วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 16:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 11:53
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากรู้ครับ ว่า
1.เวลาเรานั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา เราสามารถเผื่อแผ่บุญกุศลให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ไหม ถ้าทำได้ควรทำอย่างไร ถ้าทำไม่ได้ มีวิธีการทำอย่างอื่นหรือเปล่าที่จะทำให้กรรมของเขาบรรเทาเบาบางลง

2.ในปัจจุบัน คนที่ทำงานอาชีพผู้หญิงขายตัวเนี่ย เมื่อชาติก่อน เขาไปทำอะไรมาถึงต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้ เราสามารถช่วยพวกเขาได้ไหมเเบบเพื่อนมนุษย์คนนึง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 12:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1. แผ่ได้หมดนั่นแหล่ะครับ สัพเพ สัตตา หมายถึงสัตว์ทั้งหมด ทั้งมวลครับ แผ่เมตตาแล้วอุทิศส่วนกุศล
เพราะในบทสวดมันมีบอกนะครับ
2. กรรมของใครของมันนะครับ ถ้าคุณอยากเข้าไปช่วย คุณได้มีกิเลสในใจแล้วนะครับ
คือ ความอยาก และความอยากนี่เเหล่ะเป็นบ่อเกิดของความทุกข์

อนุโมทนาครับ

:b41: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องการแผ่เมตตานั้น หากจะสงเคราะห์เข้าในทำนองเดียวกับการเจริญเมตตาภาวนานั้นก็น่าจะไปกันได้ ท่านได้แสดงเรื่องการเจริญ เมตตา ไว้โดยแสดงบุคคลที่เป็นโทษต่อเมตตาภาวนา หากไปแผ่เมตตาให้ก่อน ดังนี้
บุคคลประเภทที่แผ่ให้ก่อนไม่ได้ มี 4 ประเภท คือ
1.บุคคลอันไม่เป็นที่รัก จะเป็นโทษเพราะเป็นปัจจัยแก่โทสะ แผ่ให้ก่อนแล้วไม่สบายใจ
2.บุคคลที่เป็นที่รักมาก จะเป็นโทษเพราะถ้าเขามีความเดือดร้อนใจมาก ตนเองก็จะเดือดร้อนใจ อดกลั้นไม่ไหว เพราะรักมาก
3.บุคคลที่ไม่รัก ไม่ชัง เป็นกลางๆ เพราะยังไม่รู้ว่าบุคคลนั้นมีคุณธรรมอะไรที่จะทำให้รักเคารพ จิตใจก็จะไม่ค่อยสบายนัก
4. บุคคลผู้เป็นศัตรู หากแผ่ให้ก่อน ก็จะมีแต่ความไม่สบายใจ ขัดเคืองเพราะเป็นศัตรูกัน
ส่วนอีก 2 ประเภทที่เป็นโทษต่อเมตตาภาวนา ก็ได้แก่ บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ.....
และบุคคลผู้ตายไปแล้ว ...เพราะเมตตาเกิดไม่ได้เลย เนื่องจากอารมณ์ของเมตตาต้องเป็น ปิยมนาสัตวบัญญัติ คือ สัตว์ที่เป็นที่รักที่ชื่นชมและพอใจเป็นอารมณ์ จึงจะเรียกว่า เมตตา

ดังนั้น การแผ่เมตตาจึงไม่เหมือนกับการแผ่อุทิศบุญให้ผู้ตายตรงนั้นเรียกว่า ปัตติทาน.... แต่การแผ่เมตตา อารมณ์ของเมตตาจะต้องเป็น สัตว์อันเป็นที่รักที่ชื่นชมที่พอใจเป็นพื้นฐาน ผู้ที่ตายแล้ว ใจเราจะไม่ได้รักชื่นชมพอใจ แต่ใจจะอาลัยอาวรณ์ เสียใจ เสียดาย เป็นต้น

สมควรแผ่เมตตาให้ตนเองก่อนอยู่เสมอๆ ความไม่อยากตาย ต้องการสุข เกลียดทุกข์ อยากอายุยืนที่มีอยู่ประจำใจตนเองนั้น ย่อมเกิดขึ้นเป็นพิเศษ แล้วจะนึกเปรียบเทียบไปในสัตว์ทั้งหลายว่า ล้วนรักสุข เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น เหมือนตนทุกประการ ด้วยเหตุนี้แหละ จะทำให้เมตตาเกิดขึ้นได้จริงๆก่อน แล้วตั้งมั่นขึ้น แล้วจึงค่อยๆแผ่เมตตาไปให้คนอื่นๆและสัตว์อื่นๆทีหลัง
จึงควรเริ่มต้นที่เมตตาตนเองก่อน ฉะนั้น ผู้ที่รักตนย่อมไม่เบียดเบียนผู้อื่นแม้กระทั่งสัตว์เล็กน้อย
การแผ่เมตตาให้แก่ตนแล้ว ก็พึงลำดับการแผ่เมตตาไปยังบุคคลต่อไปนี้

1. บุคคลอันเป็นที่รัก
2. บุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
3. บุคคลที่ไม่รัก ไม่ชัง
4. บุคคลที่เป็นศัตรูกัน

อ้างคำพูด:
2.ในปัจจุบัน คนที่ทำงานอาชีพผู้หญิงขายตัวเนี่ย เมื่อชาติก่อน เขาไปทำอะไรมาถึงต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้


มีหลายสาเหตุครับ..ตัวอย่างจากพระไตรปิฎกมีเช่นนางอัมพปาลีเถริ ผู้บรรลุอรหันต์ได้เล่าว่า..
ดิฉันเกิดในสกุลพราหมณ์ใน
เมืองอรุณอันน่ารื่นรมย์ โกรธแล้ว ด่าภิกษุณีองค์หนึ่งผู้มีจิตพ้นแล้ว
จากกิเลสว่า ท่านเป็นหญิงเพศยา
ประพฤติอนาจารประทุษร้าย
พุทธศาสนา ครั้นด่าอย่างนี้แล้ว ดิฉันต้องไปสู่นรกอันร้ายกาจ
เพรียบพร้อมไปด้วยมหันตทุกข์ เพราะกรรมอันลามกนั้น เคลื่อน
จากนรกนั้นแล้วมาเกิดในหมู่มนุษย์เป็นผู้มีลามกธรรม เป็นเหตุให้
เดือดร้อนครองความเป็นหญิงเพศยาอย่างหมื่นชาติยังมิได้พ้นจากบาป
กรรมนั้น เปรียบเหมือนคนกินยาพิษอันร้ายแรง

(คัดจาก อัมพปาลีเถริยาปทานที่ ๙)

นอกจากการด่าว่าคนอื่นเช่นตัวอย่างข้างบนแล้ว อีกเหตุหนึ่งคือ การล่วงศีลข้อ๓ ทำกรรมที่เคยพรากภรรยาผู้อื่น เจ้าชู้มากรัก และหักอกให้ผู้อื่นต้องช้ำใจ ทำให้ต้องมาเกิดเป็นโสเภณี และบางรายก็มีเหตุจากสั่งสมอุปนิสสัยเสพคุ้นพฤติกรรมขายตัวจนเกิดชอบใจก็มีครับ

อ้างคำพูด:
เราสามารถช่วยพวกเขาได้ไหมเเบบเพื่อนมนุษย์คนนึง


หากอยู่ในฐานะที่จะช่วยเขาได้ก็พึงทำครับ แต่ควรพิจารณาถึงเหตุต่างๆในปัจจุปันของเขาด้วยว่าอะไรทำให้เขามาทำอาชีพนี้ สิ่งที่ควรเริ่มต้นก่อนช่วยด้วยวิธีอื่นๆคือการให้ "ธรรมทาน" คือความรู้เรื่องโทษของอาชีพนี้ ให้เขาทราบถึงโทษของอาชีพนี้ หากเขาทำอาชีพนี้เพราะรักสบาย นี่ก็คงลำบากที่จะช่วยต่อไปเพราะคนรักสบายย่อมรังเกียจงานที่ไม่สบายแน่ๆ มีอาชีพมากมายที่ใครๆสามารถเลือกทำได้ แม้ไม่มีความรู้เลย จริงใหมครับ :b16:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 06 พ.ย. 2009, 13:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


-dd- เขียน:
บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ.....


อันนี้ ยืนยันว่าจริง... :b22: :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การแผ่เมตตาเป็นการตั้งใจที่เราจะให้ความดีที่เราทำนั้นให้คนอื่นมีส่วนร่วมในการทำความดีนั้นถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกันเราจำเป็นต้องบอกกล่าวให้เขารับทราบว่าเราทำความดีเพื่อเขาจะได้อนุโมทนากับความดีของเราเพื่อเขาจะได้บุญกุศลด้วยถ้าเขายินดี แต่ถ้าเขาไม่ยินดีกับความดีที่เราทำเขาก็ไม่ได้บุญกุศลนั้นหรอกครับ ความดีให้กันไม่ได้แบบยกให้นะครับต้องอนุโมทนา ส่วนสัตว์ที่อยู่ภูมิอื่นๆก็จะรับรู้สิ่งที่เราบอกกล่าวได้เมื่อเขารับรู้เขาก็อนุโมทนาเขาก็ได้บุญ ส่วนการเจริญเมตตาภาวนานั้นเป็นการสร้างความเมตตาให้เกิดขึ้นกับจิตของเราอันนี้เป็นการพัฒนาจิตของเราเอง เพื่อให้เกิดเป็นอุปนิสัยต่อไปอันนี้ก็เป็นการทำความดีแก่ตัวเรา อันนี้กระทำได้โดยหลายวิธี เช่นช่วยเหลือคน ให้ความรักแคนรอบข้าง และคนทั่วไปอื่นๆอีกมากมาย น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ(ตามความเข้าใจผมนะครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับทุกท่าน :b8:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
-dd- เขียน:
บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ.....


อันนี้ ยืนยันว่าจริง... :b22: :b22: :b22:

หมายถึงเห็นใครก้ตาม จะกำหนัดไปหมดเลยเหรอครับ :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 23:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
ตอบปัญาหาคาใจ...คุณอยากรู้มากๆเลยครับ
:b1:
ข้อแรก

...ว่ากันว่ากระแสจิตเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง...สามารถส่งผ่านอากาศไปถึงกันได้...
...ผู้ส่งส่งคลื่นออกไป...ผู้รับก็มีเสาอากาศรับคลื่น...คล้ายมีลางสังหรณ์ล่วงหน้า... :b12:
...ข้าพเจ้าเป็นบ่อย...เวลาคิดถึงใครขึ้นมา...อยู่ๆเขาก็โทรศัพท์มาหาเจ้าค่ะ...

:b6:
...มีที่ส่งกระแสอย่างแรงกว่านี้อีก...แบบว่าคนบนลานธรรมจักรเนี่ย...เขาชอบส่งไอเดียดีๆ... :b9:
...อย่างเวลาอ่านแล้วขำกลิ้ง...ขำจนหัวเราะคนเดียวได้...แสดงว่าคลื่นมันแรงม๊ากมาก... :b32:

:b27:
ข้อสอง
:b1:
...ข้าพเจ้าว่า...คุณเธอทั้งหลายเหล่านั้น...เธอเลือกทางเดินของเธอเอง...สาเหตุน่าจะมาจาก...
...ความโลภมาก่อน...เพราะคิดแต่ทางที่จะได้...ไม่คิดทางที่จะเสีย...ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเอง...
...ข้ออ้างมาจากต้องใช้เงินจำนวนมาก...สารพัดข้ออ้าง...เนื้อแท้น่าจะเป็นวิธีที่ได้เงินง่ายดี...
...อาชีพที่สุจริตอื่นๆถมไป...เงินที่ได้มาแบบนั้น...เอาไปทำบุญ...มันจะได้บุญรึก็หาได้ไม่...
...เธอทั้งหลายเหล่านั้นต้องคิดช่วยตัวเอง...ให้พ้นจากที่ตรงนั้นด้วยตัวเธอเองนั่นแหละ

:b48:
:b48:
:b48:
...ไม่มีใครฉุดรั้ง...ให้จิตใจเราตกต่ำได้...ถ้าจิตใจเราไม่ต้องการ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2009, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...ลืมบอกอีกอย่างนึง...หลังสวดมนต์ไหว้พระให้นั่งสมาธิรวมบุญกุศลที่ทำก่อน...
...แล้วจึงแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์...เป็นบุญเป็นกุศลมากกว่าสวดมนต์อย่างเดียว...

:b4:
:b48:
:b48:
:b48:
:b48:
:b48:
...นัตถิปัญญา สมาอาภา...แสงสว่าเสมอด้วยปัญญาไม่มี...
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
...มีที่ส่งกระแสอย่างแรงกว่านี้อีก...แบบว่าคนบนลานธรรมจักรเนี่ย...เขาชอบส่งไอเดียดีๆ... :b9:
...อย่างเวลาอ่านแล้วขำกลิ้ง...ขำจนหัวเราะคนเดียวได้...แสดงว่าคลื่นมันแรงม๊ากมาก... :b32:

:b27:



คนมันแรงน่ะจ๊ะ
wink

ยัง "แรงได้อีก" นะ อย่าได้"แคร"สื่อ

Rosarin เขียน:
...ไม่มีใครฉุดรั้ง...ให้จิตใจเราตกต่ำได้...ถ้าจิตใจเราไม่ต้องการ...

โอ๊ะ ชอบมากเลย คำพูดนี้
แจกมงกุฏให้เลย

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 07 ธ.ค. 2009, 18:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร