วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 15:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 20:44
โพสต์: 341

ที่อยู่: ภาคตระวันออก

 ข้อมูลส่วนตัว




268_1236699955_jpg_238.jpg
268_1236699955_jpg_238.jpg [ 184.74 KiB | เปิดดู 2921 ครั้ง ]
ข้าพเจ้าไปวัดอัมพวันครั้งแรกกลางเดือนตุลาคม ๒๕๒๕ อาจารย์สมบูรณ์ และอาจารย์บังอร ดรุณศิลป ขอให้ช่วยพานักศึกษาจำนวน ๘ คนไปปฏิบัติธรรมร่วมกับนักศึกษาสถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ข้าพเจ้าประทับใจในความเมตตาของหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล เริ่มตั้งแต่ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่าต้องสวมชุดสีขาว และไม่ได้เตรียมมา แต่ในครั้งนั้นหลวงพ่อได้อนุญาตให้สวมชุดสี ๆ ได้ โดยบอกว่าความบริสุทธิ์อยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้าภายนอก ข้าพเจ้าจึงได้อยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดด้วยความสบายใจ หลวงพ่อได้ให้กรรมฐานสอนเดินจงกรม นั่งสมาธิ และคุณยายสุ่ม ทองยิ่ง กับ คุณป้ายุพิน บำเรอจิต ได้ควบคุมดูแลระหว่างการฝึกปฏิบัติ หลวงพ่อได้ให้ประสบการณ์ต่าง ๆ แก่พวกเรา เช่นสอนเรื่องความกตัญญูต่อบิดามารดา การครองตน ครองครอบครัว การทำงาน การศึกษา กฎแห่งกรรม ฯลฯ โดยท่านอธิบายอย่างมีเหตุผลพร้อมทั้งยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของท่านมาประกอบ ทำให้พวกเราซาบซึ้งและมีศรัทธาน้อมรับคำสอนนั้นมาปฏิบัติ ช่วยให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตอย่างมาก นอกจากนี้ท่านได้กล่าวบางอย่างแก่ข้าพเจ้า ก่อนที่จะเดินทางกลับ ซึ่งสิ่งนั้นเป็นความจริงในเวลา ๖ ปีต่อมา
หลังจากไปวัดครั้งนั้นแล้ว หลวงพ่อได้รับนิมนต์ให้มาบรรยายธรรม เวลามีการอบรมพัฒนาจิตที่สถาบันราชภัฏนครสวรรค์ ทางสถาบันได้จัดอบรมพัฒนาจิตสำหรับอาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรภายนอกเป็นประจำทุกปี โดยมี คุณแม่ ดร. สิริ กรินชัย เป็นวิทยากร หลวงพ่อได้มาบรรยายธรรม แนะแนวเพิ่มเติมแก่ผู้เข้ารับการอบรม ผู้ฟังชอบมากไม่ค่อยยอมให้หยุด จนบางครั้งหลวงพ่อต้องบรรยายถึง ๔ ชั่วโมง ในเดือนมีนาคม ๒๕๒๙ ข้าพเจ้าได้เข้ารับการอบรมพัฒนาจิตที่สถาบันฯ หลวงพ่อมาบรรยายธรรม ตอนหนึ่งท่านได้กล่าวว่า ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถรู้วันตายของตัวเองได้ ท่านได้พูดย้ำหลายครั้ง พอท่านกลับไปแล้ว ข้าพเจ้าก็ทดลองกำหนดจิตถามวันตายของตัวเองในสมาธิ และได้นิมิตว่า วันที่ ๒๖ สิงหาคม ส่วนปี พ.ศ. นั้นไม่แน่ ข้าพเจ้าทราบแล้วก็ไม่สนใจอะไร เพราะในใจหนึ่งคิดว่า อาจเป็นการนึกเอาเองก็ได้ ต่อมาข้าพเจ้ามีปัญหาเรื่องการงาน นอกจากงานสอนแล้ว ข้าพเจ้ายังรับผิดชอบงานธุรการ ซึ่งเป็นงานบริการ สมัยนั้นเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือมีน้อย และที่มีอยู่ก็หยุดบ่อย ผู้มารับบริการบางคนเมื่อไม่ได้ดังใจก็แสดงอารมณ์ใส่ข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าเครียดมาก จมอยู่กับความทุกข์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แม้วันหนึ่งข้าพเจ้าและครอบครัวไปทำบุญที่วัดอัมพวัน ตอนเดินทางกลับสามีของข้าพเจ้าบอกว่า “เธอรู้ไหม หลวงพ่อพูดว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด ตั้งหลายครั้ง” ข้าพเจ้าก็ยังโง่ ไม่เข้าใจความหมายนั้น เช้าวันหนึ่งข้าพเจ้าไปทำงานและถูกต่อว่าอีก ข้าพเจ้าเครียดหนักขึ้น ใจคอไม่ดี ไม่สบาย จึงเดินกำหนดไปห้องพยาบาล พอจะล้มตัวนอนรู้สึกเหมือนจิตจะดับวูบหลุดลอยออกจากร่างไป ข้าพเจ้ารีบอธิษฐานขอให้หลวงพ่อและคุณแม่ ดร.สิริ ช่วย ทันใดนั้นจิตที่จะหลุดลอยไปจากร่างก็เหมือนถูกดึงกลับมา รู้สึกดีขึ้น และได้อาเจียนอย่างรุนแรง หลังจากอาเจียนแล้วสบายขึ้น ก็พิจารณาว่า ความตายเป็นอย่างนี้เอง เวลาคนเราตายนี้ไปตัวคนเดียวจริง ๆ ไม่มีใครไปกับเรา แม้สมบัติสักนิดหนึ่งก็ไม่สามารถเอาไปด้วยได้ กลับมาบ้านแล้วข้าพเจ้าพยายามทำสมาธิต่อไป
รุ่งขึ้นตอนเช้าข้าพเจ้าเตรียมของใส่บาตรหน้าบ้าน แต่ไม่มีพระมา ข้าพเจ้าจึงไปเปิด ปฏิทินดูก็รู้ว่าวันนี้เป็นวันพระ แต่วันวานที่ข้าพเจ้าป่วยไปนั้น คือวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๒๙ ข้าพเจ้ารู้สึกตกใจมาก และสำนึกได้ว่า ถ้าหลวงพ่อและคุณแม่สิริ ไม่ช่วยไว้ ข้าพเจ้าคงตายด้วยโรคลมปัจจุบันไปแล้ว

ครั้นรอดตายในครั้งนั้นแล้ว จิตของข้าพเจ้าตกมาก สะดุ้งกลัวต่อความตาย ยิ่งเวลาได้ข่าวคนที่รู้จักตาย ข้าพเจ้ากลัวมาก ต้องรีบตั้งสติกำหนดรู้อิริยาบถต่าง ๆ เพื่อให้ความกลัวนั้นบรรเทาลงไป นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังมีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจสารพัด ทำความดีไม่มีใครเห็น ทำงานหนักก็ไม่ได้รับความชอบ และบางครั้งยังถูกเยาะเย้ยถากถางอีก ต่อมาความทุกข์ทั้งหลายที่เกาะกินใจของข้าพเจ้าได้ส่งผลสู่ร่างกาย ทำให้หน้าตาหมองคล้ำ น้ำหนักลด มีอาการคล้ายจะเป็นลมบ่อย ๆ เหงื่อออกมากที่มือและเท้า ข้าพเจ้าได้ไปเข้ารับการตรวจคลื่นหัวใจที่โรงพยาบาล พบว่ามีความผิดปกติจากเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่สะดวก ข้าพเจ้าเสียใจมาก ไม่อยากตาย เพราะลูกสาวคนเล็กเพิ่งมีอายุได้เพียง ๙ เดือน และคิดห่วงคุณพ่อคุณแม่มาก กลัวว่าท่านจะทำใจไม่ได้ เพราะท่านมีลูกเพียง ๒ คน และท่านรักข้าพเจ้ามาก ระยะนั้นแม้จะมีทุกข์มากเพียงใดก็ตาม ข้าพเจ้าไม่ทิ้งการปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าไปทำงานตามปกติ เวลามีอาการไม่สบายก็กำหนดอิริยาบถต่าง ๆ กำหนดรู้ การรับรู้ทางทวารต่าง ๆ (ภายหลังหลวงพ่อได้แนะนำว่า ควรกำหนดรู้ที่ลิ้นปี่โดยใช้คำบริกรรมว่า รู้หนอ และหายใจยาว ๆ) ช่วยให้ความไม่สบายนั้นเบาคลายไป กลางเดือนตุลาคม ๒๕๒๙ ข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติธรรมกับคุณแม่สิริ ที่เชียงใหม่ เป็นเวลา ๑๘ วัน มีนิมิตให้ทราบว่า ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลกรรมจากการฆ่าปูทะเลเมื่อข้าพเจ้าอายุได้ ๑๕ – ๑๖ ปี ได้อาศัยอยู่กับญาติ รับหน้าที่ฆ่าปูทะเลเพื่อประกอบอาหารบ่อย ๆ โดยนำไม้แหลมปักบนอกปู และใช้มีปังตอทุบลงบนไม้นั้น ข้าพเจ้าทำด้วยความพอใจ เพราะชอบรับประทานปูผัดใบหอมด้วย กลับจากเชียงใหม่แล้ว ข้าพเจ้าได้ไปเข้ารับการตรวจคลื่นหัวใจอีกครั้ง ปรากฏว่าปกติ ซึ่งแพทย์ที่ตรวจรู้สึกแปลกใจ และท่านบอกว่า หายแล้ว ไม่ต้องรับประทานยาอีก หยุดรับประทานยาแล้ว ข้าพเจ้ายังมีอาการไม่สบายแบบเก่าอีกในบางครั้ง ซึ่งคุณแม่ ดร.สิริ บอกว่าโรคกายหายแล้ว แต่โรคใจยังไม่หาย ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานว่า ถ้าไปตรวจอีกครั้งหมอบอกว่าหาย ข้าพเจ้าจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ๑ เดือน คราวนี้ข้าพเจ้าไปหาแพทย์ที่เป็นอาจารย์สอนแพทย์ที่กรุงเทพฯ ท่านตรวจและบอกว่าหายแล้ว ข้าพเจ้าจึงไปปฏิบัติธรรมที่
เทพบุตร

.....................................................
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ท้งปวง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 17:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ย. 2009, 15:37
โพสต์: 112

ชื่อเล่น: ดอกพุทธ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

สาธุ อนุโมทนาด้วยค่ะ

.....................................................
หลอมจิตบรรจง สู่แสงแห่งธรรม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร