วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 03:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีเพื่อนถามผมว่า....มีงูตัวหนึ่งออกหากินตามประสาของงูๆ งูจับเขียดได้ปากคาบงูไว้เขียดยังไม่ตายเขียดคงขอร้องให้ใครก็ได้ช่วยเหลือจึงร้อง แอ๊บๆๆๆๆๆๆ(คงจะบอกว่าช่วยด้วยๆๆๆๆๆนั่นแหละ).....เพื่อนถามผมว่าเมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้นายจะทำอย่างไร ผมก็ตอบว่าเอาไม้ไล่งูไปเสีย ไล่เฉยๆไม่ได้ฆ่าให้มันตกใจมันจะได้ปล่อยเขียดเป็นอิสระ เพื่อนก็บอกว่าทำอย่างนี้นายก็เป็นบาปน๊ะที่ไปขัดขวางการทำมาหากินของงูเพราะวันนั้นทั้งวันหรือหลายๆวันงูตัวนั้นอาจไม่ได้กินอะไรมาก่อนก็เป็นได้เขาหีวจึงออกมาทำมาหากินตามประสาของงูๆและเขาก็ไม่ได้มารบกวนเราด้วย ผมก็ตอบไปว่าถ้าอย่างนี้ก็อยู่เฉยๆได้ไหมจะได้ไม่ไปขัดขวางใครจะได้ไม่เป็นบาป เพื่อนก็บอกว่านายเห็นคนอื่น(งู)ได้รับความเดือดร้อนขอความช่วยเหลือต่อหน้าต่อตา หากนายไม่ช่วยนายก็เป็นคนใจดำไม่มีเมตตาก็เป็นบาปเหมือนกันน๊ะ. ผมก็บอกเพื่อนว่าช่วยก็บาปไม่ช่วยก็บาปแล้วจะให้ทำอย่างไร เพื่อนๆก็ฝากคำถามนี้ให้แก่ผมโดยยังไม่เฉลยอะไรแล้วเขาก็จากไป ผมคิดว่าเขาคงสอนธรรมะให้แก่ผมโดยให้ไปหาคำตอบเอาเอง จนเดี๋ยวนี้ผมเองก็หาคำตอบไม่ได้................ ท่านผู้รู้ได้โปรดช่วยกระผมด้วยว่าหากผมเจอเหตุการณ์อย่างนี้จริงๆผมจะต้องทำต้วอย่างไรดี ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องยังไม่เกิด อยู่เฉยๆ ยังไม่ต้องทำต้องคิดอะไร เพราะเป็นปัญหาซึ่งตั้งขึ้นให้ทายกันเฉยๆ :b1: :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งปัญหาให้เพื่อนตอบบ้างดิ

คือว่า เราไปพบเห็นงูกำลังคาบกบหรือเขียดๆ ก็ร้อง แอ๊บๆๆๆ เราเองก็อดอาหารมาเป็นเวลานาน

เห็นดังนั้นแล้วเราจะทำยังไง กับงูและเขียดนั้น :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามธรรมชาติน่าจะช่วยอะไรไม่ได้เพราะเหยื่อมันตายแล้วค่ะงูถึงจะคาบ เราเห็นก็แผ่เมตตาให้มันทั้งคู่นั่นแหละค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ช่วยผมด้วย...จะทำอย่างไรดี


ทำนองคล้ายๆกัน ถ้าคุณเห็นลูกคุณกำลังถูกโจรจี้ และคาดคั้นให้ส่งเงินให้โจร คุณจะช่วยหรือปล่อยไปเพราะกลัวบาปที่ต้องทำร้ายหรือจับโจร..??

หรือเอาอีกเรื่องหนึ่งว่าถ้าคุณกำลังถูกงูหลามรัดและกำลังจะหม่ำคุณ บังเอิญเพื่อนคุณผ่่านมาเห็นเข้า"คุณ" อยากให้เพื่อนช่วยหรืออยากให้เพื่อนวางเฉยเพราะกลัวบาปที่งูต้องอดอาหาร..?

หรืือคิดไปอีกหน่อยว่า เมื่อยังไม่พ้นการเกิดเป็นงูหรือเขียด คุณอยากให้มีการกระทำใดเมื่อต้องอยู่ในเหตุการณ์นั้น..


คิดได้อย่างไร ก็นั่นแหละคำตอบที่ต้องนำไปให้เพื่อน ขอให้ปลอดภัยนะครับ.. :b55: :b55: :b55:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 28 พ.ค. 2010, 20:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากคำตอบที่ว่า "ทำนองคล้ายๆกัน ถ้าคุณเห็นลูกคุณกำลังถูกโจรจี้ และคาดคั้นให้ส่งเงินให้โจร คุณจะช่วยหรือปล่อยไปเพราะกลัวบาปที่ต้องทำร้ายหรือจับโจร..?? " ถ้าเป็นผมในฐานะความเป็นพ่อ - ลูกและตามสัญชาตญาตญาณของความเป็นมนุษบ์ต้องช่วยลูกก่อนอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อบาปกรรมอะไร ทำหน้าที่ของความเป็นพ่อให้ดีที่สุดโดยปกป้องลูกไว้ก่อน แต่จากกระทู้ที่เพื่อนถามผมนั้นผมต้องการคำตอบในแง่ทางศาสนาว่าหากเป็นเช่นนั้นผมควรทำอย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่จากกระทู้ที่เพื่อนถามผมนั้นผมต้องการคำตอบในแง่ทางศาสนาว่าหากเป็นเช่นนั้นผมควรทำอย่างไร


คำตอบที่ให้ ไม่ได้เอาคำตอบนอกศาสนาที่ไหนมาตอบหรอกครับ...เพียงแต่อยากให้เห็น"จุดยืน"ของคนทั่วไปเท่านั้น ว่า ในการที่จะมีปฏิกิิยาตอบสนองต่อเหตุการณ์บางอย่างเรามีการสนองตอบด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาต่างๆกันไป..แล้วแต่ว่าใครสั่งสมอุปนิสัยหรือปัญญามาอย่างไร..

ส่วนคำถามที่อยากได้คำตอบ ก็พึงถือเอาหลักการจากคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า

เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ
เรากล่าวเจตนาว่าคือกรรม
(เจตนา คือ ความตั้งใจ ความมุ่งใจหมายจะทำ
เจตน์จำนง ความจำนง ความจงใจ)


ดังนั้น..การจะเกี่ยวข้องในกรณีนี้จึงแยกได้๒อย่างคือ เจตนาจะช่วยเขียดหรือเจตนาจะแกล้งงูให้อดอาหาร

หากจะช่วยเขียดเพราะเราปราถนาให้เขามีชีวิตพ้นภัย อยู่ต่อไปอีก จิตเวลานั้นประกอบด้วยเมตตาและกรุณาต่อสัตว์ผู้กำลังทุกข์เฉพาะหน้า ไม่เพิกเฉยด้วยอำนาจของความหลง(อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นอุเบกขา)...ก็เวลาจะช่วยเขา เจตนาไม่ได้เลยไปถึงว่าจะทำให้งูอดอาหาร หรือไม่ได้ดีใจว่าจะแกล้งงูให้อดอาหาร แต่ถือสาระ ของเจตนาคือช่วยชีวิตสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า..จึงไม่เป็นบาปแต่ประการใด

แต่เมื่อใดคิดจะแกล้งงูให้อดอาหาร นี้จึงจะบาป พึงเข้าใจให้ถูก ต้องแยกกัน เพราะการกระทำแต่ละอย่างมีเจตนาแยกกันไม่อาจมาผสมปนเปกันไปได้..ไม่ใช่เหมาเอามารวมกันแล้วเข้าใจผิดๆถูกๆไปด้วยการคาดเดานึกสุ่มคลำไปด้วยความฟุ้งซ่าน อันจะนำไปสู่ความประมาทพลาดจากบุญอันควรมีควรได้..หรือเข้าถึงบาปอันตนต้องไปรับผลทุกข์โดยไม่ควรต่อไป..

การวิเคราะห์เรื่องใดเป็นบุญหรือบาป ในรายละเอียดนั้นสามารถทำได้เสมอด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.. :b48: :b55: :b54:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 29 พ.ค. 2010, 18:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...
เห็นก็สักว่าเห็น..ได้ยินก็สักว่าได้ยิน....
เพราะเราเห็น...แล้วปรุงแต่งมีความหมายเป็น งู...กะเขียด
เพราะได้ยิน...ปรุงแต่งให้มีความหมาย...เป็นเสียงของเขียด...แล้วปรุงแต่ง..เวทนาต่อไป อีกว่า..เสียงร้องๆนั่น ...เขียดร้องขอชีวิต..ร้องให้ใครช่วย....
เมื่อเห็นไม่สักว่าเห็น..ได้ยินไม่สักว่าได้ยิน...จึงเกิดเป็นกรรมขึ้นมา อุปาทานความยึดมั่น ตัวตน...หรือเพราะความเวทนาสงสารเกิดขึ้น..จึงไล่งูไป..งูก็ปล่อยเขียด...เราได้ช่วยชีวิตเขียด...เป็นกรรมดี..ส่วนงูก็สูญเสียเหยื่อเพราะเรา..เราก็รับกรรมไปอีก....อันสัญชาตญานของสัตว์เดรัจฉานนั้น..เมื่อมันโดนผู้ที่แข็งแรงกว่างาบ..มันก็ร้องตามสัญชาตญานของมัน...จนกว่าชีวิตมันจะดับไป..มันสร้างกรรมในวงจรอุบาทว์ของพวกมัน..มันไม่รู้..มันไม่มีศีล..มันเที่ยวเกิดในวัฏฏสงสาร..สร้างกรรมต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด..ตายแล้วเกิดเกิดแล้วตายไม่รู้กี่ร้อยพัน ชาติ...
แม้มนุษย์...ชาวนาที่หิวโหย..ไม่มีศีล..เห็นเหตุการณ์นี้ เขาจะยินดีได้กินทั้งงูทั้งเขียด...เห็นไหม???สัตว์โลกมันเลวร้ายเกินกว่าที่คิด...เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าตรัสประโยคเดียวแต่คอบคลุมจักรวาล

"สฺพเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย" ธรรมทั้งหลายทั้งปวง อันเราไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 07:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาให้คำตอบทำให้กระผมตาสว่างขึ้น คิดเอาว่าตาสว่างขึ้นน๊ะเพราะกระผมเพิ่งเข้ามาศึกษาธรรมะ กระผมจึงขอสรุปคำตอบที่กระผมได้รับจากท่านผู้รู้และที่คิดว่าตัวเองตาสว่างขึ้นนั้นจากกระทู้นี้ก็คือ ทุกอย่างอยู่ที่ "เจตนา" กระผมตาสว่างจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ัท่าน amam รู้แล้วหนอ!
ัท่าน amam รู้แล้วหนอ! :b4: :b4: :b35: :b35: :b35:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่าน -dd- ครับที่กระผมบอกว่าพอเข้าใจว่าอยู่ที่ " เจตนา" นั้นกระผมเข้าใจว่าหากเรามีเจตนาจะช่วยเขียดไม่ให้ถูกฆ่าตาย และถึงแม้ว่าจะไปขัดขวางงูก็ตามกระผมถือว่าเป็นเจตาดีจึงเป็นบุญ ทำนองเดียวกันแต่หากกระผมเห็นแล้วเฉยเสียก็ถือว่ากระผมนั้นก็มีเจตนาที่ไม่ช่วยทั้งๆที่รู้ว่าคนอื่น(เขียด)ต้องการช่วยเหลืออย่างนี้ถือว่าเป็นเจตาไม่ดีจึงถือว่าเป็นบาป ดังนั้นตามที่ท่านได้เมตตาช่วยให้คำตอบแก่กระผม กระผมจึงเข้าใจว่าอยู่ที่ "เจตนา " กระผมขอย้ำถามท่านอีกครั้งว่าความเข้าใจของกระผมถูกหรือไม่ครับ เพราะยังไม่แน่ใจครับ ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
amam:


อ้างคำพูด:
ทำนองเดียวกันแต่หากกระผมเห็นแล้วเฉยเสียก็ถือว่ากระผมนั้นก็มีเจตนาที่ไม่ ช่วยทั้งๆที่รู้ว่าคนอื่น(เขียด)ต้องการช่วยเหลืออย่างนี้ถือว่าเป็นเจตาไม่ ดีจึงถือว่าเป็นบาป


สาธุๆ คุณamamที่ถามเพิ่ม น่าสนใจมากทีเดียว.. :b4:

การที่ไม่ช่วย เจตนาที่ไม่ช่วยนั้นมีปัจจัยมาจากอะไรบ้าง มาดูกัน ..

๑. ความกลัวว่างูจะกัดเอาถ้าไปช่วยเขียด เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า
ข้อนี้เป็นบาปเพราะจิตเป็นไปกับ"โทสะ(ความกลัว)"

๒. ไม่ช่วยเพราะไม่เห็นสาระประโยชน์ถือว่าธุระไม่ใช่ เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า
ข้อนี้เป็นบาปเพราะจิตเป็นไปกับ""โมหะ(ความหลง)""

๓. ไม่ช่วยเพราะคิดว่างูคงหิว น่าจะได้อาหาร เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า( และไม่ได้คิดเลยเถิดไปยินดีที่งูฆ่าเขียดตาย)
ข้อนี้เป็นบุญที่มีใจ"เมตตา"งู

๔. อยากช่วยเหมือนกันแต่ต้องรีบไปทำธุระที่อื่น เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า
ข้อนี้เป็นบาปเพราะจิตมี"โลภะ"

๕. อยากช่วยแต่ถ้าช่วย งูอาจถูกคนแถวนั้นรุมปราชาทันฑ์ เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า
ข้อนี้เป็นบุญที่มีใจ"กรุณา"งู

๖. อยากดูซิว่างูจะกินเขียดอย่่างไร แล้วเขียดจะมีอาการอย่างไร สนุกสนานบันเทิงกับภาพที่เห็น..เลยไม่ช่วยเขียดดีกว่า..
ข้อนี้เป็นบาปเพราะจิตมี"โลภะ" ทั้งเข้าขั้นบาปที่นำเกิดในอบายได้คือพยาบาทวิตก คิดร้ายสัตว์อื่นอันเป็น๑ในอกุศลกรรมบถ๑๐)

๗. เมื่อช่วยไม่ได้ จึงคิดว่า นี่เป็นกรรมของเขียดที่เคยทำมาแล้ว เลยไม่ทำอะไร
ข้อนี้เป็นบุญเพราะวางใจเป็น"อุเบกขา"หลังจากพิจารณาแล้วว่าช่วยไม่ได้จริงๆ

เป็นต้น (ยังมีความวิจิตรพิศดารเรื่องความคิดอีกคณานับเกินที่จะคาดเดาได้อีก)..

จากตัวอย่างข้างบน จะเห็นว่าแม้เจตนาในการไม่ช่วยเขียดก็มาจากปัจจัยหรือเงื่อนไขต่่างๆหลากหลายการตัดสินว่าไม่ช่วยเขียดเลยจะเป็นบาปไปทั้งหมดก็ไม่ถูก ต้องพิจารณาความคิดหลักที่มีอิทธิพลในการไม่ช่วยนั้นประกอบจึงตัดสินไปได้ว่าเป็นบุญหรือบาป..
ทีนี้การวิเคราะห์เรื่องของจิตใจที่มีความรวดเร็วและพิสดารให้ถูกต้องแท้นั้น หาใช่วิสัยที่ปุุถุชนจะทำได้ไม่ มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทรงทราบได้ ที่วิเคราะห์ไว้ข้างบนนั้นจึงเป็นเพียงแบบหยาบๆเพื่อแสดงถึงหลักการเพื่อการแยกแยะบุญบาปพอเป็นแนวทางเท่านั้น..

สำหรับบาปที่เกี่ยวข้องในกรณีเช่นนี้ เมื่อพิจารณาเทียบเคียงว่าข้อใดไม่เข้ากับอกุศลกรรมบท๑๐ก็ไม่ใช่บาปหนักมากชนิดที่นำเกิดในนรกหรืออบายภูมิ เป็นบาปเพียงเล็กน้อย ที่ให้ผลภายหลังการเกิดเท่านั้น ..(ทำนองเดียวกันกับที่เป็นกุศล เทียบเีคียงกับกุศลกรรมบท๑๐)

ที่จริงถ้าคุณ amam ใช้หลักการดังที่ตอบไว้ก่อนหน้านี้แล้วข้างบน ก็สามารถแยกแยะและตอบคำถามใหม่นี้ได้เช่นกัน.. :b54: :b54: :b54:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




new12.jpg
new12.jpg [ 18.24 KiB | เปิดดู 6339 ครั้ง ]
ขอตอบว่า...เราไม่สามารถห้ามให้สัตว์เดรัจฉานในโลกนี้หยุดหาอาหารตามวงจรชีวิตของเขาได้.งูไม่สามารถกินมังสวิรัชได้.เสือไม่สามารถกินมังสวิรัชได้.จรเข้แลสัตว์นักล่าอื่นๆไม่สามารถกินโดยมังสวิรัชได้.แม้สัตว์พวกนี้บุกเข้ามาในบ้านเรา บางทีเราจำเป็นต้องไล่เขาออกไป.บางครั้งสุดวิสัยเพื่อปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของลูกๆและคนในบ้าน เรายังจำต้องเป็นต้องไล่เขาออกต้องตัดรอนชีวิตของเขาก็มี.

จงขอให้กรรมนำทาง...และจงเดินทางสายกลาง เพราะถ้าหย่อนในธรรมเกินไปก็ส่งผลเสีย....แต่ถ้าตึงในธรรมเกินไปก็ไม่ส่งผลดี...จงตั้งสติอยู่ในธรรมอย่างดีแล้ววินิจฉัยด้วยธรรมอันเป็นกลาง ด้วยธรรมอันเข้าใจในชาติกำเนิดของสัตว์นั้น แล้วอนุโลมกันตามสมควรโดยไม่หย่อนจนเกินไปแลไม่ตึงจนเกินไปเถิด...เพราะสัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...ภัยย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่เบียดเบียนชีวิต...เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...
...เพราะเลิกฆ่าสัตว์ไม่ได้โดยคิดว่าสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหารของเรา...
...เมื่อเราได้ไปเกิดเป็นอาหารจึงไม่พ้นการถูกฆ่าเพื่อเป็นอาหาร...
:b8:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
...ความเป็นดิรัจฉานเกิดจากจิตที่มีความหวาดกลัว หวาดระแวง เกรงกลัวต่อภัยรอบด้าน...
...กรรมที่ทำให้ไปถึงความเกิดในภพภูมินี้ เช่น อาการขโมย ชู้ ทำร้ายสัตว์เหล่านั้น...
...หรือแม้กระทั่งความยินดีพอใจ คิดริษยา และการดูถูกเหยียดหยามในสัตว์นั้นๆเป็นต้น...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร