พระพุทธองค์ได้ตรัสต่อไปอีกว่า

สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติ อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ.
ภวิชฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโร.
"สัตว์ทั้งหลายที่มีกิเลสธุรีน้อย ในจักษุมีอยู่ย่อมเสื่อมเพราะไม่ได้ฟังธรรมจักมีผู้รู้ธรรม "

บางคนได้สั่งสมบุญบารมีมาแล้วในชาติก่อนจึงมีกิเลสธุลีในปัญญาจะถูกเบาบางดวงตาปกติ
ของคนทั่วไป ถ้ามีต้อหินหรือต้อกระจกอยู่ก็จะทำให้ไม่ชัดเจนแต่ดวงตาที่ใสกระจ่างไม่มีโรคย่อมเห็น
สิ่งต่างๆได้ชัดเจนฉันใดปัญญาจักษุก็เปรียบได้กับดวงตาที่ไม่มีโรคอันนั้นบุคคลที่มีปัญญาจักษุ
ย่อมจะ มีกิเลสทุลีเบาบางเมื่อได้สะดับธรรมเหมาะสมย่อมจะเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามเพื่อ
ความพ้นทุกข์ได้

บางคนไม่มีโอกาสได้ฟังธรรมจึงเสื่อมจากธรรมที่ควรเจริญทั้ง ๓ คือ ศีล สมาธิทและปัญญาที่พึงบรรลุ
เช่น ตอนที่พระพุทธองค์จะทรงประกาศพระศาสนาเผยแพร่พุทธธรรมอาฬารดาบส และอุทกดาบสได้
เสียชีวิตไปไม่นานพอที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้ ถ้าท่านเหล่านั้นได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็คงจะได้
บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แต่เพราะได้เสียชีวิตจากไปก่อนท่านทั้งสอง จึงควรจะทำดังกล่าว
บัดนี้ได้ไปบังเกิดเป็นอรูปพรหมที่มีที่ไม่อาจฟังธรรมแต่เพราะไม่มีรูปใดๆ เกิดขึ้นจึงนับว่าส่วนจะทำและ
ไม่สามารถบอกได้ว่าทั้งสองจะมีโอกาสได้ฟังธรรมเมื่อใดเพราะเวลาอรูปภูมินั้นยาวนานมากกล่าว
คืออาฬารดาบสไปเกิดในชั้นอากิญจัญญาญตภูมื ซึ่งมีอายุ 60,000 มหากัป ส่วนอุทกดาบสไปเกิดใน
ชั่นเนวสัญญายตนภูมิซึ่งมีอายุ 84,000 บาทมาหากัป

เคยได้ยินมาว่าที่ประเทศพม่ามีชายยกบางคนสนใจการปฏิบัติธรรมจึงปรึกษากันแล้วพากันออก
จากเรือนไปอยู่ป่าแต่ไม่มีผู้แนะนำการปฏิบัติธรรมนายกเหล่านั้นเพียงท่องบทสาธยายกัน
ในตอนนั้นเป็นช่วงที่แลดีสยาดอ(พระญาณธระ)มีชื่อเสียงในประเทศและเที่ยวแสดงธรรม
ในสถานที่ต่างๆเนื่องจากการแสดงธรรมของท่านไม่ได้เน้นการปฏิบัติเป็นหลักสำคัญทำให้
นายกเหล่านั้นหมดเวลาไปกับการท่องบทสาธยายธรรมบางท่านมีศรัทธาฉันทะและความรู้ในธรรม
เป็นอย่างดีแต่ไม่ได้รับคำชี้แนะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องจึงแก่ชราและเสียชีวิตไป
เคยได้ยินมาว่าพวกเขาบ่นเสียดายที่ไม่ได้พบวิปัสสนาจารย์ที่จะแนะนำสั่งสอนเห็นได้ว่าแม้ในศาสนา
ของพระพุทธเจ้านี้ผู้ที่ไม่ได้ฟังธรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมย่อมเสื่อมจาก ศีล สมาธิ และปัญญา
ดังนั้น เพื่อให้พระอรหันต์เหล่านั้นเกิดกำลังใจในการโปรดสัตว์ต่อไป