วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หญิงถวายจีวรย่อมได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์


นอกจากอานิสงส์ ๕ ประการ ดังกล่าวในตอนที่แล้ว ในอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องนางวิสาขา ยังได้แสดงว่า หญิงที่ถวายจีวรย่อมได้รับผลสูงสุดคือ เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์

เช่นนางวิสาขาได้ถวายจีวรสาฏกแก่ภิกษุ ๒ หมื่นรูป ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะผลแห่งจีวรทานนั้น นางจึงได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ก็จีวรทานของหญิงทั้งหลายย่อมถึงที่สุด(อานิสงส์สูงสุดที่จะพึงได้รับ)ด้วยเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์

สำหรับจีวรทานของบุรุษทั้งหลาย ย่อมสำเร็จด้วยบาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ ซึ่งบาตรและจีวรอันสำเร็จของฤทธิ์นี้ มิใช่เป็นฤทธิ์ที่เกิดจากการเนรมิตรของผู้มีฤทธิ์ แต่หมายถึงบาตรและจีวรที่เกิดขึ้นโดยเป็นผลทานจากการที่ตนได้เคยถวายจีวรไว้ในอดีตชาติ

ดังเช่นที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ มีกุลบุตรผู้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์แล้วบรรลุธรรม มีความประสงค์จะขอบวช พระพุทธองค์ก็จะตรวจดูว่า ผู้นั้นเคยถวายจีวรเป็นทานหรือไม่? ถ้าเคยถวายจีวรเป็นทาน จีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็จะเกิดขึ้น พระพุทธองค์ก็จะทรงอนุญาตให้บวช โดยกล่าวใจความเป็นสังเขปว่า "ธรรมอันเราตรัสไว้ดีแล้ว เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด" แล้วทรงยื่นพระหัตถ์ออกไป บาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็จะเกิดขึ้น การบวชเช่นนี้ เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" ดังเช่นที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้แก่พระองคุลีมาล เป็นต้น

แต่ถ้าผู้ใดไม่เคยถวามจีวรเป็นทาน พระพุทธองค์ก็จะให้ไปหาบาตรและจีวรมาก่อนแล้วจึงจะบวชให้ ดังเช่นพระพาหิยะทารุจีริยะเถระ ได้ฟังธรรมแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์(พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นเอตทัคคะทางด้านตรัสรู้เร็วที่สุด)จึงขอบวช แต่ท่านไม่เคยถวายจีวรเป็นทาน บาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์จึงไม่เกิดขึ้น พระพุทธองค์ได้ให้ท่านไปหาบาตรและจีวรมาเอง ในขณะที่พระพาหิยะกำลังไปคุ้ยหาเศษผ้าจากกองขยะอยู่นั่นเอง โคแม่ลูกอ่อนได้วิ่งมาขวิดท่านจนถึงแก่ความตาย ท่านจึงมิได้บวช

ฉะนั้น กุลบุตรผู้ใดปรารถนาจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ในพุทธกาลข้างหน้า(เช่นสมัยพระศริอาริย์ เป็นต้น) ก็จงถวายจีวรเป็นทานเสียแต่บัดนี้

อันว่าทานนั้น บัณฑิตทั้งหลาย มีพระสัพพัญญูโพธิสัตว์ เป็นต้น ผู้แสวงหาอยู่ซึ่งพระสัมมาสัมโพธิญาณอันยิ่งใหญ่ ทรงขวนขวายเป็นยิ่งนัก ที่จะบำเพ็ญให้เกิดขึ้นเป็นสิ่งแรก ในการสั่งสมบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ชื่อว่าทานที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายไม่เคยให้ ไม่ว่าจะเป็นทานชนิดใดๆนั้น ไม่มีเลย ท่านให้ทานมาแล้วทุกชนิด ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งสัพพัญุตญาณอันยิ่งใหญ่

ฉะนั้นท่านสาธุชนทั้ง ผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญา มองเห็นภัยในสังสารวัฏ พึงบำเพ็ญทาน เพื่อสั่งสมไว้เป็นบารมี นำตนให้พ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ โดยทั่วกันทุกท่านเทอญ



.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร