วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 07:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 03:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มาเขียนแผนที่ชีวิตกันเถอะ



หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า ชีวิตคือการเดินทาง แต่ทว่าหลายปีผ่านไป คุณก็ยังรู้สึกว่าชีวิตยังไปไม่ถึงไหน คุณยังคงเดินทางเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน เคว้งคว้างล่องลอยไร้จุดหมาย หากเป็นเช่นนั้น ก็เห็นทีว่าคุณจะพลาดสกู๊ปพิเศษที่กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ได้เสียแล้ว





“การเดินทาง” ของชีวิต



ในทางพุทธศาสนาเชื่อว่า การเดินทางของคนบนโลกนี้มี ๔ รูปแบบ คือ

1. มืดมา มืดไป คือ บุคคลที่เกิดมาพร้อมบาปกรรมติดตัว ช่วงที่มีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยละกิเลส ทำบุญสร้างบารมี ครั้นตายไปกิเลสจึงชักนำไปยังภพภูมิต่ำ

2. สว่างมา มืดไป คือ บุคคลที่แม้จะเกิดมาพร้อมกับบุญบารมีในอดีตชาติ แต่กลับใช้ชีวิตในทางเสื่อม เมื่อตายไปกิเลสที่พอกหนาในจิตใจ จึงชักนำไปยังภพภูมิต่ำ

3. มืดมา สว่างไป คือ บุคคลที่เกิดมาลำบากยากแค้น เพราะผลกรรมในอดีต แต่ใช้ชีวิตเพื่อขัดเกลากิเลส สร้างแต่คุณงามความดี เมื่อตายไปบุญบารมีจึงนำไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น

4. สว่างมา สว่างไป คือ บุคคลที่เกิดมาพร้อมกับบุญบารมีแต่ชาติปางก่อน แต่ก็ไม่ประมาทชีวิต หมั่นละ เลิกกิเลส เมื่อตายจากไปจึงไปสู่ภพภูมิที่ดียิ่งขึ้น



รู้อย่างนี้แล้ว คนที่เคยคิดว่าตนเองเกิดมาพร้อมกรรมเก่าอันหนักอึ้ง ยากจะแก้ไขให้ก้าวผ่านล่วงพ้น คงจะใจชื้นขึ้น เพราะคำอธิบายถึงการเดินทางทั้งสี่รูปแบบ ในทางพุทธศาสนายืนยัดชัดเจนว่า ชีวิตคนมิได้ถูกกำหนดตายตัวด้วยโชคชะตาหรือกรรมเก่าเท่านั้น หากแต่การใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะก็มีส่วนในการขีดเส้นทางให้ชีวิติดำเนินไปสู่ความสุขและความสำเร็จได้เช่นกัน ดังที่ จำนง เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้กล่าวยืนยันไว้อย่างหนักแน่นในหนังสือ มหัศจรรย์ชีวิตลิขิตเองได้ ว่า “คนเราแม้มีกรรมเก่ามารบกวน แต่โดยการสร้างกรรมใหม่ (ซึ่งพระพุทธศาสนารับรอง) ก็สามารถหลีกพ้นจากกรรมเก่า มาลิขิตชีวิตของตนขึ้นได้อย่างน่าพอใจ”



รู้อย่างนี้แล้ว อย่าปล่อยให้ชีวิตลอยคว้างตามกรรมตามดวง แต่จงเชื่อมั่นในมันสมองและสองมือของตนเอง และมาสร้างกรรมใหม่ เพื่อประคับประคองชีวิต ให้เดินทางไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้กันดีกว่า



S.M.A.R.T Goal

เข้าใจจุดหมาย การเดินทางก็ง่ายขึ้น



ความสุขและความสำเร็จ แน่นอนว่านี่คือคำตอบในชีวิตของใครหลายคน เพราะคำสองคำนี้ครอบคลุมทั้งเรื่องหน้าที่ การงาน สัมพันธภาพกับผู้อื่น ตลอดจนการเติบโตทางจิตวิญญาณของมนุษย์

สิ่งที่ช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นแบบ “เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ก็คือ การกำหนดเป้าหมายอันชาญฉลาดตามหลัก S.M.A.R.T Goal ซึ่งเป้าหมายที่คุณกำหนดขึ้นนั้น จะต้องมีคุณลักษณะดังนี้



· Specific (เฉพาะเจาะจง) จงกำหนดเป้าหมายของชีวิตให้เฉพาะเจาะจง รอบคอบ และรัดกุม ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะพลัดหลงออกนอกเส้นทางได้ง่ายๆ

· Measurable (วัดผลได้) เป้าหมายของคุณจะต้องมีขอบเขตเป็นตัวเลขหรือวันเวลาที่ชัดเจน เพราะนั่นจะช่วยทำให้คุณมีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น



· Attainable (สามารถไปถึงได้) เป้าหมายนั้น จะต้องมิใช่เรื่องละเมอเพ้อพก แต่ต้องสามารถไปถึงได้จริง จงจำไว้ว่า “ฝันอยากบินได้” กับ “ฝันอยากขึ้นเครื่องบิน" นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง





· Relevant (มีความหมาย) เป้าหมายจะต้องมีความสำคัญ มีความหมาย และมีความเกี่ยวพันกับชีวิตของคุณ ยิ่งเป็นเป้าหมายที่คุณพร้อมทุ่มกายใจเพื่อไปให้ถึงโดยไม่ต้องการเสียเวลาแม้สักนาทีเดียวได้ก็ยิ่งวิเศษ



· Time-based (มีกรอบเวลาที่แน่ชัด) การจะให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเรื่องเวลาด้วย การตั้งเป้าหมายของคุณ จึงควรเริ่มต้นด้วยคำว่า “ภายในสามเดือนนี้” “ภายในสิ้นปีนี้” หรือ..ฯลฯ



หากคุณต้องเป้าหมายตามหลัก S.M.A.R.T Goal แล้วล่ะก็วางใจได้เลยว่า คุณจะออกเดินอย่างมีทิศทาง และแม้ “จุดหมายปลายทาง” จะอยู่ไกล...ก็จะไปถึงได้ไม่ยากอย่างที่คุณหวาดหวั่น









ออกเดินทางอย่างมีแผน



ขึ้นชื่อว่าเป็น “การเดินทาง” แล้ว ไม่ว่าใกล้ไกลแค่ไหน อุปสรรคย่อมเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะต่อให้เป็นระยะทางสั้นๆ เช่นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปสยามสแควร์ คุณก็ต้องเจอทั้งทางตรง ทางแยก ทางเลี้ยว ห้ามเลี้ยว ขึ้นสะพาน ฯลฯ...การเดินทางของชีวิตก็ไม่ต่างกัน



ดังนั้นคุณจึงต้องเตรียมวางแผนการเดินทางให้ดีที่สุด ด้วยการถามตนเองว่า “จะเดินทางไปยังที่ใด” “ควรเริ่มต้นจากจุดไหน” “จะเดินทางอย่างไร” และ “ต้องเตรียมสัมภาระอะไรติดตัวไปบ้าง” ฯลฯ



หากคำถามเหล่านี้ทำให้คุณสงสัยและสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก มาทำให้คำถามเหล่านี้หมดไป ด้วยการหยิบกระดาษ คว้าปากกา...มาเขียนแผนที่ชีวิตกันเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า



ก่อนออกเดินทาง..ถามตัวเองว่าคุณเป็นใคร



เช่นเดียวกับแผนที่ที่ต้องมีจุดเริ่มต้น “แผนที่ชีวิต” ก็ต้องเริ่มจากการถามตนเองว่า “ปัจจุบันคุณเป็นใคร” อย่าลืมว่าคำตอบง่ายๆเกี่ยวกับชื่อ อายุ หรือเพศนั้น ไม่สามารถบอกความเป็นตัวคุณที่ลึกซึ้งได้ ทางที่ดีคุณควรมองลึกเข้าไปถึงประสบการณ์ในชีวิต แล้วตอบตัวเองเป็นข้อๆว่า “ความเป็นคุณ” ในแบบใดที่คุณเห็นว่าควรเก็บรักษาไว้ และแบบใดที่คุณฉลาด ละ เลิก หรือปรับปรุงแก้ไข

อย่างนี้ต้อง...รักษา

๑. คุณมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ต้องการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

๒. คุณชอบเดินทางท่องเที่ยวและสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

๓. คุณมีความสุขกับการให้คำแนะนำปรึกษาและช่วยเหลือผู้อื่น



อย่างนี้ต้อง..ลด ละ เลิก หรือปรับปรุงแก้ไข

๑. คุณตั้งใจมากไป จนกลายเป็นความเครียดและกดดัน

๒. คุณเรียนรู้มากมาย แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

๓.คุณยังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะช่วยเหลือให้คำแนะนำผู้อื่นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม



กำหนดจุดหมายปลายทาง...คุณต้องการเป็นใคร/คุณต้องการอะไร

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า “คุณต้องการเป็นอะไร” หรือ “คุณต้องการอะไร” โดยพิจารณาจาก “จุดเริ่มต้น”

เมื่อระบุสิ่งที่คุณควรรักษาไว้และสิ่งที่ควรพัฒนาจนชัดเจนแล้วคุณจะรู้ใจตนเองมากขึ้นว่าคุณต้องการอะไร และคุณต้องทำอย่างไรจากตัวอย่าง คุณชอบและมีความสุขกับการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้อื่น แต่สิ่งที่คุณต้องปรับปรุงคือ “การหาความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติม เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นระบบ”

ดังนั้นเป้าหมายที่คุณต้องกำหนดก็คือ “ฉันจะเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ดี ฉันจะศึกษาหาความรู้และหาประสบการณ์ด้านสังคมสงเคราะห์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในอนาคตฉันจะอุทิศตัวทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในวงกว้าง ทั้งในและต่างประเทศ



เลือกพาหนะที่จะนำคุณไปนำจุดหมาย...คุณจะเดินทางโดยวิธีใดและอย่างไร

เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณเริ่มเดินทางจากที่ใด เพื่อจะไปสู่ที่ใด คุณต้องไม่ลืมกำหนดด้วยว่า “คุณจะเดินทางโดยวิธีใด” เช่นเมื่อคุณชัดเจนในเป้าหมายแล้ว คุณก็เลือกวิธีไปสู่เป้าหมายนั้น โดยเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นนักสังคมสงเคราะห์อย่างจริงจัง โดยกำหนดหนทางสู่การเป็นนักสังคมสงเคราะห์อย่างคร่าวๆ เริ่มต้นจากการสมัครสอบเอนทรานซ์เข้าศึกษาต่อในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศในด้านนี้ให้ได้ และเมื่อจบการศึกษาคุณอาจวางแผนศึกษาต่อด้านสังคมวิทยา จากนั้น เนื่องจากคุณรักการเดินทาง พร้อมกับชอบช่วยเหลือคน เป้าหมายต่อไปของคุณคือคุณจะสมัครเข้าทำงานในองค์กรระหว่างประเทศ ที่มีบทบาทด้านสังคมสังเคราะห์อย่างโดดเด่น เช่น องค์การยูนิเซฟ



เตรียมสัมภาระที่จำเป็นในการเดินทาง...คุณต้องเตรียมอะไรไปบ้าง

ยาและอาหารต้องพร้อมมีอยู่ในกระเป๋าเดินทางฉันใด คุณก็ต้องออกเดินทางไปพร้อมกับความรู้และทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตฉันนั้น

ดังนั้น คุณจึงต้องประเมินว่า “กระเป๋า” ของคุณควรมีอะไรตุนอยู่ และระหว่างทางคุณต้องแสวงหาเสบียงอะไรมาใส่เพิ่มเติมยกตัวอย่างเช่น

คุณรู้ดีว่า ในการเดินทางไปสู่การเป็นนักสังคมสงเคราะห์นั้นคุณต้องเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก คุณจึงต้อง “ตุนเสบียง” ด้วยการขยัน ตั้งใจเรียน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อสอบเอนทรานซ์ให้ได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ต้องหาประสบการณ์ในการทำกิจกรรมด้านอาสาสมัครเพิ่มเติม อาจจะเป็นการออกค่ายอาสาสมัครช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงเปิดเทอมภาคฤดูร้อน หมั่นทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม รวมทั้งติดตามข้อมูลข่างสารด้านสังคมสงเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ยิ่งคุณ “ตุนเสบียง” ไว้ได้มากเท่าไร คุณก็จะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

ระหว่างทางหมั่นเช็คจุดสังเกต...คอยถามตัวเองว่า...เราหลงทางหรือไม่

สิ่งที่คนเดินทางกลัวมากที่สุด คงหนีไม่พ้นการหลงทาง ในที่นี้จุดสังเกต (landmark) ต่างๆจะเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้คุณได้ตรวจสอบตัวเองเป็นระยะๆ ว่า คุณเดินมาถูกทางแล้ว และไม่ได้กำลังหลงออกนอกเส้นทาง

ในกรณีนี้สิ่งที่จะยืนยันว่าคุณยังคงอยู่บนเส้นทาง ที่จะนำไปสู่จุดหมายได้แก่

· คุณสอบเข้าเรียนต่อในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ได้สำเร็จ

· คุณได้ร่วมกิจกรรมกับองค์การอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมเป็นระยะ

· คุณมีความรู้ภาษาต่างประเทศแข็งแรงพอ ที่จะสอบผ่านเข้าทำงานในองค์กรระหว่างประเทศ ตามที่ตั้งความปรารถนาไว้



ก้าวสู่ความสำเร็จ

ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติหลัก How-to สู่ความสำเร็จ ไว้ 4 ข้อด้วยกัน นั่นก็คือ “อิทธิบาท 4” ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธีอธิบายไว้ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายว่า “มีใจรัก (ฉันทะ) พากเพียรทำ (วิริยะ) จดจำจ่อจิต (จิตตะ) และวินิจวิจัย (วิมังสา)”

ตัวอย่างของบุคคลที่เดินทางไปถึงเป้าหมายของชีวิตด้วยหลัก How-to สู่ความสำเร็จ

· มีใจรักในสิ่งที่ทำ (ฉันทะ)

แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ใช้เวลาคิดค้นสมการก้องโลก E = mc2 อยู่เป็นแรมปีโดยไม่ย่อท้อ เพราะอัจฉริยบุคคลผู้นี้ รักในสิ่งที่เขาทำอย่างไม่คิดจะเปลี่ยนใจ แม้ว่าจะถูกหยามหยันจากผู้คนที่ไม่เข้าใจ ทว่าไอน์สไตน์ไม่เคยหวั่นไหว ตราบใดที่ได้ทำในสิ่งที่รัก...ไอน์สไตน์ก็ยังคงเดินหน้าทำต่อไป

· พากเพียรทำ (วิริยะ)

อย่าล้มเลิกความตั้งใจเพียงเพราะความล้มเหลวเล็กๆ น้อยๆ อับราฮัม ลิงคอล์น เป็นส.ส.สอบตกอยู่ถึง 15 สมัย กว่าที่จะได้เป็นประธานาธิบดี ลิงคอล์นเคยกล่าวไว้ว่า “ที่ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จ ก็เพราะข้าพเจ้าไม่ยอมล้มเลิก”

· จดจำจ่อจิต (จิตตะ)

อุทิศตนต่อสิ่งที่ทำอย่างลึกซึ้ง เรื่องราวของ เซอร์ไอแซก นิวตัน จะช่วยยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะท่านคือนักวิทยาศาสตร์ผู้อุทิศเวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตให้แก่การคิดค้น “กฎของความโน้มถ่วง” จนลืมกินอาหารมาแล้ว

· วินิจวิจัย (วิมังสา)

วิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ และพัฒนา เพื่อท้าทายตนเองให้ทำงานแล้วได้ผลงานออกมาดีขึ้น ดังเช่นที่ ทอมัส แอลวา เอดิสัน ทดลองใช้วัสดุนับพันชนิด ทำแล้วรื้อ รื้อแล้วทำอยู่หลายร้อยหลายพันรอบ กว่าจะประดิษฐ์คิดค้นไส้หลอดไฟฟ้าที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้สำเร็จ

ว่ากันว่า เรือจะปลอดภัยที่สุดเมื่อจอดอยู่ในท่า แต่ทว่าเรือก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้จอดนิ่งอยู่ในท่าเท่านั้น เช่นเดียวกับชีวิตของคนเรา ที่แม้ชะตาฟ้าจะกำหนดมาแล้วครึ่งหนึ่ง แต่เส้นทางที่เหลือก็ยาวไกลพอที่เราจะเขียนแผนที่เพื่อลิขิตชีวิตของตนเองได้เสมอ

ขอเพียงคุณเชื่อมั่นในพลังอันยิ่งใหญ่ของตนเอง เรากล้ารับรองว่า “แผนที่ชีวิต” ที่คุณเขียนขึ้นอย่างมีจุดมุ่งหมายด้วยความตั้งใจจริง จะช่วยให้คุณไม่พลัดหลงออกนอกลู่นอกทาง และจะพาคุณไปถึงปลายทางที่ฝันไว้..อย่างแน่นอน

บทความจากนิตยสารซีเคร็ต

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 04:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร