วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 06:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2022, 03:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว




bamboo-raft-floating-sea-phuket-thailand-40610118.jpg
bamboo-raft-floating-sea-phuket-thailand-40610118.jpg [ 73.97 KiB | เปิดดู 680 ครั้ง ]
อนันตรปัจจัยและ สมนันตรปัจจัย
ธรรมที่เพิ่งดับไปก็มีพลังส่งให้ทำกลุ่มเดียวกันเกิดขึ้นได้

ปัจจยธรรม ได้แก่ จิตทั้งหลายที่เกิดก่อนแล้วเพิ่งจะไปโดยไม่มีกลุ่มจิตประเภทอื่นเกิดมาคั่นในระหว่าง

ปัจจยุบันนธรรม ได้แก่ จิตทั้งหลายที่เกิดขึ้นภายหลังจากปัจจยธรรมนั้นโดยที่ยังไม่มีกลุ่มจิตประเภทอื่นมาคั่นในระหว่างพระพุทธองค์ทรงแสดงกฎแห่งธรรมข้อนี้ว่าเมื่อจิตดวงก่อนๆกับ ย่อมเป็นปัจจัยให้จิตดวงหลังๆ ที่เป็นประเภทเดียวกันเกิดขึ้นต่อๆกันไปอย่างชนิดที่ไม่มีจิตประเภทอื่นใดมาคั่นทำให้มองเห็นราวกับว่ากลุ่มจิตเหล่านั้นเป็นจิตดวงเดียวกันฉันนั้นนี่แหละคือกฎแห่งอนันตราปัจจัย

ธรรมดาว่าจิตใจของมนุษย์ย่อมหลุกหลิกไม่นิ่งไม่สงบเหมือนกับลิงจากต้นโน้นไปสู่ต้นนี้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จากอารมณ์นี้ไปหาอารมณ์โน้นจากอารมณ์โน้นมาหาอารมณ์นี้ ตลอดเวลาเดี๋ยวเป็นบุญเดี๋ยวเป็นบาปเดี๋ยวคิดดีเดี๋ยวคิดชั่วแม้แต่ในเวลาบริจาคทานก็อาจแว๊บเกิดความตระหนี่ขึ้นมาดื้อๆนี้แหละคือธรรมชาติของจิตก็คืออนุบาลเปลี่ยนแปลงง่ายเจริญงอกงามไพบูลย์ในสันดานของตน ก็อาจทำให้เราทั้งหลายเกิดความท้อใจเช่นพยายามทำดีแต่ไม่ได้ดี ข้อนี้อาจทำให้เราท้อใจเช่นกัน เมื่อดีไม่ดีอาจทำให้เกิดแนวคิดที่ผิดขึ้นมาเช่น อาจคิดว่า"ทำดีได้ดีมีที่ไหนทำชั่วได้ดีมีสมไป"ดังนี้ เป็นต้นในที่สุดจิตก็จิตที่คิดจะทำดีก็อาจมาลายสูญสิ้นไปจากขันธสันดานของบุคคลนั้นเลยก็ได้

ด้วยเหตุนี้ท่านทั้งหลายจึงควรมีโยนิโสมนสิการมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลกตั้งจิตอุทิศและหมั่นบำเพ็ญสาธารณกุศลให้มั่นคงอย่าได้ไหวหวั่นต่อลมปากคำพูดถากถางของคนอื่นมุ่งมั่นทำความดีตามที่ตนเห็นว่าดีและมีประโยชน์และเพราะนี่คือการทำดีที่มี ประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างแท้จริงเมื่อเห็นประโยชน์เช่นนี้แล้วก็จงกล้าที่จะเผชิญกับความทุกข์ยากและอุปสรรคนานนัปการสมดังที่พระพุทธองค์ท่านทรงแสดงไว้ว่า
"อตฺถวสิเกน ภิกฺขเว อลํ อุปคนฺตุํ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเมื่อบุคคลเห็นว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ มีประโยชน์จริงก็จงอย่าท้อจงกล้าที่จะเผชิญและกล้าที่จะยอมรับกับความทุกข์ยากอันอาจเกิดขึ้นได้เพราะการบำเพ็ญประโยชน์นั้นเถิด"

สุดท้ายนี้ขอให้ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้สามารถกระจัดปัดเป่าทั้งจิตเก่าและจิตใหม่ที่ไม่ดีให้กับปลาย สภาพเป็นจิตดีมีพลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องดุจกระแสสายธารแห่งคงคาที่ไหลมาอยู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหยุดเกิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร