วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 17:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2021, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


สมูหฆนะ

โดยปกติแล้วนักปฏิบัติที่ยังไม่เคยกำหนดวิปัสสนา ย่อมสำคัญผิดคิดว่า นามและรูปเป็นสิ่งเดียวกัน หรือเป็นวัตถุเดียวกัน ยากที่มีใครสามารถแยกแยะ นามกับรูปออกจากกันได้ เช่น ในเวลาที่กระทำการคู้แขน เหยียดขา เขาย่อมไม่สามารถแยกแยะได้ว่า อาการอยากคู้ อยากเหยียดของจิตใจ กับอาการคู้ อาการเหยียดของรูปกายนั้น เป็นสภาวธรรมที่แตกต่างกัน แต่จะมองเห็นเป็นภาพรวมไปเลยว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้ ในกรณีที่เกี่ยวกับรูปของบุคคลเดียวกัน เขาย่อมมีความสำคัญผิดคิดว่า รูปในร่างกายตนนั้นเป็นสิ่งเดียวกัน เช่นว่า เห็นว่า ตา หู จมูก ผิวพรรณและเสียงเป็นสิ่งเดียวกัน ดังนั้นในเวลาที่เห็นส่วนของร่างกาย เช่นมือด้วยตา กับเวลาที่สัมผัสมือดังกล่าวด้วยกาย เขาย่อมเกิดความสำคัญว่า รูปผิวพรรณที่เห็นได้ด้วยตา กับรูปกายที่สัมผัสได้ด้วยกายนั้น คือ สิ่งเดียวกัน โดยสำคัญว่า สิ่งที่เขาเห็นคือมือและสิ่งที่สัมผัสก็คือมือ ยิ่งไปกว่านั้นยังสำคัญว่ารูปที่รองรับการเห็นกับรูปที่รองรับการสัมผัสนั้นเป็นรูปเดียวกัน

นี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้น หากจะกล่าวถึงอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นแล้วช่างกว้างขวางพิสดารยิ่งนัก จึงขอให้นักปฏิบัติสำเหนียกรู้ตามนัยที่กล่าวมานี้ว่า สิ่งที่เราพากันยึดมั่นถือมั่นสำคัญผิดคิดว่าหมู่นามรูปเป็นสิ่งเดียวกันหรือเป็นกองเดียวกัน นั้นท่านเรียกว่า สมูหฆนบัญญัตื และเนื่องจากไม่สามารถใช้วิปัสสนากำหนดสถาวธรรมซึ่งมีสภาพที่แตกต่างกัน ให้เห็นเป็นสิ่งแตกต่างกันได้สมูหฆนะเข้าปิดบังอนัตตลักษณะของนามรูปไว้ตลอดเวลา แต่ถ้าเมื่อใด นักปฏิบัติตามกำหนดนามรูปอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้สามารถกำหนดแยกแยะนามรูปได้ หมายความว่า นามรูป จะปรากฏเป็นของต่างกัน เช่น ในขณะที่ทำการคู้เข้าจิตที่ต้องการอยากจะคู้กับรูปที่กำหนดคู้จะปรากฏให้เห็นเป็นทีละอย่างๆไปโดยไม่ควรปะปนกัน ในขณะที่ทำการเหยียด จิจที่ต้องการจะเหยียด กับรูปที่กำลังเหยียดก็จะปรากฏโดยทำนองเดียวกันนี้ นอกจากนี้ ในขณะที่กำลังกำหนดว่า"พองหนอ" อาการที่ท้องพอง นั้นเป็นรูป ส่วนการกำหนดรู้ เป็นนาม แม่ในการกำหนดอารมณ์อื่นๆ ก็ปรากฏโดยทำนองเดียวกันนี้ ก็ถ้านามกับรูปปรากฏเป็นอย่างๆ เช่นนี้ ย่อมแสดงว่า สมูหฆนะได้ถูกทำลายลงแล้ว และถึงตอนนั้นก็จะเกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2021, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


จิตที่อยากคู้อยากเหยียดนั้นไม่สามารถทำหน้าที่คู้หรือเหยียดได้โดยตรงและรูปที่คู้หรือเหยียดก็ไม่สามารถที่จะดำเนินไปได้หากไม่มีจิตคอยกระตุ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะอาศัยซึ่งกันและกันตลอดเวลา แม้รูปที่พองยุบ ถ้าขาดจิตเสียแล้วก็ไม่สามารถ ทำหน้าที่รับรู้หรือกำหนดได้ โดยทำนองเดียวกัน จิตที่กำหนดว่ารู้จะเกิดขึ้นเองไม่ได้ ถ้าปราศจากอาการพองหรืออาการยุบของรูป การรู้เช่นนี้แหละคือจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้อนัตตลักษณะปรากฏออกมาตามสภาพที่เป็นจริง

นอกจากนี้แล้วในเวลาที่นักปฏิบัติจำเป็นต้องกำหนดการเห็น อาการได้ยิน และการสัมผัสเหล่านี้โดยต่อเนื่องกัน อาการทั้งหลายดังกล่าวก็จะปรากฏเป็นอย่างๆไป เช่นรูปที่เห็นก็เป็นอย่างหนึ่ง เสียงที่ได้ยิน ก็เป็นอย่างหนึ่ง รูปที่สัมผัสก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง จักขุปสาทรูปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง โสตปสาทรูปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง กายปสาทรูปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง การเห็นเป็นนาม สิ่งที่เราเห็นเป็นรูป ส่วนการกระทบกันระหว่างรูปารมณ์กับการเห็น เรียกว่า ผัสสะ สัมผัสนี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ครั้นเห็นแล้วเวทนา(ซึ่งอาจเป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายชั่ว)ก็เกิดขึ้น เวทนาที่ว่านี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นนักปฏิบัติสามารถเห็นปรากฏการณ์ ของสภาวธรรมชาติของนามรูปเช่นนี้ สมูหฆนะบัญญัติของเขาก็จะแตกสลายไปในที่สุด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร