วันเวลาปัจจุบัน 02 ต.ค. 2025, 19:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2025, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8600


 ข้อมูลส่วนตัว


"ถามว่า : พระนิพพานเป็นเพียงบัญญัติหรือ
ตอบว่า : ข้อนั้นไม่สมควร

ถามว่า : เพราะเหตุใด
ตอบว่า : เพราะหากเป็นตามนี้ จิตและเจตสิกที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์
ก็ควรมีอารมณ์เป็นบัญญัติ

ถามว่า : จิตและเจตสิกดังกล่าวควรมีอารมณ์เป็นบัญญัติอย่างไร
ตอบว่า : ในบริตตารัมมณติกะ (กลุ่มธรรม ๓ บท คือ ธรรมที่มีธรมเล็กน้อยเป็นอารมณ์
ธรรมที่มีธรรมอันมีกำลังเป็นอารมณ์ และธรรมที่มีมีธรรมอันไม่มีประมาณเป็น
อารมณ์) พระผู้มีพระภาคทรงแสดงบท[เป็นหัวข้อ] ว่า "ธรรมที่มีรรมอันไม่มีประมาณเป็น
อารมณ์ เป็นไฉน" แล้วตรัสเฉลยว่า "มรรคจิต ๔ ที่เป็นโลกุตตระ ผลแห่งความเป็นสมณะ ๔
ธรรมเหล่านี้มีธรรมอันไม่มีประมาณเป็นอารมณ์" ถ้าธรรมเหล่านี้มีอารมณ์เป็นบัญญัติ ความ
มีอารมณ์ไม่มีประมาณย่อมไม่สมควร แต่ควรมีบัญญัติเป็นอารมณ์ ดังพระพุทธวจนะว่า
'ธรรมที่นี่อารมณ์เป็นบัญญัติ คือ รูปาวจรติกลาปตามจตุกกกนัย) รูปาวจรจตุกก
ฌาน [ตามปัญจกนัย] ที่เป็นกุศล วิบาก และกิริยา วิบากของจตุตถฌาน พร้อมทั้งอากาสา
นัญจายตนฌานและอากิญจัญญายตนฌานที่เป็นกุศล วิบาก และกิริยา
ธรรมเหล่านี้มีอารมณ์เป็นบัญญัติ""

[ฎีกาใหม่อธิบายว่า ธรรมที่มีอารมณ์เป็นบัญญัติ มี ๑๙ ดวง คือ รูปาวจรปฐมฌานจิต ๓
รูปาวจรทุติยฌานจิต ๓ รูปาวจรตติยฌานจิต ๓ รูปาวจรจตถฌานจิต ๓
รูปาวจรปัญจมฌานวิปากจิต ๑ อากาสานัญจายตนจิต ๓ อากิญจัญญายตนจิต ๓
เว้นกุศลอภิญญาจิตและกิริยาอภิญญาจิต
ย่อมรับกามาวจรอารมณ์เป็นต้นได้เมื่อทำหน้าหน้าที่อภิญญา จึงไปเข้าในข้อนี้)

ตสฺมา น ปญฺญตฺติมตฺตํ นิพฺพานํ ยสฺมา จ ปณฺณตฺติภาโว นิพฺพานสฺส น ยุชฺชติ,
ตสฺมา มคฺคผลานํ อารมฺมณปจฺจยภูตํ อุปฺปาทาทีนมภาวโต นิจฺจํ, รูปสภาวภาวโต อรูปํ,
ปปญฺจาภาวโต นิปฺปปญฺจํ นิพฺพานํ นาม อตฺถีติ อุปคนฺตนพนฺติ

ด้วยเหตุดังกล่าว พระนิพพานจึงไม่ควรเป็นเพียงบัญญัติ และโดยเหตุที่พระพิพาน
ไม่ควรเป็นบัญญัติ จึงทราบได้ว่าพระนิพพานซึ่งเป็นอารัมมณปัจจัยของมรรคและผลมีสภาพ
เที่ยง เพราะปราศจากความเกิดขึ้นเป็นต้น เป็นนามธรรม เพราะไม่มีสภาพแปรปรวน[ที่
ประจักษ์เหมือนรูปธรรม] และไม่เนิ่นช้า เพราะไม่มีปปัญจธรรม [ธรรมทำให้เนิ่นช้า คือ
ตัณหา มานะ และทิฏฐิ]"

๗๗๒. อจฺจนฺตมนนฺตํ สนฺตํ. อมตํ อปโลกิตํ
ปณีตํ สรณํ เขมํ ตาณํ เลณี ปรายณํ

๗๗๓. สิวญจ นิปุณํ สจฺจํ ทุกฺขกฺขยมนาสวํ
สุทุทฺทสํ ปร๋ ปารํ นิพุพานมนิทสฺสน์

๗๗๔. ตณฺหากฺขยํ ธุวํ ทีปํ อพฺยาปชุณมนีติกํ
อนาลยมรูปญฺจ. ปทมจฺจุตมกฺขรํ.

๗๗๕. วิราคญฺจ นิโรธญฺจวิมุตฺติ โมกฺขเมว จ
อิเมหิ ปน นาเมหิ. นิพฺพานํ ตุ กถียติ.

"พระนิพพานตรัสไว้ด้วยชื่อเหล่านี้ว่า

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2025, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8600


 ข้อมูลส่วนตัว


พระนิพพานตรัสไว้ด้วยชื่อเหล่านี้ว่า

อัจจันตะ (ที่สุดแห่งสงสาร)
อนันตะ (ไม่มีขอบเขตคือความเกิดขึ้นอละดับไป)
สันตะ (สงบ)
อมตะ (ไม่ตาย)
อปโลกิตะ (ไม่พินาศ)
ปณีตะ (ประณีต)
สรณะ (ที่สิ้นสุดแห่งทุกข์)
เข-มะ (แดนเกษม)
ตาณะ (ที่คุ้มครอง)
เลณะ (ที่หลบภัย)
ปรายณะ (ที่อาศัย)
สิวะ (พันจากความบีบคั้น)
นิปุณะ (ละเอียด)
อนาสวะ (ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ)
สุทุททสะ (เห็นได้ยาก)
ประ (ยอดเยี่ยม)
ปาระ (ฝั่ง)
นิพพาน (หลีกออกจากตัณหา)
อนิทัสสนะ (เห็นด้วยตาเนื้อหรือตาทิพย์ไม่ได้)
ตัณหักขยะ (ที่สิ้นตัณหา)
ทีปะ (ที่พัก)
ธุวะ (ยั่งยืน)
อัพยาปัชฌะ (ไม่มีสิ่งเบียดเบียน)
อนีติกะ (ไมมีอันตราย)
อนาลยะ (ไม่มีตัณหา)
อรูปะ (ไม่มีความแปรปรวน)
ปทะ (มั่นคง)
อัจจุตะ (ไม่คลาดเคลื่อน)
อักขระ (ไม่เสื่อมสิ้นไป)
วิราคะ (ปราศจากความกำหนัด)
นิโรธะ (ที่ดับตัณหา)
วิมุตติ (ความหลุดพันจากสังขตธรรม)
โมกขะ (ความพ้นไปจากภพ)"

๗๗๖. เอวญจ ปน วิญญาย. นิพฺพานมฺปิ จ อจฺจุตํ
ตสฺส จาธิคมูปาโย. กตฺตพฺโพ วิญญุนา สทา.

"เมื่อวิญญูชนเข้าใจพระนิพพานที่มีสภาพไม่คลาดเคลื่อนอย่างนี้แล้ว พึงบำเพ็ญ
ไตรสิกขาเป็นนิตย์เพื่อบรรลุพระนิพพานนั้น"

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร