วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 18:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


"สมน้ำหน้า" - อย่าพูดเลยครับ คำนี้
คงไม่มีใครไม่เข้าใจความหมายของวลี “สมน้ำหน้า” จึงขอไม่เสียเวลาอธิบาย แต่อยากให้ท่านจินตนาการอารมณ์ของคนที่กล่าวสามคำนี้ออกมาว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ใด (รวมทั้งตัวท่านเองด้วย)













"สมน้ำหน้า"




ลองคิดดูเล่นๆว่าวันนี้เราได้พูดสามคำยอดนิยมนี้ออกมาสักกี่หน (รวม "โสนะน่า" ด้วยนะ) ก่อนหลับตานอนลงในคืนนี้ลองคิดทบทวนคำพูดของเราทั้งวันดูสักนิด หากไม่มีคำว่า “สมน้ำหน้า” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็พอจะอนุมานได้ว่า ท่านเป็นคนน่ารักและมองโลกในแง่ดีคนหนึ่งของสังคมไทยเลยทีเดียว รู้ตัวหรือไม่

คงไม่มีใครไม่เข้าใจความหมายของวลี “สมน้ำหน้า” จึงขอไม่เสียเวลาอธิบาย แต่อยากให้ท่านจินตนาการอารมณ์ของคนที่กล่าวสามคำนี้ออกมาว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ใด (รวมทั้งตัวท่านเองด้วย)




สำหรับคนที่ชอบพูดคำนี้ทั้งหลาย จงอย่าโกหกตัวเองเลยว่าพูดออกมาเพราะสะใจ (บางคนมีดีใจผสมด้วย) ที่ได้เห็นกับตา หรือได้ยินกับหูมาว่าคนที่เรากำลังโกรธ หรือเกลียดหรือแม้กระทั่งไม่ชอบหน้าต้องประสพกับเคราะห์กรรมอย่างใดอย่าง หนึ่ง แล้วเคราะห์กรรมที่ว่านี้ก็คือเคราะห์ร้ายล้วนๆด้วยไม่ใช่เคราะห์ดี เพราะคงไม่มีใครกล่าวว่า “สมน้ำหน้าที่มันถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ ๑” ..... หรือไม่จริง

อย่าลืมว่าอะไรที่เราพูดหรือทำบ่อยๆจนเป็นอาจินต์นั้น นานๆเข้ามันก็จะฝังรากกับตัวเราจนเกิดเป็นนิสัยให้พูดหรือทำสิ่งเหล่านั้น ออกมาอัตโนมัติโดยทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าพูดดีหรือทำดีจนเป็นนิสัยก็เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนา แต่หากนิสัยที่เกิดจากการพูดสบถสาบานหรือการกระทำไม่ดีซ้ำซาก คงไม่ต้องบอกว่าผลที่จะตามมาคืออะไร











ถึงตรงนี้ขออนุญาตออกนอกเรื่องนิด คือจะยกตัวอย่างกรรมที่ทำเป็นอาจินต์ เช่นคนที่คิดว่าการอุทานด้วยถ้อยคำแปลกประหลาด (บางทีหยาบคาย) นั้นเป็นแฟชั่น เป็นเรื่องโก้เก๋และน่าขำ ถึงขนาดพยายามฝึกตนเองให้อุทานด้วยคำที่ว่านั้นบ่อยๆ จนในที่สุดติดเป็นนิสัยคือทำสิ่งนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว ราวกับเป็นคนบ้าจี้อย่างไรอย่างนั้น บางคนแม้แต่จะจามก็ยังดัดแปลงจากเสียง “ฮัดเช้ย” ที่คนสามัญเขาทำกันให้กลายเป็นอีกคำที่แสนจะหยาบคายจนนำมากล่าวในที่นี้ไม่ได้ มีเรื่องเล่าว่าดาราหญิงคนหนึ่งชอบอุทานด้วยคำแสลงที่ใช้เรียกอวัยวะเพศหญิง บ่อยๆด้วยคิดว่าเป็นเรื่องขบขัน จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอจำจนวันตายเมื่อได้ถูกว่าจ้างให้ทำหน้าที่พิธีกรในงานเลี้ยงอันหรูหรางานหนึ่ง ขณะที่เธอผู้เป็นเป้าสายตาของทุกคนกำลังพูดผ่านไมโครโฟนบนเวทีนั้น พลันก็เกิดเสียงลูกโป่งแตกดังโพละ และก็ตามมาติดๆด้วยเสียงอุทานจากปากดาราสาว (ด้วยคำที่เคยชินนั่นหละ) ก้องกังวาลไปทั้งงานเลี้ยงอันทรงเกียรติ.....
......แขกในงานเงียบกริบ












ย้อนกลับมาถึงคำว่า “สมน้ำหน้า” ที่ หากเราใช้บ่อยจนติดปากแล้ว ในที่สุดเราก็จะกลายเป็นผู้ที่พูดก่อเวรให้แก่ตนเองโดยไม่รู้ตัว ลำพังการสมน้ำหน้าคนที่เราไม่ชอบหรือศัตรูของเราก็นับว่าแย่เต็มทีแล้ว แต่เคยไหมที่บางครั้งสมน้ำหน้าคนที่เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือเกี่ยวข้องกับชีวิตเราเลยสักนิด เช่น




- เห็นรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักล้มคว่ำกลางถนน ก็ สมน้ำหน้า (ทั้งๆที่ไม่รู้สาเหตุของการล้มนั้น)

- ได้ยินข่าวเศรษฐีตายในอุบัติเหตุเครื่องบินตก ก็ สมน้ำหน้า (...อยากรวยดีนัก)

- เห็นผู้หญิงหกล้มเพราะเท้าพลิกเนื่องจากรองเท้าส้นสูง ก็ สมน้ำหน้า (มีเหตุผลไหมนี่...)

- ได้ยินข่าวแผ่นดินไหวในอินเดีย แขกตายสูญหายเยอะแยะ ก็ สมน้ำหน้า (กู้เงินแขกเป็นประจำ)

- เห็นหมาขี้เรื้อนวิ่งข้ามถนนแล้วถูกรถชน ก็ สมน้ำหน้า (...เออหนอคน)

สมน้ำหน้าคน... สมน้ำหน้าแมว... สมน้ำหน้าหมา สมน้ำหน้า... ฯลฯ

อาจารย์สอนธรรมะท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า การที่เที่ยวไปสมน้ำหน้าใครต่อใครไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ที่กำลังประสพเคราะห์กรรมใดๆนั้น เท่ากับว่าเรากำลังจะมีส่วนเข้าไปขอรับแบ่งผลแห่งเคราะห์กรรมที่เขาเหล่านั้นประสพอยู่ หากแต่กรรมที่เกิดจากการคิดหรือการพูดที่มีเจตนาเป็นอกุศลนั้นอาจจะมีจำนวนน้อยนิดที่ยังไม่อาจส่งผลมาให้แก่เราในชาตินี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน ว่าหากเราขยันสะสมวจีกรรมจากการ “สมน้ำหน้า” ไว้เยอะๆแล้ว สักวันกรรมเล็กกรรมน้อยเหล่านี้ก็จะถูกสะสมจนเป็นกรรมใหญ่อันเบ้อเริ่มที่พร้อมจะให้ผลแก่เราโดยไม่ต้องรอถึงชาติหน้าก็เป็นได้ – น่ากลัวไหม (หรือจะรอจนถึงวันที่กรรมชั่วนี้ส่งผลจึงค่อยกลัวล่ะครับ)

เรื่องกรรมนี่เป็นเรื่องยาว มีหนังสือหลายเล่มที่กล่าวถึงเรื่องกรรมนี้ไว้อย่างน่าติดตามและน่าสนุกยิ่งกว่าสตาร์วอร์ส หากใครที่ได้เรียนรู้เรื่อง “กรรม” ที่มีมากมายหลายประเภทจนถ่องแท้แล้ว คิดว่าคงจะเป็นบุคคลที่เข้าใจชีวิตได้ดียิ่งกว่าคนจบปริญญาเอกหลายคนที่รอบรู้ทฤษฏีวิชาการแต่ขยันก่อกรรมทำเข็ญให้ตนเองและส่วนรวมโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังจะสามารถใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขมากกว่าใครๆ ในโลกนี้อีกด้วย
ที่มาลอกเขามาอีกที :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 08:02
โพสต์: 31

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Onion_L ผมสงสารแทนคุณทหารครับที่ต้องทำบาป เพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่ ฆ่าคนตายก็คือฆ่าคนตาย อย่างนี้ คุณทหารจะตกนรกไหมอะขอรับ แล้ว นายกจะบาปไหมที่สั่งไปฆ่าผู้ร้าย

ในทำนางเดียวกัน กลุ่มผู้นำการชุมนุมที่ลากกลุ่มคนเสื้อแดงมาตาย จะบาปไหมอะขอรับ ครับ

ในเมื่อทั้งสองฝ่ายก็คิดว่าสิ่งที่ตนทำเป็นสิ่งที่ถูกทั้งคู่ และไม่รู้สึกว่าตนทำผิด หรือเสียใจกับกรกระทำของฝ่ายตน เพราะ ถ้าจำไม่ผิด บาปจะเกิดจากเจตนาใช่ไม่ขอรับ และบาป สิ่งหนึ่งที่จะชี้ว่าเป็นบาป คือการที่เรากระทำสิ่งใดลงไป แล้วรู้สึกไม่สบายใจนั้นเป็นสิ่งที่ชี้ว่า สิ่งที่กระทำเป็น บาป แต่ถ้าเขาทำสิ่งที่เราคนทั้วไปว่าบาป ด้วย ความรู้สึกว่า ไม่บาป และสบายใจที่จะทำบาป เขาจะบาปไหมขอรับ :b23:


บาปคืออะไร? .....บาป คือ อกุศลจิตในใจ แล้วยังกระทำการนั้นลงไปอีก

ทหารที่ยิงคน ตอนเขายิงเขาคิดอย่างไรล่ะครับ ทั้งๆที่รู้ว่านั่นเป็นคนไทย ไม่มีอาวุธจะสู้

กลุ่มผู้นำการชุมนุมที่ลากกลุ่มคนเสื้อแดงมาตาย จะบาปไหม

"อวบอั๋นขั้นสุดท้าย" เป็นควายหรือเป็นคนครับ คนทั่วประเทศตาสว่างกันหมดแล้วนะครับ

อย่าตั้งคำถามนำแบบชี้นำเลย คุณโง่ของคุณคนเดียวซิ คนชุมนุมไม่ใช่โง่และขี้ขลาดเหมือนคุณนะ เขาไม่ได้ลากเรามาตาย เรามาต่อสู้เอง เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และไม่มีการบิดเบือนระบอบความยุติธรรมให้มี 2 มาตรฐาน

ตอบปัญหาของคุณดีกว่า แกนนำนอกจากไม่บาปแล้ว ยังได้บุญมหาศาลด้วย เพราะเขาเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อเปิดหูเปิดตาคนไทยทั้งประเทศให้รู้ความจริงว่า:

อำมาตย์เปรม+นายใหญ่ทหาร+รัฐบาลทรราชอภิสิทธิ์+พันธมาร ร่วมกันปล้นประชาธิปไตยอย่างไร บิดเบือนระบอบความยุติธรรมอย่างไร


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 20 พ.ค. 2010, 12:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร