วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 06:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2022, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว




768-7684849_god-of-war-kratos-png-transparent-png.png
768-7684849_god-of-war-kratos-png-transparent-png.png [ 754.22 KiB | เปิดดู 990 ครั้ง ]
ลักษณะของจักขุวิญญาณ
ในคัมภีร์อรรถกถากล่าวถึงลักษณะของจักขุวิญญานว่า

จกฺสนฺนิสสิตรูปวิชานนลกฺขณํ
"มีลักษณะรู้รูปโดยอาศัยจักษุ"

จักขุวิญญาณสามารถเห็นรูปารมณ์ดัวยอาศัยจักษุ กล่าวคือ จักขุวิญญาณนั้นต้องอาศัย
ดวงตาที่เป็นรูปได้ ข้อนี้ต่างจากความนึกคิด หรือจินตนาการแล้วเห็นสีต่างๆ ทางใจ ไม่นับ
ว่าเป็นการเห็นทางตา เมื่อผู้ปฏิบัติกำหนดว่า "เห็นหนอ" นับว่าได้รับรู้สภาวะเห็นที่ปรากฏทางตา
จัดว่าเป็นการรับรู้ลักษณะของจักขุวิญญาณดังกล่าว

หน้าที่ของจักขุวิญญาณมีกล่าวว่า

รูปมตฺตารมฺมณรสํ.
"มีหน้าที่รู้สี"

จักขุวิญญาณเพียงรับรู้สีต่างๆ เท่านั้นโดยอาศัยจักขุ ไม่อาจเข้าใจว่าเป็นบุรุษหรือสตรี
อีกทั้งไม่อาจเกิดความชอบใจหรือความไม่ชอบใจด้วยจักขุวิญญาณได้

อาการปรากฏของจักขุวิญญาณมีกล่าวว่า

รูปาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺฐานํ
"ปรากฏ(แก่ปัญญาของผู้ปฏิบัติ)ด้วยความเป็นต่อหน้ารูปารมณ์"

จักขุวิญญาณนั้นดำเนินไปเฉพาะหน้าต่อรูปารมณ์ที่กำลังเห็นอยู่เหมือนพุ่งเข้าหารูปที่กำลังเห็นอยู่นั้น
แต่สภาวเห็นอาจไม่ชัดเจนเหมือนสภาวะได้ยิน ตัวอย่างของสภาวะได้ยินจะชัดเจนมากกว่า
เช่น เวลาที่เราได้ยินเสียง จิตของเราจะมุ่งตรงไปสิ่งที่ถูกได้ยิน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ทางทิศตะวันออก
ทิศตะวันตก ทิศเหนือ หรือทิศใต้ อยู่ใกล้หรือไกล อยู่ภายในร่างกายหรืออยู่ภ่ยนอกร่างกาย
จิตของเราก็จะมุ่งตรงต่อเสียง จิตที่รูอารมณ์ทางจักขุทวารหรือจักขุวิญญาณก็จะมุ่งตรงต่อรูป
ที่กำลังเห็นอยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติกำหนดว่า"เห็นหนอ"ย่อมสามารถเข้าใจอาการ
ปรากฏของจักขุวิญญาณคือความเป็นต่อหน้ารูปารมณ์

ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสสอนให้ผู้ปฏิบัติเจริญสติระลึกรู้เท่าทันจักษุ รูปารมณ์
และจักขุวิญญาณตามสมควร คือ กำหนดว่า"เห็นหนอ"เขาย่อมรู้ถึงรูปคือจักษุตามความเป็นจริง
ในบางขณะอาจรู้ถึงรูปารมณ์ที่กำลังเห็นอยู่ตามความเป็นจริง โดยรู้สึกว่ารูปที่เห็นนั้นมา
กระทบดวงตา(ลักษณะ)หรือรู้สึกว่าเป็นอารมณ์ของการเห็น(หน้าที่)หรือรู้สึกว่า
เป็นฐานะที่ทำให้เกิดการเห็น (อาการปรากฏ)ส่วนใหญ่ผู้ปฏิบัติมักรับรู้ลักษณะของจักขุวิญญาณ
คือสภาวะเห็นเป็นหลักมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าเขารู้เห็นสภาวะอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ จักษุ
รูปารมณ์ หรือจักขุวิญญาณ ก็ถือว่าเป็นการรู้สภาวะธรรมในขณะที่เห็นได้แล้ว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron