วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 12:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2010, 23:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


จูฬวิยูหสุตตนิทเทสที่ ๑๒

(พระพุทธนิมิตตรัสถามว่า)
มีสมณพราหมณ์บางพวก มีความอยู่รอบ ในทิฏฐิของตนๆ ถือทิฏฐินั้นแล้ว อ้างตนเป็นผู้ฉลาด พูดต่างๆ ว่า บุคคลใดรู้อย่างนี้ บุคคลนั้นชื่อว่ารู้ธรรมแล้ว บุคคลใดคัดค้านธรรมนี้ บุคคลนั้นชื่อว่ายังเป็นผู้ไม่บริบูรณ์หรือ.

(พระพุทธนิมิตตรัสถามอีกว่า)
สมณพราหมณ์บางพวก ถือทิฏฐิแม้ อย่างนี้ ย่อมวิวาท และกล่าวว่า คนอื่นโง่ ไม่ฉลาด วาทะของ สมณพราหมณ์เหล่านี้ วาทะไหนจะจริงหนอ? เพราะสมณพราหมณ์ เหล่านี้ทั้งหมด ต่างก็อ้างตนว่าเป็นผู้ฉลาด.

(พระพุทธนิมิตตรัสถามว่า)
สมณพราหมณ์บางพวก ถือทิฏฐิแม้อย่างนี้ย่อมวิวาท และกล่าวว่า คนอื่นโง่ ไม่ฉลาด วาทะของสมณพราหมณ์เหล่านี้ วาทะไหนจริงหนอ? เพราะสมณพราหมณ์เหล่านี้ ทั้งหมดต่างก็อ้างตนว่าเป็นผู้ฉลาด.

(พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า)
ข้าพระองค์ไม่อนุญาตธรรมของคนอื่น คนอื่นเป็นพาล ลามก มีปัญญาเลว สมณพราหมณ์ทั้งหมด เป็นพาล มีปัญญาเสื่อมทราม สมณพราหมณ์ทั้งปวงนี้เทียว มีความอยู่รอบในทิฏฐิ. ก็ถ้าพวกสมณพราหมณ์เป็นผู้ผ่องแผ้วเพราะทิฏฐิของตน เป็นผู้มีปัญญา หมดจดดี เป็นผู้ฉลาด มีความรู้ไซร้ บรรดาสมณพราหมณ์พวกนั้น ใครๆ จะไม่เป็นผู้มีปัญญาเสื่อมรอบ เพราะทิฏฐิเป็นธรรมชาติอัน สมณพราหมณ์แม้เหล่านั้น ถือเอาบริบูรณ์อย่างนั้น. คนคู่กล่าวปรารภทิฏฐิใดกะกันและกันว่าเป็นพาล ข้าพระองค์ไม่กล่าว ทิฏฐินั้นว่าจริง พวกสมณพราหมณ์ได้ทำทิฏฐิของตนๆ ว่าจริง เพราะเหตุนั้นแหละ พวกสมณพราหมณ์จึงเห็นคนอื่นว่าเป็นพาล.

(พระพุทธนิมิตตรัสถามอีกว่า)
สมณพราหมณ์บางพวกกล่าวธรรมใดว่า จริงแท้ สมณพราหมณ์แม้พวกอื่นก็กล่าวธรรมนั้นว่าเปล่าเท็จ สมณพราหมณ์เหล่านั้น ถือทิฏฐิแม้อย่างนี้แล้วก็วิวาทกัน เพราะเหตุไร พวกสมณพราหมณ์จึงไม่กล่าวเป็นอย่างเดียวกัน.

(พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า)
ก็หมู่สัตว์รู้ชัดสัจจะใด ไม่พึงวิวาทกัน สัจจะนั้นมีอย่างเดียวเท่านั้น มิได้มี ๒ อย่าง สมณพราหมณ์เหล่านั้น อวดสัจจะต่างๆ ไปเอง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้นจึงไม่กล่าวเป็นอย่างเดียวกัน.

(พระพุทธนิมิตตรัสถามอีกว่า)
เพราะเหตุไรหนอ? พวกสมณพราหมณ์ จึงกล่าวสัจจะไปต่างๆ คือ เป็นผู้อ้างตนว่าเป็นผู้ฉลาด กล่าวยืนยันสัจจะหลายอย่าง ก็สัจจะที่พวกสมณพราหมณ์ฟังมาแล้ว เป็นสัจจะ มากอย่างต่างๆ กันหรือสมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมระลึกตรึกเอาเอง.

(พระผู้มีพระภาคตรัสตอบ)
สัจจะมากอย่างต่างๆ กันมิได้มีเลย เว้น แต่สัจจะที่แน่นอน ด้วยสัญญาในโลก พวกสมณพราหมณ์ดำริ ตรึกเอาในทิฏฐิทั้งหลายแล้ว ได้กล่าวธรรมเป็น ๒ อย่างว่า คำของเราจริง คำของท่านเท็จ. เจ้าทิฏฐิอาศัยธรรมเหล่านี้ คือ รูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน ศีล พรต หรือ อารมณ์ที่ทราบ เป็นผู้แสดงอารมณ์ดูหมิ่นผู้อื่น และตั้งอยู่ในทิฏฐิ เป็นวินิจฉัยแล้ว ร่าเริงอยู่กล่าวว่า คนอื่นเป็นพาล ไม่ฉลาด. เจ้าทิฏฐิเห็นบุคคลอื่นว่าเป็นพาลด้วยเหตุใด และก็กล่าวถึงตนว่าเป็น ผู้ฉลาดด้วยเหตุนั้น เจ้าทิฏฐินั้นอวดอ้างว่าตนฉลาดด้วยตนเอง ย่อมดูหมิ่นบุคคลอื่น และพูดเช่นนั้นเหมือนกัน. เจ้าทิฏฐินั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยอติสารทิฏฐิ (ทิฏฐิล่วงแก่นสาร) เป็น ผู้เมาด้วยความถือตัว มีความถือตัวเต็มรอบ อภิเษกตนเองด้วยใจ เพราะทิฏฐิของเจ้าทิฏฐินั้นบริบูรณ์อย่างนั้น. ก็ถ้าบุคคลเป็นผู้เลวเพราะคำของคนอื่นไซร้ บุคคลนั้นย่อมเป็นคนมี ปัญญาทรามพร้อมด้วยคนอื่นนั้น อีกอย่างหนึ่ง ถ้าบุคคลเป็นเวทคู เป็นธีรชนเองไซร้ ใครๆ ในบรรดาสมณพราหมณ์ ย่อมไม่เป็นคนพาล. ชนเหล่าใด ย่อมสรรเสริญธรรมอื่นจากธรรมนี้ ชนเหล่านั้น ย่อมเป็น ผู้พลาดทางแห่งความหมดจด เป็นผู้ไม่บริบูรณ์ พวกเดียรถีย์ย่อมกล่าว แม้อย่างนั้นโดยทิฏฐิมาก เพราะพวกเดียรถีย์นั้นเป็นผู้ยินดียิ่งด้วยความกำหนัดเพราะทิฏฐิของตน. พวกเดียรถีย์ย่อมกล่าวความหมดจดว่า มีในธรรมนี้เท่านั้น ไม่กล่าวความ หมดจดวิเศษในธรรมทั้งหลายอื่น พวกเดียรถีย์ตั้งมั่นแม้อย่างนี้ โดยทิฏฐิมาก เป็นผู้กล่าวยืนยันในธรรมอันเป็นทางดำเนินของตนนั้น. อนึ่ง เจ้าทิฏฐิเป็นผู้พูดยืนยันในธรรมอันเป็นทางดำเนินของตน พึงเห็น ใครอื่นว่า เป็นพาล ในเพราะทิฏฐินั้น เจ้าทิฏฐินั้น กล่าวบุคคลอื่นว่าเป็นพาล มีความไม่หมดจดเป็นธรรมดา พึงนำมาซึ่งความมุ่งร้ายเอง. เจ้าทิฏฐินั้น ตั้งอยู่ในทิฏฐิที่ตกลงใจ นับถือเองแล้ว ย่อมถึงความวิวาท ในข้างหน้าในโลก ชันตุชน ละทิฏฐิที่ตกลงใจทั้งปวง ย่อมไม่ทำความทุ่มเถียงในโลก.

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร