ดื่ ม พ ร ะ ธ ร ร ม
ต้องดื่มเป็นวัว อย่าเป็นงู
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
สถานพำนักสงฆ์บ้านบุญ บ้านไร่ทอสี จ.นครราชสีมา

เมื่อรู้สึกว่ากำลังก้าวหน้า ก็อย่าให้จิตใจถอยหลัง

เพราะการก้าวหน้านั้น
คือการมีสติคอยสกัดการยกตนข่มท่าน
ปฏิบัติธรรมจงระวังอย่าให้มีการถือตัวถือตน

ประโยชน์ของการชนะคนอื่นนั้นอยู่ตรงไหน
ดูเท่าไรก็ไม่เห็น เห็นแต่การเสียท่ากิเลสอยู่ในใจ
แพ้ตัณหาแล้วไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
จะต้องเป็นเชลยนาน ทุกข์จะต้องไม่มีที่จบสิ้น

วัวกินน้ำบริสุทธิ์แล้วน้ำนั้นกลายเป็นน้ำนม
แต่งูกินน้ำบริสุทธิ์แล้วกลายเป็นพิษ

ธรรมะเป็นของบริสุทธิ์หมดจด
ซึ่งเรารับมาศึกษาและปฏิบัติแล้วเหมือนดื่มลงไป
ดื่มพระธรรมต้องดื่มเป็นวัวอย่าเป็นงู
ให้ธรรมเกิดเป็นน้ำนมไม่ใช่ยาพิษ

ที่จริงคนเรายังสู้งูไม่ได้
งูไม่เคยเป็นอันตรายเพราะยาพิษในตัวของมัน

แต่ผู้ปล่อยให้ยาพิษคือทิฏฐิมานะเกิดขึ้นในใจ
เพราะธรรมที่ได้ศึกษา และปฏิบัติ
แล้วก็ป่วยอยู่ทุกวัน



(คัดลอกบางตอนมาจาก “ปัจจุบันสดใส” โดย พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ,
พิมพ์ครั้งที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๓ โดย กองทุนสื่อธรรมะทอสี และมูลนิธิปัญญาประทีป, หน้า ๑๒)

ปฏิบัติธรรมจงระวังอย่าให้มีการถือตัวถือตน
อนุโมทนาด้วยจ้า ท่านกุหลาบสีชา สำหรับกระทู้นี้

ชอบประโยคนี้... "วัวกินน้ำบริสุทธิ์แล้วน้ำนั้นกลายเป็นน้ำนม
แต่งูกินน้ำบริสุทธิ์แล้วกลายเป็นพิษ"



และขออนุญาต เห็นต่อยอด ดังนี้

วัวกินน้ำ แล้วน้ำนั้นกลายเป็นน้ำนม
งูกินน้ำ แล้วน้ำนั้นกลายเป็นน้ำพิษ

แสดงว่า น้ำเดียวกัน แต่ผลต่างกัน เพราะทำเหตุต่างกัน
เหตุคือการแปลงสภาพน้ำ ให้เป็นผลต่างกัน