วันเวลาปัจจุบัน 01 พ.ค. 2025, 18:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปริตา เขียน:
แต่ทั้งหมดทั้งปวงแล้ว อยากนิ่งกว่านี้ ไม่อยากติดค้างในใจ อยากเบาสบายโล่งๆ แต่ยังทำไม่ได้ค่ะ

ก็ต้องรู้จักให้อภัย ..

อภัยทาน ทานที่เป็นคุณแก่ผู้ให้มากว่าผู้รับ สร้างเมตตา ความรัก
กรุณา ความสงสาร ให้เกิดขึ้นในใจตนให้ได้

พิจารณาให้เห็นว่า ใครทำอย่างไร ก็ต้องได้อย่างนั้น ตามกฎแห่งกรรม
ควรเมตตาสงสาร มากกว่าจะไปโกรธเคืองกัน อภัยทานนี่แหละ คือการฝึกจิตของตน
ให้มีคุณค่า มีราคาขึ้นมา .. :b4:

ผู้ใดรู้จักการให้อภัย ผู้นั้นจะเบา สบายโล่ง โปร่งใจเสมอแหละ

:b12:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 23:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณปริตาเขียน

อ้างคำพูด:
อยากทราบว่าทำอย่างไรให้ใจหลุดพ้น เลิกสนใจคำติฉินนินทาจากคนอื่นได้คะ
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโดนพูดถึงในทางที่ไม่ดี และไม่สามารถตัดใจให้ไม่สนใจได้ค่ะ



ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจนิสัยของผู้หญิงก่อนค่ะ ผู้หญิงบางคนจะไม่ชอบพูดเรื่องคนอื่น
แต่บางคนจะชอบพูดเรื่องคนอื่นมาก โดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็นคนที่เค้าไม่ชอบ
เค้าจะพูดตั้งแต่เรื่องไม้จิ้มฟันไปถึงเรือรบนั่นแหละค่ะ :b1:

แล้วคุณปริตาคุณจะเอาเวลาไปใส่ใจกับเค้าทำไมล่ะค่ะ ถ้าเค้านินทาลับหลังก็อย่าไปใส่ใจเลย
อย่าเอาคำพูดเหล่านั้นมาใส่สมองเอาแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่เราฟังแล้วสบายใจมาเก็บไว้ในความรู้สึก

การโดนนินทานี่ทุกคนต้องโดนค่ ะเราโดนจนเฉยๆ บางครั้งรู้สึกสงสาร
คนที่ว่าเรา เพราะเค้าไปเอาไฟนรกมาสุมไว้ที่ใจของเค้า(เป็นความรู้สึกสงสารจริงๆค่ะไม่ใช่ประชด)

เราเคยเห็นคนที่ชอบพูดถึงคนอื่นในทางที่เสียหาย พอถึงตอนที่เค้าจะเสียชีวิตนี่
เค้าทรมานมาก คือคำพูดของเค้ามันไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนเลย อยู่ในใจกับในสมองเค้านั่นแหละ
แล้วคนที่ทำให้เค้าไปไม่ดี ก็คือคนในกลุ่มที่ร่วมกันว่าผู้อื่นนั่นแหละค่ะ

เราเห็นแล้วน่ากลัวค่ะ กรรมมีจริงค่ะ อย่าไปโกรธหรืออย่าไปเกลียดอย่าไปสาปแช่งเค้าค่ะ
ทำใจให้นิ่งแล้วก็เฉย ความสบายใจก็มาอยู่กับคุณเองค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 00:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 00:03
โพสต์: 17

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในชีวิตความเป็นจริงของคนเรามีอารมณ์ที่ไม่ปรารถนามากระทบเป็นธรรมดา หนักบ้าง เบาบ้าง
แต่เราจะวางใจอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์กับคำพูดคนอื่น เท่าที่ปฏิบัติมาแล้วใช้ได้ผลดี
คือการกำหนดรู้อารมณ์ของเราขณะนั้นว่าระดับความไม่พอใจมีมากน้อยขนาดไหน แล้วกำหนดจนอารมณ์นั้นๆคลายลงและดับลงในที่สุด
หลักการปฏิบัติมีอย่างนี้...รบกับกิเลสตัวเอง อย่ารบกับกิเลสชาวบ้าน ไม่มีประโยชน์อะไร คนด่าไปนอนที่บ้านสบาย... คนถูกด่าโกรธไม่รู้จักเลิก... ใครเป็นคนทุกข์?
ขอให้ดูกายและดูใจของตนเอง กิเลสของเรา เราต้องขัดเกลาเอง ไม่มีใครมาช่วยได้
คนเราจะละกันได้ต้องฝึกไปอย่างนี้บ่อยๆ ท่องไว้มันเป็นอกุศลทั้งนั้น
:b6:

Dhammapanja


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 00:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


...


แก้ไขล่าสุดโดย แสงแห่งพระธรรม เมื่อ 22 ก.ค. 2013, 13:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 01:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ค. 2012, 23:30
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็หัดรู้จิดตนไว้ดีกว่า เวลาเขาว่าแล้วเกิดโกรธเนี่ย พอโกรธแล้วจิตเป็นยังไง อย่ามัวแต่รู้โกรธจนลืมรู้จิต โลกนี้ไม่มีอะไรเกิดแล้วไม่ดับหรอก แต่อาจจะยากไปหน่อยเอาว่าเบื้องต้นเจริญพรหมวิหาร 4 ให้มากไว้ล่ะกันหากยังต้องอยู่ในสังสารวัฏอยู่ พรหมวิหารจะช่วยให้เราอยู่อย่างมีความสุข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 04:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Dhamma panja เขียน:
ในชีวิตความเป็นจริงของคนเรามีอารมณ์ที่ไม่ปรารถนามากระทบเป็นธรรมดา หนักบ้าง เบาบ้าง
แต่เราจะวางใจอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์กับคำพูดคนอื่น เท่าที่ปฏิบัติมาแล้วใช้ได้ผลดี
คือการกำหนดรู้อารมณ์ของเราขณะนั้นว่าระดับความไม่พอใจมีมากน้อยขนาดไหน แล้วกำหนดจนอารมณ์นั้นๆคลายลงและดับลงในที่สุด
หลักการปฏิบัติมีอย่างนี้...รบกับกิเลสตัวเอง อย่ารบกับกิเลสชาวบ้าน ไม่มีประโยชน์อะไร คนด่าไปนอนที่บ้านสบาย... คนถูกด่าโกรธไม่รู้จักเลิก... ใครเป็นคนทุกข์?
ขอให้ดูกายและดูใจของตนเอง กิเลสของเรา เราต้องขัดเกลาเอง ไม่มีใครมาช่วยได้
คนเราจะละกันได้ต้องฝึกไปอย่างนี้บ่อยๆ ท่องไว้มันเป็นอกุศลทั้งนั้น
:b6:

Dhammapanja


อนุโมทนาครับ พิจารณาด้วยมรรค กำหนดรู้ด้วยขันธ์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 07:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ปริตา เขียน:
ตอนนี้นิ่งขึ้นแล้ว แต่ในความคิด ความรู้สึกยังคิดเวียนวนกับเรื่ิองนี้ตลอด บางครั้งอยากโต้ตอบแรงๆ
บางครั้งปลงว่าช่างเถิดต่างคนต่างอยู่ต่างไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน เวลาเจอหน้ากันก็คงต่างคนต่างสวมหน้ากากหลอกกันไปๆมาๆ

แต่ทั้งหมดทั้งปวงแล้ว อยากนิ่งกว่านี้ ไม่อยากติดค้างในใจ อยากเบาสบายโล่งๆ แต่ยังทำไม่ได้ค่ะ


เมตตา....เขาให้มากขึ้น....

พิจารณาอย่างไร?....ก็พิจารณาว่า..เราเองก็เกิดมาพร้อมกิเลสตัณหาและอวิชชาคือความไม่รู้...ทำทุกอย่างที่คิดว่าทำแล้วดีกับตัว...บางทีก็พลาดทำกรรมแบบไม่รู้ตัว..พาลตกนรกและต้องมารับเศษกรรมอยู่ในโลกนี้

เขาก็เช่นเดียวกันกับเรา...เขาก็ไม่รู้เช่นเดียวกับเรา...เขากำลังพลาดทำกรรมด้วยวาจา...และเขาเองจะต้องมารับกรรมอันนี้ของเขา...เหมือนที่เรากำลังรับกรรมเก่าของเราอยู่นี้

ไม่มีอะไรไม่เกิดจากเหตุ...คำสอนของพระพุทธองค์เป็นจริงอย่างนี้นี่เอง

เรากำลังหมดเศษหนี้เก่าแล้ว...แต่เขากำลังสร้างหนี้ใหม่....สงสารเขานะ

อภัยให้เขา...ก็เขาไม่รู้

นี้เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ

คุณปริตาจะพิจารณาธรรมบทไหนหรือข้อความใดก็ได้ที่ถนัด...พิจารณาแล้วทำให้สงสารเขาและให้อภัยเขาได้ง่ายก็พิจารณาอันนั้น.....ทำซ้ำ ๆ ...ไม่ต้องเบื่อนะครับ...มันอาจจะวางไปทีละน้อย ๆ...พอมันวางหมด....เราจะรู้เลย

หากเราไม่ให้อภัยเขา...เราไม่มีทางโปร่งโล่งสบายได้เลย...
ขอให้ทำสำเร็จ..นะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2012, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำค่ะ รู้สึกสบายใจและปล่อยวางได้มากขึ้น
ลองสังเกตตัวเองพบว่าคิดน้อยลง ไม่ใส่ใจและต่อยอดความคิดตัวเองเหมือนที่ผ่านมา
แม้จะยังให้ความเมตตาพวกเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดโกรธเขาเหมือนที่ผ่านมาแล้วค่ะ
แต่วันนี้พอทำได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะทำได้แค่ไหนเหมือนกันค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 00:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้รู้ใว้เลยว่า...หากยังรู้สึกว่า....ไม่รู้พรุ่งนี้จะยังทำได้รึไม่?

หรือไม่อยากเดินผ่าน...

นั้นแสดงว่า..ใจยังอภัยให้เขาไม่ได้จริง

จิต..มันต้องการเหตุผล...เราต้องมั่นให้เหตุผลกับจิตว่า..ทำไมเราถึงให้อภัยแก่เขา

บอกครั้งเดียว....มันอาจจะยังคิดไม่ได้...ก็ต้องย่ำมันไปเรื่อย ๆ

จิตเข้าใจแล้ว..มันจะโล่ง

โล่งเห็น ๆ ..เลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณท่านกบฯ มากเลยค่ะ
เหมือนมานั่งอยู่ในใจเลย ความคิดบอกให้อภัยเขา คิดน้อยลง
แต่ไม่อยากพบ ไม่อยากเจอ ไม่อยากยินดียินร้ายในเรื่องใดๆของเขา
ทั้งด้วยกลัวระงับคำพูดการกระทำที่ไม่ดีไม่ได้
คงต้องหมั่นฝึกฝนอีกนานนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 15:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ปริตา เขียน:
อยากทราบว่าทำอย่างไรให้ใจหลุดพ้น เลิกสนใจคำติฉินนินทาจากคนอื่นได้คะ
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโดนพูดถึงในทางที่ไม่ดี และไม่สามารถตัดใจให้ไม่สนใจได้ค่ะ

:b16:
............. .................
............. (2 ท่อนแรกจำไม่ได้ใครช่วยเติมหน่อยครับ)
แม้แต่องค์พระปฏิมา ยังราคิน
มนุษย์เดินดินฤาจะพ้น คนนินทา

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 17:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ปริตา เขียน:
อยากทราบว่าทำอย่างไรให้ใจหลุดพ้น เลิกสนใจคำติฉินนินทาจากคนอื่นได้คะ
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโดนพูดถึงในทางที่ไม่ดี และไม่สามารถตัดใจให้ไม่สนใจได้ค่ะ

:b16:
............. .................
............. (2 ท่อนแรกจำไม่ได้ใครช่วยเติมหน่อยครับ)
แม้แต่องค์พระปฏิมา ยังราคิน
มนุษย์เดินดินฤาจะพ้น คนนินทา

:b12:


อันนินทากาเรเหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แม้องค์พระปฏิมายังราคิน
คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา
....................................

อันนินทากาเรเหมือนเทส้วม
ถ้ารวบรวมรับไว้ย่อมได้เหม็น
หากไม่รับกลับหายคลายประเด็น
ย้อนไปเหม็นปากเน่าของเขาเอง
ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ขวัญใจโลก
คนยังโขกยังสับงับเหยงเหยง
ถ่มน้ำลายรดฟ้าด่าบรรเลง
ใครจะเก่งเกินลิ้นคนนินทา
..................................

นิสัยควายแล้วไม่วายจะบดเอื้อง
คนรื้อเรื่องอตีตังมาตั้งขาน
พิรี้พิไรไม่รู้จบงบประมาณ
ก็เปรียบปานดังควายน่าอายนา
.......................................

http://www.dhammajak.net/book/koda/koda11.php
.......................................
เวบธรรมจักรนี่ล่ะ ข้อมูล เขามีอยู่...หากเปิดดู มากมาย จักได้เห็น
ทั้งบทกลอน สาระ หลายประเด็น...เปิดให้เป็น ไม่เน้นอยู่ แต่เวบบอร์ด

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 21:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีคิดแบบเร้าคุณธรรม
คัมภีร์วิสุทธิมัคค์แสดงอุบายในการมนสิการเพื่อแก้ไขความโกรธไว้ดังเช่น
๑. ระลึกถึงพุทธโอวาทที่สอนให้ระงับความโกรธและเตือนตนเองว่าการมัวโกรธอยู่เป็น
การมาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นศาสดาของตน
๒.พึงนึกถึงความดีของเขา ถ้ามองไม่เห็นความดีของเขาเลย พึงตั้งจิตการุณย์ในการที่เขา
จะต้องประสบผลร้ายจากความชั่วของเขาเอง
๓. พึงสอนตัวเองว่า การมัวโกรธเขาอยู่มีแต่จะทำให้ตัวเองนั่นแหละเดือดร้อนเป็นทุกข์
๔. พึงพิจารณาตามหลักกรรมว่าแต่ละบุคคลมีกรรมเป็นของตน ทั้งเขาและเราต่างก็จะ
ได้รับผลแห่งกรรมนั้นๆ
๕. พึงระลึกถึงตัวอย่างของความเสียสละและขันติบารมีของพระพุทธเจ้า
๖. พึงพิจารณาความยาวนานแห่งสังสารวัฏ ซึ่งท่านกล่าวว่าหาได้ยากที่ใครๆ จะไม่เคยเป็น
บิดา มารดา บุตรธิดา พี่น้อง ญาติ เพื่อนพ้องที่เคยมีอุปการะกันมา
๗. พึงพิจารณาอานิสงส์แห่งเมตตา เช่นว่า หลับก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข ไม่ฝันร้าย เป็นที่รัก
ใคร่ของคนทั้งหลาย
๘. พึงพิจารณาจำแนกธาตุให้เห็นว่าทั้งเราและเขาต่างมีแต่ธาตุต่างๆ ขันธ์๕ อายตนะ ๑๒
มาประชุมกัน ไม่ได้เป็นบุคลตัวตนที่ยั่งยืน
๙. พึงแสดงออกภายนอกในทางปฏิบัติ ด้วยการให้สิ่งของแสดงไมตรีจิต พร้อมด้วยคำพูด
ที่เป็นปิยวาจา

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2012, 23:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 00:03
โพสต์: 17

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ปริตา"ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำค่ะ รู้สึกสบายใจและปล่อยวางได้มากขึ้น
ลองสังเกตตัวเองพบว่าคิดน้อยลง ไม่ใส่ใจและต่อยอดความคิดตัวเองเหมือนที่ผ่านมา
แม้จะยังให้ความเมตตาพวกเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดโกรธเขาเหมือนที่ผ่านมาแล้วค่ะ
แต่วันนี้พอทำได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะทำได้แค่ไหนเหมือนกันค่ะ



:b35: อย่าให้ความกังวลเหนี่ยวรั้งเธอ

อย่าหวาดหวั่นเมื่อพบเจอกับปัญหา

อย่าหวาดกลัวที่จะก้าวไปข้างหน้า

อย่าท้อแท้แม้อ่อนล้าสักเพียงใด

อย่าว้าวุ่นเหลียวหาคนช่วยเหลือ

ขอให้เชื่อว่าเธอก็ทำได้

ขอเพียงทำทุกสิ่งอย่างตั้งใจ

และทำให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ปริตา เขียน:
อยากทราบว่าทำอย่างไรให้ใจหลุดพ้น เลิกสนใจคำติฉินนินทาจากคนอื่นได้คะ
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโดนพูดถึงในทางที่ไม่ดี และไม่สามารถตัดใจให้ไม่สนใจได้ค่ะ

:b16:
............. .................
............. (2 ท่อนแรกจำไม่ได้ใครช่วยเติมหน่อยครับ)
แม้แต่องค์พระปฏิมา ยังราคิน
มนุษย์เดินดินฤาจะพ้น คนนินทา

:b12:


อู๊ยยยยย รู้ครึ่งๆกลางๆก็ยังกล้าเอามาลงแฮะ

ฮานะเจ้าฆ่ะ :b28:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร