วันเวลาปัจจุบัน 11 มิ.ย. 2025, 08:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลักษณะพุทธศาสนาที่ ๗ เป็นศาสนาแห่งปัญญา

ลักษณะที่ ๗ พระพุทธศาสนาถือปัญญาเป็นหลักธรรมสำคัญ หรือเป็นธรรมแกนกลาง ดังพุทธพจน์

ว่า ปญฺญุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงมีปัญญาเป็นยอดยิ่ง

พระพุทธศาสนาถือว่าปัญญาเป็นธรรมสูงสุด เป็นตัวตัดสินขั้นสุดท้ายในการที่จะเข้าถึงจุดหมายของ

พระพุทธศาสนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็อย่างที่ได้บอกเมื่อกี้นี้ว่า พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาแห่งศรัทธา แต่เป็นศาสนาแห่งปัญญา ซึ่ง

บางทีก็เป็นจุดอ่อน และหลายคนก็ถือว่า เป็นจุดอ่อนของพระพุทธศาสนา เพราะเหตุที่ให้อิสรภาพใน

ทางปัญญาแก่คนมาก ก็เลยทำให้ชาวพุทธเป็นคนที่ไม่ค่อยเอาอะไรจริงจัง เช่นเกี่ยวกับข้อปฏิบัติ

ในหมู่ชาวพุทธในเมืองไทยปัจจุบันนี้ จับไม่ค่อยได้ว่า ชาวพุทธถือข้อปฏิบัติอะไรกันบ้าง เอาอะไรเป็น

เครื่องกำหนดว่าเป็นชาวพุทธ มองเป็นรูปธรรมก็หาไม่เห็น เพราะไปเอาแต่ปัญญาแล้วแต่ใครมีปัญญา

พิจารณาเลือกปฏิบัติเท่าไหนก็ได้ตามสมัครใจ ต่างจากในศาสนาอื่น ซึ่งส่วนมากเป็นศาสนาแห่ง

ศรัทธา เขาจะบังคับกันเลย ห้ามสงสัย ไม่ต้องถาม ฉันบอกอย่างนี้ เธอทำไปก็แล้วกัน

ฉะนั้น เขาจึงมีแบบแผนที่กำหนดไว้ชัดเจน มีข้อปฏิบัติที่ตายตัวว่า ถ้าเป็นศาสนิกของศาสนานั้นจะ

ต้องถือปฏิบัติอย่างนั้นๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างไรก็ตาม ว่าที่จริงพระพุทธเจ้าตรัสวางแบบแผนไว้ให้แล้ว คือให้เรามีหลักสองอย่าง ได้แก่

ธรรมวินัย อย่างที่ได้พูดไว้ในข้อที่ ๓ ว่า พระพุทธศาสนาประกอบด้วยธรรมกับวินัย

ถ้าปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว ชาวพุทธก็จะมีแบบแผนเป็นของตนเองเหมือนกัน แต่เรามอง

ข้ามเรื่องวินัยไปเสียก็จึงขาดอันนี้ จึงมัวคิดหาธรรม แต่ไม่ยอมปฏิบัติวินัย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนที่มีหลักว่า ปัญญาเป็นสำคัญนั้น ก็เพราะว่าปัญญาเป็นตัวตัดสินในการเข้าถึงจุดหมายของพระพุทธ

ศาสนา

มนุษย์เรานี้มีประสบการณ์ในเรื่องศาสนากันมาเป็นเวลายาวนาน มีนักคิดต่างๆ เกิดขึ้นแล้วก็ค้นคว้าหา

หลักความจริงมาสอนมนุษย์ เกิดเป็นลัทธิศาสนาต่างๆ มากมายซึ่งอาจแยกประเภทได้ดังนี้

ศาสนาประเภทหนึ่ง ย้ำเรื่องศรัทธาคือเขาบอกว่าให้ฝากชีวิต มอบจิตมอบใจไว้ในองค์เทพสูงสุด

แล้วทำตามคำสั่งสอนไป ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งสิ้น อย่างนี้เป็นศาสนาที่ใช้ศรัทธาเป็นเครื่องตัดสิน

ศรัทธาเท่านั้น จะให้ท่านเข้าถึงจุดหมายของศาสนา

ศาสนาประเภทที่สอง คือ พวกที่ถือศีลวัตรเป็นตัวตัดสิน พวกนี้จะถือระเบียบแบบแผนกฎเกณฑ์ที่วาง

ไว้ให้ แล้วประพฤติปฏิบัติตามนั้น ถือว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นเข้าถึงจุดหมายของศาสนาด้วยศีลวัตร

ดังมีคำในคัมภีร์เรียกว่า สีเลน สุทธิ แปลว่า การบริสุทธิ์ด้วยศีล คือเพียงว่ายึดถือศีล ข้อบังคับ

ระเบียบกฎเกณฑ์อย่างเดียวเท่านั้นให้เคร่งครัดเข้มงวด เมื่อปฏิบัติไปตามนั้นได้จริงแล้ว ก็จะหลุดพ้น

ถึงจุดหมายของศาสนาได้เอง อันนี้พระพุทธศาสนาเรียกว่า สีลัพพตปรามาส ก็เป็นหลักการของ

ศาสนาประเภทหนึ่ง

ศาสนาประเภทที่สาม ได้แก่ พวกที่ยึดเอาสมาธิเป็นตัวตัดสิน คือบำเพ็ญข้อปฏิบัติทางจิตใจให้จิต

ดื่มด่ำ จนกระทั่งในขั้นสุดท้าย จิตจะเข้ารวมกลืนหายกลายเป็นหนึ่งเดียวกันในภาวะสูงสุด ซึ่งอาจ

จะเป็นเทพสูงสุด หรือเป็นปรมาตมันอะไรก็ตาม ศาสนาประเภทนี้มีอยู่ไม่น้อย เป็นศาสนาขั้นที่

ประณีตมาก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รวมแล้วก็มีอยู่สามประเภทด้วยกันคือ

๑. พวกปลงศรัทธา มอบจิตฝากใจให้ไปเลย

๒. พวกถือศีลวัตร ตัดสินด้วยความเคร่งครัดเข้มงวด

๓. พวกถือสมาธิ มุ่งเข้ารวมกับภาวะสูงสุด

แต่พระพุทธศาสนาไม่ได้ถืออย่างนั้น พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญทั้งแก่ศรัทธา ทั้งแก่ศีลวัตร และ

แก่สมาธิ ถือว่าเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในการเข้าถึงจุดหมาย แต่ไม่ใช่ตัวตัดสิน อันนี้เป็นข้อที่ควรต้อง

ระวัง ไม่ใช่ว่าพระพุทธศาสนาจะไม่ให้ความสำคัญแก่สิ่งเหล่านั้น ทั้งศรัทธา ศีลวัตร และสมาธิเป็น

ฐานและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

สำหรับศรัทธานั้นพระพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่า สทฺธาย ตรติ อฆํ แปลว่า บุคคลย่อมข้ามโอฆะได้ด้วย

ศรัทธา ข้ามโอฆะอะไร ข้ามโอฆสงสาร ก็คือข้ามวัฏฏสงสาร หมายความว่า พ้นจากการเวียนว่าย

ในความทุกข์ แสดงว่าพระพุทธเจ้า ยอมรับว่าเราจะพ้นทุกข์ได้ด้วยศรัทธา นี่ถ้ามองเผินๆ เราก็

บอกว่าเอาแค่ศรัทธาก็พอ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในกรณีของศีล ก็สามารถอ้างคำบาลีอีกแห่งหนึ่ง เวลาพระให้ศีลจบท่านก็สรุปทุกครั้งว่า

“สีเลน สุคติ ยนฺติ สีเลน โภคสมฺปทา สีเลน นิพฺพุติ ยนฺติ.”

บอกว่า บุคคลย่อมไปนิพพาน คือ นิพฺพุติ ด้วยศีล อ้าว! ถึงนิพพานได้ด้วยศีลแล้วนี่ ก็แสดงว่ายอม

รับว่า ศีลทำให้ไปนิพพานได้ พอแล้ว

สำหรับสมาธิก็มีตัวอย่างคำสอนมากมาย ที่จะยกมาอ้าง ถ้าจะอ้างกันแบบง่ายๆ ว่าสมาธิก็พอที่จะถึง

นิพพาน ก็สามารถยกตัวอย่างนิพพานขั้นต้นๆ อย่างที่เรียกว่า นิโรธ ในนิโรธ ๕ ข้อแรก คือ

วิกขัมภนนิโรธ ได้ฌานสมาบัติ ก็ถือว่าเข้าวิกขัมภนนิโรธ หรือในพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าตรัส

เรื่อง ตทังคนิพพาน และทิฏฐธัมมนิพพาน

พระพุทธเจ้ายังตรัสว่า ปฐมฌานก็ตาม ทุติยฌานก็ตาม จนกระทั่งถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ ซึ่ง

เป็นสมาธิในระดับประณีตสูงขึ้นไปโดยลำดับนี้ แต่ละอย่างเป็นนิพพานได้โดยปริยาย พระองค์ตรัสไว้

อย่างนั้น แต่มันไม่ใช่ตัวแท้ตัวจริง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญแก่หลักธรรมเหล่านั้น แต่พระองค์ย้ำว่า ปัญญานี่แหละเป็นตัวตัดสิน

ศรัทธาก็เพื่อปัญญา ศีลวัตรก็เพื่อประคับประคอง จนกระทั่งเกิดปัญญา โดยเฉพาะศีลวัตรนั้นช่วยให้

เกิดสมาธิ สมาธิก็ต้องนำไปสู่ปัญญา ถ้าไม่อย่างนั้น ก็เป็นเพียงสมาธิที่นำไปสู่ภาวะดื่มด่ำทางจิต

เท่านั้น เป็นเรื่องของสมถะ ไม่ถึงนิพพาน ตกลงว่าจะต้องให้ถึงขั้นสูงสุดคือปัญญา

มีอุปมาเหมือนอย่างว่าจะตัดต้นไม้ เราจะต้องมีอะไรบ้าง ขอให้คิดดู

๑. เราจะต้องโน้มจิตใจ โน้มตัวเข้าไปหาการตัดต้นไม้นั้น มุ่งมองเข้าไปที่ต้นไม้

๒. ต้องมีที่เหยียบยัน ถ้าตัวเราไม่มีที่ยัน ไม่มีที่ยืนตั้งตัวไว้ เราก็ทำอะไรไม่ได้

๓. ต้องมีกำลัง มีกำลังในการที่จะยกมีดขวานขึ้นตัด

๔. ต้องมีมีดขวานที่คม หรืออุปกรณ์ที่ใช้ตัดได้

ในอุปมานี้ การหันหน้ามุ่งเข้าไปหาสิ่งนั้นก็คือศรัทธา พื้นดินที่เหยียบยันก็ตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้

เสมอว่า ศีลเปรียบเหมือนพื้นดินเป็นที่เหยียบยัน ทำให้เราทำงานการได้ ประการที่ ๓ เรี่ยวแรงกำลัง

ของเราในการที่จะหยิบมีดขวานขึ้นมาตัด นั่นคือสมาธิ แล้วสุดท้ายตัวมีดขวานที่คมนั้น ก็คือ

ปัญญา

ตัวที่ตัดที่ทำให้ขาดทำให้หลุดทำให้สำเร็จกิจ คือ อะไรคือมีดหรือขวาน มีดขวานนั้นเป็นตัวตัด

แต่ถ้าเราไม่มีสามอย่างแรก ทั้งที่มีมีดขวานเราก็ตัดไม่ได้ เพราะฉะนั้น สามอย่างแรกก็ขาดไม่ได้ แต่

ตัวตัดสินคืออันที่สี่ ได้แก่ ตัวปัญญา

พระพุทธศาสนาสอนว่า ปัญญาเป็นตัวตัดสิน จึงถือว่าปัญญาเป็นคุณธรรมสำคัญ เป็นเอกในพระ

พุทธศาสนา ปัญญาในขั้นสูงสุด คือปัญญาในขั้นที่จะทำงานรู้เท่าทันสัจธรรม ที่จะตัดสังโยชน์

เครื่องผูกมัดตัวไว้กับวัฏฏสงสาร ไว้กับความทุกข์ ได้แก่ ปัญญาที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า วิปัสสนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2011, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิปัสสนาก็คือปัญญานั่นแหละ ปัญญาในระดับหนึ่งประเภทหนึ่ง ทำหน้าที่อย่างหนึ่ง เราเรียกชื่อเฉพาะ

ว่าเป็นวิปัสสนา วิปัสสนานี้เป็นข้อปฏิบัติจำเพาะในพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้น จึงบอกว่า ปัญญา

โดยเฉพาะที่เรียกชื่อว่า วิปัสสนา นี้เป็นลักษณะพิเศษของพระพุทธศาสนา มีเฉพาะในพระพุทธศาสนา

ปัญญานี้ เป็นแกนกลางที่ร้อยประสานอยู่ในหลักพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในที่ต่างๆ อย่าง

เช่น หลักการทั่วไปที่ตรัสไว้ในคาถา มีใจความว่า คนทั้งหลายถูกภัยคือ ความกลัวคุกคามแล้ว ย่อม

ยึดถือสิ่งทั้งหลายมากมายเป็นสรณะ เช่น ยึดเอาเจ้าป่าเจ้าเขาต้นไม้ใหญ่เป็นที่พึ่ง แต่สิ่งเหล่านั้นไม่

ใช่สรณะอันเกษม คนยึดเอาสิ่งเหล่านั้นเป็นสรณะแล้ว ไม่สามารถพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ส่วนผู้ใดถึงพระรัตนตรัย ยึดเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว มองเห็นอริยสัจจ์ ๔

คือ พิจารณาด้วยปัญญารู้เข้าใจสัจธรรม รู้จักทุกข์ รู้ตัวปัญหา รู้เหตุของปัญหา รู้จักจุดหมายของ

ตนเองที่เป็นความดับทุกข์แล้วปฏิบัติตามมรรคาที่ถูกต้องซึ่งเป็นทางสายกลาง ดับทุกข์ได้ อันนั้นจึงจะ

เป็นสรณะที่แท้จริง


เรื่องพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือสรณะ ๓ นี้มีความหมายอย่างไร เป็นเรื่องที่จะต้องทำความ

เข้าใจกันต่อไปให้ชัดเจน อย่างน้อยจะต้องเข้าใจว่าการยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ จะนำไปสู่การ

มองเห็นอริยสัจจ์ ๔ อย่างไร แต่ในที่นี้ต้องการพูดให้เห็นว่า ท่านเน้นความสำคัญของปัญญา และ

ปัญญาโดยเฉพาะขั้นที่ทำลายกิเลส ก็คือ วิปัสสนา.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2011, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:

รอ 8&9 อยู่ค่ะท่านกรัชกาย ...ขอบคุณมากเจ้าค่ะ :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร