วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 13:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2010, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครั้งที่ ๑๑ นรกขุม ๗ แดนลงทัณฑ์ ๕

นับแต่ครั้งโบราณกาลมา ปู่ย่าตายายของเราใช้วัวควายช่วยไถนาเลี้ยงลูกหลานจนเติบใหญ่ แต่ก็จะมีใครเล่าจะรู้ถึงสภาพแท้จริงของวัวควายนั้นว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร เจ็บปวดมากแค่ไหนที่ถูกใช้ไถนา ถูกเฆี่ยนถูกดุด่า คุณที่มันมีต่อชาวนาและลูกหลานไทยนั้นมีมากกว่ามหาสมุทรเสียอีก จะมีใครบ้างที่นึกถึงคุณของมัน
เนื้อวัวควายเกิดขึ้นจากชีวิตและวิญญาณ มันมีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ มีร้องไห้ มีเสียใจ แรงงานที่มันใช้ไถนาให้เรานั้น มาจากสายเลือดที่หล่อเลี้ยงภายในกายของมัน ฉะนั้น ทุกคนที่กินเนื้อมันก็เท่ากับมีบาปติดตัวเพราะวัวควายนั้นเป็นสัตว์มีคุณกับมนุษย์
เมื่อมันแก่เฒ่าลงใช้งานไม่ได้แล้วก็ควรนำมันเลี้ยงไว้กับบ้าน ไม่ควรนำออกไปไถนาอีก ป้อนข้าวป้อนน้ำให้มันกินแค่นี้มันก็พอใจแล้ว
กายพุทธธรรมของผมปรากฏอยู่เบื้องล่าง เส้นทางต่อไปจากนี้เป็นเส้นทางเดินไปสู่แดนลงทัณฑ์ ๕ เป็นสถานที่ ๆ ใช้ลงทัณฑ์มนุษย์ที่ทำบาปเวรไว้กับสัตว์ ผมเดินตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ผ่านเส้นทางที่เป็นป่าปลกขึ้นคลุมทั่วบริเวณ ไม้ป่านี้เป็นไม้ที่ขึ้นในยมโลกอยู่เฉพาะ ไม่มีขึ้นที่อื่น และสุดท้ายก็ถึงที่ ๆ ผมต้องการไปที่นั่นคือสถานลงทัณฑ์
ผมมองเห็นชายสองคน คนหนึ่งเป็นยมทูตที่ที่ประจำอยู่ในนรกขุมนี้ อีกตนหนึ่งเป็นวิญญาณบาปที่ถูกลงทัณฑ์ในสถานที่แห่งนี้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมเห็นชายคนนั้นกำลังตัวใช้แรงลากคันไถไปข้างหน้า มีสายเทียมไว้กับหลังของชายคนนั้น ตรงหลังของเขามีโหนกสูงขึ้นมา มีขนขึ้นประปราย ดูสภาพแล้วก็เหมือนกับวัวควายที่ใช้ไถนา มียมทูตถือคันไถควบคุมและใช้แส้โบยชายคนนั้น ปากก็ร้องว่า “ไป …. ๆ
ผมบอกให้ยมทูตหยุดลงโทษไว้ก่อน และนำตัววิญญาณนั้นเข้ามาหาผม
ยมทูตได้เดินเข้าไปปลดสายเทียมออก แล้วนำตัววิญญาณตนนั้นเข้ามาหาผม หน้าตาของชายคนนี้แหลมยื่นออกมาข้างหน้า ที่จมูกของเขามีเชือกร้อยจมูกอยู่ อยู่ในลักษณะเปลือยกาย ผิวกายหยาบดำกร้าน มีป้ายแขวนอยู่ที่คอว่า “ผีไถนา” ปากของเขาเขยื้อนไปมา คล้ายกับกำลังเคี้ยวอะไรอยู่สักอย่าง แต่ในปากของเขาไม่มีอะไร นี่เป็นรายละเอียดที่ผมพอมองเห็นได้
“เธอได้ทำกรรมอะไรเอาไว้หรือ เธอจึงต้องมารับกรรมอยู่เช่นนี้” ผมเริ่มซักถามเธอ
“ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนสุพรรณบุรี มีอาชีพเป็นชาวนา ไถนามาเป็นสิบปี ใช้วัวใช้ควายมาหลายตัว พอตายลงมาก็พบว่า วิญญาณต่างๆ ที่ข้าพระพุทธเจ้าใช้มัน มาฟ้องอยู่ ณ ห้องบัญชีกรรมว่าผมแกล้งมันต่าง ๆ นา ๆ ให้ทำโน่นทำนี่โดยไม่มีเวลาพักผ่อน ทั้งยังไม่มีความปราณีเวลาใช้ อาศัยความดุเข้าว่า มันโกรธมาก เมื่อตายลงก็ผูกพยาบาทอาฆาตข้าพระพุทธเจ้า และได้บอกกับท่านพญายมว่า ข้าพระพุทธเจ้าฆ่ามันเพื่อเอาเนื้อมันมากินหลังจากมันใช้งานไม่ได้แล้ว นี่เป็นการกระทำของข้าพระพุทธเจ้าที่อยู่บนโลกมนุษย์โดยเล่าจากปากคอของวิญญาณบาปตนนี้”
“เธอใช้กรรมอยู่ในนรกขุมนี้มานานเท่าไหร่แล้ว” ผมถาม
“ข้าพระพุทธเจ้าได้ใช้กรรมมาเป็นเวลาสิบปีแล้วพระพุทธเจ้าข้า”
ผมได้กล่าวต่อว่า “เมื่อเธอรับกรรมนี้มา บัดนี้สวรรค์ได้มีประกาศให้เราจัดการแก้ไขบัญชีกรรมแห่งมนุษย์ เพื่อให้วิญญาณบาปที่ตกนรกได้ขึ้นสู่โลกมนุษย์ด้วยการโปรดของเรา เมื่อเธอได้รับกรรมนั้นเป็นเวลานานเราจะช่วยเธอให้พ้นทุกข์ด้วยการเล่าความจริงจากปากของเธอ เอาหล่ะ เธอจงเล่าความจริงมาเถิดว่าตัวเธอกระทำกรรมเช่นไรบ้างอย่างละเอียด เราอยากฟังจากปากของเธอ”
“ข้าพระพุทธเจ้าได้จากโลกมนุษย์มา ไม่รู้ว่าบัดนี้มีผู้สร้างธรรมด้วยการโปรดสัตว์ในนรกให้พ้นทุกข์ จึงมิทราบว่าจะถวายบังคมเช่นไร ขอท่านผู้เป็นใหญ่ อย่าได้ถือโกรธข้าเลย” เสร็จแล้ววิญญาณนั้นก็ได้กราบลงที่เท้าผม
รายละเอียดต่างๆ ถูกพรั่งพรูออกจากปากของวิญญาณตนนี้อย่างละเอียดสุดท้ายผมได้ช่วยให้ เขาพ้นจากทุกข์ด้วยการให้เขารับคำสัตย์ต่อคำสัตย์ของตนเองที่ให้ต่อสวรรค์ว่า มาดแม้นตนเองได้กระทำกรรมนั้นอีกก็ขอให้มีอันสิ้นสุดแห่งภพมนุษย์ และได้กลับสู่มวลโลกด้วยกายดำในกายมนุษย์นี้เกิด (กายดำคือกายวิญญาณที่วิญญาณเรียกกันและรู้ว่าตนเองมีกายวิญญาณอยู่ในตนหลังจากได้ตายไปแล้ว นั่นคือสภาพของกายวิญญาณในตน)
“สาธุ ข้าพเจ้าขอให้คำสัตย์ต่อสวรรค์ ข้าพเจ้าจะไม่ประพฤติตนเช่นเดิม จะมีเมตตาต่อสัตว์ทั้งหลาย และจะพยายามสร้างกรรมดีเพื่อชดเชยบาปกรรมที่ได้ก่อขึ้นมาในอดีตชาติ หากข้าพเจ้าผิดคำสัตย์ที่ให้ต่อสวรรค์ในครั้งนี้แล้ว ขอให้ข้าพเจ้าถูกสัตว์ร้ายกัดกินจนตาย”
“เธอจงประพฤติตนเสียใหม่ให้เป็นคนดี อย่าสร้างบาปเวรอีก เราขออวยพรให้เธอได้ไปเกิดในร่มประเทศที่รุ่งด้วยพระพุทธศาสนาจ๊ะ”
หลังจากนั้นยมทูตก็ได้นำตัวเขาไปตัดสินคดีกรรมต่อจากนี้
ผมได้อธิษฐานเพื่อขอไปนรกขุม ๙ เพื่อขอเปลี่ยนขุม หลังจากได้ทราบบัญชีกรรมจากยมทูต ผมก็ได้ไปตามแผนที่ที่ได้รับจากยมทูต ผมไปสู่นรกขุม ๓ ปลายทางของเส้นทางนี้ เป็นเส้นทางสุดท้ายที่ผมจะไปในวันนี้ ตัวธรรมในกายผมเดินธรรมละเอียดเข้ากายธรรมสุทธฤทธิ์ในกายธรรมกายสุด นั่นคือกายธรรมกายขั้นละเอียด และได้อธิษฐานตามฤทธิ์กาลเพื่อโปรดสัตว์ในยมโลก นั่นคือคำอธิษฐานที่ผมใช้ประจำในการโปรดสัตว์หลังจากที่ผมได้อธิษฐานฤทธิ์ไปตามกาลแล้ว อิทธิฤทธิ์แห่งกายนี้ก็ได้บังดาลให้กายทั้งหลายเข้าสู่ธรรมกายโดยละเอียดโดยเป็นที่สุด และได้เข้าสู่อธิษฐานธรรมเป็นธรรมกายอัจจฤทธิ์แห่งพระธรรมกายญาน วิญญาณต่าง ๆ ที่เห็นกายนี้จะได้รับการโปรดสัตว์ทุกคน นี่เป็นคำสัญญาของสวรรค์
“บัดนี้ได้มีประกาศสวรรค์ ให้ผมเป็นผู้รับหน้าที่ในการโปรดสัตว์ในยมโลกจนกว่าในยมโลกจะสิ้นด้วยการลงทัณฑ์ แม้มีสัตว์ตนใดไม่เชื่อก็ให้อธิบายธรรมให้รู้แจ้งด้วยธรรมกายที่ผมมี นั่นเป็นความหมายแห่งสุดด้วยกายธรรมสิทธิ์” (สิทธิแห่งกายธรรม)
มนุษย์รับฟังธรรม ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมแจ้งชัดแก่ตน ด้วยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนรู้เห็นและแจ้ง ย่อมมีความถูกหรือผิดเป็นธรรม ขอให้ตรัสคิดฟัง รู้ตาย ในความคิดของตน และรู้จักพิจารณาสังเกตด้วยเหตุผลว่า สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น มีอยู่เป็นจริงเช่นไร
มวลมนุษย์ทั้งผอง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ การเคลื่อนดับนั้นเป็นสิ่งอนิจจังทั้งหมดเป็นเรื่องของกรรมไม่มีใครให้ใครเป็นอย่างไรได้ ตัวตนเองทั้งสิ้นเป็นผู้ก่อกำเนิดกรรม ทั้งหมดเป็นเรื่องของกรรมบาท (สิ่งที่เป็นไปเกี่ยวกับกรรม ดังนั้น ขอให้มนุษย์ทั้งผองจงคิด จงรู้ว่า เหตุผลตัวตนนั้น คิดแจ้งรู้จริง อย่างไร เป็นอย่างไร แล้วจึงคิดจะทำตามเหตุผล สิ่งที่ตนคิด และรับทราบ
ด้วยธรรมทั้งหมดที่ได้กล่าว ผมขอให้ทุกท่านจงมีความพร้อมในญาณ ปฏิบัติตนให้รู้แจ้ง กระทำตนให้เลิศในมรรคผลทางธรรม ปฏิบัติโดยชอบแจ้งแล้วด้วยเหตุวิสุทธิ์ สิ่งแจ้งทั้งผองนั้น จักรวมอยู่เป็นทุกข์ธรรม (ธรรมที่รู้แจ้งในความเป็นทุกข์) วิญญาณธรรม (สรรพสิ่งที่แจ้งในวิญญาณ) สองสิ่งทั้งสอง ย่อมรวมอยู่เป็นธรรมะที่พระบรมศาสดาได้ตรัสไว้โดยแจ้งแล้ว
ทุกสิ่งย่อมเกิดมาจากการเคลื่อนตัวเกิดดับในเรื่องของกรรมทั้งสิ้น การเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิของกรรมย่อมแจ้งอยู่ในความทุกข์ สิ่งที่เห็นจริง ประจักษ์จริง จักเป็นเหตุผลให้ท่านได้รู้ทราบในสิ่งบอกชัดโดยละเอียด สิ่งทั้งผองในมวลธรรม ย่อมมีความรู้พร้อมในธรรม อันเป็นทางดำเนินสิ้นแล้วด้วยดีของพระพุทธองค์ด้วยความรู้แจ้งสิ่งทั้งหมดที่เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ย่อมประจักษ์อยู่ในธรรม สรรพสัตว์ที่ได้รู้เห็นในกรรมโดยแจ้งแล้ว ขอจงประจักษ์รู้ เกิดรู้ธรรมด้วยตนในความมีพร้อมอยู่ด้วยความแจ้งชัดในธรรม
ขอมวลมนุษย์จงสิ้นกรรม ขอจงรู้เห็นธรรมตามกาล ขอจงประจักษ์ในคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
“ปิยราชไกรนรภพ”

เรื่องกระจ่างชัดในกรรม สิ่งอรรถาธิบายต่างๆ ย่อมมีอยู่ให้เห็น รู้ได้ด้วยตน อันความมีพร้อมในกรรมที่สัตว์ทั้งหลายได้แจ้งชัดแล้ว จักประจักษ์อยู่พร้อมด้วยธรรม ดำเนินตามอย่างอันดี
ในความรู้พร้อมเรื่องกรรม สัตว์ทั้งหลายจักแจ้งชัดด้วยการกระทำ อันเป็นหนทางรู้ของผู้ปฏิบัติ มนุษย์ผู้ใดใคร่ในการปฏิบัติ จักประมวลธรรมให้แจ้งชัดด้วยการรู้แจ้งเห็นจริงอย่างถูกต้อง ด้วยคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธะเจ้า
คำสอนแห่งองค์สมเด็จพระศาสดา ย่อมมีอยู่ล้วนถูกต้องโดยแจ้ง ในสิ่งอันเป็นเครื่องรู้พร้อมในมรรคผลแห่งพุทธภูมิ สวรรค์ภูมิ เทวภูมิ มนุษย์ภูมิ เทวโลกภูมิ ทุกสิ่งอันเป็นเครื่องอยู่แห่งโลกธรรม จักแจ้งด้วยคำสอนอันรู้ได้ด้วยตน
บารมีธรรมแห่งการรู้พร้อมของสรรพสัตว์ จักแจ้งชัดอยู่ด้วยความดับในกาย สูญในภาวะแห่งอารมณ์ อันถือเสมือนหนึ่งเครื่องรู้เห็นในธรรม อันประจักษ์ด้วยตนกระทำ
สิ่งอรรถาธิบายที่ได้แจ้งไว้แล้วนี้ ขอจงรู้เห็นอยู่ด้วยสติปัญญาของท่านเองทั้งสิ้นเทอญ
ขอจงถึงพร้อมโดยธรรมกันเทอญ
“ปิยราช ไกรนรภพ”

ผมมองเห็นถ้ำ ๆ หนึ่งมีแสงสว่างเรืองรองอยู่ภายใน ผมได้เดินเข้าไปภายในและได้พบกับยมทูตองค์หนึ่งกำลังทำหน้าที่อยู่ภายใน ผมได้เอ่ยนามผมกับเขา และยมทูตก็ได้คุกเข่ารับบัญชาอยู่เบื้องหน้า
“ข้าพระพุทธเจ้าขอรับธรรมทาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ด้วยบารมีพระปกเกล้า ขอถวายบังคมเดชฤทธิ์อิทธิศร ด้วยเกล้าบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมพระพุทธเจ้าข้า”
“เรามาสัมภาษณ์วิญญาณบาปที่ทำบาปและตกอยู่ในนรกขุมนี้สักหน่อย”
“พระพุทธเจ้าข้า”
ยมทูตเดินนำทางผมไปข้างหน้าและได้เลี้ยวเข้าช่องถ้ำช่องหนึ่งเบื้องหน้าผม ผมเดินตามเขาไปพบว่ามียมทูตอยู่อีกองค์หนึ่งกำลังลงโทษชายตนหนึ่งอยู่ เขาได้ใช้หอกแทงลงบนร่างของชายตนนั้นด้วยความรุนแรง
“เดี๋ยวยมทูต หยุดก่อน” ผมร้องสั่ง
“ข้าพระพุทธเจ้าขอรับธรรมทาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ด้วยบารมีพระปกเกล้า ขอถวายบังคมเดชฤทธิ์อิทธิศร ด้วยเกล้าบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมพระพุทธเจ้าข้า”
“เมื่อกี้เธอทำอะไร เราอยากรู้”
เขาก็อธิบายให้ผมฟังว่า วิญญาณตนนี้กำลังใช้กรรมในการลงทัณฑ์อยู่ในนรกขุมนี้ และเขากำลังลงทัณฑ์อยู่ มิอาจหยุดรับเบื้องยุคลบาทได้ เขาจึงได้กล่าคำขออภัยว่า “ข้าพระพุทธเจ้าน้อมกราบแทบเบื้องยุคลบาท เนื่องด้วยข้าพระพุทธเจ้ากำลังปฏิบัติงานอยู่ มิอาจทราบได้ว่าใครเสด็จมา จึงมิได้ออกไปต้อนรับ
“ฮืม… เราเข้าใจ” ผมตอบไป
“ที่เรามานี่ก็เพื่อสัมภาษณ์วิญญาณบาปตนนี้ เราอยากคุยกับเขาสักหน่อย เอาตัวเขาออกมานี่ซิ”
สักครู่ยมทูตก็เอาตัวเขามาหาผม และได้กล่าวคำถวายบังคมด้วยความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง
วิญญาณตนนั้นได้กล่าวคำถวายบังคมที่ไม่ค่อยชัดนัก ผมจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญทางด้านนี้เข้ามาสอนสั่งให้เกิดความรู้เพื่อให้เกิดการปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเรียบร้อยตามกฏแห่งธรรมบาลเบื้องบนบัญญัติและเขาก็ได้กล่าวคำที่ถูกต้องออกมา
ผมยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่ชื่นใจที่เห็นเขาสามารถพูดได้ด้วยความเต็มใจและเต็มใบหน้าแห่งการพ้นทุกข์ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า
วิญญาณเบื้องหน้าของผมตนนี้มีสภาพเป็นวิญญาณที่ไม่ครบสูตร ผมหมายถึงการเข้าเป็นรูปร่างแห่งการเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์และมีสภาพร่างกายเหมือนกับผีเปรตที่มีวิญญาณต่างจากมนุษย์อื่น นี่เป็นความหมายที่ผมกำหนดให้ไว้ในความหมายนี้ สภาพของวิญญาณที่อยู่เบื้องหน้าผมนี้มีสภาพร่างกายเหมือนไม่มีผิด ผมหมายถึงวิญญาณตนนี้มีสภาพรูปร่างไม่เป็นคนเท่าใดนัก (นั่นเป็นความหมายที่ผมกล่าวแจ้งไว้)

ใบหน้าที่ซีดแห้ง รูปศีรษะผอมลีบ เส้นผมบนหนังศีรษะมีอยู่เพียงน้อย ผิวหนังตามตัวเขียวคล้ำ รูปกายผอมลีบแห้ง อยู่ในลักษณะเปลือยกาย ที่ขาของเขา มีตรวนเหล็กผูกติดอยู่ที่ขา บนแผ่นเบื้องหลังของเขาขาวโพลนเหมือนถูกน้ำร้อนลวก พอมองเห็นเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ตรงปลายก้นของเขามีอวัยวะอย่างหนึ่งงอกออกมาจากก้น มีขนาดเท่าผลมะนาว ผีตัวนี้มีป้ายบอกชื่อไว้ว่า “ผีช่องหิน”
“เขาทำกรรมอะไรเอาไว้หรือ ยมทูต” ผมถาม
“ชายผู้นี้ ก่อกรรมคดีฆ่ากบ พระพุทธเจ้าข้า”
“ประวัติกรรมของเขาเป็นมาอย่างไร”
“อดีตชาติ ชายผู้นี้เป็นชาวจังหวัด “นครปฐม” มีอาชีพทำสวน บางวันก็ออกไปจับกบมาขาย เมื่อจับกบมาได้แล้วเขาก็หยิบเอาน้ำร้อน ๆ มาลวกกบเหล่านั้น และลอกเอาหนังมันออก จากนั้นเขาก็นำไปขายในตลาดและจะทำอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อฆ่ากบพวกกบทั้งหลายได้ตั้งจิตอาฆาตไว้อย่างมาก มีกบมากมายต้องตายเพราะเขาและมาร้องทุกข์ในนรกให้ลงโทษชายคนนี้ พระพุทธเจ้าข้า”
ก้อนเนื้อที่งอกขึ้นตรงก้นของชายตนนี้ก็เพราะ ในอดีตเขาได้ใช้ไม้เสียบอวัยวะของกบทุกตัวที่นำมาขายและด้วยกรรมนั้นทำให้เขาต้องกรรมด้วยการทรมานของก้นอย่างหนัก
“เธอถูกบาปกรรมตามสนอง เพราะเธอเองเป็นคนก่อขึ้นมาทั้งสิ้น แล้วจะร้องไห้ให้ใครช่วย เราต้องทรงความยุติธรรมเอาไว้ เมื่อเธอทำผิดจริงก็สมควรได้รับกรรมนั้นตอบสนองใครทำใครรับ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้หรอกเข้าใจไม๊”
ผีตัวนั้นร้องไห้คร่ำครวญถึงกรรมที่เคยก่อไว้ ถึงสำนึกผิดก็สายเสียแล้ว
“เราจะช่วยเธอให้พ้นนรกไปเกิดใหม่ แต่เธอต้องให้คำสัตย์ต่อสวรรค์ก่อนว่าจะไม่ประพฤติตนเช่นเดิมอีกเราจึงจะช่วยเธอ”
“พระพุทธเจ้าข้า” ผีตัวนั้นตอบผม
“เอาหล่ะ จงพนมมือขึ้นแล้วกล่าวตามเราจ๊ะ”
“สาธุข้าพเจ้าขอให้คำสัตย์ต่อสวรรค์ว่า ข้าพเจ้าจะประพฤติตนเป็นคนดีเสียใหม่ ไม่ขอประพฤติตนอย่างเก่าอีก บาปกรรมที่ได้เคยก่อไว้กับสัตว์ทั้งหลายขอให้อโหสิกรรมให้กับเราด้วยเถอะ ผมขอกราบขอโทษที่ได้ล่วงเกินชีวิตท่านมาก่อนครั้งหนึ่ง แต่บัดนี้ผมจะขอสร้างบุญกรรมเพื่ออุทิศให้แก่ท่านทั้งหลาย ขอให้ท่านไปสู่ภพภูมิอันประเสริฐเถิด ….” ผีตัวนั้นกล่าวตอบไปพร้อมกับก้มกราบวิญญาณกบมากมายที่กลายร่างเป็นคนในยมโลก
วิญญาณเหล่านี้ได้กลายร่างเป็นคนเนื่องจากมีกรรมวาระในการกระทำหมดจากร่างความเป็นมนุษย์ในร่างของสัตว์ที่มาเกิด ขอให้ทำความเข้าใจว่า ตัวเองมีกรรมเช่นไรเมื่อหมดกรรมดวงวิญญาณก็จะหลุดพ้นออกจากร่างนั้นไปสู่ร่างใหม่ นี่เป็นสัจธรรมบนโลกมนุษย์ แต่เป็นความจริงในพิภพยมกาฬ (พิภพที่มีผู้สำเร็จธรรมในภาคมนุษย์เป็นผู้ปกครอง)
เมื่อมนุษย์ลงมาเกิดบนพื้นพิภพ มียมทัณฑ์บังคับอยู่ ด้วยกรรมเก่าทำให้เกิดในรูปร่างต่าง ๆ นี่เป็นความจริงที่ปรากฏอยู่ เมื่อมนุษย์มาเกิดต่างก็หนุนกรรมกลับร่างในชาติของตน รอวันหลุดพ้นกรรมในชาติต่างๆ นี่เป็นความเป็นไปบนพื้นพิภพมนุษย์
“หากข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์แล้วประพฤติตนเยี่ยงเก่าอีก ขอให้สวรรค์ลงโทษให้ข้าพเจ้าให้ตายดิ้นอย่างกบดิ้นอย่างกบที่ข้าพเจ้าได้เคยฆ่านั้นเถิด”
ผีตัวนั้นร้องไห้ น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เขาสารภาพผิดด้วยความทุกข์ในตนที่อยากจะพ้นทุกข์
มีเสียงกบตัวหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “เราขออโหสิกรรมให้กับท่าน ขอให้ท่านได้ไปเกิดในที่ ๆ ดีต่อไปเถิดเราขออวยพรให้ท่านเป็นสุข”
“เมื่อทุกตนได้อโหสิกรรมให้แก่กันแล้ว เราก็จะจัดการให้เสร็จสิ้นไปเรื่องหนึ่ง”
“สรรพสัตว์ทุกคนมีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ ไม่สิ้นสุดแห่งกรรมด้วยบาปเวรที่ตนก่อ ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงสำนึกเถิดว่าบุญกรรมนั้นมีจริง ให้ผลจริงตามวาระกาล”


"ฉันโพธิสัตว์กวนอิมขอให้สัญญาว่าจะไม่เข้าสู่พระนิพพานจนกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจะพ้นทุกข์หมด และจะอยู่ข้างเคียงท่านเสมอ "
" นำมอออนีถ่อฮุก "
จากเรา" โพธิสัตว์กวนอิม "

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร