วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 06:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ถวายยา ค่ารักษาพยาบาลโรงบาลสงฆ์ พอดีๆอย่าให้เดือดร้อนตน ให้สบายใจ บ่อยๆ รักษาศีล ทำสมาธิครับ ไม่จำเป้นต้องนั่ง เลือกคำภาวนาเอา ขอให้หายนะครับ บางทีเกิดจาก สภาพแวดล้อมเช่นอากาศร้อนๆหนวาๆด้วยก็ได้นะครับ ต้องดูเหตุ ดูผลด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 07:10
โพสต์: 8

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


***ดิฉันเคยปวดหัวมากหลายวันติดต่อกันไม่หาย นอนตื่นมาก็ยังไม่หาย และพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ไม่เกิดอาการ แรกๆกินยาแก้ปวดหัวแต่คิดว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จึงลองสังเกตดูว่าตนเองจะเกิดอาการเมื่อไหร่สาเหตุเพราะอาไร เมื่อดิฉันได้พบพระธรรมทำให้อาการดีขึ้นจึงได้รู้ว่าหากเรามีวิธีการคิดที่ไปในทางที่ดี พยายามละกิเลส ลดความเครียด อาหารรสจัด กำจัดขยะในใจ อารมณ์กับลมหายใจก็เป็นสิ่งสำคัญ หากควบคุมให้ดีจะส่งผลดีต่อร่างกาย และในท้ายที่สุดอาการจะหายไปเอง***
เมื่อกระทบกับความรู้สึกที่ไม่ดีขอให้ตั้งสติและอย่าไปยึดติดว่าจะอยู่กับเราตลอดไป อีกไม่นานเราก็จะลืมไปเองว่ามันเคยเกิดขึ้น มีความสุขกับการทำสิ่งดีๆเล็กน้อยๆที่ทำให้กับคนอื่นรอบๆข้าง เมื่อพบเจอคนที่เป็นทุกข์ก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือ ขอให้ความสุขที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ยังผลให้คุณหายจากอาการทั้งปวงเถิดนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 08:52
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool เป็นกำลังใจให้ค่ะ หายเร็ว ๆ นะค่ะ
ดิฉันเองก็เป็นโรคนี้เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ เพราะพยายามดูแลตัวเอง สังเกต มีสติ
มีสติยังงัย มีสติคือรู้ตนเองค่ะว่า เราทำตัวเองให้เสี่ยงกับการเกิดอาการหรือเปล่า
เช่น นอนไม่พอ (นอนน้อย :b30: เกินกว่าร่างกายเรามันเรียกร้อง) เคยสังเกตตัวเองว่า ถ้าเมื่อวานนอนไม่พออีกวันก็จะไมเกรนขึ้น :b2: ทรมานได้ใจมาก ทำงานไม่ได้เลย หรือ วันไหนแดดแรง ๆ จ้ามาก ๆ แค่ออกไปเจอแดดแล้วไม่ได้ใส่แว่นตา สักสองสามชั่วโมง กับมาก็ไมเกรนขึ้นอีกเช่นกัน หรือบางทีใช้คอมพิวเตอร์มาก :b31: เกินไปหน่อย (ใช้สายตามาก ๆ โดยไม่ได้ใส่แว่นสายตาเลย) อีกวันก็ไมเกรนขึ้นเหมือนกันค่ะ อีกกรณีคือ แดดไม่พอ :b14: (ไม่พอยังงัย ไม่พอคือวันนั้นอากาศมืดครึ้มค่ะ )อันนี้้ก็ เรากำหนดเองไม่ได้ แสงไม่พอทำให้สายตาปรับแสงมาก อีกวันก็ปวดไมเกรนค่ะ กรณีหลังนี้ต้องทำใจอย่างเีดียวเพราะแก้ไขอะไรไม่ได้ รวมไปถึงความเครียด :b23: ซึ่งก็จะมาพร้อมกันกับไมเกรนเลยค่ะ (รู้กันอยู่เน้อ)
แต่ :b18: ทุุกกรณีที่ว่ามาเราสามารถ ทำให้ทุเลาลงหรือเกิดไมเกรนน้อยลงได้ค่ะ ด้วยการ มีสติ รู้ตัวตลอด :b8: ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ค่ะ คือ เมื่อเรารู้ว่าสิ่งใดเป็นตัวกระตุ้น(ต้นเหตุ)ที่ทำให้เราเกิดอาการของโรคไมเกรน เราก็พยายามหลีกเลี่ยง หรือหากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้เราก็มีสติเตรียมตัวรับมือ เช่นวันนี้ใช้สายตามากเกิน พรุ่งนี้ต้องปวดหัวแน่เราก็เตรียมพร้อม เตรียมยาไว้ เป็นต้น หรือวันนี้แดดจัด พกแว่นกันแดดไว้ค่ะ ทุกวันนี้ดิฉันเป็นสาวไฮโซไปแล้ว 555 เพราะออกแดดเมื่อไร :b11: ใส่แว่นค่ะ แรก ๆ ก็โดนเพื่อนแซวบ้าง หลัง ๆ เค้าก็รู้กันค่ะ ว่าเดี๋ยวไมเกรนมันขึ้น ปล่อยมันไป อย่างนี้ค่ะ
:b29: ทุกวันนี้ดิฉัน เป็นไมเกรนน้อยล่ะ หรือเวลามีอาการก็จะไม่ทรมานมาก เพราะมีสติเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนแล้วค่ะ การทำสมาธิก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เรามีสติ มากขึ้นด้วยค่ะ แถมลดอาการเครียดได้ดี :b18: ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราค่ะ เราต้องดูแลตนเอง ตั้งตนอยู่กับปัจจุบัน มีสติให้มาก ๆ :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว




100_3572_resize_resize.JPG
100_3572_resize_resize.JPG [ 47.62 KiB | เปิดดู 6836 ครั้ง ]
tongue
ถ้ามั่นใจและหมอบอกว่าเป็นไมเกรนจริงๆ ผมมีตัวอย่างบุคคลที่หายได้ คือภรรยาของผมเอง
อดีตเธอเป็นผู้หญิงดุ เครียด โกรธง่าย หายช้า เธอเป็นไมเกรนจริงๆ หมอบอกว่ารักษาไม่หายด้วยยาแผนปัจจุบัน มีแต่ทุเลาอาการเป็นครั้งคราว

ผมจึงได้เพียรพยายามที่จะให้เธอไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม ทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา ใช้เวลาเกลี้ยกล่อม ท้าทายอยู่หลายปี ในที่สุดเธอยอมไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมตามแนวทางของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ที่ศูนย์ธรรมอาภา ที่จ.พิษณุโลก 10 วัน เธอประทับใจ ธอภาวนาเป็น กลับมาถึงบ้านเธอขยันภาวนายิ่งกว่าผมเสียอีก 3 เดือนให้หลัง ดรคไมเกรนของเธอ ทุเลา เบาบางลง 1 ปีให้หลัง ไมเกรนเธอหายไป เคยต้องซื้อพารา บลูเฟ้น มาตุนไว้เยอะๆ ก็เลิกไป

ลองสมัครเข้าคอร์สของท่านโกเอ็นก้าในเมืองไทยดูซิครับ มีหลายศูนย์แล้ว แต่อย่าไปปฏิบัติธรรมเพื่อให้หายไมเกรนนะครับ ไป)ฏิบัติธรรมเพื่อธรรม แล้วคุณจะเจอของดี พบทางออกและหายจากไมเกรนครับ

สาธุ
:b8:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเชิญศึกษาธรรมของหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม ที่บอร์ดสนทนาทั่วไป ขอรับ
หากบุคคลไหนมีวิบากกรรมมาก ท่านจะให้มีการขอขมาอโหสิกรรม และการกรวดน้ำอุทิศบารมีให้กับเจ้ากรรมนายเวร หากเป็นการเพิ่มทุกข์ที่เกิดจากการดำเนินจิต ที่เป็นตัวเสริมเวทนาให้มากขึ้นท่านมีคำสอนที่ฉลับพลันในการปลดเปลื้องทุกข์ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 02:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 15:32
โพสต์: 109

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: ฟังเพลง ดูหนัง ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ณ มรณา
ชื่อเล่น: ไอช์
อายุ: 22

 ข้อมูลส่วนตัว


หายไวไวนะค้า :b4: :b4:

.....................................................
การไม่ทำบาปทั้งปวง...
การยังกุศลให้ถึงพร้อม...
การทำจิตของตนให้สะอาดผ่องใส...


>>>สิ่งใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง<<<


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2009, 00:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบตามหลักพระพุทธศาสนา ครับ
ถ้าเชื่อพระพุทธศาสนา ท่านว่ายังงี้นะครับ
สมุฏฐานของรูปไม่ว่าดี หรือ ร้าย มี ๔ อย่าง
กัมมชรูป รูปที่เกิดจากกรรม, จิตตชรูป รูปที่เกิดจากจิต, อุตุชรูป รูปที่เกิดจากอุต และ อาหารชรูป รูปที่เกิดจากอาหาร

อาจมาจาก สาเหตุเดียว ๒ สาเหตุ ๓ สาเหตุ หรือ ๔ สาเหตุรวมกันครับ

๑.กรรม
๒.จิต
๓.อุตุ
๔.อาหาร

๑. เกิดจากกรรม คือ รูปที่ดีและร้ายที่เกิดขึ้นจากผลแห่งกรรมที่ตนเองทำไว้ อาจให้ผล
ถ้าไมเกรน มักจะเป็นผลจากปาณาติบาต หรือใกล้เคียงเช่นทรมานสัตว์โดยตรง หรือโดยอ้อม
ถ้าจิตหยั่งรู้ได้เอง ให้แก้ตามอาการ
ถ้าไม่รู้ ให้หาผู้รู้ดูให้ แล้วแก้
วิธีแก้ด้วยตัวเอง
๑.๑ ต้องได้รับผลกรรมที่ทำมาพอสมควรระดับนึง
๑.๒ ทำบุญหนัก เช่น เจริญวิปัสสนา ถวายพระพุทธรูปใหญ่ สังฆทานถูกตามวิธี
๑.๓ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร โดยระบุให้ชัดเจนเท่าที่ทำได้ คือให้ผู้ที่ทำให้เราเป็นแบบนี้
๑.๔ เจ้ากรรมนายเวร รับบุญ อนุโมทนา แล้วอโหสิกรรมให้
(มีรายละเอียดเยอะคับ ถามผู้รู้ในนี้ มีเยอะ)

๒. เกิดจากจิต คือ รูปดีและร้ายที่เกิดจาก จิตของตนเอง จิตผ่องใส โกรธ เครียด เป้นต้น
ถ้าเป็นไมเกรน ลองตามนี้ อันนี้ยากคับ
๒.๑ มองโลกแง่ดี คิดบวก ทำจิตปภัสรให้บ่อย
๒.๒ เจริญเมตตาภาวนาให้มาก
๒.๓ รู้ละ รู้ปล่อยวาง มองรูป มองนามให้เห็น (ข้อนี้ยากมาก ๆ แต่ถ้าทำได้ รักษาได้ทุกโรค)

๓. อุตุ แปลตามศัทพ์ว่า ฤดู หมายถึง ความเย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง ของรูป แปลแบบชาวบ้านเรา คือ การทำให้อิริยาบถ ๔ ให้สม่ำเสมอ สมดุลกัน ออกกำลังกาย อากาศและการหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น แข็งแรง ร่างกายจะรักษาตัวมันเอง โดยธรรมชาติ

๔. อาหาร อันนี้ต้องถามเหล่านักโภชนาการ หรือนักโภชนบำบัดทั้งหลาย อาหารที่เกื้อกูลต่อโรค เป็นคุณ เป๊นโทษแต่ละโรคจะแตกต่างกันไป
แต่โดยรวมคือ ควรทานอาหารประเภทพืชให้มาก ขอเป็นพืชที่สด ๆ จะดี อย่าขาดแป้ง หรือ มื้อเช้า
ที่สำคัญ จิบน้ำบ่อย ๆ ครับ น้ำโมเลกุลเล็ก จะช่วยให้เลือดไม่หนืด หัวใจทำงานไม่หนัก การกินยาก็ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน ให้รักษาสุขภาพแบบองค์รวมให้ดีทุก ๆ ส่วน มันจะซ่อมแซมมันเอง ครับ

องค์รวมใหญ่ คือ แก้ทั้งกรรม ทั้งจิต ทั้งบริหารร่างกาย ทั้งอาหาร คือ เหมาเข่งคับ

ลองทำให้ครบ ๔ สมุฎฐานครับ

ทำด้วยความศรัทธาครับ หายแน่นอน

จงอย่าลืม จิตที่เป็นกุศล เป็นจิตที่มีพลังมหาศาล

เมื่อยพิมพ์ครับ พิมพ์ไม่เก่ง
ขอตอบแค่นี้นะคับ รายละเอียดมากว่านี้เมล์มาคับ


แก้ไขล่าสุดโดย ไวโรจนมุเนนทระ เมื่อ 30 ธ.ค. 2009, 00:19, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2009, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


แองจี้ เขียน:
ขอบคุณคุณลูกโป่งค่ะ แองจี้อยู่กทมค่ะ เอาไว้จะลองโทรไปดูนะคะ
ส่วนที่คุณแมวขาวแนะนำ จะลองไปหาบทสวดมนต์ รู้สึกที่บ้านจะมีค่ะ

และที่คุณ Buddha บอกว่าไม่ใช่กรรมเก่าหรอคะ ถ้าไม่ใช่ก็ดีนะคะ เห็นมีเพื่อนเคยบอกว่า คนปวดไมเกรนที่มีอาการปวดที่ขมับเนี่ย ชาติก่อนชอบกินปลาดุก (เวลาฆ่าจะทุบที่หัวปลา) ก็จะมีผลให้ปวดหัว ในชาตินี้ ต้องปล่อยปลาบ่อยๆอ่ะค่ะ

ยังไงก็แล้วแต่ จะพยายามทำหลายๆทาง ทั้งหาหมอ รักษาสุขภาพ และใช้ธรรมะเข้าช่วยค่ะ พิมพ์ๆอยู่นี่ก็ยังปวดหัวไปด้วยเลยค่ะ :b24:

ขอบคุณ คุณศิริทิพย์, คุณ -dd- และทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ ด้วยมากๆค่าา ขอให้ทุกคนที่มีอาการปวดหัวบ่อย หายเหมือนกันนะคะ
tongue
เจริญในธรรมค่ะ


คุณขอรับ คนรับประทาน ปลาดุก มีเยอะแยะ คนขาย ก็ฆ่าปลาดุก บริการลูกค้า ทุกวันนี้ก็เห็นนั่งขายอยู่ แถมยังหน้าตาสดใส เพราะขายปลาได้เยอะ ไม่เกี่ยวกันดอกขอรับ

โรคไมเกรน เกิดจากการที่ บุคคลนั้นๆ ใช้สมองมากเกินไป หรือ อาจเกร็งร่างกายส่วนต่างๆมากบ่อยครั้ง เพราะการเกร็งร่างกายส่วนต่างๆมาก มันต้องอาศัยสมองบังคับควบคุมขอรับ ทำให้สมองทำงานหนัก จึงทำให้เกิดอาการไมเกรน บางคนอาจจะไม่รู้สึกตัวว่าเกร็งร่างกายส่วนต่างๆขอรับ เพราะเคยชินกับการเกร็งอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย หรือ บางบุคคลอาจคิดมากโดยไม่รู้ตัว หรืออาจมีอาการบกพร่องทางระบบการไหลเวียนของโลหิต ณ.ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรืออาจใช้สายตามากเกินไป หรือระบบสายตามีปัญหา ฯ
เมื่อคุณรู้ลักษณะการเกิดโรคไมเกรนแล้ว ก็ต้องค้นหาว่า ควรใช้วิธีใดรักษา ทางที่ดี ปรึกษา แพทย์เฉพาะทางดีที่สุดขอรับ
การปฏิบัตสมาธิ คงจะไม่ทำให้อาการของโรคเบาลงนะขอรับ เพราะมันหลายสาเหตุ แต่ก็คงช่วยได้บ้าง หากสาเหตุเกิดจากการคิดมาก ใช้สมองมาก ไม่ได้พักผ่อน แต่ก็ต้องรู้จักผ่อนคลายอวัยวะทุกส่วนของร่างกายด้วยขอรั


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลงเวทนาไปเลย เวทนาสักแต่ว่าเวทนา ไม่อะไรกับอะไรกับมัน ทุกสิ่งอย่างเสื่อมสลายในตัวมันเองอยู่แล้ว ไม่พยายามหายจากมัน หรือมันหายจากเรา ไม่ใช่ทั้งสองอย่างนี้ ไม่จ้องเอาแพ้เอาชนะ ไม่ขัดแข้งกับปล่อยให้มันเป็นธรรมดา ธรรมชาติเกิดเองเป็นเอง ไม่สร้างให้มันเป็นทุกกำลังสอง สาม
นอกจากปลงใจแล้ว ที่เคยศึกษามาท่านให้กรวดน้ำอุทิศบารมี บ่อยๆ และการขอขมาอโหสิกรรม

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามที่ ศิริทิพย์ ภาณุรัศมี ว่าเลยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2010, 12:07
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b1: เหมาเข่งดีกว่า ท่าจะดีนะครับ ชอบชอบ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2010, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.tongue .
เกิดมางมงาย ตายไปก็งมงาย

ไม่รู้เมื่อไร จะหายงมงาย

อ่านดูแบบงมงาย เข้าใจแบบงมงาย

เหมาเข่ง ๆ ดีที่สุด

มีโอกาสเกาถูกที่คัน มากที่สุด


หมอแพทย์ทายว่าไข้ ลมคุม
โหรว่าเคราะห์แรงรุม โทษให้
แม่มดว่าผีกุม ทำโทษ
พระว่ากรรมเองไซร้ ก่อให้ เป็นเอง

ไปหลายที่ ได้หลายขนาน

นั่งอยู่บ้าน ทำเอง ๆ

แก้กรรม แก้จิต แก้อุตุ แก้อาหาร

เป็นยาตำราหลวงชุดใหญ่

มีโอกาสกลับร้าย กลายเป็นดี

สาธุ สาธุ สาธุ


:b53:

โอมฺ มณีปทฺเม หุมฺ

งมงาย
.:b51: :b51: :b51:.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร