วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 09:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 54 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2011, 09:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ธรรม หรือรู้ธรรมชาติ ก็คือรู้ว่าสรรพสิ่งนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวสุดท้ายก็แตกสลายหายไป ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ไม่คงทนถาร มีการเปลี่ยนแปลง
รู้อย่างไร รู้ว่าสิ่งนั้นเกิดดับ สิ่งนี้เกิดดับ มีเหตุให้เกิด สุดท้ายก็ต้องดับ จิตก็มีเกิดดับ รูปก็มีเกิดดับ
อายุก็มีการเกิดดับ ความคิดมีเกิดดับ ความจำมีเกิดดับ ความรู้สึกมีเกิดดับ การรับรู้มีเกิดดับ
โลกก็มีเกิดดับ เป็นต้น

ความไม่รู้ หรือ อวิชชา คือยังมีความเชื่อไปหลงความพอใจ ไม่พอใจกับสิ่งที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส
ได้สัมผัส และธรรมารมณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2011, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรู้เรื่องของจิตของใจ นี่แหละเรียกว่า รู้ธรรม

:b4: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 03:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
รู้ธรรม หรือรู้ธรรมชาติ ก็คือรู้ว่าสรรพสิ่งนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวสุดท้ายก็แตกสลายหายไป ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ไม่คงทนถาร มีการเปลี่ยนแปลง
รู้อย่างไร รู้ว่าสิ่งนั้นเกิดดับ สิ่งนี้เกิดดับ มีเหตุให้เกิด สุดท้ายก็ต้องดับ จิตก็มีเกิดดับ รูปก็มีเกิดดับ
อายุก็มีการเกิดดับ ความคิดมีเกิดดับ ความจำมีเกิดดับ ความรู้สึกมีเกิดดับ การรับรู้มีเกิดดับ
โลกก็มีเกิดดับ เป็นต้น

การรู้ธรรมหรือรู้ธรรมชาติ ไม่ใช่รู้ว่าสรรพสิ่งภายนอกไม่เที่ยง
แต่ต้องรู้ว่า กายใจของเราที่มีต่อสรรพสิ่งภายนอก ไม่เที่ยง
กายใจเราครับที่ไม่เที่ยงไม่ใช่สรรพสิ่งภายนอก


แล้วในพระธรรมมีกล่าวไว้หรือว่า โลกมีเกิดดับ
โลก เป็นเรื่องของอจินไตย ที่เรียกว่าโลกวิสัย
ท่านไม่ให้เอามาคิดเอามาเป็นตัวอย่าง
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ความไม่รู้ หรือ อวิชชา คือยังมีความเชื่อไปหลงความพอใจ ไม่พอใจกับสิ่งที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น
ได้รสได้สัมผัส และธรรมารมณ์

อวิชาก็เป็นธรรมหรือธรรมชาติ มันมีอยู่ในตัวมนุษย์ปุถุชนทุกคน
เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย เป็นไปตามกฎของธรรมชาติที่เกี่ยวกับ
ปฏิจจสมุบาทและอิทัปปัจยตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 09:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
รู้ธรรม หรือรู้ธรรมชาติ ก็คือรู้ว่าสรรพสิ่งนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวสุดท้ายก็แตกสลายหายไป ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ไม่คงทนถาร มีการเปลี่ยนแปลง
รู้อย่างไร รู้ว่าสิ่งนั้นเกิดดับ สิ่งนี้เกิดดับ มีเหตุให้เกิด สุดท้ายก็ต้องดับ จิตก็มีเกิดดับ รูปก็มีเกิดดับ
อายุก็มีการเกิดดับ ความคิดมีเกิดดับ ความจำมีเกิดดับ ความรู้สึกมีเกิดดับ การรับรู้มีเกิดดับ
โลกก็มีเกิดดับ เป็นต้น

การรู้ธรรมหรือรู้ธรรมชาติ ไม่ใช่รู้ว่าสรรพสิ่งภายนอกไม่เที่ยง
แต่ต้องรู้ว่า กายใจของเราที่มีต่อสรรพสิ่งภายนอก ไม่เที่ยง
กายใจเราครับที่ไม่เที่ยงไม่ใช่สรรพสิ่งภายนอก



สรรพสิ่งภายนอกก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่คิด
มันก็เกิดของมัน มันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สุดท้ายก็แตกสลายเป็นธรรมชาติ ไม่คงทนถาวร ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ ห้ามฟ้าไม่ให้ร้องไม่ได้ ห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ สุดท้ายมันก็หยุดเอง

ภายในตัวเราก็คือ กาย + จิต
1. กาย (ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ) กายไม่เที่ยงไม่คงทนถาวร สุดท้ายแก่ เจ็บ และตาย
2. จิต คือ ( เวทนา ,สัญญา, สังขาร, วิญญาณ) จิตไม่เที่ยงมีเกิด มีดับ มีเกิด มีดับ
ตาเห็นรูป 1 ครั้งจิตเกิดดับ 17 ครั้ง(วิสัยพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มองเห็น) นี่แหละคือความไม่เที่ยงตามกฎไตรลักษณ์


**เราต้องพิจารณาทั้งสิ่งภายนอกมากระทบ และตัวเราขันธ์ 5 ด้วย เพื่อจะดับเหตุแห่งทุกข์ธรรมชาติ
และทุกข์ที่เราสะสม**


แก้ไขล่าสุดโดย ไม่เที่ยง เกิดดับ เมื่อ 18 พ.ย. 2011, 09:47, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่ครับ อวิชชาก็ คือ ธรรมชาติเหมือนกัน แต่เราดับธรรมชาติ หรือ วงจรเกิดดับนี่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
สรรพสิ่งภายนอกก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่คิด

รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เขาไม่เรียกสรรพสิ่งภายนอก แต่เขาเรียกว่าอายตนะภายนอก
เราจะเรียกสิ่งเหล่านี้โดด ๆ แล้วบอกเป็นสรรพสิ่งภายนอกไม่ได้ จะเรียกสิ่งเหล่านี้
จะต้องเรียกคู่กันไปกับอายตนะภายใน เช่นจะเรียก รูปจะต้องมีตาด้วย
จะเรียกเสียงต้องมีหูด้วยฯลฯ

ถ้าจะเรียกสรรพสิ่งภายนอกที่แท้จริง เราต้องเอาสิ่งที่เป็นตัวทำให้เกิดรูป รส กลิ่น เสียง
สัมผัส เช่นคุณมองเพื่อนคุณอยู่ รูปเพื่อนคุณเป็นอายตนะภายนอก ตาของคุณเป็น
อายตนะภายใน ส่วนร่างกายเพื่อนคุณนั้นแหล่ะเป็นสรรพสิ่งภายนอก

ความไม่เที่ยง เขาพิจารณาหลังจากที่เกิดผัสสะแล้ว เห็นคุยเรื่องสัมมาทิฐิบ่อยๆ
แต่ดูแล้วคุณยังไม่เข้าใจเรื่องไตรลักษณ์เลยน่ะ คุณว่า สภาวะไตรลักษณ์เกิดที่ไหน
และเกิดที่ใครครับ
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
มันก็เกิดของมัน มันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สุดท้ายก็แตกสลายเป็นธรรมชาติ ไม่คงทนถาวร ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ ห้ามฟ้าไม่ให้ร้องไม่ได้ ห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ สุดท้ายมันก็หยุดเอง

ยกตัวอย่างมา มันคนละเรื่องเลยครับ เรื่องของธรรมชาติ ฝนตก ฟ้าร้องมันเกิดตามเหตุปัจจัย
ใช่ครับ ฝนตกย่อมต้องมีฟ้าร้องตามมาด้วย แล้วก็ใช่อีกครับที่เราไปห้ามมันไม่ได้
การที่เราไปห้ามมันไม่ได้ จึงเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า เป็นความเที่ยงครับ ไม่ใช่ไม่เที่ยง

สมมุติเราเห็นฝนตก แล้วเราไปห้ามไม่ให้เกิดฟ้าร้องได้ แบบนี้จึงเรียกปรากฎการนี้ว่า ไม่เทียง
มันก็เหมือนวงปฏิจจสมุบาท ที่ยังมีอวิชาอยู่ วงปฏิจจฯมันก็หมุนซ้ำแล้วซ้ำเหล่า
มันเป็นความเที่ยงของเหตุปัจจัย แต่ต่อเมื่อเรามีปัญญาเป็นวิชชา วงปฏิจจฯมันก็เกิดความไม่เที่ยง
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ภายในตัวเราก็คือ กาย + จิต
1. กาย (ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ) กายไม่เที่ยงไม่คงทนถาวร สุดท้ายแก่ เจ็บ และตาย

การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เขาไม่เรียกว่า เป็นความไม่เที่ยง เขาเรียกว่า เป็นความเที่ยงของ
วัฏสงสารครับ ส่วนความไม่เที่ยงที่แท้จริงคือ สังขารที่เกิดจากเราไปยึดเอา ธาตุสี่ที่ว่า
มาเป็นตัวเรา มาเป็นคุณ"ไม่เที่ยง" มาเป็น"โฮฮับ"ครับ
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
2. จิต คือ ( เวทนา ,สัญญา, สังขาร, วิญญาณ) จิตไม่เที่ยงมีเกิด มีดับ มีเกิด มีดับ
ตาเห็นรูป 1 ครั้งจิตเกิดดับ 17 ครั้ง(วิสัยพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มองเห็น) นี่แหละคือความไม่เที่ยงตามกฎไตรลักษณ์
**เราต้องพิจารณาทั้งสิ่งภายนอกมากระทบ และตัวเราขันธ์ 5 ด้วย เพื่อจะดับเหตุแห่งทุกข์ธรรมชาติ
และทุกข์ที่เราสะสม**

ก็จิตมันเกิดดับไงล่ะครับ มันไม่ใช่สรรพสิ่งภายนอกมันเกิดดับ
สรรพสิ่งภายนอก มันก็อยู่ของมัน ที่เกิดดับมันเป็นเรื่องของจิตเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 10:10
โพสต์: 104

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดทุกข์ เขียน:
รู้ธรรม รู้อย่างไร

รู้สภาพตามความเป็นจริงของธรรมชาติ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2011, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
รู้ธรรม หรือรู้ธรรมชาติ ก็คือรู้ว่าสรรพสิ่งนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวสุดท้ายก็แตกสลายหายไป ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ไม่คงทนถาร มีการเปลี่ยนแปลง
รู้อย่างไร รู้ว่าสิ่งนั้นเกิดดับ สิ่งนี้เกิดดับ มีเหตุให้เกิด สุดท้ายก็ต้องดับ จิตก็มีเกิดดับ รูปก็มีเกิดดับ
อายุก็มีการเกิดดับ ความคิดมีเกิดดับ ความจำมีเกิดดับ ความรู้สึกมีเกิดดับ การรับรู้มีเกิดดับ
โลกก็มีเกิดดับ เป็นต้น

ความไม่รู้ หรือ อวิชชา คือยังมีความเชื่อไปหลงความพอใจ ไม่พอใจกับสิ่งที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส
ได้สัมผัส และธรรมารมณ์


ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าพเจ้ากล่าวไว้ไม่มีผิด เขาชอบอยากโชว์ อยากอวด ด้วยความไม่รู้ด้วยความเขลา เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
เห็นเรื่องธรรมดา ของการแตกดับ เป็นปัจจัย ลองไปหาพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยอ่านดูเถิด เจ้าผู้ใช้ชื่อว่า "ไม่เที่ยง เกิดดับ"
จะสอนโปรด..เจ้าไว้ว่า
การรู้ธรรม ต้องรู้ให้ทั่ว ไอ้แค่รู้ว่า สรรพสิ่งไม่เที่ยง มีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป มันเรื่องธรรมดา นะเจ้าหนู๋


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 08:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




a_waen.jpg
a_waen.jpg [ 65.99 KiB | เปิดดู 6424 ครั้ง ]
:b12:
การ "รู้" ด้วยใจ ไม่มีคำพูดหรือบัญญัติใดๆบอกกล่าวได้ นั่นเรียกว่ารู้ธรรม

ตัวอย่างเช่น ความรู้ ร้อน หนาว ทุกข์ สุข เค็ม หวาน หนัก เบา แข็ง อ่อน
ลองพิสูจน์ดูนะครับ

ความรู้ว่าสรรพสิ่ง เกิดขึ้นให้ "รู้" แล้วก็ดับไป ครั้งแรกเป็นการรู้โดยสัญญา จากสุตตมยปัญญาคือเรียนรู้จากตำราหรือคำบอกเล่า

ต่อเมื่อได้พิสูจน์ด้วยตนเองด้วยการ นิ่งรู้ นิ่งสังเกต เข้าไปในกายและจิต ณ ปัจจุบันขณะ ปัจจุบันอารมณ์ จึงจะได้รู้จัก ความเกิดขึ้น......ตั้งอยู่......ดับไป ของอารมณ์ต่างๆ ประจักษ์แก่ใจตนเอง
ถึงตรงนี้เรียกว่าเกิด "ภาวนามยปัญญา"
และรู้ธรรม
:b17:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้อยตีวิด เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดทุกข์ เขียน:
รู้ธรรม รู้อย่างไร

รู้สภาพตามความเป็นจริงของธรรมชาติ tongue


ใช่ครับรู้สภาพตามความเป็นจริงของธรรมชาติ ถูกต้องแล้วครับ
แต่ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรมีวิธีเดียวเท่านั้นก็คือ วิปัสสนาพิจารณาขันธ์5 และอินทรีย์ 6
ตามกฎไตรลักษณ์ นี่คือกฎธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สรรพสิ่งในธรรมชาติไม่พ้นกฎนี้
นี่แหละครับคือรู้ที่แท้จริงรู้ว่าเราต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย รู้ว่าสิ่งที่มากระทบเรามีเกิด สุดท้ายก็ดับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


เมล็ดมะม่วง คือ เหตุ
น้ำ ปุ๋ย อากาศ ดิน คือ ปัจจัย
ผล คือ ต้นมะม่วง

เกิดขึ้นจากเหตุและปัจจัยจึงได้ต้นมะม่วงออกมาสุดท้ายต้นมะม่วงก็ต้องตายไป นี่แหละรู้ธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วสิ่งที่รู้ธรรมล่ะ รู้รึยัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
แล้วสิ่งที่รู้ธรรมล่ะ รู้รึยัง


" ยังไม่รู้หมด ยังไม่รู้ตลอดเวลา"

onion onion onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ว่า ธรรม ปรากฎต่อตนเช่นนั้น
แล้วรู้ ตน ปรากฎต่อธรรม ว่าอย่างไร
ธรรม คือ สิ่งนั้น
แล้ว รู้หรือยัง ว่าตนคือสิ่งไหน

การรู้บางอย่าง ด้วยการบำเพ็ญเพียรบางอย่าง
ส่งผลเป็นการแยกตนจากธรรมชาติ ย้ำตนให้ปรากฎเป็นอีกสิ่งต่างหาก ก็มี

การเจริญพรหมวิหาร ประการหนึ่ง
คือไม้เบื่อไม้เมา กับสภาวะธรรมดังกล่าว


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 19 พ.ย. 2011, 10:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2011, 10:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
รู้ว่า ธรรม ปรากฎต่อตนเช่นนั้น
แล้วรู้ ตน ปรากฎต่อธรรม ว่าอย่างไร
ธรรม คือ สิ่งนั้น
แล้ว รู้หรือยัง ว่าตนคือสิ่งไหน

การรู้บ้างอย่าง ด้วยการบำเพ็ญเพียรบางอย่าง
ส่งผลเป็นการแยกตนจากธรรมชาติ ย้ำตนให้ปรากฎเป็นอีกสิ่งต่างหาก ก็มี

การเจริญพรหมวิหาร ประการหนึ่ง
คือไม้เบื่อไม้เมา กับสภาวะธรรมดังกล่าว



เราคือธรรมชาติ ธรรมชาติคือเรา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 54 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร