วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 03:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue tongue tongue

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ในใจของพระองค์ด้วยการกำหนดสติเฝ้าดูกายดูใจ
อยู่ตลอดเวลาโดยอาศัยป่าเป็นส่วนประกอบในการทำความเพียร
เพราะป่านั้นเงียบสงบ ป่าคือป่า ป่าตรัสรู้ไม่ได้
ชาวป่าชาวเขาที่เกิดในป่า อยู่ในป่าจนกระทั่งตายในป่า
ก็ไม่เห็นมีใครตรัสรู้ได้ ใจเท่านั้น
ที่จะตรัสรู้ ธรรมะของพุทธศาสนาจึงเป็นเรื่องของใจเท่านั้น
นักปฏิบัติส่วนมากยังไม่เข้าใจว่า ความสงบที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน
บางครั้งมีโอกาสอยู่กับสถานที่สงบแล้ว
ยังบอกว่าไม่สงบโดยโทษสิ่งภายนอกว่า เพราะสภาพแวดล้อมต่างๆ อันเป็นเสียงบ้าง บุคคลบ้าง
สิ่งนั้นสิ่งนี้บ้างคือต้นเหตุของความไม่สงบ
จิตเกิดการผลักต้านปรากฏการณ์โดย ไม่รู้เท่าทันจิตปรุงแต่งของตน
จึงพยายามที่จะหนีไปให้ไกลจากสิ่งเหล่านั้น
อยากไปอยู่ในป่าในเขาไกลๆ หรือในถ้ำที่เงียบสงบ
ซึ่งปราศจากผู้คนและเสียงต่างๆ ที่จะมารบกวน
ได้พบาบามแสวงหาความสงบจากสิ่งภายนอก
โดยเข้าใจเอาเองว่า ความสงบและไม่สงบนั้น
เกิดจาดสิ่งภายนอกเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามรถพบความสงบที่แท้จริงได้สักที
แม้จะพยายามหามานานแสนนาน ก็ยังหาไม่เจอ
นั่นเพราะยังไม่เข้าใจและยังหาไม่ถูกจุดต่างหาก
ขออธิบายว่า หากป่านอก ถ้ำนอก จะสงบเงียบสักแค่ไหน
แต่ป่าใน ถ้ำใน คือจิตใจของท่าน ยังไม่ยอมเงียบสงบ
ป่านอก ถ้ำนอกก็จะหาเงียบสงบสำหรับท่านไม่
เพราะความสงบที่แท้จริงนั้น เกิดจากข้างใน
คือจิตของท่านต่างหากที่เป็นต้นเหตุ หากจิตภายในไม่สงบ
ทุกที่ก็ไม่สงบ หากที่นี่คือใจที่ไม่สงบ
จะอยู่ที่ไหนๆมันก็ไม่สงบ จริงไหม?
:b50: :b48: :b55: :b49: :b44: :b40: :b29:

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


.....ดังนั้น ท่านจะต้องทำใจ ด้วยการ รู้ แล้วปล่อยไปเท่านั้น ดังเช่น
ธรรมชาติของน้ำ คือน้ำที่ไม่ไหล ขังไว้ย่อมเน่าฉันใด จิตที่รู้เรื่องอะไรแล้วไม่ยอมปล่อย ย่อมทุกข์ฉันนั้น
และธรรมแท้ๆนั้นเป็นกลางๆ ใครปล่อยวางได้ก็สบาย
เมื่อรู้ความจริงแล้วว่า เหตุเกิดแห่งความสงบ และไม่สงบ นั้นอยู่ที่ใจก็จงแสวงหาป่าใจ ถ้ำใจให้พบเถิด ด้วยการมีสติจับรู้อยู่แต่ปัจจุบัน
ภายในกายภายในใจตนเท่านั้น ไม่ต้องคิดอยากทำสมาธิให้เจริญสติอยู่กับปัจจุบันให้ได้ตลอดสายเท่านั้น ผลนั้นก็จะเกิดเป็นสมาธิขึ้นมาเองในที่สุด
เพราะสมาธิคือผลจากการเจริญสติต่างหาก
จงแสวงหาสติเถิดเพื่อให้เกิดเป็นสมาธิ อันเป็นจิตหนึ่งจริงๆ คือความสงบที่แท้ จริง.............
..จงพยายามทำใจให้สงบเหมือนป่า คือทำใจให้เป็นป่าใจ หรือการทำใจให้เป็นสมาธิ คือจิตสงบนั่นเอง และจะต้องทำใจให้สงบได้ในทุกที่ด้วย
โดยไม่จำกัดสถานที่ทางภายนอก เมื่อใจเกิดเป็นสมาธิได้แล้ว
คือพบจิตเงียบได้แล้ว ความเย็นสบายทั้งกายใจ ย่อมจะปรากฏขึ้นเองภายในนั้นตลอดเวลา
เพราะมันเป็นผลของความเงียบ
ดังเช่น นักมวยที่ฝึกซ้อมกระสอบทรายจนชำนาญ มันเป็นการชกฝ่ายเดียวโดยไม่มีการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม
ยังไม่เจอของจริงผลนั้นจึงดูเหมือน เป็นผู้ชนะอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับการนั่งหลับตาทำสมาธิ พอจิตสงบก็ลืมทุกข์ไปชั่วขณะหนึ่ง
มันเป็นการลืมทุกข์หรือศิลาทับหญ้า
ยังมิใช้การดับทุกข์ที่แท้จริง เพราะพอออกจากสมาธิเจอผัสสะก็เกิดทุกข์ได้อีก
ของจริงต้องดับกันตรงผัสสะข้างนอกทันทีที่กระทบก็จบลงแค่นั้น
ทุกข์จะไม่สามารถเข้าถึงใจได้เลยจึงจะใช่....

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue tongue tongue tongue

ดังนั้นผลแท้ๆ จะพิสูจน์ได้ต่อเมื่อเจอผัสสะขณะลืมตาอยู่กับชีวิตจริงๆ
หรือการขึ้นชกบนเวทีชีวิตอีกที
จะต้องพบคู่ต่อสู้ทั้งนอกทั้งใน ในลีลาต่างๆ ที่โต้ตอบมาให้ได้ทันจริงๆ
การชกในที่นี้มิใช่หมายถึงการต่อสู้ขกตีทางกายภายนอกับใคร
แต่หมายถึงสติปัญญาที่ต่อสู้ห้ำหั่นกับกิเลส คือ
เหตุเกิดแห่งทุกข์ที่เกิดขึ้นภายในจิตของตนเท่านั้น

และสมาธิตัวแท้ๆ คือสมาธิธรรมชาติ หรือความปกติของจิต
จิตหนึ่งหรือจิตเงียบนั้นจะต้องมีอยู่ภายในจิตตลอดเวลา
มีอยู่ในทุกอริยาบถ ทั้งหลับตาลืมตาก็มีอยู่
โดยมิใช่ต้องมานั่งหลับตาทำสมาธิขณะที่เจอผัสสะ......

..แต่มันกลับเป็นสมาธิตัวตื่นจริงๆ ของธรรมชาติจากภายในที่มาทำเรา มารักษาเรา
เมื่อก่อนเราทำสมาธิ แต่เดี๋ยวนี้สมาธิกลับมาทำเราคือ สมาธินั้นกลับมารักษาเราอยู่ตลอดเวลา
พอถึงจุดนี้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องอาศัยสติปัญญานอกคือพระไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
เข้าช่วยในการค้นคิดพิจารณาด้วย เพื่อให้เกิดปัญญาในการปล่อยวางอีกที
คือปัญญาในปัญญา จนกระทั่งมันเกิดเป็นปัญญาภายในตัวแท้ๆ
ที่ปล่อยวางได้เองโดยอัตโนมัติ ทันทีที่รู้ ที่เจอผัสสะ ก็จบลงตรงนั้น
โดยไม่ต้องกลับมานั่งทำปัญญา คือ คิดค้นพิจารณาอีกต่อไป จึงจะใช่ของจริง...
:b35: :b35: :b35: :b35: :b35: :b55: :b55:

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


...การปฏิบัติธรรม เมื่อจิตเป็นสมาธิได้อย่างมั่นคง เห็นชัดเจนจนมั่นใจในตนจริงๆแล้ว
ควรจะทดสอบตัวเองด้วยการอยู่กับทุกปรากฏการณ์ให้ได้ คือ
อยู่กับทุกสถานที่ ทุกบุคคล ทุกผัสสะ ทั้งที่ดีและไม่ดี ชอบและไม่ชอบ หยาบและละเอียด
ในบ้าน ในเมือง ในป่า ให้ได้ด้วย หากใช่จริงในทุกที่ จิตก็มิได้หวั่นไหวต่อดีชั่ว
ชอบไม่ชอบ หยาบหรือละเอียด บ้านหรือป่า มันจะไม่มีทั้งบ้าน ทั้งป่า
เพราะมันรู้ว่าทุกที่เป็นสักแต่ว่าที่อยู่อาศัยเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเลยจริงๆ

ส่วนทางใจภายในจะไม่เป็นอะไรเลย อยู่กับทุกข์ได้โดยใจไม่ทุกข์
ทางกายเป็นธรรมดา เน้นที่ใจเท่านั้นเป็นสำคัญ ข้างนอกเป็นเพียงลีลา
ไม่มีอะไรอยู่กับกิเลสได้ โดยใจไม่มีกิเลส
เพราะ กิเลสคือเหตุแห่งทุกข์นั้น จะไม่สามรถย้อนกลับมาสู่ใจได้อีกเลย
หากเหตุนั้นเคยดับไปแล้ว ด้วยปัญญาเห็นแจ้งในจิตตนจริงๆ
ซึ่งตนเท่านั้นที่จะรู้ได้ด้วยตนเอง เฉพาะตน อันเรียกว่า ปัจจัตตัง
ผู้อื่นไม่มีใครจะรู้ได้ดีเท่าตนรู้ตน เห็นตน เพราะธรรมแท้ๆ เป็นเรื่องของตน
ในที่สุดจิตจะมีแต่รู้ที่ปกติ รู้ที่ไม่มีไม่เป็นอะไร รู้ที่ไม่ทุกข์ รู้ที่อิสระสบาย
รู้ที่ไม่ติดไม่ข้อง รู้ปล่อย เท่านั้นเอง..

..สมาธิหรือจิตสงบนั้น สามารถที่จะทำได้ ๒ อย่าง คือ ทั้งในอิริยาบถนั่งและอิริยาบถเคลื่อนไหวและทำได้ในทุกท่า โดยไม่จำกัดท่าใดๆ
ด้วยเพราะใช้ใจทำ ใช้กายเป็นสถานที่ทำ คือใช้ใจจับดูกายเท่านั้น
กายจะอยู่ท่าไหนก็ได้ เพียงแต่ให้พยายามสนใจดูตัวเองว่าปัจจุบันนี้เดี๋ยวนี้ขณะนี้ กายเรา
กำลังทำอะไรอยู่ กำหนดย้ำความรู้สึกนั้นลงไปอีกทีว่า กำลังทำอะไรอยู่
...ข้อสำคัญ..ให้ย้ำความรู้สึกอีกครั้งซำลงไป เรียกว่ารู้ในรู้ หรือสติสัมปชัญญะก็คือตัวนี้แหละ มันจะเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวอย่างไรก็ให้กำหนดรู้ตามปัจจุบันขณะนั้นอยู่เสมอ
คือให้ใจรู้กาย...

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley smiley smiley

...ให้สังเกตดูว่า ทุกเหตุการณ์ทำแล้วผลนั้นจะเป็นอย่าไร สุขหรือทุกข์หรือเฉยๆ
มันมีอาการอย่างไรบ้าง ก็ให้รับรู้ดูไว้ ให้ระวัง จิตอกุศล จิตผลักต้าน จิตทุกข์
ตัวนี้จะเกิดขึ้นด้วย คือหากเขาผิดพลาด ก็อย่าซ้ำติมเขา รังเกียจเขา
ดูถูกเหยียดหยามเขา ความผิดพลาดย่อมมีธรรมดาแก่ทุกคน
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม

หลักที่กล่าวมานี้ คือ แนวการฝึกสมาธิในอิริยาบถเคลื่อนไหว หรือสมาธิในชีวิตประจำวัน
สมาธิธรรมชาติธรรมดาก็ได้ เรียกว่าอะไรก็ได้ ไม่สำคัญต่อชื่อเรียก
เพราะไม่ยึดรูปแบบ ยึดสถานที่ ใช้กายตนเองเป็นสถานที่ในการทำ
ใช้ใจเป็นผู้ทำ ทำข้างในคือทำใจ ปล่อยข้างนอกคือปล่อยกานตามปกติธรรมชาติ
ธรรมดาในชีวิตประจำวันของตน ในทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว จะอยู่
ณ สถานที่ใดจะอยู่ในรูปแบบไหน หมายถึงจะแต่งตัวอย่างไหนก็ไม่สำคัญไม่เป็นอุปสรรคของการปฏิบัติ
ตามสบาย สำคัญตรงใจเท่านั้น แม้จะทำการงานอาชีพอะไร จะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย
ผู้ใหญ่ คนแก่ หรือเด็ก คนชาติใด ภาษาไหน หากเข้าใจหลักนี้ก็ทำได้หมด..
...เป็นทางอันอิสระจริงๆ อีกทั้งไม่กำหนดเวลาใดๆด้วย
ทำเมื่อไหร่ก็ใช่เมื่อนั้น ไม่ทำก็ไม่ใช่
หมายถึงทำได้ทุกอย่างที่จิตอยากทำไม่จำกัดเวลาใดๆทั้งสิ้น
ทำได้ทุกเวลาทุกนาทีทุกชั่วโมง แม้ไม่รู้เวลาก็ทำได้ อยู่ที่..ทำ..เท่านั้นแหละ

..ส่วน..สมาธิในอิริยาบถนิ่งหรืออิริยาบถเดียว คือการที่เราอยู่มนท่าใดท่าหนึ่งนานๆ
จะเป็น นั่ง ยืน นอน ก็ได้ แต่ส่วนมากโดยทั่วไปจะใช้วิธีนั่งเป็นหลักในการปฏิบัติ
เช่นการนั่งหลับตานิ่ง อยู่ในท่าเดียวนานๆ ไม่เคลื่อนไหวไปไหน
ดังที่มีชื่อเรียกกันอยู่ทั่วไปว่า "การนั่งสมาธิ" ซึ่งจะใช้ความรู้สึกอันเรียกว่าสติหรือใจก็ได้
ตามแต่จะเรียก เพราะมันจะมารวมรู้อยู่ที่ใจอีกทีในที่สุด
มาคอยเฝ้าสังเกตจับดูลมหายใจภายในร่างกายของตนว่าขณะปัจจุบันนี้มันเป็นอย่างไร
เข้าหรือออกก็ให้รู้ โดยใช้วิธีกำหนดชื่อย้ำความรู้สึกเอาไว้
เช่น เข้าก็รู้ ออกก็รู้ หรือ เข้าว่า พุท ออกว่า โธ
..จึงขอถือโอกาสเปิดทางให้กับทุกๆคน เลือกเอาเองด้วยการ อธิบาย ณ ที่นี้ด้วย
เพื่อความเมตตาจากใจจริง ต่อผู้ใฝ่ใจในธรรมทุกๆท่าน....

:b3: :b19: :b9: :b32: :b11: :b13:

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:06
โพสต์: 18

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงจิ้งจก
สิ่งที่ชื่นชอบ: ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ชื่อเล่น: น้อง
อายุ: 30
ที่อยู่: bkk

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: :b4: :b20: :b4: :b4:

...ขอทุกท่านอย่าเพิ่งเชื่อ โปรดพิจารณาให้เห็นจริงเสียก่อนจึงค่อยเชื่อ
การได้ยินอะไรแล้วเชื่อทันทีหรือปฏิเสธทันทีนั้น คือจิตที่ไม่เป็นกลาง
เป็นจิตยินดียินร้าย จิตดูดรั้ง หรือผลักต้านเสียแล้ว
..และจิตที่ส่งออกไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ อันเป็นเรื่องในอดีต หรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง
จิตจะเกิดความคิดวิตกกังวลจนเป็นทุกข์เสมอ
..หากจิตตั้งมั่น รู้อยู่ภายในกายภายในใจอันเป็นปัจจุบันที่รู้จริงๆ
แล้วจิตจะเกิดความสงบ ปกติ โปร่ง ว่าง เบาสบาย
พอกำลังสติเต็มรอบ มันจะเกิดปัญญาอันเป็นความรู้แจ้ง
คือตื่นและอิสระเบิกบานในสิ่งที่รู้นั้นทันทีมันจะเกิดปัญญาแห่งธาตุรู้
ที่จะรู้ว่า เหตุทุกข์แท้ๆนั้นเกิดตรงไหน เกิดจากอะไร ทำไมมันถึงเกิด แก้อย่างไร
ควรจะทำอย่างไรจึงจะดับทุกข์ได้ทั้งสิ้น มันจะบอกเองหมด
จากภายในจิตใจของใครของมันอีกที มันจะเป็นทั้งผู้สอนผู้เรียน
และผู้ตัดสินต่อผลนั้นทั้งหมด แปลกจริงๆ เรียนเอง สอนเอง รู้เอง
มันเป็นการรู้จากภายในสู่ภายนอก เป็นรู้จริง รู้แท้ ที่ได้พบเห็น ได้สัมผัสถึงจริงๆ
ด้วยการกระทำตนเอง ธรรมแท้เป็นเรื่องตัวเอง ต้องพึ่งตนเองจริงๆ
อันเกิดจากการกระทำที่ถึงจุดของมันเท่านั้น
จึงจะดับทุกข์ได้อย่างแท้จริง ดับสนิทจริงๆไม่มีส่วนเหลือ
..สรุป..ข้อสำคัญ ธรรมที่ดับทุกข์ได้จริง จะต้องออกมาจากถายในจิตใจของใครของมัน
แล้วมาตรงกับข้อบัญญัติ หรือพระธรรม หรือพระไตรปิฏก เท่านั้นจึงจะใช่..

..ในที่สุด การฝึกสมาธินั้นควรฝึกให้ได้ในทุกท่าใหม่ๆ
จะเอาท่าไหนก่อนก็ได้ตามถนัดตามสบาย
ไม่มีผิดไม่มีถูกอะไร ถนัดอย่างไหนก็เอาอย่างนั้น

..สำคัญคือ ดูจิตตน ต่อการกระทำนั้นๆ ว่าทำอย่างไรจิตสงบเร็ว
สงบนานเป็นใช้ได้ ให้พยายามทำไปเรื่อยๆจนชำนาญ
แล้วลองเปลี่ยนไปจับอิริยาบถอื่นดูบ้าง
หากเกิดความเบื่อหน่ายหรือเกิดความชำนาญแล้ว
ลองเปลี่ยนอิริยาบถใหม่ดูอีกที โดยพยายามให้จิตใจจับอยู่ภายในกายภายในใจ
ให้ทันกับปัจจุบันที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง
นี่คือ มรรคธรรม หรือทางาความพ้นทุกข์ทางดับทุกข์จริงๆ...

:b53: :b53: :b53: :b53: :b53:

.....................................................
..................

ความจริงสะท้อนรูปทรงในฝัน
ความฝันสะท้อนรูปทรงความจริง
มนุษย์มิใช้สิ่งแตกต่างซึ่งกันและกัน
จิตใจต่างหากที่ทำให้มนุษย์หวาดระแวง
บางครั้ง...แม้กระทั่งตนเอง....

...............


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร