วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 16:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 11:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 20:12
โพสต์: 791

แนวปฏิบัติ: พุทโธและสัมมาอรหัง
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ใต้ร่มโพธิญาณ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

คำถาม 3 : อาจารย์ค่ะ คนไม่มีแฟน อยู่จนขึ้นคานก็ถือเป็นกรรมด้วยหรือค่ะ?
อาจารย์มีคำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่อยู่เป็นโสดตลอดชีวิตอย่างไรค่ะ? (กาญจนา/ กทม)

คำตอบ : มีคำกล่าวว่า ‘อยู่คนเดียว เปลี่ยวกาย แสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองสุข แสนสนุกแต่ไม่สบาย’
หมายความว่ามีคู่หรืออยู่คนเดียวสนุกกันคนละแบบ ว่ากันว่าการแต่งงานนั้น คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ผู้หญิงบางคนบ่นว่า ‘แต่งไปแล้วอยู่อย่างทาสของสามี รับใช้สามีทุกอย่าง’
ฝ่ายสามีก็มีบ่นให้ผมฟังว่า ‘แต่งไปแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง’
ก็ต้องขึ้นกับว่าแต่งกับใคร คนที่เรารักชอบพอนั้นเป็นอย่างไร
ถ้าได้คู่ดี มีศีลธรรมใกล้กัน คิดคล้ายกัน มีอุดมการณ์ อยู่กันจนแก่เฒ่าเป็นชีวิตที่มีความสุขมากในวงฆราวาสวิสัย
แต่ที่เห็นๆ อยู่ขณะนี้ สถิติหย่าร้างกันมีเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่ว่าการได้แต่งงานจะเป็นความสุขหรือทุกข์
เพราะทุกวันนี้ มักจะสุขตอนต้นแล้วลงเอยเป็นโศกนาฎกรรมคือหย่าร้างกันซึ่งมีมากขึ้นทุกวัน

ในความเป็นจริง คนเราเกิดมาตัวคนเดียว ยามไปก็จะไปตัวคนเดียว พ่อแม่พี่น้องที่คลานตามกันมาก็มาตามกรรม
สามีและภรรยาก็มาตามกรรม กล่าวคือพบกันและอยู่ด้วยกันชั่วคราวเท่านั้น
ถึงยามจากก็จะจากไปตามกรรมของแต่ละคนเมื่อถึงเวลา และกรรมเท่านั้นที่จะบงการชีวิตเขาต่อไป
ว่าจะไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรือเลว กรรมเท่านั้นที่จะกำหนดว่าต่อไปเขาจะได้เจอใคร อยู่กับใครอีก

พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสทำนองว่า สัตว์โลกล้วนแต่เคยเกิดเป็นพ่อ,เป็นแม่, เป็นพี่, เป็นน้อง,
เป็นภรรยาสามีกันทั้งนั้น คู่แต่งงานที่ประเสริฐตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าก็คือ
ต้องส่งเสริมหรือให้สติกันในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆ ขึ้น รักกันชอบกันก็ต้องตักเตือนกัน
คอยเป็น ‘เบรก’ ให้กันและกัน เพราะจิตมนุษย์เต็มไปด้วยความอยากที่ไม่จำกัดปริมาณ
ถ้าไม่มีเบรก ไม่มีวินัยก็จะมัวเมาได้ทุกเมื่อ

ถ้าการครองชีวิตคู่ไม่ได้ทำให้ภรรยาหรือสามีมีคุณธรรมดีขึ้น กลับต้องเลวร้ายลง กล่าวคือ
ต้องไปอยู่ในสถานการณ์หวานอมขมกลืน ทะเลาะกันประจำ การมีคู่แบบนี้สู้อยู่คนเดียวไม่ได้หรอกครับ
เมืองไทยมีพระสงฆ์กว่าสามแสนรูป หลายท่านไม่ยอมสึก
ท่านก็คิดอย่างนี้แหละครับ คือชอบชีวิตอยู่คนเดียว จะได้พัฒนากุศลธรรมได้สะดวกขึ้น

แต่ถ้ามีสามีหรือภรรยาแล้ว ชีวิตที่เคยห่างเหินธรรม มาเข้าใจธรรมมากขึ้น คู่สมรสนำพาให้เข้าถึงธรรม
มีธรรมที่ตัวเองรู้ถ่ายทอดไปยังลูกหลานที่เกิดมาให้มีคุณธรรมตาม การแต่งงานแบบนี้ประเสริฐ
เพราะจะทำให้คู่สมรส มีชีวิตสุขในบั้นปลายคือมีชีวิตที่สงบ
พ่อแม่หลายคนคงรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องเสียเวลาไปกับการอบรมลูกให้เป็นคนดี
แต่ถ้าลูกดีตามตั้งใจ ความดีนั้นจะส่งผลให้พ่อแม่นั้นมีชีวิตที่สงบและความสุขในบั้นปลาย
เพราะลูกๆ ก็จะพากันกตัญญูมารับใช้ดูแลพ่อแม่ไม่ได้ขาด

จะบอกว่า ‘ขึ้นคาน’ เป็นผลกรรมเก่าหรือปล่าว ?
คำตอบก็คือใช่ แต่จะเป็นผลกรรมดีหรือชั่วก็ขึ้นกับสถานการณ์แต่ละคนอีกที
ถ้าผู้หญิงคนนั้น จิตใจไม่ออกห่างโลกียสุข ปรารถนาโลกียสุขตลอดแต่ไม่มีคู่ให้มีสุขได้
นี้ชื่อว่าเป็นผลกรรมชั่วในอดีตเพราะไม่ได้ดั่งหวัง
พระไตรปิฎก อธิบายเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงลำบากอยู่หลายกรณี เช่น สังยุตตนิกาย (18/471/299)
พระพุทธเจ้าตรัสว่า มาตุคาม (หญิงสาว) จะตายไปแล้วตกนรก ครั้นตกนรกแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์
เศษวิบากจะทำให้ลำบาก หวังสิ่งใดก็ไม่ได้ดั่งใจปรารถนา เพราะมีพฤติกรรม 5 อย่าง

1.อสัทโธ ไม่มีศรัทธาในพระรัตนตรัย ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม
2.อหิริโก ไม่มียางอายสมแก่ที่เป็นสตรี
3.อโนตตัปปี ไม่กลัวผลบาปที่ทำ กล้าท้าทายกรรมชั่ว ไม่กลัวบาป
4.อุปนาหี มักผูกโกรธหรืออาฆาตพยาบาท ไม่เจริญเมตตาพรหมวิหาร
5.ทุปปัญโญ ไม่ศึกษาว่าสิ่งไรดี-ชั่ว สิ่งไรบุญ-บาป จนแยกไม่ออกว่าอะไรดี อะไรชั่ว

ผู้หญิงที่ไร้ยางอาย ชอบถ่ายรูปเปลื้องผ้า แก้ผ้าถ่ายรูป
อ้างว่าเป็นศิลปะเพราะถูกอิทธิพลตะวันตกล้างสมองก็เข้าข่ายไม่มีหิริและโอตตัปปะ
ชาตินี้ดูเขาจะเป็นสุข แต่ถ้าชาติหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้น มีจิตใจออกห่างจากโลกียสุข โน้มเอียงไปทางธรรมะมาก
การที่เธอไม่มีคู่ก็อาจเพราะเธอหาคนมีคุณธรรมใกล้เคียงไม่ได้
ถ้าแต่งงานไป จะทำให้ธรรมะที่เธออบรมมาแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น เธอจึงยินดีประพฤติธรรมยิ่งขึ้น
ผู้หญิงประเภทนี้ อาจบวชเป็นชี อาจรักษาศีล ๘ อาจฟังเทศน์ฟังธรรมประจำ
ถ้าใครมีอุปนิสัยโน้มเอียงไปทางอย่างนี้แสดงว่ากุศลธรรมชักพาให้เธอหลีกห่างชีวิตคู่
ซึ่งควรต้องดีใจจึงจะถูก เพราะชีวิตจะได้อบรมจิตยิ่งๆ ขึ้น.

ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ( ผู้ตอบ)

.....................................................
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จนิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายและพระบารมีขององค์พระสมณะโคดมบรมครู ขอได้ส่งพลังมายังตัวข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บและสรรพเคราะห์ทั้งหลายในกายของข้าพเจ้า จงหายไปสิ้นทั้งหมดขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 12:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จงชราอย่างกล้าหาญ
และขึ้นคานอย่างสมศักดิ์ศรี :b4: :b4:

:b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52:

จงเกรงบาปเร่งสร้าง
แสวงบุญ เถิดรา
กายจิตวจีคุณ
ชอบไว้
จักสุขจักทุกข์หนุน
ผลเพราะ กรรมเล
ตัวและพึ่งตัวได้
จบแล้วลาเอย :b34: :b34:

:b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47:

อนุโมทนาบุญจร้า :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่ากรรมดีนะแต่ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไร โชคดีมากๆนะครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b46: :b47: :b53: :b51: :b52: :b54: :b53:

ขึ้นคานเป็นสุขอย่างยิ่ง :b4:
ขึ้นคานก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักรักนะคะ
ถ้าเขาหรือเธออธิษฐานจิตไว้ละคะ
ก็เห็นอยู่แล้วว่า รักเป็นทุกข์

รูปภาพ รูปภาพ
อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้คร๊า.... :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2009, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


rawisada เขียน:
จงชราอย่างกล้าหาญ
และขึ้นคานอย่างสมศักดิ์ศรี :b4: :b4:

:b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52:

แหม...ถูกใจจังเลยค่ะ "จงชราอย่างกล้าหาญ"
แถมอีกนิด...ตายอย่างมีคุณภาพ... :b4: รูปภาพ

อนุโมทนาสาธุจร้า :b8: :b8: :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2009, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงอายุขึ้นเลข ๓ เค้าว่าขึ้นคาน :b21:

แล้วชายล่ะขึ้นอะไร ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงบ้างเลยนิ :b16:

"ซำบายดีที่คานทอง" :b32:

http://www.imeem.com/people/0WDjDtx/music/ddL7hpT9//

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2009, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ผมว่าสามสิบยังไม่น่าจะเรียกว่าขึ้นคานนะ

เพราะชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุสามสิบ (สุภาษิตของคนขึ้น...ครับ)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร