วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 12:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2010, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ดีแบบพุทธ

พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าโคตมะ คือเรื่องของทุกข์ และการดับทุกข์ การปฏิบัติเพื่อที่จะไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป การที่คนเราจะเดินทางไปถึงนิพพาน จะต้องอยู่บนพื้นฐานของสภาวะภายในจิตใจสามประการคือ ความไม่หลง ความไม่โลภ และความไม่โกรธ (เรียกว่าวิชชา)

ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือ ความพอใจ ไม่พอใจ และการตามไม่ทันความพอใจไม่พอใจปล่อยให้ความพอใจไม่พอใจบังคับบัญชาตัวเรา เป็นอุปสรรค์สำคัญที่จะทำให้ไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ (เรียกว่าอวิชชา) และเป็นสาเหตุของความเลวร้ายหรือความชั่วทั้งปวงที่จะเกิดกับเรา (อกุศลเหตุ ๓) ในทางกลับกัน การเท่าทันความพอใจไม่พอใจ หรือความไม่โลภไม่โกรธไม่หลง เป็นสาเหตุที่ทำให้คนเป็นคนดี (กุศลเหตุ ๓)

เพราะฉะนั้น ผู้ที่กำลังเดินทางไปสู่นิพพาน จึงเป็นคนดีโดยปริยาย หรือเป็นคนดีโดยกมลสันดาร เป็นคนดีแบบถาวร เพราะเจริญความจริง อันเป็นเหตุให้เราเท่าทันความพอใจไม่พอใจ เปรียบเหมือนเราปลูกต้นมะม่วง ต้องการเพียงผลมะม่วง เหตุเราต้องดูแลบำรุงต้น ทำให้ต้นมะม่วงสมบูรณ์ มีใบเขียว เป็นสิ่งที่ต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย

จึงสรุปได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าโคตมะนั้นไม่ได้สอนคนให้เป็นคนดี แต่ทำให้คนนั้นกลายเป็นคนดี เปลี่ยนนิสัยไปเป็นคนละคน เป็นผลพลอยได้จากการเดินทางไปสู่นิพพาน การเป็นคนดีแบบพุทธนั้นจึงเป็นคนดีแบบถาวร ด้วยหนทางอันประเสริฐ (อริยมรรคอันมีองค์ ๘) นี้ เริ่มจากการสร้างความเห็นที่ถูกต้อง ด้วยการเจริญแต่ความจริง รู้เท่าทันสิ่งที่มากระทบสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกายใจว่าไม่เที่ยง ไม่มีอะไร คือทางอันประเสริฐที่จะทำให้สังคมสงบสุข เพราะสั้งคมจะประกอบด้วยคนดีแบบพุทธ …

Quote Tipitaka:
อวิชชาสูตร
ว่าด้วยอวิชชา และวิชชาเป็นหัวหน้าแห่งอกุศลและกุศล

[๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า.

[๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อวิชชาเป็นหัวหน้าในการยังอกุศลธรรมให้ถึงพร้อม เกิดร่วม กับความไม่ละอายบาป ความไม่สะดุ้งกลัวบาป ความเห็นผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้ไม่รู้แจ้ง ประกอบ ด้วยอวิชชา ความดำริผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้มีความเห็นผิด เจรจาผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้มีความดำริผิด การงานผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้เจรจาผิด การเลี้ยงชีพผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้ทำการงานผิด พยายามผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้เลี้ยงชีพผิด ระลึกผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้พยายามผิด ตั้งใจผิดย่อมเกิดมีแก่ผู้ระลึกผิด.

[๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนวิชชา เป็นหัวหน้าในการยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม เกิด ร่วมกับความละอายบาป ความสะดุ้งกลัวบาป ความเห็นชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้รู้แจ้ง ประกอบด้วยวิชชา ความดำริชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้มีความเห็นชอบ เจรจาชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้มีความดำริชอบ การงานชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้เจรจาชอบ การเลี้ยงชีพชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้ทำการงานชอบ พยายาม ชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้เลี้ยงชีพชอบ ระลึกชอบย่อมเกิดมีแก่ผู้พยายามชอบ ตั้งใจชอบย่อมเกิด มีแก่ผู้ระลึกชอบ แล.

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แก้ไขล่าสุดโดย Supareak Mulpong เมื่อ 25 ก.พ. 2010, 00:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2010, 00:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2010, 09:32
โพสต์: 45

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ ...
:b8: :b8: :b8: :b8: :b8: tongue smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร