วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 09:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2014, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มี.ค. 2011, 13:32
โพสต์: 245


 ข้อมูลส่วนตัว


รักแท้...ความรู้สึกเฉพาะตัว

รูปภาพ

โดย กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 4 สิงหาคม 2556

เข้าพรรษาได้สองสัปดาห์แล้ว 'กายใจ' ชวนท่านผู้อ่านมาสนทนาธรรมสบายๆ กับ 'พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ' อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมศึกษาศิลปะการเอาใจให้รอดในทุกสถานการณ์ ชวนกันมา 'รู้สึกตัวเต็มๆ' ที่นี่และเดี๋ยวนี้

ปัจจุบัน พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา จำพรรษาอาศรมน้อมสู่ใจ บ้านโป่งกระทิง ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ชวนมาขบคิดว่าเพียงวิธีการเดียวกันนี้จะช่วยให้ 'ใจ'รอดได้จริงไม่ว่าฝนจะตกทั่วฟ้าหรือไม่ การเมืองจะวุ่นวายเพียงใด เศรษฐกิจจะฝืดขนาดไหนหรือไม่ อย่างไร ดังวาทะของท่านที่ว่า "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาใจรอด เป็นยอดดี"

:b45: กายใจ : ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับประวัติของท่านสักหน่อยว่าทำไมพระอาจารย์จึงบวช

พระอาจารย์ประสงค์ : แม่บนไว้ให้บวชสามเดือน บวชแล้วก็อยู่มาเรื่อย ไม่ครบสามเดือนสักที (ฮา) แม่บอกว่า เล็กๆ ป่วยบ่อย ก็เลยบนไว้กับพระธุดงค์ที่มาบิณฑบาตหน้าบ้านที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ตอนนั้นแม่จับใส่บาตร ยกให้เป็นลูกพระ พระท่านก็ฉีกจีวรมาพันข้อมือให้ แล้วบอกว่าพออายุครบให้บวชนะ ฝากให้โยมเลี้ยงด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ป่วยอีกเลย ก็อยู่ดีมาตลอด พออายุครบ 20 ปี แม่ให้บวชก็ไม่บวช อายุ 21 ปีแม่ให้บวชก็ไม่บวช ไม่ชอบพระ ตอนนั้นดื่มเหล้า สูบบุหรี่วันละสองซอง อาตมาไม่ใช่คนดี อาตมาเมามาตลอด จนกระทั่งอายุ 22 ปี ทะเลากับแม่เรื่องจะให้บวชนี่แหละ บอกแม่ว่า แม่บนแม่ก็บวชสิ มาให้ผมบวชทำไม แต่ในที่สุดก็ยอมบวช

:b45: กายใจ : ก่อนที่พระอาจารย์จะบวชทำอาชีพอะไร

พระอาจารย์ประสงค์ : อาตมาเป็นตากล้องอิสระ ถ่ายรูป ที่บ้านเป็นร้านซ่อมนาฬิกาก็ทำเป็นอาชีพมาตลอดก่อนบวช เรียนทางด้านเทคนิคสิ่งทอ แต่เรียนไม่จบ เกเรนิดหน่อย พอดีญาติต้องการคนถ่ายรูปก็ไปช่วยญาติ พอไปช่วยก็เลยทำมาตลอด หลังจากนั้นก็มาเปิดร้านเอง เป็นช่างภาพอิสระ

:b45: กายใจ : พระอาจารย์ไปพบท่านพุทธทาสได้อย่างไร

พระอาจารย์ประสงค์ : ตอนบวชตั้งแต่พรรษาแรกๆ เจอหนังสือสวดมนต์แปลของสำนักสวนโมกข์ก็ประทับใจ ตอนหลังก็เดินทางไปที่สวนโมกข์ แล้วก็ไปจำพรรษาที่เกาะหาดทรายแก้ว จังหวัดสงขลา ซึ่งที่นั่นมีท่านมหาประทีปที่เคยอยู่สวนโมกข์มาสิบกว่าปี ท่านเลยพาไปกราบท่านพุทธทาสอยู่เรื่อยๆ ก็เลยได้ไปบ่อยๆ คำสอนท่านเป็นประโยชน์มาก อาตมาก็นำมาใช้กับชีวิต และเอามาบอกต่อ เวลาใครถามก็จะบอกว่า ท่านสอนไว้อย่างนี้

:b45: กายใจ : ขอถามถึงเกี่ยวกับศีลข้อสามในฐานพระสงฆ์

พระอาจารย์ประสงค์ : จะถามว่าครอบคลุมไปถึงการห้ามไปยุ่งกับนักบวชผู้ประพฤติพรหมจรรย์ไหม ผู้หญิงที่ตั้งใจไปสึกพระบาปไหม กับการที่พระสึกออกมาแต่งงานต่างกันอย่างไรใช่ไหม (หัวเราะ) ต้องดูว่าเขาทำอะไรเลยเถิดหรือเปล่า ถ้ารู้สึกพอใจประทับใจก็ธรรมดา ถ้าพระท่านไม่เล่นด้วยก็จบแค่นั้น

แต่ถ้าพระรู้สึกประทับใจด้วย ก็คือ ถ้าคนไม่เข้าใจเรื่องกรรม มันพูดลำบาก ถ้าเป็นกรรมเก่า เขาอธิษฐานมาเจอกันล่ะ เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ได้ โยมสังเกตดูว่า บางคนเจอปั๊ปถูกชะตาเลย บางคนเห็นหน้าก็ไม่ถูกชะตาแล้ว มันเป็นอะไรละ มันเป็นอะไรดี เราเกลียดจมูก เกลียดปาก หรือเกลียดรูปร่างเขา มันไม่มีเหตุผล หลวงพ่อชา สุภัทโทท่านจึงบอกว่า บางเรื่องมันนอกเหตุเหนือผล ทีนี้ถ้าคนไม่เคยเจอกับตัวไม่รู้

คนที่ยังไม่เจอบุพเพสันนิวาสไม่มีทางรู้ แต่ถ้าเจอ และเขาไม่อยากทำผิดศีล ผิดธรรม ก็ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ท่านก็สึกไปมีครอบครัวทำประโยชน์แก่พระศาสนามหาศาล อาจารย์วศิน อินทสระ ก็สึกไปทำประโยชน์เยอะ หลายคน เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่ว่าเขาสึกไปแล้ว เป็นคนมีศีลหรือคนไม่มีศีล ถ้าเขาสึกไปเป็นฆราวาสที่ดีก็ไม่เสียหาย ดีกว่าเป็นพระที่ชั่ว บางรูปทำไม่ดี ยังไม่ยอมสึกก็มี อีกตัวอย่างหนึ่ง โยมคนหนึ่งอาตมาไปเจอที่เยอรมัน เป็นผู้หญิง คนนี้เก่งมาก ไม่เคยมีความรัก แต่ต้องไปแต่งงานกับฝรั่งเพื่อหาเงินส่งมาทางบ้าน เธอไม่รู้ว่า ความรักเป็นอย่างไร ไม่เคยมีความรัก แต่ถ้าไม่แต่งงานอยู่เยอรมันไม่ได้ ก็เลยแต่งงาน พอแต่งไปก็ทำงานอย่างเดียว พอกลับไปบ้าน วันหนึ่งสามีพาผู้หญิงอื่นมานอน พอเธอเห็นก็โอ้ สาธุ ดีอกดีใจ เรียกผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องเลย ชวนมาอยู่ด้วยกัน เธอช่วยดูแลสามีฉันหน่อย แล้วฉันจะดูแลเธออย่างดี สามีก็งง ผู้หญิงคนนั้นก็งง แล้วเธอก็ขอทำงานส่งเงินให้ที่บ้านต่อ นี่คือเรื่องของคนไม่เคยมีความรัก

แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งมีพระจากเมืองไทยไปที่นั่น ก่อนไปครูบาอาจารย์ก็เตือนพระว่าระวังนะ นางฟ้าเยอรมันมันแรง พระรูปนี้ก็ไม่สนใจ พอบวชก็ลาออกจากงาน ตั้งใจบวชเต็มที่ก็อยู่สิบกว่าพรรษา พอไปที่เยอรมัน ผู้หญิงคนนี้เข้าวัดเข้าวาตลอด ก็ไปรับที่สนามบิน พอไปเจอแค่นั้นเอง ขาอ่อนเดินไม่ได้เลย ฝ่ายผู้หญิงก็ตกใจทำไมเป็นอย่างนี้ ใจเต้นแรงตุบตับๆ อยู่อย่างนั้นเอง พระรูปนั้นก็จ้องมาทางผู้หญิง แกก็ดู สายตาพระก็แปลกๆ แต่แกเป็นคนกล้าก็เข้าไปถามพระตรงๆ พระเป็นแบบโยมหรือเปล่า โยมพอเห็นหน้าท่าน ใจมันเต้น ตกใจ มือสั่นไปหมดเลย ทำไมเป็นแบบนี้ แล้วท่านเป็นไงบ้าง

พระรูปนั้นไม่กล้าพูดปดก็บอกว่า อาตมาก็เป็น ด้วยความที่ผู้หญิงคนนั้นเคารพอาตมา ตอนนั้นอาตมาอยู่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ผู้หญิงก็โทรฯ หาอาตมา ทำไงดี ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ไม่เคยเชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส ตอนนี้มาเจอกับตัวเองแล้ว มีความรู้สึกทุกข์ทรมานมากเลย วันๆ อยากจะใกล้ชิด อยากเห็นหน้า จนกระทั่งแกฝืนไม่กล้าไปวัด แต่ก็สู้กับความรู้สึกตลอด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

อาตมาก็บอกว่า ไปวัดได้ ไม่เป็นไร อาตมาขออย่างเดียว อย่าอยู่กันสองต่อสองแค่นั้นเอง ก็ถ้าคนไม่อยู่สองต่อสองมันจะไปทำอะไรกันได้ มันก็จบ อาตมาก็บอกให้รับปากนะ มันผิดพระวินัย แล้วจะทำให้พระผิดวินัยด้วย แล้วคนก็จะมองภาพพจน์เราในทางที่เสียด้วย เธอก็รับปากอาตมา ได้ค่ะ

หลังจากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็ไปวัดทำบุญปกติ ออกพรรษาพระรูปนี้ก็กลับเมืองไทย กลับไปก็ไปลาพระอุปัชฌาย์ ลาพ่อ ลาแม่ บอกว่าเจอเนื้อคู่ ไม่เคยคิดว่าจะเจออย่างนี้มาก่อน พอเจออย่างนี้พระเขารู้สึกว่า จิตไม่บริสุทธิ์แล้วไม่สามารถอยู่อย่างนี้ได้ ก็เลยสึกไปช่วยงานพ่อแม่ ฝ่ายผู้หญิงทำงานแล้วก็กลับบ้านไปแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ มีความสุข รักษาศีลห้าปกติ พอวันพระก็รักษาศีลแปดทั้งสามีภรรยา ก็เป็นคู่ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ตัวอย่างแบบนี้มีเยอะ พระบางรูปมาบอกอาตมาว่า อธิษฐานว่า จะบวชตลอดชีวิต อาตมาบอกว่า อย่าไปอธิษฐานอย่างนี้ ควรจะอธิษฐานว่า จะไม่ทำให้ผ้าเหลืองสกปรก อย่าทำให้ศาสนามัวหมอง อย่าทำให้ศาสนาเสียหาย ผมขอแค่นี้แหละ ถ้าท่านไปอธิษฐานไม่สึก เดี๋ยวถ้ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะอยู่ก็อยู่แบบสกปรก จะสึกก็ไม่กล้าสึกเพราะกลัวสัจจะที่ตั้งไว้

:b45: กายใจ : เราจะตอบคำถามเหตุและผลเรื่องความถูกต้องกับความรักอย่างไร

พระอาจารย์ประสงค์ : อย่างโยมคนหนึ่ง แกรูปหล่อ มีสาวๆ มาติดแกเยอะ เป็นพ่อเลี้ยงอยู่ทางภาคเหนือ อาตมาธุดงค์ขึ้นไปแล้วไปเจอกัน แกแต่งงาน เราก็ถามว่า เป็นอย่างไรชีวิตแต่งงาน แกบอกว่า ไม่เคยคิดจะแต่งงานเลย แต่ผู้หญิงเข้ามาอยู่ประจำ คนนั้นคนนี้เข้ามาชอบอยู่เรื่อย ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่อยากผิดศีลห้าเพราะสมาทานไว้ตลอด ในที่สุดก็เดินไปหาพ่อของผู้หญิงคนหนึ่งขอลูกสาว ผู้หญิงก็หน้าตาธรรมดา แล้วก็แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานแกก็ใช้ชีวิตครอบครัวธรรมดา มีลูกคนหนึ่ง เวลาใครมายิ้ม ทำท่าทำทางอะไร แกจะบอกว่า ผมแต่งงานมีลูกแล้วครับ ก็จบอย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งผู้ชายคนนี้มีโอกาสไปอินเดีย อยู่ดีๆ ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นปั๊ปรักทันที ซึ่งแกบอกว่า ศีลห้าแกสุดยอด พอไปเจอตรงนั้น แกก็มาเล่าให้ฟังว่า เจอปั๊ปมันเขาอ่อนเลย ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน เจอปุ๊ปก็รักปั๊ปเหมือนกัน ทั้งสองคนหน้าตาคล้ายกันมาก พอดีไปทัวร์ด้วยกัน แล้วภรรยาเขาไม่ได้ไปด้วย เขาไปอินเดียคราวนั้นก็เลยได้สนิทกับผู้หญิงคนนี้ คนเห็นก็ถาม แฟนคุณน่ารักจัง หน้าเหมือนกันเลย เป็นน้องหรือเปล่า คือมันประทับใจ และคิดว่าชาตินี้ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้ กลับไปเมืองไทย ไปขอภรรยาตัวเองว่า ขอมีอีกคนหนึ่ง ภรรยาเงียบ ไม่ได้พูดอะไร ขณะที่ตอนที่คุยกับผู้หญิงคนนั้นก็ยังบอกไปเลยว่า ผมมีภรรยา มีลูกแล้วนะครับ ก็ยังเป็น เห็นไหม นี่คืออะไรล่ะ

ดีที่ทั้งสองคนไม่ยอมผิดศีลห้า แต่ใกล้ชิดกันมีความสุข ถูกเนื้อถูกตัวมีความสุข คือไปไหนก็เกาะแขนกัน มีความสุขมาก อยู่ดีๆ วันหนึ่งปึ๊ง มันหยุดไปเฉยๆ ไอ้ความรู้สึกมันหายไปเลย พอเจอกันก็เหมือนเป็นญาติกัน คือวิบากกรรมมันจบอยู่แค่นั้น ปัจจุบันครอบครัวเขาก็อยู่กันปกติ แต่ช่วงนั้นเขาบอกอาตมาว่ามันทรมานมาก

:b45: กายใจ : คนเดี๋ยวนี้ไม่รู้สึกกับกฎแห่งกรรมว่ามีจริงใช่ไหมคะ

พระอาจารย์ประสงค์ : น้องแม่ของอาตมา เมื่อก่อนไม่เคยสนใจบาปกรรม โยมพ่ออาตมาชอบทำหนังสติ๊กให้เล่น ทำที่ตกปลาให้เล่น แล้วน้าเจอลูกนกตกอยู่ที่พื้น จับขึ้นมาดูเห็นขามันหักอยู่ มองไปมองมาจะทำอย่างไรดี มองขึ้นไปบนต้นไม้เห็นรังนก แกก็เลยปีนขึ้นไปวาง พอเอาขึ้นไปก็เจอลูกนกอีกตัวหนึ่ง ก็เอ๊ะมีอยู่อีกตัว ไม่ได้คิดอะไรก็เอาไปวาง วางเสร็จกลับบ้าน สามสี่วันผ่านไป ก็เอ๊ะเป็นไงนะ ลูกนกโตหรือยัง แกเลยปีนขึ้นไปดู แล้วจับลูกนกมาดูก็ เอ๊ะ ตัวนี้ขาดีแสดงว่าไม่ใช่ จับอีกตัว เอ๊ะนี่ก็ขาดี อยากรู้นกรักษาขาอย่างไร แกก็เลยจับลูกนกหักขาทั้งสองข้างเลย แล้วปล่อยไว้ในรัง พอกลับบ้านข้ามถนนโดนรถชนเปรี้ยงขาหักจนถึงปัจจุบันนี้ โชคดีที่ขาหักข้างเดียว หลังจากนั้นแกก็เลยไม่กล้าทำอย่างนี้อีก แต่กรรมมันไม่ได้เห็นทันตาอย่างนี้ทุกคนไป และไม่สามารถพิสูจน์ได้ คนก็เลยไม่เชื่อ แต่ถ้าคนเขาเคยเจอเรื่องกรรมตรงนี้ปั๊ป เขารู้เลย

:b45: กายใจ : ยิ่งปัจจุบันคนชอบเพ่งโทษ และมองว่าความผิดอยู่ที่คนอื่นใช่ไหม

พระอาจารย์ประสงค์ : หลายคนไม่ค่อยมองว่าปัญหาทุกอย่างมีเหตุ-ปัจจัย และอาจมาจากตัวเอง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากทัศนคติของคนที่ชอบจับผิดกัน ชอบเพ่งโทษ คือ มองแต่ในแง่ร้าย วิธีการแก้ก็คือให้เปลี่ยนจากจับผิดเป็นจับถูก เปลี่ยนจากเพ่งโทษเป็นเพ่งคุณ ตั้งชมรมชมกันเองบ้าง ครอบครัวก็จะน่าอยู่ ที่ทำงานก็น่าทำ จิตใจเราก็จะมีความสุข

ตอนนี้รู้สึกว่าดัชนีความสุขในใจคนมันหายไป เราต้องมองให้เห็นว่า เพราะชีวิตคนมันสั้น แค่ลมหายใจเข้าออกนี่เอง ถ้าหายใจเข้าไม่ออกก็ตาย หายใจออกไม่เข้าก็ตาย วันๆ หนึ่งคนมันตายแปดร้อยกว่าคนทุกวัน ตอนนี้ที่เราไม่รู้สึกอะไร เพราะเราไม่ได้เข้าไปร่วมในการตายในนั้น ไม่มีญาติที่ตาย พอวันไหนที่ญาติเราตายเราก็วูบทีหนึ่ง เราต้องพิจารณาตรงนี้ให้มากๆ เราต้องมองให้ออก ปัญหาระดับประเทศอย่างเช่น อาร์เจนติน่า ล้มเหลวเพราะอะไร เขมรล้มเหลวเพราะอะไร เกาหลีล้มเหลวเพราะอะไร เพราะการทะเลาะกันในประเทศชาติ เราสามารถที่จะเอาความผิดพลาดของคนอื่นมาพัฒนาตนเองโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปผิดพลาดเอง แต่ตอนนี้ รู้สึกว่าเรากำลังเริ่มหลงทางกัน เราใช้สื่อสาธารณะกันไปในทางเพ่งโทษกันเองมาก ถ้าเราหันกลับมาดูตัวเรา เราจะเพ่งโทษคนอื่นน้อยลง แต่ก็ยังโชคดีว่าบางคนยังมีปัญญาที่จะเข้าใจในสิ่งนี้อยู่ เข้าพรรษาแล้วปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันอย่างไรดี ทำศีลห้าให้บริสุทธิ์ก็ปิดอบายภูมิแล้ว

รูปภาพ


ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%B5.html

:b46: รวมคำสอนของครูบาอาจารย์เกี่ยวกับเรื่อง “กามกิเลส”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48213

.....................................................
"องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2014, 07:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: :b1: เป็นบทสนทนาธรรมที่ดีมากๆ มีประโยชน์มากๆ ค่ะ :b8: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2016, 00:31 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2018, 15:03 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2019, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร