วันเวลาปัจจุบัน 15 ต.ค. 2024, 20:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
พระธาตุ อัฐิธาตุ พระเกศา และมูลธาตุของหลวงปู่ขาว อนาลโย
ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล ตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู



พระธาตุหลวงปู่ขาว

หลวงปู่ขาว เป็นศิษย์ผู้ใหญ่อีกองค์หนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ

เมตตาธรรมของท่าน ซึ่งแผ่ให้แก่บรรดาบุคคลที่ไปกราบคารวะท่านนั้นใหญ่หลวงนัก ข้าพเจ้า (คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต) ได้เคยบันทึกเหตุการณ์บางช่วงบางตอนที่บังเอิญมีโอกาสได้ยินได้ฟัง ได้ประสบพบเห็นไว้แล้วในข้อความเล็กๆ ชิ้นหนึ่งชื่อ อนาลโยคุโณ ในหนังสืออนาลโยปูชา ซึ่งพิมพ์แจกในงานกฐินวัดถ้ำกลองเพล เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๒๗ ที่ผ่านมา ในที่นี้จึงขอกล่าวเฉพาะเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องอัฐิธาตุของหลวงปู่เท่านั้น

ในวันพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนั้น ปรากฏว่า

วัดถ้ำกลองเพลซึ่งมีอาณาบริเวณหลายพันไร่กลับแคบเล็กไปถนัดใจ ประชาชนจากทั่วทุกทิศานุทิศได้หลั่งไหลกันมาถวายสักการะสรีระร่างของท่านผู้ทรงศีลวิสุทธิ์เป็นคำรบสุดท้าย นับจำนวนหลายแสนคน เป็นประวัติการณ์สูงสุดของประเทศ


โดยที่ข้าพเจ้าทราบว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เก็บรักษาอัฐิของหลวงปู่รวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อจัดสร้างเจดีย์สำหรับเป็นที่สักการะของประชาชนไว้ ณ บริเวณหลังถ้ำกลองเพล

รุ่งขึ้นจากวันถวายเพลิง ข้าพเจ้าจึงไปกราบที่เมรุเป็นครั้งสุดท้ายอย่างไม่รีบร้อนอะไร เพราะคิดว่าทางราชการและทางวัดคงจัดเก็บอัฐิและอังคารผงถ่านไปหมดแต่กลางดึกแล้ว

หน้าที่ของข้าพเจ้าขณะนั้น มีเพียงไปดูความเรียบร้อยของการขนย้ายเต็นท์และเก้าอี้ ส่วนที่พวกเรานำไปจัดตั้งไว้แต่เมื่อวันวานต่างหาก

อย่างไรก็ดี เมื่อไปถึงเมรุได้เห็นเศษผงถ่านยังมีเหลือบ้างและเห็นเศษอิฐเล็กกระเด็นตกอยู่ข้างนอก

จากประสบการณ์ที่ศึกษาเรื่องอัฐิธาตุท่านพระอาจารย์จวน ทำให้ข้าพเจ้าเกือบจะรู้จัก “อัฐิ” หรือ “เศษปูน” สำหรับโบกเมรุเป็นอย่างดี

ตอนสายระหว่างทางกลับมาเต็นท์ที่เราไปตั้งโรงอาหารเลี้ยงผู้ไปในงาน พบเพื่อนคนหนึ่งเดินอยู่ จึงรับขึ้นมาบนรถ (ทางยาวเป็นกิโลๆ) เธอก็กรุณาแบ่งอัฐิที่เธอไปแย่งเก็บมาได้ในตอนเช้าให้ข้าพเจ้าอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งต่อมาข้าพเจ้าก็นำเก็บไว้บูชา

ต่อมาเมื่อมีภาระต้องเร่งจัดทำหนังสือ “อนาลโยปูชา” ดังกล่าวข้างต้น โดยที่เพิ่งเริ่มคิดจะทำหนังสือเพียงประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อนวันงานกฐิน เพราะบังเอิญไปพบภาพปาฏิหาริย์งานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ขาวเข้า (ความละเอียดในหนังสืออนาลโยปูชา)

การจัดทำหนังสือจำนวน ๑๒,๐๐๐ เล่ม พร้อมภาพ ๔ สี อีก ๑ ยกเศษ ให้เสร็จ พร้อมไปแจกที่วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี (จังหวัดหนองบัวลำภู ในปัจจุบัน) ในเวลา ๗ วัน แม้จะได้รับความร่วมมือจากโรงพิมพ์เพียงไร ก็ต้องทำงานแข่งกับเวลาอย่างที่สุด

โดยเฉพาะส่วนที่จะเป็น “อนาลโยคุโณ” นั้น เมื่อโรงพิมพ์เร่งทวงว่า ต้นฉบับอยู่ที่ไหน ? ข้าพเจ้าก็ต้องตอบว่า อยู่ที่นี่ แล้วก็เอามือชี้ที่ศีรษะตนเอง

ทั้งเลือกต้นฉบับเทศน์หลวงปู่ ตรวจปรู๊ฟ เลือกภาพประวัติ ส่งไปแยกสี เขียนคำบรรยายภาพ ตรวจความเรียบร้อย สารพัดงานที่จะต้องทำ รวมทั้งการนั่งลงเขียนอนาลโยคุโณด้วย !

ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเลย ที่ทุกคืนพวกเราแทบจะไม่ได้นอนเลยตลอดอาทิตย์ และจะพูดกันอย่างขันๆ ว่า “อาทิตย์นี้ (เวลา ๗ วัน) เราได้นอนตั้ง ๖ ชั่วโมง ๗ ชั่วโมงบ้าง ?”


โดยเฉพาะข้าพเจ้าซึ่งต้องตระเวนส่งเพื่อนรุ่นน้องที่กรุณาช่วยทำหนังสือ กลับมาถึงบ้านเป็นคนสุดท้าย !

คืนสุดท้ายที่หนังสือจะเสร็จนำส่งไปอุดรฯ ข้าพเจ้าจะล้มตัวลงนอนแล้ว ได้นึกรำพึงว่า

“เราเหนื่อยแทบจะขาดใจที่ทำหนังสือถวายบูชาพระคุณหลวงปู่เล่มนี้ หลวงปู่จะรู้ไหมหนอว่าลูกเหนื่อย เหนื่อยจริงๆ ไม่มีใครใช้ ไม่มีใครสั่ง แต่เราก็อยากทำให้ได้ที่สุด ให้พระบารมีและพระคุณานุคุณของหลวงปู่เจิดจ้ากระจ่างแก่ปวงชนชาวไทย หลวงปู่จะรู้ไหมหนอว่าลูกเหนื่อยแทบขาดใจทีเดียว”

คืนนั้น คิดอย่างไรไม่ทราบ แทนที่ข้าพเจ้าจะล้มตัวลงนอนตามความรู้สึกที่แสนเหนื่อยและเพลีย กลับยกถาดที่ใส่อัฐิหลวงปู่ขึ้นมาตั้งและกราบ

เมื่อเงยหน้าขึ้น ตามองไปที่จานแล้วที่ปกติใส่ดอกมะลิบูชาอัฐิหลวงปู่ ดอกมะลินั้นแห้งแล้ว บางส่วนกรอบจนเป็นผงป่นสีน้ำตาลแก่ เห็นแสงระยิบระยับสีขาวปลาบปนอยู่กับดอกมะลิที่แห้งกรอบนั้น ดูไหวตัวจนคิดว่าเป็นแมลงหรือหนอนแทรกอยู่ จึงเขี่ยดู...

ปรากฏเป็นพระธาตุลักษณะงามมาก หลากสี หลากสัณฐาน จึงซ้อนขึ้นมาใส่มือนับได้ ๙ องค์


ระหว่างที่นึกชื่นชมด้วยความปีติเพราะพระธาตุของทุกองค์เป็นเงาเลื่อมงามจริงๆ มีทั้งสีขาวสีมุกดา สีทองอุไร

มองไปที่จานแล้วใส่ดอกไม้อีก เห็นพระธาตุเพิ่มใหม่อีก ๓ องค์ ก็ช้อนมาใส่อุ้งมือ นับรวมกับของเก่าในมือได้ ๑๒ องค์ นึกว่าท่านช่างงามจริง แต่เมื่อมองกลับไปที่จานแก้ว อ้าว ! ท่านขึ้นมาอีก ๓ องค์ จึงตักขึ้นมาใส่มืออีก นับทวนเป็นทั้งหมด ๑๕ องค์ ลักษณะงามทุกองค์

จึงคิดว่า ขอให้ท่านเสด็จผุดขึ้นมาให้เห็นกับตาอีกครั้ง จึงจะเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่หลวงปู่รับรู้ว่าลูกเหนื่อยจริงๆ

พระธาตุก็ปรากฏขึ้นใหม่ในจานแก้ว เห็นผุดขึ้นกับตา ๑ องค์ สีทองอุไร จึงคิดว่าพอแล้ว ๑๖ องค์พอแล้ว เป็นโสฬสแล้ว ข้าพเจ้ากราบหลวงปู่ด้วยความรู้สึกปีติ ชื่นใจ หายเหนื่อย ความง่วง ความเพลียที่เคยรู้สึกมาทั้งอาทิตย์ ดูจะหายเป็นปลิดทิ้ง กลับรู้สึกแช่มชื่น มีกำลังวังชาไม่ง่วงเลย

รุ่งขึ้นนำไปให้เพื่อนๆ ที่ทำงานชื่นชมกันว่า พระธาตุเสด็จ หลวงปู่ส่งมาปลอบเราให้หายเหนื่อย (ขอโทษ เราบังอาจพูดกันเช่นนั้นจริงๆ)

แต่วิสัยคนขี้สงสัยก็บ่นกันอีก

“จริงอยู่ เป็นพระธาตุนั้นแน่แล้ว แต่เป็นพระธาตุของใคร ?”

ลักษณะเหมือนพระบรมสารีริกธาตุ แต่จะว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เหตุใดมาปรากฏในจานดอกมะลิบูชาหลวงปู่ และถ้าจะว่าเป็นพระธาตุหลวงปู่ เหตุใดลักษณะจึงคล้ายเมล็ดพันธุ์ผักกาด ซึ่งเป็นลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุ

(เดิมข้าพเจ้าเข้าใจว่า พระธาตุลักษณะเมล็ดพันธุ์ผักกาดทั้งหมดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ)

ระหว่างเราเถียงกันอยู่อย่างตกลงกันไม่ได้ ก็มีเส้นเกศาเส้นหนึ่งสีขาวปรากฏขึ้นทันทีในตลับใส่พระธาตุ ซึ่งปิดฝาแน่นอยู่ จึงร้องขึ้นว่า เส้นเกศาหลวงปู่เสด็จแล้ว คงเป็นพระธาตุของหลวงปู่แน่

วันรุ่งขึ้นหนังสือเสร็จ นำไปวัดถ้ำกลองเพลในคืนวันฉลองกฐิน และได้ถวายหนังสืออนาลโยปูชา

เมื่อนำพระธาตุและเส้นพระเกศาให้พระเณรวัดถ้ำกลองเพลชม ท่านพระอาจารย์บุญเพ็ง และท่านพระอาจารย์จันทาพิจารณาพักใหญ่ จึงรับว่าเป็นพระธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย จริง !


รูปภาพ
พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต

รูปภาพ
พระอาจารย์จันทา ถาวโร


:b8: :b8: :b8: ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุและอรหันตธาตุ
ของคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต โดยทองทิว สุวรรณทัต

จาก...หนังสือพระธาตุปาฏิหาริย์ ของนิตยสารโลกทิพย์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=21449

:b44: -------------------------------- :b44:

• รวมคำสอน “หลวงปู่ขาว อนาลโย”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43187

• ตำนาน “พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Relics)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=22328

• เหตุที่อัฐิกลายเป็นพระธาตุ มีช้ามีเร็วต่างกัน !?!
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=33571

• พระบรมสารีริกธาตุ (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=51360

• “พระสมเด็จนางพระยา” เสด็จมาที่ “ตำหนักคอยท่าปราโมช”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=52046

• พระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็น “พระธาตุเจดีย์”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=43001

:b44: -------------------------------- :b44:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2019, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2775


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2022, 13:24 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2885


 ข้อมูลส่วนตัว


อัศจรรย์ดีแท้ ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2022, 18:16 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร