วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 11:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 19:41
โพสต์: 17

แนวปฏิบัติ: วาง
งานอดิเรก: สารพัด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ตัวกูของกู
อายุ: 0
ที่อยู่: คลองสาม คลองหลวง ปทุมธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์มีอยู่ทุกที่ทุกเวลา มองเราดูมันเราจะเห็น
มันน่าดูกว่าผีเห็นง่ายกว่าผีแปลกกว่าผีมันอำเราตลอดเวลา
แต่เราดูมันไม่ทุกเวลา แต่มันก็มาให้เราเห็นเองบางเวลา

มีคำที่เปป็นจริงที่สุดพระพุทธเจ้าบอกไว้แต่เราชอบเถียง
ท่านบอกว่า"ไม่อะไรเกิดนอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับนอกจากทุกข์"สรุปโลกนี้ไม่มีอะไรนอกจากทุกข์ เราก็เถียงอย่างมีเหตุผลว่า"ก็บางครั้งฉันก็สุข จะมีแต่ทุกข์อย่างไรได้"
พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนธรรมที่ผิด มันมีแต่ทุกข์จริงๆ มีทุกที่ทุกเวลา แต่เราไม่มองมันทุกเวลา
เช่นเมื่อเราเงินหมดเราจะเห็นมัน เราบาดเจ็บ เราไม่สะบายกายสะบายใจเราถึงจะเห็นมัน
เมื่อให้ยกตัวอย่างทุกข์ที่ใกล้ตัวที่สุดส่วนมากจะบอกว่า"เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ"นั่นยังไกลมามากนะ
ทุกที่แท้มันอยู่กับเราตลอดเวลาไม่เลือกว่าจะต้องรอว่าเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการถึงจะทุกข์ไม่ใช่
มันมีตลอดแต่มันถูกบังคือ"กิเลสบังทุกข์"ไอ้นี่มันก็บังตลอดเราเลยไม่เห็นทุกข์ อ้าวแล้วทำไมเราถึงยังทุกข์ล่ะ ก็ตอนนั้นเรามองทุกข์เพราะอาจเป็นทุกข์ใหญ่ หรือเรามีสติมีสมาธิจดจ่อ มองไปเจอทุกข์
ข้อพิสูจน์ ว่าทุกข์มีตลอดเวลาแตกิเลสบัง
ทุกข์มีทั้งขณะนั่งขณะนอน ยืน ว่ายน้ำ กินข้าวมีหมด
เวลานอน เราทุกข์เพราะปวดเมื้อย กิเลสก็จะบังด้วยการพลิกตัว เรายืนทุกข์คือเมื้อยกิเลสก็บัง
ด้วยการย่อนขาหรือนั่ง นั่งทุกข์เพราะเมื้อยกิเลสก็บังด้วยการขยับตัว เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าเราแทบไม่ทุกข์หรือไม่เห็นทุกข์เลยเพราะกิเลสมันบัง
แต่ลองเรายืนในที่ที่นั่งไม่ได้ย่อนขาไม่ได้สิ เช่นทหาร หรือในห้องประชุมที่ต้องนั่งนานๆทั้งที่อยากนอนเต็มแก่ หรือนั่งสมาธิโดยอธิษฐานว่าจะพิจารนากายไม่ลุกไปไหนสักชั่วโมง
เป็นต้นอันนี้กิเลสจะบังไม่ได้มันอยากบังแต่บังไม่ได้เราจะเห็นทุกข์ได้ชัดเพราะไม่มีกิเลสบัง
หรือในการนั่งสมาธิที่มุ่งแค่สงบ พอนั่งไปถึงขั้นมันว่างมันสุขแล้วอันนี้ก็บัง ยิ่งแย่ไม่ใช่แค่บังบางคนยังหลงยึดติด พอมาทีหลังก็มานั่งอยากว่างอยากสุขแบบเดิมแต่มันไม่ได้มันยึดติดบางท่านเป็นบ้าบางคนทุกข์หนังอยากได้อยากเป็นอยากสุขอยากว่าง บางคนพอสงบหน่อยคิดว่าเป็นอรหันไป ครูสายวัดป่า(หลวงปู่มั่น)ท่านให้พิจารณาหาใช่แคเอากิเลสมาบังทกข์แค่ให้สงบไปวันๆ
ธรรมแท้ไม่รู้อะไรไม่ได้ หลักธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนาไม่ใช่ไหว้พระขอพรให้มีแต่ความสุข
แต่คืออริยสัจ เห็นทุกข์ รู้จักทุกข์ เข้าใจทุกข์ ดับทุกข์

ควรไม่ควรแล้วแต่ผู้รุ้จะวินิจฉัย
พุทธบาล


แก้ไขล่าสุดโดย พุทธบาล เมื่อ 17 มี.ค. 2010, 21:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร