัยวะส่วนไหน แล้วก็ไปง่วงในจิต
ไม่ได้ง่วงแบบเคลิ้มนะคะ แล้วก็ไม่ได้หลับมันก็คิดๆๆๆๆเรื่อยเปื่อยไม่เป็นชิ้นอันไม่รู้เรื่องอะไร

เห็นจิตมันหลงไปคิดว่านี่คือความจริง เหมือนกับเห็นจิตหนึ่งมันหลงกำลังจะคิดว่าความคิดนั้น
คือความจริง แต่เราไม่ได้หลง แล้วก็มีมดกัด 1 ครั้งค่ะ ส่วนใหญ่รอบนี้จะไป มีอารมณ์คล้ายง่วง
ในจิต แต่ไม่ได้ลงไปหลับ ยังพอรู้ว่ากำลังนั่งหลับตา จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ยังดียังรู้ตัวค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ วันนี้โดนมันด่าแบบผู้ดีนะคะ เหมือนแบบเหน็บๆ จีบปาก

สุขที่แท้จริง says:

นี่แหละจิต จิตที่ยังพิกลพิการ ยังขาดสติ มันเลยเล่นทุกรูปแบบ ถึงบอกไงคะ ถ้าชอบฟังชาวบ้าน
จิตมันก็จะเล่นเราแบบนี้ ต้องบอกว่า สติยังไม่ทัน ไม่ใช่ขาดสติ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็ยังชอบฟังค่ะ มันยังชอบฟังคนนินทากันอยู่เลย

สุขที่แท้จริง says:
เพราะหมูไปสนใจไง มันเลยแสดงไม่เลิก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูก็เจริญสติต่อไปเด๋วมันก็เลิกสนใจไปเอง

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ กว่าจะก้าวย่างได้อย่างมั่นคง ดูไปค่ะ กิเลส เจอแบบนี้ ยังดีกว่าไปสร้างเหตุทางโลกๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็เห็นตัวไม่ยอมนะคะ มันขึ้นมาดิ้นๆ ตัวนี้ที่ก่อภพชาติ ตอนที่มีคนมาขัดจังหวะน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถ้าหมูอยู่กับทางนี้ได้มากขึ้น ทางโลกหมูก็จะสร้างเหตุน้อยลง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ก็พยายาม น่ะค่ะแล้วก็ต้องคอยระวัง ความอยาก ก็หมูมารู้ว่ายึดไปเอง
ว่าต้องปฎิบัติโดยไม่มีคนกวน เขาให้หมูลงไปทิ้งขยะ
หมูก็คิดว่าเด๋วเสร็จองรอบค่อยทิ้งแล้วก็ปรุงใหญ่เลยว่าเด๋วเขาจะมาเซ้าซี้ให้ทิ้งก่อน
แล้วหมูก็จะโกรธมาก แต่พอตัวเองปวดท้อง กลับวิ่งปรู๊ดลงไป จริงๆเดินไปทิ้งขยะ ก็รู้สึกตัวกำหนดได้

สุขที่แท้จริง says:
แบบขอต่อรองนิดนึงก็ยังเอา เรื่องปกติค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็มาคิดว่าจริงๆมันก็กำหนดได้นะ ก็รู้ตัวไปสิ ไม่เห็นต้องโมโหขนาดนั้นเลย
แสดงว่ายิ่งยอมคนอื่นได้มากเท่าไร ตัวตนที่มันดิ้นก็น้อยลง
แล้วบ่งบอกถึงความก้าวหน้าของเรา หมูเข้าใจ อย่างนั้นพี่น้ำ มีข้อแนะนำไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ถูกค่ะ แต่ต้องเห็นจริงๆ ไม่ใช่ยอมเพราะจำยอม แต่แรกๆเราก็ต้องจำยอมไปก่อน
เพราะยังไม่เห็นจริง แต่เพราะเราเข้าใจถึงเหตุและผลแล้ว เราจึงต้องยอม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พี่ แรกๆก็ดูมันดิ้นๆไปก่อน เป็นการฝึกหัดตัวเอง และฝืนกิเลส

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จริงๆถ้าหมูทำในสิ่งที่หมูปฎิเสธ ก่อนหน้านี้ได้ เช่นเรื่องภาระต่างๆ ที่บ้าน หมายถึงการสละเวลา
การเสียสละต่างๆ จริงๆมันเป็นเส้นทางในการฝึกตัวหมูเองทั้งหมดเลย

สุขที่แท้จริง says:
เพราะเมื่อก่อนเรายังไม่รู้ไงคะ ตอนนี้พอเริ่มรู้มากขึ้น มันก็เลยอยาดทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำ
จะมากหรือน้อยก็ค่อยๆทะยอยช่วยไป พี่ถึงบอกไง ยอมแค่นี้ไม่ตายหรอก
แต่ภพชาติน่ากลัวกว่ามากมาย จะจำรายละเอียดต่างๆได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ โอ๊ยย สารพัดความคิด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันยากน่ะค่ะ ถ้ามีกายมีจิตอยู่ ยังไงก็ต้องสร้างกรรม แบบ เผลอเหยียบมดเงี้ย นี่แค่เด็กๆ

สุขที่แท้จริง says:
ขึ้นชื่อว่าอกุศลกรรม ไม่ว่าจะมากหรือน้อย อย่าทำมันเลยเสียดีกว่า
วันนี้พี่ก็เขียนบล็อก เรื่องการนำผลงานของคนอื่นๆมาโพส แล้วไม่ให้เครดิตจากที่เรานำมา
ศิลน่ะ ต้องตั้งใจรักษาจริง ถ้าแค่ลูบคลำมันก็ไปไหนไม่พ้นหรอก

บางคนคิดแค่ว่า ก้คนอื่นๆเขาก็นำมาต่อๆกัน เราน่ะอย่าไปมองคนอื่นๆ นั่นคือเรื่องของคนอื่นๆ
เราน่ะควรย้อนกลับมาดูตัวเอง

ใครเขาทำยังไง มันก็เรื่องของเขา เพราะเขารับผล แต่เราต่างหาก นำข้อความมาจากที่ไหน
ก็ควรใส่ลงไปว่า นำมาจากไหน คำสรรเสริญนี่ก็เป็นเหตุให้คนมัวเมาได้นะหมู


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ซอฟแวร์เถื่อนก็เข้าข่ายลักทรัย์

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ศิลไม่สะอาด จิตย่อมไม่สะอาดตาม เพราะหิริโอตัปปะมันไม่ค่อยมี
คนเราจึงก่อเหตุกันไม่รู้จบเพราะแบบนี้แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วถ้างานเราจำเป็นต้องใช้ Soft ware เถือน เราก็ผิดศีลเหมือนกัน

สุขที่แท้จริง says:
ผิดค่ะ ผิดเป็นทอดๆ เข้าใจนะคะ ถ้าแก้ ต้องแก้ตั้งแต่ต้นเหตุ แต่ใครเขาจะมาฟังเราล่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ ว้าชีวิตฆราวาส มันจะชำระจิตให้สะอาด ยากมากๆ ไม่เหมือนหนทางของพระ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุที่เราทำไว้ค่ะ
หนทางของพระก็ใช่พระจะทำได้ทุกรูปล่ะ ท่านเองก็ไม่พ้นวิบากที่ท่านทำไว้เหมือนกันแหละ


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จะหาทางออกจากเหตุที่สร้างเอาไว้ นี่ต้องพยายามมากๆ
พี่น้ำคะ สติที่เพิ่มขึ้นหมายถึง สภาวะก้าวหน้าขึ้น หรือแยกจากกันเลยคะ

สุขที่แท้จริง says:
แยกคืออะไรคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สภาวะะจะเปลี่ยนไป เมื่อสติก้าวหน้าขึ้น ถูกไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ถูกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าเราทำกรรมหนักแล้ว แต่เราปฎิบัติธรรมอยู่ สติเราก็สะสมๆ ไป ก็ก้าวหน้าอยู่ดีหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ กรรมหนักที่ทำหมายถึงในอดีตใช่ป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอเป็นอดีตก่อนค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถ้าในอดีตนี่ ก็อย่างที่บอก มันจะต้องถูกชดใช้ โดยมาในรูปของการกระทบ หรือสภาวะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ถ้ากรรมปัจจุบันละคะ

สุขที่แท้จริง says:
กรรมปัจจุบัน ถ้ามีสติ จิตจะไปคิดในเรื่องการทำอกุศลไหมล่ะหมู ในเมื่อเข้าใจถึงเหตุและผลแล้วน่ะ
ก็ดูแค่ตัวหมูเองสิ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม หมูกำลังคิดถึงเขาค่ะ คือเขาทำกรรมใหม่

สุขที่แท้จริง says:
เพราะสติเขายังไม่มากพอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่เขาก็ปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:
มันเลยเหมือนสองฝั่งของเขายื้อกันเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อย่างตอนนี้ฝั่งกิเลสของเขาทำกรรมใหม่แต่ถ้าเขายังเจริญสติ สติก็ก่อตัวเพิ่มขึ้นได้

สุขที่แท้จริง says:
ถ้าเขาทำจริงๆ คือ เจริญสติจริงๆ สักวันเขาจะเป็นไทค่ะ เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง
จะไม่ถูกกิเลสครอบงำ กิเลสจะมีอำนาจมากกว่า ผู้คนส่วนมากกำลังเล่นกับกิเลสของเขาเอง
ถึงแม้จะไม่เราเข้าไปเกี่ยวข้องก็ตาม ยังไงๆเรื่องราวเหล่านี้ย่อมเกิดขึ้นอยู่ดี
เขาเหล่านั้นล้วนเคยสร้างเหตุมาร่วมกัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเพราะถ้าเป็นเหตุเป็นผล คือกรรมใหม่ที่เขาทำคือกรรมดำ แต่เขาเจริญสติ สติก็ต้องเพิ่มอยู่ดี
ทำเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น แล้วถ้าเพิ่มสติจนถึงจุดหนึ่งสภาวะเขาก็จะตีกัน
แล้วก็ ถ้าสติเขาชนะ เขาก็จะเป็นไท

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เขาจะเป็นอิสระ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ถ้าไม่ชนะ...เขาอาจเลิกปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:
อันนั้นขึ้นอยู่กับว่า เขาทำจริงหรือไม่ ถ้าทำจริง ยังไงๆเขาต้องเป็นอิสระอย่างแน่นนอ
ถ้าเขาเลิกนะ สุดท้ายเขาไปไหนไม่รอดหรอก เขาต้องกลับมาทำ เพราะความทุกข์จะบีบคั้นเขา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นเราก็มองเห็นปลายทางเขาแล้ว ว่ายังไง เขาก็ต้อง ไปถึงจุดปลอดภัยสิคะ


สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ทุกอย่างอยู่ที่เขาทำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยกเว้นขึ้นภพชาติใหม่แล้วลืมหมด

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ อันนั้นไปคาดเดาไม่ได้ เข้าใจหรือยัง ที่พี่บอกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีเราอยู่ในวันนี้ก็ตาม
ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ย่อมมีอยู่ตามที่เหตุที่แต่ละคนกระทำร่วมกันมา ผลเลยเป็นเช่นนั้น

เรามีหน้าที่คือ เจริญสติ รู้อยู่กับกายและจิตของเรา ไม่ควรส่งจิตออกนอก
ไปเกาะเกี่ยวสิ่งไม่ดีเข้ามาให้วุ่นวายในจิตของเรา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เข้าใจว่าแม้ไม่มีพี่น้ำเรื่องพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ แต่เราไปคาดเดาไม่ได้ มันเป็นวิบากกรรมของแต่ละคน ที่เกิดจากกิเลสของแต่ละคน
นี่แหละผลของการเจริญสติล่ะหมู มันไม่มาแบ่งแยกว่าอะไรถูกหรือผิด นั่นคือเรื่องทางโลกๆ
ที่มันมีของมันแบบนั้นอยู่แล้ว บางครั้งสติเรายังไม่เข้มแข็งพอ เราเลยปรุงมัน ตามการกระทบที่เกิดขึ้น
ความพอใจ ความไม่พอใจ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ปรุงตลอดเลย

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ มีโอกาสแล้ว ว่างตอนไหน นั่นคือนาทีทองของชีวิตเรา ให้เจริญสติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ทำแบบเต็มรูปแบบแล้ว มันจะเห็นชัดกว่าทำในระหว่างวันนะคะ
คือทำทั้ง 2 อย่าง แต่จะเห็นชัดเหมือนอีกโลกเลย

สุขที่แท้จริง says:
ตอนนี้สภาวะของหมูมันยังแบ่งกันอยู่ อีกหน่อยหมูจเห็นมันเป็นหนึ่งเดียวกัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็ตอนกวาดบ้าน มันก็เริ่มเจริญสติได้มากขึ้น แบบรูกะการเคลื่อนมือ การก้าวเท้า
ล้างจานไป คิดว่าพรุ่งนี้จะได้ตักบาตร ได้นวด จิตมันชอบ ก็เห็นว่าจิตมันชอบแล้วก็ดับไป

แล้วก็มีเวทนาระหว่างวันแบบเจ็บ เหมือนสภาวะตอนเต็มรูปแบบเข้ามาให้เห็นด้วย
ก็รู้ไปแล้วสักพักก็หายไปเหมือนกัน มันจะเริ่ม จากค่อยๆแบบนี้ไปก่อน ใข่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
แล้วแต่สติค่ะ แล้วก็แล้วแต่เหตุที่กระทำมาด้วย ทั้งในปัจจุบันด้วย องค์ประกอบมีหลายอย่าง
รู้เร็ว รู้ช้า ก็แค่รู้ เราก็บันทึกตามความเป็นจริงที่เราคิดว่าเรารู้

วันนี้เรารู้แบบนี้ พอวันต่อๆไปมาอ่านใหม่ อ้าวมันไม่ใช่แล้ว เพราะรู้มันละเอียดขึ้น
ที่รู้แรกคือรู้แบบหยาบๆ รู้จุดเด่นๆที่เห้นได้ชัด จะรู้จากหยาบๆก่อนแล้วจึงไปหาละเอียด
เหมือนกิเลสน่ะ เราจะรู้ตัวที่เป็นเราแบบชัดเจนก่อน ส่วนกิเลสตัวอื่นๆจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเรื่อยๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็เรียนไปเรื่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ เรียนไม่รู้จบหรอกหมู จนกว่าเส้นทางสิ้นสุดแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ..ตอนนี้เวลาที่หมูเผลอปรามาส หมูขอขมาแล้ว เวลาทุกข์ จิตเกาะเกี่ยวว่าผิด
หมูจะคิดว่าพระพุทธเจ้าให้อยู่กะปัจจุบันนี่คือคำสอน ปรามาสผ่านไปแล้ว เริ่มใหม่
ไม่งั้น มันจะไม่มีกำลังใจค่ะ ก็กำหนดรู้หนอไปก่อน แล้วก็เจริญสติต่อน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ สำทับด้วยรู้หนอจิตจะบันทึกไว้ อะไรที่บันทึกไว้บ่อยๆมันจะกลายเป็นความจำ
พอต่อไปตัวปรามาสแค่แพรมๆ ไม่ทันจะโผล่ มันจะดับไปทันที


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พยายามทำอยู่ค่ะ แล้วก็ให้กำลังใจตัวเองไปด้วย

สุขที่แท้จริง says:
รู้หนอๆๆ 3 ครั้งพอ ไม่ต้องไปดูมันว่ามันหายหรือไม่หาย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ตอนรู้หนอมันมีความไม่ชอบใจ อันนี้ก็ปกติ ใช่ไหมคะ


สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2010, 02:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 181


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แก้ยังไงคะ มันเป็นวิปัสนู เคยอ่านเจออะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
หมูน่าจะรู้คำตอบนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ รู้ค่ะ แต่เขาเจริญๆสติไปเรื่อยๆไม่เลิกเขาก็รู้ได้เองใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เคยอ่านปะมาณว่าต้องมีคนแก้ให้ แก้เองไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:
พี่คิดว่า ที่พูดแบบนั้นคงมีเหตุ คือผู้ที่ติดอาจจะไม่รู้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูก็กลัวเหมือนกัน ไม่กล้าทำเองเลยแต่ก่อน ต้องไปวัดเท่านั้น

สุขที่แท้จริง says:
พี่เข้าใจนะคะ หาคนที่รู้จริงๆหาได้ยาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นจริงๆก็แก้ได้เพียงไม่เชื่ออะไรง่ายๆ

สุขที่แท้จริง says:
ถูกค่ะ แม้แต่ครูบาฯ ตำราก็ห้ามเชื่อ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เพราะเหตุนี้ ต้องทำเอง
คือเจริญสติเท่านั้น แล้วจะได้ทุกๆคำตอบที่สงสัย

แต่คนส่วนมาก ทำไม่จริง แค่จ้ำๆจิ้มๆ แล้วก็บ่นว่าไม่เห็นจะได้อะไร เขาได้นะ
ถึงจะจ้ำจิ้มก็ได้แบบจ้ำจิ้ม แต่เขาไม่รู้กัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ วันนี้ได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อพุทธทาส อ่านแล้วอึ้งไปเลยค่ะพี่
ที่อึ้งเพราะแต่ก่อนอ่านของท่านไม่รู้เรื่องเลยค่ะพี่ พอวันนี้อ่านแล้วรู้เรื่อง
ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอ่านไม่รูเรื่องแต่ก่อน เพราะธรรมมะที่ท่านเขียน คือสภาวะล้วนๆเลยค่ะ
แต่ก่อนก็ตีความตามปรัชญา ก็มึนหัวไม่เข้าใจ คิดว่าน่าจะอย่างนั้นอย่างนี้

สุขที่แท้จริง says:
บอกแล้ว ท่านไม่ธรรมดา แต่คนก้มีวิบากกับท่านไปกล่าวโจมตีท่าน เหตุที่แท้จริงคือ
อ่านของท่านแล้วไม่เข้าใจกันเอง รู้แค่ไหน เวลาอ่านก็ตีความได้แค่นั้นแหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จริงๆค่ะพี่ หมูอ่านเรื่องนิพพานเป็นอนัตตา
แล้วก็อัตตา และอนัตตา ที่ท่านพูดแจกแจงโดยสภาวะ โอ้โห สนุก
แบบเข้าใจ คือไม่ได้เข้าใจธรรมอนัตตา เพราะไม่ได้เห็นด้วยตนเอง
แต่ว่า เข้าใจว่าทำไมเป็นอนัตตา เพราะแยก กิเลสออกไป
อ่าเด๋วฟุ้ง งั้นหมูไปจัดการตัวเองก่อนแล้วกันค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำไมถึงเข้าใจว่านิพพานเป็นอนัตตาล่ะคะ
ถ้ามีอนัตตาก็ต้องมี อนิจจัง กับทุกขังด้วย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ใช่สิคะ หมูพูดผิด หมายถึงหมูอ่านแล้วเข้าใจเรื่องที่ท่านบอกว่า พระพุทธศษสนา ไม่มีอัตตา
แต่ทำไมบางคำสอนถึงบอกว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ในเมื่อไม่มีตน ตนจะเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ยังไง
ท่านแจกเจงเรื่องเหล่านี้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน หมูอ่านแล้ว เข้าใจว่ายังไงคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูเองเข้าใจว่า ตน ในความหมายนี้ก็คือเรา เนี่ยแหละต้องช่วยเหลือตัวเอง
แต่ว่า จริงๆแล้วไม่มีเรา แต่ต้องช่วยเหลือตนเองโดยเจริญสติ จนกว่าจะเห็นความจริง
และปล่อยความเป็นตัวตน ตัวตน ที่ว่านี้ก็ประกอบไปด้วยเจตนา ในการจะปฎิบัติธรรม
แล้วก็จะได้ที่พึ่งจากเจตาและความเพียร นี่คือตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เมื่อ เราเจริญสติแล้วเราก็จะเห็น ว่า ความเป็นเรา มันเป็นการปรุงแต่ง ได้แค่นี้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
วันหน้า สภาวะหมูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้รู้แบบนี้ แต่วันหน้า อย่าแปลกใจ
เพราะรู้ที่คิดว่ารู้ยืดยาวแบบที่หมูพูดมาน่ะ มันสั้นจิ๊ดเดียว ของความหมายคำว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนพี่น้ำถามกลับนี่ ปอดเหมือนกัน นะคะ เอ หรือชั้นเข้าใจผิดหว่า

สุขที่แท้จริง says:
อย่ากลัวกับการที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีอะไรถูกหรือผิด มีแต่ว่า รู้แค่ไหน ย่อมตีความได้แค่นั้น
ฉะนั้นพูดตามที่เรารู้ค่ะ อย่าไปคาดหวังว่ามันดีหรือไม่ดี อย่างน้อยนี่มันคือรู้ของเราเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ งั้นหมูไป ทำตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแบบของหมูก่อนนะคะ
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/35 รอบแกรค่ะ
เดินรู้เท้า ก็มีภาพวอบแวบขึ้นมา แล้วก็หายไป แล้วก็มีความคิดไม่ลงไปยุ่งกะมัน
เห็นมันเป็นตัววิพากวิจาร ก็รู้สึกว่าความคิดเกิดจากความอยากแล้วก็ปล่อยไป

แต่มันก็วนคิด เมื่อวนไปคิดก็ตั้งใจรู้เท้าโดยไม่สนใจความคิดต่อ
มันรู้สึกว่าความคิดทำให้เราทุกข์พอไปสนใจฟังมัน อารมณ์ต่างๆ กิเลสต่างๆก็เกิดขึ้น
ก็เลยพยายามจับที่กายมากขึ้นค่ะ ใช้กำหนดรู้หนอช่วย มีความมัว
การรู้เท้านั้น จิตจะหนีเข้าไปคิด วอบแวบๆแล้วก็มารู้เท้าต่อ

พอมานั่ง ก็มีรูว่ากำลังนั่ง กะไปเหมือนง่วงในจิต มีหลงไป งึมงำๆ ในจิต
แล้วก็ออกมารู้ตัว สลับกันไป มีเหมือนวูบ 2 ครั้ง ติดกัน ก็รู้ ตัวก็ค้อมลงก็ตั้งขึ้นใหม่
บางทีรูตัวแต่ ก็เอนซ้าย เอนขวาหรือเอนหลังแล้วตั้งขึ้นใหม่

รอบ 2 เดิน 30 นั่ง 20
ตอนเดินรอบนี้จะหลงไปอยู่ในความคิดเยอะกว่ารอบแรก แต่ก็ยังรูเท้า
ตอนเดินยังมีมัวอยู่เหมือนเดิม มีจิตจะปรามาสกำหนดรู้หนอไป 3 ครั้งแล้วเดินต่อ

อ้อรอบแรกเห็นจิตมันโพล่งขึ้นมา กิเลสที่ชอบสมน้ำหน้า เวลาคนอื่นแย่น่ะค่ะก็ทุกข์เหมือนกัน
แล้วก็กำหนดรู้หนอ แล้วปล่อยไป

รอบสองตอนเดินหลักๆคอเข้าไปคิดร่วกะรู้เท้าแล้วมีอารมณ์เกิดขึ้น มีมานะ ไอ้ตัวอวดดี
ตามมาหลังการคิด มีจะปรามาสแต่กำหนดไปก่อน

แล้วพอมานั่ง ก็รอบนี้หลับในบ้างรูกายบ้าง มีมดกัดด้วยค่ะ จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

มดเริ่มน้อยตัวลง ถ้าหมดเสียงวิพากวิจารเจอมด ถ้ามีเสียงวิพากวิจาร มดหาย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ได้สังเกตเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จิตมันก็แบบนี้แหละหมู วกไปวนมา แต่สติเริ่มดีมากขึ้น คือ พอวูบก็กลับมารู้กายได้มากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่มันก็ยังออกมาได้

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละถูกแล้ว ถ้าออกไม่ได้ ต้องลดนั่ง
เรื่องนั่งแล้วตัวไม่ตรงไม่ต้องไปกังวลอะไร เรารู้ ก็กลับมานั่งตัวตรง ค่อยขยับตัว
ใช้รู้หนอๆๆก่อน ขยับตัวเบาๆอย่าอวบฮาบ สมาธิจะกระเจิงหมด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แหม หมูเงยปื๊ดเลย

สุขที่แท้จริง says:

อย่าไปปริ๊ดดเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
มีอีกหลายแบบที่หมูยังไม่เจอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ต้องเจอทุกแบบอย่างพี่น้ำก็ได้ ของพี่น้ำเยอะมากๆเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เขาบอกว่า ผู้แนะนำ กับผู้ถูกแนะนำส่วนมากจะเจออะไรๆเหมือนๆกันนา
ระวังเรื่องเนื้อคู่ อย่าประมาท


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้ยยย ตอนไม่เจออยากเจอแทบแย่ พอมาฝึกสติแล้ว อย่าเจอเลย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ไม่อยากเจอ แต่เมื่อสภาวะมันถึงวาระ ยังไงๆก็ต้องเจอ
สิ่งที่ผ่านๆมาในชีวิตคือครู ผิดพลาดมาเยอะมากก ทั้งเรื่องชีวิต เรื่องเงิน
พี่ฝังมันไปหมดแล้ว ถือว่าตายแล้ว เกิดใหม่แล้วตอนนี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่น้ำเคยบอกว่า คนปฎิบัติธรรม ศีลต้องบริสุท อย่างถ้าเราทำมาหากิน
ด้วยการทำอาหารขาย เราซื้อสัตว์ในตลาดมาทำอีกที ไม่มีส่วนรู้เห็นในการฆ่า
อันนี้เป็น สัมมาอาชีวะไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วอาชีพที่เขาเล่าๆมาเรื่องปลา หรือกุ้งก็ไม่รู้

สุขที่แท้จริง says:
ถึงแม้ว่าจะมองดูเหมือนเลี่ยงทางอ้อมก็ตาม ปลาค่ะ
อันนี้ผิดเต็มๆค่ะ เป็นร้านอาหาร ต้องซื้อปลาเป็นๆมาประกอบการค้า
ก็เหมือนนายพรานดักนกน่ะแหละ รับกันไปเป็นทอดๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พอดีคิดถึงอนาคต เผื่ออีกหน่อย ต้องออกมาทำอะไรเอง
อาจทำอาหาร แต่จะซื้อจากตลาด ก็กลัวเหมือนกันค่ะ จริงๆไม่อยากยุ่งกะชีวิต

สุขที่แท้จริง says:

มันจะมีเหตุเองแหละค่ะ ไม่ต้องไปคิดหรอก ทำให้เราได้ทำอาชีพที่สะอาดจริงๆ ศิลไม่ด่าง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าเราปฎิบัติ ไปเรื่อยๆ ธรรมจะคุ้มครองให้เราอยู่บนเส้นทางที่ปรอดโปร่งต่อการปฎิบัติอย่างนั้นใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ก็ดูน้องที่บ้านที่อยู่ด้วยกัน เป็นคนไม่แต่งตัวเลยนะ เสื้อผ้า แฟชั่นนี่ไม่รู้เรื่องเขาเลย
เมื่อก่อนเขาทำงานโรงงาน วันโกนจะขายพวงมาลัยหาพิเศษ ร้อยเองขายเอง
เดินทีเป็นสิบๆโล เห้นแล้วทึ่งมากๆ ช่วงนั้นเขาเกิดศรัทธาแรง เห็นพี่ปฏิบัติทุกวัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขยันจัง เขาก็ปฎิบัติใช่ไหมคะ

สุแท้จริง says: ขที่
เขาปรึกษาว่า ทำยังไงเขาถึงจะได้เงินก้อน เวลาออกจากงาน เขาอยากออกจากงาน
อยากได้ไปปฏิบัติเหมือนที่พี่ทำ พี่บอกว่า ให้เข้าสหภาพ รอเขาประท้วง รับรองได้เงินก้อน
เขาก็เข้ากลุ่มสหภาพ แล้วพิกลดีนะ จู่ๆพนักงานเขาประท้วง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่นสิคะ หมูอ่าเพราะ ปกติสหภาพไม่ได้ว่าจะประท้วงทุกที่

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องนี้น้องเขายังบอกว่าแปลกมากๆ ไม่เคยมีการประท้วงในบริษัทเขาเลย
เขาถามว่าพี่รู้ได้ไงว่าจะมีการประท้วง

พี่เลยหัวเราะ ก็ไม่รุ้จะตอบว่าไง เพราะบางเรื่องมันตอบไม่ได้จริงๆ เหมือนกับว่า
มันจะเป็นไปตามปากพี่อะไรประมาณนั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สาธุ นั่นสิคะ อวยพรหมูทีสิคะ

สุขที่แท้จริง says:
งมงายยยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้าว

สุขที่แท้จริง says:

เจริญสติไป แล้วทุกอย่างจะสมหวัง
สรุปน้องเขาได้เงินมาก้อนหนึ่ง ก็น่าจะ 7 หมื่นกว่า เพราะอายุงานเขายังน้อย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้โห เยอะเหมือนกันนะคะ พอลงทุนได้

สุขที่แท้จริง says:
ถือว่าน้อยนะหมู ถ้าจำนวนอายุงานเยอะ ได้เป็นแสน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วเขาขายเสื้อผ้าหรือคะ เขาไม่ชอบแต่งตัวนี่คะ

สุที่แท้จริง says: ข
ก็พาเขาไปซื้อมอไซค์ ตอนแรกญาติเขาจะให้ซื้อรถปิ๊กอัพมือสอง เขาก้มาปรึกษา
พี่ถามว่า ค่าซ่อมแซมใครจ่าย ภาษีรถใครจ่าย แล้วถ้าของเน่า ใครรับผิดชอบ คือ เขาจะขายผลไม้
มันมีตย.น่ะหมู พี่ยกให้เขาฟัง พนักงานขับรถที่ทำงานเก่าของพี่น่ะ ซื้อรถมือสองมา สุดท้าย
เสียเงินไปเป็นแสน เรียกว่าหมดไปกับการซ่อมแซมตลอด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ค่ะ มันเสื่อม

สุขที่แท้จริง says:
พี่บอกว่า เอามอไซค์ไว้ก่อน ก็พาเขาไปเลือกราคาที่ถูกที่สุด มือหนึ่งนะ อยู่ที่ 3 หมื่นกว่าๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ เหลืออีก 4 หมื่น

สุขที่แท้จริง says:
พาไปซื้อทีวี เขาชอบดูทีวี พาไปซื้อเครื่องซักผ้า แบบเซลล์สุดๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เอพี่คะ แล้วเหลือเงินทำทุนเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:
มีสิคะ เขามีเงินเก็บต่างหาก แล้วเขาก็นั่งคิดว่าจะขายอะไรดี พอเขาบอกว่าเขาจะขายเสื้อผ้า
พี่น่ะจ๊ากกเลย บอกว่าจะขายยังไงดูของก็ไม่เป็น แถมไม่แต่งตัว เขาบอกว่ามันไม่เน่าไม่เสีย
ขายไม่ได้ก็มาเซลล์เอาทุนคืน อาจจะขาดทุนนิดหน่อยไม่เป็นไร เขาทำอาหารไม่เป็น
แล้วจะให้ไปทำอย่างอื่นก็ไม่เป็น ขายมาลัยไม่เอาแล้วเหนื่อยมากๆ


เขาก็ขายเสื้อผ้า เชื่อไหม ตอนนี้เขามี ร้านของตัวเอง 2 ร้านแล้ว
จ้างน้องมาขายให้เดือนละหมื่นเลยนะ อีกร้านน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้โหหหหหหหหหหหหห แสดงว่าขายดีมาก

สุขที่แท้จริง says:
แถมพิเศษอีกต่างหาก แล้วตอนนี้น้องสาวเขาเองแต่งงานแล้วก็เปิดร้านขายเสื้อผ้าเหมือนกัน
จริงๆแล้ว ไม่ดีหรอกนะ แต่ไปได้เรื่อยๆ อาศัยว่าเขาทำกรรมฐานทุกวัน
เขาชอบสวดมนต์เป็นชีวิตจิตใจเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

การทำกรรมฐานช่วยเรื่องอาชีพด้วยหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
ช่วยสิหมู กระแสเมตตามันจะออก เขาก็เจริญสติเหมือนกับเรานี่แหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆค่ะ ธรรมมะนี่เลี้ยงทั้งใจทั้งกายเลยนะคะถ้าแบบนี้

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ นี่อ่านที่พี่พิม เรื่องบิดเบือน อ่านแล้วยังงงๆ เหมือนบทนิยายเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
คืออะไรคะ มันเป็นเรื่องเล่าของสำนักหนึ่งเขาเอามาอ้าง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ค่ะ เลยอ่านแล้วเหมือนอ่านบทสนทนาในหนังสือ ยังทำความเข้าใจอยู่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
พวกชอบบิดเบือนสติปัฏฐาน เอาไปเรื่องว่า วิปัสสนากรรมฐานกัน
พี่น่ะกุศลดี ได้รู้จักกัลยาณมิตรหลายๆคน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ก็ได้ยินคำว่าวิปัสนากรรมฐานเยอะ

สุขที่แท้จริง says:
อย่างคำว่า บริกรรม กับ ภาวนา นี่คนละตัวกันนะ พี่ได้มาจากคุณอาคุนตุกกะ
ในห้องสนทนาธรรมจักรน่ะ

ภาวนาคือการเอ่ยคำออกมา เช่นพุทโธ พองหนอ ยุบหนอฯลฯ
ส่วนบริกรรม คือ เหมือนกับเราระลึกรู้อยู่ในใจตลอดเวลา แต่ไม่มีคำเรียกออกมา

ตราบใดที่สติเรายังไม่ตั้งมั่นต้องใช้บริกรรมช่วย ถ้าสติตั้งมั่นแล้ว มันจะรู้ลงไปในอริยาบทต่างๆเอง
โดยอัตโนมัติ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นบริกรรมกับกำหนดก็เหมือนกันหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละหมุ การกำหนด บริกรรม รู้ลงไป แล้วแต่เขาจะใช้สำนวนไหน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คือตั้งใจที่จะรู้ในอาการนั้นๆ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ คือ สติ สัมปชัญญะน่ะแหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ นึกว่าบริกรรม กะภาวนาเหมือนกันซะอีก

สุขที่แท้จริง says:
คนไปยึดติดกับคำเรียกกันเองว่าต้องเรียกนั่นเรียกนี่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นี่คือความหมายที่ถอดมาจากบาลีใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
พี่รู้มากจากคุณอาคันฯ คุณอาจะเก่งพระไตรปิฎกมากๆ
คงต้องไปหาอีกทีน่ะหมู พอดีพี่เป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้
ถามมาก็ดีละ เด๋วถามท่านมหา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่คะแล้ว ในเรื่องที่พี่คัดมา สรุปเขาให้ปฎิบัติแบบไหนละคะ

สุขที่แท้จริง says:
ก็สติปัฏฐานนี่แหละ แต่ตัดคำว่าพองหนอยุบหนอออกเท่านั้นเอง
ครูบาฯต้นแบบก้มาจากพม่าเหมือนๆกัน
เพียงแต่ทางเราใช้การกำหนดแบบบัญญัติมาช่วย แต่ทางเขาใช้วิธีรู้ลงไป
สรุปแล้วก็สติปัฏฐาน 4 นี่แหละ แต่เอาอภิธรรมไปใส่เรียกรูปนามแทน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มึนจัง

สุขที่แท้จริง says:
ฟังพอ ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พอเจอคำว่าอารมปรมัติ นี่หมูข้ามทุกที

สุขที่แท้จริง says:
แค่คำเรียกน่ะหมู แต่ต้องเห็นสิ่งที่อยู่ในคำเรียกแล้วไม่มีคำเรียก
เห็นทางจิต ไม่ใช่ใช้ตาดูหรือตามองเห็น ไม่ใช่มาบอกว่าแล้วแต่จะมอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ต้องรู้จากการปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ต้องทำเท่านั้น ทำได้แค่ไหน ก็อ่านแล้วตีความได้แค่นั้น
จะรู้ไปมากกว่านั้นมันไม่ได้หรอก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อันนี้นอนยันเลยค่ะพี่ ทำได้แค่ไหนก็รู้แค่นั้นนี้ นั่งยัน นอนยันจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:
มันเรื่องจริง แต่คนส่วนมากยังยึดติดว่าแค่อ่านก็ใช้ได้
คือแค่ศึกษาก็พอ พี่เจอมาเยอะ เป็นถึงมหา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือหมูอ่านแล้ว สมัยก่อนเจริญสติ ก็ตีความและต้องจดจ่อไม่งั้น จะยิ่งไม่รู้เรื่องเลย
แต่พออ่านอีกที จรงๆครูบาท่านพูดถึงสภาวะ คือที่เราเห็นด้วยจิต แบบตรงตัวเลย
แต่ถ้าสูงกว่าที่เราเห็นมาเราก็งงต่อไป

ที่เราเคยตีความไว้นี่
ไม่ใช่เลย เข้าใจคนละเรื่องละราวแล้วไปมองว่าท่านพูดถึงปรัชญา

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ อ่านแล้วจะแยกออก อันไหนสภาวะ อันไหนปรัญา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แบบเทียบโน่น เทียบนี่ พอเจริญสติอ่านหนังสือธรรมมะแล้วเข้าใจนี่สนุกนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ ทำไป เด๋วเห็นสภาวะชัดขึ้น ตำราก็ชัดตาม

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 182

จันทร์ 15 กพ. 2553 รอบเดียวติดสอน 60/35 "กูรู้กูเก่งกูชอบ"

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/35 ค่ะ
ตอนเดินเริ่มต้นก็อัดอั้นเรื่องปลวกเหมือนเดิมค่ะ ก็ย้ายเขาแล้ว
แล้วก็กลับมาอีก เริ่มๆก่อรังใหม่ก็อัดอั้นๆอยู่พักใหญ่ๆ เท้ายังรู้อยู่ค่ะ
มันก็คิดถึงตอนย้ายเขาไปแล้วไม่สบายใจ ว่าเขาจะเป็นยังไงต่อไป
แล้วก็คิดต่อว่าจะย้ายหอไหม สักพักก็เห็นว่าเราคิดว่าเราดีค่ะ
คิดว่า เราดี แบบเป็นคนดีเป็นผู้ปฎิบัติธรรม ที่กำลังเจอปัญหาเรื่องปลวก

ก็เดินๆไปดูไปอยู่นานพอควรค่ะ แล้วก็เปลี่ยน แล้วก็มีตัววิพากษ์วิจารย์
แต่ไม่ลงไปคลุกมากก็พยายามรู้อยู่ที่กาย เวลามันมีตัววิพากษ์วิจาร์หรือมีกิเลสแวบขึ้นมา
แล้วมีความไม่พอใจแวบๆ แล้วมันมีความคิด มีความรู้สึกว่า มันเป็นกิเลสอย่างนั้นแหละ
มันเป้นความรู้สึกว่าไปยุ่งกะมันก็วนอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่ไปยุ่งดีกว่า ก็มาดูที่กายดีกว่า

แล้วมันก็พอรูว่าเรามีความรู้สึกแบบนี้ กูรู้ก็ปรากฎ แล้วก็ดูๆมัน กูรู้จะมีมาเยอะมาก
ตามหลังความคิด ว่ามันเก่ง แล้วก็เดินๆไปก็เอ เคยอ่านเจอว่า การปฎิบัติธรรมจริงๆแล้ว
มันจะต้องเบื่อหน่าย ต้องคลายกำหนัด ก็ดูใจตัวเองว่าเป็นยังไง ระดับไหน

ก็เห็นว่ามันมีตัวยินดี สนุกสนานกะกองกิเลส สนุก ชอบ ที่ปฎิบัติธรรมแล้วเห็นกิเลส ยินดี ติดใจ
ก็อ้าว อีกไกล แฮะ แล้วก็มาทบทวนอีกที มันไม่ใช่แบบนี้ตลอด ก็เลยปล่อยไป

ดูกายต่อ เวทนา มีเป็นพวกเหมือนเซล์ผิวมันสั่นๆ เบาๆ ซ่าๆ
ตามจุดนั้นจุดนี้คล้ายเวลาเป็นเหน็บชาค่ะ แต่ไม่ได้ปวด

แล้วก็พอนั่งก็ มีรู้ท้องบ้าง รู้อกบ้าง ไปคิดๆ หลงบ้าง แล้วก็กลับมารู้ต่อที่กาย ไปหลับในบ้าง
ออกมารู้กายอีกบ้าง มีรู้กายเป็นก้อน บ้าง แล้วก็หลงไปอีก แล้วก็กลบมารู้กายใหม่ ไม่เป็นก้อน
มีเวทนาเหมือนแมลงกัด แต่ไม่ชัดบ้าง จบแล้วค่ะ

ก็วันนี้ตอนเดินมันก็เห็นสภาวะแล้วก็ผุด ขึ้นมาว่า เพราะอยากจึงคิด เพราะคิดจึงอยาก
ตัวกูรู้ก็ตามมาเลย พออกพอใจ ที่คิดได้ฟังดูเท่

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ เข้าใจค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่จริงๆหมูก้อไม่รู้หลอกนะคะ ว่าไอ้ที่มันผุดขึ้นมามันใช่เรื่องจริงหรือเปล่า
แต่ไอ้ตัวกูรู้มันจะอยากเชื่อว่าเป็นจริง

สุขที่แท้จริง says:
จิตมันจะแบบนี้แหละ อย่าไปสนใจมัน ถ้าไม่มีอกุศลชวนให้หลงก็ดูมัน
ถ้ามีก็ผ่านไปเลย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 183

16 กพ 2553 รอบเดียว "ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน มันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา "



สุขที่แท้จริง says:
จะบอกว่า การหลบหน้า คือการแก้ไขสภาวะ เราต้องอยู่กับปัจจุบัน สติมันบอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พึ่งรู้นะคะ งงเลย หลบหน้าคือการแก้ไขสภาวะ เหมือนเราหนีจาก กรรมนั้นๆ
ที่เรากำลังโดนกระทบใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เราไม่ยอมรับความจริง เหมือนหนีหนี้ชั่วคราว กลัวเจ้าหนี้กระทืบหนักกว่าเก่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อึ้งเลยค่ะ หนีก็ไม่ได้ด้วย

สุขที่แท้จริง says:
ไม่หนี ไม่สู้ ไม่ถอย ไม่หลบ ไม่ขยับตัวใดๆ ไม่ไปตอบโต้ใดๆ ให้มีสติรู้อยู่กับสภาวะนั้นๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยังงี้สมมติเราโดนกดดันจากการทำงาน การลาออกก็คือการแก้สภาวะไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ทำแบบพี่ไง นิ่ง และเจริญสติไปปกติ แผ่เมตตา กรวดน้ำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ถ้าเขาไล่เราออกเอง อันนี้ถือว่าจบโดยตัวมันเอง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมแยกแยะยากเหมือนกันค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ อีกหน่อยหมูจะเข้าใจมากขึ้น ตอนนี้หมูเห็นเหตุและผลแบบหยาบๆ คือตัวใหญ่ๆ
แต่ตัวเล็กๆยังมองไม่เห็น


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่น้ำก็ยังต้องเจอบททดสอบเรื่อยๆเลย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กลัวจัง

สุขที่แท้จริง says:
อย่าไปสนใจเลยหมู ทำให้เกิดความวุ่นวายใจไปเปล่าๆ รักษาใจไว้ ทุกอย่างมันไม่เที่ยง
สภาวะ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีพี่หรือไม่มี สภาวะของทุกคนย่อมเป็นไปตามเหตุที่กระทำมากันทั้งนั้น
เพียงแต่ว่า คนไหนเจริญสติ นั้นได้เปรียบ และยิ่งได้รู้จักกิเลสแล้วด้วย ยิ่งได้เปรียบมากขึ้น
และยิ่งเข้าใจถึงเหตุที่กระทำและผลที่ได้รับตามความเป็นจริง ยิ่งได้เปรียบใหญ่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ มันก็ทุกวันนี้รู้สึกอบอุ่นใจเหมือนมีหลัก บอกไม่ถูกน่ะค่ะ แบบกลับมาก็เจอพี่น้ำ
โลกที่หาไม่พบในชีวิตจริง

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจนะคะ ถ้าเรายังมีหลักอยู่ ก็ทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัยว่ามีคนช่วยดูให้
เหมือนคนมาคอยช่วยชี้ทางให้ว่าเดินทางนี้นะ ทางนั้นอย่าไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วก็เหมือน มันยืนยันว่าโลกทางนี้มีจริง หมูไม่ได้ผันไป

สุขที่แท้จริง says:
เหมือนเขาวงกต คนเดินไม่เป็นก็หลงทางวนๆอยู่ในเส้นทางนั้น พอมาคนชำนาญทางเดินไปเป็นเพื่อน
ทำให้เกิดความมั่นใจว่า พบทางออกจากเขาอย่างแน่นอน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ แล้วหมูยังแบ่งแยก ยังไม่เป็นหนึ่งเดียว คือมันยังไม่มั่นคง

สุขที่แท้จริง says:
พี่คงห้ามไม่ให้หมูคิดไม่ได้หรอกนะ ได้แต่บอกว่า เจริญสติไป เด๋วทุกอย่างมันจะชัดเจนขึ้นเอง
ตามสภาวะ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน มันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา

เราต้องพยามพึ่งตัวเองให้ได้ ด้วยการเจริญสติต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปคาดเดาหรือคาดหวัง
ว่าจะได้อะไร จะเป็นอะไร หรืออย่างไร เพราะสิ่งเหล่านั้นมันแค่สมมุติ เราไปยึดติดกับมัน
เมื่อไม่เป็นไปตามคาดเดาหรือคาดหวัง คนที่ทุกข์ก็คือเรา

อย่างน้อยๆ ผลที่เห็นได้ชัดจากการเจริญสติคือ แยกแยะถูกผิดตามความเป็นจริงได้มากขึ้น
มีสติ สัมปชัญญะเป็นที่พึ่งของตัวเองมากขึ้น ไม่ไปงมงายเชื่อเรื่องนอกตัว ทุกอย่าง อยู่ที่เรากระทำ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูจะพยายาม รู้สึกตัว

สุขที่แท้จริง says:
เวลาไปคิดเรื่องอนาคตหรือไปคาดเดาอะไร เอาสติดึงกลับมา บอกกับตัวเองเลยว่า
คิดไปก็เท่านั้น สภาวะมันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา เด๋วก้ทุกข์อีก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ อันนี้ก็จริงๆ งั้นหมูไปจัดการตัวเอง ดีกว่า คิดไปก็ทุกข์เปล่าๆ
พี่คะเสร็จแล้วค่ะ 60/35

หลักๆก็มีรูเท้าแล้วก็คิด แล้วก็มัว มีอยากดี มีจะปรามาส2 ครังได้ค่ะ ก็กำหนดรู้หนอไป

แล้วก็พอมานั่งก็รู้ว่ากำลังนั่งอยู่ แต่ไม่ได้จับว่าเป็นกายส่วนไหน แล้วก็หลับในเป็นระยะค่ะ
แล้วก็ มีหลุดออกมาจากหลับในบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีแรง ไปหลับในมากกว่า

มีเหมือนมดกัดด้วยแต่ไม่ชัด มีแค่นี้ค่ะ วันนี้เหมือนเดิมค่ะ รอบเดียวนะคะ
ช่วงนี้งานเข้าค่ะ เด๋วต้องดูข้อมูลต่อ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เป็นไรค่ะ ลดนั่งเหลือ 30 นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ ไว้พรุ่งนี้ ลดลงค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 19 ก.พ. 2010, 22:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 184

17 กพ. 2553 รอบเดียว 60/30 รู้เท้าเดิน การรู้กายไม่เกี่ยวกับจิตที่วุ่นวาย เห็นว่าใจวุ่นวาย
เห็นว่ามีผลคือ ความไม่พอใจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30 ค่ะ
ตอนเดินก็เริ่มต้น มันก็ มีใจคาดหวัง เห็นว่ามันมีการคอยดู คอยคิด ว่าทำเป็นยังไง
ดีไหม จะได้อะไร เท้าก็รู้แต่จะไม่ได้ชัดเจนมาก เพราะไปดูความรู้สึกตรงนี้ด้วย

สักพักมันก็เปลี่ยนแล้วก็มีฟุ้งซ่านคิดเรื่องงานแล้ว ไปปรุงก็มีความไม่พอใจเกิด ไม่พอใจ
สถาณการณ์ที่ทำงา ก็รู้แล้วก็หายใจยาวๆ กำหนดรู้หนอมาสนใจกายต่อ
บริกรรมกำกับในใจบ้างออกเสียงบ้าง แล้วเด๋วก้ไปคิดเรื่องงานๆอีก มีคิดเรื่องโน่นเรื่องนี้
แล้วก็มีอารมณ์ตามเรื่องที่คิดก็ดูไป ก็ยังรู้เท้าอยู่

ก็มีคิดอกุศลแบบล่วงเกินพระที่นับถือ มันไม่ได้ขึ้นคำพูด แต่จิตมันจะไปคิด
ก็กำหนดรู้หนอไป 3 ครั้ง แล้วพอจะทวนว่าคิดอะไรไป ก็จำไม่ได้แล้วก็ปล่อย

เห็นจิตจะคิดปรามาส เมื่อเรานับถือรูปใดมากๆจะขึ้นภาพรูปนั้น แล้วจะปรามาส
ก็ไม่พอใจพอเรารู้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น แล้วจากนั้นมันก็ระลึกขึ้นมา แวบหนึ่งประมาณว่า

มันเป็นความรู้สึกน่ะค่ะ ที่ขึ้นมาเป็นคำพูด แต่ตอนนี้จำไม่ค่อยได้
ประมาณ เหมือนความคิด มันเป็นกิเลสแบบนั้น ไป บังคับมัน
มันเลยเป็นแบบนั้น คล้ายๆแบบนี้ค่ะ แล้วความไม่พอใจก็หายไป แล้วก็ดูกายต่อ

แล้วก็มาหวลคิดถึงความรู้เมื่อกี้อีกว่าเห็นอะไร จริงเหรอ ไม่จริงมั้ง เล่าให้พี่น้ำฟังดีไหม ไม่เล่าดีกว่า
สักพักก็ทิ้งพวกนี้ไปมาดูกายต่อ ก็มีตัวมานะด้วยนะคะ แบบเวลาระลึกคำสอนพี่น้ำขึ้นมา
จิตมันจะมีตัว ดุๆ แบบไม่ชอบ หมายถึงเหมือนคำสอนไปขัดกะมัน
อย่างพวก คำสอนไม่ให้สนใจมัน ไม่ให้คาดหวัง อย่าให้ค่าแนวๆนี้ค่ะ
เห็นตัว ที่มันเหมือนตัวตน ที่มันถือดี และไม่ยอม ขึ้นมา แต่ไม่แรงมากค่ะ ลางๆ

พอมานั่งก็มีเหมือนตัวอะไรสากๆ ที่แขน แล้วก็มีคล้ายอะไรไต่ แต่มันกึ่งๆกะไปหลับในค่ะ
แล้วก็มีรู้กายได้บ้างแต่ก็จะไปสลับกลับหลับใน แล้วก็ออกมารู้กาย แต่รู้กายไม่ชัดค่ะ
สภาวะมันจะกึ่งๆรู้ กึ่งๆหลับใน จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ มันไม่เที่ยงนะ เห็นป่ะ บางวันวุ่นวาย บางวันสงบเรื่อยๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ก็ตอนเดิน มันก็พอเราวุ่นวายก็เห็นจิตตัวไม่พอใจ
เห็นว่ารู้เท้าเดิน เห็นว่าใจวุ่นวาย เห็นว่ามีผลคือ ความไม่พอใจ มันก็เป็นเหตุเป็นผลของมัน
เท้ารู้ การรู้กายไม่เกี่ยวกับจิตที่วุ่นวาย มันก็คิดวุ่นของมัน แต่มีความไม่พอใจเพราะไม่
อยากให้เป็นแบบนั้น เป็นผลจากความไม่ชอบจิตวุ่นวาย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ สติทันเมื่อไหร่ มันจะแค่ดูมากขึ้น พี่นับวันก็ได้แต่มองผู้คนผ่านไปมา
คนส่วนมากเร่งรีบแต่เรื่องทำมาหากิน จนลืมนึกถึงชีวิตของตัวเองไป แม้กระทั่ง
ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองก็ยังไม่รู้กันเลย จะมีแต่คำว่าเอาอีกๆๆๆ ยังไม่พอ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เรารีบๆ ไปข้างหน้า

สุขที่แท้จริง says:
ชีวิตพี่ผ่านจุดเปลี่ยนตรงนั้นมาแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูก็รู้สึกว่าเรารีบๆไปข้างหน้า ไม่เคยอยู่กะปัจจุบัน หวังอนาคตเสมอ
พอได้เจริญสติ มุมมองก็เปลี่ยนไป แต่เผลอไม่ได้น่ะค่ะ เผลอแล้วก็ไปคิดๆ อีกละ

สุแท้จริง says: ขที่
ใช่จ้ะ ไม่ไปอนาคตก็หาอดีต อยู่กับปัจจุบันแทบจะไม่ทัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ เลยต้องรู้กาย คือหมูมานั่งคิดว่าทำไมต้องรู้กายหว่า รู้จิตเลยไม่ได้เหรอ
แล้วมาดูแล้ว ก็รู้สึกว่ากายเป็นหลัก จิตมันคิดอยู่แล้ว ถ้ารู้กายก็รู้จิตด้วย
ถ้ารู้จิต อย่างเดียวมันไหล ไปหมด ของหมูน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ถ้ารู้กาย เอาจิตผูกไว้ได้มันจะไม่ไปเลื่อนลอย แต่ถ้ารู้จิตอย่างเดียว
สติไม่ทันมันก็หลงไปแล้ว เพราะหาที่ยึดไม่ได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันไปกะอารมณ์หมดเลย

สุขที่แท้จริง says:
ก็แล้วแต่เหตุที่ทำกันมานะ เราเคยสร้างเหตแบบนี้ เลยเจอแบบนี้
บางคนเขาสร้างเหตุแบบอื่นเขาก็ไปตามเหตุที่เขาสร้าง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2010, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 185


19 กพ. 2553 "ไม่ต้องไปสนใจกับคำเรียกต่างๆ นั่นคือ จะพาเราหลง"

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ก็เดิน รู้เท้าไป แล้วก็ดูจิตที่มันดิ้น ดิ้นเพราะความอยากปฎิบัติให้ได้ดี
ความอยากซึ่งเกิดจากตัวที่ชอบพูดๆ มันก็พูดบ้างไม่พูดบ้าง มีความอยากก็ดูอาการมัน
แล้วก็ดูความทุกข์ที่เกิด แล้วมันก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไป

บางครั้งก็หลงไปคิดแบบไปอยู่กะความคิดก็จะรู้ว่ากำลังเดินแต่มันจะมัว ไปคิดเรื่องงาน
ก็มีความไม่พอใจ สักพักก็มาสนใจกายใหม่ ระหว่างเดินก็รู้เท้าแล้วก็ ไปคิดถึงเรื่องการปรามาสว่า
วันนี้ยังไม่ปรามาสเลย ก็มีจิตที่เกิดความกลัวขึ้นมากลัวปรามาส ก็ดูมัน สักพัก มันก็เปลี่ยนไป
เวทนามีเจ็บเท้า มีร้อนผ่าวที่ขา

พอมานั่งก็จิตไม่ค่อยมีแรง มันไปคิดเบาๆ จะจับกายยังจับไม่ค่อยได้
ไปหลับใน แล้วก็หลุดจากหลับใน รู้ว่าเมื่อกี้ไปหลับในแล้วก็ไปหลับในใหม่
สักพักก็หลุดออกมา หลับในนานหน่อยค่ะ

ช่วงท้ายของการนั่ง ก็หลุดออกมาคราวนี้เริ่มมีแรง พอจะมาจับกายได้ก็มาดูท้อง
ก็เห็นท้องเคลื่อนไหวแต่ไม่นานค่ะ แล้วก็จับได้บางครั้ง แล้วก็หมดเวลา จบแล้วค่ะพี่
รอบเดียวเหมือนเดิมค่ะ เด๋วต้องทำงานต่อค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เริ่มสภาวะดูกิเลสแล้วนะหมู กิเลสที่ละเอียดขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ที่เห็นมันดิ้นๆ หมายถึงเริ่มแยกออกระหว่างรู้กายกะรู้ใจ ใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ม่ายยยบอกกกก ให้รู้เองงง อย่าไปติดศัพท์ ติดศัพท์ล่ะทีนี้เสร็จกิเลสเลยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่ ดีจัง หมายถึงดีจังรู้เอง

สุขที่แท้จริง says:

เราเจริญสติ เพื่อรู้อยู่กับปัจจุบัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ เพื่อรู้อยูกับปัจจุบัน ปัจจุบัน ท่องไว้ๆ

สุขที่แท้จริง says:
เพื่อจะได้มีสติ สัมปชัญญะรักษาจิต รู้เท่าทันต่อสิ่งที่มากระทบ
จิตจะได้ปรุงแต่งน้อยลง จนมันหมดสิ้น คือ สักวันย่อมมีวันหมดสิ้น

เวลาทำงาน จะได้มีสติรู้อยู่กับการ รู้อยู่กับกายและจิตของเรา เวลาชาวบ้านเขาพูดนินทากัน
จะได้ไม่สนใจฟัง เวลาใครเขาคุยอะไรกัน จะได้ไม่ต้องไปเงี่ยหูฟัง
ให้เสียเวลาทำให้จิตมันซัดส่ายไปเปล่าๆ

เมื่อเราตั้งใจทำงาน งานก็จะออกมาดี ถ้าไม่ดี มันจะเริ่มดีเรื่อยๆ ทีนี้พอมีคนมาชม
เราก็จะไม่ไปหลงกับคำชม มีคนมาว่าเราก็จะพิจรณา
เราจะไม่ไปปรุงแต่งตามทั้งที่ชมและว่ามา แต่เราจะดูที่ตัวเรา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ก็จริงค่ะ หูกระดิกเลยนะคะ เวลาเดินแล้วได้ยินเสียง มันกระดิกจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อก่อนพี่ก็เคยเป็นแบบหมูแหละค่ะ ใครพูดอะไรมารู้หมด แต่ที่ไม่รู้คือตัวเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ไปสนใจเขา ลืมตัวเอง ใจก็มัวๆเหนื่อยๆ นะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ จิตของเราแท้ๆ แต่เพราะความไม่รู้ไงคะ เลยยังรักษาไม่เป็น
เห็นกิเลสไหมหมู นี่แหละตัวนี้น่ากลัว ยึดติดกับคำเยินยอ
ถ้าไม่ได้มาเจริญสตินะ ก็คงเหมือนคนอื่นๆน่ะแหละเราน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เห็นว่าพอใจเวลาถูกยอ แล้วก็ทุกข์ใจเมื่อมีอะไรมากระทบ
กับตัวตนภาพลักษณ์ของเรา ในสายตาคนอื่น ตัวนี้ทุกข์มากจริงๆ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ พี่โชคดีนะคะ เจ้ากิเลสตัวนี้พี่ไม่ค่อยมี แล้วเวลาใครมาชมพี่นี่
ใจพี่มันตั้งป้อมไว้แล้ว มาประจบจะเอาอะไรจากเรานะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ้าว จิงอะพี่

สุขที่แท้จริง says:
จริงๆ พี่เป็นแบบนั้นจริงๆ ใครอย่ามาชมพี่ให้เสียเวลาเลย ไม่ได้แอ้ม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เขาอาจชมจากใจจริงก็ได้นะคะ

สุขที่แท้จริง says:
เวลาเพื่อนๆชมนี่ เขาต้องพูดว่า นี่ชมจริงๆนะ พี่ก้จะบอกว่า ขอบคุณ
แต่อย่าชมดีกว่า ทำให้ขาดความไว้วางใจ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มียังงี้อีก

สุขที่แท้จริง says:
มันติดมาจากสมัยเรียนน่ะ เวลาครูชมนะ โดนใช้ให้ทำงานแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่ออออ มิน่าละ

สุขที่แท้จริง says:
มันเลยระแวงไว้ก่อน ฉะนั้นใครไม่ต้องมาหวังชมพี่ ไม่ได้ผลหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่เป็นยังงั้นนะคะ มีเรื่องให้ทำ

สุขที่แท้จริง says:
เห็นไหม ทุกอย่างมันมีเหตุนะ ไม่งั้นนะมานะกิเลสพี่คงเพียบบบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มานะนี่ มีหลายแบบจังนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ความผยองพองขน ข้าเก่ง ข้ารู้ ข้าดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สะท้อนออกมาหลายแบบ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ คำชมมักจะแฝงมาพร้อมกับยาพิษ ทั้งๆที่คนชมอาจจะชมจริงๆ แต่กลับกลายเป็นยาพิษ
สำหรับคนๆนั้นไป ถ้าไปยึดติด เลยทำให้ต้องคอยสร้างภาพให้ดูดีตลอดเวลา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทุกข์ จริงๆ หนัก

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ พี่ถึงระวังในการชมคนอื่นๆ ไม่งั้นผลเราต้องรับนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กำแล้ว แบบเราก็จะโดนชมบ่อยๆ ถ้าไม่ทัน เราก็เหลิง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ คนที่ชมหมู เขาก็จะเจอกับสภาวะนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมมค่ะ แต่ให้กำลังใจได้นะคะ

สุขที่แท้จริง says:
พระพุทธองค์ทรงสอนให้สำรวมอายตนะเพราะเหตุนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้อะไร ให้สิ่งนั้นกะผู้อื่น

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ทุกๆการกระทบหรือผัสสะ คือการก่อภพชาติใหม่ไปด้วยความไม่รู้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าใจเราไม่ยึด ก็ไม่ป็นไรใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ สำคัญที่ใจเรานี่แหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำเพราะกิเลส ก็ก่อภพชาติ ถ้ามีสติก็สักแต่การกระทำ แต่ต้องดูว่าปลายทางได้รับผลอย่างไร ด้วย

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ ต้องดูตลอด พิจรณาตลอด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สำรวมไว้ก่อนปลอดภัยสุด

สุขที่แท้จริง says:
เพราะทุกๆการกระทำมันสะท้อนคืนกลับมาหมด และเป็นห่วงโซ่ต่อไปเรื่อยๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอบคุณมากนะคะ หมูจะคอยระวัง หมูไปออกข้อสอบละค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ จะบอกว่า ถึงแม้จะใช้เวลา ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม
แต่ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาเกิดเป็นคน แล้วได้มาเจริญสติปัฏฐาน ๔ เพราะเราสามารถกำหนดชีวิตเราได้ว่า
จะไปทางไหน หน้าที่ของเราคือ เจริญสติต่อไป โดยไม่ต้องไปคาดหวังผลใดๆ เพราะเรารู้แล้วว่า
ผลที่ได้รับนั้นจะเป็นยังไง แล้วชีวิตเราจะพบกับความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม
ซึ่งต่อให้มีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหน ก็มีความสุขแบบเราไม่ได้หรอกค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ วันนี้สภาวะหมู ยังเต็มไปด้วยความอยากและความคาดหวังอยู่
แต่ว่าถ้าทำไปแล้ว มันคงค่อยๆคลายลง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ กิเลสทั้งหลายจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ พี่ถึงบอกไง ไม่ต้องไปสนใจกับคำเรียกต่างๆ นั่นคือ
จะพาเราหลง ให้เราดูกิเลส ดูสติ ให้รู้อยู่ในกายและจิตของเราให้ทัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
โมทนาค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สาธุค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2010, 22:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




379811vjedbyx1sn.gif
379811vjedbyx1sn.gif [ 440.28 KiB | เปิดดู 3935 ครั้ง ]
ถนนค้นฝัน

เนิ่นนานที่เราเดินตามฝัน
จากบ้านมาไกล
จากทุ่งนาเขียวหมู่ข้าวสูงข้างทุ่งดอกไม้
มาสู้อยู่กลางแสงไฟเมืองไม่ยอมหลับ

สัญญา
ไม่ได้ดีขึ้นมาจะไม่ยอมกลับ
งานหนักเพียงไหน บอก หัวใจให้ยืนตั้งรับ
แม้ความจริงเฝ้าแต่นับคำว่าผิดหวัง

ยืนบนถนนคนสู้เพื่อฝันลำพัง
คว้างดังเศษฟางที่ถูกลมพัดมาไกล
จากเช้าจรดเย็นต้องเป็นคนมีเจ้านาย
เลิกงานค่อยมีลมหายใจเป็นของตัวเอง

เหงาจัง
กลับห้องมามีเพื่อนก็เพียงเสียงเพลง
วันที่ปัญหาหอบภาระเข้ามาข่มเหง
ได้แต่บอกใจตัวเองไม่ให้หยุดฝัน


http://solno07.exteen.com/20091228/entry-2

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 186

ถ้าเราเผลอ จะพอกพูนทุกการกระทำ

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30
ตอนเดินรอบนี้ ก็มันไหลไปกคิดบ่อยค่ะ พอรู้ๆเท้าก็เด๋วไปคิดแบบอยู่ในความคิดด้วย
ส่วนใหญ่จะไหลไปคิดเรื่องที่น่านินทาของชาวบ้าน เหตุการณ์ของชาวบ้าน ที่เป็นเรื่องราวของเขา
ที่จิตมันชอบไปคิดก็พอรู้แล้วก็จะหยุดมันแล้วมาดูเท้าต่อก็จะมัวๆค่ะ

บางทีก็นานที่ไปคิดแบบนี้ บางทีทันก้อสั้นแล้วก็สลับกับการที่ชอบคิดชอบตัวเอง แบบมันมักจะคิดว่า
เนี่ยเห็นกิเลส นะเนีย คิดชมตัวเองว่าเก่ง บ้าง ดี บ้างแต่ไม่ได้เป็นคำพูดว่าเก่งหรือดีเป็นความรู้สึก
แล้วก็ สลับกับไปคิดเรื่องชาวบ้านที่เป็นเรื่องที่เราชอบวิพากวิจารย์ส่วนใหญก็เรื่องไม่ดีแหละค่ะ
แล้วก็มีตัวที่ไปว่าเขาเป็นมานะ ว่าเขาไม่ดีผุดขึ้นมา แล้วหายไป ก็กำหนดรู้หนอๆ 3 ครั้ง

รู้สึกเรื่องคิดอกุศล ปรามาสนี่น่าจะประมาณ 2 ครั้งที่กำหนดรู้หนอไปค่ะ
พอวันนี้เดินแล้ว รู้เท้าแล้วจิตไหลไป สนใจกับความคิดบ่อย ก็เกิดความไม่พอใจ แบบวอบๆแวบๆ

แล้วก็ มีตัว เยอะแยะเลย เด๋ว เด๋ว เด๋วไม่พอใจ ใจ วบขึ้นมา แล้วก็เห็นความพยายาม หลังความไม่พอใจ
เห็นความพยายามจะ เดินให้ได้อย่างที่คิด ก็รู้ไปแล้วก็ เด๋วก็เป็นเรื่องอื่นอีกค่ะ
แล้วก็มีรู้เท้า แต่มันเข้าใจว่ารู้แบบนี้ไม่ถูกแล้วมันก็พยายามจะรู้อีกแบบ ตามจินตนาการมันก็ดูไป
แล้วก็เปลี่ยน ไปวุนเรื่องทางใจอื่นๆต่อ มีหลงไป คิดโน่นนี่ แล้วก็ตังสติใหม่มารู้เท้าต่อ

พอมานั่ง ก็ มีง่วงข้างใน ง่วงข้างใน จิต ไม่ได้ง่วงข้างนอกเหมือนง่วงนอนปกติ
แล้วก็เข้าไปหลับใน เหมือนแช่ แล้วก็รู้

ก็มีรู้ว่าเข้าไปแบบนั้น แล้วก็ไปอีก แล้วก็รู้อีก ท้ายๆก็ขี้เกียจ เลิกนังเพราะมันมีแต่เข้าๆไป
ไม่จับกายเคลื่อนไหว แต่ช่วงที่ออกมาก็รูว่ากำลังนั่งทำอะไรอยู่ ทนนั่งไปจนจบค่ะ

เวทนาที่เกิดตอนเดิน ก็มีขาร้อนผ่าว วาบๆ มีเจ็บแบบเหมือนถูกทิ่ม มีเหมือนแมลงกัด กัดเล็กๆ
แเจ็บแหลมๆอะค่ะ จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ช่วงนี้หมูอาจจะเหนื่อยจากที่ทำงานมา เลยทำให้สมาธิมันดิ่งง่าย สติเลยไม่ทัน
แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอดูไปสักพักก่อน ยังไม่ลดนั่ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ มันเหนื่อยน่ะค่ะ หมูก็รู้ตัวว่ามันเพลีย

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ พอเพลียสติเลยไม่ทัน สมาธิเอาไปกินหมด ไม่ต้องไปกังวลอะไรค่ะ ทำเหมือนเดิม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ...เด๋วหมูขึ้นอีกรอบค่ะ
เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบนี้ตอนเดินเริ่มต้นก็จะสงบกว่ารอบแรก

ก็รู้เท้าได้ชัดขึ้น แล้วจิตมันก็มีตัววิพากวิจาร์ยการปฎิบัติขึ้นมา ว่าเห็นอย่างนี้ๆ
เหมือนมันสรุป เวลาเราดูกิเลส แล้วก็มีความพอใจ เวลาคิดถึงพี่น้ำบอกว่าตอนนี้ดูกิเลส ก็มันพอใจ
ก็เห็นแล้วก็ไม่อยากเล่า ไม่อยากเล่าให้พี่น้ำฟัง กลัวพี่น้ำไม่พูดให้ฟังอีก ก็ดูไป

แล้วก้อ จิตมันก็เริ่มสบถ แบบว่าเห็นกล่องสบู่มีสาวงามตรงกล่อง เห็นปุ๊บมันขึ้นมาด่าเขาเลย
ก็กำหนดรู้หนอไป แล้วเด๋วเดินๆอีกก็จะสบถอีกแต่จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร 2 - 3ครั้งได้นะค่ะ แล้วก็หายไป

แล้วก็ มีเพลินๆคิด ๆขำๆ ตลก ๆ ก็ยิ้ม แล้วก็รู้เๆเท้าไป แล้วก็เปลียนอีก ก็บริกรรมกำกับ
เพื่อให้จิตอยู่กะกายสักพักใหญ่ๆ แล้วขี้เกียจออกเสียง ก็เอาจิตรู้ลงไป

ก็รู้ไปเรื่อยๆ ก็มีความอยาก บ้าง ความไม่พอใจบ้าง ความทุกข์ที่ตามหลังความไม่พอใจบ้าง
ขึ้นมาก็ดูไปๆ มันก็มีความคาดหวัง ของมัน ก็รู้ไป ค่ะ แล้วก็ หลังๆก็ชักฟุ้งแล้ว
แบบไม่ค่อยจะจับเท้า ชัด วอบแวบๆ ขี้เกียจ อยากหยุดเดินก็เดินๆจนจบ

พอมานั่ง ก็หลับในคอตก ก็กำหนดรู้หนอๆ ค่อยๆ ยกตัวขึ้น 2 - 3 รอบได้ค่ะ
มีบางช่วงที่พยายามรู้กายได้บ้างแต่ไนิดเดียว จนจำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ลงไปหลับลึก
คือเหมือนมันยังรู้อยู่ว่ากำลังเป็นยังไง แต่ไม่ยอมออกมาจับกาย
แต่ก็ไม่ได้หลับต่อกันนานๆ น่ะค่ะ เหมือนไป พักนึ่ง แล้วก็ออกมาแล้วก็ไปใหม่ แบบนี้ค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เขียนบล็อกค้างอยู่ กลัวความคิดดับเลยต้องเขียนให้เสร็จ อ่านแล้วหมูถูกใจแน่ๆ จะได้มีกำลังใจปฏิบัติ

กิเลสยิ่งละเอียดมันยิ่งเนียนนะหมู เนียนมากๆ จนเราไม่รู้ตัว
สภาวะนี่สุดยอดเลยนะ เนียนมากๆ กิเลสนี่เนียนมากๆเลย เราโดนทดสอบสภาวะแบบขนาบซ้ายขวาเลย
ไม่รู้ตัวเลยนะว่านี่คือการทดสอบของสภาวะเขา ก็มานั่งพิจรณาว่า เกิดอะไรขึ้นหนอออทำไมเราถึงโดน
ใส่ร้ายป้ายสีอีกแล้ว ยังไม่จบอีกหรือ ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยไปข้องเกี่ยวอะไรเลยแม้แต่สักนิดเดียว ทั้งๆที่ ...
คือ นึกแล้วขำๆตัวเอง กิเลสนะกิเลส เล่นกันแบบนี้เลยหรือ โหการทดสอบนี่สุดยอดเลยนะ
แบบเราไม่รู้ตัวอะไร ทั้งสิ้นเลย

วันนี้เพิ่งรู้ตัวน่ะหมู ว่าถูกสภาวะทดสอบ โดนทั้งซ้ายขวา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทดสอบในรูปแบบ

สุขที่แท้จริง says:
ชดใช้สองต่อเลยนะ ทั้งคนที่ใส่ร้ายป้ายสีเรา ทั้งคนที่ไม่ยอมพูดว่าไม่ใช่เรา
ก็อีกฝ่ายอยากคิดเอาเองว่านั่นคือเรา ส่วนอีกคนเขาก็ไม่ผิดที่เขาไม่พูดอะไร อยากเข้าใจผิดเอง
พี่เลยชดใช้เขาไป

ถือว่าเราสอบผ่านนะ เพราะเราตามอ่านมาตลอดตั้งแต่ที่เห็นเขาโต้ตอบกัน
เพราะนั่นคือ กิเลสของแต่ละคน เราแค่ดู เหมือนดูละครสดๆมาแสดงให้เราดู
ต่างคนต่างเล่นไปตามกิเลสของแต่ละคน สุดแต่ว่าใครจะมีสติมากกว่ากัน
ความหยาบคายในจิตที่มีอยู่จะถูกขุดคุ้ยออกมาโดยเจ้าตัวเขาเอง
มีมากแสดงออกมามาก มีน้อยแสดงออกมาน้อย
ละครเรื่องนี้ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ทุกอย่างล้วนมีเหตุมาก่อน

แล้วตัวเราเองก็มีวิบากร่วมด้วย เหมือนโดนด่าฟรีๆทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนลงไปร่วมเล่น
กับการแสดงกิเลสแต่อย่างใด

ก็อโหสิกรรมให้หมด เพราะเข้าใจถึงเหตุและผลดี กฏแห่งการกระทำยุติธรรมที่สุด
ใครทำยังไง เขาผู้รับผล เลยไม่ขอวิพากย์วิจารณ์ใดๆเพราะเหตุนี้
เพราะไม่ต้องไปมีวิบากกรรมร่วมกับใครๆอีก

นี่แหละประโยชน์ของการเจริญสติ มันจะมีสติรู้อยู่ในกายและจิตของตัวเอง พอเห็นอะไรปั๊บ
มันจะรู้ทันทีเลยว่า ผลจะต้องได้รับนั้นเป็นยังไง ส่วนใครๆที่ยังเป็นอะไรหรือยังไง เรื่องของเขาละ
เราไม่เกี่ยว ถ้ายังอยากใส่ร้ายเราต่อไปเรื่อยๆ ก็ตามสบาย อยากบอกว่า ตอนนี้เริ่มมีความสุขใจมากมาย
ยิ่งนับวันยิ่งมีความสุข เพราะมีเราน้อยลง มันเลยสบายยยยย ก็เป็นไปตามเหตุนะ สร้างเหตุดี ผลย่อมดี
ถึงแม้จะช้าหน่อยแต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

กิเลสมันเนียน
น่ะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มาแบบนี้ มาแบบนอก ตัว

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ หมูคิดดูละกัน ถ้าเราขาดสติ เราลงไปตอบโต้เขา วิบากตรงนี้ย่อมไม่รู้จักจบสิ้น
คนส่วนมาก ชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า ตัวเองมีพฤติกรรมแบบนี้ได้ คนอื่นๆย่อมจะทำเหมือนๆกับตัวเอง
พี่ถือว่าพี่สอบผ่าน โดยไม่รู้ว่าถูกสภาวะมาทดสอบ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้ว พี่น้ำไม่เคืองเขาเลย แต่แรกหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่ค่ะ เพราะนั่นไม่ใช่พี่ คนที่ว่าน่ะ คนที่เขาใส่ร้ายว่าเป็นพี่ พี่ตามอ่านมาตั้งแต่แรกแล้ว
การชนะกิเลสในใจตัวเองได้ คือสิ่งที่เราควรยกย่องตัวเองได้ แต่ก็ไม่ประมาท
เพราะกิเลสมันจ้องงาบเราตลอดเวลา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ถ้าเราเผลอ มันจะพอกพูนตลอด อย่างนั้นใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆทุกๆการกระทำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ... สยอง

สุขที่แท้จริง says:
เราจึงมาเจริญสติเพราะเหตุนี้ เพื่อจะได้เห้นตามความเป็นจริง เมื่อมีอะไรมากระทบ
จะได้มีสติ สัมปชัญญะรับมือกับสิ่งที่มากระทบ วันนี้อาจจะแพ้ เหมือนใหม่ๆที่พี่แพ้กิเลสตัวเอง
แต่พอเราทำต่อเนื่อง มาจนถึงวันนี้เห็นไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำก็อิสระมากขึ้น

says: สุขที่แท้จริง
ใช่ค่ะ ยิ่งอิสระ เรายิ่งสบาย ประมาณว่า อยากว่าอะไรก้ว่าไปสิ ใครทำ คนนั้นรับไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

วันนี้ก็ทำไม่ดีไปเหมือนกันค่ะ ไปพูดเรื่องงานหนัก ทำบริษัทนี้ มารู้สึกอีกทีก็แย่เหมือนกัน

สุขที่แท้จริง says:
สติไม่ทันน่ะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ อกตัญญูไงไม่รู้ คราวหน้าต้องระวังมากกว่านี้
แล้วก็ วันนี้ตอนกินข้าว มียุงกัดมือ เพื่อนร่วมงานตบยุ่งที่มือหมู หมูก็ตาโต ร้องเฮ้ย
บอกว่าพอ ปล่อยมันเหอะ เขาก็บอกปล่อยมันเหรอๆๆๆๆๆ แล้วก็เอานิ้วไปขยี้มัน
แล้วหมูก็สลด เขาก็พูดกันใหญ่ว่าเด๋วเป็นไข้เลือดออก แล้วก็ ยุงน่ะ มีวงจรชีวิตแค่ 7 วัน ช่างมันเถอะ
หมูก็เงียบ อย่างเดียวไม่พูดอะไรเลย แล้วกินข้าวไปแต่ใจก็เศร้าปน ไม่ชอบ บอกไม่ถูก

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจนะคะ ถึงแม้จะ 7 วัน นั่นก็ชีวิตเขา ขึ้นว่าเหตุที่ไม่ดี อย่าทำเสียเลยจะดีกว่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันก็รู้สึกว่า มันมองคนละแบบกะเขา

สุขที่แท้จริง says:
พี่เองคิดว่า ถ้าเขารู้เหมือนเรารู้เขาคงไม่ทำเหมือนกันแหละค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ says:แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ

ค่ะ พี่ ก็เข้าใจ ค่ะ หมูก็เลยต้องเงียบ ที่สุด

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ความเงียบคือการกระทำที่ดีที่สุดในทุกๆสภาวะ แค่ดู แค่รู้ ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งเจริญสติ
ใจยิ่งไปเกาะเกี่ยวข้างนอกน้อยลง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูยังหาโน่นนี้ มาอ่านอยู่เลย บางครั้งกิเลสมันอยากหา
พี่น้ำคะคำตอบที่หมูเคยถาม ว่าจะผ่านสภาวะไปได้อย่างไร หมูคิดว่าพอจะเข้าใจรางๆแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ข้าใจว่าไงคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ความเป็นเราไปเกาะเกี่ยวกับกิเลส พอมีกิเลส กิเลสมันมีของมัน ไม่มีวันจบ
ถ้าไม่ยุ่งกะมัน ก็ต่างคนต่างอยู่แล้วหายไป แค่นี้น่ะค่ะ

ที่แท้จริ สุข

ค่ะ คาดเดาได้ค่ะ แต่อย่าไปถือมั่นว่าต้องใช่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ หมูก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน หมูรู้สึก ตอนเห็นสภาวะน่ะค่ะ แต่ว่าอย่างที่พี่บอก
ว่ามันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ธรรมมะ นี่ลึกซึ้งนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
แน่นอนค่ะ ไม่ทำ ไม่มีทางมารู้ได้หรอกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันเป็นนามธรรม ที่สัมผัสด้วยใจจริงๆ เราะเหตุนี้เราไปพูดเลยไม่มีใครเข้าใจ

สุขที่แท้จริง says:
เขาถึงไม่พูดไงหมู พูดไปสองไพเบี้ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ใครเขาตื่นตูมเรื่องสารพัดเรื่อง น้ำจะท่วมโลกยังงี้ น้ำจะท่วมกทม.แบบเห็นแค่ยอดตกใบหยกงี้
มีคนมาถามพี่ พี่บอก ไร้สาระ ไปฟังทำไม ทำไมถึงไม่เจริญสติกันล่ะ จะได้มีสติเวลาอะไรเกิดขึ้นมา
จริงๆแล้ว คนเราถ้ามันจะตายอยู่ที่ไหนมันก้ต้องตาย ทุกอย่างมันมีเหตุ ไม่ใช่จู่ๆบ้าๆบอๆจะเกิดขึ้นมาได้
นี่แหละหมู พวกไม่มีที่พึ่งทางใจ ที่พึ่งทางใจของเราคือ สติ สัมปชัญญะนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ หมูก็ไม่ค่อยได้อ่านข่าว ดูทีวี ก็ช่วยลดเรื่องกลัวแบบนี้ไปได้มากอยู่

สุขที่แท้จริง says:
นี่พระพุทธเจ้าสอนไว้น่ะ อตฺตาหิ อตฺตาดนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนก็คือ สติ สัมปชัญญะนี่แหละ
ไม่ใช่ไปวิ่งหานอกตัว ไปพึ่งนอก
ตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่ออออ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จริงๆสั้นแค่นี้นี่เอง วันนั้นคุยซะยาวเลย

สุขที่แท้จริง says:
ว่าจะไม่บอกแล้วนะ กะจะให้รู้เอาเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คนละเรื่องละราวกะที่หมูโม้ไปเลยนะเนี่ย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



เรามักจะหลงไปในสิ่งที่มองเห็นเพียงพื้นผิว แต่มองยังไม่ถึงเนื้อในที่แท้จริง
ภาษาธรรมะ เขาเรียกว่า หลงในโลกธรรม ๘

เรื่องโลกธรรม ๘ นี่ มีส่วนทำให้คนผิดศิลได้เยอะมากๆเลยนะ
เพราะไม่เข้าใจถึงความไม่เที่ยงแท้ของทุกๆสรรพสิ่ง
เลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่ง ชื่อ เสียง เกียรติยศ เงินทอง ฯลฯ

แม้แต่หิริ โอตัปปะ ก็ยังเอาไม่อยู่
หิริ โอตัปปะ คือ ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ทั้งต่อหน้าและลับหลัง



โลกธรรม ๘ ประการ

อนิจจัง ความไม่เที่ยง ยากเลี่ยงหลบ
ในโลกภพ มีเกิดดับ สลับหมุน
ใครยึดติด สำคัญผิด ปิดทางบุญ
มีแปดอย่าง ที่คอยหนุน ให้ขุ่นใจ


หนึ่งคือลาภ สองเสื่อมลาภ ควรทราบไว้
สามคือยศ ที่ใครๆ ล้วนอยากได้
สี่เสื่อมยศ เมื่อร่วงหล่น ทนทุกข์ใจ
ทั้งสี่อย่าง เกิดดับไว ใช่จีรัง

ข้อที่ห้า คำนินทา มีแน่ๆ
โดนทั้งเด็ก ทั้งคนแก่ แค่คล้อยหลัง
หกสรรเสริญ คนเยินยอ ชอบพอจัง
ข้อเจ็ดแปด สุข..ทุกขัง ใช่ยั่งยืน

โลกธรรม แปดประการ ควรอ่านไว้
เป็นธุลี เกาะที่ใจ ยากใครฝืน
คู่กับโลก ที่หมุนอยู่ ทุกวันคืน
มิมีทาง ให้เป็นอื่น จงตื่นมอง..เฟื่องฟ้า


พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 15
อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ปัณณาสก์ เมตตาวรรค
โลกธรรมสูตร

โลกธรรมสูตร

[๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้ ย่อมหมุนไปตามโลก
และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการ ๘ ประการเป็นไฉน คือ ลาภ ๑
ความเสื่อมลาภ ๑ ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑ นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑
ทุกข์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้แล ย่อมหมุนไปตามโลก
และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการนี้ ฯ
ธรรมในหมู่มนุษย์เหล่านี้ คือ ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑
ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑ นินทา ๑ สรรเสริญ ๑ สุข ๑
ทุกข์ ๑ เป็นสภาพไม่เที่ยง ไม่แน่นอน มีความแปรปรวน
เป็นธรรมดา แต่ท่านผู้เป็นนักปราชญ์ มีสติ ทราบธรรม
เหล่านั้นแล้ว พิจารณาเห็นว่ามีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ธรรมอันน่าปรารถนา ย่อมย่ำยีจิตของท่านไม่ได้ ท่านย่อม
ไม่ยินร้ายต่ออนิฏฐารมณ์ ท่านขจัดความยินดีและความยินร้าย
เสียได้จนไม่เหลืออยู่ อนึ่ง ท่านทราบทางนิพพานอัน
ปราศจากธุลี ไม่มีความเศร้าโศก เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ
ย่อมทราบได้อย่างถูกต้อง ฯ...


ขอบคุณที่มา http://www.tlcthai.com/club/view_topic. ... st_id=7669 :b8:




ขออภัยด้วยที่ไม่เขียนว่า สภาวะของโยคีตอนนี้อยู่ตรงไหน เรียกว่าอะไร
เพราะคำบัญญัติต่างๆ สามารถทำให้โยคีมีสภาวะผิดเพี้ยนได้
เพียงแต่สอดแทรกเนื้อความไว้ในลักษณะแบบนี้แทนตัวคำเรียกของสภาวะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2010, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 187


ไม่พิษ แต่says: ยขนฟก็ไม่คิดจะเป็นใช่งูกระต่า

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/30 รอบแรก
เดินก็มีจิตไหลไปคิดแล้วรู้เท้าด้วยแต่มันก็ไปปรุงแต่ง คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
แล้วก็มีอาการ ไม่พอใจบ้าง ทุกข์บ้าง อยากบ้าง ก็มีคนมาขัดจังหวะ ก็ไม่พอใจ
เดินไปใจมันก็ไม่สบายมันทุกข์เพราะความไม่ชอบใจที่ยืนพื้นอยู่อึมครึมๆ

แล้วจากนั้นมารู้สึกตัวอีกทีคือเปลี่ยนเรื่องไปนานแล้ว จากความไม่พอใจตรงนั้น ไปหลงคิดถึงเรื่องขำๆ
ระหว่างที่คิดถึงเรื่องขำๆ นั้นก็คิดว่ารู้เท้าอยู่ แล้วมันก็เหมือนกลับมารู้สึกตัวว่า เมื่อกี้ไปปรุงเรื่องขำ
แล้วการที่ว่ารู้เท้านั้นมันรู้ไม่จริงมันรู้แบบเพลินๆกะความคิดมากกว่า แล้วก็เมื่อกี้โกรธอยู่แท้ๆ
เปลี่ยนไปขำเมื่อไรไม่รู้ตัว จากนั้นเดินๆไปก็เห็นว่าจิตมันจะไปปรุงเสมอ มันจะหาเรื่องคิด ตลอด
ก็ไม่พอใจไม่อยากให่จิตปรุงก็เกิดความมุกข์ขึ้นมา ก็เปลี่ยนไป

แล้วก็มีมดกัด ก็รู้สึกไม่พอใจ รับไม่ค่อยได้ ว่ายังมีอีก ก็ดูลงไปที่ความยึดถือนั้น
รู้สึกว่ามันเป็นความยึดถือ แล้วมันก็เปลี่ยนไปปปปปป

สรุปคือเดินรู้เท้า บางครั้งก็อยู่กะกายได้ดี แต่ส่วนใหญ่ ก็รูเท้าว่าเดินอยู๋ และใจก็ไปปรุงคิด
แล้วก็เกิดอารมณ์ ก็รู้อารมณ์ไป เป็นแบบนี้จนจบเดิน

พอมานั่ง นั่งก็พยายามจับกาย ก็ไม่ได้รู้ว่ากายเคลื่อนไหว แต่รู้ว่ามีกายอยู่ แล้วจิตก็ปรุงคิดก็รู้
แล้วก็มีเหมือนจิตอิ่มๆแต่ไม่ถึงกะไปหลับใน แล้วก็มีเหมือนมดกัดด้วยแต่บาง แล้วก็เลือนหายไป

พอมารอบสอง เดิน 60/25
ตอนเดินก็ รู้เท้าแล้วก็ ใจไปปรุง คิอมันจะเที่ยวจับเรื่องนั้น เกี่ยวเรื่องนี้ตลอด
แล้วก็จะมีอารมณ์ทางใจเกิดขึ้น แล้วก็เปลี่ยนเรื่องไป เราก็รู้เท้าไปด้วย ก็ยังไม่ค่อยพอใจ
มีความไม่พอใจ และอยากที่จะไม่ปรุง ก็รู้ไป

แล้วก็เอาเงินไปให้พี่ ก็มีความงกไม่อยากให้ จิตมันไม่พอใจก็ดูไป
จิตมันก็ทุกข์จุกอยู่ระหว่างอกกะคอ เราเห็นมันทุกข์ ไม่ได้ดิ้นไปกะมัน
แล้วก็สักพักก็เปลี่ยนไปอีกดูอยู่ดีๆก็ลืมอีกละ ไปคิดเรื่องอื่นแล้วมารู้สึกอีกที

ก็คืออ้าวเปลี่ยนแล้วเหรอ เท้าก็ยังรู้ค่ะ แล้วก็มีเจ็บแข้ง เห็นอาการเจ็บตอดๆเป็นระยะที่แข็ง
มาไม่พอใจที่จิตแต่มันแยกกัน จิตไม่ได้เจ็บแต่จิตไม่ชอบแล้วก็หายไปอีก
สรุปคิดเดินรู้เท้าแล้วก็เห็นจิตมันคิดๆๆ รู้อารมณ์

แล้วพอมานั่ง ก็รู้กายขยับแต่ไม่จับที่ใดที่หนึ่งแบบชัด บางทีก็อก บางทีก็ท้องยวบเบา
บางทีก็กายที่เป็นรูปกาย รู้สึกขยับนิดเดียวไม่ค่อยเห็นการขยับมีถูกขัดจังหวะ ก็แล้วก็นั่งต่อ

มาดูกายต่อได้อีก แล้วก็มีรู้ว่ากายสั่นข้างในน่ะค่ะ มีเหมือนสั่นข้างในเบาๆสะทือนๆ
เป็นแบบนี้ทั้งการนั่งรอบแรกและรอบสอง สักพักก็ลืมมันไป แล้วก็มีมือมันรวมกันเป็นน้ำหนัก ก็ดูไป
แล้วก็สักพักก็ลืมตาแบบรู้สึกนานดูเวลา สรุปคือหมูก็เลยเลิกนั่งเลยค่ะ
พอลืมตาแล้วต่อไม่ค่อยติด ก็จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง said (12:09 AM):
แล้วแผ่เมตตาหรือยังคะ

piggy3080@hotmail.com said (12:09 AM):

เรียบร้อยค่ะพี่ พี่น้ำมีอะไรชี้แนะไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่นะ สภาวะของหมูเขาก็ไปตามสภาวะน่ะค่ะ วันนี้ไม่มีอะไรเพิ่ม
พี่ว่าเพราะหมูได้พัก อย่างที่บอกแหละ สภาวะเลยนิ่ง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่นสิคะ วันหยุดขอให้ได้นอน

สุขที่แท้จริง says:
พอเหนื่อยสภาวะก็งอแงตามร่างกายที่อ่อนล้า ตามจิตที่ฟุ้งๆ

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

วันนี้ หลังบ้านหมูร้องคาราโอเกะกันเถิดเทิงมากค่ะ คิดถึงพี่น้ำเลย เขาโป๊งชึ่งกันมากๆ
ก็คิดนะคะ ที่พี่น้ำเล่ามานี่ เอ ทำไมเจอมา 2 - 3 อย่างละ
เดินร้องไห้ มีคาราโอเกะโป๊งชึ่ง ก็คิดเฮ้ยคงไม่โดนทุกอย่างนะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ กิเลสนะหมู เจอมากน้อย ยังไงต้องเจอ

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ อ่านการตอบคำถามของท่านพุทธทาสอยู่ค่ะ ขำดีค่ะท่านพูดตรงไปตรงมา

ปรัศนี: มีผู้กล่าวว่า ท่านอาจารย์สอนว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย? นั้นเป็นมิจฉาทิฎฐิ
ดังนี้ ท่านอาจารย์จะว่าอย่างไรครับ?

พุทธทาส: เฮ้ย! เล่นไม่ซื่อ เล่นสกปรกแล้ว เราไม่ได้ว่าโว้ย! พระพุทธเจ้าว่านะ
พระพุทธเจ้าท่านว่านะ อย่าไปพูดว่า ตายแล้วเกิด หรือ ตายแล้วไม่เกิด มันไม่มีใครเกิด
มันมีแต่สังขารการปรุงแต่งตามกฎของธรรมชาติ


สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ถูกเลยค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สมัยนั้นท่านคงผจญกะคนหลายแบบ
แต่ก่อนสงสัยมากเลยค่ะว่าท่านพุทธทาสทำไม ถึงดังจัง
ท่านมรณะภาพไปแล้วแต่ยังมีแต่คนศึกษาคำสอน หนังสือที่ท่านเขียนเยอะมาก
ลองหยิบมาอ่านโอยยย ไม่ไหวแล้ววว ตอนนั้นน็อคเลย

สุขที่แท้จริง
ท่านเป็นนักเขียน แล้วเอาสภาวะมาเขียนผสม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ นี่หมูอ่านแล้ว มีแต่คนบอกว่า เขากล่าวหาท่าน เรื่องนั้นนี้ ที่ท่านเขียนนี่ ตรงสภาวะเลยใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่ไม่เคยอ่านของท่านค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็ทะยอย อ่านเวลาเบื่อน่ะค่ะ วันนี้หมู ก็กระสับกระส่ายระหว่างวันน่ะค่ะ
มันอยากจะ หาความสุข แต่มันหาไม่เจอ
จะให้ไปดูหนัง แล้วมันก็หลงมันก็ไม่ชอบ ไม่อยากหลง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 23 ก.พ. 2010, 19:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร