วันเวลาปัจจุบัน 21 พ.ค. 2025, 02:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การมีศีลห้าไม่ต้องเลิกของชอบใจ

การมีศีลห้า ไม่จำเป็นต้องเลิกของที่ชอบทั่ว ๆ ไป เช่น ความสุขจากการกิน การแต่งกาย การดูหนังดูละครฟังเพลง ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเจ ไม่จำเป็นต้องอดข้าวเย็น คนมีศีลห้าจะมีชีวิตอย่างธรรมดาที่สุด เหมือนคนทั่วไป เรายังคงมีของชอบได้ มีความอยาก และไม่อยาก ได้ และถ้ามีความจำเป็น ก็ขอให้มีศีลเป็นบางเวลา หรือแม้เป็นบางข้อ ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย แม้จะเรียกไม่ได้ว่าเป็นศีลห้า แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย และศีลต้องเป็นของที่ตั้งใจรักษา แม้จะตั้งใจว่าจะมีศีลเพียงครึ่งวันก็ทำได้

มีศีลเพียงบางข้อได้หรือไม่ ศีลต้องขอกับพระหรือไม่

ตอบว่า มีเพียงบางข้อก็ได้ หรือบางเวลาก็ได้ แม้จะตั้งใจว่าจะมีศีลเพียงครึ่งวัน ถ้าทำได้อย่างนั้นก็มีศีลครึ่งวันแล้ว การถือศีล ทางพระเรียกว่า สมาทานสิกขาบท คำว่า สมาทาน คือ การตั้งใจรับมาเป็นข้อปฏิบัติโดยมีเจตนาว่าจะงดเว้น การสมาทานสิกขาบทนี้ จะรับจากผู้มีศีลเช่นพระภิกษุก็ยิ่งดี ถือว่าเป็นมงคลมาก จะมีกำลังใจสูง แต่จะสมาทานกับตนเองก็ได้ โดยตั้งใจ ตั้งเจตนาไว้ล่วงหน้ากับตนเอง ว่าเราจะรับศีลมาปฏิบัติ ทางพระท่านก็ว่า จะงดเว้นในทันทีที่เจอเหตุการณ์ที่จะผิดศีลก็ได้ การถือศีล นั้นจะคิดในใจก็ได้ คิดเป็นภาษาไทยก็ยังได้ คิดว่าเราจะงดเว้นข้อใดบ้าง

ถ้าไม่ตั้งใจจะงดเว้น ไม่ตั้งใจจะถือศีลมาก่อน แต่ไม่มีโอกาสได้กระทำผิดศีล ก็ถือว่าโชคดีไป ในแง่ที่ไม่มีภัยเวรอันเกิดจากการผิดศีล แต่ก็ไม่ถือเป็นความดีงามที่เรียกว่าบารมี แต่ถ้า ตั้งใจจะถือศีล จะเกิดเป็นความดีที่เรียกว่า ศีลบารมี บารมี หมายถึง คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เป็นความดีอย่างยิ่ง
ตัวอย่างเช่น เราไม่ตบยุงเลย เพราะไปอยู่ในที่ที่ไม่มียุงเลย ก็โชคดีไม่ต้องฆ่ายุง แต่ถ้ายุงมา เราก็อาจจะตบก็ได้ อย่างนี้ ไม่เป็นบารมี แต่ถ้าเราตั้งใจเลยว่า เราจะไม่ฆ่าสัตว์ แม้ถ้าจะมียุงมาเกาะแขน เราก็จะเอาปากเป่า ๆ ลมไล่มันไป อย่างไรเราก็ไม่ฆ่า เพราะเราตั้งใจว่าจะไม่ฆ่า อันนี้ คือมีศีลบารมี เกิดในใจแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีกล่าวไว้เหมือนกันว่า ศีลอาจจะมาจากธรรมปฏิบัติก็ได้ เช่น เมื่อเป็นโสดาบัน ศีลห้า ก็จะมีมาเองอย่างนี้ก็มี หรือว่ามีเมตตา ศีลก็จะมีมาเองด้วย อย่างนี้ก็มี แต่ถ้าเราตั้งใจงดเว้นไว้ก่อน จะเป็นศีลบารมี

ถ้าเรามีศีลไม่ครบ เพราะมีความจำเป็น ทำให้ไม่อาจถือได้ครบถ้วน ก็อย่าได้ท้อใจไปเสีย เราก็สมาทานรักษาศีลเพียงบางข้อ หรือเราอาจจะรักษาเป็นบางเวลาก็ยังได้ การตั้งใจรักษาศีล แม้เพียงเล็กน้อยก็เป็นบารมีหลายอย่างมากมายที่จะเกิดขึ้นกับเรา ตัวอย่างเช่น เรามีอาชีพต้องฆ่าสัตว์ แต่บางช่วงเวลาเมื่อเลิกงาน เราจะสมาทานศีลให้ครบห้าข้อ จนถึงเช้าทุก ๆ วัน ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ขอเพียงเราตั้งใจกำหนดไว้ว่าจะสมาทานศีล แม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่งสั้น ๆ หรือแม้แต่สมาทานเป็นบางข้อ ก็เป็น อธิษฐานบารมี เพราะเป็นการตั้งใจมั่นที่จะกระทำดี เมื่อสมาทานแล้ว เราตามรักษาด้วยสัจจะที่ตั้งไว้ดีแล้วนั้น ก็เป็น สัจจะบารมี เมื่อเราต้องอดทนต่อความเย้ายวนที่จะทำให้เราผิดศีล แต่เราอดทนได้นั้น เป็น ขันติบารมี เมื่อเราทำได้ครบ มีศีลครบถ้วน ก็เป็น ศีลบารมี

ถ้าเรามีศีลห้าไม่ครบด้วยความจำเป็น อย่างน้อยก่อนจะนั่งสมาธิหรือทำความดีใด ๆ ให้สมาทานศีลกับตนเองให้ครบก่อน จะทำให้การทำความดีนั้นมีอานิสงส์มาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ให้สมาทานศีลกับตนเองให้ครบก่อน


สมาทานศีล หมายถึงสวดบทแผ่เมตตาใช่มั๊ย!ค่ะ
เพราะดิฉันก่อนนั่งสมาธิ
จะสวดบทแผ่เมตตาก่อนค่ะ :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 14:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 11:15
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
ให้สมาทานศีลกับตนเองให้ครบก่อน


สมาทานศีล หมายถึงสวดบทแผ่เมตตาใช่มั๊ย!ค่ะ
เพราะดิฉันก่อนนั่งสมาธิ
จะสวดบทแผ่เมตตาก่อนค่ะ :b55:


การสมาทานศีล มีขั้นตอนดังนี้ค่ะถ้าเป็นไปได้ให้คุณปฏิบัติก่อนนอนทุกคืน
เพราะช่วงเวลาที่เรานอนเราจะสามารถรักษาศีลได้บริบูรณ์ค่ะ
บทสวดมนต์ก่อนการนั่งสมาธิ
และก่อนนอน ต้องอาราธนาศีล 5
และสมาทานศีล 5 โดยเริ่มจาก

คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

คำนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)

คำอาราธนาศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ

คำนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

ไตรสรณคมณ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ศีล 5
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

หัดทำไปทุกวัน ทุกเช้าและก่อนนอน หากใครกลัวว่า
ทำไปแล้วเราก็ต้องออกไปผิดศีลอยู่ดี แนะนำให้ทำก่อนนอน
เพราะเราไม่ต้องไปเจอสังคม
ไปต้องไปผิดกับใครจึงทำให้เกิดกุศลมากที่สุด

คำขอขมาพระรัตนตรัย
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน ต่อพระรัตนตรัย
อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม
และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี
ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์
ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดงดเว้นโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

คำแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากทุกข์
อะหัง อเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความลำบาก
อะหัง อะนีโฆ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากอุปสรรค
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
จงรักษาตนให้มีความสุขตลอดกาลนานเทอญ

คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียน
ซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิดอย่าได้มีความ
ทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ
รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยสิ้นเถิด

ลองทำตามดูนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะคุณpupea2552 :b8: เราศึกษาธรรมะมาตั้งนาน
ยังไม่เข้าใจคำว่าสมาทานศีลเลยค่ะ
ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ นี่ดีน่ะค่ะนั่งคุยอยู่ในเว็บ
ถ้าเราไปนั่งคุยแบบเห็นหน้านี่
เราคงจะทำหน้าไม่ถูกเลยน่ะค่ะเนี่ย :b1: :b41: :b55: :b49:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร