วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 20:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 12:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 12:46
โพสต์: 29

สิ่งที่ชื่นชอบ: ท่าน ว.วชิรเมธี
ชื่อเล่น: หมวย
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สำหรับหมวย หมวยคิดว่าฝรั่งเค้ามีความเป็นตัวของตัวเองสูงค่ะ แต่ผู้หญิงไทยแตกต่างจากผู้หญิงฝรั่งโดยสิ้นเชิง ดังนั้น สำหรับหมวย ถ้ามือถือหายหมวยก็เสียดาย แต่ถ้าแฟนทิ้งหมวยก็เสียใจ แต่เวลาผ่านไปหมวยก็ลืมหมด... tongue

.....................................................
ขอบุญจากธรรมทานนี้จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัว ที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน หากไม่ถึงเพียงใดให้ขอให้คำว่าไม่มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ขอให้เกิดในภพภูมิ เขต ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ลึกซึ้ง ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องลงมือทำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 13:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขำคุณจริงๆ
กว่าจะลงมือถามได้ ต้องร่างรัฐธรรมนูญจนเสร็จก่อน

ไม่มีที่ไหนหรอกที่คนไม่ทะเลาะกัน ทำใจให้ชินดีกว่า
ภาษิตจีนว่า "น้ำที่สะอาดเกินไป ปลาก็อยู่ไม่ได้"

ถ้าเรามัวแต่รอให้คนที่มาคุยกัน คุยกันดีๆอย่างที่เราตั้งเกณฑ์ไว้นี่นะ
ยาก เราเองนั่นแหละทุกข์ เพราะไม่สมดังหวัง เราจะอยู่กับโลกลำบาก
คนมาทำชั่วใส่เราทุกวันๆ เราห้ามเขาไม่ได้หรอก


เอาล่ะ จากที่ถาม ขอแสดงความเห็นว่า
ที่จริงก็เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าบอก ว่าคนเรานี่เต็มไปด้วยอัตตา
เรารักกายรักใจของเราที่สุด


ซึ่งสำหรับโลกแล้ว กายก้ของเรา ใจก็ของเรา กายทุกข์เราทุกข์ กายสุขเราสุข
นอกจากกายของเราแล้วยังมีนั่นนี่ของเรามาเพิ่มอีก เช่นชื่อเสียงของเรา เงินของเรา แฟนของเรา
ใครมาละเมิด"ของของเรา"แล้ว เราก้จะโกรธ ไม่ยอม ต่อสู้เพื่อให้ครองเอาไว้
เรียกว่ามีของของเรานี้มากกว่ากายมากกว่าใจออกไปอีก

แต่ทั้งหมดของพระพุทธศาสนานี่ก้คือการเข้าถึงความจริงที่ว่า กายนี้ใจนี้ไม่ใช่ของเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2010, 11:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


......เรียนจขกทและท่านผู้ดูแลห้องสนทนาแห่งนี้
ผมได้ทราบว่า หัวข้อความคิดเห็นของผมในกระทู้นี้หัวลบไป
ผมไม่มีความรู้สึกอะไร คิดเสียว่าเป็นเพียงความเห็นผมคนเดียว
แต่มารู้สึกเสียใจและไม่พอใจ ในส่วนที่จขกทได้ส่งpmส่วนตัวในเชิงตำหนิ
หาว่าผม แสดงความเห็นที่ไม่ตรงกับประเด็นในกระทู้ และอื่นๆอีกมาก
.....ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรม ผมจึงต้องขอใช้สิทธิที่จะอธิบายความ
และนี้ไม่ใช่เป็นข้อแก้ตัว เพราะผมยึดคติกล้าทำกล้ารับ

........ผมกล้ารับรองได้ว่าในส่วนของผมมิได้ทำอะไรที่ผิดกฎของเว็บบอร์ดแห่งนี้
และที่จขกทอ้างว่า ผมแสดงความคิดเห็นไม่ตรงประเด็น ผมมั่นใจได้เลยว่า
ผมได้ตอบได้ตรงกับเนื้อหาในกระทู้ อีกทั้งเพื่อกันการเข้าใจผิด ผมได้แนบข้ออ้างอิง
ในกระทู้นั้นมาตอบ และยังได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของเนื้อหาที่จขกทนำมาไว้ในกระทู้นี้

.......ท่านผู้ดูแลครับผมไม่สามารถนำหลักฐานมากล่าวอ้างได้
เพราะความเห็นโดนลบไปแล้ว อีกทั้งเนื้อหาในกระทู้ของจขกทเอง
ผมมีความรู้สึกว่าได้ถูกจขกทแก้ไขไปแล้ว เอาเป็นว่าผิดถูกก็รู้กันที่ใจของแต่ละคนแล้วกัน

.......ผมขอตั้งขอสังเกตุนะครับว่า ความเห็นลบไปคงไม่ใช่จขกทเป็นผู้ลบ เพราะทำไม่ได้
แต่อาจจะเป็นผู้แจ้งลบแก่ผู้ดูแล ฉะนั้นผู้ดูแลคงจะเป็นผู้ลบความเห็นของผม

......ดังนั้นด้วยความนับถือนะครับ ผมขอถามเหตุผลที่
ความเห็นของผมโดนลบกับผู้ดูแลหน่อยได้มั้ยครับว่า ผมทำผิดกฎข้อไหนของบอร์ดหรือครับ
ผมได้ดูบอร์ดด้านบนที่เว็บประกาศกติกาไว้ ผมไม่ได้กล่าวการเมือง โจมตีสำนักไหน
ให้เกิดความแตกแยกหรือใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย มิหนำผมว่าผู้อื่นเสียอีกที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายแต่ไม่โดนลบ


.......ผมขอทำความเข้าใจเพิ่มเติมหน่อย รักที่จะเข้าสนทนาธรรม
ท่านต้องเข้าใจด้วยว่าเป็นการสนทนาที่เกี่ยวกับธรรมะ ท่านต้องมีความพร้อมที่จะเข้ามาสนทนา
โดยการใช้สติให้มากๆ เมื่อเกิดสภาวะอารมณ์ใดเกิดขึ้น ตัวท่านเองต้องยอมรับว่า
ตัวท่านยังไม่พร้อมที่จะสนทนาธรรมครับ

.....เจริญในธรรมครับ

..ความเห็นนี้เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้โดยตรงนะครับ กรุณาอย่าลบอีกนะครับ
จะอธิบายหรือไม่ ไม่เป็นปัญหาครับ ขอแค่เล่าสู่กันฟัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2010, 23:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2004, 19:48
โพสต์: 1736

ชื่อเล่น: admin
อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรียนคุณ TAKSA

ได้รับแจ้งให้เข้ามาดูข้อความของคุณ ว่าควรลบหรือไม่
แม้ว่าข้อความอาจจะไม่ได้ผิดกฏตรงๆ แต่พิจารณาเห็นว่า
ความคิดเห็นอาจจะสร้างความกระทบกระทั่งกันในระหว่างผู้สนทนา
ทางทีมงานก็จะทำการลบเพื่อป้องกันไว้ก่อนนะครับ

:b8: ถ้าทีมงานผิดพลาดไป หรือสร้างความไม่สบายใจให้
ก็ขออภัยนะที่นี่ด้วยครับ

.....................................................
-- วิธีใช้บอร์ด --
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=22930
- สมาชิกใหม่แนะนำตัวที่นี่
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=29
- กฎกติกาบอร์ด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=19110
- เครื่องมือผู้ดูแลบอร์ด -
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=23048
facebook ลานธรรมจักร
http://www.facebook.com/larndhammajak


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 22 ม.ค. 2010, 00:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สำหรับดิฉัน
ถ้ามือถือหายเสียดาย แต่ไม่เสียใจ
ถ้าแฟนทิ้ง เสียใจ แต่ไม่เสียดาย :b16:

ถ้ามีคนเอาเงินมากองเพื่อให้เลิกกับแฟน
ถ้าแฟนเป็นคนดี เอามากองเท่าภูเขาก็ไม่ทิ้ง
แต่ถ้าแฟนเป็นคนไม่ดี ไม่ให้สักบาท ก็จะทิ้ง :b13:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 06:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


admin เขียน:
เรียนคุณ TAKSA

ได้รับแจ้งให้เข้ามาดูข้อความของคุณ ว่าควรลบหรือไม่
แม้ว่าข้อความอาจจะไม่ได้ผิดกฏตรงๆ แต่พิจารณาเห็นว่า
ความคิดเห็นอาจจะสร้างความกระทบกระทั่งกันในระหว่างผู้สนทนา
ทางทีมงานก็จะทำการลบเพื่อป้องกันไว้ก่อนนะครับ

:b8: ถ้าทีมงานผิดพลาดไป หรือสร้างความไม่สบายใจให้
ก็ขออภัยนะที่นี่ด้วยครับ

....... :b8: ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูงครับท่านadmin
ที่กรุณาให้ความสนใจต่อการร้องขอของผม
ได้แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ
.......และต้องขออภัยกลับเช่นกัน ที่ตอนแรกคิดอกุศลไปว่า
ทางเว็บไม่มีเหตุผล นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ กฎกติกาตั้งมา
ให้สมาชิกปฏิบัติ แต่ตัวเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ว่า ให้คนอี่นทำ
แต่ตัวเองก็ไม่นำพาที่จะทำ ขนาดผมคิดไปว่าใช้กฎเถื่อนอะไรมา
ตัดสินความเป็นตัวตนของบุคคล ผู้ซึ่งใช้วิธีการสนทนากับผู้อื่น
โดยคำนึงศีลข้อ มุสาและกฎของทางเว็บ แต่ถ้าทางเว็บบอกมา
ที่หลังว่าใช้เหตุผลอี่น อ่านดูตอนแรกไม่อยากรับ แต่มาคิดดูมัน
เกี่ยวข้องกับ จริยธรรมเหมือนกัน เลยต้องน้อมรับโดยดุษฎี

....ต้องกราบขออภัยadminอีกครั้งครับ ในสิ่งที่กล่าวมาข้างบน
เนื่องด้วยผมเคยบอกไว้ว่า ผมกล้าทำกล้ารับและผมต้องการขออโหสิกรรม
ต่อท่าน ในการกระทำและความคิดของผม เลยต้องกล่าวแต่ความจริง
ในส่วนที่จะขออโหสิกรรม


.......สุดท้ายกราบขอโทษและขออโหสิกรรมนะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 06:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
สำหรับดิฉัน
ถ้ามือถือหายเสียดาย แต่ไม่เสียใจ
ถ้าแฟนทิ้ง เสียใจ แต่ไม่เสียดาย :b16:

ถ้ามีคนเอาเงินมากองเพื่อให้เลิกกับแฟน
ถ้าแฟนเป็นคนดี เอามากองเท่าภูเขาก็ไม่ทิ้ง
แต่ถ้าแฟนเป็นคนไม่ดี ไม่ให้สักบาท ก็จะทิ้ง :b13:

.....ผมขออนุญาติคุยทางธรรมกับคุณทักทายด้วยมิตรไมตรีนะครับ :b1:
ที่คุณทักทายกล่าวว่า "ถ้ามือถือหายเสียดาย แต่ไม่เสียใจ
ถ้าแฟนทิ้ง เสียใจ แต่ไม่เสียดาย "
คำพูดนี้มันสับสนในเรื่อง อริยสัจจ์สี่ นะครับ
ทุกข์ย่อมเกิดจากเหตุคือ สมุทัย
ผลย่อมเกิดจากเหตุเสมอ
...ทุกข์หรือผลที่ว่าก็คือ ความเสียใจ
...ส่วนเสียดาย เป็นอารมณ์หรือเรียกว่า เหตุหรือสมุทัย
เมื่อมีเหตุ ..ย่อมต้องมีผล แต่เราสามารถทำให้ไม่เกิดผลได้
ด้วยการปฏิบัติในแนวทาง อริยมรรคมีองค์แปดเพื่อให้เกิดนิโรธ
...แต่ที่แน่ๆผลจะมีก่อนเหตุมันเป็นไปไม่ได้ครับ
....เจริญในธรรมครับ :b8:

.....ในส่วนของผม ตอนแรกไม่รู้สึกเสียดายและเสียใจกับความเห็นในกระทู้นี้เลย
แต่ผมไปเสียใจกับการกระทำใหม่ของจขกท ที่pmส่วนตัว ไปตำหนิผมเรื่องในกระทู้นี้
เลยทำให้รู้สึกเสียดายความเห็นของผมในกระทู้นี้ เพราะมันเป็นหลักฐานไว้แก้ข้อกล่าวหา
ที่จขกท ว่ากล่าวตำหนิผมครับ ไม่เท่านั้นนะครับจขกทเล่นเข้ามาแก้ไขข้อความตัวเองอีก
เลยเข้ามาเรียกร้อง ความเป็นธรรมครับ เอาว่ามันเป็น ปฏิจสมุบาทของปุถุชนละกันครับ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...สังคมยุคนี้...ก็นิยมวัตถุตามสมัยนิยมแหละค่ะ...
...ผู้นิยมวัตถุทั้งหลายหามาเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิต...
...มนุษย์ทุกคนก็อยากเกิดมารูปสวยรวยทรัพย์และฉลาดเหมือนๆกัน...
...แต่มันก็เท่ากันเหมือนกันไม่ได้...ต่างกรรม...ต่างวาระ...ต่างเผ่าพันธุ์...
:b1:
...เกิดมาแล้วก็แสวงหาทางโลกมาตั้งแต่ร่ำเรียนวิชาความรู้เพื่อเอาตัวรอดเลี้ยงชีพ...
...โดยเฉพาะการเกิดมาพบพระพุทธศาสนานี้นับว่าสุดยอดเพราะได้พบทางรอดพ้นจากวัฏฏะ...
...เราเลือกเกิดไม่ได้...แต่จงพยายามเลือกทำแต่สิ่งที่เป็นกุศลเพื่อสร้างหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ...
...จิตที่เป็นกุศลเบิกบานยิ้มแย้ม...ย่อมนำพาความสุขสงบเข้ามาในชีวิต...เลือกให้ดีว่าต้องการแบบไหน
...การแสวงหาวัตถุตามสมัยนิยม...ทำได้บนพื้นฐานที่ไม่เบียดเบียนตนเองและเบียดเบียนผู้อื่นเจ้าค่ะ...
:b4:
:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


TAKSA เขียน:
ผมขออนุญาติคุยทางธรรมกับคุณทักทายด้วยมิตรไมตรีนะครับ :b1:
ที่คุณทักทายกล่าวว่า "ถ้ามือถือหายเสียดาย แต่ไม่เสียใจ
ถ้าแฟนทิ้ง เสียใจ แต่ไม่เสียดาย "
คำพูดนี้มันสับสนในเรื่อง อริยสัจจ์สี่ นะครับ
ทุกข์ย่อมเกิดจากเหตุคือ สมุทัย
ผลย่อมเกิดจากเหตุเสมอ
...ทุกข์หรือผลที่ว่าก็คือ ความเสียใจ
...ส่วนเสียดาย เป็นอารมณ์หรือเรียกว่า เหตุหรือสมุทัย
เมื่อมีเหตุ ..ย่อมต้องมีผล แต่เราสามารถทำให้ไม่เกิดผลได้
ด้วยการปฏิบัติในแนวทาง อริยมรรคมีองค์แปดเพื่อให้เกิดนิโรธ
...แต่ที่แน่ๆผลจะมีก่อนเหตุมันเป็นไปไม่ได้ครับ
....เจริญในธรรมครับ :b8:


สวัสดึค่ะท่านTAKSA เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้สนทนาทางธรรม
กับท่าน ต้องขอทำความเข้าใจนิดหนึ่งนะค่ะว่า ดิฉันยังไม่ถ่องแท้เรื่องทางธรรม
ที่เข้ามาสนทนากับเหล่ากัลยาณมิตร ในเวบบ์นี้ ส่วนมากแล้วก็จะเป็นปัญหาทางโลก
เสียมากกว่า ส่วนทางธรรมนั้นจะเปรียบไป ยังอยู่ขั้นเตรียมอนุบาลอยู่เลยค่ะ
เท่าที่มีอยู่นี้ ไม่ได้ศึกษาโดยตรง แต่เป็นการอ่านจากหนังสือธรรมะต่างๆ
ตามแต่โอกาส :b1:

ขอตอบคำถามของท่านตามความคิด ความรู้สึกดังนี้นะค่ะ
มือถือหาย กับแฟนทิ้ง แยกเป็น สองเหตุ สองผลค่ะ :b4:

มือถือหายคือเหตุหนึ่ง เสียดาย ไม่เสียใจ คือผล ที่เป็นแบบนี้เพราะ
มือถือเป็นสิ่งของเมื่อหายไแล้ว ย่อมเสียดายเพราะเป็นของเรา
อยุ่กับเรามันก็มีประโยชน์ แต่ในเมื่อหายไปแล้วเสียดาย
เพราะประโยชน์ของเราขาดหายไป แต่ไม่เสียใจ เพราะหาง่าย
มีเงินเมื่อไหร่ก็ซื้อได้ และอาจจะถูกกว่า และดีกว่าอันที่หายไป :b11:

ส่วนแฟนทิ้ง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุ เสียใจ ไม่เสียดาย คือผล ที่เสียใจก็ยัง
เพราะความยึดมั่นถือมั่นอยู่ ว่าเขาเป็นของเรา ยังผูกพันยังมีรัก
มีความหลงในตัวบุคคลอยุ่ แต่ไม่เสียดาย เพราะคนไม่ใช่สิ่งของ
เมื่อเสียไปแล้ว อย่างไรเสีย ก็ไม่มีทางหามาทดแทนได้ ถึงจะมีแฟนใหม่ได้
แต่ก็ไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่คนเดิม :b7:

สรุปแล้วก็คือ ยังไม่ถึงอริยสัจสี่หรอกค่ะ ถ้าจะคิดว่าเป็นธรรมะ ก็คงจะ
อยู่ในขั้นหยาบๆอยู่ แต่จริงๆแล้วคำตอบของดิฉันก็ เป็นแค่ความรู้สึก
ตามความเป็นจริงเท่านั้นเอง :b6:

ผิดถูกอย่างไร หรือมีอะไรจะแนะนำ ขอน้อมรับไมตรีจิต
จากท่านด้วยความจริงใจ ตามควรแก่กาลนะค่ะ :b8:

ส่วนเรื่องความเสียใจ และเสียดายของท่าน ก็ถือเสียว่า
เป็นบททดสอบเล็กๆของกิเลส ก็แล้วกันค่ะ :b14:

อนุโมทนา สาธุ
เจริญในธรรมค่ะ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ส่วนเรื่องความเสียใจ และเสียดายของท่าน ก็ถือเสียว่า
เป็นบททดสอบเล็กๆของกิเลส ก็แล้วกันค่ะ :b14:

อนุโมทนา สาธุ
เจริญในธรรมค่ะ :b8: :b8: :b8: [/color][/i]

คุณทักทายครับ ถ้าจะคุยเรื่องทางธรรมกันต่อ ผมยินดีครับ
แต่ผมขอความกรุณา คุณทักทายมีใจที่เปิดกว้าง และหนักแน่น
อย่าได้ถือสา คำพูดหรือสำนวนที่บางครั้งอาจไม่เข้าหูหรือแสลง
หัวจิตหัวใจ เอาเป็นว่า คุณกับผมต่างคนต่างควบคุมสติกันเอง
และถือหลักหนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะครับ :b8:
........ก่อนอื่นผมขออธิบายในส่วนที่ผมยกคำพูดคุณมาอ้างอิงเสียก่อน
ตัวผมเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณในข้อความนั้นดีครับ
ผมขอบอกตามความจริงเลยนะครับว่า พอได้อ่านข้อความประโยคนี้ของคุณแล้ว
ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็คิดในใจครับว่า กำลังถูกหลอกด่า ทำไมสังคมคนเราเป็นไปได้
อย่างนี้ครับ นี้ถ้าเป็นผม เอื้อนเอ่ยหรือเป็นคนกล่าว คนอื่นจะต้องตีความไปว่า ยั่วยุคู่สนทนา
ชวนทะเลาะ แต่เอาละครับสำหรับผม สบายๆเรื่อยๆครับ

......ผมจะขออธิบายในส่วนของผมที่เกี่ยวกับประโยคอ้างอิงให้ฟังนะครับ
ส่วนคุณจะเข้าใจหรือไม่ ผมยกไว้ให้คุณเป็นคนพิจารณาเอง

.......เรื่องที่คุณว่าถึงบททดสอบกิเลสของผมนั้น ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
เรื่องกิเลสในใจคน มันมีด้วยกันทุกคน ถ้ามันยังไม่ปรุงแต่งจนเกิดการกระทำแล้ว
คนอื่นก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่เมื่อแสดงออกมาแล้ว ก็ต้องดูด้วยว่า ผลของการกระทำนั้น
เกิดจากกิเลสหรืออะไรกันแน่ บางคนทำเพราะเรียกร้องหาความเป็นธรรมในสังคมส่วนรวม
แบบนี้คุณเรียกว่า กิเลสหรือครับ กะแค่อธิบายความเป็นมาเป็นไปในสิ่งที่เกิดขึ้นตามความจริง
แล้วให้สังคมตัดสินเอง
.....ถ้าเรามองย้อนในมุมกลับกัน คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ออกมาเสนอแนะในทาง
สั่งสอนหรือประชดแล้วแต่จะเรียกกันไปแบบนี้ เราจะเรียกอะไรดีครับ เกิดจากความปรารถณาดี
หรือกิเลสในใจตัวเองครับ

....เอาแค่นี้ก่อนครับ แล้วจะมาคุยเรื่องอารมณ์กับความทุกข์ให้ฟัง
ถ้าความเห็นนี้ไม่เกิดปัญหานะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ขอตอบคำถามของท่านตามความคิด ความรู้สึกดังนี้นะค่ะ
มือถือหาย กับแฟนทิ้ง แยกเป็น สองเหตุ สองผลค่ะ :b4:

มือถือหายคือเหตุหนึ่ง เสียดาย ไม่เสียใจ คือผล ที่เป็นแบบนี้เพราะ
มือถือเป็นสิ่งของเมื่อหายไแล้ว ย่อมเสียดายเพราะเป็นของเรา
อยุ่กับเรามันก็มีประโยชน์ แต่ในเมื่อหายไปแล้วเสียดาย
เพราะประโยชน์ของเราขาดหายไป แต่ไม่เสียใจ เพราะหาง่าย
มีเงินเมื่อไหร่ก็ซื้อได้ และอาจจะถูกกว่า และดีกว่าอันที่หายไป :b11:

......ก่อนอื่นผมขอบอกเลยว่า ผมเข้าใจดีครับว่าประโยคมันแยกกันอยู่
ถึงคุณจะกล่าวเสริมมาอีก ผมก็ยังคงมีความเห็นเหมือนเดิมในเรื่องความสับสน
ในการใช้คำบัญญัติในทางโลกและในทางธรรม ยิ่งถ้ากล่าวในทางธรรมแล้ว
มันยิ่งไปกันใหญ่ครับ ถ้าเป็นคำในทางโลกยังพออลุมอล่วยกันได้
แต่ในทางธรรมแล้วไม่ควรปล่อยผ่าน อีกทั้งในห้องนี้เป็นห้องสนทนาธรรมเสียด้วย
......ประโยคหรือภาษาที่คุณกล่าวมา ผมต้องกราบขอโทษที่จะกล่าวว่า เป็นศัพท์
ที่พวกวัยรุ่น เด็กแว้น สาวสก๊อยเขาใช่กันครับ มันเป็นสำนวนที่ฟังแล้ว ขาดความ
เชื่อมโยงของประโยคครับ ดูแล้วฟังแล้วมันขัดกันเองในประโยคคำพูด
หรือที่ครูสอนภาษาไทยเรียกว่า ภาษาวิบัติครับ

........ส่วนในเรื่องทางธรรมนั้น ความเสียดายกับเสียใจมันเป็นเรื่องของจิต
เรื่องขันธ์ ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจกับความหมาย ที่มาที่ไปของคำบัญญัติ
เสียก่อนว่ามันหมายถึงอะไรในทางอภิธรรม เอาคำแรกก่อนนะครับ
......เสียดาย[b] ถ้าแปลธรรมดามันก็คงหมายถึง ของๆเราที่เกิดการเสียหาย
หรือสูญหายแล้วเราอยากได้คืน อาการแบบนี้ในทางธรรมเรียกเรียกโลภะที่เป็น
ตัวตัณหาหรือความอยากนั้นแหล่ะครับ
......[b]เสียใจ
แปลได้ว่า ความไม่สบายใจ ทางธรรมเรียกว่าทุกข์
มันเป็นผลอันเกิดจากความเสียดาย

..........ผมจะไล่เรียงของขบวนการของจิตปุถุชนให้ดูสั้นๆนะครับ
ที่คุณกล่าวว่าโทรศัพท์หายรู้สีกเสียดาย นี้แสดงว่าจิตคุณไปยึดกับของที่หายคือโทรศัพท์
ทำให้เกิดความเสียดาย อารมณ์นี้แหล่ะครับเรียกว่าตัณหาความอยากครับ แล้วมันจะเกิดผล
ที่หลีกหนีไม่ได้คือความเสียใจ ที่เรียกว่าทุกข์ครับ

........ไอ้เรื่องที่คุณบอกว่า เสียดายไม่เสียใจ ในความเป็นจริงที่เป็นสัจจธรรม
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อาการแบบนี้ของคุณในทางธรรมเขาเรียกว่าอวิชา คือการไม่รู้เหตุ
แห่งทุกข์ครับ


......แล้วเรื่องที่บอกว่า มีตังค์ซื้อใหม่ได้ อันนี้จิตคุณไปสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมา
มันเป็นปัจจุบัน ส่วนเรื่องเสียดายกับเสียใจมันเป็นอดีตไปแล้ว มันไม่เกี่ยวกับ
ที่คุณกล่าวว่า เสียดายแต่ไม่เสียใจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ส่วนแฟนทิ้ง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุ เสียใจ ไม่เสียดาย คือผล ที่เสียใจก็ยัง
เพราะความยึดมั่นถือมั่นอยู่ ว่าเขาเป็นของเรา ยังผูกพันยังมีรัก
มีความหลงในตัวบุคคลอยุ่ แต่ไม่เสียดาย เพราะคนไม่ใช่สิ่งของ
เมื่อเสียไปแล้ว อย่างไรเสีย ก็ไม่มีทางหามาทดแทนได้ ถึงจะมีแฟนใหม่ได้
แต่ก็ไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่คนเดิม :b7:

.....ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณทักทายครับที่ผมเสียมรรยาท หัวเราะในประโยคนี้ของคุณ
คุณเล่นเอาสำนวนที่คุณใช้ปลอบใจ คนที่สามีทิ้งหรือมีเมียน้อย ในห้องรักพลัดพราก
มาใช้กับห้องสนทนาธรรมนี้นะ คุณคิดว่าไอ้เรื่องปรุงแต่งความรักความใคร่ของคน
กับเรื่องธรรมะที่สอนให้อยู่กับความจริงมันไปกันได้หรือครับ

....มันอะไรกันครับ เสียใจแต่ไม่เสียดาย ไอ้ตัวที่คุณบอกว่าหลงในตัวบุคคลอยู่
ไอ้สิ่งที่คุณว่ามานั้นแหล่ะ เรียกว่าเสียดายหรือตัณหาครับ
คุณเปรียบเทียบแฟนกับสิ่งของผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ
ที่คุณลืมสิ่งของได้ เพราะจิตคุณไปยึดเอาสภาวะหรือสิ่งใหม่แล้ว จิตได้คลายการยึด
สภาวะเก่า เลยทำให้ลืมของอันเก่าไป อันนี้เรียกว่าโมหะหรือหลงครับ คือหลงปรุงแต่ง
ว่าไม่เสียดายและไม่ทุกข์แล้ว ลืมคิดไปว่าเหตุการณ์นั้นมันผ่านมาแล้ว
......ส่วนเรื่องแฟนที่คุณพรรณามานั้น จิตยังผูกพันยังมีรักอยู่
แบบนี้หรือครับที่คุณเรียกว่าไม่เสียดายหรือตัณหานั้นนะ
จิตที่ไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดเมื่อเสียไปแล้วก็ยังยึดอยู่ เขาไม่เรียกว่าเสียใจนะครับ
เขาเรียกว่าเสียดาย จิตยังเสียดาย เมื่อไม่ได้ดังจิตที่ทะยานอยาก มันจึงเกิดความเสียใจ
หรือทุกข์ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


TAKSA เขียน:
คุณทักทายครับ ถ้าจะคุยเรื่องทางธรรมกันต่อ ผมยินดีครับ
แต่ผมขอความกรุณา คุณทักทายมีใจที่เปิดกว้าง และหนักแน่น
อย่าได้ถือสา คำพูดหรือสำนวนที่บางครั้งอาจไม่เข้าหูหรือแสลง
หัวจิตหัวใจ เอาเป็นว่า คุณกับผมต่างคนต่างควบคุมสติกันเอง
และถือหลักหนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะครับ :b8:

........ก่อนอื่นผมขออธิบายในส่วนที่ผมยกคำพูดคุณมาอ้างอิงเสียก่อน
ตัวผมเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณในข้อความนั้นดีครับ
ผมขอบอกตามความจริงเลยนะครับว่า พอได้อ่านข้อความประโยคนี้ของคุณแล้ว
ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็คิดในใจครับว่า กำลังถูกหลอกด่า ทำไมสังคมคนเราเป็นไปได้
อย่างนี้ครับ นี้ถ้าเป็นผม เอื้อนเอ่ยหรือเป็นคนกล่าว คนอื่นจะต้องตีความไปว่า ยั่วยุคู่สนทนา
ชวนทะเลาะ แต่เอาละครับสำหรับผม สบายๆเรื่อยๆครับ


ท่านTAKSA ค่ะอนุโมทนาในความกรุณาของท่าน
ที่พยายามจะแนะนำและสนทนาธรรมให้กับดิฉัน ขอน้อมรับด้วยความจริงใจ
ก่อนอื่นขอชี้แจงความเข้าใจของท่านนิดหน่อยนะค่ะ
ดิฉันเห็นด้วยกับคุณค่ะ อภัยในกันนะค่ะ :b8:

ส่วนข้อความท่อนที่สอง จริงๆแล้วดิฉันมีเจตนาให้กำลังใจ ท่านต่างหาก
ไม่ทราบพิมพ์ข้อความผิด และบิดเบือนความตั้งใจ ความจริงใจของดิฉัน
ไปได้อย่างไร? :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 24 ม.ค. 2010, 07:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


TAKSA เขียน:
ก่อนอื่นผมขอบอกเลยว่า ผมเข้าใจดีครับว่าประโยคมันแยกกันอยู่
ถึงคุณจะกล่าวเสริมมาอีก ผมก็ยังคงมีความเห็นเหมือนเดิมในเรื่องความสับสน
ในการใช้คำบัญญัติในทางโลกและในทางธรรม ยิ่งถ้ากล่าวในทางธรรมแล้ว
มันยิ่งไปกันใหญ่ครับ ถ้าเป็นคำในทางโลกยังพออลุมอล่วยกันได้
แต่ในทางธรรมแล้วไม่ควรปล่อยผ่าน อีกทั้งในห้องนี้เป็นห้องสนทนาธรรมเสียด้วย
......ประโยคหรือภาษาที่คุณกล่าวมา ผมต้องกราบขอโทษที่จะกล่าวว่า เป็นศัพท์
ที่พวกวัยรุ่น เด็กแว้น สาวสก๊อยเขาใช่กันครับ มันเป็นสำนวนที่ฟังแล้ว ขาดความ
เชื่อมโยงของประโยคครับ ดูแล้วฟังแล้วมันขัดกันเองในประโยคคำพูด
หรือที่ครูสอนภาษาไทยเรียกว่า ภาษาวิบัติครับ


อนุโมทนาค่ะ สำหรับคำอธิบาย
ของคำว่าเสียใจ กับเสียดาในทางธรรม แต่คุณTAKSA
คงมองข้ามข้อความที่ดิฉันบอกว่าตอบ "ตามความคิดและความรู้สึก" :b1:

ต้องขออภัยอีกครั้งที่ใช้ภาษาวิบัติ ที่คุณว่าเป็นภาษาของเด็กแว้น และสาวสก้อย
เด็กแว้นนั้นพอทราบค่ะว่าแปลว่าเด็กชอบซิ่งมอเตอร์ไซด็ แต่สาวสก๊อย ไม่ทราบจริงๆ
ว่า แปลว่าอะไรค่ะ? :b10:


.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


TAKSA เขียน:
ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณทักทายครับที่ผมเสียมรรยาท
หัวเราะในประโยคนี้ของคุณ
คุณเล่นเอาสำนวนที่คุณใช้ปลอบใจ คนที่สามีทิ้งหรือมีเมียน้อย ในห้องรักพลัดพราก
มาใช้กับห้องสนทนาธรรมนี้นะ คุณคิดว่าไอ้เรื่องปรุงแต่งความรักความใคร่ของคน
กับเรื่องธรรมะที่สอนให้อยู่กับความจริงมันไปกันได้หรือครับ [/b]


ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าหัวเราะแล้วทำให้คุณดีขึ้นบ้าง

ดิฉันสนทนากับพี่ๆน้องๆ ที่ถูกคนที่ได้ชื่อว่าสามีทิ้ง เพราะเห็นใจ และทราบดีว่า
ความทุกข์เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับผู้หญิงมันหนักหนาสาหัสขนาดไหน? บางท่าน
ยังมีภาระ ลูกเล็กๆที่ต้องเลี้ยงดูอีก เพียงเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น รู้สึกว่ามีเพื่อน
เขาไม่ได้ทุกข์เพียงคนเดียว เจตนาก็คือ เห็นใจ อยากให้เขาทุกข์น้อยลง
หรือมีแรงต่อสู้ปัญหาต่อไป ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย หากคุณคิดว่าสำนวนที่
ดิฉันใช้นั้น ไม่สมควรที่จะเข้ามาใช้ในห้องสนทนาธรรม ดิฉันก็จะเก็บไปพิจารณา

สรุปแล้วคุณTAKSAพยายามจะบอกดิฉันว่า เรื่องความรัก ความใคร่ของคน
กับเรื่องธรรมะ ควรจะแยกกัน ไม่ควรนำมาปะปนกัน และไม่ควรเข้ามาสนทนา
เรื่องเหล่านี้ในห้องสนทนาธรรม หรือถ้าเข้ามาควรจะใช้คำที่เป็นธรรมะล้วนๆ
ใช่หรือเปล่าค่ะ? ต้องขออภัยอีกครั้งถ้าทำให้คุณขัดเคือง ดิฉันเพียงแต่พยายาม
อยู่ตรงกลางค่ะ ตรงไหนที่คิดว่าน้อยไป ก็พยายามจะเพิ่ม ตรงไหนที่มากไป
ก็พยายามจะลด ไม่เข้มเกินไป และไม่เจือจางจนเกินไป

เอาเป็นว่าดิฉันคงไม่เหมาะสมที่จะสนทนาธรรมกับคุณแล้ว
เพราะยอมรับว่าดิฉันยังด้อยในทางธรรมอยู่มาก แต่ไม่สัญญานะค่ะ
ว่าจะไม่เข้ามาในห้องนี้ เพราะดิฉันอาจจะต้องเข้ามาหาความรู้และ
สนทนาธรรมกับท่านอื่นอยู่ หากวาจาใดที่ไม่เป็นการสมควร
หรือทำให้ท่านหม่นหมอง ขออโหสินะค่ะ อย่าได้ถือสากันเลย :b8:

ขออนุโมทนาสำหรับทุกข้อความที่ผ่านมา :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร