วันเวลาปัจจุบัน 09 พ.ย. 2024, 01:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2019, 18:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1131

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พึ่ง​ กาย​ ใจ​ ใส่ดี​ รู้ทันจะคิดดับๆ​ ก็สุข​ สวย​ รวย​ ฉลาด​ พึ่งได้ทุกอย่าง​ จะไม่โง่​ บ้า​ ยึดถือพึ่งใครให้จน​ ทุกข์​ เดือดร้อน​ ใส่ร้ายพึ่งไม่ได้สักเรื่อง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2019, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่พึ่งสูงสุด
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไงครับ
พึ่งรึยัง
หรือยังไม่พึ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2019, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7506

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คนส่วนใหญ่ที่ไม่พึ่งตถาคต
คือไม่พึ่งการคิดตามคำสอน
เขาจะเชื่อสิ่งที่ตาเนื้อเห็นว่า
น่าเชื่อถือน่าเลื่อมใสยึดตัวคน
เครื่องนุ่งห่มที่เขาห่มคิดว่าห่มแล้วดีเลย
ลืมฟังคำตถาคตคือไม่เชื่อหูตัวเองเวลาฟังความจริงที่ถูกต้อง
เช่นฟังว่าบรรพชาอุปสมบทแล้วรับเงินไม่ได้ถวายกันอยู่อย่างนั้นแหละคิดและทำถูกตามไม่ได้เลย
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2019, 14:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1131

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าไม่ควรเชื่อใคร​ ถึงแม้ผู้นั้นจะเป็นคนที่น่าเชื่อก็ตาม​ ถึงแม้จะเป็นอาจารย์หรือส่วนใหญ่เขาเชื่อกัน​ แต่เธอควรรู้ทัน​ ใส่ใจสังเกตพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตนเองว่าสิ่งนี้คือใส่ดี​ ไม่ใช่ใส่ร้าย​ อย่างนี้แหละที่ควรเชื่อ​ เพราะเห็นได้ด้วยความรู้ทันของญาณและปัญญาอันเป็นของจริง​

พระพุทธเจ้าสอนให้พึ่งตนและพึ่งธรรม​ ตนก็คือกาย​ ธรรมก็คือใจ​ อย่าไปพึ่งใคร​ หรือสิ่งอื่น​ เพราะใครและสิ่งอื่นเค้าก็ยังพึ่งตนเองไม่ได้​ แล้วเราจะไปเสียเวลาโง่หวังพึ่งอะไร​ ใส่ดีก็ได้ดี​ ใส่ร้ายก็ได้ร้าย​ จะรู้ได้เฉพาะผู้ที่รู้ทันต้น​ กลาง​ สุด​ แห่งปัจจุบันอันเป็นสัจจะคือความเป็นจริงที่พิสูจน์กันได้

เกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ เป็นเรื่องธรรมดา​ เป็นธรรมชาติวงกลมแห่งความยึดถือ​ ทุกข์​ เดือดร้อน​ แต่ผู้รู้ทันจะคิดดับๆ​ ก็ออกจากวงกลมแห่งความยึดถือ​ ไม่ต้องทุกข์​ เดือดร้อน​ อะไรสักอย่าง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2019, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก
เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 05:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก

เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


นั่นคือคำพูดของคนสำนักเดียวกับคุณโรส จะออกแนวๆนั้น

พระพุทธเจ้าเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง ส่วนการเดินทางนั้นทุกคนต้องทำเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก
เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


คุณปฤษฎี คิดแล้วเขียนออกมาจากสิ่งในใจทั้งหมดนั้น อยู่ในระดับเบื้องต้น คือ ศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใส คิดแล้วก็เชื่อตันอยู่แค่นั้น ไม่คิดจะพัฒนาต่อไป เพราะอะไร ? เพราะตัวคิดว่าตน คนพัฒนาไม่ได้แล้ว ยังไงก็ยังงั้น เกิดมาเป็นยังไงก็ยังงั้น เหมือนคุณโรสคิดเด๊ะเลย

ถ้าถามว่า เสียหายไหม ไม่เสียหรอก อย่างน้อยๆตายแล้วก็ไปสุคติโลกสวรรค์ :b1: นี่ระดับศรัทธา


ดูความหมายศรัทธา

@ สัทธา ความเชื่อ, ความเชื่อถือ,
ในทางธรรม หมายถึง เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ, ความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผล, ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม, ความเลื่อมใสซาบซึ้งชื่นใจสนิทใจเชื่อมั่น มีใจโน้มน้อมมุ่งแล่นไปตามไปรับคุณความดีในบุคคล หรือสิ่งนั้นๆ, ความมั่นใจในความจริง ความดี สิ่งดีงาม และในการทำความดี ไม่ลู่ไหลตื่นตูมไปตามลักษณะอาการภายนอก
เขียนอย่างสันสกฤตเป็น ศรัทธา

@ ศรัทธา คือ ความเชื่อ ความซาบซึ้ง ไม่ใช่ความรู้

แต่อาจเป็นทางเชื่อมไปสู่ความรู้ได้ เพราะศรัทธามีลักษณะเป็นการยอมรับความรู้ของผู้อื่น ฝากความไว้วางใจในปัญญาของผู้อื่น ยอมพึ่ง และอาศัยความรู้ของผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นเป็นเครื่องชี้นำแก่ตน ถ้าผู้มีศรัทธารู้จักคิดรู้จักใช้ปัญญาของตนเป็นทุนประกอบไป ศรัทธานั้น ก็สามารถนำไปสู่ความเจริญปัญญา และการรู้ความจริงได้ เฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อผู้อื่นนั้นหรือแหล่งความรู้นั้นมีความรู้แท้จริง และมีกัลยาณมิตรช่วยชี้่แนะให้รู้จักใช้ปัญญา

แต่ถ้าเชื่ออย่างงมงายคือไม่รู้จักคิด ไม่ใช้ปัญญาของตนเลย และผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นไม่มีความรู้จริง ทั้งไม่มีกัลยาณมิตรที่จะช่วยชี้แนะ หรือมีปาปมิตร ผลอาจกลับตรงข้าม นำไปสู่ความหลงผิด ห่างไกลจากความรู้ยิ่งขึ้น


ตัวอย่างศรัทธา ที่ไม่ใช้ปัญญาใช้ความคิดพินิจพิจารณาของตนเองเลย ยิ่งกว่านี้ก็มี :b32:

รูปภาพ

อย่าคิดนะว่าคนถือพุทธในปัจจุบันจะเป็นไปไม่ได้ เป็นได้ ถ้าจับแง่มุมของพุทธธรรมผิด :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คคห.คุณโรสเรื่องกิเลส ... พ้นกิเลสไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธผู้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังมีกิเลส คุณโรสคิดยังงี้

อ้างคำพูด:
Rosarin
กุศลไม่เกิดปนกับอกุศล
1.เห็นแล้วชอบเป็นอกุศล=โมหะ+โลภะ=กิเลส
2.เห็นแล้วไม่ชอบก็อกุศล=โมหะ+โทสะ=กิเลส
ตัวอย่างข้อ 1 คือ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆชอบมอง
ตัวอย่างข้อ 2 คือ อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก
555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ

ชอบทุกอย่างที่ซื้อมาแต่งบ้านมองเพื่อติดใจ
อยากได้ใหม่อีกเหมือนกันได้เงินอยากได้อีก
พอไหมเงินน่ะถ้ารับแล้วใครบ้างไม่อยากได้เพิ่ม
ไม่เคยพอรู้จักพอใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าให้พอมั๊ย
สำหรับภิกษุในพระธรรมวินัยของตถาคตพอไหมคะสำหรับ
ผ้าจีวร3ผืนบาตร1ใบเดินบิณฑบาตมาฉันแค่อิ่มไม่ต้องยืนเฝ้าตลาด
ทำไมพระองค์ไม่เข้าไปอยู่ในปราสาท3ฤดูของพระองค์สมบัติพระราชาน๊า
https://youtu.be/7MKqIsCtxmU

viewtopic.php?f=1&t=58350&p=454144#p454144


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 13:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7506

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คคห.คุณโรสเรื่องกิเลส ... พ้นกิเลสไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธผู้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังมีกิเลส คุณโรสคิดยังงี้

อ้างคำพูด:
Rosarin
กุศลไม่เกิดปนกับอกุศล
1.เห็นแล้วชอบเป็นอกุศล=โมหะ+โลภะ=กิเลส
2.เห็นแล้วไม่ชอบก็อกุศล=โมหะ+โทสะ=กิเลส
ตัวอย่างข้อ 1 คือ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆชอบมอง
ตัวอย่างข้อ 2 คือ อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก
555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ

ชอบทุกอย่างที่ซื้อมาแต่งบ้านมองเพื่อติดใจ
อยากได้ใหม่อีกเหมือนกันได้เงินอยากได้อีก
พอไหมเงินน่ะถ้ารับแล้วใครบ้างไม่อยากได้เพิ่ม
ไม่เคยพอรู้จักพอใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าให้พอมั๊ย
สำหรับภิกษุในพระธรรมวินัยของตถาคตพอไหมคะสำหรับ
ผ้าจีวร3ผืนบาตร1ใบเดินบิณฑบาตมาฉันแค่อิ่มไม่ต้องยืนเฝ้าตลาด
ทำไมพระองค์ไม่เข้าไปอยู่ในปราสาท3ฤดูของพระองค์สมบัติพระราชาน๊า
https://youtu.be/7MKqIsCtxmU

viewtopic.php?f=1&t=58350&p=454144#p454144


นั่นๆๆๆเอาความคิดผิดๆของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่น555
โรสพูดแทนพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจหรือคะมาคิดถึงตัวตนคนทำไมคะ
ก็บอกว่าตัวตนคนไม่มีงัยคะ...มีแต่ความคิดของคุณเองมาแย้งกับความจริง
พระพุทธเจ้าสิ้นกิเลสแล้วและมาบอกกล่าวคำทุกคำให้ทุกคนคิดถูกตามได้อยู่
แล้วการที่คุณมาเดาสิ่งที่อ่านแล้วตีความเข้าข้างสิ่งที่ตัวตนตัวเองคิดมันก็คิดผิดงัยคะ
ต้องอ่านทีละคำช้าๆไม่แต่งต่อเติมความคิดตัวเองเข้าไปแต่ให้คิดตามตรงคำที่กำลังอ่านให้ตรง
เข้าใจความหมายของคำแต่ละคำตรงๆจนกว่าจะแปลได้ตรงทีละคำ...เพียรอ่านให้เข้าใจทุกคำนะคะ
ภาษาไทยยังตีความไม่แตกแล้วจะรู้อะไร...เห็นสาวสวยเดินมาชอบมองกลิ่นขยะลอยมาเหม็นไหมคะ555
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คคห.คุณโรสเรื่องกิเลส ... พ้นกิเลสไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธผู้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังมีกิเลส คุณโรสคิดยังงี้

อ้างคำพูด:
Rosarin
กุศลไม่เกิดปนกับอกุศล
1.เห็นแล้วชอบเป็นอกุศล=โมหะ+โลภะ=กิเลส
2.เห็นแล้วไม่ชอบก็อกุศล=โมหะ+โทสะ=กิเลส
ตัวอย่างข้อ 1 คือ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆชอบมอง
ตัวอย่างข้อ 2 คือ อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก
555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ

ชอบทุกอย่างที่ซื้อมาแต่งบ้านมองเพื่อติดใจ
อยากได้ใหม่อีกเหมือนกันได้เงินอยากได้อีก
พอไหมเงินน่ะถ้ารับแล้วใครบ้างไม่อยากได้เพิ่ม
ไม่เคยพอรู้จักพอใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าให้พอมั๊ย
สำหรับภิกษุในพระธรรมวินัยของตถาคตพอไหมคะสำหรับ
ผ้าจีวร3ผืนบาตร1ใบเดินบิณฑบาตมาฉันแค่อิ่มไม่ต้องยืนเฝ้าตลาด
ทำไมพระองค์ไม่เข้าไปอยู่ในปราสาท3ฤดูของพระองค์สมบัติพระราชาน๊า
https://youtu.be/7MKqIsCtxmU

viewtopic.php?f=1&t=58350&p=454144#p454144


นั่นๆๆๆเอาความคิดผิดๆของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่น555
โรสพูดแทนพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจหรือคะมาคิดถึงตัวตนคนทำไมคะ
ก็บอกว่าตัวตนคนไม่มีงัยคะ...มีแต่ความคิดของคุณเองมาแย้งกับความจริง
พระพุทธเจ้าสิ้นกิเลสแล้วและมาบอกกล่าวคำทุกคำให้ทุกคนคิดถูกตามได้อยู่
แล้วการที่คุณมาเดาสิ่งที่อ่านแล้วตีความเข้าข้างสิ่งที่ตัวตนตัวเองคิดมันก็คิดผิดงัยคะ
ต้องอ่านทีละคำช้าๆไม่แต่งต่อเติมความคิดตัวเองเข้าไปแต่ให้คิดตามตรงคำที่กำลังอ่านให้ตรง
เข้าใจความหมายของคำแต่ละคำตรงๆจนกว่าจะแปลได้ตรงทีละคำ...เพียรอ่านให้เข้าใจทุกคำนะคะ
ภาษาไทยยังตีความไม่แตกแล้วจะรู้อะไร...เห็นสาวสวยเดินมาชอบมอง กลิ่นขยะลอยมาเหม็นไหมคะ555
:b12:
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก 555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ


พระพุทธเจ้า พระสารีบุตร พระอรหันต์ ผ่านกองขยะเหม็นไหม ตอบก่อน ท่านก็มีจมูกนะ

ตอบนะอย่างเลี่ยงไปอื่น คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2019, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก

เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


นั่นคือคำพูดของคนสำนักเดียวกับคุณโรส จะออกแนวๆนั้น

พระพุทธเจ้าเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง ส่วนการเดินทางนั้นทุกคนต้องทำเอง



คุณโรสกับคุณปฤษฎี คิดแนวเดียวกัน คือ คิดตรงเด่ตรงๆโด่ๆ อ่านมายังไงก็คิดเด่ไปยังงั้น คือ พัฒนาจิตใจไม่ได้ เกิดมาแล้วเป็นยังไงก็ยังงั้น

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คือว่า คุณโรสคุณปฤษฎีอ่านหนังสือธรรมะมา ในหนังสือเขาบอกว่า ขณะจับสิ่งของให้จับสองมือ
วันหนึ่ง คุณโรสนั่งข้างเสาเรือน แก้วน้ำตั้งอยู่อีกข้างของเสา (เสาอยู่ตรงกลาง) คุณโรสยืนมือทั้งสองโอบต้นเสาจับแก้วน้ำ จะปล่อยก็ไม่ได้ เพราะจะเป็นการจับมือเดียวผิดหลักธรรมะที่อ่านมา ทำไงดีติดเสาเรือน ก็ตะโกนบอกน้องว่า นี่เธอ เอาขวานมาตัดต้นเสาที เพื่อที่พี่จะได้หยิบแก้วน้ำสองมือได้ หนึ่งตัวอย่าง

ส่วนคุณปฤษฎี ก็ตัวอย่างนี้ คือ แม่ยายให้หยิบเฆี่ยนหมากให้ คิกๆๆ จะหยิบมือเดียวก็ผิดธัมม์ ก็โอบเสาไปจับเฆี่ยนหมากให้แม่ยาย :b32: ติดเสาขอรับ แม่ยายก็บอกไอ่ทิดปฤษฎีเอ้ย เอ็งก็จับมือเดียวสิว่ะ ไม่ได้แม่ ผิดหลักธัมม์ที่ฉันอ่าน หลักมีว่าจะหยิบจับสิ่งของต้องจับด้วยมือทั้งสอง
แม่ยายรำคาญลูกเขย :b13: ลุกขึ้นมาหยิบเฆี่ยนหมากเอง แล้วบอกว่า มันก็แค่นี้แหละลูกเอ้ย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2019, 01:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7506

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คคห.คุณโรสเรื่องกิเลส ... พ้นกิเลสไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธผู้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังมีกิเลส คุณโรสคิดยังงี้

อ้างคำพูด:
Rosarin
กุศลไม่เกิดปนกับอกุศล
1.เห็นแล้วชอบเป็นอกุศล=โมหะ+โลภะ=กิเลส
2.เห็นแล้วไม่ชอบก็อกุศล=โมหะ+โทสะ=กิเลส
ตัวอย่างข้อ 1 คือ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆชอบมอง
ตัวอย่างข้อ 2 คือ อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก
555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ

ชอบทุกอย่างที่ซื้อมาแต่งบ้านมองเพื่อติดใจ
อยากได้ใหม่อีกเหมือนกันได้เงินอยากได้อีก
พอไหมเงินน่ะถ้ารับแล้วใครบ้างไม่อยากได้เพิ่ม
ไม่เคยพอรู้จักพอใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าให้พอมั๊ย
สำหรับภิกษุในพระธรรมวินัยของตถาคตพอไหมคะสำหรับ
ผ้าจีวร3ผืนบาตร1ใบเดินบิณฑบาตมาฉันแค่อิ่มไม่ต้องยืนเฝ้าตลาด
ทำไมพระองค์ไม่เข้าไปอยู่ในปราสาท3ฤดูของพระองค์สมบัติพระราชาน๊า
https://youtu.be/7MKqIsCtxmU

viewtopic.php?f=1&t=58350&p=454144#p454144


นั่นๆๆๆเอาความคิดผิดๆของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่น555
โรสพูดแทนพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจหรือคะมาคิดถึงตัวตนคนทำไมคะ
ก็บอกว่าตัวตนคนไม่มีงัยคะ...มีแต่ความคิดของคุณเองมาแย้งกับความจริง
พระพุทธเจ้าสิ้นกิเลสแล้วและมาบอกกล่าวคำทุกคำให้ทุกคนคิดถูกตามได้อยู่
แล้วการที่คุณมาเดาสิ่งที่อ่านแล้วตีความเข้าข้างสิ่งที่ตัวตนตัวเองคิดมันก็คิดผิดงัยคะ
ต้องอ่านทีละคำช้าๆไม่แต่งต่อเติมความคิดตัวเองเข้าไปแต่ให้คิดตามตรงคำที่กำลังอ่านให้ตรง
เข้าใจความหมายของคำแต่ละคำตรงๆจนกว่าจะแปลได้ตรงทีละคำ...เพียรอ่านให้เข้าใจทุกคำนะคะ
ภาษาไทยยังตีความไม่แตกแล้วจะรู้อะไร...เห็นสาวสวยเดินมาชอบมอง กลิ่นขยะลอยมาเหม็นไหมคะ555
:b12:
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก 555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ


พระพุทธเจ้า พระสารีบุตร พระอรหันต์ ผ่านกองขยะเหม็นไหม ตอบก่อน ท่านก็มีจมูกนะ

ตอบนะอย่างเลี่ยงไปอื่น คิกๆๆ

:b32:
บอกให้ดูพฤติกรรมตนเองมีชอบใจไม่ชอบใจไหม
คิดให้ตรงสิแค่คิดถูกตัวตนยังทำไม่ได้แล้วจะรู้อะไร
ไปยกผู้สิ้นกิเลสมาทำไมท่านเหลือแต่รับวิบากกับกิริยา
บอกว่าคำสอนคิดถูกตรงตามได้ถูกตรงที่กายใจตัวเองมีเท่านั้นคิดเป็นมั๊ย
ก็ถามใจตัวเองดูสิว่าเอาตัวตนไปไหนไปทำอะไรยังมีชอบไม่ชอบไหมนั่นแหละมีกิเลสอยู่
การรู้ความจริงที่กำลังปรากฏตรงตามคำสอนจะอยู่ในส้วมจะอยู่ในครัวก็รู้ตรงที่กายมีไม่ใช่สถานที่555
https://youtu.be/v_x9Z8bes1U
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2019, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คคห.คุณโรสเรื่องกิเลส ... พ้นกิเลสไปไม่ได้ แม้แต่พระพุทธผู้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังมีกิเลส คุณโรสคิดยังงี้

อ้างคำพูด:
Rosarin
กุศลไม่เกิดปนกับอกุศล
1.เห็นแล้วชอบเป็นอกุศล=โมหะ+โลภะ=กิเลส
2.เห็นแล้วไม่ชอบก็อกุศล=โมหะ+โทสะ=กิเลส
ตัวอย่างข้อ 1 คือ เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆชอบมอง
ตัวอย่างข้อ 2 คือ อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก
555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ

ชอบทุกอย่างที่ซื้อมาแต่งบ้านมองเพื่อติดใจ
อยากได้ใหม่อีกเหมือนกันได้เงินอยากได้อีก
พอไหมเงินน่ะถ้ารับแล้วใครบ้างไม่อยากได้เพิ่ม
ไม่เคยพอรู้จักพอใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าให้พอมั๊ย
สำหรับภิกษุในพระธรรมวินัยของตถาคตพอไหมคะสำหรับ
ผ้าจีวร3ผืนบาตร1ใบเดินบิณฑบาตมาฉันแค่อิ่มไม่ต้องยืนเฝ้าตลาด
ทำไมพระองค์ไม่เข้าไปอยู่ในปราสาท3ฤดูของพระองค์สมบัติพระราชาน๊า
https://youtu.be/7MKqIsCtxmU

viewtopic.php?f=1&t=58350&p=454144#p454144


นั่นๆๆๆเอาความคิดผิดๆของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่น555
โรสพูดแทนพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจหรือคะมาคิดถึงตัวตนคนทำไมคะ
ก็บอกว่าตัวตนคนไม่มีงัยคะ...มีแต่ความคิดของคุณเองมาแย้งกับความจริง
พระพุทธเจ้าสิ้นกิเลสแล้วและมาบอกกล่าวคำทุกคำให้ทุกคนคิดถูกตามได้อยู่
แล้วการที่คุณมาเดาสิ่งที่อ่านแล้วตีความเข้าข้างสิ่งที่ตัวตนตัวเองคิดมันก็คิดผิดงัยคะ
ต้องอ่านทีละคำช้าๆไม่แต่งต่อเติมความคิดตัวเองเข้าไปแต่ให้คิดตามตรงคำที่กำลังอ่านให้ตรง
เข้าใจความหมายของคำแต่ละคำตรงๆจนกว่าจะแปลได้ตรงทีละคำ...เพียรอ่านให้เข้าใจทุกคำนะคะ
ภาษาไทยยังตีความไม่แตกแล้วจะรู้อะไร...เห็นสาวสวยเดินมาชอบมอง กลิ่นขยะลอยมาเหม็นไหมคะ555
:b12:
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
อยู่ดีๆกลิ่นขยะลอยมาเข้าจมูก 555 เป็นกิเลสเกิดตลอด...พ้นกิเลสไปไม่ได้ค่ะ


พระพุทธเจ้า พระสารีบุตร พระอรหันต์ ผ่านกองขยะเหม็นไหม ตอบก่อน ท่านก็มีจมูกนะ

ตอบนะอย่างเลี่ยงไปอื่น คิกๆๆ

:b32:
บอกให้ดูพฤติกรรมตนเองมีชอบใจไม่ชอบใจไหม
คิดให้ตรงสิแค่คิดถูกตัวตนยังทำไม่ได้แล้วจะรู้อะไร
ไปยกผู้สิ้นกิเลสมาทำไมท่านเหลือแต่รับวิบากกับกิริยา
บอกว่าคำสอนคิดถูกตรงตามได้ถูกตรงที่กายใจตัวเองมีเท่านั้นคิดเป็นมั๊ย
ก็ถามใจตัวเองดูสิว่าเอาตัวตนไปไหนไปทำอะไรยังมีชอบไม่ชอบไหมนั่นแหละมีกิเลสอยู่
การรู้ความจริงที่กำลังปรากฏตรงตามคำสอนจะอยู่ในส้วมจะอยู่ในครัวก็รู้ตรงที่กายมีไม่ใช่สถานที่555
https://youtu.be/v_x9Z8bes1U
:b32: :b32: :b32:



ถอดแบบแม่สุจินมาเด๊ะเลย คลิปที่ให้ดูนั่น คนฟังถามเรื่องอานาปานสติ คือ สอนให้ทำสมาธิ. แม่ก็บอกว่า พระพุทธเจ้าสอนอย่างเดียวหรอคะ :b1: (พูดเพราะ) ทำไมต้องเอาอานาปานสติอย่างเดียวคะคะ. คือ เขาไม่ฟังไม่ตอบคำถามใครเลย หันหน้าทางโน้นทีทางนี้ที พูดไปตามเรื่องของแก. คุณโรสนี่แหละถอดจากบ๊อกเดียวกัน ไม่ฟัง ไม่ตอบคำถามใคร ก้มหน้าก้มตา พูดแต่ขยะเหม็นๆๆ กิเลสเกิด ไม่มีใครพ้นกิเลสได้ :b35:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2019, 05:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก
เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


เงียบไปอีกแระ

พูดภาษามวย คุณปฤษฎี เขาเรียกว่ามวยซุ่ม ซุ่มอ่านซุ่มดู ถ้าไม่มีจังหวะ ก็ไม่ออกหมัด พอมีจังหวะคิดว่าเออนี่แหละใช่แล้วธัมมะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ (ตามความคิดของตน) นี่แหละใช่ล่ะ ก็โดดมาที พอโดนสวนกลับ ไปไม่เป็นอีก ก็ซุ่มอีก เป็นงี้ทุกที จริงไม่จริง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2019, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7506

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
พึ่งพระพุทธเจ้าได้ปัญญา ได้ความมั่นคง ได้ความอุ่นใจนะครับ

จะพึ่งตนเองที่เต็มไปด้วยอวิชชา เต็มไปด้วยกิเลสเต็มไปหมด พึ่งได้หรือครับ
จิตของคนมักไหลลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่พึ่งก็ตกต่ำลงไปอีก
เกิดมาพบพระธรรมคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ควรที่จะได้มีที่พึ่งที่เกาะไว้อย่างน้อยก็ไม่ไปอบายนะขอรับ
สะสมปัญญาต่อไปจนกระทั่งถึงพระนิพพานได้ก็เพราะพึ่งพระพุทธองค์นะขอรับ
ที่พึ่งอันประเสริฐคือพระรัตนตรัย
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ


เงียบไปอีกแระ

พูดภาษามวย คุณปฤษฎี เขาเรียกว่ามวยซุ่ม ซุ่มอ่านซุ่มดู ถ้าไม่มีจังหวะ ก็ไม่ออกหมัด พอมีจังหวะคิดว่าเออนี่แหละใช่แล้วธัมมะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ (ตามความคิดของตน) นี่แหละใช่ล่ะ ก็โดดมาที พอโดนสวนกลับ ไปไม่เป็นอีก ก็ซุ่มอีก เป็นงี้ทุกที จริงไม่จริง :b32:

:b32:
ขำคุณกรัชกายที่ไม่รู้ว่าคุณปฤษฎีไปไหน
คุณปฤษฎีพบคำจริงที่เป็นพระรัตนตรัยสูงสุด
จากการได้ยินได้สดับเสียงคำจริงของตถาคต
ทุกคนที่ได้สดับคำจริงของตถาคตแล้วย่อมไปเฝ้า
เพื่อเข้าไปนั่งณที่ควรส่วนข้างหนึ่งเพื่อเงี่ยโสตลงสดับ
เขาตั้งใจเงี่ยโสตปสาทะลงสดับเพื่อทรงจำพระธรรมค่ะ
จากปรโตโฆสะคือจากผู้ที่กล่าวคำตถาคตให้เข้าใจความจริง
https://youtu.be/9eA6vMbTy3c
:b12: :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 07 ธ.ค. 2019, 06:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร