วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 17:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2022, 13:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว




20220612_112211.gif
20220612_112211.gif [ 2.24 MiB | เปิดดู 634 ครั้ง ]
ดับไฟ ๑๑ กองเพราะรู้เห็นตามความเป็นจริง
ผู้ที่เจริญสติรู้เท่าทันปัจจุบันและเห็นประจักษ์ว่ามีเพียงรูปนาม
คือ จักษุและสีเป็นรูป สภาวะเห็นเป็นนาม สองอย่างนี้เท่านั้นที่เกิดขึ้น
แล้วดับไป เป็นสภาวะไม่เที่ยงเพราะเกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นทุกข์เเพราะ
ถูกบีบคั้นด้วยความไม่เที่ยง และเป็นอนัตตาที่ไม่ใช่สัตว์บุคคล เพราะ
ไม่อยู่ในอำนาจ เมื่อเขารู้เห็นตามความเป็นจริงเช่นนี้ ไฟ ๑๑ กอง
ที่เกี่ยวกับจักษุ รูปารมณ์ที่กำลังเห็นอยู่ หรือสภาวะเห็น ย่อมเกิดขี้น
ไม่ได้โดยเนื่องกับจักษุ รูปารมณ์ และสภาวะเห็นทั้งสามประการนี้

เมื่อกิเลสไม่เกิดขึ้นโดยเนื่องกับธรรมเหล่านี้ กรรมก็เกิดขึ้นไม่ได้
และเมื่อกรรมไม่เกิดขึ้น ภพใหม่คือชาติก็ไม่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน และเมื่อ
ไม่มีความเกิด ทุกข์อื่นอันได้แก่ ความแก่ ความตาย ความเศร้าโศก ความ
คร่ำครวญ ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับแค้นใจ ซึ่งเกิดขึ้น
โดยมีความเกิดเป็นเหตุ ย่อมไม่อาจเผาบุคคลนั้นได้ ในแต่ละขณะที่เรา
เจริญสติกำหนดรู้เท่าทันปัจจุบัน ย่อมสามารถบรรลุถึงตทังคนิพพานคือ
ความดับกิเลสได้ชั่วขณะ และในที่สุดย่อมสามารถบรรลุถึงพระนิพพาน
ที่ดับกิเลสและรูปนามได้โดยสิ้นเชิงด้วยอรหัตตมรรค (อนุปาทิเสสนิพพาน)
ด้วยเหตุดังกล่าว เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถเจริญวิปัสสนาจนกระทั่งบรรลุ
ถึงพระนิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ในอาทิตตปริยายสูตรนี้
สพพํ ภิกฺขเว อาทิตตํ (ภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงถูกไฟเผา) เป็นต้น

ทั้งหมดที่ได้อธิบายมานี้เป็นวิธีดับไฟ ๑๑ กอง มีไฟราคะ เป็นตัน
ในขณะเห็น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมเข้าใจไฟ ๑๑ กอง ตามความเป็นจริง
ต่อไปนี้ จะกล่าวถึงการกำหนดรู้ในขณะได้ยิน เป็นลำดับต่อมา
ไฟ ๑๑ กองเผาเหล่าสัตว์ในขณะได้ยิน
หลังจากพระพุทธองค์ทรงแสดงเรื่องที่ไฟกิเลสเผาเหล่าสัตว์ใน
ขณะเห็น จึงได้ตรัสถึงไฟที่เผาเหล่าสัตว์ขณะได้ยินว่า
โสต๋ อาทิตฺตํ สทฺทา อาทิตฺตา, โสตวิญณาณํ อาทิตฺตํ, โส..
สมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ โสตสม์ผสฺสปจฺจยา อุปปชฺชติ เวทยิตํ สุข วา
ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, จมฺปื อาทิตฺตํ.
"โสตะถูกไฟเผา เสียงถูกไฟเผา โสตวิญญาณถูกไฟเผา สัมผัส
ทางโสตะถูกไฟเผา แม้การเสวยอารมณ์ที่เป็นสุข ทุกข์ หรือมิใช่สุข
มิใช่ทุกข์ ที่เกิดขึ้นเพราะสัมผัสทางโสตะเป็นปัจจัย ก็ถูกไฟเผา"

ในขณะได้ยินเสียง ไฟ ๑๑ กองนั้นก็เผาเหล่าสัตว์อยู่เช่นเดียว
กับขณะเห็น เพราะกิเลสคือราคะ โทสะ และโมหะย่อมเกิดขึ้นโดยอาศัย
โสตะบ้าง เสียงบ้าง โสตวิญญาณบ้าง ในทุกขณะที่ได้ยิน นอกจากนั้นยัง
มีไฟคือชาติเป็นต้นเกิดขึ้นโดยอาศัยโสตะ เสียง และโสตวิญญาณทั้ง ๓
อย่างนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติเข้าใจพระธรรมเทศนานี้แล้วเจริญสติระลึกรู้ตาม
ย่อมรู้ชัดว่าโสตะ เสียงและโสตวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่น่าชอบใจแต่เหมือนกับ
เชื้อไฟที่ก่อให้เกิดกิเลส ๑๑ กองเท่านั้น เชื้อไฟดังกล่าวเกิดขึ้นในปัจจุบัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2022, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว




segment_regular_djGkcOUaEBQ.png
segment_regular_djGkcOUaEBQ.png [ 113.52 KiB | เปิดดู 212 ครั้ง ]
และตลอดสังสารวัฏอันยาวนานเป็นสิ่งที่เผาผลาญเหล่าสัตว์อยู่เสมอ
ในขณะที่ขาดสติ มิได้ระลึกรู้สภาวะได้ยิน เมื่อผู้ที่เจริญสติกำหนดรู้
สภาวะได้ยินด้วยความเข้าใจในโทษของไฟ ๑๑ กองนี้ ย่อมเกิดความ
สลดใจเกิดความเบื่อหน่ายในรูปนาม เกิดความกลัว เห็นโทษ เป็นตัน
ซึ่งเป็นวิปีสนาญาณที่เกิดมาจากการกำหนดรู้สภาวะได้ยิน

ผู้ที่มิได้เจริญวิปัสสนาระลึกรู้เท่าทันปัจจุบันในขณะได้ยิน อาจ
เกิดราคะโดยอาศัยการได้ยินเสียงที่ชอบ เกิดโทสะเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ชอบ
หรือเกิดโมหะเมื่อไม่รู้เท่าทันรูปนามตามความเป็นจริง แต่กิเลสเหล่านี้
ไม่อาจเกิดขึ้นแก่ผู้ที่เจริญสติ นอกจากนั้น ภพใหม่คือชาติและขราเป็นดัน
ย่อมเกิดขึ้นโดยมีกิเลสเป็นมูลเหตุ เหล่าสัตว์จึงถูกไฟ ๑๑ กองเผาอยู่
ในขณะได้ยินเสียงและมิได้เจริญสติรู้เท่าทันปัจจุบัน และไม่เพียงแต่
ในภพนี้เท่านั้น ในภพก่อนที่ผ่านมา ไฟเหล่านี้ได้เกิดขึ้นเผาเหล่าสัตว์
มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในขณะได้ยินเสียง แม้ในอนาคตหากบุคคลมิได้
เจริญสติรู้เท่าทันสภาวะได้ยิน ก็จะยังต้องถูกไฟเหล่านี้เผาผลาญตลอด
สังสารวัฏอันยาวนานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไฟ ๑๑ กองเหล่านี้เผาเหล่าสัตว์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ที่จะเกิดในภพต่อไป และการที่พระพุทธองค์ตรัสเรื่องนี้ก็เพื่อให้ผฟัง
พระธรรมเทศนาได้เข้าใจไฟ ๑๑ กองเหล่านั้นในขณะได้ยินเสียง โดยมี
วิธีกำหนดรู้อารมณ์ ๓ อย่างเป็นหลัก คือ โสตะ เสียง และโสตวิญญาณ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร