วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 16:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 03:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




bb483.jpg
bb483.jpg [ 9.05 KiB | เปิดดู 8024 ครั้ง ]
" อำนาจแห่งจิต"

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่อเมริกา หลายปีมาแล้ว
ชายคนหนึ่งเป็นคนทำความสะอาดรถแช่เย็น วันนั้นขณะที่เขากำลังทำความสะอาดห้องเย็นของรถคันหนึ่ง
อยู่ เกิดลมพัดปิดประตูห้องเย็น
เขาพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน คนอื่นกลับบ้านไปแล้ว เพราะเป็นเย็นวันศุกร์
กว่าจะมีคนมาอีกทีก็เช้าวันจันทร์!!!
เขาคิดว่าเขาคงต้องตายแน่ๆ ในอุณหภูมิ -10 องศา คนปรกติคงรอดได้ไม่นาน
เขาเลยคิดจะทำความดีครั้งสุดท้ายโดยเขียนให้รู้ว่า คนที่ต้องตายเพราะความเย็นจัดนั้นจะมีอาการเช่น
ไร อย่างน้อยมันยังเป็นประโยชน์กับวงการแพทย์ เขาเขียนทุกอย่างที่เขารู้สึกอย่างละเอียด...

เช้าวันจันทร์มีคนมาพบศพ ชายผู้นี้ พร้อมกับกระดาษที่เขาเขียนเอาไว้
ทางการแพทย์ บอกว่า มันเป็นอาการของคนที่ตายจากความเย็นจัด จริงๆ ตรงทุกประการ
แต่สิ่งเดียวที่ผิดปรกติก็คือ...ห้องเย็นนั้น ไม่ได้เปิดระบบทำความเย็นเอาไว้ มันเป็นอุณหภูมิปกติ!!!!!
เขาตายเพราะเขาคิดไปเอง!!!!!
**********************
เรื่องต่อมา เป็นเรื่องที่โด่งดังมาก เกิดเมื่อ 100 ปีมาแล้ว ที่ประเทศอังกฤษ
คุกที่เมือง บริสตอล นักโทษคนหนึ่งโดนตัดสินประหาร ชีวิตด้วยการแขวนคอในวันรุ่งขึ้น
เย็นวันก่อนประหาร มีนักจิตวิทยา2คนที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ทำงานทดลอง ได้ปลอมตัว มาบอก
กับนักโทษประหารคนนี้ว่า พรุ่งนี้แทนที่เขาจะโดนแขวนคอ ได้มีการเปลี่ยนกฎหมายใหม่จากการแขวนคอ
มาเป็นเชือดคอแทน!!!!

นักโทษผู้น่าสงสาร คงไม่ได้นอนทั้งคืนและคิดแต่ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะต้องโดนเชือดคอ และเมื่อตอนเช้า
มาถึง เขาถูกมัดมือไพล่หลังเอาผ้าปิดตา และถูกพาตัวมา ณ ห้องแห่งหนึ่งซึ่งเขาไม่รู้เลยว่า มัน เป็น
แค่ห้องสังเกตการณ์ เฉยๆ เขานึกว่าเป็นห้องประหาร!!!

ได้มีการจัดฉากไว้เรียบร้อย ในห้องนั้นมี นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล และ มีพระมาสวดครั้งสุดท้ายให้เขา
และนักจิตวิทยาคนแรก แสดงเป็นคนลงมือเชือดคอนักโทษคนนี้
มีดที่ใช้เชือดคอ ก็คือมีดแบบที่เขาใช้โกนหนวด แต่เขาเอาด้านทื้อของมีดพาดผ่านไปที่ลำคอ
(เขาบอกว่ามีดนั้นไม่ได้สัมผัสลำคอนักโทษเลยแม้แต่น้อย ) แล้วนักจิตวิทยา อีกคน ทำเสียงน้ำไหล ให้
เหมือนเลือดกำลังไหล

นักโทษคนนี้ รู้สึกเย็นที่ลำคอเพราะโลหะของมีดโกน และได้ยินเสียงน้ำไหลเขาคิดว่า เลือดเขากำลัง
ไหลออกจากคอหอย แล้วเขาก็ล้มลงสิ้นใจตรงนั้นเอง !!!!! เขาตายเพราะเขาเชื่อว่าเขาตายแน่
เขาคิดไปเอง!!!!

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ามีใครสักคน คิดว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ขึ้นมาหละ

เขาจะเป็นยังไง


อ้อ.........และถ้ามีบางคนเขาคิดว่าเขาเป็นมันแกวหละเขาจะเป็นยังไง
เขาจะเอาหัวจุ่มดินไหม


:b6: :b6: :b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


บัวศกล เขียน:
ถ้ามีใครสักคน คิดว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ขึ้นมาหละ

เขาจะเป็นยังไง


อ้อ.........และถ้ามีบางคนเขาคิดว่าเขาเป็นมันแกวหละเขาจะเป็นยังไง
เขาจะเอาหัวจุ่มดินไหม


:b6: :b6: :b6: :b6: :b6:



บางคนคิดว่าเขาเป็นมันแกว นั่นคือความฉลาดเป็นเลิศของเขา :b32:

เพราะเขาไม่ต้องไม่ต้องไปคิดแทนใคร ว่าใครเป็นอะไร เพราะเขาเป็นแค่มันแกว

แล้วใครๆย่อมมองว่าเขาเป็นมันแกว ผลที่ตามมาคือ ใครๆก็ไม่อยากยุ่งกับมันแกว :b18:

มันแกวสามารถพูดอะไรก็ได้ที่ต้องการพูด แต่คนฟังอาจมองดูไม่มีค่าไม่มีราคาในคำพูด

คนที่ซำบายที่สุดก็คือมันแกว ... :b16:

ยกเว้นคนที่เคยสร้างเหตุร่วมกับมันแกวมาก่อน ผลคือจึงมาเชื่อมันแกว :b9:

ส่วนใครๆที่คิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ นั่นคือคนที่ ....

เพราะเขากำลังหาเรื่องวุ่นวายให้กับชีวิตตัวเองไม่รู้จบ

สุดท้ายคนที่ต้องทุกข์ที่สุดก็คือเขา :b5:


จริงป่ะคะ คุณมังกือ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 04:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b12: :b16: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เป็นมันแกวแล้วไปนิพพานได้ไหม?
ถ้าไปได้ "อยากเป็นมันแกวจัง"
:b41: :b41: :b42: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
เป็นมันแกวแล้วไปนิพพานได้ไหม?
ถ้าไปได้ "อยากเป็นมันแกวจัง"
:b41: :b41: :b42: :b41: :b41:




อยากเป็นมันแกวหัวแข็งเปลือกหนาจริงๆหรือคะ :b12:

วิธีการเป็น มันแกว :b32:

ในขั้นแรก ขอเพียงคุณรู้จักคำว่า " พอ " ก่อนค่ะ :b1:

ขั้นต่อมา .. คุณจงเป็นในสิ่งที่คุณเป็น .. :b4:

ขั้นต่อมา .. แต่จงอย่าคิด ... ว่าคุณเป็นในสิ่งที่คุณคิด .. :b9:

ขั้นต่อมา ... แล้วคุณจะเป็นในสิ่งที่คุณคิด ... โดยที่คุณไม่ต้องไปคิดว่า .. คุณนั้นเป็นอะไร :b16:

เพราะคุณจะเป็นในสิ่งที่ไม่มีทั้งคิดและไม่คิด :b12:


จาก มันแกว ผู้ที่กำลังเป็นสารอาหาร สุดแต่ว่าใครต้องการบริโภค :b8:



คิดให้ดี .. ก่อนที่จะอยากเป็นมันแกว :b18:


ส่วนที่คุณถามมาว่า เป็นมันแกว แล้วไปนิพพานได้ไหม?

ตอบค่ะ ... หากหมดความคิด ไปได้แน่นอนค่ะ :b4:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องหมดอาสวะจึงนิพพานได้

ไม่ใช่แค่หมดความคิด

หมดแค่ความคิดหนะ นิพพานไม่ได้แน่นอน เต็มที่ก็แค่สงบ


:b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 20:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


บัวศกล เขียน:
ต้องหมดอาสวะจึงนิพพานได้

ไม่ใช่แค่หมดความคิด

หมดแค่ความคิดหนะ นิพพานไม่ได้แน่นอน เต็มที่ก็แค่สงบ


:b6: :b6: :b6:



หมดอาสวะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ...

แล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะใช้ในการสื่อภาษาออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้

เอาแค่หมดความคิด... ทำให้ได้ก่อนก่อนเถอะค่ะ ... คุณเห็นด้วยไม๊คะ?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เห็นด้วย :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เหรอคะ :b32:

นั่นคือมังกือ .. แล้วนี่ก็คือมันแกวหัวแข็งเปลือกหนาค่ะ :b4:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ สาะุ สาธุ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องเล่าของชาวบ้าน ตอนที่ 1

อำนาจแห่งจิต


ซูลิดีน ชื่อนี้อาจคุ้นหูคุ้นตาสำหรับหลายคนหรือบางคน โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหอบหืด แพ้ง่าย ไซนัส อะไรประมาณนี้


ซูลิดีนเป็นชื่อทางการค้า ตัวยาสำคัญคือ Triprolidine HCI 2.5 mg Pseudoephedrine HCI 60.0 mg เท่าที่เคยเจอมาก็มีอีกยี่ห้อหนึ่งชื่อ ไตโป ลักษณะเป็นยาเม็ด ใช้ร่วมกับรักษาอาการหวัด เยื่อจมูกอักเสบ หืด และอาการแพ้ เกี่ยวกับหืด


ว่าไปชักงง แต่จากการทานมาอย่างช่ำชอง ผลของยาคือทำให้อาการแพ้อากาศของผมหายได้ในฉับพลัน ดีกว่ากินยาแก้แพ้ประเภท Chlopheniramine Maleate ตั้ง 2 เม็ดอีกนะเออ..(ไม่ได้ค่าโฆษณานะเนี่ย.)


ไอ้เจ้ายาซูลิดีนนี้ ผมรู้จักครั้งแรกจากการแนะนำของน้าที่ผมไปอาศัยอยู่ด้วย เพราะน้าเห็นผมเป็นหวัดบ่อยเหลือเกิน เลยบอกให้ทานยาตัวนี้ ไม่ง่วงด้วย ผลที่ได้ทานปุ๊บ อีกไม่เกิน 15 นาทีหาย แถมทำงานต่อได้ทั้งวันไม่ต้องห่วงกลัวว่าจะจาม น้ำมูกไหล น้ำลายย้อย ให้เป็นที่รังเกียจของสังคมรอบข้าง วันไหนฝนตกกลางคืน อากาศทำท่าจะเปลี่ยนแปลง เป็นต้องกินซูลิดีนดักไว้ เป็นอย่างนี้นานเกือบ 2 ปี


หลังจากนั้นก็ย้ายมาทำงานใกล้บ้าน อากาศที่นี่สดใส ไม่เป็นพิษภัย แถมต้องใช้กำลังบ่อย อาการแพ้ค่อยๆหายไป หลังจากถูกเลี้ยงดูอย่างดีเกินไปและแล้วการแพ้อากาศก็กลับมาอีกครั้ง โอ้..เพื่อนเก่าเจ้ากลับมาใย ก็เลยต้องพึ่งซูลิดีนอีกตามเคย งานนี้ยาแก้แพ้ไม่ต้องมายุ่งเพราะกินทีไร ง่วงเหลือเกิน.... แต่ซูลิดีนสิ กินแล้วสบายทำงานต่อได้ทั้งวัน


เวลาผ่านพ้น โลตัสมาเปิดในตัวอำเภอใกล้บ้าน ได้เวลาไปฉลองห้างดัง ห้างของชาวต่างชาติที่ใครๆต่อต้านนักหนา ที่เจ้าของร้านใหญ่ร้านหนึ่ง(ที่ไม่เคยเสียภาษีเต็ม) ต่อต้านถึงขนาดติดป้าย ซื้อของร้านคนไทย(ของฉัน) เงินเข้ากระเป๋าไทย(ของฉัน) ...อ่า คนละเรื่อง


ในโลตัสมีร้านขายยามาเช่าที่เปิดไว้ มีเภสัชกรหนุ่มหล่อ(ช่างมัน ) สาวสวย คอยให้คำแนะนำเรื่องยาและหลอกล่อให้เราซื้ออาหารเสริม...

เภสัชกร : รับอะไรดีคะ?

ผม : ซูลิดีน 2 แผงครับ

เภสัชกร : เคยทานรึยังคะ ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้งนะคะ

ผม : ครับเคยทานครับ

เภสัชกร : ไม่ลองรับยาตัวนี้เหรอคะ ซูลิดีน ทานแล้วง่วงนะคะ

ผม : อ้าว! เหรอครับ ผมทานไม่เคยง่วงนะ

เภสัชกร : อ้าว แปลกคะ ยานี้มีผลทำให่ง่วงนะคะ ทานแล้วไม่ควรขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ที่สูง อะไรประมาณนี้คะ

ผม : ครับๆ (จ่ายตังค์พร้อมกับเดินออกมาอย่าง งงๆ)



ผมกลับไปทำงานพร้อมกับถามทุกคนที่เคยทานยานี้ ทุกคนให้คำตอบเดียวกันคือ "ง่วง" อ้าว แล้วทำไมผมไม่เคยง่วงเลย...??? โทรไปถามน้าที่เคยแนะนำยาตัวนี้ น้าก็บอกว่าง่วงสิ (อ้าว ก็น้าบอกไม่ง่วงอะตอนนั้น) ที่บอกว่าไม่ง่วงมันเป็นยาอีกแผงหนึ่งอยู่ในตู้เดียวกัน...



นับตั้งแต่วันนั้นมา ทุกครั้งที่ผมเกิดอาการแพ้ฝุ่น แพ้อากาศ ผมทานซูลิดีนเช่นเคย 15 นาทีต่อมาอาการแพ้หายเป็นปลิดทิ้งเช่นเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปคือ 30 นาที - 1 ชั่วโมงถัดมา ผมจะง่วง ง่วงมาก....

ตอนที่ 2

เรื่องนี้ คล้ายกับเรื่องที่ได้ฟังมาจากพระอาจารย์ที่ วัดถ้ำหมีนอน จ.ระยอง ท่านเล่าว่า...

มีเด็กน้อยคนนึง ยืนอยู่นานมากแระ ลุงคนนึงเห็นเข้า จึงถามไปว่า หนูๆๆๆ ยืนนานๆ น่ะไม่เมื่อยรึ?

เด็กคนนั้นถามลุงกลับว่า : ยืนแล้วต้องเมื่อยด้วยเหรอครับ?

ลุงตอบว่า : เอ๊า ก็ใช่นะสิ ยืนนานๆ แล้วก็ต้องเมื่อย เมื่อยแล้วก็ต้องนั่ง

เด็ก : อ๋อ เหรอครับ (ว่าแล้ว เด็กก็นั่งลง)

เวลาผ่านไปนาน เด็กก็นั่งอยู่อย่างนั้น จนลุงคนเดิมมาเห็นเข้าอีก จึงถามไปว่า อ้าวหนู ยังนั่งอยู่อีกรึ นั่งนานๆ น่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือไง?

ด้วยคำถามคล้ายๆ เมื่อตอนยืน : อ้าว นั่งนานๆ แล้วก็ต้องเมื่อยเหมือนกันเหรอครับ

คำตอบเดิมๆ จากลุง : เอ๊า ก็ใช่นะสิ นั่งนานๆ มันก็ต้องเมื่อย พอเมื่อยแล้วก็ต้องลุกขึ้นยืน

จากผ้าขาวเริ่มออกหมอง เด็กน้อยเริ่มถูกโปรแกรมซะแว้ว..


.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2009, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




e5abc7eb89be03fac86385512650ec49_web.gif
e5abc7eb89be03fac86385512650ec49_web.gif [ 221.75 KiB | เปิดดู 7440 ครั้ง ]

วันนี้มีเรื่องเล่าจากอีเมล์ ....

อ่านแล้วขำๆประมาณว่า .. แบบนี้ก็มีด้วยหรือฟะ .. :b32:

มีต้นมะพร้าวต้นหนึ่งที่สูงๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆ และที่นั่นก็มีสัตว์อยู่ 4 ชนิด

1. สิงโต
2. ลิงแชมแพนซี
3. ยีราฟ
4. กระรอก

พวกมันแข่งกันว่า ใครจะปีนไปเก็บกล้วยได้เร็วที่สุด

คุณลองเดาซิว่า ใครจะชนะ?

คำตอบของคุณเป็นผลสะท้อนต่อบุคลิกภาพของคุณนะ

ดังนั้น คิดให้รอบคอบ พยายามและตอบภายใน 30 วินาที

ได้คำตอบรึยัง?

ไปดูคำตอบกันนนนนนน


ถ้าคำตอบของคุณคือ...


ตอบ สิงโต = คุณโง่มาก!!


ตอบ ลิงซิมแพนซี = คุณเป็นคนปัญญาอ่อน!!


ตอบ ยีราฟ = คุณเป็นคนสมองทึบ อีเดียท!!


ตอบ กระรอก = คุณไร้สมองสุดๆ!!




ต้นมะพร้าวจะมีกล้วยได้ไงฟร่ะ!!! 555++


เห็นได้ชัดเลยว่า คุณกำลังเครียดมากและทำงานหนักเกินไป
ควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้างนะ
พยายามใหม่ ปีนี้!!

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 06:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว...........ไหงตอบอะไรก็กลายเป็นพวกไม่สมประกอบไปได้หวา
แล้วดันมาอันเชิญให้ชาวบ้านเขาตอบ

ที่จริงในเนื้อหา ของเรื่องราว ก็ไม่ได้บอกว่า ไม่มีต้นกล้วยอยู่ในบริเวณนั้น
แค่บอกว่ามีต้นมะพร้าวสูง และมีสัตว์น้อยน่ารักอยู่4ชนิด

และก็ไม่มีคำกล่าวให้ทราบว่า ต้นมะพร้าวต้นนั้น ออกผลมาเป็นกล้วยซะด้วย

แค่บออกว่ามีต้นมะพร้าว มีสัตว์น้อยน่ารัก และลองทายดูซิว่าใครเก็บกล้วยได้เร็วกว่า


ไอ้เราก็นึกว่า ในบริเวณใกล้ๆต้นมะพร้าวมีต้นกล้วย เจ้าของกระทู้จึงถามเรื่องกล้วยๆ
อุตส่าห์ตอบในใจไปเรียบร้อยแล้วว่า..................สิงโตต้องมาเป็นที่1

งั้นฉันก็ กำลังเป็นบุคคลอยู่ในจำพวก โง่มากนี่หว่า............สาธุ สาธุ


:b20: :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



อิอิ .. นี่คุณมังกือ ... :b13:

อ่านโจทย์นะคะ มีต้นมะพร้าวต้นหนึ่งที่สูงๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆ และที่นั่นก็มีสัตว์อยู่ 4 ชนิด

1. สิงโต
2. ลิงแชมแพนซี
3. ยีราฟ
4. กระรอก

พวกมันแข่งกันว่า ใครจะปีนไปเก็บกล้วยได้เร็วที่สุด


เห็นไหมคะโจทย์น่ะ มีการมาต่อว่าอีก ..

ท่าทางจะเครียดจริงๆนะคะ :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร