วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 16:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2008, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


โรคมะเร็งในกระดูกหายได้เพราะเจริญพระกรรมฐาน

รื่นจิตต์ ฮุมเมล

บ้านเดิม จังหวัดนครสวรรค์

ปัจจุบันอยู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


คุณรื่นจิตต์ ฮุมเมล เป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้แต่งงานกับ คุณโรแลนด์ ฮุมเมล (Mr.Roland Hummel) และไปอาศัยอยู่ที่ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ถึงสามีจะเป็นชาวคริสต์ก็สนับสนุนและอนุโมทนาในการปฏิบัติธรรมของคุณรื่นจิตต์ด้วยดีมาโดยตลอด

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ ดิฉันเริ่มป่วยเป็นโรคที่มีเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดงซึ่งมีกรรมพันธุ์มาจากคุณพ่อ ต้องไปให้เลือดอยู่เป็นประจำ หลังจากนั้นประมาณ ๓ เดือน ก็เริ่มเจ็บกระดูกเรื่อยมาจนเวลาผ่านไปประมาณ ๑ ปี มีความเจ็บปวดที่กระดูกทั่วไปหมดทั้งร่างกาย ก็ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาล ตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ผลปรากฏทางภาพถ่ายว่ากระดูกเสื่อมหมดทุกข้อและเป็นมะเร็งในกระดูก แพทย์ก็ให้ยามารับประทานและให้ฉีดยาอยู่เป็นประจำ จนเดินไม่ไหวแล้วจึงไปทำกายภาพบำบัด เวลานั้นเดินไม่ได้ ได้แต่นอนอย่างเดียวและรับประทานยาอยู่ตลอด ทำงานไม่ได้จนบริษัทต้องให้ออกจากงาน ป่วยอยู่อย่างนี้เป็นเวลา ๓ ปีครึ่ง


ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังก็หายได้

เพื่อนของดิฉันได้มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทยและได้นำหนังสือ “กฎแห่งกรรม – ธรรมปฏิบัติ” เล่ม ๑ ถึง เล่ม ๖ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี มาให้อ่าน เมื่อได้อ่านหนังสือแล้วก็เริ่มสวดพาหุงมหากา และอิติปิโสเท่าอายุมากกว่า ๑ จบ ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สอนไว้นั้น ช่วงแรกที่ได้อ่านหนังสือก็ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้มาวัดอัมพวัน

และในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้มีโอกาสเดินทางมาที่วัดอัมพวันและอยู่ปฏิบัติธรรม โดยได้ลงทะเบียนแล้วอยู่ปฏิบัติธรรม ๙ วัน ในวันแรกนั้นหลังจากเลิกการปฏิบัติแล้วก็ลุกขึ้นไม่ไหว ต้องให้ผู้อื่นช่วยพยุงขึ้น ปฏิบัติไปตลอดจนถึงวันที่ ๙ ของการปฏิบัติ รู้สึกว่าร่างกายเบาไปทั้งตัว สามารถเดินได้คล่องแคล่วขึ้นกว่าแต่ก่อน กลับไปบ้านแล้วก็ยังเดินขึ้นบันไดให้คุณแม่ดู ว่าหลังจากกลับจากการปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันแล้วสามารถเดินได้คล่อง เมื่อกลับมาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้วจึงได้ปฏิบัติธรรมเรื่อยมาทุกวันไม่ขาด แต่ความเจ็บปวดก็ยังมีอยู่มาก ก็ยังต้องให้แพทย์รักษาอยู่ด้วยในขณะนั้น หลังจากปฏิบัติธรรมเป็นเวลา ๓ ปีอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ พอปีที่ ๔ ก็ไม่ต้องรับประทานยา ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องทำกายภาพบำบัด และไม่ต้องให้เลือดอีกแล้ว ความดันที่เคยต่ำก็หายเป็นปกติ ความเจ็บปวดที่เคยมีมาเป็นเวลา ๗ ปี ๖ เดือน มาปัจจุบันนี้หายไปหมดแล้ว เพราะการเจริญกรรมฐาน ในช่วงหลังนี้ดิฉันสามารถเดินจงกรมได้ ๒ ชั่วโมง และนั่งสมาธิได้ ๒ ชั่วโมง ปัจจุบันสามารถกลับไปทำงานได้ตามเดิมแล้ว

ดิฉันกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ตามที่ดิฉันได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง จึงได้รับบารมีจากท่าน ถึงจะอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้รับบารมีจากพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่ตลอดเวลา ดิฉันได้ถวายชีวิตต่อพระพุทธศาสนาและหลวงพ่อเพื่อการปฏิบัติธรรม และจะแนะนำชี้แนวทางให้ผู้ที่สนใจต่อไป

ขอฝากถึงเพื่อนนักปฏิบัติธรรมด้วย อย่ามัวหวังให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อไม่ช่วยท่านหรอก หลวงพ่อจะช่วยต่อเมื่อท่านปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเท่านั้น ขอให้ท่านผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายจงตั้งใจด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อการปฏิบัติธรรม จึงจะได้ผลอย่างที่ดิฉันได้ประสบมาเองนี้ โรคภัยไข้เจ็บอย่างร้ายแรงที่ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดมาเป็นเวลาหลายปี ก็สามารถหายขาดไปได้ด้วยการปฏิบัติธรรม ถ้าท่านทำทุกวันไม่ขาดการปฏิบัติธรรมนั้น...

คัดลอกจาก...กฎแห่งกรรม - ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๓
http://jarun.org

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 08:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง
ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

ขอกราบอนูโมทนาบุญ สาธุ......... :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 10:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นไปได้ค่ะ คนที่เริ่มปลงตกกับโรคมักวิ่งเข้าหาธรรมะ ทั้งที่ธรรมะควรเป็นสิ่งแรกที่ถูกวิ่งเข้าหา

มะเร็งถือว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร เราทำบุญ ทำกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขา แต่อย่าหวังอะไรมากนักนะคะ เพราะยิ่งหวังก็ได้บุญน้อยลงตามลำดับ เอาเจตนาบริสุทธิ์เข้าว่า

มะเร็งเติบโตได้ จุฬาภินันท์เลยว่ามันมีชีวิต มันเกิดจากพวกเชื้อโรคที่เป็นสิ่งมีชีวิตนั่นแหละค่ะ ตามมาสร้างเวรสร้างกรรมกับคนต่อไป แบบนี้ก็ไม่จบ

คนเป็นมะเร็งควรพยายามจบสายกรรมสายนี้ โดยตัดกรรม โดยการเข้าใจว่ามันเป็นเพราะกรรมนะ เราเลยเป็นแบบนี้ เราทำบุญอุทอศส่วนกุศล ขออโหสิกรรม แล้วก็พอแล้ว ทำเฉยวางอุเบกขาซะ รักษาตามวิธีทางโลกแก้ความเจ็บปวดอะไรแบบนี้ แต่ถ้ากรรมหมดเร็วในชาตินี้ เราก็หายจากมะเร็งไงคะ เชือ้มะเร็งก็ไปเกิดใหม่ค่ะ

แล้วชาติหน้ากรรมกับเจ้าเชื้อมะเร็งคงน้อยลงหรืออาจหมดไปในที่สุด สรุปคือ เข้าใจว่าทุกอย่างเกิดแต่กรรมกำหนด จะเข้าใจได้ก็รักษาศีล ปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อปัญญาเกิดก็จะเข้าใจเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร