วันเวลาปัจจุบัน 06 มิ.ย. 2025, 00:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 11:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีพี่ที่ออฟฟิตมาเล่าเรื่องการทำพิธีตัดกรรมจากการทำแท้งให้ฟังค่ะ เขาอยากชวนไปเป็นเพื่อน เพราะพี่เขาเคยทำมาด้วยความไม่ตั้งใจ ไปทำพิธีที่วัดแถวสมุทรสาครค่ะ อยากทราบว่าเราสามารถตัดกรรมได้จริงหรือค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรม คือ สิ่งที่ได้กระทำลงไปแล้ว และมีผลกลับมา

อุปมาดั่งปลูกต้นมะม่วง สิ่งที่ได้ย่อมเป็นผลมะม่วง มิใช่เม็ดถั่ว

การแก้กรรม ตัดกรรม นั้นไม่มี
เพราะ
ไม่มีใครสามารถล้างความผิดที่ได้กระทำลงไปได้ มีหตุย่อมมีผล เมื่อกระทำลงไปแล้ว สิ่งที่ได้กระทำลงไปจะหายไปได้อย่างไร

มีแต่ การผ่อนกรรมหนักให้เบาลง
นั้นก็คือ วิธี การขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร ถวายสังฆทานขอให้ผู้เป็นนายเวรของเราได้อโหสิกรรมต่อสิ่งที่ได้ล่วงเกินเขาเหล่านั้นไป ให้เขาไม่จองเวรจองอาฆาตกันต่อ
ส่วนกรรมที่ฝังในจิตนั้น แก้ด้วยการปฎิบัติกรรมฐาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ความคิดเห็นส่วนตัวของพี่
พี่ไม่เชื่อเรื่องตัดกรรม สแกนกรรมเลย...
พี่เชื่อเรื่องกรรมใดใครก่อมากกว่า.... :b6:

เราทำกรรมใดๆไว้ เราย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
จะมาให้ใครทำพิธีตัดกรรมให้เราได้อย่างไร?
แต่ถ้าแนะนำให้หนีกรรมโดยการเร่งทำความดี
เพียรปฏิบัติ..จนหลุดพ้น...กรรมชั่วไม่สามารถ
ติดตามได้ทัน...อันนี้ค่อนข้างเชื่อค่ะ..... :b1:

อดีตมันผ่านไปแล้ว...อย่าไปคิดถึงมันเลย...
จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ...หรือเหตุผลใดๆก็ตาม
เราก็สร้างกรรมเหล่านั้นไปแล้ว....จะมัวพะวง
อยู่ทำไม...เร่งทำความดี...เพื่อตัดชาติภพดีกว่า :b6:

เจริญในธรรมค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอโมทนากับทั้งสองท่านด้วยเด้อขอรับ :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 17:14
โพสต์: 84

แนวปฏิบัติ: ตามดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงแมว/ดูหนัง/เล่นเนต
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่เราส่วนใหญ่มักเห็นคำกล่าวอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับการ "ตัดกรรม" นะคะ
ถ้าการตัดกรรมในความหมายของคนๆนั้น หมายถึง "การลดละ บรรเทา และ เจือจาง" ก็ถือว่าเป็นนิยามที่น่าจะพอใช้ได้
แต่ถ้าการตัดกรรม ของคนนั้นหมายถึง การที่เราได้ไปกระทำผิดอันใดมา แล้วมาตัดกรรม เพื่อหวังจะให้ความผิด นั้ "หายไป" อยากบอกว่า นี่คือความคิดแบบ "มิจฉาทิฐิ" นะคะ

ถ้าคุณปริตา เข้าใจในกรณีที่สอง อยากจะบอกว่า การเข้าพิธีแก้กรรม หรือ ตัดกรรม ไม่มีผลค่ะ
จะมีก็แค่ "สร้างความรู้สึกดี" ให้กับตนเองเท่านั้น

แต่จริงๆแล้ว ตามหลัก พุทธศาสนา จะต้องบอกว่า "กรรมนั้นยังคงอยู่" และทำหน้าที่เพียงแค่ "รอ" ที่จะสนองต่อผู้กระทำ เท่านั้น

กรรมนี่โหดนะคะ...อย่าทำเป็นเล่นไป คุณอาจจะคิดว่าฉันพูดเองลอยๆหรือเปล่า?
ฉันจะยกเรื่องๆหนึ่งที่มีในพระไตรปิฎก คือ เรื่องของ พระพุทธเจ้า กับ พระเทวทัต
ถ้าคนที่ศึกษาธรรม ย่อมรู้ความเป็นไป เป็นมาของทั้งสองดี ท่านทั้งคู่เป็น คู่เวรคู่กรรม ต่อกันมาหลายสังสารวัฏ มีพระพุทธองค์ที่ไหน มีพระเทวทัตที่นั้น

จนกระทั่ง ชาติสุดท้ายที่พระพุทธเจ้า บรรลุ และจะปรินิพพาน พระเทวทัตก็ยังมาจองเวร เช่น หาช้างมาไล่ เข็นก้อนหินให้หล่นมาทับ ซึ่งจริงๆแล้วพระพุทธองค์เป็นถึงพระศาสดา ที่สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านอยู่แล้ว...แต่ท่านก็ไม่หลบลี้ หนีไป ก็ยังคงต้องเผชิญกับวิบากกกรรมกับพระเทวทัตในชาติสุดท้ายก่อนดับขันธ์..อยู่ดี

แล้วเพื่อนคุณปริตา...เป็นใครกัน?
คนที่จะตัดกรรมให้เพื่อนคุณนั้น... เป็นใครกัน?

ขนาดผู้ที่ประเสริฐที่สุดในโลก ยังไม่สามารถหลีกหนีกรรมของตนเองได้ แล้วคนธรรมดาแค่ระดับโสดาบันไม่รู้ว่าจะได้กันหรือยัง..จะทำได้หรือ?

ไปบอกเพื่อนคุณเถอะนะคะ ว่ามันไม่มีจริงหรอก เตรียมรับกรรมของตนเองไว้ได้เลย
ถ้าไปทำแล้ว คิดเสียว่าได้สบายใจ ไม่ได้เสียสตังค์มากมาย...อยากไปก็ไปได้

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนคุณคือ ตั้งใจทำบุญ ภาวนา และอุทิศกุศลไปให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่ได้เคยกระทำไว้ กรรมเปรียบเหมือนเกลือ ถ้าเราเติมน้ำที่เปรียบเหมือนบุญเข้าไปมาก ความเค็มย่อมจางลง
แต่ยังไรเสีย "ความเค็มก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน"

ดั่งนั้น เพื่อนคุณก็ต้องเติมบุญให้มากๆ และวิธีเดียวที่จะสามารถตัดภพ ตัดชาติได้คือการทำ วิปัสนานุสติ เท่านั้น (ซึ่งดิฉันคงยังไม่ใช่ 555...)

หวังว่าสิ่งที่ดิฉันเขียนอธิบายพอจะเข้าใจกล้อมแกล้มบ้างนะคะ เรื่องเหล่านี้ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าเข้าใจผิด หลงทางไป ก็ไปเลย(ไปอบาย..)

ขอให้โชคดีนะคะ

.....................................................
จงขอบคุณเมื่อความทุกข์เกิด เพราะมันคือบทเรียนให้เราก้าวหน้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 12:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านเรื่องของหลวงพ่อจรัญ ก็มีนะ

ทำนองมีคุณพ่อท่านหนึ่งท่านไอไม่หยุด ไอทั้งวันทั้งคืน ไอจนตัวงอแสบท้องไปหมด แทบกินไม่ได้น้อยไม่หลับรักษายังไงก็ไม่หาย ท้อแล้วกับการมีชีวิต
คุณพ่อท่านนั้นเกือบตายแล้ว ถ้าลูกชายไม่ช่วย

ลูกชายส่งเรื่องให้กับหลวงพ่อ เล่าให้ฟัง หลวงพ่อก็บอกให้ทำบุญ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร เอาบทสวดมนต์มาให้พ่อสวด แล้วก็บนไว้ว่าถ้าคุณพ่อหายคุณพ่อจะบวช

ต่อมาพวกลูกๆก็ไปทำบุญถวายสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวรของพ่อ ช่วยกันสวดมนต์ ตัวพ่อเองก็สวดมนต์ด้วย จนอาการดีขึ้นและคุณพ่อเริ่มหาย คุณพ่อก็ไปบวชตามที่ได้บนไว้ในตอนแรก

บทสวดนั้นคือบทสวด พาหุงมหากา

และก็อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของคนที่เป็นมะเร็ง ไปรักษาฉายแสงกว่า 10 ครั้ง ผ่าตัดแล้วผ่าตัดอีก ไม่หาย จะตายเพราะโรคมะเร็งแล้ว ก็เลยตัดสินใจใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิตไปเจริญกรรมฐานกับหลวงพ่อ
แล้วจากนั้นก็หายจาการเป็นโรคมะเร็งที่แม้แต่หมอยังแปลกใจ

ลองไปหาอ่านดูนะคะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่านมากค่ะ โดยส่วนตัวแล้วดิฉันก็คิดดังเช่นทุกท่าน
แต่ก็อยากมีวิธีที่จะไปอธิบายให้พี่คนนี้ฟัง เพราะตลอดสองอาทิตย์มานี้ได้ยินได้ฟัง
เรื่องการทำพิธีตัดกรรมอย่างนี้มา 2 ครั้งแล้ว ที่แรกอยู่ที่ นครนายก ที่ที่สองก็ที่วัดแถวสมุทรสาครนี่แหละค่ะ พี่เขาคงได้รับข้อมูลมาจากทางบ้าน ทางเพื่อนเขาอีกที ซึ่งตัวดิฉันเองไม่ได้เชื่อแต่ก็ไม่ลบลู่อะไร จะอธิบายให้เขาฟังตามเหตุตามผลที่ทุกท่านว่าไว้นี่แหละค่ะ ส่วนตัวเขาเองจะเชื่อหรือไม่นั้นก็สุดแล้วแต่เขาเองค่ะ ในฐานะเพื่อนก็คงทำได้เพียงแค่นี้ และฟังจากที่พี่เล่ามาก็เห็นว่าไม่ได้มีการหลอกลวงอะไร บุคคลที่ทำให้คาดว่าจะเป็นพระค่ะ ทีนี้ก็สุดแล้วแต่พี่เขาเองค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มี.ค. 2010, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ปริตา:


อ้างคำพูด:
มีพี่ที่ออฟฟิตมาเล่าเรื่องการทำพิธีตัดกรรมจากการทำ แท้งให้ฟังค่ะ เขาอยากชวนไปเป็นเพื่อน เพราะพี่เขาเคยทำมาด้วยความไม่ตั้งใจ ไปทำพิธีที่วัดแถวสมุทรสาครค่ะ อยากทราบว่าเราสามารถตัดกรรมได้จริงหรือค่ะ


เดี๋ยวนี้มีทำกันมาก กลายเป็น"อาชีพ"ไปอีกอย่างหนึ่งแล้ว คล้ายร้านอาหารจานด่วน (fastfood)ที่รวดเร็วทันใจคนยุคใหม่ที่ต้องการอะไรๆได้ดังใจ ...แถมยังมีพระเป็นผู้ประกอบอาชีพเช่นนี้อีกด้วย..น่าสงสารทั้งพระและฆราวาส..

ขอให้เข้าใจเป็นเรื่องแรกไว้ก่อนหากจะเกี่ยวข้องกับพระว่า กิจของพระ ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงวางแนวกำหนดไว้ให้ มี๒ประการคือ ๑. การศึกษาพระปริยัติ มีพระไตรปิฎ และ ๒. เจริญวิปัสสนาเพื่อความพ้นทุกข์ กิจอื่นนอกนี้ไม่ใช่กิจของพระ และโดยเฉพาะการจัดพิธีกรรมเพื่อตัดกรรม ย่อมอยู่นอกเหนือพุทธบัญญัติ หากเราไปมีส่วนร่วมด้วยย่อมเท่ากับไปส่งเสริมสนับสนุนพระในการทำศาสนาให้เสื่อม๑ ไปช่วยให้พระละเมิดพระวินัย มีผลให้ได้ไปอบายทุคติแน่นอน๑ ไปเข้าพิธีด้วยความไม่รู้เรื่องกรรมและการให้ผลกรรม เป็นการเพิ่มความหลงหรือโมหะของตน๑ เมื่อต้องไปกราบไหว้บวงสรวงเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์อื่นใดนอกเหนือไปจากพระพุทพระธรรมและพระสงฆ์ มีการรับขันธ์อะไรๆ ก็เป็นการลากจูงตนเองให้เสื่อมแล้วจากการมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง๑ เมื่อทำแล้วก็เข้าใจผิดไปว่าบาปหมดไปแล้วคล้ายๆลัทธิอื่นที่สารภาพบาปแล้วบาปหมด นี่เป็นการเข้าถึงความเป็นผู้มี อกิริยมิจฉาทิฏฐิ คือทำกรรมใดๆก็ไม่มีผล ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงกว่าอนันตริยกรรม ๑ เพราะการยึดถื่อในพิธีกรรมเช่นนั้นย่อมเป็นผู้มีสังโยชน์คือเครื่องผูกตนไว้ในสังสารวัฏมีอุปนิสสัยที่จะตระเวณไปในลัทธิต่างๆที่ถือศีลพรตและพิธีกรรมต่างๆที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาทั้งในภพนี้และภพหน้า ๑

เรื่องตัดกรรมนี้ ขอให้คิดถึงเหตุผลที่เป็นจริงว่า หากการตัดกรรมสามารถทำได้ด้วยเพียงพิธีกรรมจริง..เหตุไร พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นเลิศกว่ามนุษย์แลเทวดาทั้งปวงจึงไม่ทรง"ประกอบพิธีตัดกรรม"ให้พระองค์เองเพื่อที่จะไม่ต้องอดอาหารดี ๆ ไม่ต้องปวดพระเศียร ไม่ถูกหินทับที่พระบาทเพราะพระเทวทัตกลิ้งหินมาเพื่อฆ่าพระองค์ ไม่ต้องปวดหลังฯลฯเล่า ?

นี้แสดงว่าขนาดพระพุทธเจ้ายังไม่ทรงสามารถเสกเป่าตัดกรรมของพระองค์ได้แล้ว ใครๆที่เข้าพิธีกรรมอะไรๆจะสามารถตัดกรรมได้ ก็คงเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเป็นแน่แท้ เรื่องเช่นนี้ไม่อาจเป็นไปได้ในความจริงครับ..มีได้เฉพาะในจินตนาการของผู้ขาดสติปัญญาเท่านั้นเอง ..


อะไรตัดกรรมได้ไม่มี มีแต่การสร้างเงื่อนไขปัจจัยใหม่เพื่อการเบี่ยงเบนหรือเบียดผลของกรรมชั่วออกไปเหตุดีนำผลดีมาให้ เหตุเสียนำทุกข์มาให้ เหตุดีคือการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หากเราทำเหตุดีให้มากและบ่อย ผลดีย่อมมีกำลังมาก คุณปริตาหากจะสงเคราะห์เพื่อน พึงแนะนำให้เธอศึกษาฟังธรรมะเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและปัญญาจะได้ไม่หลงไปทำเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ซ้ำยังมีโทษตามมาอีกมากมาย..สิ่งดีที่เพื่อนทำได้ทันทีและต่อเนื่องทุกวันคือการประพฤติศีล๕ทุกวัน นี่คือยาที่ดีเยี่ยมที่เพื่อนมีอยู่กับตัวครับ..

ขออนุโมทนาในจิตคิดอนุเคราะห์เพื่อนของคุณปริตาด้วยครับ..

:b46: :b47: :b48: :b41: :b48: :b47: :b46:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรมตัดไม่ได้ค่ะแต่ทอนให้เบาบางลงได้ กรรมจากการทำแท้งบาปมากนะคะ สิ่งที่ต้องทำก่อนก็คือทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เด็ก อธิษฐานขอให้เขาได้มาเกิดเป็นคน คนที่ทำก็ถือศีลทำสมาธินะคะ มันเป็นการทำบุญสูงสุดแล้วค่ะ

วิบากจะมาในรูปไหนก็ต้องรอชาติหน้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญ บาป เป็นสภาวะธรรมที่อยู่ในกฏไตรลักษณ์เหมือนกัน คือ มีอายุ เน่าตายได้

การตัดกรรม เรียกให้เป็นทางการว่า อโหสิกรรม แปลว่า เป็นกรรมที่ไม่ส่งผล

วิถีบุญวิถีบาป มันจะมาเป็นคิว มาไม่พร้อมกัน เปลี่ยนกันไป เปลี่ยนกันมา เดายาก แต่ก็พอจะงมๆ ได้ คือ บุญหนัก บาปหนัก หรือบุญใหม่ บาปใหม่ มักจะส่งผลก่อน

เพราะฉะนั้น จึงมีวิธีการ ทำบุญหนีบาป

เป็นที่น่าสังเกตุว่า คนไทยส่วนใหญ่แล้ว ทำบุญไม่เป็น ไปทำคิดว่าจะได้บุญ บางทีแบกบาปกลับมาบ้านเต็มๆ ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยังต้องไปเสียค่านายหน้าอีก บุญจริงๆ ทำยากนะ ถ้าไม่รู้จริงๆ ไม่เคยศึกษา ไม่ค่อยจะได้บุญกันหรอก เหมือนกับคนไม่เคยปลูกข้าว นึกว่าง่าย ลองไปปลูกดูจะรู้ว่า กว่าจะเป็นเม็ดข้าวได้มันยากเย็นแสนเข็ญขนาดใหน ผิดที่ ผิดทาง ผิดเวลา ผิดวิธี ผลออกมาไม่ค่อยจะได้อะไรกันหรอก

เรื่องแท้งนี่ โดน ๒ เด้ง คือ กรรมจากการฆ่า กับจะโดนลูกราวี เด็กที่ตายไปจะเกิดเป็นเปรต มีสถาวะทิพย์ วนเวียนรอบๆ ผู้เกี่ยวข้องกับการตายของเขาทั้งหมด ไม่มีเว้น โดยเฉพาะแม่ คอยหาโอกาสล้างแค้น เพราะสัตว์ส่วนมากรอคอยเวลาหลายพันหลายหมื่นหลายแสนปีกว่าจะได้เกิดมาเป็นคน

อย่าให้ผู้เป็นแม่ไปนั่งสมาธิโดยเด็ดขาด ไม่งั้นเสร็จมัน ในสถาวะจิตสงบ มันจะครอบ สะกดจิต ดลใจ หลอกลวงด้วยนิมิต เพื่อทำให้แม่ตกนรกให้ได้ นึกถึงเวลาที่จิตเวทจะสะกดจิตคน จะให้มองนาฬิกานิ่งๆ เหมือนกัน พอจิตสงบ จิตที่แข็งกว่าจะสามารถเข้ามาครบงำได้

ไม่ต้องไปเสียค่านายหน้าให้ใคร บุญเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาแบบนี้ได้ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เด็กไปเกิด ทำมากๆ ติดๆ กัน หลายๆ เดือน โดยเฉพาะการใส่บาตรเช้า ข้าวถุงแกงถุง ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ใส่ข้าวไปในบาตรแล้วค่อยอธิฐาน เพราะก่อนใส่ยังไม่ได้บุญ

ถ้าปล่อยไป ไม่ทำอะไร แม่จะเกิดอาการเจ็บหลัง เจ้บหน้าออก เพราะเด็กมันขี่คออยู่ เผลอๆ พวกไม่รู้จะบอกว่ามีองค์ เวลาทำมาหากิน รายจ่ายจะมาสารพัด ไม่ค่อยมีเงินเหลือเก็บ พอจะมีรายได้ รายจ่ายจะมารอล่วงหน้า และจะทะเลาะกับสามีบ่อย ลูกมันจะเอาจนเลิกกันให้ได้ ... :b38:

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร