วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 02:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 22:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามหัวข้อด้วยค่ะ หลังจากที่ศึกษาธรรมะกับความรักในบอร์ดนี้มาแล้ว

ทำให้ทำใจได้บ้างแต่ยังทำใจได้ไม่หมด

อยากขอวิธีที่ทำให้ทำใจได้และรายละเอียดของวิธีนั้นด้วยนะคะ

อยากรักเขาคนนั้นให้เป็นแบบพรหมวิหารสี่และกำลังทำอยู่ค่ะ

ขอความกรุณาค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 05:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ใจอย่างพรหม คลายปม ที่ยุ่งเหยิง
ใจกระเจิง เิริงร้าย เรื่องของเขา
ใจจะจด จะลืมจำ หนักเบา
ใจยึดเอา จำจักเห็น จึงวางเป็น

:b53:

จำทำใจ หาใช่ พรหมที่ไหน
ใจเข้าใจ ตามเป็นไป ร้อนเย็น
ตามแตุ่สุข ชังทุกข์ ล้วนไม่เว้น
ปล่อยให้เป็น ไปตาม เรื่องของใจ

:b48:
ยามรักมัก ตามใจ เลยต้องทุกข์
ยามไม่สุข รุกไล่ ขับอาศัย
ล้วนมายา หลอกลวง ทรวงใน
ปั้นสันใจ คิดนึก ว่าทุกข์จริง

:b41:

ดูแขนขา มองดู สิ่งรอบข้าง
เทียบความต่าง ก่อนมี ก่อนห่างทิ้ง
เคยอยู่ได้ หายใจเอง มีทุกสิ่ง
เป็นความจริง สองทาง ของหัวใจ

:b43:

หนึ่งคือมี เขานั้น เป็นอารมณ์
ใจคอยดม ชมชวน ล้วนวิสัย
สองคือลืม ตามรู้ อยู่ข้างใน
เห็นหัวใจ เผลอจับ เป็นอารมณ์

:b45:

รู้หนึ่งครั้ง ว่าเผลอ คิดถึงเขา
*เปิดใจเอา เฝ้าชิด พินิจลม(หายใจ)
จะชอบชัง รู้ทันคิด อยากสุขสม
ไร้ระทม ทรมาน สมานใจ

:b47:

เริ่มสงบ พินิจตาม ความจริง
ทุกข์เข้าสิง ยิ่งกว่าผี เป็นนิสัย
ของความอยาก รักตัวเอง เกินใคร
เศร้าหมองใจ จะรักใคร นอกจากตัว

:b46:

เปิดหัวใจ รับรู้ ถึงความสุข
ให้ความทุกข์ คลายไป ไม่เมามัว
สิ่งต่างต่าง ผ่านไป จะดีชั่ว
ล้วนสอนทั่ว ว่าให้หมด เพราะอภัย

:b41: :b43: :b39:





*เปิดใจเอา เฝ้าชิด พินิจลม(ลมหายใจ)
ถ้าพอเข้าใจความหมายบ้าง คงทราบแล้วนะครับว่าไม่ใช่การทำใจ
หรือจะ้ต้องทำใจ เพียงสังเกตุ ยอมรับและเข้าใจเรียกว่า เปิดใจให้ที่
วางของความเหงา หรือความทุกข์นั้นเข้ามาเป็นเพื่อนบ้างก็ได้

แค่รู้ว่าใจเผลอไปคิด โดยไม่ต้องพลักไส ถอนหายใจ เอาจิตมาจับ
ลมหายใจมารู้สึกถึงลมหายใจ เราให้อิสระ ยอมรับในการคิดการตัด
สินใจ จะดีหรือร้ายสำหรับเขาก็ล้วนเป็นไปตามวิบากกรรมของเขา

เราจะได้ไปรวมสุขรวมทุกข์ด้วยก็หามิได้ เมตตานั้นมีอยู่แล้วแต่หาก
ขาดปัญญานั่นก็เป็นชนวนของความทุกข์ สิ่งที่จำเป็นคือ การมีมุฑิตา
จิตพลอยยินดี ไม่แช่งส่ง ขอให้ไปดี ตาบอดไม่เืลือกฉันอะไรอย่างนี้
ก็ไม่ใช่พรหมวิหาร หากคุณโยม มีสมาธิมีสติ ต่อเนื่องพอ รู้สึกตัวได้
ว่าลืมลมหายใจบ่อยแค่ไหน

พอระลึกได้ถึงลมหายใจมากๆ เข้า บวกกับเปิดใจรับยอมรับตามความจริง
ให้อภัยได้จริง ใจไม่หลงไม่เผลอแต่ก็ไม่ได้บังคับ ก็เชื้อเชิญความทุกข์
ท้าทายความเหงา ความเศร้าเลยก็ว่าได้

ที่สุดก็จะคลายไปละไป เพราะอานิสงส์ของการมีสติระลึกอยู่ที่ลมหายใจ
รุ้ได้ว่าลืมบ่อยแค่ไหน ลืมได้มากเท่าไหร่ จิตที่วิตกตรึกนึกคิดถึงเขาเอง
หรือจิตที่วิตกตรึกไม่อยากนึกคิดถึงเขา ทั้งสองตัวนี้ก็จะถูก ความที่จิต
ไม่ซัดส่ายไปมา มีอารมณ์เดียว ในการรู้ลมหายใจ จะพาคุณโยมให้ได้
พบกับความปิติสุข สงบที่เยือกเย็น ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนแบบนี้ และพิจารณา
ว่าสาเหตุที่ทำให้ ต้องทำใจ มันคืออะไร ไขกลอนออก ก็จะเข้าใจ
พรหมวิหารธรรม ตามความจริงได้ เข้าถึง ความวางเฉยต่ออารมณ์ที่่
เกิดขึ้น ไม่ก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้ จิตใจอีกต่อไป สักแต่ว่ารู้ ขอเจริญพร


รูปภาพ


Credit image by:
http://glitter.kapook.com/

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 08:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณท่านพุทธฏีกาค่ะ

เมื่อคืนก็ฝันเห็นเขาค่ะและก็ฝันถึงสิ่งต่างๆที่เราเคยมีให้กัน

ตื่นมาเลยทุกข์ใจทำให้ร้องไห้ออกมาเลยค่ะ

มีวิธีใดที่จะทำให้จิตไม่ฟุ้งซ่านบ้างคะ

เมื่อคืนนี้ดิฉันก็สวดมนต์ แผ่เมตตา และสวดคาถาชินบัญชรเพื่อให้ใจสงบ

แต่ก่อนนอนดันไปคิดถึงเรื่องราวเก่าๆเข้า

เลยทำให้ให้จิตฟุ้งซ่านและฝันเห็นเขาค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ห้ามเจริญเมตตาไปในเพศตรงข้าม ถ้าอยากใช้พรหมวิหารให้ใช้ตัวอุเบกขา

แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือใช้ กายคตาสติ หรือ อสุภ เมื่อนึกถึงเขาขึ้นมาก็ให้พิจารณาว่าร่างกายนั้นไม่สะอาด มีแต่สิ่งสกปรก ไม่ยั่งยืนเดี๋ยวก็ต้องแก่แล้วก็ตายลงไปในที่สุด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตั้งสติใจเย็นๆ นะครับค่อยๆ อ่านพิจารณาทุกคำแนะำนำ
ดีๆ จิตไม่ผ่องใสก็จะยากสักนิดที่จะเห็นหรือมี พรหมวิหาร
ตอนนี้ก็ยังไม่มีสติ รู้สึกตัวเลย จมอยู่กับอารมณ์
ความรู้สึกนึกคิด ถอยออกมาหน่อย รู้สึกตัวหน่อย

ขยับเคลื่อนไหวสร้างจังหวะร่างกายให้เห็นให้รู้สึก
ตัว ไม่จมไม่แชร์อยู่กับ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด
ตอนนี้มันเป็นพิษเป็นภัยกับตัวเรา

ไปอุิทิศตน บำเพ็ญประโยชน์เอาเสื้อผ้าเอาข้าวของที่ไม่ใช้แล้ว
ไปบริจาคช่วยเหลือคนอื่นทำทาน
เปิดโอกาสให้จิตใจได้
เห็นความทุกข์ ความลำบากของคนอื่น
ปิดโอกาสไม่ให้ใจ
มันไหลไปจมอยู่กับ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด


ให้ถอนออกมา มีสติรู้เนื้อรู้ตัวสักหน่อยก็จะดีขึ้นได้ครับ
ที่มันมึนไปหมดนี่ อาจเพราะเอาแต่ใจไปสักนิด คุณโยม
เอาแต่ใจ นี่ก็พยายามจะอยาก หรือบังคับให้ ไม่ไปคิด
ไปนึก หรืออยากจะหยุดฟุ้งซ่าน หยุดเสียใจ


ไปเก็บกดอารมณ์เอาไว้ พอมันเก็บไว้ไม่ได้มันก็ทะลัก
ฟูมฟายเท่านั้นเอง จะหาพรหมวิหารที่ไหนกันละทีนี้
อีกอย่างจะรักแบบพรหมวิหาร ก็ไม่จำเป็นต้องลืมใคร
ทิ้งหรอกนะครับ แค่เข้าใจจิตใจตัวเราเองให้ดี และเ้ข้า
ใจจิตใจผู้อื่นเสมอด้วยใจเราเองก็เท่านั้นเอง ^^


สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ บ่อยๆ เวลาเผลอเปลี่ยนสภาพ
แวดล้อม ออกไปให้ใจมันไปกระทบไปรับรู้เรื่องราวอื่นๆ บ้าง
เวทหรือเฉลี่ยน้ำหนักกันระหว่างความคิดกับอารมณ์
คือถ้าอยู่คนเดียวถึงเวลา อยู่ตัวคนเดียวเงียบๆ เวลา
หลับเวลาพัก แน่นอนมันก็ต้องมีคิด หลังไหว้พระสวดมนต์
แล้วก็เดินจงกรม เอาสติมาจับที่อริยาบถที่กำลังเดิน
ขณะปัจจุบันรู้ว่ากำลังนั่ง ก็รู้ชัดว่ากำลังนั่ง อยู่บ้านทำ
กิจกรรมอื่นๆ ยืน เดิน นั่ง นอน เอาสติตามไปรู้ไว้ หันซ้าย
หันขวา เหยียดคู้ ทำอะไรก็ให้มีสติตามไปรู้ลักษณะของ
อวัยวะร่างกายมันเคลื่อนไหว อีกไม่ถึงร้อยปี ก็มีแต่เสื่อม
แต่ง่อมลงไป ใครไม่รัก ร่างกายนี้ก็ช่างปะไร ก็ต้องหัน
มาเอาใจใส่ ดูแลตัวเองสิ เอาไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์
ก็กลายเป็นประโยชน์

หรือนั่งสมาธิ ก็เอาสติมาจับลมหายใจ เพื่อละความฟุ้งซ่าน
ความทุกข์โทมนัสในจิตใจ อย่าบังคับอย่าเก็บกดกักเอาไว้
อีกอย่าง พอฝนและพายุพัดไปไม่นาน ก็ต้องอาศัยเวลาบ้าง
ที่จะให้ทุกอย่างคืนสู่สภาวะปกติ

นี้ก็เหมือนกัน ใจร้อนไปก็ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น ตั้งสติ
พอรู้เนื้อรู้ตัว บ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็โอเคแล้ว
รู้ตัวว่าลืมลมหายใจ
ลืมเอาสติไว้ที่ลมหายใจ ลืมไว้ที่่ร่างกาย ลืมไว้ที่อริยาบถ
สำรวจ การทำแบบนี้เหตุผลที่จะได้รับก็คือ การถอนอารมณ์
ความคิด จากเรื่องราวที่เราจม หลงเข้าไป รู้สึกนึกคิด
เช่นขณะนี้รู้สึกตัว ว่าตามอ่านมาหลายบรรทัดแล้ว ลืมลมก็ลืม
ลืมรู้ว่าันั่ง ฯลฯ นี้เป็นลัษณะที่จิตใจมาจดจ่อ จมก็จริงแ่ต่ไม่หลง
ไปกับ(อารมณ์เศร้า) มีสติอยู่กับข้อความแนะนำของกัลยาณมิตร

พออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดมันถอนออกมา ไม่จมด้วยหลงด้วย
เหมือนอารมณ์ฟุ้งอารมณ์เหงาเศร้า ก็จะเริ่มมีสติ มีสมาธิขึ้นมา
และไม่จำเป็นต้องห้ามต้องบังคับ รู้ตามจริงว่า ทุกข์ รู้ตามจริง
ว่ายังเสียใจ รู้ตามจริงว่ายังคิดถึง รู้ตามจริงว่ากำลังร้องไห้
แบ่งลักษณะการระลึกรู้เป็นสองอย่าง ๑ รู้ที่กาย เหตุผลที่จะ
ไ้ด้รับบอกไปแล้ว ๒ รู้ที่ใจ ก็คือข้างต้นนี้ คือรู้ตามจริงไปว่า
อารมณ์ความรุ้สึกนึกคิดเป็นอย่างไร แต่ดูหรือรู้ห่างๆ เห็นอารมณ์เป็น
เป็นสิ่งที่ถูกรู้ขึ้นมา พอคุณโยม เวทเฉลี่ยนกลับมาอยู่ที่การรุ้สึกตัว
รู้ที่กาย อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ที่เป็นพิษเป็นภัย ก็จะดับ
ไปชั่วขณะ เมื่อมันดับได้ เสื่อมได้ มันก็จะค่อยๆ คลายลงไปๆ เอง ^^

ไม่จมไม่หลงลงไป เหมือนกับสักครู่นี้ที่อ่านคำแนะนำของ
ท่านอื่นๆ ถึงจมแต่ก็ไม่หลง(ในเรื่องเดิม) ครับแบ่งการรู้สึกตัว
ระลึกรู้ เป็นสองอย่าง รู้กาย รู้ใจ ช่วงเริ่มต้นนี้ แบ่งการรู้กายสัก
๗๐ %
แล้วปล่อยหรือ ที่บอกว่าเปิดใจไม่ห้ามที่จิตมันเผลอ
ไปคิดถึง ไปจม ไปเศร้า ก็ไม่เป็นไร ฝนพึ่งสา คงไม่มีทางจะแ้ห้ง
สนิทไ้ร้ความเปียกชื้นในทันที เช่นกัน ไม่ต้องเอาแต่ใจ อยาก
ให้มันเป็นไปตามใจเราต้องการ ลืมหรือจำไม่ได้เกี่ยวกับการ
มีพรหมวิหารธรรม การมีสติปัญญาต่างหาก ทำให้เราเมตตา
กรุณา มุฑิตา อุเบกขา ต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง


เพราะเราเริ่มเรียนรู้และเข้าใจตามความจริง มีสติจิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
เริ่มปกติ และมีชีวิตชีวามีความผ่องใส อ่อนโยน นั่นถึงจะเริ่ม
มีรัก มีเมตตาต่อตนเอง และผู้อื่น สงสารตนเองและผู้อื่นที่ไม่รู้
จักทุกข์และ ความดับทุกข์ มีความยินดีชื่นชมในความสุขของตน
เองและของผู้อื่น สุดท้ายรุ้จักปล่อยวางอารมณ์ ปลอดโปร่ง
โล่งสบาย มีอิสระไม่เป็นทาส ความคิดความรู้สึกอีกต่อไป
เอาใจช่วยครับ มีสตินะ ขอเจริญพร :b1:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 11:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำนะคะ

ดิฉันจะทำตามคำแนะนำแน่นอนค่ะ

เราเพิ่งเลิกกันได้สิบกว่าวันค่ะ ดิฉันคิดว่าดิฉันทำใจได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว

ดิฉันจะพยายามไม่ยึดมั่น ถือมั่น ว่าเขาเป็นของเรา

ยินดีกับสิ่งที่เขามีความสุข หากการเลิกคบกันทำให้เขามีความสุขดิฉันกจะยินดี

เพราะดิฉันรักเขามากเหลือเกิน ไม่อยากให้เชาเป็นทุกข์

จากที่ได้อ่านเมื่อเช้าดิฉันลองใช้วิธีกำหนดลมหายใจเวลานอนหลับค่ะ

ให้รู้ตัวว่าเวลานี้เรากำลังหายใจอยู่ ดิฉันใช้เวลานี้เวลาฟุ้งซ่านค่ะ

เป็นวิธีที่ถูกหรือเปล่าคะ ขอบคุณทุกท่านเลยค่ะที่กรุณาให้คำแนะนำให้ดิฉันพ้นจากทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นเราน่ะค่ะ ถ้าคนคนนั้นเค้าไม่รักเราแล้ว เราก็จบกับเค้าไปเถิดค่ะ
อย่าเอาความทุกข์เข้ามาใส่ไว้ในใจของเราเลย
ถ้าเราห้ามความคิดของเรา ที่นึกถึงเค้าไม่ได้ เราก็หยุดความคิดนั้น
โดยทำใจให้เป็นสมาธิ แล้วเราจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใจเลย

ค่อยๆทำดีกว่าไม่ทำเลย ผู้หญิง100คน 99คนผ่านเหตุการณ์ที่คุณเจอขณะนี้ทั้ง99คนค่ะ
ความคิดของเรา อ่านดูแล้วเหมือนแรงไปน่ะ
แต่เราเป็นคนอย่างนี้จริงๆ

เราก็เลยเป็นคนที่ ไม่ค่อยจะรู้สึกกับการที่ จะต้องไปแคร์อะไรกันมากมายกับผู้ชาย
ตอนที่เรายังไม่ได้แต่งงาน เราก็มีเพื่อนผู้ชายน่ะ
พอเรารู้ว่า เค้าพาผู้หญิงคนอื่นไปกินข้าวด้วยกัน เราจบเลยอะไรก็ไม่ต้องคุย
แล้วจะทำให้เราได้เจอกับผู้ชายที่เค้ามีความจริงใจให้กับเราค่ะ :b4: :b4: :b41: :b55: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 14:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ ตอนนี้มันก็จบไปแล้วแหละค่ะ

และสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คืแยอมรับความจริง

แต่ไม่เข้าใจเลยทำไมช่วงนี้จิตตกฟุ้งซ่านจริงๆเลยค่ะ

ฝันเห็นเค้าตลอดเมื่อคืนก็ฝันเห็นสามรอบ เมื่อกี้นอนกลางวันก็ฝันเห็นอีก

แล้วสิ่งที่เกิดก็คือตัวเราเองที่ทุกข์ กำลังพยายามทำใจไม่คิดนะคะ ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 18:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ ถึงเราไม่ได้ถูกทิ้งแต่เราต้องเลิกกับเค้าเพราะ
มันเป็นไปไม่ได้ พอเลิกติดต่อความรู้สึกมันแย่มากมันไม่ยอมลืม ได้เข้ามาอ่านคำแนะนำต่างๆ
แล้วเอาไปทำตามแต่ก็ช่วยได้น้อยหรือเพราะเราไม่เข้าใจ การทำสมาธิก็ไม่เคยทำ เริ่มอย่างไรก็ยังไม่รู้เลย สวดมนต์ท่องได้แต่นโมตัสสะ บทอื่นต้องเปิดหนังสือสวด ปกติไม่ได้สวดมนต์ก่อนนอนเลย
คงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 18:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเป็นเหมือนกันเลยค่ะ

แต่ดิฉันสวดมนต์มาหลายวันแล้ว

กำลังพยายามทำใจอยู่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 20:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถ้ายังรักเขาอยู่ก็ไม่เป็นไร...ทรงความรู้สึกนั้นไว้
เพียงแต่เปลี่ยนความปรารถนาเป็นเมตตา...ทุกขฺ์ก็จะลดลง: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2011, 20:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2011, 08:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณNightpearlเมื่อคืนคุณหลับดีมั้ย ดิฉันลองทำตามคำแนะนำของท่านๆ ทั้งหลาย
ในกระทู้นี้ ได้แก่ สวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา หลับได้บ้างค่ะ แต่ยังตื่นมากลางดึก
เหมือนหลับไม่สนิทค่ะ คุณเป็นอย่างไรบ้างคะ เป็นกำลังใจให้นะคะอย่างน้อยก็รู้ว่ามีคน
หัวอกเดียวกันนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2011, 09:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2011, 17:00
โพสต์: 47


 ข้อมูลส่วนตัว


นอนหลับได้ค่ะ แต่ก็ฝันเห็นเค้าและก็สะดุ้งตื่น สามรอบ ละก็ฝันเห็นเค้าทุกรอบ จนไม่อยากนอนและร้องไห้ ทำใจไม่ได้จริงๆค่ะไม่คิดว่าจะเลิกกันเลย คุณเป็นไงบ้างคะ ตอนนี้จิตชั้นป่วยมากๆเลยค่ะ น้ำหนักเหลือแค่49 ผอมลงมากค่ะ ข้อคิดทุกอย่างเข้าใจหมดนะคะแต่ทำใจไม่ได้เลย รู้ว่าทำแบบนี้มันทำให้ตัวเองทุกข์แต่ก็ทำใจไม่ได้ เมื่อเช้าแม่ก็บอกอย่าไปคิดอะไรมาก พ่อแม่รักเรามาก น้ำตาก็ไหลค่ะแต่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที รู้ว่าเศร้าอยู่แบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย พยายามเอาธรรมะเข้าช่วยแต่ก็ช่วยได้บางครั้งเท่านั้น ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2011, 16:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 19:05
โพสต์: 28


 ข้อมูลส่วนตัว


นอนไม่หลับ กินไม่ลง เป็นธรรมดาค่ะ แต่เราก็ต้องกิน ฝืนกินเข้าไปมั่งไม่งันร่างกายเราจะแย่
กินอาหารอ่อนๆ หรือไม่ก็กินผลไม้ ขนมหวาน กินเป็นมื้อไม่ได้ก็กินที่ละนิด นอนไม่หลับดิฉันไม่อาย
ไปหาจิตแพทย์ค่ะ หมอให้ยาคลายเครียดกับยานอนหลับมา กินในระยะสั้นหมอยืนยันว่าไม่ติดค่ะ 2-3 วันกินที่เวลารู้สึกเพลียมากๆจากการนอนไม่หลับติดกันหลายวัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron