อยากให้บาปเพราะมีคนที่ชอบด่าพ่อแม่คนอื่นเยอะเลย โดยเฉพาะพวกครูที่เอะอะอะไรก็มาลงที่เด็ก เช่นเด็กทำอะไรช้านิดก็ทุบก็ด่าพ่อด่าแม่ของเด็กหน่ะ

จะบุญหรือบาป ก็ไม่ใช่ความอยากให้เป็น

การด่าผู้อื่น ต้องดูเจตนาเป็นสำคัญ
ถ้าเจตนา เพื่อประชดประชัน ก็ถือว่ากำลังทำความชั่ว
แต่ถ้าเจตนา เพื่อให้ปรับปรุงตัว เป็นคนที่ดีขึ้น ก็ถือว่าทำความดี

แต่อย่างไร เขาด่ายังไง ก็ให้พิจารณาดูว่า จริงมั้ย เรามีข้อเสียต้องปรับปรุงมั้ย
ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องไปใส่ใจ เขาด่าก็ช่างหัวเขา
อย่าให้เขาด่าแป๊บหนึ่ง แล้วคุณโกรธเป็นเวลานานเลย

ทำอย่างไรก็จะได้รับผลอย่างนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แน่นอนค่ะ

แหม่งๆนะคุณเนี่ย ยังไงนะคุณเนี่ย คนที่ด่าพ่อแม่คนอื่นโดยที่พ่อแม่เด็กไม่ได้เป็นอย่างนั้นและด่าอย่างหยาบคายหน่ะ เลวมาก แล้วคุณคิดว่าคนที่ด่าหน่ะมีเหตุผลเหรอเค้าไม่มีนอกจากเด็กทำช้าแค่นั้นก็หาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ประสาทรึปล่าวแต่เค้าไม่เคยด่าแม่หรือพ่อผมนะลองด่าดูสิน่าดู ผมก็ต้องรักพ่อแม่ผมเหมือนกัน ถ้าเค้าอยากให้เด็กปลับปรุงตัวก็ควรจะว่าเด็กไม่ใช่ด่าพ่อล่อแม่ โมทนาสาธุ ขอให้บาปทีเถอะ คิดดูนะ พอเด็กส่งการบ้านช้าไปครึ่งชั่วโมงด่าพ่อล่อแม่ ประสาทสุดๆ เด็กก็พยายามเต็มที่แล้ว
ถ้าไปถะเหล่ถะไหลเกเรก็ว่าไปอย่างไม่โกรธกันนี่ตั้งใจเรียนแล้วด่าพ่อล่อแม่คุณคิดว่าดีไหม ลองเค้าด่าพ่อแม่คุณบ้าง แล้วคุณเฉยๆ ก็ช่างคุณ คุณก็อกตัญญูแล้วถ้าไม่ทำอะไรเลย ยืนให้เค้าด่าเฉยๆหน่ะ

ใจเย็นๆ นา
เมื่อคุณโตขึ้นมากกว่านี้ คุณจะรู้คำตอบเอง
ขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจ

ผมรู้ครับว่าคุณหวังดี ต้องขอโทษด้วยที่อารมณ์ร้อนไปหน่อย ดันไปโมโหคุณซะนี่ แฮ่ๆ

กรรมที่ลูกกระทำกับพ่อแม่นั้น จะเป็นสิ่งที่กำหนดชะตาชีวิต กำหนดอนาคตของเราในวันข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน นายจ้าง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คู่ครองชีวิตของเราจะเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่เราปฏิบัติต่อพ่อแม่ของเราทั้งสิ้น พยายามสังเกตตัวเองสิว่า ทำไม คนบางคนเขาถึงทำงานได้สำเร็จ แต่เรากลับไม่เคยทำงานสำเร็จด้วยตัวเองเลย

ღ˚ •。* ♥♥ ˚ ˚ กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ ˚. ★ *˛ ✿◕‿◕✿•°°✿◕‿◕.ღ ˛˚ ♥♥ 。✰˚* ˚

ด่าพ่อแม่คนอื่นนะผิดแน่ ถ้าจะด่าเพื่อให้คนกลับตัวต้องด่าให้เป็น

เราจะบอกความจริงแก่เจ้าว่า การพูดจาหยาบคาย การพูดเสียดสี การด่าทอ เหล่านี้ คือ มุสาวาทา ล้วนเป็นสิ่งไม่ดี เป็นบาปทั้งสิ้น จงให้อภัยและจงแผ่เมตตาให้พวกเขาเหล่านั้นเทอญ การให้อภัยจักทำให้จิตใจของเจ้าสูงขึ้นนะเจ้าผู้ดูแลสัตว์วิเศษเอ๋ย

บาปคืออะไร บุญคืออะไร

ถ้าบาปคือความทุกข์ใจ การด่าว่าคนอื่น แม้จะมีเจตนาดีหรือร้ายหรือไม่มีเจตนาก็ตาม ก็ย่อมส่งผลคือความทุกข์ใจอยู่แล้ว เพราะการกระทำนั้นนำมาซึ่งความขัดอกขัดใจผู้อื่น ตัวอย่างก็เห็นๆกันอยู่ แม้แต่คุณเองยังรู้สึกไม่ดีต่อบุคคลนั้น

"เจรจากับเขาร้าย หรือว่าเขาจะตอบดี"

แต่เรื่องบาปเรื่องบุญเรื่องกรรมน่ะ มันของใครของมันนะ เขาจะทำบาปหรือไม่บาป เราบังคับเขาไม่ได้หรอก ส่วนที่เราควรทำให้ดี คือปฎิกิริยาของเรา ตรวจสอบดูว่าตัวเราเกิดปฎิกิริยาที่เป็นบาปหรือบุญ เราเผลอตอบโต้ด้วยบาปหรือเปล่า

เพราะบาปคือความทุกข์ใช่ไหม

ถามอีกทีก็คือ เขาทำอย่างนั้นกับเรา แล้วเราปล่อยให้ตัวเองเกิดความทุกข์ร้อนใจหรือเปล่า

ถ้าเราตอบโต้ด้วยบาป เราเองไม่ใช่หรือที่จะต้องทุกข์

ดูใจคุณเองตอนโกรธสิ ใจมันเต้นใช่ไหม เลือดมันสูบฉีดใช่ไหม อยากจะตอบโต้แรงๆให้สะใจใช่ไหม

ตอนนั้นมีความสุขดีหรือ

คนเราทุกข์เพราะความคิด

ไม่ว่าเขาจะพูดถึงใครยังไง จะชมหรือจะว่า ลองคิดดูเถอะว่าจริงๆแล้วความดีในตัวคนนั้นลดลงหรือเปล่า หรือความชั่วในตัวคนนั้นเพิ่มขึ้นหรือเปล่า

เข้าใจคนอื่นว่ามีนิสัยใจคอต่างๆกัน เข้าใจตัวเราว่าเมื่อสิ่งนี้มากระทบเราทุกข์ได้ง่าย เข้าใจสาเหตุว่าทุกข์เพราะลืมความจริงไป แล้วคุณจะเข้าใจว่าคิดอย่างไรจะไม่ทุกข์

บาปหรือไม่ก็เห็นเคยมีคนปากกลบเลือดหรือฆ่ากันตายเพราะพูดด่าบุพการีกันมานักต่อนักแล้ว ลงข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มากมาย พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนเรื่องศีล 5 "มุสาวาทา เวรมณี สิกขา ปทัง สมาธิยามิ" มุสาไม่ได้แปลว่าโกหกอย่างเดียว ด่าคนอื่นก็มุสานะ เสียดสี ให้ร้ายนี่ก็มุสา ก็ลองพิจารณาดูว่าบาปมั๊ย

เมื่อรู้แล้วว่าบาปหรือไม่บาป ก็ย่าลืมอีกเรื่องนึงล่ะ เรื่องการให้อภัยพระพุทธเจ้าก็สอนด้วยเหมือนกันนะ ทรงสอนทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านทุกข์และด้านการดับทุกข์ อริยสัจ 4 ลองศึกษาดู

กล่าวโดยทั้วๆไป เรื่องการด่านั้นเป็นสิ่งไม่ดี เพราะอย่างน้อยก็เป็นที่รังเกียจของผู้ที่โดนด่า เมื่อเป็นสิ่งที่ไม่ดีจะบาป หรือไม่บาป ก็ย่อมไม่สมควรทำ

แต่พูดโดยหลักธรรม

การด่าผู้อื่น ไม่ว่าจะด่าบุพการีหรือด่าอะไรก็ตาม ล้วนทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองใจ เจ็บช้ำน้ำใจ เสียใจ เป็นการทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจา ซึ่งผิดศีลข้อมุสา เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เรื่องศีลนี้ บางคนอาจคิดน้อยอกน้อยใจว่าสมัยนี้คนไม่รักษาศีล ผู้รักษาศีลเหลือน้อยลง คนไม่สนใจบาปกรรม พาลให้หมดกำลังใจ แต่นี่คือบททดสอบจิตใจของคน เมื่อรู้ทันย่อมไวต่อสิ่งกระทบ เมื่อไวต่อบาป เราก็จะคิดได้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีเราอีกคนที่ไม่หลงเดินทางผิดไปกับผู้ที่ละเลยศีลเหล่านั้น

คุณก็ลองบอกตัวเองดูสิ่ว่า ถ้าหากโลกนี้เหลือคุณคนเดียวที่ยังรักษาศีล รักษาคุณธรรมอยู่ ก็ไม่เป็นไร คุณจะยังจรรโลงศีล จรรโลงคำสอนของพระพุทธเจ้าต่อไป จะไม่ยอมคล้อยตามหรือตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ละเลยศีลเหล่านั้นด้วยการละเลยศีลเหมือนพวกเขา หากมีคนคิดแบบนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ มั่นคงต่อความคิดของตนเองในทางที่ถูกที่ควร เมื่อนั้นก็จะไม่มีผู้ที่ละเลยต่อความดีงาม ละเลยต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าเหลืออยู่เลย

ความเป็นจริงเราทุกคนไม่มีความอดทนในการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้มากมายขนาดนั้น ไม่งั้นคงมีพระอริยสงค์เกิดขึ้นมากมาย มีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผู้มีคุณธรรมเกิดขึ้นมากมาย นั่นก็เป็นเพราะกิเลสของแต่ละคน อยากมีรถ ไม่พอ ต้องเป็นรถหรูๆ มีคันเดียวไม่พอ ต้องมี 10 คัน 20 คัน มีบ้านหลังใหญ่ หลังเดียวไม่พอ ต้องมี 2 หลัง 3 หลัง เมื่อกิเลสพาไป ก็ต้องหาวิธีหาเงิน บางคนก็โกง บางคนก็ทุจริตต่างๆนานา หลอกเขามาก็มี นี่คือกิเลสในใจคน

แต่อย่างน้อยถ้าหากเราสามารถนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ซึ่งอย่างน้อยเราอาจทำได้มากบ้าง น้อยบ้าง อาจได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็ทำได้เกือบครึ่ง นั่นก็ถือว่าอย่างน้อยเราก็ยังเป็นคนที่มีคุณธรรม เป็นที่พึ่งให้กับเพื่อนมนุษย์ อันจะนำบ้านเมืองให้สงบสุขสืบไป

พอแค่นี้ก่อนครับ หากพิมพ์ต่อกลัวว่ามันเริ่มจะโยงไปเรื่องอื่นแล้ว

ผิด สัมมาวาจา ครับ