วันเวลาปัจจุบัน 05 ส.ค. 2025, 15:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2011, 00:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


อธิษฐานจิต เริ่มชีวิตใหม่... โดย พระธรรมโกศาจารย์

แนบไฟล์:
พระธรรมโกศาจารย์.jpg
พระธรรมโกศาจารย์.jpg [ 35.22 KiB | เปิดดู 2129 ครั้ง ]

เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่คนเราต้อนรับชีวิตใหม่ในปีใหม่และอำลาชีวิตเก่าในปีเก่า.. นี่เป็นเรื่องของจิตใจที่ให้ความสำคัญแก่ปีเก่าปีใหม่ เรากำหนดเดือนธันวาคมที่สิ้นสุดลงไปนั้นว่าเป็นการสิ้นปีเก่า และการเริ่มเดือนมกราคมเป็นปีใหม่ แต่ละคนมีความคิดว่า ชีวิตในปีใหม่น่าจะดีกว่าชีวิตในปีเก่า
คนทั่วโลกถือว่า ปีใหม่เริ่มต้นในเดือนมกราคม ภาษาอังกฤษเรียกเดือนมกราคมว่า Januaryโดยถือคติตามตำนานของเทพเจ้าโรมัน ที่ชื่อว่า Janus (เจนัส) ชื่อของเทพเจ้าเจนัสนี้เป็นที่มาของคำว่าJanuary (มกราคม)ในภาษาอังกฤษ
เจนัสเป็นเทพเจ้าโรมันที่มีใบหน้าสองหน้าซึ่งมองในทิศทางที่ตรงกันข้าม ใบหน้าด้านหนึ่งมองไปข้างหน้าคือมองอนาคต อีกใบหน้าหนึ่งมองไปข้างหลังคือมองอดีต

แนบไฟล์:
เหรียญสองหน้า.jpg
เหรียญสองหน้า.jpg [ 37.45 KiB | เปิดดู 2129 ครั้ง ]

พอถึงวันขึ้นปีใหม่ คนเรากำลังยืนอยู่ระหว่างปีเก่าต่อกับปีใหม่ คือวันที่ ๓๑ ธันวาคมเป็นปีเก่า ส่วนวันที่ ๑ มกราคมเป็นปีใหม่ เราต้องมองสองด้านเหมือนเทพเจ้าเจนัส คือเหลียวหลังแลหน้าไปพร้อมกัน ด้านหนึ่งเราหันกลับไปดูอดีตซึ่งอยู่ข้างหลัง และอีกด้านหนึ่งเรามองไปในอนาคตข้างหน้า สิ่งที่ควรทำในช่วงปีใหม่นี้ก็คือ มองไปข้างหน้าด้วยความหวัง มองกลับข้างหลังด้วยความภูมิใจ
เมื่อมองย้อนไปในปีเก่า เราพบว่าชีวิตเรามีอะไรที่น่าพอใจ เราก็เกิดความภาคภูมิใจและเก็บไว้ในความทรงจำ จากนั้นให้นำเอาความทรงจำที่ดีในปีเก่าติดตามไปทำซ้ำในปีใหม่ด้วย อะไรที่เป็นความไม่ดีในปีเก่า เราจะไม่นำติดตัวไปสู่ปีใหม่ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้สามารถกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยการอธิษฐานจิตว่า เราจะทิ้งความไม่ดีไว้กับปีเก่า และจะนำเอาความดีไปเริ่มชีวิตใหม่ในปีใหม่
ปีใหม่เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีถ้าเพียงแต่เรารู้จักตั้งจิตอธิษฐานว่า ปีใหม่ต้องดีกว่าปีเก่า การอธิษฐานก็คือการสำรวมใจคิดถึงเป้าหมายใหม่ที่พึงประสงค์ในปีใหม่ และหวังใจว่าเราจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น เรา ฝันให้ไกล ไปให้ถึง

ในช่วงปีใหม่คนเรามักจะตั้งจิตอธิษฐานอย่างนี้ คำอธิษฐานจะเป็นจริงต่อเมื่อเราทำบุญประกอบด้วย
นั่นคือ เราต้องทำบุญและตั้งจิตอธิษฐานไปพร้อมกัน พลังบุญกุศลจะจัดสรรให้สำเร็จสมตามที่ตั้งจิตอธิษฐาน
ในคติทางพระพุทธศาสนา เวลาอธิษฐานขอพรใดก็ตาม ต้องทำบุญประกอบด้วยเสมอ เพื่อให้พลังบุญหนุนส่งให้สำเร็จตามที่เราตั้งจิตอธิษฐานไว้ นี่คือการเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนความสำเร็จอีกครึ่งหนึ่งมาจากความพยายามทำตามคำอธิษฐานนั้น
ความสำเร็จเกิดจากความพยายามของมนุษย์ก็จริง แต่สถานการณ์ก็ต้องเป็นใจด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ”
วีรบุรุษไม่ได้สร้างสถานการณ์ แต่สถานการณ์ต้องการความเก่งของคนบางคนและเขาออกไปแสดงฝีมือในสถานการณ์นั้นพอดี เขาจึงกลายเป็นวีรบุรุษบางคนเป็นคนดีมีฝีมือ แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจ เขาก็ไม่ได้เป็นวีรบุรุษ แต่กลายเป็นคนดีที่โลกไม่ต้องการ
ความสำเร็จของชีวิตจึงต้องอาศัยองค์ประกอบ ๓ ประการ ดังนี้

๑. ปฏิรูปเทศวาสะ อยู่ในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยให้เราได้แสดงฝีมือ
๒. อัตตสัมมาปณิธิ เราดำเนินชีวิตดีมีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะเปล่งประกายเมื่อสถานการณ์เป็นใจ
๓. ปุพเพกตปุญญตา หมั่นทำบุญไว้สม่ำเสมอ พลังบุญก็จะจัดสรรให้สถานการณ์เป็นใจ ดังคำกล่าวที่ว่า

“ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์ ยามบุญลงหงสาเป็นกาไก่”


ดังนั้น เวลาที่เราทำบุญต้องตั้งจิตอธิษฐานเสมอเพื่อให้สถานการณ์เป็นใจเหมือนกรณีของพระสุเมธดาบสที่ได้ทำบุญใหญ่ คือสร้างทางถวายพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร แต่พระดาบสก็ทำทางเสร็จ ไม่ทันการมาถึงของพระพุทธเจ้า พระดาบสจึงได้สละเอาตัวเองนอนทอดเป็นสะพานให้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้เหยียบข้ามพ้นโคลนตมไป

เมื่อได้ทำบุญใหญ่ขนาดนี้ พระสุเมธดาบสได้ตั้งจิตอธิษฐานขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนพระพุทธเจ้าทีปังกรพระองค์นั้น จากนั้นก็ตั้งใจบำเพ็ญบารมีต่อเนื่องมาอีกนับชาติไม่ถ้วนจนได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มีพระนามว่า สิทธัตถะ โคตมะ นั่นคือพระพุทธเจ้าของเรานั่นเอง
อย่าลืมหาเวลาไปทำบุญไหว้พระในวันปีใหม่ เมื่อทำบุญแล้วก็อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานขอพร บางคนสงสัยว่าจะอธิษฐานขอพรปีใหม่ในเรื่องอะไรดี
เคยมีคนทำวิจัยเรื่องคำอธิษฐานขอพรปีใหม่แล้วพบว่า คำอธิษฐานยอดนิยมของคนเราแบ่งเป็น ๓ ประเภทก็คือ ละความชั่ว ทำความดี มีความสำเร็จ
คนที่อธิษฐานละความชั่วส่วนใหญ่ต้องการเลิกละนิสัยที่ไม่ดีของตน เช่น ลดน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา เลิกเล่นการพนัน รวมทั้งเลิกเป็นหนี้สิน นั่นคือเลิกนิสัยที่ไม่ดีของตน ดังภาษิตอุทานธรรมที่ว่า....

ปิ้งปลาหมอง้อแล้วกลับนี้คำขำ
เจ็บแล้วจำใส่กระบาลนี่ขานไข
ผิดแล้วแก้กลับตัวเปลี่ยนหัวใจ
จะมีใคร มาวอนไม่สอนตน

เพราะฉะนั้น
ปีใหม่จึงเป็นวาระที่เราจะอธิษฐานให้กลับจิต กลับใจ กลับกาย กลับตัว กลับหางกลับหัว กลับชั่วให้เป็นดี เลิกละสิ่งที่ไม่ดี แล้วเริ่มทำความดี

ถ้าเคยขัดแย้งกันทะเลาะกันเพราะสีต่างกัน ก็อธิษฐานจิตให้ลืมและให้อภัยกัน หันกลับมารักกันเหมือนเดิมปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่คนเราจะลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไว้กับปีเก่าถ้าไม่มีการให้อภัยผิด และไม่คิดที่จะลืมซึ่งความหลัง จะหาสามัคคียากลำบากจัง ความผิดพลั้งย่อมมีทั่วทุกตัวคน
ประโยชน์อะไรกับการส่ง ส.ค.ส. พอเป็นพิธี แต่ไม่มีไมตรีจิตคือปรารถนาดีอย่างจริงใจ การส่งความสุขที่แท้จริงอยู่ที่การส่งความรักและปรารถนาดีต่อกัน
ประการต่อมา คนที่อธิษฐานทำความดีมักจะเน้นเรื่องให้ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว คือจะให้เวลาแก่คนรักหรือแก่ครอบครัวมากขึ้น บางคนตั้งใจจะอุทิศเวลาให้กับงานในหน้าที่หรืองานอาสาสมัครมากขึ้น บางคนอธิษฐานเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง เช่นการไปศึกษาหาความรู้หรือประสบการณ์เพิ่มเติม ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนงานใหม่
ประการสุดท้าย คนที่อธิษฐานขอความสำเร็จในชีวิตมักมุ่งไปที่ผลลัพธ์ เช่น ขอให้หล่อ ขอให้รวย ขอให้สวย ขอให้เก่ง ซึ่งเป็นการขอพรแบบเน้นเป้าหมายแต่ไม่พูดถึงวิธีการ คือเป็นการขอพรแบบนอนรอโชคชะตาจึงมักจะไม่สมปรารถนา เพราะขาดขั้นตอนของการลงมือทำที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น อย่าลืมว่า พรใดๆก็ไร้ค่า ถ้าไม่ลงมือทำ

การตั้งจิตอธิษฐานต้องทำอย่างฉลาดจึงจะสำเร็จตามมโนปณิธานที่ตั้งไว้ นั่นคือการอธิษฐานที่ฉลาดต้องดำเนินตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นแรก ในการอธิษฐานจิตทุกครั้งต้องมีการทำบุญเป็นฐานรองรับเสมอ คือ ทำบุญด้วยการสวดมนต์ ถวายทาน รักษา ศีล หรือเจริญจิตภาวนาแล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บำเพ็ญนี้ หรือด้วยอำนาจแห่งการกล่าวสัจวาจานี้ ขอให้สิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาจงสำเร็จโดยพลัน
ขั้นที่สอง ในการอธิษฐานจิตนั้น อย่าเลือกหลายเรื่องนัก ท่านให้เลือกเรื่องที่สำคัญที่สุด เวลาที่พระพุทธเจ้าของเราบำเพ็ญบารมีในอดีตเพื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านั้น แต่ละชาติจะเน้นบารมีเพียงข้อเดียว เช่นตอนที่เกิดเป็นพระเวสสันดร ทรงเน้นเรื่องทานบารมีอย่างเดียว ในตอนที่เกิดเป็นพระมหาชนก ทรงเน้นเรื่องวิริยบารมีเป็นหลัก ในตอนที่เกิดเป็นมโหสถบัณฑิต ทรงเน้นปัญญาบารมีเป็นหลัก
ในปีใหม่นี้ เราจะอธิษฐานเน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ให้เลือกเฉพาะเรื่องนั้น เพื่อให้การอธิษฐานมีพลัง ท่านจึงเรียกว่าตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยการเลือกเรื่องที่จะทำเพียงเรื่องเดียว เช่น เลิกบุหรี่ เลิกการพนัน ลดน้ำหนัก หรือให้เวลาแก่ครอบครัว ถ้าเราอธิษฐานมากเรื่องจนพล่าไปหมด อาจไม่สำเร็จสักเรื่องเดียว ดังนั้นในขั้นตอนที่สองนี้ ให้เลือกอธิษฐานจิตเพียงข้อเดียว คือตั้งสัตยาธิษฐานนั่นเอง
ขั้นที่สาม เมื่ออธิษฐานจิตแล้วให้คิดสร้างภาพแห่งความสำเร็จ ท่านเรียกว่าจักขุมา นึกเห็นภาพของสิ่งที่เราอยากมีอยากเป็น สมมุติว่าอธิษฐานลดน้ำหนักให้เรามีสุขภาพแข็งแรง เราลองนึกวาดภาพตัวเราเองในใจว่า ถ้ามีสุขภาพแข็งแรง หน้าตาเราจะเป็นอย่างไร การนึกเห็นภาพที่ปรารถนาชัดเจนจะทำให้ความปรารถนาแรงกล้าพอที่จะกระตุ้นความพยายาม
ข้อที่สี่ วิธุโร แปลว่า จัดการให้สำเร็จตามที่เราสร้างภาพนั้น นั่นคือต้องวางแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการแบ่งเป็นขั้นเป็นตอน บางคนอธิษฐานไม่มีขั้นตอน เช่นอธิษฐานว่า ปีใหม่นี้ขอให้รวย ไม่ได้บอกว่ารวยเพราะมีเงินเท่าไร การอธิษฐานควรมีขั้นตอนว่าเราจะมีเงินเท่าไรในเวลากี่เดือน ตอนกลางปี เราจะมีเงินเก็บเท่านี้ ปลายปีจะมีเงินเก็บเท่านี้ เราจะได้ติดตามผลการอธิษฐานไปทีละ มิฉะนั้นเราจะไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะเราสร้างภาพไกลเกินเอื้อม บางทีเราจะท้อเสียก่อน เหมือนกับการจะขึ้นบันไดหนึ่งร้อยขั้นเพื่อไปไหว้พระธาตุบนภูเขา เขาจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ พอถึงยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง เดินไปอีกยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง ไม่ใช่ขึ้นบันไดรวดเดียวเป็นร้อยขั้น ไม่มีที่พักกลางทาง คนจะขึ้นไปไม่ถึงพระธาตุ ผู้ทำบันไดที่ฉลาดจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ ฉันใด ในการเดินทางไปสู่เป้าหมายก็ฉันนั้น คือต้องแบ่งซอยขั้นตอนในรายละเอียดเพื่อการประเมินผลว่าใกล้เป้าหมายเข้าไปเท่าใดแล้ว
ข้อที่ห้า นิสัยสัมปันนะ แปลว่ามีที่พึ่ง คือเวลาตั้งจิตอธิษฐานควรมีคนอื่นเป็นสักขีพยาน เวลาที่พระสุเมธดาบสตั้งจิตอธิษฐาน ท่านก็มีพระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นสักขีพยาน บางคนหาใครไมได้ก็อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสักขีพยาน
ถ้าเราอธิษฐานเงียบๆ ในใจ เวลาที่เราล้มเลิกคำอธิษฐานจะไม่มีใครทัดทาน แต่ถ้าเราอธิษฐานแล้วบอกให้คนข้างเคียงได้รับรู้ด้วย บางทีการปฏิบัติตามคำอธิษฐานจะง่ายขึ้นเพราะมีคนคอยกำกับ เช่น เราอธิษฐานเรื่องลดน้ำหนักแล้วบอกให้แม่ครัวหรือพ่อครัวที่บ้านรับรู้ เวลาปรุงอาหารเขาจะได้ปรุงอาหารสุขภาพให้เรา เวลาที่เราละเมิดคำอธิษฐาน เขาจะคอยเตือนเรา การช่วยเตือนนี้แหละเป็นระบบกัลยาณมิตรที่มีคนอื่นเป็นที่พึ่ง เหมือนการเดินทางไกลก็จะต้องมีเพื่อนร่วมทาง การอธิษฐานเพื่อให้สำเร็จตามปรารถนาต้องมีเพื่อนร่วมอธิษฐาน เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายคนเดียวอาจจะเหนื่อยและเบื่อง่าย แต่ถ้ามีคนอธิษฐานร่วมกันไปออกกำลังกายด้วยกัน ต่างจะช่วยกันกระตุ้นให้ออกกำลังกาย สมาชิกในบ้านเดียวกันเช่น พ่อ แม่ ลูก ควรจะอธิษฐานร่วมกันว่า ปีใหม่นี้จะดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน พ่อแม่จะดีต่อลูก ลูกจะดีต่อพ่อแม่ สนับสนุนกันและกันให้ทำดีต่อกัน นี่เรียกว่ามีคนอื่นเป็นที่พึ่งในการอธิษฐานจิต
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จะเสด็จฯประพาสยุโรป ในปี ๒๔๔๐ พระองค์ทรงอธิษฐานต่อหน้ามหาสมาคม ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้วยการประกาศให้ทราบทั่วกันต่อหน้าพระสงฆ์ เจ้านาย และเสนาบดีทั้งหลาย ว่า
๑. ในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้ จะไม่น้อมใจไปในศาสดาอื่น จะนับถือแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
๒. ในการเดินทางไกลไปยุโรปซึ่งใช้เวลาหลายเดือน จะไม่ร่วมประเวณีด้วยสตรีอื่นใดเลย
๓. ในต่างประเทศ การให้สุราแล้วไม่ดื่ม จะเป็นการเสียกริยา ก็จะดื่มนิดหน่อยเพื่อสังคม แต่ไม่ยอมมึนเมาเสียสติเด็จขาด
นี่คือตัวอย่างของการอธิษฐานเสียงดังเพื่อให้คนอื่นเป็นสักขีพยานและช่วยประกันความสำเร็จของคำอธิษฐาน เพราะฉะนั้น เรามาอธิษฐานร่วมกันให้คนอื่นได้ยินว่า ปีใหม่นี้เราจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ร่วมกัน เราจะทำงานทุ่มเทให้กับหน่วยงานของเรา เราจะไม่ทุจริตคอรัปชั่น ดังนี้เป็นต้น ทุกคนได้ยินคำอธิษฐานแล้วจะได้ช่วยกันเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติการผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้ คำอธิษฐานของเราจะไม่เป็นแต่เพียงความคิดลอยๆ

คำอธิษฐานที่ไม่มีการกระทำเป็นแต่เพียงฝันกลางวัน ส่วนการลงมือทำโดยไม่มีการอธิษฐานก็ขาดทิศทางและสะเปะสะปะเพราะว่าเปลี่ยนไปมาอยู่เรื่อย

ปีใหม่นี้ ขอให้ตั้งจิตอธิษฐานโดยเลือกเป้าหมายเพียงอย่างเดียวว่าเราอยากได้ไม่สะเปะสะปะ เมื่ออธิษฐานแล้วลงมือกระทำอย่าให้เป็นฝันกลางวัน ชีวิตเราก็จะมีอะไรใหม่สมกับปีใหม่

เมื่อปีใหม่มาถึงครั้งนี้ อย่าให้โอกาสดีนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรดี ๆ ให้กับชีวิต ตั้งใจทำบุญด้วยการให้ทาน รักษาศีลหรือเจริญจิตภาวนาดีแล้ว อธิษฐานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือต่อหน้าคนที่เรารักเป็นสักขีพยาน เพื่อให้สำเร็จดังที่ตั้งจิตอธิษฐานเป็นแน่นอน
ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลที่บำเพ็ญมาจงปกปักรักษาคุ้มครองให้สิ่งที่ตั้งจิตอธิษฐานนั้น จงสำเร็จดังที่ตั้งความปรารถนา โดยปราศจากทุกข์ โศก โรค ภัย อุปัทวันตรายทั้งปวง ขอให้ชีวิตที่มีแต่ความเจริญงอกงามไพบูลย์ในร่มธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใดที่ชอบประกอบด้วยธรรม ก็ขอให้ความปรารถนานั้น ๆ จงพลันสำเร็จ สมมโนรถมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ ตลอดปีใหม่ และตลอดไปเทอญ ...

พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร