วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 11:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2010, 12:03
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การขาย เทปเพลง ดีวีดี หนัง แผ่นแท้ๆ ที่เราซื้อมาโดยสุจริต จำนวนเย๊อะมากพอ และบ่อยแล้ว เราก็เบื่อแล้ว เอาไป วางขาย ถามท่านว่า บาปไหม ผิดไหม ผิดจริงรึ แล้วตำรวจจับทำไม (ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรงไหน) แผ่นแท้ที่เบื่อแล้ว นำไปขาย ทำไมจะขายไม่ได้
----------------------------------------------
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด แต่ ผิดใจ คนขายแผ่น
ผิด กฏหมาย ไม่ยอมไป จด ทะเบียนพานิช ก่อนขาย (แต่ปรับไม่เกินพันบาท)
-------------
ผู้ใด คิด อย่างอืน ตอบได้ครับ..........
Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 11:43 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2929


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเลวมาก เขียน:
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด


เวลาถูกจับ-ปรับ ได้ถามเหตุผลเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไหมคะว่าเราผิดตรงไหน ถึงได้มาจับ-ปรับ

หากเขาตอบมาว่าอย่างไร
เราก็ควรโต้แย้งเขา แล้วให้เหตุผลของเราไปว่า
เราไม่ได้ทำผิดอะไร แล้วก็ไม่ไ่ด้ทำบาปอะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5113

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


การซื้อขายแผ่นแท้นั้น เข้าใจว่า มีเจตนาให้ใช้เพื่อความบันเทิงในครอบครัว
เจตนารมณ์ในการขายก็ชัดเจนแล้ว เราซื้อแล้ว ดูเสร็จแล้ว บอกไปขายต่อ..นั่นมันเชิงพาณิชย์แล้ว
แต่หากจะขายต่อเพื่อนฝูงกัน ในลักษณะแลกเปลี่ยนกัน
แม้ว่า คนซื้อต่อจะต้องให้ค่าตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยน แต่ก็เป็นลักษณะส่วนตัว ไม่ใช่เชิงพาณิชย์

การนำไปขายต่อในเชิงพาณิชย์ ก็คงผิดเจตนารมณ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์
เพราะคนที่จะทำการค้า ทำธุรกิจ เขาก็มีกติกาในการซื้อ-ขายกันอีกแบบ
ซึ่งกติกานั้นอาจจะแตกต่างจากการขายเพื่อความบันเทิงในครัวเรือนก็ได้

สังคมก็มีกติกาปลีกย่อยลงไปอีก อันนี้ก็ต้องเคารพกฏหมายบ้านเมืองด้วย
การเคารพกฏกติกาของสังคม ก็คือ วินัย อย่างหนึ่งนะ เป็นธรรมเหมือนกัน

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเลวมาก เขียน:
การขาย เทปเพลง ดีวีดี หนัง แผ่นแท้ๆ ที่เราซื้อมาโดยสุจริต จำนวนเย๊อะมากพอ และบ่อยแล้ว เราก็เบื่อแล้ว เอาไป วางขาย ถามท่านว่า บาปไหม ผิดไหม ผิดจริงรึ แล้วตำรวจจับทำไม (ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรงไหน) แผ่นแท้ที่เบื่อแล้ว นำไปขาย ทำไมจะขายไม่ได้
----------------------------------------------
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด แต่ ผิดใจ คนขายแผ่น
ผิด กฏหมาย ไม่ยอมไป จด ทะเบียนพานิช ก่อนขาย (แต่ปรับไม่เกินพันบาท)
-------------
ผู้ใด คิด อย่างอืน ตอบได้ครับ..........
Kiss

เรื่องทางโลกมันก็เป็นเช่นนี้แหละค่ะ เมื่อมีคนได้ผลประโยชน์แล้วทำให้อีกฝ่ายเสียผลประโยชน์ เมื่อไม่มีความเมตตาต่อกัน สุดท้ายก็เอาเรื่องกฏหมายมาเป็นข้อตัดสินเพื่อลงโทษอีกฝ่าย :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยขายพลาสติกเก่าไหม
คนเลวที่น่ารัก
ถ้าอยากขายจริง ไม่ให้โดนจับ
เวลาประกาศขาย
ก็เขียน ประกาศ ว่า
แผ่นพลาสติกเก่า กิโลละ เท่าไร ว่าไป ชั่งกิโลขายเอา
กฏหมายไม่ห้าม ไม่ให้ขายพลาสติค recycle นิ :b12:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเลวมาก เขียน:
การขาย เทปเพลง ดีวีดี หนัง แผ่นแท้ๆ ที่เราซื้อมาโดยสุจริต จำนวนเย๊อะมากพอ และบ่อยแล้ว เราก็เบื่อแล้ว เอาไป วางขาย ถามท่านว่า บาปไหม ผิดไหม ผิดจริงรึ แล้วตำรวจจับทำไม (ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรงไหน) แผ่นแท้ที่เบื่อแล้ว นำไปขาย ทำไมจะขายไม่ได้
----------------------------------------------
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด แต่ ผิดใจ คนขายแผ่น
ผิด กฏหมาย ไม่ยอมไป จด ทะเบียนพานิช ก่อนขาย (แต่ปรับไม่เกินพันบาท)
-------------
ผู้ใด คิด อย่างอืน ตอบได้ครับ..........
Kiss


ผมเข้าใจว่า....การขายวัสดุเสียงหรือภาพ..ต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายอย่างถูกต้อง...แม้แต่การเปิดเสียงหรือภาพเพื่อการขาย..ยังต้องขออนุญาตตำรวจเลยคับ...คือ..ขออนุญาตใช้เสียง..

และวัสดุที่ขายต้องมีที่มา...ถ้าไปซื้อเขามาก็ต้องมีใบเสร็จการซื้อขาย...เพื่อป้องกันการขโมยมาขาย....พวกนี้ต้องมีหลักฐาน..ไม่งั้น...คนที่ขโมยมาเขาก็พูดได้ว่า..ของเขาเอง...เช่นกัน

ผมเดา ๆ เอานะครับ...คงจะทำนองนี้แหละ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องเคยขายดีวีดีหนังเพลง(ที่คลองถม) สมัยตอนเป็นนักเรียนมัธยม มาหาตังช่วงปิดเทอมมีคนแนะนำมาอ่ะค่ะ(เรื่องมันยาว) เค้าให้คุณน้องวันละ260 ซึ่งเป็นค่าแรงที่เยอะมากสำหรับคุณน้องตอนนั้น คุณน้องไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นเราทำงานที่ไม่สุจริต คุณน้องรู้แต่ว่าทำงานตามหน้าที่ คุณน้องเชียร์หนังเก่งมาก ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันคุณน้องรู้จักดาราฮอลลีวู้ดเกือบทุกคนขนาดเป็นเด็กบ้านนอกเข้ากรุงไม่ค่อยเข้าโรงหนังด้วยซ้ำ :b32: และคุณน้องก็รู้ว่าเจ้าของร้านต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ทุกๆเดือนถึงจะสามารถขายของได้ มิฉะนั้นก็วิ่งกันหูตูบเลยทีเดียว :b14: และมีอยู่ครั้งนึง ลิขสิทธิ์ของสหมงคลฟิมล์หรือยูนิเวอแซลนี่แหละจำไม่ได้ เค้ามาจับ โดยที่เจ้าของร้านก็ไม่รู้ ขายๆอยู่มีพี่คนนึงเค้าวิ่งออกร้านจังหวะที่เค้าวิ่งมาชนคุณน้อง(สัญชาตญาณคุนน้องก็รู้แหละว่างานเข้ากุ :b32: )คือคุณน้องก็วิ่งออกจากร้าน(แต่คุนน้องไม่ได้วิ่งออกทางออกคือกระโดดข้ามแผงลอย :b5: ขาคุณน้องก็ไปโดนกับพี่ผู้หญิงอีกคน(ลูกน้องในร้านแหละกำลังก้มหาหนังให้ลูกค้าพอดีแกกำลังจะหันมาด่าคุณน้อง แกเห็น..แกก็วิ่งตามอย่างรวดเร็ว :b32: )อ่อคุณน้องวิ่งเร็วมากตอนนั้นมือของใครมะรู้จะมากระชากคุณน้องแต่ไม่ทันเล็บเค้าข่วนโดนแขนคุณน้องเป็นรอยเลือดซิบๆเลย :b5: :b5: คิดจะมาวิ่งไล่จับนักกีฬาวิ่งเหรียญเงินอย่างเรา คิกๆ แต่มีพี่อีกคนนึงก็ดดนจับไปเป็นผู้ชาย เจ้าของร้านก็ไปเสียค่าปรับและไถ่ตัวออกมา เป็นประสบการณ์นึงที่น่าตื่นเต้นดี เกือบจะได้ไปเที่ยวฮ่องกงซะแล้ว :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนเลวมาก เขียน:
การขาย เทปเพลง ดีวีดี หนัง แผ่นแท้ๆ ที่เราซื้อมาโดยสุจริต จำนวนเย๊อะมากพอ และบ่อยแล้ว เราก็เบื่อแล้ว เอาไป วางขาย ถามท่านว่า บาปไหม ผิดไหม ผิดจริงรึ แล้วตำรวจจับทำไม (ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรงไหน) แผ่นแท้ที่เบื่อแล้ว นำไปขาย ทำไมจะขายไม่ได้
----------------------------------------------
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด แต่ ผิดใจ คนขายแผ่น
ผิด กฏหมาย ไม่ยอมไป จด ทะเบียนพานิช ก่อนขาย (แต่ปรับไม่เกินพันบาท)
-------------
ผู้ใด คิด อย่างอืน ตอบได้ครับ..........
Kiss


Hanako เขียน:
การซื้อขายแผ่นแท้นั้น เข้าใจว่า มีเจตนาให้ใช้เพื่อความบันเทิงในครอบครัว
เจตนารมณ์ในการขายก็ชัดเจนแล้ว เราซื้อแล้ว ดูเสร็จแล้ว บอกไปขายต่อ..นั่นมันเชิงพาณิชย์แล้ว
แต่หากจะขายต่อเพื่อนฝูงกัน ในลักษณะแลกเปลี่ยนกัน
แม้ว่า คนซื้อต่อจะต้องให้ค่าตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยน แต่ก็เป็นลักษณะส่วนตัว ไม่ใช่เชิงพาณิชย์

การนำไปขายต่อในเชิงพาณิชย์ ก็คงผิดเจตนารมณ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์
เพราะคนที่จะทำการค้า ทำธุรกิจ เขาก็มีกติกาในการซื้อ-ขายกันอีกแบบ
ซึ่งกติกานั้นอาจจะแตกต่างจากการขายเพื่อความบันเทิงในครัวเรือนก็ได้

สังคมก็มีกติกาปลีกย่อยลงไปอีก อันนี้ก็ต้องเคารพกฏหมายบ้านเมืองด้วย
การเคารพกฏกติกาของสังคม ก็คือ วินัย อย่างหนึ่งนะ เป็นธรรมเหมือนกัน

ตามนี้แหละครับ หากคุณอยากรู้ว่าผิดมั้ย คุณก็ลองไปเปิดดูคำเตือนนะครับ เวลาเปิดแผ่นมา
จะขึ้นคำเตือดก่อนเลยว่า

วีดีโอนี้มีไว้สำหรับดูเพื่อความบันเทิงในครอบครัวเท่านั้น ห้ามทำการ
ทำซ้ำเพื่อแจกจ่าย จำหน่าย หรือหาผลประโยชน์เชิงพานิชย์
ผู้ละเมิดมีความผิดตามกฎหมาย


นั่นหมายความว่าหากวีดีโอนั้นยังไม่หมดลิขสิทธิ์ คุณก็ไม่สามารถเอาไปทำซ้ำเพื่อแจกจ่าย
จำหน่าย หรือหาผลประโยชน์อื่นใดในเชิงพานิชย์ทั้งสิ้น ใช้ดูได้อย่างเดียวภายในครอบครัว
แต่ถ้าหากวีดีโอนั้นหมดความคุ้มครองลิขสิทธิ์แล้วคุณจะเอาไปทำอะไรก็ได้ เรื่องของคุณ
ไม่ผิดอะไร เพราะหมดลิขสิทธิ์แล้ว แต่หากยังไม่หมดลิขสิทธิ์แล้วคุณเอาไปวางขายโดยไม่
ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์โดยไม่มีใบอนุญาต คุณผิดเต็มประตู อาจโดนจับ ปรับ
ได้ทุกเวลา ถึงคุณจะบอกว่าคุณซื้อมาแบบถูกกฎหมาย ซื้อของถูกลิขสิทธิ์ แต่เจ้าของลิขสิทธ์
เขาก็บอกคุณในคำเตือนแล้วว่าห้ามหาประโยชน์เชิงพานิชย์ แม้กระทั้งทำซ้ำเพื่อแจกจ่าย
ให้ผู้อื่นฟรีๆ ก็ห้าม ทำไม่ได้ครับ ถูกจับแน่นอน ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ก็โชคดีของคุณละ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เคยขายพลาสติกเก่าไหม
คนเลวที่น่ารัก
ถ้าอยากขายจริง ไม่ให้โดนจับ
เวลาประกาศขาย
ก็เขียน ประกาศ ว่า
แผ่นพลาสติกเก่า กิโลละ เท่าไร ว่าไป ชั่งกิโลขายเอา
กฏหมายไม่ห้าม ไม่ให้ขายพลาสติค recycle นิ :b12:

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เช่นนั้น เขียน:
เคยขายพลาสติกเก่าไหม
คนเลวที่น่ารัก
ถ้าอยากขายจริง ไม่ให้โดนจับ
เวลาประกาศขาย
ก็เขียน ประกาศ ว่า
แผ่นพลาสติกเก่า กิโลละ เท่าไร ว่าไป ชั่งกิโลขายเอา
กฏหมายไม่ห้าม ไม่ให้ขายพลาสติค recycle นิ :b12:


ผมว่าพลาสติกนี่คนละเรื่องหรือเปล่าครับ
ท่านเคยทานอะไรที่ใส่ขวดพลาสติก พอทาน
เสร็จแล้วทิ้งขวดหรือเปล่าครับ แล้วขวดมัน
ก็กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ แล้วก็มี
คนมาเก็บไปขาย

ผมว่าเจ้าของขวดหรือโรงงานเขาคงยินดีที่จะรับซื้อกลับนะครับ
ยินดีที่จะให้เก็บมาขายคืนให้เขา เพราะผมยังไม่เคยเห็นเจ้าของ
ขวดพลาสติกหรือโรงงานพลาสติกรายใดจ้างพนักงานเก็บขวด
พลาสติกซักรายนะ เพราะคงใช้เงินจ้างเยอะ ไม่คุ้ม ดีซะอีกนะที่
มีคนเก็บไปคืนให้เขาเอาไปรีไซเคิ้ล

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเลวมาก เขียน:
การขาย เทปเพลง ดีวีดี หนัง แผ่นแท้ๆ ที่เราซื้อมาโดยสุจริต จำนวนเย๊อะมากพอ และบ่อยแล้ว เราก็เบื่อแล้ว เอาไป วางขาย ถามท่านว่า บาปไหม ผิดไหม ผิดจริงรึ แล้วตำรวจจับทำไม (ละเมิดลิขสิทธิ์ ตรงไหน) แผ่นแท้ที่เบื่อแล้ว นำไปขาย ทำไมจะขายไม่ได้
----------------------------------------------
ตอบเอง โดย ส่วนตัว คือ ไม่ บาป ไม่ผิด แต่ ผิดใจ คนขายแผ่น
ผิด กฏหมาย ไม่ยอมไป จด ทะเบียนพานิช ก่อนขาย (แต่ปรับไม่เกินพันบาท)
-------------
ผู้ใด คิด อย่างอืน ตอบได้ครับ..........
Kiss

คุณจขกทครับ การเอาแผ่นดีวีดี เทปเพลงเก่า มาขายเป็นเชิงพานิชน์
มันก็มีความผิดครับ แต่มันไม่ได้ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ เพราะมันเป็นแผ่นแท้
มันผิดตาม ....พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ครับ
การเอาแผ่นดี วีดี เทปเลงเก่ามาวางจำหน่ายหรือให้เช่า จะต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนก่อนครับ

มันมีโทษทางอาญานะครับ ต้องเสียค่าปรับเป็นหลักแสนขึ้นนะครับ
แต่ทำไมโดนปรับแค่พันเดียว สงสัยตำรวจมันปรับเองหรือเปล่า

แล้วที่ถามมาว่า บาปหรือเปล่า ขายของเก่าที่เป็นของเราไม่บาปครับ
แต่คุณบาปตรงที่คุณเสียค่าปรับแค่พันเดียว แบบนี้เขาเรียกว่า...ติดสินบนเจ้าพนักงาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 16:37 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2929


 ข้อมูลส่วนตัว


หากนำเอาแผ่นซีดีของแท้มีลิขสิทธิ์ ไป copy ตั้งแผงขายกัน
ผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
แต่ถ้านำแผ่นซีดี (ภาพยนตร์) เก่า-ของแท้มีลิขสิทธิ์ มือสอง
มาตั้งแผง แบกะดิน หรือตามทางเท้า ขายต่อ
ผิดตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ผิดกฎหมายต่างกัน แต่โทษหนักทั้งคู่คะ

-----------------------------------------------------------------

พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑

มาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง ห้ามผู้ใดประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือ จำหน่าย ภาพยนตร์โดยทำเป็นธุรกิจ หรือได้รับประโยชน์ตอบแทน เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

มาตรา ๔ “ภาพยนตร์” หมายความว่า วัสดุที่มีการบันทึกภาพ หรือภาพและเสียงซึ่งสามารถนำมาฉายให้เห็นเป็นภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่รวมถึงวีดิทัศน์

“วีดิทัศน์” หมายความว่า วัสดุที่มีการบันทึกภาพ หรือภาพและเสียงซึ่งสามารถนำมาฉายให้เห็นเป็นภาพที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง ในลักษณะที่เป็นเกมการเล่น คาราโอเกะที่มีภาพประกอบหรือลักษณะอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๗๙ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง มาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง หรือประกอบกิจการดังกล่าวในระหว่างถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่

มาตรา ๕๓ วรรคหนึ่ง ห้ามผู้ใดจัดตั้งหรือประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือได้รับประโยชน์ตอบแทน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

มาตรา ๘๒ ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา ๕๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง หรือประกอบกิจการดังกล่าวในระหว่างถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงห้าแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่

-----------------------------------------------------------------

เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราเป็นเจ้าของแผ่นซีดี (ภาพยนตร์) ที่ซื้อไว้สำหรับฟัง-ดูเท่านั้น
แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของผลงาน หรือเจ้าของลิขสิทธิ์ในแผ่นซีดี (ภาพยนตร์) นั้น

ดังนั้น การนำเอาแผ่นซีดี-ดีวีดีเก่า (ของแท้มีลิขสิทธิ์) มือสอง มาตั้งแผงขายต่อ
เช่น ในตลาดนัด อินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน
ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายข้างต้น อาจถูกโดนจับและถูกปรับ (ตั้งแต่ ๑ แสนบาท) ได้คะ


แต่ที่เราเห็นวางขายเกลื่อนแล้วไม่โดนจับ ก็อาจเป็นเพราะเจรจากับเจ้าถิ่นถูกต้องอ่ะนะ

เท่าที่ทราบมีหลายต่อหลายหน่วยงาน-ประชาชนท้วงติงว่า
กฎหมายฉบับใหม่นี้ มีปัญหาในการนำมาบังคับจริง
เพราะเจตนารมณ์หรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกฎหมาย
น่าจะเป็นการห้ามไม่ให้มีการทำธุรกิจขายแผ่นซีดีเพื่อป้องกันแผ่นผี
ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการขายแผ่นซีดีแท้มือสอง
ที่เราเป็นเจ้าของถูกต้องเพราะซื้อแผ่นแท้มาอย่างถูกลิขสิทธิ์


ดังนั้น ประชาชนพึงระมัดระวังในกรณีนี้ด้วย
เนื่องจากกฎหมายมีปัญหาในการนำมาบังคับจริง (ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมได้)

พรบ. นี้ออกมาเพื่ออุดช่องว่างของ พรบ. เก่าๆ
แต่กลับไปเพิ่มโอกาสให้กับเจ้าที่เจ้าถิ่นมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย


ตัวอย่างของคดี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนปรับคนเก็บขยะ 2 แสนบาท คดีขายซีดี
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... &subcatid=

โผล่อีกขายซีดี ติดคุกแทนปรับ
http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... RnMU13PT0=

ศาลอาญาพิพากษาให้รอลงอาญา นศ.สาวขายซีดีมือสอง
ไว้ 2 ปี ห้ามทำผิดซ้ำ หลังถูกจับวางขายหนัง 10 แผ่น

http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... d&subcatid

รองฯ 'พงศพัศ' ควัก 1 แสนช่วยสาวขายซีดีเก่า
http://www.thairath.co.th/content/newspaper/257783

-----------------------------------------------------------------

การบังคับใช้กฏหมายกับการขายแผ่นซีดีและดีวีดี
http://www.dailynews.co.th/crime/168794

คดีที่คนฐานะยากจนและพนักงานเก็บขยะ กทม. ถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหานำแผ่นซีดีภาพยนตร์เก่ามาขายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยกำลังมีปัญหา ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์หรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกฎหมายฉบับนั้น เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เกิดจากการผลักดันของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงของประเทศไทยที่เป็นทั้งผู้สร้างสรรค์งานและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ เพื่อจะมีเครื่องมือจัดการกับขบวนการหรือกลุ่มบุคคลที่นำเอางานภาพยนตร์ ทั้งในรูปแบบซีดีและดีวีดีไม่ว่าจะมีลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ ทำการจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและรับผลประโยชน์เป็นล่ำเป็นสันมาเป็นเวลานาน

แต่เมื่อกฎหมายฉบับนี้ถูกนำมาบังคับใช้จริง กลับกลายเป็นว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีคือผู้ที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ เก็บของเก่าขาย แทนที่จะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เจตนาจะทำผิดกฎหมายตามที่ตั้งใจไว้

จำเลยในคดีดังกล่าวไม่ได้ถูกดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ เพราะแผ่นซีดีภาพยนตร์ที่นำมาวางขายนั้น แม้จะเป็นแผ่นเก่าที่เก็บมาจากกองขยะ แต่ถือเป็น “แผ่นแท้” ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ การดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น ต้องมีผู้เสียหายไปร้องทุกข์ก่อน ตำรวจจึงจะเริ่มดำเนินการจับกุมและสอบสวนได้

แต่ในพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 53 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจร้านวีดิทัศน์ หรือได้รับประโยชน์ตอบแทน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งการนำแผ่นซีดีหรือดีวีดีภาพยนตร์ไม่ว่าจะมีลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่มาตั้งแผงขายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ถือเป็นการประกอบกิจการขายซีดีหรือดีวีดีโดยผิดกฎหมายแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นการทำความผิดก็สามารถเข้าควบคุมตัวได้ทันที และในมาตรา 82 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน บัญญัติว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 53 วรรคหนึ่ง หรือประกอบกิจการดังกล่าวระหว่างถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงห้าแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน

แม้โทษทางอาญาที่มีการบัญญัติไว้จะเป็นโทษปรับเพียงสถานเดียวแต่ถือเป็นอัตราโทษปรับที่สูง การนำบทกฎหมายนี้ไปบังคับใช้กับคนทำงานหาเช้ากินค่ำหรือผู้ที่มีรายได้น้อย แม้ผู้กระทำผิดจะรับสารภาพและศาลจะให้ความเมตตาลงโทษปรับในอัตราต่ำสุดที่ 100,000 บาท แต่ก็เป็นที่คาดหมายได้ว่าผู้กระทำผิดโดยส่วนใหญ่ ย่อมไม่มีเงินที่จะนำไปชำระค่าปรับอัตราต่ำสุดดังกล่าวได้ ผลที่ตามมาจากการไม่สามารถชำระค่าปรับตามคำพิพากษาได้ก็คือ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 ได้กำหนดให้เปลี่ยนโทษปรับดังกล่าวไปเป็นโทษกักขังแทน โดยคิดในอัตราวันละ 200 บาท ดังนั้นแม้จะถูกปรับในอัตราต่ำสุด แต่หากไม่มีเงินจ่ายค่าปรับก็ต้องถูกกักขังโดยผลของกฎหมายเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 500 วัน สุดท้ายก็ต้องเดินเข้าเรือนจำกลายเป็นนักโทษชายหรือหญิงอยู่ดี

การจะแก้ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในลักษณะนี้ได้คงต้องเริ่มจากทั้งตำรวจและอัยการ ซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ต้องทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมายว่า ควรจะนำกฎหมายฉบับนี้ไปบังคับใช้กับคนกลุ่มใด ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจไม่หลงทางอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ หรือเมื่อสำนวนการสอบสวนถูกส่งขึ้นมาที่พนักงานอัยการแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดก็ต้องพิจารณาว่าการสั่งฟ้องในคดีที่ผู้กระทำผิดตามกฎหมายฉบับนี้ ที่เป็นเพียงคนยากจนนำของเก่ามาขายเพื่อนำเงินไปเลี้ยงชีพในแต่ละวัน จะเป็นการฟ้องคดีที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ หากเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฟ้องไปแล้วจะไม่เกิดประโยชน์ สำนักงานอัยการสูงสุดก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องได้ ซึ่งถือเป็นการยุติปัญหาเสียแต่ต้นทางโดยไม่จำเป็นต้องผลักภาระไปให้ศาลยุติธรรม ที่ผ่านมาเคยมีการกระทำผิดในลักษณะที่คล้ายกันเกิดขึ้นมาแล้ว และสำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้ใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เพราะเห็นว่าการฟ้องคดีจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น คดีที่พนักงานร้านสะดวกซื้อขโมยเอาซาลาเปาที่ขายไม่หมดในแต่ละวันไปให้ลูกของตนเองกิน และคดีที่เกี่ยวกับกฎหมายศุลกากรบางคดี เป็นต้น

ในพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เองก็ควรจะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีเนื้อหาสาระที่เหมาะสมกับสภาพของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย เช่น กำหนดให้มีบทบัญญัติในลักษณะของการยกเว้นความผิดสำหรับการกระทำบางอย่าง เช่น การจำหน่ายตามแผงลอย แบกะดิน หรือตามทางเท้า โดยมีเงื่อนไขว่าการขายซีดีหรือดีวีดีภาพยนตร์ที่จะได้รับการยกเว้นความผิดต้องเป็นการขายเฉพาะแผ่นที่ถูกต้องตามกฎหมายลิขสิทธิ์เท่านั้น เพราะจากที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความไม่ชัดเจนของกฎหมายทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายในลักษณะเถรตรงจนกลายเป็นปัญหาในสังคมขึ้น นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้แม้จะบังคับใช้มาได้ระยะหนึ่ง แต่ประชาชนส่วนใหญ่อาจยังไม่เข้าใจกฎหมายนี้อย่างถูกต้อง กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะที่เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายนี้ก็ควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ให้ประชาชนได้เกิดความเข้าใจ หากทำได้ดังที่กล่าวมาก็อาจจะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นบรรเทาเบาบางลง ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงได้ และก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม.

รุจิระ บุนนาค
Rujira_bunnag@yahoo.com
Twitter :@RujiraBunnag


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 17:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่มาเลว ซื้อไปก็ซื้อของเลว ผิดศีล

ถ้าไม่ละเมิดสิทธิ ที่มาดี ซื้อไปก็ของดีั ไม่ผิดศีล

คิดเอาง่ายๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อย่าให้ศีล ถูกกำหนดโดยนายทุนมากเกินไปนะครับ

บางอย่างมันไม่ผิดศีล แต่ผิดกฏหมายครับ ก็แค่นั้น

คลิบวีดีโอนี่อาจจะยาวไปหน่อย แต่จะทราบบทบาทของนายทุน ที่ตั้งกฎกติกา
อะไรๆ ขึ้นมา จนคนทั่วๆ ไปอาจไม่มีที่จะยืน


.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2013, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้อ ลืมบอกไป
เพื่อนผม ทำอาชีพรับซื้อของเก่า อยู่พักนึง ไปคุ้ยกองขยะ
ได้แผ่นซีดี มาจำนวนหนึ่ง เอามาขาย ให้คนใกล้ๆ บ้าน ไม่กี่แผ่น
สุดท้าย มีคนมาล่อซื้อ
พอขายเท่านั้นแหละครับ โดนจับขังคุกเลย
เสียเงินไป เป็นแสนครับ กว่าจะหลุดพ้นเคราะห์มาได้

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร