วันเวลาปัจจุบัน 08 ต.ค. 2024, 15:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 91 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑
พระนางสิริมหามายาทรงบริจาคมหาทาน


ในภาพ...แนวพระอัจฉริยธรรมที่พระนางสิริมหามายา
ทรงปฏิบัติในวันอุโบสถศีล คือ ทรงรักษาศีล บริจาคมหาทาน
แก่มหาชนเทวทหะนคร อันมีไพร่ฟ้าข้าราษฏร สมณชีพราหมณ์
โดยบุญญาธิการในทรัพย์นั้นมีอภินิหารและปาฏิหาริย์
เป็นบุญกิริยาที่ทรงประพฤติปฏิบัติอยู่เป็นเสมอ


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

• รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันโกน-วันพระ” •
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=45496

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๒
พระนางสิริมหามายารับสร้อยพระศอ
ของหมั้นจากพระสุทโธทนะ



ในภาพ...พระนางสิริมหามายาทรงเจริญวัย ๑๖ พรรษา
เสด็จประพาสอยู่ในสวนหลวง
หมู่พราหมณ์ได้ค้นพบว่าทรงเป็นรัตนกัลยา
จึงได้หมั้นหมายให้เป็นคู่อภิเษกสมรสกับพระสุทโธทนะ
ด้วยสร้อยประดับพระศอ
พระนางสิริมหามายาจึงทรงรับของหมั้น
จากพราหมณ์ทิชาจารย์


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๓
พระราชพิธีอภิเษกสมรส
เจ้าชายสุทโธทนะกับเจ้าหญิงสิริมหามายา



ในภาพ...แสดงพระราชพิธีอภิเษกสมรส
เจ้าชายสุทธโทนะกับเจ้าหญิงสิริมหามายา ในมหามณฑป
ท่่ามกลางหมู่พระประยูรญาติทั้ง ๒ ผ่าย
มีท้าวมหาพรหมชั้นสุทธาวาส
เป็นประธานในพระราชพิธีอภิเษกสมรส
และพระอินทร์ พร้อมหมู่บริวาร เข้าร่วมพิธี
โดยแสดงไว้ที่ฉากระยะหลังของภาพ


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๔
ปวงเทพยดาอัญเชิญพระโพธิสัตว์
จุติเพื่อโปรดสัตว์โลก



ในภาพ...พระโพธิสัตว์สันตดุสิตประทับ ณ ทิพยอาสน์
ในอากัปกิริยาตรวจดูมหาวิโลกนะ ๕ ประการ
เพื่อตรวจดูความเหมาะสม
ตามคำทูลเชิญปวงเทพยดาที่เสด็จมาชุมนุม ณ ที่นั้น


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

ปัญจมหาวิโลกนะ การตรวจดูอันยิ่งใหญ่ ๕ ประการ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=38099

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๕
พระนางสิริมหามายาราชเทวี
ทรงพระสุบินนิมิตเห็นพระยาช้างเผือก



ในภาพ...แสดงพระสุบินนิมิตแห่งความฝัน
ของพระนางสิริมหามายาราชเทวี
ผู้ที่่พระโพธิสัตว์ทรงเลือกให้เป็นพระพุทธมารดา
พระโพธิสัตว์ทรงแสดงให้่พระราชมารดา
นิมิตเห็นพระยาช้างเผือกชูงวงจับดวกบัวขาว
กระทำทักษิณาวัตร ๓ รอบ
ก่อนเสด็จเข้าพระครรภ์ทางด้านขวา


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา (พระมหาสมศักดิ์ ญาณโพโธ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=31637

ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า (ภัทรวรรณ วันทนชัยสุข)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=31169

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๖
พระโพธิสัตว์ประทับอยู่ในพระครรภ์
ครบบริบูรณ์ ๑๐ เดือน



ในภาพ...แสดงถึงพระบุญญาธิการพระนางสิริมหามายา
พระพุทธมารดา ระหว่างทรงครรภ์ทรงมองเห็นพระราชโอรส
พระราชโอรสนั้นประทับอยู่ในพระครรภ์ดุจห้องพระเจดีย์
และมีเหล่าท้าวจตุมหาราชาทั้ง ๔
ถวายการอารักขาความปลอดภัยแก่พระโพธิสัตว์
และพระราชมารดาตลอดเวลา ทั้งกลางวันกลางคืน
ระหว่างที่ทรงบริหารพระครรภ์อยู่ครบบริบูรณ์ ๑๐ เดือน


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๗
เจ้าชายสิทธัตถะ พระราชกุมารโพธิสัตว์ประสูติ
แล้วเสด็จพระราชดำเนิน ๗ ก้าว
มีดอกบัวทิพย์รองรับพระบาท



ในภาพ...“พระนางสิริมหามายา” ยื่นพระหัตถ์โน้มกิ่งต้นสาละใหญ่
ประสูติพระโพธิสัตว์ ซึ่งเสด็จออกมาทางด้านขวาแห่งพระราชชนนี
พระราชกุมารนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปได้ ๗ ก้าว
ก็มีดอกบัวทิพย์รองรับพระบาท
ทรงเปล่ง “อาสภิวาจา” พระวาจาอันองอาจเป็นเบื้องต้นว่า


“เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก
เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา การเกิดในภพใหม่จักไม่มีอีก”


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

โพธิญาณพฤกษา : ต้นสาละใหญ่ (ต้นมหาสาละ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=17&t=19537

พุทธสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๘
สหชาติทั้ง ๗ ที่บังเกิดขึ้นพร้อมกับ
การประสูติของพระโพธิสัตว์



ในภาพ...แสดงถึงบุคคลที่เป็นบริวารแวดล้อมอยู่ในฐานะต่างๆ
มีอุปการคุณต่อพระโพธิสัตว์ รวมถึง ม้ามงคล
ไม้มหาโพธิ์ และพระราชทรัพย์ ที่เกิดขึ้นพร้อมพระโพธิสัตว์
ผู้ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย


สัตตสหชาติของพระโพธิสัตว์ มีดังนี้

(๑) พระนางพิมพา หรือ พระนางยโสธรา
เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ แห่งกรุงเทวทหะ
เป็นพระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อมีพระชนมายุได้ ๑๖ พรรษา
และเป็นพระราชมารดาของพระราหุล สามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา
ภายหลังพระนางพิมพาออกบวช มีพระนามว่า พระภัททกัจจานา

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=43649
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6958

(๒) พระอานนท์
เป็นเจ้าชายในศากยวงศ์ พระราชโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ
ซึ่งเป็นพระเจ้าอาของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านออกบวชในพระพุทธศาสนา
และได้รับเลือกเป็นพระอุปัฏฐากประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้า
ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในหลายด้าน
ท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๓ เดือน
เป็นกำลังสำคัญในคราวทำปฐมสังคายนา
ท่านดำรงชีวิตสืบมาจนถึงอายุได้ ๑๒๐ ปี จึงนิพพานในอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี
ซึ่งเป็นเส้นกั้นแดนระหว่างแคว้นของพระญาติสองฝ่าย คือ ศากยะ และโกลิยะ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6748
http://www.dhammajak.net/book/anon/index.php

(๓) นายฉันนะ
เป็นอำมาตย์คนสนิท และเป็นสารถีของเจ้าชายสิทธัตถะในวัง
ครั้งเสด็จออกผนวชเมื่อมีพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา
นายฉันนะตามเสด็จไปด้วยและนำเครื่องอาภรณ์
พร้อมทั้งคำกราบทูลของเจ้าชายสิทธัตถะกลับไปยังเมืองกบิลพัสดุ์
ภายหลังบวชเป็นภิกษุถือตัวว่าเป็นคนใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามาแต่เก่าก่อน
ใครว่าไม่ฟัง กระทั่งเกิดความบ่อยๆ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว
ถูกสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์ (ลงโทษห้ามใครยุ่งเกี่ยวห้ามพูดห้ามคุยด้วย)
จนหายพยศ และได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=21738
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36235

(๔) อำมาตย์กาฬุทายี
เป็นพระสหายสนิทของเจ้าชายสิทธัตถะเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์
พระเจ้าสุทโธนะส่งไปทูลเชิญพระศาสดาเพื่อเสด็จมากรุงกบิลพัสดุ์
อำมาตย์กาฬุทายีไปเฝ้าพระศาสดาที่กรุงราชคฤห์
ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนาบรรลุเป็นพระอรหันต์ จึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุ
แล้วทูลเชิญพระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จกรุงกบิลพัสดุ์
ท่านได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในบรรดาผู้ทำตระกูลให้เลื่อมใส

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7592

(๕) ม้ากัณฐกะ
เป็นม้าพระที่นั่งของเจ้าชายสิทธัตถะ
ตัวม้ายาวจากคอถึงหาง ๑๘ ศอก
ส่วนสูงก็เหมาะสมกับส่วนยาว
มีสีขาวผ่องเหมือนเปลือกหอยสังข์ที่ขาวสะอาด สวยงาม
ในราตรีที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จหนีออกจากพระราชวัง
เพื่อเสด็จออกบรรพชานั้นก็ทรงม้านี้
การเดินทางครั้งนี้มีนายฉันนะเกาะหางม้ากัณฐกะไปด้วย
ม้ากัณฐกะเดินทางถึงแม่น้ำอโนมาใช้เวลาเที่ยงคืนถึงเช้า
ระยะทาง ๓๐ โยชน์ (๔๘๐ กิโลเมตร)
ได้กระโดดครั้งเดียวก็ข้ามแม่น้ำอโนมาได้
เมื่อข้ามฝั่งแม่น้ำแล้วเจ้าชายสิทธัตถะจึงทรงรับสั่งว่า
“กัณฐกะ เจ้าจงกลับไปยังเมืองกบิลพัสดุ์เถิด”
ม้ากัณฐกะไม่อยากกลับจึงได้แต่เหลียวมอง
ครั้นพอเจ้าชายสิทธัตถะลับสายตาไป
ม้ากัณฐกะก็ถึงแก่ความตายเนื่องจากเสียใจอย่างมาก
แต่ด้วยความภักดีนี้ทำให้ไปเกิดอยู่ในดาวดึงส์เทวโลก
มีชื่อว่า “กัณฐกเทวบุตร”


(๖) ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เจ้าชายสิทธัตถะขณะที่มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา
ทรงบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ในวันเพ็ญเดือน ๖ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ภายในป่าสาละใหญ่
ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ
(ปัจจุบันคือ ตำบลพุทธคยา จังหวัดคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย)
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ ๑
ที่บังเกิดขึ้นพร้อมกับเจ้าชายสิทธัตถะ มีอายุราว ๓๕๒ ปี,
ต้นที่ ๒ มีอายุราว ๘๗๑-๘๙๑ ปี, ต้นที่ ๓ มีอายุราว ๑,๒๕๘-๑,๒๗๘ ปี
และต้นพระศรีมหาโพธิ์ปัจจุบันเป็นต้นที่ ๔ ปลูกราวปี พ.ศ. ๒๔๒๓

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39333

(๗) ขุมทรัพย์ทั้งสี่
ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ หรือ นิธิกุมภี คือขุมทอง ๔ ขุม ได้แก่
ขุมทองสังขนิธิ ขุมทองเอลนิธิ ขุมทองอุบลนิธิ และขุมทองปุณฑริกนิธิ
ได้บังเกิดขึ้นที่มุมกำแพงพระนครทั้ง ๔ ด้านในวันที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ
โดยลึกไปจดที่สุดของแผ่นดิน เกิดขึ้นเพื่อให้เจ้าชายสิทธัตถะเลือก
ถ้าอยากเป็นกษัตริย์ครองเมืองก็จะได้ใช้ขุมทรัพย์นี้มาบริหาร
แต่เมื่อเลือกผนวชขุมทรัพย์พวกนี้ก็หายไปเพราะไม่จำเป็นต้องใช้
ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ นั้นเป็นขุมทรัพย์ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับผู้มีบารมี
เป็นสัญลักษณ์ของผู้มีบุญญาธิการ


สหชาติทั้ง ๗ มิใช่เกิดขึ้นโดยบังเกิด
แต่เกิดมาเพื่อมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกโดยแท้


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๙
อสิตดาบสทำนายพระลักษณะมหาบุรุษ
พระโพธิสัตว์ทรงแสดงปาฏิหาริย์
ปรากฏเหนือมวยผมของพระดาบส



ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงแสดงปาฏิหาริย์
ให้อสิตดาบสทราบว่า พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์
โดยเสด็จไปประทับอยู่ยอดมวยผมของอสิตดาบส
พระดาบสตกใจ พนมมือยอมรับฐานะ
ส่วนพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดา
ได้ไหว้พระราชโอรสเป็นครั้งที่ ๑
ขณะนั้นพระราชมารดา พระนางสิริมหามายา
ประทับอยู่ด้านซ้ายของพระราชา
และพระน้านาง พระนางมหาปชาบดีโคตมี
ประท้บอยู่ด้านขวาของพระราชา


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

ประวัติ “พระเจ้าสุทโธทนะ”
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7009

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๐
พราหมณ์ทั้ง ๘ ทำนายพระลักษณะว่า
ถ้าทรงครองราชย์จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่
ถ้าทรงผนวชจะเป็นพระพุทธเจ้ามหาศาสดาของโลก



ในภาพ...พราหมณ์ทั้ง ๘ ทำนายมหาปุริสลักษณะ
พราหมณ์คนที่อยู่ใกล้พระราชกุมารที่สุด
ชื่อ โกณฑัญญะพราหมณ์
เป็นผู้ทำนายว่าจะทรงเสด็จออกผนวช
และจะทรงบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาที่ยิ่งใหญ่
ระหว่างนี้พระราชมารดา พระนางสิริมหามายา
ยังดำรงพระชนม์อยู่


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

ประวัติ “พระอัญญาโกณฑัญญเถระ”
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6771

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๑
พระราชกุมารสิทธัตถะทรงเจริญฌาน
ได้บรรลุถึงขั้นปฐมฌาน เมื่อพระชนมายุ ๗ พรรษา



ในภาพ...พระราชกุมารสิทธัตถะขณะมีพระชนมายุ ๗ พรรษา
ได้เสด็จฯ ไปพร้อมกับพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดา
ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ทรงประทับนั่งอยู่ใต้ร่มไม้หว้า ซึ่งบรรดาพี่เลี้ยงและบริวารได้จัดถวาย
และเมื่อเห็นว่าภายใต้ร่มไม้หว้านี้ร่มรื่น ปลอดภัย
บรรดาพี่เลี้ยงและบริวารก็เลี่ยงไปดูงานพระราชพิธีฯ

ขณะที่พระราชกุมารประทับนั่งขัดสมาธิเจริญฌานอยู่เพียงลำพัง
ทรงเกิดความวิเวกขึ้น ทรงกำหนดลมหายใจเข้า-ออกเป็นอารมณ์
ได้บรรลุถึงขั้นปฐมฌาน อันมีวิตก วิจาร ปีติ และสุขอันเกิดจากวิเวกนั้น
เกิดฤทธิ์ทางใจอันเกิดจากการหลุดพ้นแห่งจิตที่เป็นฌาน
ทรงแผ่กสิณไปกำหนดให้เกิดเงาของร่มหว้าดุจเงาตอนเที่ยงวัน
แม้เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว แต่เงาไม้มิได้เคลื่อนตามกาล
พระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดา ทรงเห็นเป็นมหัศจรรย์
ถึงกับเกิดความเลื่อมใส จึงได้ไหว้พระราชโอรสเป็นครั้งที่ ๒
เพื่อบูชาคุณธรรมทางบุญฤทธิ์ปาฏิหาริย์


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

หว้า ต้นไม้แห่งปฐมฌานของเจ้าชายสิทธัตถะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=17&t=19580

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๒
น้ำพระทัยเจ้าชายสิทธัตถะเมื่อวัย ๑๒ พรรษา
ทรงช่วยชีวิตพญาหงส์
ที่บาดเจ็บจากศรของเจ้าชายเทวทัต



ในภาพ...แสดงถึงการวินิจฉัยข้อพิพาทเรื่องพญาหงส์
ระหว่าง “เจ้าชายสิทธัตถะ” ที่ประทับอยู่บนพระราชอาสน์
ทรงสวมภูษิตอาภรณ์สีน้ำเงินในพระอาการที่สงบสำรวม
มีพญาหงส์ซึ่งได้รับบาดเจ็บวางตรงเฉพาะพระพักตร์
และ “เจ้าชายเทวทัต” ที่ทรงถือศรเป็นอาวุธประหารสัตว์นั้น
ส่วนพราหมณ์ปุโรหิตนั่งอาสนะพิพากษาตัดสินว่า
พญาหงส์เป็นสิทธิของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ให้ชีวิตรอด


เรื่องการแย่งพญาหงส์
ระหว่างเจ้าชายสิทธัตถะกับเจ้าชายเทวทัต
มีเรื่องราวดังต่อไปนี้


วันหนึ่งในฤดูร้อน พญาหงส์สีขาวสะอาดตัวหนึ่ง
บินนำฝูงผ่านพระอุทยานของพระเจ้ากรุงกบิลพัสดุ์
บ่ายหน้าไปทางทิศเหนือสู่ถิ่นพำนัก ณ ยอดเขาหิมาลัยโพ้น
ความขาวของฝูงหงส์ ซึ่งทาบอยู่บนท้องฟ้าสีครามดูประหนึ่งทางช้างเผือก
ยังความนิยมยินดีให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก
แต่สำหรับพระเทวทัตกุมาร มิได้เป็นเช่นนั้น
น้ำพระทัยของเจ้าชายองค์น้อยนี้ เป็นพาลเหี้ยมโหดมุ่งแต่จะทำลายเป็นที่ตั้ง
พอทอดพระเนตรเห็นฝูงหงส์ เธอก็ทรงยกลูกศรขึ้นพาดสาย
น้าวคันธนูจนเต็มแรงยิงออกไปทันที ลูกศรนั้นวิ่งขึ้นไปถูกพญาหงส์สีขาว
ซึ่งกำลังบินร่อนร่าเริงใจอยู่บนอากาศ ถลาตกลงสู่เบื้องล่างทันที

ขณะนั้น พระสิทธัตถกุมาร พระโอรสแห่งพระเจ้ากรุงกบิลพัสดุ์
กำลังทรงสำราญอยู่ในพระอุทยานนั้นด้วย
ทรงทอดพระเนตรเห็นพญาหงส์ร่วงตกลงมาในเขตพระอุทยาน
พระองค์จึงละเสียจากการเล่นโดยสิ้นเชิง แล้วรีบเสด็จออกไปค้นหา
ในที่สุดก็พบนกที่น่าสงสารนั้นกำลังดิ้นรนกระเสือกกระสน
ด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น โดยที่ปีกข้างหนึ่งของมันมีลูกศรเสียบทะลุคาอยู่
เจ้าชายองค์น้อยบังเกิดความเวทนายิ่งนัก ทรงอุ้มหงส์นั้นขึ้นจากพื้น
ประคองกอดแต่เบาๆ มิให้วิหคเคราะห์ร้ายตื่นตกใจ
ทรงชักลูกศรที่เสียบอยู่บนปีกนั้นออกเสีย
แล้วทรงนำใบไม้ที่มีรสเย็นมาปิดบาดแผลเพื่อให้โลหิตหยุดไหล
เจ้าชายน้อยทรงรำพึงถึงความทุกข์ของพญาหงส์
อันมีกายปรากฏเป็นบาดแผลใหญ่แล้ว ก็ทรงทอดถอนพระหฤทัย

พระกุมารนั้นแม้จะมีพระชนมายุเพียง ๑๒ พระชันษา
ยังทรงพระเยาว์นัก ชอบที่จะแสวงสุขอย่างเด็กอื่นๆ

แต่พระองค์กลับคิดใคร่ครวญถึงความเจ็บปวดของพญาหงส์
อันความทุกข์สำแดงอยู่ในเวลานั้น จึงทรงปลอบนกด้วยพระวาจาอ่อนหวาน
และอุ้มกอดมันไว้กับทรวงอกให้อบอุ่น ทั้งลูบขนปลอบโยนให้คลายความหวาดกลัว


เมื่อพระเทวทัตกุมาร ผู้เป็นพระญาติเรียงพี่เรียงน้องของพระสิทธัตถกุมาร
เสด็จมาพบเข้าก็ทวงคืน ทรงพยายามจะแย่งนกนั้นไปเสียให้ได้
โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของนกตัวนั้นเพราะเป็นผู้ยิงมันตกลงมาได้
พระสิทธัตถกุมารทรงปฏิเสธที่จะมอบนกให้โดยตรัสว่า

“ถ้านกตายมันจึงจะเป็นของผู้ยิง แต่เมื่อมันยังมีชีวิตอยู่
ควรจะเป็นของผู้ที่ให้ความช่วยเหลือมัน
เรามิเคยมีใจที่จะมอบนกตัวนี้ให้กับใครทั้งสิ้น
ตราบใดที่มันยังคงบาดเจ็บอยู่”


ต่างฝ่ายก็ไม่ยินยอมต่อกัน ในที่สุดเจ้าชายสิทธัตถะจึงเสนอขึ้นว่า
“ข้อพิพาทนี้ควรจักต้องนำไปให้บรรดานักปราชญ์ของแผ่นดิน
พิพากษาตัดสินชี้ขาดในที่ประชุม”
เจ้าชายเทวทัตก็เห็นด้วย


ณ ที่ประชุมนักปราชญ์แห่งนครกบิลพัสดุ์
ในวันนั้นได้ยกกรณีพิพาทเรื่องหงส์ตัวนี้ขึ้นมาพิจารณา
มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมาก

ฝ่ายหนึ่งเห็นว่า...เจ้าชายเทวทัตควรเป็นเจ้าของนก
เพราะเป็นผู้ยิงมันตกลงมาได้

อีกฝ่ายหนึ่ง มีความเห็นว่า...นกควรเป็นของเจ้าชายสิทธัตถะ
เพราะเป็นผู้พบมันก่อนและได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้


เมื่อมีผู้แสดงความคิดเห็นแตกแยกขัดแย้งกันดังนี้
การประชุมก็ไม่เป็นที่ยุติลงได้

จนในที่สุดมีพราหมณ์ปุโรหิตนักปราชญ์ท่านหนึ่ง
ซึ่งไม่เคยมีใครรู้จักพบเห็นมาก่อน
ได้ก้าวออกมาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันดังท่ามกลางที่ประชุมนั้นว่า

“ในโลกนี้ชีวิตเป็นของล้ำค่ายิ่ง ไม่ว่าใครก็ต่างรักและหวงแหนชีวิตตน
ผู้ที่ช่วยเหลือสัตว์ได้ชื่อว่า เป็นผู้ให้ชีวิต
แต่ผู้ที่ทำลายชีวิตสัตว์ให้ดับล่วงไปได้ชื่อว่า เป็นผู้เข่นฆ่า
ผู้ใดกรุณาต่อสัตว์ เป็นผู้ช่วยเหลือสัตว์ บุคคลนั้นจึงสมควรเป็นเจ้าของ
ดังนั้น ขอให้นกตัวนี้จงเป็นของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ที่ช่วยชีวิตมันไว้เถิด”


ทุกคนในที่ประชุมต่างเห็นด้วยกับ
ถ้อยคำอันมีเหตุผลเที่ยงธรรมของพราหมณ์ปุโรหิตนักปราชญ์ผู้นั้น
จึงตัดสินให้เจ้าชายสิทธัตถะเป็นผู้รับเอาหงส์

ซึ่งพระองค์ได้ทรงพยายามช่วยชีวิตนั้นไป
หลังจากนั้นพระกุมารน้อยทรงเอาพระทัยใส่ดูแลนกนั้นอย่างเอื้ออารีที่สุด
จนกระทั่งบาดแผลของมันหายสนิท มีกำลังวังชาฟื้นคืนดีแล้ว
พระองค์ก็ทรงปล่อยมันให้บินกลับไปอยู่รวมฝูงกับพวกพ้องของมัน
ในสระกลางป่าลึกด้วยความผาสุกสืบไป

พระสิทธัตถกุมารองค์น้อยนี้แหละ ในกาลต่อมาคือ พระบรมศาสดา
ผู้ประกาศพุทธศาสนาด้วยหลักธรรมแห่งเมตตา
ให้บรรดาเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ทั้งมนุษย์ เทพยดา และยักษ์มารอสูร
ได้ประจักษ์แจ้งในสัทธรรมอันสูงสุด
พระปรีชาญาณและดวงหทัยอันเปี่ยมไปด้วยพระมหาเมตตาคุณ
ได้ฉายแสงปรากฏให้ชนทั้งหลายได้ชื่นชมตั้งแต่ครั้งกระนั้นเป็นต้นมา


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

เจ้าชายสิทธัตถะ-เจ้าชายเทวทัต และพญาหงส์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39873

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๓
เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสวยสุขในปราสาท ๓ ฤดู
คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ปราสาทเหล่านั้นมีชื่อว่า
รมยปราสาท สุรมยปราสาท และสุภปราสาท ตามลำดับ



ในภาพ...แสดงถึงเจ้าชายสิทธัตถะพระโพธิสัตว์
เสวยสุขสมบัติในปราสาทหนึ่งในฤดูร้อน
ทรงได้รับการบำเรอด้วยหมู่สตรีงามที่ทำหน้าที่ต่างๆ กัน
เช่น ฟ้อนรำ ขับกล่อมด้วยการขับร้องและเล่นดุริยดนตรีอันประณีต
พระโพธิสัตว์ประทับเอนพระวรกายอยู่บนพระแท่น
ขณะเสวยกามสุขทางรูป รส กลิ่น เสียง และผัสสะ
ที่พระราชบิดาประสงค์จักให้เป็นเจ้าชายทรงยึดติดอยู่
แต่ในสิ่งที่งดงาม ยินดี และน่าลุ่มหลง
อันเป็นเหตุที่จะให้ครองฆราวาสเป็นพระบรมมหาจักรพรรดิราช


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๔
เจ้าชายสิทธัตถะทรงประลองการยิงธนูที่มีน้ำหนักมาก
ชื่อว่า สหัสสถามธนู ซึ่งต้องใช้คน ๑,๐๐๐ คนจึงยกขึ้นได้



ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงประลองศิลปศาสตร์การยิงธนู
ทรงยืนแสดงการยิงธนูพุ่งจากแหล่งไปยังขนหางจามรีในเวลาพลบค่ำ
เป็นอัจฉริยภาพความสามารถพิเศษที่มิได้มีในบุคคลทั้วไป
ในการสำแดงศิลปศาสตร์การยิงธนูอย่างพิเศษประเสริฐยิ่งนี้
กระทำในท่ามกลางหมู่พราหมณ์คหบดี
ทำให้เกิดความปลาบปลื้มยินดีว่า
พระองค์ทรงเป็นมหาบุรุษผู้จะทรงเป็นพระมหาจักรพรรดิราชได้


**************************************************

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2011, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

**************************************************

ภาพที่ ๑๕
เจ้าชายสิทธัตถะทรงเลือกพระนางพิมพาเป็นพระชายา
ด้วยการพระราชทานสร้อยพระศอ



ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงเลือกคู่ ทรงเสด็จประทับบนบัลลังก์
มีหมู่สตรีที่่เดินผ่านพระพักตร์
และพระนางพิมพาที่ได้รับซองพระราชทานรางวัล
เป็นสร้อยพระศอเป็นคนสุดท้าย
ซึ่งต่อมาได้รับการอภิเษกเป็นพระอัครมเหสี


**************************************************

:b47: :b44: :b47:

ประวัติ “พระนางพิมพา (พระภัททากัจจานาเถรี)”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=43649
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6958

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 91 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร