วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 22:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1229109494-104.jpg
1229109494-104.jpg [ 76.18 KiB | เปิดดู 4074 ครั้ง ]
(ตัดเอาเฉพาะสาระลงก่อน ที่เป็นหลักวิธีชาการลงทีหลัง...ที่อ้างอิงส่วนใหญ่ตัดออก ลงบ้างเท่าที่เห็น

สมควร)


:b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42:


สรุปลักษณะการถือศีลพรตที่เป็นสีลัพพตปรามาสได้ว่า

เป็นการถือด้วยโมหะ หรือด้วยตัณหาและทิฏฐิ ซึ่งแสดงออกในรูปของการถือโดยงมงาย

ไม่เข้าใจความมุ่งหมาย สักว่าทำตามๆกันไปอย่างเถรส่องบาตร บ้าง

ถือโดยหลงผิดว่า ศีลพรตเท่านั้น ก็พอให้ถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้น

หรือถืออย่างเป็นพิธีรีตองศักดิ์สิทธิ์ว่า ทำไปตามนั้นแล้ว ก็จะบันดาลผลสำเร็จให้เกิดเอง บ้าง

ถือโดยรู้สึกว่า เป็นข้อบังคับลอยๆ เป็นเครื่องบีบคั้นขืนใจ ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร

เพราะไม่เห็นโทษของสิ่งที่พึงงดเว้น ไม่ซาบซึ้งในคุณของการละเว้นสิ่งที่ชั่วเลว และการที่จะทำ

ตามข้อปฏิบัตินั้นๆ จำใจทำไป ไม่เห็นประโยชน์ บ้าง

ถือเพราะอยากได้เหยื่อล่อเช่นโชคลาภ กามสุข เป็นต้น บ้าง

ถือเพราะมีความเห็นผิดในจุดหมายว่า ศีลพรตทำให้ได้เป็นนั่นเป็นนี่ บ้าง

ถือแล้วเกิดความหลงตัวเอง มีอาการยกตนข่มผู้อื่น บ้าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 01 ธ.ค. 2009, 21:29, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลักษณะการรักษาศีลบำเพ็ญพรต หรือ ประพฤติวัตรที่ถูกต้อง ไม่เป็นสีลัพพตปรามาส ก็คือ

อาการที่พ้นจากความผิดพลาดที่กล่าวแล้วข้างต้น ซึ่งแสดงออกด้วยการปฏิบัติที่เกิดจากความรู้ตระหนักว่า

กระทำเพื่อฝึกหัดขัดเกลาตนเอง เพื่อเป็นบาทของสมาธิ เพื่อความสงบเรียบร้อย

เพื่อความดีงามของประชุมชน ปฏิบัติด้วยมองเห็นโทษของการเบียดเบียน ซาบซึ้งว่า ความสงบเรียบร้อย

ไม่เบียดเบียนกัน เป็นต้น เป็นสิ่งดี เห็นคุณโทษแล้ว ละอายบาป

มีฉันทะที่จะเว้นชั่วทำความดี โดยพร้อมใจตนตลอดจนถึงขั้นสุดท้าย คือ

ไม่กระทำชั่วและประพฤติดีอย่างเป็นไปเอง มีศีลและวัตรเกิดขึ้นในตัวเป็นปกติธรรมดา

ไม่ต้องฝึก ไม่ต้องฝืน เพราะไม่มีกิเลสที่จะเป็นเหตุให้ทำความชั่ว

เข้าลักษณะของฐานในหนึ่งใน ๖ ที่พระอรหันต์น้อมใจไป คือ

ข้อที่ว่า พระอรหันต์น้อมใจดิ่งไปในภาวะที่ไม่มีการเบียดเบียน

มิใช่เพราะถือสีลัพพตปรามาส แต่เพราะหมดราคะ หมดโทสะ หมดโมหะ

(วินย.5/3/9 องฺ.ฉกฺก.22/326/321)

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เบื้องแรก ศีลเป็นความประพฤติปกติ เพราะฝึกปฏิบัติให้เคยชินเป็นนิสัย และเพราะแรงใจที่มุ่งมั่น

ฝึกตนให้ก้าวหน้าในคุณความดี

ส่วนเบื้องปลายศีลเป็นความประพฤติปกติ เพราะหมดสิ้นเหตุปัจจัยภายในที่จะให้หาทางทำสิ่งที่ไม่ดี


:b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


ผู้ปฏิบัติผิดก็อาจมีศีลวัตร แต่เป็นสีลัพพตปรามาส

ผู้ปฏิบัติถูกก็มีศีลวัตร ดังที่ท่านเรียกว่า “สีลวตูปปนฺน” ผู้เข้าถึงศีลพรตหรือประกอบด้วยศีลและวัตร บ้าง

เรียกว่า “สีลพฺพตสมฺปนฺน” ผู้ถึงพร้อมด้วยศีลพรตบ้าง

จะว่าบริสุทธิ์ด้วยศีลพรตก็ไม่ถูก บริสุทธิ์ได้โดยไม่ต้องมีศีลพรตก็ไม่ถูก แต่อยู่ที่ศีลพรต

ที่ไม่เป็นสีลัพพตปรามาส

พรตหรือวัตรอาจไม่จำเป็น เฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคฤหัสถ์

แต่ศีลที่เป็นอปรามัฏฐ์ คือ บริสุทธิ์ ไม่คลาดหลักความจริง ไม่เปรอะด้วยตัณหาและทิฏฐิ

เป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับความบริสุทธิ์หลุดพ้นในทุกกรณี


:b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2009, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สรุปลงให้สั้นที่สุด หลักการของศีลวัตรก็มีเพียงว่า

เมื่อบุคคลปฏิบัติศีลวัตรใดแล้วอกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม ศีลวัตรอย่างนั้นผิดพลาดไร้ผล

เมื่อบุคคลถือปฏิบัติศีลวัตรใดแล้ว กุศลธรรมเจริญ อกุศลธรรมเสื่อมถอย ศีลวัตรอย่างนั้นถูกต้องมีผลดี

(ดู องฺ.ติก.20/518/289 ขุ.อุ.25/144/194)


:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


ตราบใด ยังเป็นปุถุชน การถือมั่นถือพลาดในศีลวัตรก็ยังมีอยู่ ไม่มากก็น้อย ตามสัดส่วนของตัณหา ทิฏฐิ

หรือโมหะที่เบาบางลง

อย่างน้อยก็ยังมีการฝืนใจหรือข่มไว้ จึงยังไม่พ้นขั้นที่รักษาด้วยความยึดมั่นในศีล และถือเกินเลยคลาดสภาวะ

ไปบ้าง

เมื่อใด เป็นพระโสดาบัน กิเลสหยาบแรงหมดไป จึงได้ชื่อว่า เป็นผู้บำเพ็ญบริบูรณ์ในศีล

(เช่น องฺ.ติก.20/526/298ฯลฯ) การรักษาศีลจึงจะเป็นไปเอง เพราะเป็นศีลอยู่ในตัว

เป็นปกติธรรมดา ไม่ต้องฝึก ไม่ต้องฝืนอีกต่อไป และถือพอดีๆ ตรงตามหลักตามความมุ่งหมาย

ไม่หย่อน ไม่เขว ไม่เลยเถิดไป

:b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b8:

ปั่นกระทู้... :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหนๆ ก็ถูกปั่นแล้วต่ออีกหน่อย

หากจะถือศีล หรือสมาทานศีลเป็นต้น พึงรู้ความมุ่งหมาย ขอบเขต สาระของศีล ว่าเป็นไปเพื่ออะไร ดู

ศีล => เพื่อสมาธิ=> สมาธิเพื่อปัญญา => ปัญญา=>เพื่อวิมุตติ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 13 ธ.ค. 2009, 20:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความหมายจะเหมือนกับการ ทำศีล ให้เป็น อธิศีล (จะตั้งใจก็มีศีล ไม่ตั้งใจก็มีศีล - อธิศีล) หรือปล่าวครับ

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 11:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




a_mun2.jpg
a_mun2.jpg [ 29.09 KiB | เปิดดู 3942 ครั้ง ]
tongue อนุโมทนากับท่านกรัชกาย ในเมตตาและกรุณาที่อยากให้ผู้คนเข้าใจสังโยชน์ข้อที่ 3 นี้ โดยถูกต้อง

อโศกะขออนุญาต วิดก วิจารณ์ เสริมเรื่องนี้ ในอีกแง่มุมหนึ่ง สู่กันฟังในหมู่เพื่อนกัลยาณมิตรทั้งหลายนะครับ

วิเคราะห์ สีลัพพตปรามาส

สีลัพพตปรามาส มาจาก 3 คำ สีล + พรต + ปรามาส

ความหมาย สีล ศีละ หมายถึงปกติ พอดี มั่นคง สมดุลย์ ศีล ข้อวัตรปฏิบัติที่ประกอบด้วยปัญญา

พรต หมายถึง ข้อวัตรของนักพรต ฤาษี อเจลกะ ชฎิล ชีไพร ทั้งหลาย ซึ่งหมายถึงศีลที่ยึดแน่นเกินไป เคร่งเกินไป ไม่ประกอบด้วยปัญญา

ปรามาส ประมาท ลูบคลำ ย่อหย่อน หย่อนยาน ไม่เอาจริงเอาจัง เฉโก ไม่ประกอบด้วยปัญญา

:b8:

สีลัพพตปรามาส เป็นคุณธรรมของพระโสดาบัน เป็นผลพลอยได้จากการที่กิเลสใหญ่ 2 ตัว คือ สักกายทิฐิ และ วิจิกิจฉา ดับขาดไปจากกมลสันดาน

ความที่ถือศีลเคร่งเกินไป หย่อนเกินไป ไม่ประกอบด้วยปัญญา จะไม่มีกับพระโสดาบันอีก จะคงเหลือแต่ปกติศีล ศีลที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นนิจศีล ศีลประจำใจ ของพระโสดาบัน คือความไม่ล่วงศีล 5 โดยเด็ดขาด เป็นเจตนาวิรัตศีล เป้นธรรมชาติศีล ไม่ต้องขอจากพระ เขาหากเป็นศีลเองอยู่โดยธรมชาติและปกติวิสัย ดังนี้
:b8:
smiley

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2012, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มี.ค. 2012, 17:36
โพสต์: 210


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
กระบี่อยู่ที่ใจ : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร