วันเวลาปัจจุบัน 15 มิ.ย. 2025, 05:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2009, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


เอกสารประกอบการบรรยาย
AUTOGENIC TRAINING
AUTOGENIC TRAINING เปนศาสตรซึ่งประยุกตมาจากหลักการสะกดจิตซึ่ง Dr.Schultz
ไดพัฒนาขึ้นมาตั้งแตป ค.ศ. 1932 และเปนที่นิยมแพรหลายในยุโรปมากกวา 50 ป ในปจจุบันได
มีการนํามาดัดแปลงเพื่อทําใหประสิทธิภาพในการนําไปใชประโยชนตางๆ ไดดีขึ้น จากการ
ประเมินผลและการศึกษาวิจัยของสถาบันเพื่อการพัฒนาจิตและกายพบวา
AUTOGENIC
TRAINING เมื่อใชควบคูหลักการสมาธิและการพัฒนาสุขภาพรางกายใหแข็งแรงจะมีประโยชนใน
กรณีตางๆ ดังตอไปนี้คือ
1. ทําใหสมาธิและความจําดีขึ้น
2. เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน
4. ชวยทําใหคุณภาพชีวิตในภาพรวมดีขึ้น
5. ชวยระงับอารมณเศราโศกเสียใจจากการสูญเสียสิ่งที่รัก
6. เพิ่มแรงจูงใจและความกระตือรือรน
7. แกปญหาเรื่องนอนไมหลับ
8. ชวยบรรเทาอาการปวด
9. ขจัดความวิตกกังวลและความรูสึกซึมเศรา
10. บรรเทาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน และอาการปวดเรื้อรังตางๆ
11. บรรเทาอาการภูมิแพ
12. ขจัดนิสัยที่ไมดีออกไป
13. เลิกบุหรี่
14. ควบคุมน้ําหนักตัว
15. เปนคนอารมณดีอยูเสมอ สดชื่นแจมใส และสามารถปรับเปลี่ยนขอมูลใหกับจิตใต
สํานึกไดดวยตนเอง
________________________________________
Page 2
AUTOGENIC TRAINING
การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตรเกี่ยวกับ AUTOGENIC TRAINING
ในการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตรเกี่ยวกับ AUTOGENIC TRAINING ไดมีการ
คิดขบวนการโดยหลายขบวนการดังตอไปนี้
1. การศึกษาคลื่นสมอง และ IMAGING TECHNIQUES
การตรวจวัดคลื่นสมองหรือที่เรียกวา EEG (Electroencephalogram) ไดมีการนํามาใชวัด
การเปลี่ยนแปลงในชวงที่จิตอยูในภวังค (trance) และถูกสะกดจิต (hypnosis) หลักของ EEG
เครื่องวัดความแตกตางในศักยภาพของกระแสไฟฟา (potential differences) ในบริเวณหนังศีรษะ
ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของกระแสไฟฟาในสมอง โดยใชชวงอิเล็คโทรนิคในบริเวณหนังศีรษะ และ
สามารใชบันทึกสภาวะทางจิตใจไดวาอยูในภาวะตื่นตัวหรือหลับ และกําหนดชวงความถี่ของคลื่น
ตามอักษรกรีกเปน alpha, beta, delta และ theta ในภาวะที่จิตอยูในภวังคหรือถูกคลื่นสมองจะ
อยูในชวง alpha waves หรือ theta waves ซึ่งจะบงบอกถึงภาวะที่ผอนคลายมากกวาในชวงของ
การนอนหลับปกติ กลามเนื้อจะมีการผอนคลายอยางเต็มที่ และการทํางานของระบบประสาท
อัตโนมัติจะมีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งการทํางานของระบบประสาทซิมพาเทติกและพาราซิมพาเท
ติกจะทํางานกันอยางสมดุลย
ในระยะหลังไดมีการนําเอาเทคนิค MAGNETIC RESONANCE IMAGING (MRI) และ
POSITRON EMISSION TOMOGRAPHY (PET) scans มาใชในการวัดการเผาผลาญพลังงาน
และการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของเซลลสมอง ผลการวิจัยแสดงใหเห็นอยางชัดเจน ในชวงที่จิต
อยูในภวังคจะมีการลดการทํางานของสมองซีกซายในขณะที่การทํางานของสมองซีกขวาเพิ่มขึ้น
อยางชัดเจน ซึ่งก็ตรงกับขอมูลที่มีการเสนอแนะวาการทํางานของจิตสํานึกเกี่ยวกับสมองซีกซาย
และจิตใตสํานึกเกี่ยวกับสมองซีกขวา ดังนั้นการที่จะสื่อกับจิตใตสํานึกตองกระทําในขณะที่
จิตสํานึกทํางานนอยลงกอน นอกจากนั้นยังพบวาสมองสวน LIMBIC SYSTEM ที่เกี่ยวของกับ
อารมณจะถูกกระตุนใหทํางานมากขึ้นในภาวะการสะกดจิต และเปนขอยืนยันวาจะทําใหเขาใจถึง
สภาวะทางอารมณไดอยางชัดเจนขึ้นเมื่อจิตอยูในภวังค สิ่งที่นาสนใจคือการทํางานของสมองใน
หลายชวงไมวาจะเปนการควบคุมการมองเห็น การไดยิน และการวาดจินตนาการจะทํางานได
อยางมีประสิทธิภาพขึ้นดวย
________________________________________
Page 3
2. การศึกษาดาน PSYCHONEURO IMMUNOLOGY
ในการศึกษาการทํางานของสมองและระบบภูมิคุมกันโรคพบวา การทํา autogenic
training จะมีการกระตุนใหเซลลเม็ดเลือดขาวชนิด T cells มีประสิทธิภาพในการทําลายเชื้อโรค
และเซลลมะเร็งมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลตอ hypothalamus ตอมใตสมองและการทํางานของ
ตอมไรทอชนิดตาง ๆ ใหมีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งจะเปนผลใหประสิทธิภาพในดานสุขภาพมากมาย
หลายประการ
3. การศึกษาดาน ENERGY MEDICINE
ENERGY MEDICINE เปนการศึกษาวิจัยที่วาดวยปรากฎการณพลังงานแมเหล็กไฟฟาที่
จีนเรียกวาชี่ และการแพทยแผนไทยและอินเดียเรียกวาพลังปราณ ซึ่งพลังดังกลาวเกิดจากการ
สั่นสะเทือนของอิเล็คตรอน
รอบนิวเคลียรของอะตอม ในปจจุบันเทคนิคภาพถายออรา
KERLIAN PHOTOGRAPHY ทําใหสามารถถายภาพออราของมนุษยไดและเมื่อเปรียบเทียบกอน
และหลังการฝก autogenic training จะพบวาพลังออราเรียงเปนระเบียบและมีพลังงานมากขึ้น
ขั้นตอนในการฝก AUTOGENIC TRAINING
การฝก AUTOGENIC TRAINING จะมีขั้นตอนตามแนวทางการสะกดจิตเพียงแตผูฝกจะ
เปนผูกําหนดใหใหเกิดสภาวะตางๆดวยตนเอง และไมตองใหผูอื่นมาทําหนาที่สะกดจิตตน
1. การชักนํา(INDUCTION)
ขั้นตอนนี้เปนขบวนการทําใหรางกายและจิตใจผอนคลาย โดย RELAXATION
TECHNIQUES อาทิเชน การฝกการหายใจอยางถูกวิธีการผอนคลายกลามเนื้อเปนขั้นตอน
(PROGRESSIVE MUSCLE RELAXATION)
2. ทําใหจิตอยูในภวังค(Trance)
ในขั้นตอนนี้จะเปนชวงที่สมองอยูในชวงคลื่นALPHA WAVE และจะอาศัยขบวนการวาด
จินตนาการ (VISUALIZATION) โดยเฉพาะอยางยิ่งการวาดภาพการลงจากที่สูง เชน จาก ลิฟท
ขั้นที่20 และคอย ๆลงตอจนถึงชั้นลางสุด ซึ่งการทําเชนนี้จะทําใหจิตอยูในภวังคไดงาย
________________________________________
Page 4
3. การปอนโปรแกรมจิตใตสํานึก(POST-HYPNOTIC SUGGESTIONS)
ในขึ้นตอนนี้ผูฝกจะสามารถปอนโปรแกรมใหจิตใตสํานึกทํางาน เพื่อพัฒนาตนเองและ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหเหมาะสมยิ่งขึ้นซึ่งหากกระทําไดอยางเหมาะสมจะสามารถพัฒนาตนเอง
ไดภายในชวงระยะเวลา 21-28 วัน
4. การยุติโปรแกรม(TERMINATION)
เมื่อจะเลิกโปรแกรม AUTOGENIC TRAINING จะเริ่มตนดวยการนับเลขยอนกลับนํา
จาก 1 – 10 และทําใหรางกายทุกสวนตื่นตัว ซึ่งเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมจะมีความรูสึกสดชื่น
แข็งแรงโดยทันที
คําถามเกี่ยวกับAUTOGENIC TRAINING
เนื่องจากขบวนการ AUTOGENIC TRAINING เปนขบวนการสะกดจิตตนเองจึงมักจะมี
คําถามบอยๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งตอไปนี้จะไดรวบรวมคําถามที่วิทยากรของสถาบันฯ มักจะถูก
ถามอยูเสมอ
คําถามที่ 1 การฝก AUTOGENIC TRAINING มีอันตรายหรือไม?
การสะกดจิตตนเองโดยอาศัยวิธี AUTOGENIC TRAINING เปนวิธีที่มีความปลอดภัยสูง
มากขึ้นทั้งนี้เพราะจะใชกลไกที่ปกติรางกายจะมีเกิดขึ้นอยูแลว ดังที่ไดกลาวมาแลวขางตนวาใน
การที่จะฝกไดผล สมองจะตองอยูภายใตการทํางานในระดับคลื่นอัลฟา ซึ่งภาวะนี้จะเกิดขึ้นเปน
ปกติเมื่อเรานอนหลับทุกวันและในยามที่ฝนกลางวัน ในขบวนการฝกในหลักสูตรกลยุทธสูความสุข
ความสําเร็จ ทางสถาบันฯ ยังไดใชเครื่อง MIND MONITOR คอยประเมินวา ผูรับการอบรมจะเกิด
สัมฤทธิ์ในการฝกหรือไมและวิทยากรจะคอยใหคําแนะนําเพื่อใหผูเขารับการอบรมทุกคนปฏิบัติได
อยางถูกตอง
ในภาวะของการสะกดจิตตนเองจะไมมีผูใดที่ประสงคจะกระทําในสิ่งที่ตนเองไม
ตองการนอกจากนี้ขบวนการ AUTOGENIC TRAINING ยังเปนศาสตรที่มีการใชกันอยาง
แพรหลายและมีผูเคยผานการอบรมในลักษณะเชนนี้มาแลวหลายลานคนทั่วโลก จึงเปนการยืนยัน
ถึงความปลอดภัยไดดีเปนอยางยิ่ง
________________________________________
Page 5
คําถามที่ 2 การฝก AUTOGENIC TRAINING ดวยตนเองจะมีประสิทธิภาพเหมือนกับถูกสะกด
จิตโดยบุคคลอื่นหรือไม?
การฝก AUTOGENIC TRAINING จะมีประสิทธิภาพใกลเคียงกับการถูกสะกดจิตโดย
ผูเชี่ยวชาญ ถึงแมวาการถูกสะกดจิตโดยผูที่มีประสบการณและความเชี่ยวชาญอยางแทจริงใน
บางกรณีอาจจะไดผลดีกวา
แตพึงระลึกไวดวยวาการปลอยใหถูกสะกดจิตโดยบุคคลอื่นที่ไมมี
ความเชี่ยวชาญอยางแทจริงอาจกอใหเกิดอันตรายและผลขางเคียงได
นอกจากนี้การฝก
AUTOGENIC TRAINING ดวยตนเองยังสามารถฝกปฏิบัติไดโดยไมตองพึ่งพาผูอื่น และยังไม
จําเปนตองจายคาตอบแทนแกนักวิชาชีพสะกดจิตในบางครั้ง
คําถามที่ 3 การฝก AUTOGENIC TRAINING เปนประจําจะทําใหเปนคนที่ถูกชักจูงไดงายจริง
หรือไม ?
เนื่องจากการฝก AUTOGENIC TRAINING เปนการตอบสนองตอการชักนําของตนเอง
ดังนั้นจึงเปนสิ่งที่ดีสําหรับตนเองที่จะเรียนรูการควบคุมตนเองใหอยูในทิศทางที่ถูกตองใน
ขณะเดียวกันยังจะชวยใหมีแรงตานที่จะถูกผูอื่นชักจูงไปในทิศทางที่เหมาะสม อยางไรก็ตามเมื่อ
ผานการอบรมหลักสูตรนี้แลวผูเขารับการอบรมควรจะตองมีความสนใจและรักที่จะฝกตอเนื่อง
อยางสม่ําเสมอวันละอยางนอย2-3 ครั้ง โดยใชเวลาเพียงครั้งละประมาณ 5 นาทีเทานั้น
คําถามที่ 4 ในชวงฝก AUTOGENIC TRAINING จะหมดสติหรือไม?
ในชวงฝกปฏิบัติแมวาบางคนดูเสมือนวาจะหลับไปแตอันที่จริงแลวยังมีสํานึกรับรูอยูและ
จิตใตสํานึกยังทํางานไดโดยอัตโนมัติ เชนเดียวกับเวลาที่เราขับรถจิตใตสํานึกจะคอยสั่งการใหเรา
ถือพวงมาลัยเหยียบคันเรงหรือเหยียบเบรคตามเสนทางของถนนอยางเหมาะสม
คําถามที่ 5 จะมีโอกาสไหมที่ภายหลังการเสร็จสิ้นการฝกแลวจะไมสามารถตื่นขึ้นมาได ?
เปนไปไมไดเลยที่จะมีผูใดถูกสะกดจิตใหหลับตอเนื่องไปโดยตลอด
เราตองใชความ
พยายามอยางมากในการที่จะเขาสูภวังคหรือทําใหสมองอยูในระดับ อัลฟา แตเปนเรื่องที่งายมาก
ที่จะปลอยใหภาวะจิตกลับมาสูระดับปกติ อยางมากที่สุดในบางคนอาจจะทําใหเกิดภาวะที่สูการ
นอนหลับปกติและในที่สุดก็จะตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับเชนเดียวกัน
คําถามที่ 6 ผูที่ฝก AUTOGENIC TRAINING จะประสบความสําเร็จหรือไม?
จากประสบการณการฝกอบรมของวิทยากรพบวาทุกคนที่ผานการฝกอบรม
AUTOGENIC TRAINING จะสามารถสื่อกับจิตใตสํานึกได ซึ่งเครื่องมือ MIND MONITOR จะ
ชวยในการประเมินวาผูเขารับการอบรมจะสามารถฝกจิตไดประสบความสําเร็จหรือไม โดยสรุป
อาจกลาวไดวาทุกคนภายใตการควบคุมของวิทยากรจะประสบความสําเร็จได เพียงแตบางคนจะ
ไดผลเร็วหรือชาตางกันเทานั้น
________________________________________
Page 6
คําถามที่ 7 การสะกดจิตตนเองและการฝกสมาธิแตกตางกันหรือไม?
มีความแตกตางกันบางทั้งนี้เพราะการฝกสมาธิคือ การทําใหจิตรวมเปนหนึ่งเดียวกันแต
การสะกดจิตตนเองแบบ AUTOGENIC TRAINING จะสงผลใหจิตใตสํานึกมีภารกิจที่จะตอง
กระทํา นอกจากนี้การตรวจคลื่นสมองในภาวะการสะกดจิตตนเองและการฝกสมาธิ ที่สถาบันฯ ได
ทําการศึกษาวิจัยปรากฎวามีความแตกตางกันทั้งในรายละเอียดอยางไรก็ตามในหลักสูตรนี้ผูเขา
รับการอบรมยังไดประโยชนจากการฝกสมาธิควบคูไปกับการฝก AUTOGENIC TRAINING ดวย
คําถามที่ 8 ในการที่ฝก AUTOGENIC TRAINING จะกระทําไดเฉพาะผูที่มีความเชื่อเทานั้น
หรือไม?
ไมจําเปนทั้งนี้เพราะการประสบความสําเร็จในการสื่อกับจิตใตสํานึกไมมีความสัมพันธแต
ประการใดเกี่ยวกับระดับความเชื่อของบุคคลนั้นๆ
ปรากฏวามีบุคคลจํานวนมากที่ฝกไดสําเร็จ
อยางงายดายทั้งๆ ที่ไมมีความเชื่อถือในเรื่องการสะกดจิตเลยแมแตนอย
คําถามที่ 9 ตองใชเวลามากนอยแคไหนจึงจะประสบความสําเร็จและไดประโยชนจากการฝก
AUTOGENIC TRAINING?
การฝกฝนเพื่อใหเกิดความชํานาญจะตองกระทําอยางสม่ําเสมอ หากผูเขารับการอบรม
นําเทคนิคที่ไดรับการแนะนําไปฝกปฏิบัติอยางสม่ําเสมอจะทําใหมีความชํานาญและจะใช
ระยะเวลาในแตละวันสั้นลงเรื่อยๆ
โดยทั่วไปหากหวังผลที่จะเกิดขึ้นจากการฝกมักจะประสบ
ความสําเร็จชัดเจนภายในระยะเวลา 21 วันเมื่อปฏิบัติตอเนื่อง
คําถามที่ 10 หากมีปญหาพรอมๆ กันหลายเรื่องจะแกไขโดยการฝก AUTOGENIC TRAINING
ไดผลในทุกๆ เรื่องหรือไม?
ในกรณีที่มีปญหาพรอมกันหลายๆ เรื่องโดยทั่วไปควรทําการแกไขปญหาทีละเรื่องโดยเริ่ม
จากปญหาที่งายที่สุดใหหมดไปทีละเรื่องจะไดผลดีกวา
________________________________________
Page 7
การฝก AUTOGENIC TRAINING
ในการฝก AUTOGENIC TRAINING ตองอาศัยเทคนิคและขั้นตอน 5 ประการคือ การ
เตรียมการ การฝกผอนคลาย การเขาสูภวังคลึก การปอนขอมูลจิต และการยุติขบวนการฝก ซึ่งจะ
ไดกลาวถึงในรายละเอียดตอไป
1. การเตรียมการ
ในการฝก AUTOGENIC TRAINING ควรมีการวางแผน และวิจัยในการฝกฝนอยางที่
สามารถจะกระทําไดอยางตอเนื่อง ควรเริ่มตนโดยการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการปฏิบัติ ควร
เลือกชวงเวลาที่ดีที่สุดในแตละวันที่จะไมออนเพลียมากเกินไป และควรมีความตื่นตัวพอสมควรใน
การฝกปฏิบัติ หากชวงเชาเปนเวลาที่สะดวก อาจจะเริ่มฝกเมื่อตอนตื่นนอนใหมๆ กอนลุกจากที่
นอน หรือหากเวลากอนนอนเหมาะสมอาจใชเวลาสั้นเพื่อชวยใหหลับสบายดีขึ้น อยางไรก็ตามควร
เลือกเวลาที่ปราศจากการรบกวนจากบุคคลอื่นและสิ่งแวดลอมภายนอกจะดีที่สุด ทาที่ใชในการ
ฝกอาจเปนทานั่งหรือทานอนในอิริยาบทที่สบายก็ได และหากมีเสียงรบกวนอาจใชอุปกรณปดหู
เพื่อใหเกิดความสงบมากขึ้นก็ได นอกจากนี้การใชเสียงเพลงที่เหมาะสมและการใหกลิ่นหอมบาง
ชนิดอาจมีผลชวยทําใหการฝกปฏิบัติงายขึ้น
2. การฝกผอนคลาย
เปนขั้นตอนที่สองซึ่งตองฝกปฏิบัติเพื่อใหเกิดการผอนคลายของทุกสวนของรางกายและ
ขจัดความเครียดออกไป โดยปกติจะเริ่มฝกโดยการฝกหายใจเขาออกลึกๆ 2-3 ครั้ง ซึ่งในหลักสูตร
นี้จะไดมีการฝกฝนตามแนวหัตธาโยคะ (Hatha Yoga) ทุกครั้งที่หายใจออกใหวาดจินตนาการวา
ความเครียดกําลังถูกขจัดออกไปทุกลมหายใจออกในการผอนคลายกลามเนื้อ ทุกสวนของรางกาย
จะเริ่มจากบริเวณศีรษะลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปลายแขนและเทา การเกร็งกําลังกลามเนื้อและ
คลายออกเปนวิธีหนึ่งที่จะชวยใหเกิดการผอนคลายไดเร็วขึ้น ขั้นตอนนี้มีความสําคัญในการฝก
AUTOGENIC TRAINING อยางมากและบางคนอาจใชเวลาแตกตางกันขึ้นอยูกับประสบการณ
และความชํานาญ ซึ่งบางครั้งก็ใชเวลานานถึงครึ่งชั่วโมง ในขณะที่บางคนใชเวลาเพียง
2-3
วินาทีเทานั้น
________________________________________
Page 8
3. การเขาสูภวังคลึก
เปนขบวนการที่จะเกิดขึ้นหลังจากการฝกผอนคลายแลว จิตจะเขาสูภวังคลึกพรอมรับการ
ปอนขอมูล ในการฝกขึ้นตอนนี้การนับจํานวนเลขจากมากมาหานอยจะเปนวิธีการที่ไดรับความ
นิยมมากที่สุดการวาดจินตภาพที่ดีจะทําใหจิตเขาสูภวังคไดดีขึ้น การวาดภาพลงจากลิฟทหรือลง
จากบันไดจะเปนเทคนิคที่ชวยเขาสูภวังคไดเร็ว ในหลักสูตรนี้วิทยากรจะไดแนะนําเทคนิคที่ชวยชัก
นําใหผูเขารับการอบรมใหเขาสูภวังคไดลึกพอเพียง
4. การปอนขอมูลจิต
เปนขบวนการที่จะกระทําไดตอเมื่อสมองอยูในระดับอัลฟาและอยูในภวังคลึกพอที่จะปอน
ขอมูลใหจิตใตสํานึกไดงาย ขอความที่ใชควรเปนขอความที่กระทัดรัดเขาใจไดงายและจดจําไดไม
ยากนัก ควรเปนขอความที่ระบุสรรพนามของตนเองและกําหนดใหอยูในปจจุบันและไมใชขอความ
ในเชิงปฏิเสธ การเลือกขอความมีความสําคัญที่จะทําใหเห็นผลเร็ว และถาหากใชขอความ
ดังกลาวแลวไมเห็นผลควรจะเปลี่ยนมาใชความใหมแทน ในหลักสูตรนี้วิทยากรผูเชี่ยวชาญจะให
คําปรึกษาในการหาขอความที่เหมาะสมสําหรับปญหาแตละบุคคล นอกจากนี้การใชจินตภาพหรือ
การคิดเปนภาพก็เปนการปอนขอมูลใหประทับลงสูจิตใตสํานึกไดอยางแนนแฟนและไดผลดี
เชนกัน ซึ่งการปอนขอมูลในแตละครั้งควรมีทั้งขอความและจินตภาพพรอมกันจะไดผลดีที่สุด
5. การยุติขบวนการฝกจิต
ซึ่งควรจะทําเปนขั้นตอนสุดทายในการฝก AUTOGENIC TRAINING ไมควรเพียงแตจะ
เปดตาและลุกไปเลย การยุติขบวนการฝก เปนขั้นตอนจะทําใหสามารถแยกแยะระดับของจิตที่อยู
ในภวังค
กับภาวะที่มีสติสัมปชัญญะไดอยางชัดเจน ซึ่งอาจเรียกวาเปนการปลุกใหตื่นจาก
ภวังคนั่นเองในกรณีที่ฝก AUTOGENIC TRAINING กอนนอนและหลับตอจากนั้นก็ยังควรที่จะ
แยกใหออกจากภาวะการสะกดจิตแลวเขาสูภาวะนอนหลับตามธรรมชาติ
การทําเชนนี้จะชวย
หลีกเลี่ยงไมใหเกิดการนอนหลับเปนนิสัยเมื่อฝก โดยทั่วไปเมื่อเสร็จสิ้นการฝกควรกําหนดจิตวาจะ
ตื่นตัวเต็มที่เมื่อนับขึ้นจาก 1 ถึง 5 หรือ10 ยกเวนในยามนอนอาจกําหนดใหเขาสูภาวะการนอน
หลับเปนธรรมชาติเมื่อสิ้นสุดการนับก็ได
________________________________________
Page 9
ขั้นตอนการฝก
AUTOGENIC TRAINING
1. ฝกปราณ
2. เกร็งกําลัง
3. ผอนคลาย
4. จินตนาการวากําลังลงจากที่สูงโดยนับถอยหลังจาก 20-0
5. ปอนขอมูลใหจิตใตสํานึก(ในสิ่งที่ทานปรารถนา)
6. ปลุกใหตื่น
1-2-3 แขนขามีกําลังกลับคืนมา
4-5-6 ทั่วทั้งรางกายมีกําลังกลับคืนมา
7-8-9 สมองสดชื่นแจมใส จิตใจเบิกบาน
เมื่อไดยินเสียงนับ10 ใหตื่นลืมตาขึ้นสมอง สดชื่นแจมใส
กฎ 10 ประการ
สําหรับปอนขอมูลใหจิตใตสํานึก
1.
ใชคําสั่งที่เปนปจจุบันกาล(ไมใชคําวา“จะ”)
2.
ตองเปนคําสั่งเชิงบวก (ไมใชคําวา“ไม”)
3.
ควรปอนขอมูลใหกับจิตฯครั้งละ 1 ไมเกิน3 คําสั่ง
4.
มีรายละเอียดบางตามสมควร มีความหมายตรงๆ
5.
ใชคําพูดงายๆไมกํากวม
6.
ใชคําพูดที่ตื่นเตน มีชีวิตชีวาและประทับใจ
7.
ขอมูลที่ปอนใหกับจิตใตสํานึก ควรมีความเปนไปได
8.
การปอนขอมูลตองปอนใหกับตนเอง และคนใกลชิดเทานั้น
9.
ขอมูลที่ปอนตองประกอบดวยสัมผัสทั้ง 5 (รูปรสกลิ่นเสียง สัมผัส) จะไดผลเร็ว
10.
ควรปอนขอมูลขณะที่ฝกAUTOGENIC TRAININGในขั้นตอนที่ 5ขณะที่อยูในอัลฟา

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2009, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2011, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2006, 22:43
โพสต์: 29

โฮมเพจ: http://www.thaimillionaire.net
อายุ: 0
ที่อยู่: กรุงเทพ

 ข้อมูลส่วนตัว www


แต่ภาษาเรื่องโปรแกรมจิตข้างบนดูจะอ่านยากมากเลยนะครับ เหมือนระบบ code html error แต่การโปรแกรมจิตก็สามารถทำให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้มากนะครับ ต้องลองทำดูสักประมาณ 21 วัน แล้มันจะเปลี่ยนแปลง เค้าว่าไว้อย่างงั้นนะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร