วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 19:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 15:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆแล้ว ศีล 5 เป็นเรื่องกฎเกณฑ์ของการละเมิดผู้อื่นโดยเจตนาอกุศลนั่นเอง

1. ห้ามฆ่าคนและสัตว์(เว้นจากทำลายชีวิต) คือ ห้ามละเมิดชีวิตของคนและสัตว์โดยเจตนาอกุศล ห้ามละเมิดนั้น พระพุทธเจ้าใช้คำว่า ห้ามเบียดเบียน

2. ห้ามลักทรัพย์ (เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้) คือ ห้ามละเมิดทรัพย์สิน ที่เป็นของคนอื่น

3. ห้ามผิดประเวณี หรือมีชู้ (เว้นจากประพฤติผิดในกาม) คือ ห้ามละเมิดหญิงหรือชายที่อยู่ในความปกครองดูแลของคนอื่น

ผมได้เคยตอบไปแล้ว(แต่ทางเว็บนี้เขาลบกระทู้ผมทิ้งไป)ว่า ศาสนาอิสลามให้มีเมียได้ 5 คน จริง แต่มีกฎว่าภรรยาคนแรกต้องยินยอมโดยสมัครใจ ถ้าภรรยาคนแรกไม่ยินยอมโดยสมัครใจ ก็เท่ากับสามีละเมิดภรรยาหลวง ในกรณีนั้น สามีก็ทำผิดศีลข้อ 3 ของศาสนาพุทธนั่นเอง

ในศาสนาพราหมณ์ก็เช่นกัน ในมหาภารตะหญิงคนเดียว คือ นางกฤษณา หรือ นางเทราปที ก็มีสามีได้ 5 คน นางกฤษณา หรือ นางเทราปที เป็นมเหสีของกษัติย์ปาณฑพ 5 องค์ คือ ยุธิษฐิระ ภีมะ อรชุน นกุล และ สหเทพ

ที่มาของเรื่องหญิงมีผัว 5 คนนี้มาจาก อรชุนไปประลองยุทธเลือกคู่แล้วชนะ ได้นางเทรปาตีมา เมื่ออรชุนพานางมาถึงที่อยู่ของแม่ ตอนนั้นอรชุนยังไม่ทันจะให้แม่เห็นนางเทรปาตี อรุชนก็เอ่ยบอกบอกแม่ว่า ตนเองได้โชคลาภวิเศษมาอย่างหนึ่ง แม่จึงบอกอรชุนว่า ถ้าได้อะไรมาก็ขอให้แบ่งปันให้พี่น้องด้วย ปาณฑพทั้งห้า เป็นเคารพคำพูดของแม่ว่าเป็นวาจาสิทธิ์ ด้วยเหตุนี้ อรชุนจึงยกนางเป็นภรรยาของพี่น้องทุกคน

นี่ก็คือ อรชุนซึ่งเป็นสามีหลวง หรือผัวหลวงเป็นคนอนุญาตให้เมียตนเองมีผัวอีก 4 คน จึงไม่ได้มีการละเมิด นางเทราปทีไม่ได้แอบมีชู้แต่อย่างใด ผัวหลวงเขาอนุญาตโดยสมัครใจแล้ว เข่นเดียวกับ ศาสนาอิสลาม ภรรยาคนแรกอนุญาตให้สามีมีภรรยาน้อยได้ 4 คน จึงไม่มีการละเมิดเมียหลวง

เรื่องนี้ก็เหมือนกับคุณไปหยิบappleในสวนแห่งหนึ่ง ถ้าเจ้าของไม่อนุญาต ก็เป็นการผิดศีลข้อลักทรัพย์ แต่ถ้าเจ้าของอนุญาต ก็ไม่ถือว่าลักทรัพย์ ภรรยาก็มีสามีหลวงเป็นเจ้าของ สามีก็มีภรรยาหลวงเป็นเจ้าของ การละเมิดจะไม่เกิดขึ้นถ้าสามีหลวงหรือภรรยหลวงยินยอม

4. ห้ามหรือเว้นจากพูดเท็จ คือ เว้นจากการละเมิดสิทธิเสรีภาพที่เขาจะรู้ความจริง

5. ห้ามหรือเว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ ต้องเข้าใจว่า
ถ้าคนๆนั้นดื่มสุราเมลัย แล้วเขามีสติ คุมสติได้ เขาก็ทำผิดศีลข้อ 1-4 ไม่ได้ ดังนั้นการละเมิดก็ไม่เกิดขึ้น บาปจึงเกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน

แต่ถ้าคนๆนั้นดื่มสุราเมลัย แล้วเขาไม่มีสติ คุมสติไม่ได้ เขาก็อาจทำผิดศีลข้อ 1-4 ดังนั้นการละเมิดจึงอาจเกิดขึ้น และนำไปสู่บาป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: เจิมกระทู้ขอรับ เพราะเห็นแววว่าน่าจะได้รับความนิยม มีคนมาถกปัญหานี้กันในอนาคตอย่างมากมาย :b17: :b27: :b20:

ผมขอเรียนถามคุณ พลศักดิ์ และผู้รู้ทั้งหลายนะครับว่า

คือเวลาผมไปวัด แล้วมีการรับศีล 5 บ้าง 8 บ้าง ก็เหมือน เราสัญญากับพระ ว่าเราจะรักษาศีลนั้นให้บริสุทธิ์ ใช่หรือไม่ขอรับ

:b6: แล้วถ้าเรารับศีลไปแล้ว แต่เรายังทำผิดอีกเช่น ออกจากวัดเสร็จ แอบแว็บ ไปหากิ๊ก :b27:
เราก็ผิด 2 กระทงเลยซิครับ
1 ผิด กาเม เพราะ มีกิ๊ก
2 ผิด มุสา เพราะเราสัญญากับพระแล้วว่าจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ :b34:

ถ้าอย่างนั้น เวลาผมไปวัด ผมไม่กล่าวรับศีล แต่พนมมือเฉยๆ กันผิดศีล มุสากับพระ เพราะ รู้แน่ว่า ต้องผิดศีลแน่ๆ อีก ได้หรือไม่ครับ :b28:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณมาเจิมกระทู้ แต่ผมยังไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะรอดจากการโยนทิ้งของทีมงานเว็บหรือเปล่า คำถามของคุณดีมาก ไว้ตอนดึก ผมมาตอบอีกที(ถ้ากระทู้นี้ยังอยู่นะครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: สวัสดีครับทุกท่าน
ผมยังง :b23: อยู่นะว่าเกี่ยวไรกับตกนรกครับ :b12:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณมาเจิมกระทู้ แต่ผมยังไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะรอดจากการโยนทิ้งของทีมงานเว็บหรือเปล่า คำถามของคุณดีมาก ไว้ตอนดึก ผมมาตอบอีกที(ถ้ากระทู้นี้ยังอยู่นะครับ)


:b12: อวบอั๋นขั้นสุดท้ายจะรอลุ้นไปกับ คุณพลศักดิ์ นะครับว่า กระทู้จะยังอยู่หรือไม่ :b12:
แล้วจะรอมาอ่านความเห็นของคุณพลศักดิ์ และผุ้รู้ท่านอื่นต่อไปนะครับ :b9: :b18:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


ศาสนาต่างๆเขามีวิธีสอนให้เข้าใจเรื่องจิต ความจริงสูงสุด คือ จิตเป็นตัวกำหนดว่า สิ่งใดเป็นสิ่งดี สิ่งใดเป็นสิ่งชั่ว สิ่งที่ดีคือมีเจตนาเป็นกุศล สิ่งที่ชั่วคือมีเจตนาอกุศล แต่นั่นเป็นแค่ขั้นโลกียะธรรมเท่านั้น

แต่ในระดับโลกุตตระธรรม ไม่มีสิ่งใดเป็นกุศล ไม่มีสิ่งใดเป็นอกุศล ทุกอย่างมันว่าง เป็นศูนยตา ผู้ที่ปฏิบัติจนเข้าใจสิ่งนี้ได้ คือ พระอรหันต์ โดยเฉพาะผู้้ที่เป็นพระพุทธเจ้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


ทศพล เขียน:
:b8: สวัสดีครับทุกท่าน
ผมยังง :b23: อยู่นะว่าเกี่ยวไรกับตกนรกครับ :b12:



ถามได้ดีมาก ผมลืมเรื่องสุดท้ายไปเลย มันเกี่ยวไรกับตกนรกตรงที่ คนที่ไปยึดในศีล 5 อย่างเหนียวแน่น โดยไม่รู้ที่มาของมัน การกอดคัมภีร์เช่นนั้น เรื่องเล็กๆ เช่น ฆ่ายุงก็อาจจะนำเขาลงนรกได้ เพราะเขากอดคัมภีร์ไว้แน่น เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องศีล พระพุทธเจ้าของเราจะถามว่า ตอนที่ทำลงไปนั้น มีเจตนาอย่างไร ขนาดทำไม้ตกมาโดนคนอื่นตาย พระพุทธเจ้ายังตรัสว่าไม่บาป เพราะไม่ได้มีเจตนา

เอามือไปปัดมดตาย พระพุทธเจ้าตรัสบอกภิกษุคนหนึ่งว่าบาป ตรัสบอกอีกคนว่าไม่บาป ก็ด้วยอาศัยคำตอบของเขาว่า เจตนาฆ่ามดด้วยจิตว่าไม่อยากให้มันมาเกะกะ หรือไม่ได้เจตนาเพียงแต่แค่ปัดออกไปเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


อวบอั๋นขั้นสุดท้าย เขียน:
:b8: :b8: :b8: เจิมกระทู้ขอรับ เพราะเห็นแววว่าน่าจะได้รับความนิยม มีคนมาถกปัญหานี้กันในอนาคตอย่างมากมาย :b17: :b27: :b20:

ผมขอเรียนถามคุณ พลศักดิ์ และผู้รู้ทั้งหลายนะครับว่า

คือเวลาผมไปวัด แล้วมีการรับศีล 5 บ้าง 8 บ้าง ก็เหมือน เราสัญญากับพระ ว่าเราจะรักษาศีลนั้นให้บริสุทธิ์ ใช่หรือไม่ขอรับ

:b6: แล้วถ้าเรารับศีลไปแล้ว แต่เรายังทำผิดอีกเช่น ออกจากวัดเสร็จ แอบแว็บ ไปหากิ๊ก :b27:
เราก็ผิด 2 กระทงเลยซิครับ
1 ผิด กาเม เพราะ มีกิ๊ก
2 ผิด มุสา เพราะเราสัญญากับพระแล้วว่าจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ :b34:

ถ้าอย่างนั้น เวลาผมไปวัด ผมไม่กล่าวรับศีล แต่พนมมือเฉยๆ กันผิดศีล มุสากับพระ เพราะ รู้แน่ว่า ต้องผิดศีลแน่ๆ อีก ได้หรือไม่ครับ :b28:


1. ผมจะบอกคุณว่า ถ้าพระคนนั้นทำผิดศีล 5 เช่น ฆ่ายุง ท่านก็อาจจะโดนลงโทษให้เกิดเป็นยุง 500 ชาติ เพราะไปกอดคัมภีร์ไว้แน่น ถ้าคุณกอดคัมภีร์เหมือนหลวงพ่อ อาจต้องเกิดเป็นยุง 1000 ชาติ ที่โดน 2 เด้ง เพราะคุณผิดอีกกระทงหนึ่ง คือ ทรยศสัจจะที่ให้กับคนอื่น

2. ไปหากิ๊ก ก็โดน 2 เด้งเช่นเดียวกัน ผิดทั้งละเมิดต่อคู่ครอง และผิดทั้งสัจจะ

แต่ถ้าคุณรักษาศีล 5 ไว้ได้ คุณก็ได้ 2 เด้งเหมือนกัน

วันหลังก็อย่าไปเอานรกมาใส่ตัวซิครับ พนมมือก็พนมมือไปเฉยๆ แต่อย่าเอาจิตไปรับ และไปคิดปรุงแต่งว่า ไปพนมมือแล้ว เท่ากับรับ ดังนั้นถ้าไม่ทำเท่ากับผิดศีล มุสากับพระ

จี้กงกล้าทำผิดศีลของพระเลย พระพุทธเจ้าห้ามกินเนื้อหมา ห้ามกินเหล้า จี้กงก็กินซะเลย กินจนท่านเป็นพระอรหันต์

พระวักกริและพระโคธิกะ พวกท่านก็เชือดคอฆ่าตัวตาย แต่พระพุทธองค์กลับยืนยันว่า ท่านทั้ง 2 เป็นอรหันต์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: -ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ :b20:

:b15: จะว่าอะไรไหมครับ คุณ พลศักดิ์ คือ 2 เรื่องที่คุณอ้างอิงคือ

จี้กงกล้าทำผิดศีลของพระเลย พระพุทธเจ้าห้ามกินเนื้อหมา ห้ามกินเหล้า จี้กงก็กินซะเลย กินจนท่านเป็นพระอรหันต์

พระวักกริและพระโคธิกะ พวกท่านก็เชือดคอฆ่าตัวตาย แต่พระพุทธองค์กลับยืนยันว่า ท่านทั้ง 2 เป็นอรหันต์


2 เรื่องนี้ผมยังไม่เคยทราบมาก่อนเลย :b14: :b10: :b5:

พอจะนำเรื่องราว2 เรื่องนี้ มาให้อ่านหน่อยได้หรือเปล่าครับ
คือ อยากลองอ่านดูหนะครับ :b31: ขอบคุณครับ

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล
จาก "สิ้นโลก เหลือธรรม"
โดยพระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์(เทสก์ เทสรังสี)
http://www.hinmarkpeng.org/Data%5CPDF%5 ... inloke.pdf


ผมยกมาตอนหนึ่ง และจัดแบ่งวรรคใหม่ ... ว่า ....


ศีล บางคนที่ว่าต้องรักษาที่กาย ที่วาจา ไม่ต้องไปรักษาที่ใจ
ใจเป็นเรื่องของสมาธิต่างหาก กาย วาจา มันจะเป็นอะไร มันจะทำอะไร มันก็ไม่กระเทือนถึงสมาธิ
ตกลงว่า กาย กับใจ แยกกันเป็นคนละอัน

ตรงนี้ผู้เขียนไม่เข้าใจจริง ๆ เรื่องเหล่านี้พิจารณาเท่าไรๆ ก็ไม่เข้าใจจริง ๆ
ขอแสดงความโง่ออกมาสักนิดเถอะ สมมติว่าคนจะไปฆ่าเขา
หรือขโมยของเขาจำเป็นจิตจะต้องเกิดอกุศลบาปกรรมขึ้นมา
แล้วจะต้องไปซุ่มแอบ เพื่อไม่ให้เขาเห็น เมื่อได้โอกาสแล้ว จะต้องลงมือฆ่าหรือขโมยของของตามเจตนาของตน

แต่เบื้องต้น การที่จิตคิดจะฆ่า หรือขโมยของเขา แล้วไปซุ่มอยู่นั้น
ถึงแม้ศีลจะไม่ขาด แต่จิตนั้นเป็นอกุศล พร้อมแล้วทุกประการที่จะทำบาปมิใช่หรือ
ถ้าจิตอันนั้นมีสติรักษา สำรวมได้ไม่ให้กระทำ เลิกซุ่มเสีย ศีลก็จะไม่ขาด

ตกลงว่าใจเป็นตัวการ ใจเป็นต้นเหตุที่จะทำให้ศีลขาดแลไม่ขาด
จะว่ารักษาศีลไม่ต้องรักษาใจได้อย่างไร

ท่านว่า รักษาศีล คือ รักษาที่กาย วาจา ใจ ๓ อย่างนี้ มิใช่หรือ


ในทางธรรม พระพุทธเจ้าก็เทศนาว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจถึงก่อน สำเร็จแล้วด้วยใจ”
จะพูด จะคุย ก็เกิดจากใจทั้งนั้น พูดถึงธรรมแล้ว ที่จะไม่พูดถึงเรื่องใจแล้วไม่มี
คำว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจถึงก่อน” นั้นชัดเจนเลยทีเดียว

ที่ว่า “ธรรมทั้งหลาย” นั้น หมายถึงการกระทำทุกอย่าง
ทำดีเรียกว่ากุศลธรรม ทำชั่วเรียกว่า อกุศลธรรม
ทำไม่ดี ไม่ชั่ว เรียกว่า อพยากฤตธรรม
เรียกย่อ ๆ เรียกว่า ทำบุญ ทำบาป หรือไม่เป็นบุญ ไม่เป็นบาป (ข้อสุดท้ายนี้ไม่มีใครเลยในโลกนี้ที่จะไม่ทำบาป ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง)

เมื่อผู้เขียนพิจารณาถึงเรื่องเหตุ ผล ในธรรมทั้งหลายแล้ว ที่ว่า
ศีล ให้รักษาที่กายแลว่าจา
สมาธิ ให้รักษาที่ใจ ไม่ปรากฏเห็นมี ณ ที่ใด

หากผู้เขียนจำตำราที่เขียนไว้ไม่เข้าใจ หรือตีความหมายของท่านไม่ถูก
เพราะความโฉดเขลาเบาปัญญาของตนเอง ก็สุดวิสัย

พระพุทธองค์ยังทรงเทศนาให้พระผู้กระสันอยากสึกว่า
พระวินัยในพระศาสนานี้มีมากนัก ข้าพระองค์ไม่สามารถจะรักษาให้บริบูรณ์ได้
ข้าพระองค์จะสึกละ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า
“อย่าสึกเลย ถ้าพระวินัยมันมากนัก เธอจงรักษาเอาแต่ใจอันเดียวเถิด”
นี่แหละ
พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนให้เอาแต่ใจอันเดียวซ้ำเป็นไร
นี้เรารักษาศีล จะทิ้งใจเสีย แล้วจะรักษาศีลได้อย่างไร ผู้เขียนมืดแปดด้านเลยจริง ๆ

ฆราวาสผู้มีศรัทธาแก่กล้า จะรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ก็ได้
แต่ศีล ๑๐ นั้น รักษาตลอดเวลาไม่ได้
ถ้าเรามีศรัทธาจะรักษาเป็นครั้งคราวนั้นได้

ส่วนศีล ๒๒๗ ก็เช่นเดียวกัน จะรักษาข้อใดข้อหนึ่งก็ได้
พระพุทธเจ้าพระองค์ไม่ห้าม แต่อย่าไปสมาทานก็แล้วกัน
.........

อ่านฉบับ PDF / original version ที่
http://www.hinmarkpeng.org/Data%5CPDF%5 ... inloke.pdf

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"อวบอั๋นขั้นสุดท้าย"ครับ




ผมอยากจะเอาเรื่อง "พระวักกริและพระโคธิกะ พวกท่านก็เชือดคอฆ่าตัวตาย แต่พระพุทธองค์กลับยืนยันว่า ท่านทั้ง 2 เป็นอรหันต์" มาลง แต่ผมลงก็รู้ว่าเรื่องนี้โดนดึงออกแน่ เพราะผมสังเกตว่า เรื่องที่เกินสติปัญญาของทีมงานเว็บ เขาจะไม่ยอมให้ลง ทางที่ดีผมคิดว่า คุณควรไปตั้งกระทู้ถามผมเรื่องนี้ดีกว่า แล้วผมจะเอาเข้าไปลงในคำตอบ เขากล้าลบกระทู้ผม แต่คงไม่ลบกระทู้ที่คนตั้งถามผมแน่นอน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณคามินธรรมครับ



ขอบพระคุณที่เอาพุทธพจน์นี้มาลง


“อย่าสึกเลย ถ้าพระวินัยมันมากนัก เธอจงรักษาเอาแต่ใจอันเดียวเถิด”

ถ้าจะสรุปหลักของพุทธศาสนาในประโยคเดียว ก็ข้อนี้แหละครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 00:54
โพสต์: 16


 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งดีๆอย่างงี้ ทางเว็ปไม่น่าจะลบนะครับ แต่ขอให้คุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ช้วยอ้างอิงด้วยว่า นำมาจากพระไตรปิกฎเล่มไหน บทไหน วรรณไหน ที่ว่าพระที่ฆ่าตัวตาย แล้วเป็นอรหันต์ และถ้าทางเว็ปลบจริง อยากให้ทางเว็ปชี้แจงด้วยครับ ช้วยกระทำอย่างผู้มีปัญญาและชี้แจงด้วยนะครับ ถ้าเปรียบก็เหมือนเรารู้ว่าเราเป็นมะเร็งร้าย แต่เราไม่รักษา แค่สะกดจิตไม่ให้รู้สึกถึงมัน แต่มะเร็งก็ยังอยู่ ทางเว็ปจะกระทำอะไรกุศล-ไม่กุศล และทางคุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ กุศล-ไม่กุศล ย่อมรู้ แต่ขอให้มีการอธิบายชี้แจง แล้วต้องดูเจตนาด้วยว่า คุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์มีเจตนาอย่างไร ผมเชื่อในเรื่องเหตุและผล ความจริง และวิทยาศาสตร์ ถ้าคุณพลศักดิ์ วังวิวัฒน์หรือเจ้าของบอร์ดกระทำการใดๆที่ไม่ตรงต่อพระคัมภีร์ วิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ ความมีเหตุมีผล หรือใครกระทำการโดยปราศจากมนุษยธรรม ผมไม่ใช่ชาวพุทธแท้ๆ แต่ผมมีความเป็นนักวิทยาศาสตร์ในตัวดีพอที่จะแยกแยะด้วยตรรกศาสตร์และจริยศาสตร์ได้ ขอให้เป็นไปตามนั้นเถิด เพื่อไม่ให้เกิดกรรมต่อกัน ที่พูดไป ก็พูดไปเท่านั้นละครับ เพราะเจตนารมณ์ของผมบริสุทธิ์ ซึ้งหมายความถึงไม่มีจิตอกุศลเกิดในขณะพิมพ์ตอบนี้ ขอให้ทุกคนพบพานบรมสุขยิ่งๆขึ้นไปจนถึงซึ้งมรรคผลนิพพานเถิด ขอให้สันติสุขเกิดขึ้นในพวกเราทั้งความคิดเห็นที่เหมือนกันและแตกต่างกันนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 02:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


cool คุณ MoSS ขอรับ

:b6: กระผมไปตั้งกระทู้ รอคุณ พลศักดิ์ มาตอบแล้ว ตามไปนะครับ
viewtopic.php?f=1&t=19600
Onion

อยากรู้ rolleyes อยากรู้ rolleyes อยากรู้ rolleyes อยากรู้ rolleyes อยากรู้ rolleyes

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาทักสวัสดีน้องคามินธรรม

สวัสดีครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร