27007.ญานที่ ๒๘ ปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาน

มหาราชันย์

ปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาน

ปฏิภาณปฏิสัมภิทา หมายถึงปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ, ปรีชาแจ้งในความคิดทันการ, มีไหวพริบ ซึมซาบในความรู้ที่มีอยู่ เอามาเชื่อมโยงเข้าสร้างความคิดและเหตุผลขึ้นใหม่ ใช้ประโยชน์ได้สบเหมาะ เข้ากับกรณีเข้ากับเหตุการณ์

ญาณในปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทา
…..ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณ ปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความกำหนดปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความหมายปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความเข้าไปหมายปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญา ในประเภทแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความปรากฏแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความ กระจ่างแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความรุ่งเรืองแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ
…..ปัญญาในความประกาศปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด

เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่าปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณเป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณเป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๕
.....สัทธินทรีย์เป็นธรรม
.....วิริยินทรีย์เป็นธรรม
.....สตินทรีย์เป็นธรรม
.....สมาธินทรีย์เป็นธรรม
.....ปัญญินทรีย์เป็นธรรม

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๕
.....สภาพว่าน้อมใจเชื่อเป็นอรรถ
.....สภาพว่าประคองไว้เป็นอรรถ
.....สภาพว่าเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ
.....สภาพว่าไม่ฟุ้งซ่านเป็นอรรถ
.....สภาพว่าเห็นเป็นอรรถ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในนิรุตติ ๑๐
การระบุพยัญชนะและนิรุตติเพื่อแสดงธรรม ๕ ประการ ……………………..
.....สัทธินทรีย์เป็นธรรม
.....วิริยินทรีย์เป็นธรรม
.....สตินทรีย์เป็นธรรม
.....สมาธินทรีย์เป็นธรรม
.....ปัญญินทรีย์เป็นธรรม
การระบุพยัญชนะและนิรุตติเพื่อแสดงอรรถ ๕ ประการ ……………………..
.....สภาพว่าน้อมใจเชื่อเป็นอรรถ
.....สภาพว่าประคองไว้เป็นอรรถ
.....สภาพว่าเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ
.....สภาพว่าไม่ฟุ้งซ่านเป็นอรรถ
.....สภาพว่าเห็นเป็นอรรถ

ญาณในธรรม เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในอรรถเป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในนิรุตติเป็นอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ญาณต่างๆ เหล่านี้ด้วยญาณใดเป็นอันรู้เฉพาะญาณต่างๆ เหล่านี้ ด้วยญาณนั้นนั่นแล

เพราะ เหตุดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในความต่างแห่ง ปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณเป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๕ .......
.....สัทธาพละเป็นธรรม
.....วิริยพละเป็นธรรม
.....สติพละเป็นธรรม
.....สมาธิพละเป็นธรรม
.....ปัญญาพละเป็นธรรม

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๕ ...........
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความเป็นผู้ไม่มีศรัทธาเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความเกียจคร้านเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความประมาทเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความฟุ้งซ่านเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะอวิชชาเป็นอรรถ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในนิรุตติ ๑๐
การระบุพยัญชนะและนิรุตติเพื่อแสดงธรรม ๕ ประการ ……………………..
.....สัทธาพละเป็นธรรม
.....วิริยพละเป็นธรรม
.....สติพละเป็นธรรม
.....สมาธิพละเป็นธรรม
.....ปัญญาพละเป็นธรรม
การระบุพยัญชนะและนิรุตติเพื่อแสดงอรรถ ๕ ประการ ……………………..
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความเป็นผู้ไม่มีศรัทธาเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความเกียจคร้านเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความประมาทเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะความฟุ้งซ่านเป็นอรรถ
.....สภาพอันไม่หวั่นไหวเพราะอวิชชาเป็นอรรถ

ญาณในธรรม เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในอรรถเป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในนิรุตติเป็นอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ญาณต่างๆ เหล่านี้ด้วยญาณใดเป็นอันรู้เฉพาะญาณต่างๆ เหล่านี้ ด้วยญาณนั้นนั่นแล

เพราะ เหตุดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ ฯ

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณเป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๗ .......
สติสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
วิริยสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ปีติสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
สมาธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
อุเบกขาสัมโพชฌงค์เป็นธรรม

.....สติสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....วิริยสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....ปีติสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....สมาธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
.....อุเบกขาสัมโพชฌงค์เป็นธรรมอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๗ ...........
.....สภาพที่ตั้งมั่น เป็นอรรถ
.....สภาพที่เลือกเฟ้น เป็นอรรถ
.....สภาพที่ประคองไว้ เป็นอรรถ
.....สภาพที่แผ่ซ่านไป เป็นอรรถ
.....สภาพที่สงบ เป็นอรรถ
.....สภาพที่ไม่ฟุ้งซ่าน เป็นอรรถ
.....สภาพที่พิจารณาหาทางและเข้าไปตั้งอยู่ เป็นอรรถ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในนิรุตติ ๑๔
พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๗ .......
สติสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
วิริยสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ปีติสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
สมาธิสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
อุเบกขาสัมโพชฌงค์เป็นธรรม
พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๗ ...........
.....สภาพที่ตั้งมั่น เป็นอรรถ
.....สภาพที่เลือกเฟ้น เป็นอรรถ
.....สภาพที่ประคองไว้ เป็นอรรถ
.....สภาพที่แผ่ซ่านไป เป็นอรรถ
.....สภาพที่สงบ เป็นอรรถ
.....สภาพที่ไม่ฟุ้งซ่าน เป็นอรรถ
.....สภาพที่พิจารณาหาทางและเข้าไปตั้งอยู่ เป็นอรรถ

ญาณในธรรม เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในอรรถ เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในนิรุตติ เป็นอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ญาณต่างๆ เหล่านี้ด้วยญาณใดเป็นอันรู้เฉพาะญาณต่างๆ เหล่านี้ ด้วยญาณนั้นนั่นแล

เพราะ เหตุดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ ฯ

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณเป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๘ .......
สัมมาทิฐิ เป็นธรรม
สัมมาสังกัปปะ เป็นธรรม
สัมมาวาจา เป็นธรรม
สัมมากัมมันตะ เป็นธรรม
สัมมาอาชีวะ เป็นธรรม
สัมมาวายามะ เป็นธรรม
สัมมาสติ เป็นธรรม
สัมมาสมาธิ เป็นธรรม

…..สัมมาทิฐิ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาสังกัปปะ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาวาจา เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมากัมมันตะ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาอาชีวะ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาวายามะ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาสติ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง
…..สัมมาสมาธิ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๘ ...........
.....สภาพที่เห็น
.....สภาพที่ดำริ
.....สภาพที่กำหนดเอา
.....สภาพที่เป็นสมุฏฐาน
.....สภาพที่ขาวผ่อง
.....สภาพที่ประคองไว้
.....สภาพที่ตั้งมั่น
.....สภาพที่ไม่ฟุ้งซ่าน

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในนิรุตติ ๑๖

พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในธรรม ๘ .......
สัมมาทิฐิ เป็นธรรม
สัมมาสังกัปปะ เป็นธรรม
สัมมาวาจา เป็นธรรม
สัมมากัมมันตะ เป็นธรรม
สัมมาอาชีวะ เป็นธรรม
สัมมาวายามะ เป็นธรรม
สัมมาสติ เป็นธรรม
สัมมาสมาธิ เป็นธรรม
พระโยคาวจรรู้ธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ญาณในอรรถ ๘ ...........
.....สภาพที่เห็น
.....สภาพที่ดำริ
.....สภาพที่กำหนดเอา
.....สภาพที่เป็นสมุฏฐาน
.....สภาพที่ขาวผ่อง
.....สภาพที่ประคองไว้
.....สภาพที่ตั้งมั่น
.....สภาพที่ไม่ฟุ้งซ่าน

ญาณในธรรม เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในอรรถ เป็นอย่างหนึ่ง
ญาณในนิรุตติ เป็นอย่างหนึ่ง

พระโยคาวจรรู้ญาณต่างๆ เหล่านี้ด้วยญาณใดเป็นอันรู้เฉพาะญาณต่างๆ เหล่านี้ ด้วยญาณนั้นนั่นแล

เพราะ เหตุดังนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในความต่างแห่งปฏิภาณ เป็นปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ ฯ

เจริญในธรรมครับ

กฎการใช้บอร์ด

27007.ญานที่ ๒๘ ปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาน

ผู้ใช้งานขณะนี้


ทั่วไป เว็บธรรมจักร