วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 11:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: ศีล (สีลสิกขา) หมายถึง การประพฤติที่ดีงามตามระเบียบ วินัย ข้อบังคับ กฎ กติกาของสังคม ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ไม่ทำให้ตนเองเดือนร้อน ทั้งกายและใจ ทางศาสนาเรียกว่า ศีล๕ ศีล๘ เป็นต้น

:b43: สมาธิ (จิตตสิกขา) เป็นอาการขั้นต่อไปของจิตที่ต่อเนื่องจากสีลสิกขา เมื่อกายอยู่ในอาการสงบ จิตก็สงบ พร้อมที่จะพิจารณาสืบค้นหาเหตุผลของสรรพสิ่งว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเหตุให้มีอุปาทานเข้าไปยึดมั่นถือมั่นให้เกิดทุกข์หรือไม่

:b43: ปัญญา (ปัญญาสิกขา) เป็นอาการที่ต่อเนื่องจากสีลสิกขา และจิตตสิกขา โดยเมื่อกาย ใจอยู่ในอาการสงบ ก็จะสามารถใช้ปัญญาพิจารณาด้วยเหตุและผล เข้าใจสรรพสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงว่าเป็นไปด้วยอำนานของอุปาทาน และไม่หลงเข้าไปยึดติดจนเกิดความทุกข์

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: :b43: :b43:

295 อุปาทานขันธ์ คืออะไร

ปัญหา สิ่งที่เรียกว่า อุปาทานขันธ์ นั้น คืออะไร ?

พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีตอยู่ในที่ไกลหรือใกล้ มีอาสวะ ในตัว เป็นปัจจัยแก่อุปาทาน นี้เรียกว่าอุปาทาน ขันธ์คือ รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ
“.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เรียกว่าอุปาทานขันธ์ ๕

ปัญจักขันธสูตร ขันธ. สํ. (๙๖)
ตบ. ๑๗ : ๕๙-๖๐ ตท. ๑๗ : ๕๑-๕๒
ตอ. K.S. ๓ : ๔๑-๔๒

http://www.84000.org/true/295.html

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:
อุปาทาน ขันธ์คือ รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ

??????? :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การใช้จ่ายทรัพย์


ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงเหตุผลในการที่จะมีทรัพย์ หรือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาจาก
ทรัพย์สมบัติ แก่อนาถบิณฑิกคฤหบดี โดยตรัสให้เหมาะกับสภาพสังคมสมัยนั้น พึงพิจารณา
จับเอาสารัตถะตามสมควร ดังต่อไปนี้


“ดูกรคหบดี ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะทั้งหลาย มี ๕ ประการดังนี้ ๕ ประการ คือ

๑. ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร สะสมขึ้นมาด้วยกำลังแขน อย่างอาบเหงื่อต่างน้ำ
ซึ่งเป็นของชอบธรรม ได้มาโดยธรรม
อริยสาวกย่อมเลี้ยงตัวให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแลตนให้เป็นสุขโดยชอบ
ย่อมเลี้ยงมารดาบิดา....บุตรภรรยาคนรับใช้กรรมการคนงานให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแลให้เป็นสุข
โดยชอบ
นี้ คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๑


๒. อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม
อริยสาวก ย่อมเลี้ยงมิตรสหาย และ ผู้ร่วมกิจการงานทั้งหลาย ให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแล
ตนให้เป็นสุขโดยชอบ
นี้ คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๒


๓. อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม
อริยสาวก ย่อมป้องกันโภคะจากภยันตรายที่จะเกิดแต่ไฟ น้ำ พระราชา โจร หรือทายาทร้าย
ทำตนให้สวัสดี
นี้ คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๓


๔. อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม
อริยสาวก ย่อมกระทำพลี ๕ อย่าง คือ ญาติพลี อติพลี ปุพพเปตพลี ราชพลี เทวตาพลี
นี้ คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๔


๕. อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม
อริยสาวก ย่อมประดิษฐานทักขิณาอันส่งผลสูง อันอำนายอารมณ์ดีงาม มีผลเป็นสุข เป็นไปเพื่อสวรรค์
ในสมณพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นจากความมัวมัวประมาท ตั้งอยู่ในขันติโสรัจจะ ซึ่งฝึกฝนตนเอง
ทำตนเองให้สงบ ทำตนเองให้หายร้อนกิเลสได้
นี้ คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๕

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำแปลศัพท์ คห.บน ข้อ ๔


ญาติพลี -สงเคราะห์ญาติ

อติพลี - ต้อนร้บแขก

ปุพพเปตพลี -ทำบุญอุทิศผู้ล่วงลับ

ราชพลี - บำรุงราชการ (เสียภาษี)

เทวตาพลี -ถวายเทวดา หรือ บำรุงศาสนา)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(ต่อ)

คหบดี ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะมี ๕ ประการเหล่านี้แล

ถ้าเมื่ออริยสาวกนั้น ถือเอาซึ่งประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ๕ ประการเหล่านี้

โภคทรัพย์หมดสิ้นไป เขาย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า อันใดเป็นประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ

ประโยชน์เหล่านั้นเราก็ถือเอาแล้ว และโภคะของเราก็หมดสิ้นไป

โดยนัยนี้อริยสาวกนั้น ก็ไม่มีความเดือดร้อนใจ และหากว่าเมื่ออริยสาวกนั้น ถือเอาอยู่ซึ่งประโยชน์

ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ๕ ประการเหล่านี้ โภคทรัพย์เพิ่มพูนขึ้น เขาย่อมมีความคิดว่า อันใดเป็นประโยชน์

ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ประโยชน์เหล่านั้น เราก็ถือเอาแล้ว และโภคะของเราก็เพิ่มพูนยิ่งขึ้น

โดยนัยนี้ อริยสาวกนั้น ก็ไม่มีความเดือดร้อนใจ เป็นอันไม่มีความเดือดร้อนใจทั้งสองกรณี”



(องฺ.ปญฺจก.22/41/48)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร