วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 04:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b48: ถาม
ได้ยินว่าแค่โกหกก็ต้องตกนรกแล้ว โทษหนักเกินไปหรือเปล่า?
ในเมื่อชีวิตประจำวันของคนเรานั้นยากที่จะหลีกเลี่ยงการพูดเท็จอย่างนี้



:b39: ตอบ
ที่เคยได้ยินมานั้นพักไว้ก่อน ลองดูว่าคนที่รู้ดีที่สุดท่านพูดไว้อย่างไรดีกว่าครับ


การโป้ปดมดเท็จนั้น เมื่อใครเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
ย่อมยังให้มีกำเนิดในนรก ในดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย
วิบากแห่งมุสาวาทอย่างเบาที่สุด
ย่อมยังการกล่าวตู่ด้วยคำไม่เป็นจริงให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์



พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้อย่างนี้
พอลองดูอย่างละเอียดรอบคอบก็จะพบว่า
มีเงื่อนไขของการไปนรกเพราะมุสาวาทอยู่ นั่นคือเสพจนติด
เพาะเลี้ยงตัวโกหกจนมันเติบโตขึ้นเป็นนิสัยถาวร
ปั้นน้ำเป็นตัวบ่อยเสียจนชินชาหน้าไม่อาย


เมื่อเล็งเข้าไปที่จิตใจของผู้สร้างสมนิสัย โป้ปดมดเท็จจนเคยตัว
จะเห็นว่ามีความดำมืด มีความบิดเบี้ยวเลอะเลือน
และที่ธรรมชาติเขาพิพากษาไว้ก็คือหากจิตชุ่มด้วยบาป
สกปรกมะล่อกมะแล่กดูไม่ได้
ก็จะต้องมีที่ไปเหมาะกับความสกปรกโสมมของตนเอง



อีกประการหนึ่ง ตัวมุสาตัวเดียวมันเหมือนเชื้อโรคร้าย
สามารถแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเป็นโรคอื่นได้ไม่รู้จบ
จะเปรียบเทียบเหมือนกับเอดส์
ที่เข้าไปทำลายภูมิต้านทานโรคต่างๆในร่างกายมนุษย์ก็ได้
เมื่อใดที่ความละอายถูกทำลายลง
เมื่อนั้นคนเราย่อมหมดความยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำบาป
พร้อมจะก่อเวรก่อกรรมได้ทุกชนิด
สมดังที่พระพุทธเจ้ามีพระดำรัสคือ

เรากล่าวว่าบุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสาทั้งรู้อยู่แก่ใจ
ที่จะไม่ทำบาปกรรมแม้น้อยหนึ่งนั้น ย่อมไม่มี


โกหกหนึ่งครั้งคือสร้างความ บิดเบี้ยวให้กับจิตหนึ่งหน
สังเกตดูก็ได้ครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ครั้งต่อไปลองพูดปดแบบรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องมันไม่จริง
พูดเสร็จให้ดูเข้ามาในใจตัวเอง จะเห็นความฟุ้งซ่านจับไม่ติด
หรือแม้หากว่าพื้นฐานเป็นผู้ทรงสติเป็นเยี่ยม
อย่างน้อยที่สุดคุณจะเห็นความเย็นชาของจิต
มีความรู้สึกอยากเย้ยโลก
และเห็นว่าการสร้างข้อมูลเท็จได้แนบเนียนคืออำนาจที่แท้จริง



ความจริงยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือสัจจะ ความจริงนั่นแหละอำนาจสูงสุด
เมื่อคุณพูดถึงความจริงบ่อยๆ พูดอย่างมีสติทั้งรู้ว่า
บางครั้งอาจก่อผลด้านลบให้กับตนเอง แต่ละครั้งคุณจะรู้สึกถึงพลัง
ความมั่นคงทางใจ และความสามารถรู้เห็นอะไรๆได้ตามจริง
ราวกับคนเคยตาสั้นได้แว่นที่จักษุแพทย์มอบให้



มาพูดถึงความจำเป็นต้องโกหกในชีวิตประจำวันกันบ้าง
การโกหกมดเท็จนั้นมีหลายแบบ แบบที่เดือดร้อนคนอื่นมากก็มี
ไม่เดือดร้อนใครเลยก็มี โกหกโดยเจตนาให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายก็มี
โกหกเพราะมาดหมายเอาประโยชน์เข้าตนก็มี
โกหกทุกวันจนติดเป็นนิสัยก็มี นานๆโกหกทีก็มี
โกหกแบบหยอกล้อเล่นหัวเพื่อได้หัวเราะกันก็มี
โกหกแบบตลกเลือดจะให้ตระหนกตกใจปางตายก็มี


ตัวแปรต่างๆจะทำให้เกิดน้ำหนัก ผิดแผกแตกต่างไป
ที่เห็นผลใกล้ที่สุดก็คือความบิดเบี้ยวทางความรู้สึกอันเป็นของรู้เฉพาะตน
(ผู้มีความสามารถหยั่งรู้วาระจิตก็ทราบได้
แต่คนทั่วไปเขาจะไม่รู้สึกถึงความบิดเบี้ยวอันนี้ในเราเลย)


ความบิดเบี้ยวทางจิตเป็นอย่างไร?
ขอให้ลองดูตอนคุณโกหกคำโต
เมื่อไหร่โกหกเสร็จลองพยายามรู้ตามจริงว่า
หายใจเข้าหรือออกให้ได้สักสิบครั้ง
นับดูสิครับว่าจิตมีความสามารถตามรู้ไปได้จริงๆกี่ครั้ง
เสร็จแล้วเอาใหม่ ถ้ามีโอกาสให้โกหกเพื่อประโยชน์ของเรา
แต่เราไม่เอา จะเอาแต่ความจริง พูดแต่คำที่เป็นสัตย์
พูดออกมาจากใจที่ซื่อทางโลกแต่เจ้าปัญญาทางธรรม
พอพูดเสร็จสังเกตดูว่ารู้สึกดีอย่างไร เกิดความมั่นคงทางใจแค่ไหน
ขอให้ทราบว่านั่นแหละอำนาจแห่งสัจจะที่เราได้รับในทันที
ลองพิสูจน์ให้เห็นอำนาจนั้นชัดขึ้น
ด้วยการตามรู้ลมหายใจเข้าออกสิบครั้ง แล้วจะรู้ว่าเราทำได้ไม่ยากเลย


ความสามารถรู้ตามจริงนั้น โดยทั่วไปคนเราถือเป็นเรื่องผิวเผิน
แต่ที่แท้มีความสำคัญยิ่งยวดกับชีวิต เพราะเมื่อสามารถรู้ได้ตามจริง
ก็ย่อมเห็นว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ
คนเราเมื่อรู้จักประโยชน์ย่อมเก็บเกี่ยวแต่ประโยชน์มาสั่งสมไว้ให้พอกพูน
แต่เมื่อไม่รู้ว่าอะไรเป็นโทษ
ก็อาจพลาดตักตวงมันเข้ามาด้วยความละโมบโลภมาก
เหมือนกองขยะแห่งบาปกรรมส่งกลิ่นเน่าเหม็นเพียงใดก็ไม่รู้สึก
เพราะจมูกแห่งมโนธรรมมันตายด้านไปเสียแล้ว


นี่แหละ สังเกตจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับเราเอง
เอาเราเองเป็นที่ตั้งของเครื่องวัด ก็จะพบว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ขู่เล่น
ท่านตรัสชี้ว่าอะไรเป็นอะไรตามจริงต่างหาก



:b48: ถาม
ถ้าจำเป็นต้องโกหกบ้างนิดๆหน่อยๆ กฎแห่งกรรมถือว่าหยวนๆให้บ้างไหม?


:b39: ตอบ

ผมไม่ได้มีหน้าที่พิทักษ์กฎ แห่งกรรมนะครับ
คงไม่อาจเป็นตัวแทนธรรมชาติหยวนหรือไม่หยวนให้คุณๆได้สักแค่ไหน
เอาเป็นว่าตัดสินใจอย่างไรก็ขอให้รู้อยู่ว่า
ตัวเองมีความละอายติดจิตติด วิญญาณแค่ไหนก็แล้วกัน


ขอให้พิจารณาตามจริงว่าแม้เราจะไม่โกหกเป็นประจำ
แต่ลงถ้าได้เริ่มต้นออกจากจุดสตาร์ทแล้ว
ก็มักจะเหมือนเราก้มหัวให้ใครเขาใช้
ถูกใช้ได้ครั้งหนึ่งก็จะอ่อนแอลงนิดหนึ่ง
พอเขาใช้อีกเราก็อาจจะยอมก้มหัวอีก ในที่สุดหัวเราก็อ่อนลงเรื่อยๆ
จนกลายเป็นขี้ข้าตัวมุสาไปเต็มยศ
นี่แหละ ผมสรุปว่าที่มาของการโกหกใหญ่ก็คือการโกหกเล็กๆนั่นเอง
โดยเฉพาะถ้าโกหกเล็กๆโดยปราศจากความละอาย


แรงขับดันให้โกหกมักมาจากคำว่า ‘จำเป็น’ หรือ ‘หลีกเลี่ยงไม่ได้’
มันอยู่ที่เราตัดสินใจเลือก ถ้าใช้ความฉลาดกันจริงๆ
ก็อาจไม่จำเป็นต้อง ‘โกหกเต็มๆ’ หรอก
หลายๆเรื่องเราเอาความจริงส่วนที่ไม่เสียหายมาพูดได้
เพราะเราไม่จำเป็นต้องพูดทั้งหมดในทุกเรื่องอยู่แล้ว


ขอให้สังเกตจากชีวิตประจำวันว่าคำ พูดนั้นดิ้นไปได้เรื่อยๆครับ
ปากพูดอย่างหนึ่ง แต่ใจเล็งอีกอย่างหนึ่ง
จิตคิดพูดของคนในโลกมักเบี่ยงเบน ไม่เป็นไปเพื่อการเห็นตามจริง
แต่เป็นไปเพื่อตัวตน เป็นไปเพื่อให้คนอื่นเห็นเราตามที่เราอยากให้เขาเห็น


ลองฝึกฝนดูใจเล็งอย่างไรปากพูดตามนั้น
ก่อนพูดก็ทำตัวเป็นนายคำพูด สั่งให้เกิดแต่คำพูดที่เป็นประโยชน์
หรือก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบน้อยที่สุด
เมื่อคิดก่อนพูดบ่อยเข้า ชีวิตจะลงตัวไปเอง
ความจำเป็นต้องโกหกจะค่อยๆหายไปจากชีวิตเรา
จนกระทั่งไม่เหลือเลยจนได้แหละน่า
ธรรมชาติเขาไม่ใจไม้ไส้ระกำกับคนตั้งใจดีมีใจจริงหรอกครับ


ที่ีมา...เตรียมเสบียงไว้ เลี้ยงตัว เล่ม ๑ - ดังตฤณ
dungtrin.com


:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนา..สาธุ..ด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร